ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Melodic Boy Live in Absolute Quality ♬ (2U)

    ลำดับตอนที่ #14 : ♬13

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 72
      4
      30 มิ.ย. 58



    มาละฮ้าบบบบบ
    ถ้ามีคนอ่านอยู่เกินสามคน 
    เดี๋ยวพรุ่งนี้ลงตอนสิบสี่ค่าาาาา

    ________________________________________________________

     

    “อย่าพึ่งรีบหลับหล่ะ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย”

     

     

    เขาหันไปพูดกับยูชอนที่นั่งเคาะคีย์บอร์ดก๊อกแก๊กๆอยู่บนเตียงก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ เหนื่อยมาทั้งวัน หวังว่าน้ำอุ่นๆจะช่วยเตรียมเขาให้ผ่อนคลายและพร้อมจะคุยกับยูชอนได้มากกว่านี้

     



    ...

     



    บางทีเขาอาจจะใช้เวลากับน้ำอุ่นนานเกินไป ยูชอนถึงหลับคอพับทั้งที่คอมยังคาอยู่บนตัก และก็อยู่ในท่านั่งกึ่งนอน หลังเอนๆพิงหัวเตียง ดูไม่น่าสบายเอาเสียเลย

     



    “ให้ตายสิ”

     



    เขาส่ายหัวแล้วจัดการตัวเองก่อนจะเดินไปหายูชอน ยุนโฮกดเซฟไฟล์ทุกอย่างแล้วปิดทุกโปรแกรมก่อนจะชัทดาวน์เครื่อง ตอนเขาดึงหมอนสองใบที่ยูชอนหนุนหลังออก แล้วพยายามจะจับให้เจ้าตัวนอนดีๆเด็กนั่นก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา

     



    “อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ?”

     



    “นอนเถอะ”

     



    “แต่นายบอกว่าจะคุย”

     



    “เหนื่อยก็พักซะ ตาปรือขนาดนี้จะคุยรู้เรื่องไหม?”

     



    เขาเอ็ด โดยที่ยูชอนไม่มีค้านอะไรทั้งสิ้น ร่างโปร่งสูดจมูกฟุดฟิดก่อนจะไถลตัวลงมานอนบนหมอนที่เขาช่วยจัดให้แต่โดยดี

     



    “ห่มผ้าด้วยสิ”

     



    “อืออ”

     



    ยุนโฮถอนหายใจกับคนที่หลับไปแล้ว เขาจัดการคลี่ผ้าห่มที่ปลายเตียงขึ้นมาคลุมตัวอีกฝ่ายให้ ก่อนจะจัดการปิดไฟแล้วสอดตัวลงในผ้าห่มผืนเดียวกัน

     



    “พรุ่งนี้เช้าคงพอมีเวลา ค่อยคุยก็แล้วกัน”

     



    ..........

     



    ยุนโฮกำลังนอนชันเเขนมองร่างขาวๆหลับอย่างเป็นสุข อีกฝ่ายนอนคู้ตัวซุกหน้ากับหมอนนุ่ม เเถมกวาดผ้าห่มไปกอดเสียเเน่น ยังไม่พอ ยูชอนยังเบียดเขาจนจะใกล้จะตกเตียงอีกฝั่งอยู่รอมร่อ

     

     

    ยุนโฮหยุดยิ้มเเทบจะไม่ทันตอนเขามองใบหน้าขาวนั้นเเล้วเผลอยิ้ม

     

     

    เผลอชักมือกลับเเทบไม่ทันตอนที่มือมันเอื้อมไปเเตะผมยาวๆที่ปรกหน้าผากและเเก้มไวกว่าความคิด

     

     

    เผลอขยับตัวออกเเทบไม่ทันตอนที่ยูชอนขยับมาเบียด

     

     

    ....

     

     

    แต่ทั้งหมดนั่นก็เเค่ในตอนเเรกเท่านั้นแหล่ะ

     

     

    สุดท้ายเขาก็ปล่อยให้ตัวเองยิ้มไปกับเสียงครางงึมงำในความฝันของเด็กตรงหน้า

     

     

    สุดท้ายเขาก็เอื้อมมือไปจับผมยาวๆนั้นทัดใบหูให้

     

     

    สุดท้าย เขาก็ขยับเข้าหาคนที่ขยับเขามาเบียดรับไออุ่น

     

     

    “เมื่อไหร่นายจะตื่นซักทีนะ?

     

     

    ...

     
     

     

    “ยุนโฮ”

     

     

    ยูชอนเอ่ยปากเรียกคนที่ยืนสูบบุหรี่อยู่นอกระเบียงเบาๆ ดูเหมือนยุนโฮจะตื่นก่อนนานเเล้วเพราะเบาะข้างๆเขาเย็นชืด เเถมร่างสูงยังอยู่ในเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์เเล้วเรียบร้อย ในขณะที่เขาพึ่งลุกจากเตียงไม่ถึงห้านาที

     

     

    “ว่างคุยหรือเปล่า?

