ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Melodic Boy Live in Absolute Quality ♬ (2U)

    ลำดับตอนที่ #9 : ♬8

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 99
      42
      22 เม.ย. 58



    ฟิคร้อนๆมาเสิรฟ์เเล้วค่ะ 
    ร้อนจี๋เลยเพราะพิมพ์ในโน๊ตเมื่อกี้สดๆ 55555
    มีคนอ่านเพิ่มมากอีกคน เเทบกรี๊ดดดดดดด คิคิ
    ถ้าไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป ช่วยเเนะนำตัวหน่อยนะค้า 
    ขอบคุณค่ะ :) 
     
     


     
    _____________________________________________________________________________________



    อีก 2 วันจะเป็นวันเดบิวต์….

     

     

    ยุนโฮสูดควันพิษเข้าปาก ก่อนจะพ่นลมหายใจออกทางปากและจมูกช้าๆอย่างผ่อนคลาย เขากำลังยืนสูบบุหรี่อยู่นอกระเบียง พลางเฝ้ามองการดำเนินไปในห้องซ้อม ชางมินกำลังเม้มปากเครียดกับจังหวะกลองที่ปรับเปลี่ยนไม่มีวันสิ้นสุด เเจจุงกำลังคุยเครียดกับจุนซูเรื่องอะไรซักอย่าง

     

     

    ส่วนยูชอน...

     

     

    ยุนโฮเบนสายตามาหยุดที่ยูชอนนิ่งนานกว่าคนอื่น ร่างสูงโปร่งกำลังยืนกัดเล็บเครียดอยู่ด้านหลังคีย์บอร์ด มือขาวจนเกือบซีดพลิกโน๊ตบนเเสตนด์ด้านหน้าไปมา

     

     

    ยุนโฮขยี้ก้นกรองลงกับที่เขี่ยบุหรี่ ก่อนจะเปลี่ยนมายืนกอดอกมองเต็มตา เขาไม่รู้หรอกว่ายูชอนเครียดอะไร เพราะเเทบไม่ได้คุยกันเลย เเต่ถ้าให้เดาก็คงจะไม่พ้นเรื่องเดบิวต์นั่นเเหล่ะ

     

     

    เขาสังเกตุว่าพักนี้ส่วนใหญ่ยูชอนมักจะขมวดคิ้วมุ่นบ่อยๆ ไม่ว่าจะตอนไหนก็ตาม กลางคืนก่อนนอนก็ต้องนั่งดูโน๊ตกับเขียนอะไรยุกยิกในสมุดเพลงเป็นชั่วโมง เเละไลน์คีย์บอรด์ของยูชอนก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเเทบทุกวัน กำลังจะเดบิวต์สองวันนี้อยู่เเล้ว เเต่ไม่นิ่งเสียที

     

     

    ถ้าลีดเดอร์อย่างเขาไม่ทำอะไรซักอย่างยูชอนคงจะเเก้โน๊ตจนวินาทีสุดท้ายก่อนขึ้นเวทีเป็นเเน่

     

     

    “ไหนเล่นให้ฟังซิ”

     

     

    “ห้ะ?

     

     

    ยูชอนทำหน้าตาตื่น เเถมยังสะดุ้งตอนที่เขาลากเก้าอี้มานั่งเเปะลงด้านหน้าเจ้าตัว ยุนโฮพยักเพยิดหน้าไปยังคีย์บอร์ดที่ขั้นกลางระหว่างเขากับยูชอนเป็นเชิงบอกว่า เล่นสิ

     

     

    “เลือกที่มั่นใจที่สุดสองเเบบมาเล่นให้ฟังหน่อย”

     

     

    ว่าอย่างนั้นเเล้วเขาก็หลับตา ไม่อยากกดดันยูชอนด้วยหนึ่ง เเล้วก็อยากจะใช้โสตประสาทเพียงอย่างเดียวจริงๆในการแยกแยะเมโลดี้และคอร์ด

     

     

    ได้ยินเสียงหน้ากระดาษเสียดสีกันอยู่ในอากาศพักใหญ่กว่าปลายนิ้วยาวนั้นจะกดลงบนเเป้นสีขาวเเละดำไปมาจนเป็นเกิดเป็นทำนองเพลงเดบิวต์ของพวกเขา

     

     

    เเบบเเรกเป็นเมโลดี้และทำนองนุ่มๆที่เข้ากับเพลงของพวกเขาได้อย่างดีเยี่ยม จังหวะชวนให้โยกหัวตามเบาๆ เเต่เเบบที่สองนี่สิที่มันเเสดงความเป็นยูชอนออกมาได้ดี เเล้วก็มีเสน่ห์เหมือนเจ้าของไลน์ไม่มีผิด

     

     

    “ฉันว่าเเบบที่สองนะ เเบบเเรกมันเพราะน่าฟังก็จริง เเต่เเบบที่สองเเสดงความเป็นตัวนายได้ดีกว่า ...”

     

     

    ยุนโฮหยุดปากไว้เท่านั้น ขณะรอดูปฏิกริยาตอบรับของคนตรงหน้า

     

     

    “อื้อ” 

     

     

    เเล้วเขาก็ได้เห็นเเววตาวามวับเหมือนกับคืนนั้นอีกครั้ง อ้อ เเล้วก็รอยยิ้มสดใสที่ลืมไม่ลงนั่นด้วย

     

     

    “ว่าเเต่ว่า ที่บอกว่าชอบอย่างอื่นหน่ะ หมายถึงอะไร?” 

