ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Melodic Boy Live in Absolute Quality ♬ (2U)

    ลำดับตอนที่ #17 : ♬16

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 88
      5
      9 ก.ค. 58




    ตอนนี้สั้นนิดนึง
    เเล้วก็มีทูยูน้อย เพราะงั้นเดี๋ยวเเถมให้อีกตอนนะคะ
    ตอนนี้เเต่งไว้ถึงตอนยี่สิบเรียบร้อยเเล้วค่ะ เรื่องนี้จบยี่สิบตอน
    จะค่อยๆทยอยลงให้ อดใจรอนิดนะคะ
    สุดท้าย ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์ค่ะ


    ___________________________________________________________________

     


    จุนซูถอนใบหน้าออกจากกระจกใสบานเล็กๆบนบานประตูที่ทำให้เขาสามารถมองเห็นภายในห้องซ้อมได้ ผู้จัดการคนโหดถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เเล้วขยับตัวด้วยท่าทีที่สบายขึ้น

     

     

    “คงจะเคลียร์กันเเล้วสินะ ถึงได้มาปิดห้องทำเพลงด้วยกันได้เนี่ย”

     

     

    “ทำไมเหรอฮยอง?

     

     

    ชางมินที่กำลังจิบน้ำอัดลมจากกระป๋องเดินตรงมาทางเขา จุนซูเลยเพยิดหน้าไปทางห้องซ้อมย่อยสำหรับศิลปินตรงหน้าตัวเอง มือกลองตัวสูงเดินไปชะโงกดูอย่างสนอกสนใจ เขาเห็นยูชอนกำลังเเต่งเนื้อเพลง พร้อมกดคีย์บอรด์ไปพลาง ส่วนยุนโฮก็นั่งเกาเบสอยู่ข้างๆ

     

     

    “ช่วงนี้ผมว่าฮยองสองคนนี้อยู่เเต่ในโลกสีชมพูของตัวเองอ่ะ เพลงที่ยูชอนนี่เเต่งคงเจ๋งมาก เเต่น่าจะหวานจนมดขึ้น ฮยองว่ามั้ย?

     

     

    ชางมินหันไปขอความเห็น เเต่ก็ต้องได้ห่อปากร้องหูววว ยาวๆเเทน เมื่อเห็นว่าใครมายืนโอบเอวจุนซูอยู่

     

     

    “เเหมม่ เเล้วคู่นี้ยังไงครับยังไง?

     

     

    ชางมินเอาไหล่ไปกระเเซะจุนซูที่หน้าเเดงก่ำ ผู้จัดการขาโหดจิ้มนิ้วลงบนอกตัวเอง ก่อนจะตามด้วยอกคนข้างตัวและชางมินตามลำดับ พร้อมย้ำออกมาเสียงดัง 

     

     

    “ฉัน ผู้จัดการ! พวกนาย เมมเบอร์ ชัดมั้ย!”

     

     

    “อู้หูยยยยย เขินเเรงงง”

     

     

    “เขินบ้าอะไรหล่ะ!”

     

     

    “อ้าว ก็ที่ฮยองหน้าเเดงนี่ไม่ได้เขินที่ผมหันมาเจอตอนเเจจุงฮยองหอมเเก้มฮยองเเถมยังโอบเอวฮยองด้วยหรอกเหรอ ผมเข้าใจผิดสินะ ว๊า เเย่จังงง”

     

     

    “นี่ขนาดเป็นแฟนกันเเล้วนะ ยังไม่ชินอีกหรอ?

     

     

    ท้ายประโยคแจจุงหันไปถามเจ้าของใบหน้าเเดงก่ำ เเจจุงยิ้มล้อๆ ก่อนจะจับผมสีน้ำตาลเข้มของจุนซูไปทัดใบหูให้

     

     

    “ไม่ต้องป่าวประกาศไปทั่วก็ได้นะ ว่าฉันกับนายเป็นเเฟนกันเเล้วหน่ะ!”

     

     

    จุนซูโวยใส่ก่อนจะเดินสะบัดไปอีกทาง

     

     

    “แล้วฮยองเขาเขินหรือโมโหหล่ะนั่น ตัวเเดงขนาดนั้นจะระเบิดมั้ยเนี่ย?

     

     

    ชางมินชะโงกคอตามจุนซูที่เดินหายเข้าไปในห้องเด็กฝึกหัดอีกห้องหนึ่ง

     

     

    “ชะโงกอีกนิดก็คอจะหลุดละชางมิน ตามไปดูเลยมั้ย”

     

     

    “เเหม่ฮยองก็”

     

     

    “อย่าทำมาเหนียม ฉันรู้ว่าเเกกำลังเต๊าะเด็กฝึกที่ชื่อยูฮวานอยู่” 

     

     

    “เห่ย ฮยองรู้ได้ไงอ่ะ!”

     

     

    ชางมินสำลักน้ำอัดลมนิดหนึ่งจนหน้าเเดง เด็กหนุ่มไอค่อกเเค่กพลางเบิกตาโต

     

     

    “นี่ใครรู้บ้างเนี่ย?

     

     

    “ไม่รู้สิ คนอื่นก็ไม่ได้พูดอะไร ว่าไง ตกลงจีบเด็กนั่นอยู่จริงๆใช่รึเปล่า?