     

     

    ยูชอนเดินออกไปด้านนอกเมื่ออีกฝ่ายพยักหน้า ยุนโฮะเคาะบุหรี่ลงกับขอบระเบียงเบาๆเเล้วอัดมันเข้าปอดอีกเฮือกใหญ่ ก่อนจะขยี้ก้นกรองกับที่เขี่ยที่มีก้นกรองไหม้ๆนอนอยู่ก่อนเเล้วหลายตัว

     

     

    “เอาจริงๆฉันก็ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน”

     

     

    เขาว่า ก่อนจะยกเเก้วกาแฟที่วางอยู่บนขอบระเบียงขึ้นจิบ มันอุ่นลงเเล้ว เขาเลยประคองมันไว้ในอุ้งมือ

     

     

    “งั้นฉันขอพูดก่อนนะ?”

     

     

    “ก็...เอาสิ”

     

     

    ยูชอนสูดหายใจลึกก่อนจะรวบรวมความกล้าทั้งหมด

     

     

    “นายอาจจะไม่เคยสังเกต ว่าเราเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันมาก่อน เเล้วฉัน ก็เป็นรุ่นน้องของนาย”

     

     

    “ปีเเรกที่ฉันเข้าโรงเรียน ฉันเห็นนายตอนเล่นฟุตบอลบ่อยๆเพราะฉันต้องไปคอยเพื่อนฝึกที่ข้างสนาม ฉันเห็นนายเล่นดนตรีอยู่เสมอเพราะฉันมักจะถูกเพื่อนฉันไหว้วานให้เอาของไปให้ที่ห้องชมรม”

     

     

    “พอปีถัดมา นายขึ้นเวทีเป็นครั้งเเรกในฐานะมือเบสประจำวงโรงเรียน ตอนนายเล่นอยู่บนเวที ใจฉันเต้นเเรงมากเลยหล่ะ เเล้วก็รู้สึกตื้นตันกับภูมิใจในตัวนายมากๆ ตอนนั้นก็ไม่เข้าใจหรอก ว่ามันเป็นความรู้สึกเเบบไหน คิดว่าคงเเค่ปลื้มรุ่นพี่เหมือนคนอื่นๆ”

     

     

    “เเต่พอนายเริ่มเดทกับหญิงสาวของนาย ฉันก็เริ่มเข้าใจ ว่าฉันคงไม่ได้เเค่ปลื้มนาย ในวัยเเบบนั้น มันอาจจะไม่ได้เรียกว่ารัก เเต่ฉันกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่าชอบ”

     

     

    “ฉันยินดีนะที่นายกับหญิงสาวของนายได้คบกัน ถ้าเห็นนายมีความสุขเเละยิ้มได้ ฉันก็ดีใจ”

     

     

    พูดถึงตรงนี้ยูชอนก็มองหน้ายุนโฮ อีกฝ่ายดูอึ้ง เเละใบหน้านั้นก็เเดงจัด ดวงตาคมนั่นจ้องมาที่เขาตาไม่กระพริบ

     

     

    “ฉันทำให้อึดอัดหรือเปล่า?

     

     

    “พูดต่อสิ”

     

     

    “ฉันก็... ยังติดตามดูนายอยู่นะ จำได้เลยว่าตอนที่นายทะเลาะกับเธอเเล้วก็โดนเธอตบกลางสนามบาสน่ะ ฉันโกรธจนต้องร้องไห้ออกมา เเต่ก็ได้เเค่เเอบดูพวกนายเเล้วก็ร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังอยู่หลังเสาเท่านั้นเเหล่ะ...

     

     

    ขี้ขลาดเนอะว่าไหม?

     

     

    ยุนโฮเอื้อมมือไปบีบไหล่ยูชอนหนักๆ ก่อนจะพยักหน้าให้อีกฝ่ายพูดต่อ

     

     

    “เพื่อนฉันหน่ะ คอยยุตลอด บอกว่าฉันหน่ะขี้ขลาด ให้ทำตัวกล้าๆหน่อย รู้สึกยังไงก็ให้บอกไป นายจบไปจะได้ไม่เสียดาย เเต่ฉันก็ขี้ขลาดอยู่นั่น จนถึงวันที่นายจบ เเล้วก็เสียใจจริงๆด้วยที่ไม่ได้ลงมือทำอะไรซักอย่าง”

     

     

    “รู้ไหม ตอนมาที่บริษัทนี้เเล้วเห็นนายนั่งสูบบุหรี่อยู่บนโซฟานั่น หัวใจฉันเต้นเเรงเเทบบ้า ทั้งๆที่คิดว่าคงทำใจได้เพราะไม่เจอกันตั้งนานเเล้วเเท้ๆ เเต่พอเห็นหน้านาย ความรู้สึกเเบบที่หัวใจเต้นเเรงเหมือนจะหลุดจากอกมันก็กลับมาอีก”

     

     

    “ตอนนั้นหน่ะ อยากจะวิ่งเข้าไปหาเเจจุงฮยองเเล้วรบเร้าให้ทำสัญญากับบริษัทด้วยกันตอนนั้นเลย”

     

     

    “ไม่เจอกันนานขนาดนั้น เเล้วอยู่ๆก็ได้กลับมาเจอฉัน เเถมเรายังได้ฟอร์มวงด้วยกันอีก”

     

     

    “...”

     

     

    “ขนาดนี้แล้ว...ไม่คิดอยากจะบอกความรู้สึกกับฉันบ้างเหรอ?

     




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×