     

     

    เขาเปลี่ยนมานั่งไขว่ห้าง ประสานมือวางบนหน้าตักอย่างรอคอยคำตอบ ไอที่ยูชอนบอกว่า เปล่า ชอบอย่างอื่นหน่ะ มันติดอยู่ในหัวเขามาเป็นอาทิตย์ๆแล้ว และก็ดูท่ามันจะไม่หลุดออกไปง่ายๆ ถ้าเขายังไม่ได้คำตอบ

     

     

    แล้วยูชอนก็ยิ้มอีกครั้ง

     

     

    “อะไร ยิ้มนี่หมายความว่ายังไง?

     

     

    “ไม่บอกหรอก”

     

     

    เขาจับได้ถึงน้ำเสียงซุกซนเเละเเววตาขี้เล่นที่ปิดไม่มิดจากเเก้วตาสีดำนั้น

     

     

    ไอ้เด็กนี่มันกวนประสาท...

     

     

    “หึ”

     

     

    เขามองรอยยิ้มเเต้ของยูชอนเเล้วจุดยิ้มมุมปาก ไม่รู้จะอารมณ์ดีอะไรนักหนา เมื่อกี้ยังขมวดคิ้วมุ่นกัดเล็บ มาตอนนี้ร้องเพลงอารมณ์ดีเเถมกดคีย์บอรด์ไปสะบัดผมไปอีก ตลก...

     

     

    เเล้วมุมปากของชายหนุ่มก็ยกขึ้นสูงจนแก้มดันตาหยี

     

     

    ...............

     

     

    “จุนซูๆ ดูตรงนู้นนนดิ”

     

     

    ชางมินสะกิดจุนซูให้ดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลางห้องซ้อม คนโดนสะกิดจิ๊ปากพอเป็นพิธีเพราะโดนรบกวนในขณะที่กำลังยุ่งๆกับการแก้แบบเสื้อผ้าอยู่ จุนซูสะบัดสมุดในมือพับปิดก่อนจะขมวดคิ้วยุ่งแล้วหันไปตามแรงสะกิด

     

     

    “เห้ย!”

     

     

    ร้องเสียงดังเเล้วก็รีบยกมือขึ้นมาอุดปากเเทบไม่ทัน ไอ้รอยยิ้มใสของยูชอนน่ะก็ไม่เท่าไหร่...

     

     

    แต่รอยยิ้มของยุนโฮฮยองเนี่ย ไม่ได้เห็นมานานแค่ไหนแล้วนะ?

     

     

    “ นี่ชิมชางมิน นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้เห็นชองยุนโฮยิ้มมีความสุขแบบนี้?”

     

     

    “ก็ตั้งเเต่พี่จีฮย...”

     

     

    “ชู่วววว อย่าเอ่ยชื่อนั้น! เสียบรรยากาศหมด!”

     

     

    จุนซูยกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปากก่อนจะใช้สันปกสมุดแข็งๆเคาะหัวชางมินไปไม่เบาข้อหาพูดจาไม่รู้เวล่ำเวลา ก็รู้อยู่ว่าชื่อนี้มันอาถรรพ์ พูดขึ้นมามีแต่จะทำให้บรรยากาศหม่นหมอง

     

     

    “ผมว่าเราไปเสนอพลอตให้พวกโปรดิวเซอร์ฮยองทำซีรียส์ดีกว่า”

     

     

    “ซีรียส์อะไร?”

     

     

    “มือคีย์บอร์ดหน้าใสผู้สลายน้ำเเข็งในใจมือเบสหน้าหล่อ”

     

     

    “โอ๊ยตาย ชื่อเรื่องนี่กุ๊กกิ๊กไปอีกสิ”

     

     

    “ผมหวังว่ามันจะเป็นซีรียส์ที่ออนแอร์ยาวๆ แล้วก็จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง”

     

     

    “เพ้อเจ้อไปกันใหญ่แล้วชางมิน แค่เห็นยุนโฮยิ้ม จะฟันธงอะไรได้”

     

     

    “ไม่เห็นยิ้มแบบนั้นมาเกือบสองปีได้ละนะ  เถียงสิฮยองว่ายูชอนไม่ใช่เทวดาที่มีมนต์วิเศษ ผมเชียร์คู่นี้หว่ะเอาจริง”

     

     

    “อะไรจะขนาดนั้นฮะ ไปรู้อะไรมารึเปล่า?”

     

     

    จุนซูหรี่ตามองชางมินที่เอาแต่ยักคิ้วกวนประสาทเขาจึ้กๆพลางแยกเขี้ยวใส่ เขารู้ดีว่าถ้าเด็กนี่ไม่พูด ง้างปากให้ตายยังไงก็คงไม่ยอมบอกออกมาง่ายๆแน่

     

     

    “รอดูไปละกันฮยอง แต่ผมมั่นใจว่ายูชอนนี่จะสามารถกระเทาะเปลือกความเย็นชาของยุนโฮฮยองออกไปได้แน่นอน”

     

     

    “ก็ด้ายยยย ถ้านายมั่นใจขนาดนั้นหล่ะก็ ฉันจะรอดู”

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×