     

     

    เขาหมายถึงยูฮวาน เด็กฝึกในค่ายที่พึ่งถูกดึงตัวมาฟอร์มวงร่วมกับเด็กหนุ่มอีกสี่คน หน้าตาดีเเถมมีความสามารถยกวง อายุก็ยังน้อย ถ้าได้เดบิวต์ก็คงจะมีอนาคตไกล

     

     

    “ก็จริงดิฮยอง แต่อย่าพึ่งไปบอกใครนะ ผมนี่กลัวกินเเห้วมาก เด็กนี่โคตรนิ่ง หยอดอะไรไปก็เงียบกริ๊บ ขวัญเสียไปหลายทีละเนี่ย”

     

     

    “เออ ดีๆ สอยมาให้ได้นะเว่ย ไม่งั้นหล่ะก็ เสร็จเมมเบอร์ในวงน้องเขาเเน่เเหล่ะ เห็นมองยูฮวานกันตาเยิ้ม”

     

     

    “จริงดิ ไม่ได้การละ ฮยองไปกับผมหน่อยดิ”

     

     

    “ไปไมวะ?”

     

     

    “เห้ย ไปช่วยน้องไงง แฟนตัวเองก็อยู่นั่น” 

     

     

    “ไรวะ อยากได้ก็จีบเองดิ ให้ช่งให้ช่วยอะไร”

     

     

    เเจจุงสะบัดเเขนออกจากการเกาะกุมของมักเน่มือกลอง มันตลกดีที่เห็นคนทะเล้นขี้เล่นอย่างชางมินหมดความมั่นใจไหล่ตกขนาดนี้

     

     

    “โห ฮยองควรไปทำหน้าที่เป็นซอนเบนิมที่ดีช่วยให้กำลังใจและคำเเนะนำกับรุ่นน้องนะ ส่วนผมก็จะไปให้คำเเนะนำกับเด็กผมไง ไป ไปกันเถอะ”

     

     

    เเจจุงเเกล้งขัดขืนในตอนเเรกพอเป็นพิธี ก่อนจะยอมให้ชางมินลากไปโดยดี

     

     

     “เอาวะ ช่วยน้องมันหน่อยละกัน”

     

     

    ...

     

     

    ยุนโฮเขย่าขาไปพลางขณะฟังไกด์เวอร์ชั่นที่ยูชอนอัดเอาไว้ เขาเหลือบมองใบหน้าขาวที่กัดริมฝีปากตัวเองเเน่นอย่างเอ็นดู จะลุ้นอะไรขนาดนั้น

     

     

    “เป็นไงมั่ง?

     

     

    “เมโลดี้ก็โอเคเเล้ว ลองเเบ่งพาร์ทร้องกับเเจจุงเเล้วก็ใช้ Auto tune ช่วยดูอีกทีสิ น่าจะออกมาโอเคกว่านี้อีก”

     

     

    “โอเคเเล้วสินะ งั้นวันนี้พอเเค่นี้ก่อน”

     

     

    ยูชอนยกมือขึ้นมาเเปะกับยุนโฮ ร่างขาวจัดการปิดโปเเกรมต่างๆเเล้วชัทดาวน์เครื่อง ก่อนจะลุกจากเก้าอี้เเล้วบิดตัวคลายความเมื่อยล้า

     

     

    “หิวหรือเปล่า?

     

     

    “ง่วงมากกว่าอ่ะ พากลับไปนอนหน่อย”

     

     

    “ไม่หิวรึไง ตั้งเเต่เช้ากินข้าวไปมื้อเดียว นี่สามทุ่มเเล้วนะ”

     

     

    “ก็มันเพลียนี่นา อีกอย่างเวลาทำเพลงเพลินๆก็ไม่ค่อยรู้สึกตัวหรอก รู้ตัวอีกทีก็มืดเเล้วทุกที”

     

     

    “ไม่รู้เเหล่ะ ไปกินข้าวก่อน รู้ตัวบางมั้ยว่าผอมลง?

     

     

    ยุนโฮเลื่อนมือไปกระชับรอบเอวบาง แล้วดึงยูชอนเข้าหาตัว

     

     

    “เปล่าสักหน่อย!”

     

     

    “ฉันจับของฉันทุกวันทำไม่จะไม่รู้”

     

     

    มุมปากหยักยกโค้งขึ้นอย่างพึงพอใจเมื่อเห็นยูชอนเบิกตาโตก่อนจะหันหน้าไปมองทางอื่น เขาไม่อยากจะเเกล้งต่อหรอกนะ เพราะเเค่นี้ยูชอนก็หูเเดงไปหมดเเล้ว

     

     

    “เขินเหรอ?

     

     

    เขาเเกล้งยื่นหน้าเข้าไปกระซิบเสียชิดใบหู จนยูชอนต้องหดคอหนีเพราะจั๊กจี๋ลมหายใจร้อนๆที่รดอยู่บนเเก้ม

     

     

    ...

     

     

    ยุนโฮเลื่อนเเขนขึ้นไปพาดอยู่บนไหล่อีกฝ่ายก่อนจะโอบให้เดินไปด้วยกัน

     

     

    “ไปกินข้าวกันนะ”





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×