คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : ♬13
มาละฮ้าบบบบบ
ถ้ามีคนอ่านอยู่เกินสามคน
เดี๋ยวพรุ่งนี้ลงตอนสิบสี่ค่าาาาา
________________________________________________________
“อย่าพึ่งรีบหลับหล่ะ ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยหน่อย”
เขาหันไปพูดกับยูชอนที่นั่งเคาะคีย์บอร์ดก๊อกแก๊กๆอยู่บนเตียงก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ เหนื่อยมาทั้งวัน หวังว่าน้ำอุ่นๆจะช่วยเตรียมเขาให้ผ่อนคลายและพร้อมจะคุยกับยูชอนได้มากกว่านี้
...
บางทีเขาอาจจะใช้เวลากับน้ำอุ่นนานเกินไป ยูชอนถึงหลับคอพับทั้งที่คอมยังคาอยู่บนตัก และก็อยู่ในท่านั่งกึ่งนอน หลังเอนๆพิงหัวเตียง ดูไม่น่าสบายเอาเสียเลย
“ให้ตายสิ”
เขาส่ายหัวแล้วจัดการตัวเองก่อนจะเดินไปหายูชอน ยุนโฮกดเซฟไฟล์ทุกอย่างแล้วปิดทุกโปรแกรมก่อนจะชัทดาวน์เครื่อง ตอนเขาดึงหมอนสองใบที่ยูชอนหนุนหลังออก แล้วพยายามจะจับให้เจ้าตัวนอนดีๆเด็กนั่นก็สะดุ้งตื่นขึ้นมา
“อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ?”
“นอนเถอะ”
“แต่นายบอกว่าจะคุย”
“เหนื่อยก็พักซะ ตาปรือขนาดนี้จะคุยรู้เรื่องไหม?”
เขาเอ็ด โดยที่ยูชอนไม่มีค้านอะไรทั้งสิ้น ร่างโปร่งสูดจมูกฟุดฟิดก่อนจะไถลตัวลงมานอนบนหมอนที่เขาช่วยจัดให้แต่โดยดี
“ห่มผ้าด้วยสิ”
“อืออ”
ยุนโฮถอนหายใจกับคนที่หลับไปแล้ว เขาจัดการคลี่ผ้าห่มที่ปลายเตียงขึ้นมาคลุมตัวอีกฝ่ายให้ ก่อนจะจัดการปิดไฟแล้วสอดตัวลงในผ้าห่มผืนเดียวกัน
“พรุ่งนี้เช้าคงพอมีเวลา ค่อยคุยก็แล้วกัน”
..........
ยุนโฮกำลังนอนชันเเขนมองร่างขาวๆหลับอย่างเป็นสุข อีกฝ่ายนอนคู้ตัวซุกหน้ากับหมอนนุ่ม เเถมกวาดผ้าห่มไปกอดเสียเเน่น ยังไม่พอ ยูชอนยังเบียดเขาจนจะใกล้จะตกเตียงอีกฝั่งอยู่รอมร่อ
ยุนโฮหยุดยิ้มเเทบจะไม่ทันตอนเขามองใบหน้าขาวนั้นเเล้วเผลอยิ้ม
เผลอชักมือกลับเเทบไม่ทันตอนที่มือมันเอื้อมไปเเตะผมยาวๆที่ปรกหน้าผากและเเก้มไวกว่าความคิด
เผลอขยับตัวออกเเทบไม่ทันตอนที่ยูชอนขยับมาเบียด
....
แต่ทั้งหมดนั่นก็เเค่ในตอนเเรกเท่านั้นแหล่ะ
สุดท้ายเขาก็ปล่อยให้ตัวเองยิ้มไปกับเสียงครางงึมงำในความฝันของเด็กตรงหน้า
สุดท้ายเขาก็เอื้อมมือไปจับผมยาวๆนั้นทัดใบหูให้
สุดท้าย… เขาก็ขยับเข้าหาคนที่ขยับเขามาเบียดรับไออุ่น
“เมื่อไหร่นายจะตื่นซักทีนะ?”
...
“ยุนโฮ”
ยูชอนเอ่ยปากเรียกคนที่ยืนสูบบุหรี่อยู่นอกระเบียงเบาๆ ดูเหมือนยุนโฮจะตื่นก่อนนานเเล้วเพราะเบาะข้างๆเขาเย็นชืด เเถมร่างสูงยังอยู่ในเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์เเล้วเรียบร้อย ในขณะที่เขาพึ่งลุกจากเตียงไม่ถึงห้านาที
“ว่างคุยหรือเปล่า?”
ยูชอนเดินออกไปด้านนอกเมื่ออีกฝ่ายพยักหน้า ยุนโฮะเคาะบุหรี่ลงกับขอบระเบียงเบาๆเเล้วอัดมันเข้าปอดอีกเฮือกใหญ่ ก่อนจะขยี้ก้นกรองกับที่เขี่ยที่มีก้นกรองไหม้ๆนอนอยู่ก่อนเเล้วหลายตัว
“เอาจริงๆฉันก็ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน”
เขาว่า ก่อนจะยกเเก้วกาแฟที่วางอยู่บนขอบระเบียงขึ้นจิบ มันอุ่นลงเเล้ว เขาเลยประคองมันไว้ในอุ้งมือ
“งั้นฉันขอพูดก่อนนะ?”
“ก็...เอาสิ”
ยูชอนสูดหายใจลึกก่อนจะรวบรวมความกล้าทั้งหมด
“นายอาจจะไม่เคยสังเกต ว่าเราเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันมาก่อน เเล้วฉัน ก็เป็นรุ่นน้องของนาย”
“ปีเเรกที่ฉันเข้าโรงเรียน ฉันเห็นนายตอนเล่นฟุตบอลบ่อยๆเพราะฉันต้องไปคอยเพื่อนฝึกที่ข้างสนาม ฉันเห็นนายเล่นดนตรีอยู่เสมอเพราะฉันมักจะถูกเพื่อนฉันไหว้วานให้เอาของไปให้ที่ห้องชมรม”
“พอปีถัดมา นายขึ้นเวทีเป็นครั้งเเรกในฐานะมือเบสประจำวงโรงเรียน ตอนนายเล่นอยู่บนเวที ใจฉันเต้นเเรงมากเลยหล่ะ เเล้วก็รู้สึกตื้นตันกับภูมิใจในตัวนายมากๆ ตอนนั้นก็ไม่เข้าใจหรอก ว่ามันเป็นความรู้สึกเเบบไหน คิดว่าคงเเค่ปลื้มรุ่นพี่เหมือนคนอื่นๆ”
“เเต่พอนายเริ่มเดทกับหญิงสาวของนาย ฉันก็เริ่มเข้าใจ ว่าฉันคงไม่ได้เเค่ปลื้มนาย ในวัยเเบบนั้น มันอาจจะไม่ได้เรียกว่ารัก เเต่ฉันกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่าชอบ”
“ฉันยินดีนะที่นายกับหญิงสาวของนายได้คบกัน ถ้าเห็นนายมีความสุขเเละยิ้มได้ ฉันก็ดีใจ”
พูดถึงตรงนี้ยูชอนก็มองหน้ายุนโฮ อีกฝ่ายดูอึ้ง เเละใบหน้านั้นก็เเดงจัด ดวงตาคมนั่นจ้องมาที่เขาตาไม่กระพริบ
“ฉันทำให้อึดอัดหรือเปล่า?”
“พูดต่อสิ”
“ฉันก็... ยังติดตามดูนายอยู่นะ จำได้เลยว่าตอนที่นายทะเลาะกับเธอเเล้วก็โดนเธอตบกลางสนามบาสน่ะ ฉันโกรธจนต้องร้องไห้ออกมา เเต่ก็ได้เเค่เเอบดูพวกนายเเล้วก็ร้องไห้เป็นบ้าเป็นหลังอยู่หลังเสาเท่านั้นเเหล่ะ...
ขี้ขลาดเนอะว่าไหม?”
ยุนโฮเอื้อมมือไปบีบไหล่ยูชอนหนักๆ ก่อนจะพยักหน้าให้อีกฝ่ายพูดต่อ
“เพื่อนฉันหน่ะ คอยยุตลอด บอกว่าฉันหน่ะขี้ขลาด ให้ทำตัวกล้าๆหน่อย รู้สึกยังไงก็ให้บอกไป นายจบไปจะได้ไม่เสียดาย เเต่ฉันก็ขี้ขลาดอยู่นั่น จนถึงวันที่นายจบ เเล้วก็เสียใจจริงๆด้วยที่ไม่ได้ลงมือทำอะไรซักอย่าง”
“รู้ไหม ตอนมาที่บริษัทนี้เเล้วเห็นนายนั่งสูบบุหรี่อยู่บนโซฟานั่น หัวใจฉันเต้นเเรงเเทบบ้า ทั้งๆที่คิดว่าคงทำใจได้เพราะไม่เจอกันตั้งนานเเล้วเเท้ๆ เเต่พอเห็นหน้านาย ความรู้สึกเเบบที่หัวใจเต้นเเรงเหมือนจะหลุดจากอกมันก็กลับมาอีก”
“ตอนนั้นหน่ะ อยากจะวิ่งเข้าไปหาเเจจุงฮยองเเล้วรบเร้าให้ทำสัญญากับบริษัทด้วยกันตอนนั้นเลย”
“ไม่เจอกันนานขนาดนั้น เเล้วอยู่ๆก็ได้กลับมาเจอฉัน เเถมเรายังได้ฟอร์มวงด้วยกันอีก”
“...”
“ขนาดนี้แล้ว...ไม่คิดอยากจะบอกความรู้สึกกับฉันบ้างเหรอ?”
ความคิดเห็น