ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [HP FIC] TWISTED!! - TMR/HP

    ลำดับตอนที่ #18 : [เรื่องสั้นคั่นเวลา] Wheel of Fortune 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.2K
      70
      12 ก.ย. 58

    Wheel of Fortune 1



    มือของเขาหมุนเครื่องจักรบางอย่างให้ครบตามจำนวนรอบที่ตั้งใจไว้ เด็กหนุ่มสูดหายใจลึกอย่างช้าๆ พยายามสงบสติอารมณ์ให้อยู่ในสภาพที่ปกติที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ นัยน์ตาสีมรกตลืมขึ้นอย่างแน่วแน่ ไม่มีความลังเลอยู่ในดวงตาสีเขียวสวยคู่นั้นอีกต่อไป



    "เธอแน่ใจนะว่าไม่ต้องการให้เราไปด้วย แฮรี่" หญิงสาวเอ่ยถาม เธอเม้มปากแน่น แววตาของเธอกังวล ไม่ต่างอะไรกับเพื่อนสนิทผมแดงข้างๆที่มีสีหน้าบอกบุญไม่รับเท่าไหร่นัก



    "เรื่องนี้ฉันขอจัดการคนเดียว" เด็กหนุ่มยิ้มบางๆให้กับทั้งสองคน "แต่ครั้งเดียวน่า แล้วเดี๋ยวฉันก็กลับมา" เขากลอกตามองเครื่องจักรเหล่านี้ "เครื่องข้ามเวลานี้ มันอยู่ที่ฮอกวอตส์มาเกินร้อยปีแล้ว ฉันเชื่อว่าฉันกลับมาได้อยู่แล้ว ย้อนกลับไปแค่ห้าสิบปี ไม่ต้องกลัวว่าที่อดีตจะไม่มีเครื่องข้ามเวลาหรอก"



    "ขอให้เป็นจริงอย่างที่นายพูดนะ" เธอปาดน้ำตาที่หางตาอย่างรวดเร็ว "สัญญาสิว่าจะกลับมา"



    "ฉันสัญญา เฮอร์ไมโอนี่"



    "ถ้านายโกหก ฉันจะไม่ให้อภัยนายอย่างแน่นอน แฮรี่ พอตเตอร์" อีกเสียงที่เอ่ยเสริมดังมาจากเพื่อนสนิทของเขาอีกคนหนึ่ง เด็กหนุ่มที่ถูกคาดโทษยิ้มบางอย่างอ่อนใจ



    "ไม่ต้องห่วง รอน" เขาเอ่ยย้ำอีกครั้ง "ฉันสัญญา"






    มือดึงกลไกของเครื่องจักรเก่าแก่ให้ทำงาน เฟืองของมันเริ่มหมุนอีกครั้งอย่างรวดเร็ว รอบตัวของแฮรี่วูบวาบและเป็นเพียงภาพเลอะๆเหมือนกับมีใครเอาน้ำสาดใส่ภาพที่วาดด้วยสีโปสเตอร์ กาลเวลาที่ไหลผ่านไปกำลังเดินย้อนกลับอย่างน่าอัศจรรย์ แม้แต่ในโลกเวทมนตร์ การข้ามเวลาก็ยังนับเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากพอๆกับตำนานเครื่องรางยมทูตและสามพี่น้องนั่นล่ะ


    ภาพเลอะเลือนรอบตัวเขาค่อยๆชะลอลงจนพอจับความได้บ้าง ไม่ได้เป็นแค่เสียงอื้ออึงของเวลามากมายที่ไหลผ่านตัวของเขาไป ภาพทั้งหมดค่อยๆช้าลงทีละน้อย ละน้อย






    กริ๊ก






    ทุกอย่างหยุดนิ่ง เวลาหยุดเดินถอยหลัง และค่อยๆเดินหน้าต่อไปตามปกติของมัน กลไกเปิดออกเบาๆ อากาศเย็นยามดึกโชยปะทะใบหน้า สายลมหนาวของเหมันตฤดูทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกตัดสินใจพลาดอย่างแรงที่ไม่หยิบเสื้อกันหนาวติดมาด้วย




    แฮรี่ลูบไหล่ตัวเองเบาๆ ก่อนจะค่อยๆก้าวออกจากเครื่องข้ามเวลาที่เพิ่งทำงานเสร็จ เมื่อปลายเท้าพ้นเครื่องจักรประหลาดนั้น มันก็หมุนปิดกลไกทั้งหมดโดยอัตโนมัติ เด็กหนุ่มรู้ได้ในทันทีเลยว่าเขาไม่มีทางได้กลับไปภายในวันสองวันนี้อย่างแน่นอน กว่ากลไกของเครื่องจะพร้อม คงต้องให้มันนอนพักยาวๆสักหน่อย






    ... กึก กึก กึก ...






    นัยน์ตาสีเขียวเบิกกว้าง เด็กหนุ่มหันไปทางต้นเสียง ปลายไม้กายสิทธิ์ที่มีดวงไฟส่องสว่างอยู่บนนั้นจากผลของคาถาเรียกแสง ลูมอส ชี้มาทางเขาเต็มๆ


    "ทำไมนายถึงไม่อยู่ในหอนอน" เสียงเรียบจากอีกฝ่ายเอ่ยถาม แฮรี่หยีตาเมื่อแสงสว่างจ้าจากปลายไม้แทงเข้าตาเต็มๆ เขาขยี้ตา อ้ำอึ้งหนักกว่าเดิมเมื่ออีกฝ่ายเร่งเร้าจะเอาคำตอบ "ว่าไง ?"



    "เอ่อ ... ผมเผลองีบไป"



    "งั้นเหรอ" น้ำเสียงที่ตอบกลับมาไม่ได้มีส่วนใดที่บ่งบอกว่าเชื่อเขาเลยสักนิด เด็กหนุ่มยักไหล่ เขากระพริบตาถี่ๆ นัยน์ตาปรับตัวเข้ากับสภาพโดยรอบได้แล้ว และนั่นทำให้เขามองเห็นหลายๆอย่างรอบตัวชัดเจนยิ่งขึ้น




    เด็กหนุ่มร่างสูงที่น่าจะอยู่ราวปีหก แก่กว่าเขาปีหนึ่ง ผิวขาว นัยน์ตาสีเทาเข้ม เรือนผมสีน้ำตาลแก่ถูกหวีจัดทรงอย่างเรียบร้อย เขาอยู่ในชุดคลุมยาวสีดำขลิบขาวเขียว ตราบนอกบ่งบอกบ้านที่สังกัดได้ชัดเจน เข็มกลัดพรีเฟ็คชัดเจนบนปกเสื้อของเขา


    ไม่ต้องให้ดัมเบิลดอร์มาบอก เขาก็รู้ว่าคนคนนี้คือใคร ทุกอย่างชัดเจนเต็มนัยน์ตา





    ทอม มาร์โวโล่ ริดเดิ้ล




    หรือเขาควรเรียกอีกฝ่ายว่าโวลเดอมอร์ดี ?





    หน้าอกของแฮรี่เต้นตุบระรัวด้วยความรู้สึกหลากหลาย นัยน์ตาของพวกเขาทั้งคู่จ้องประสานกันในแสงจ้าของไม้กายสิทธิ์ แฮรี่ตัดสินใจหลบสายตาอีกฝ่าย


    "กริฟฟินดอร์สินะ ?" เป็นคำถามที่ไม่ได้ต้องการคำตอบสักนิดเมื่อร่างสูงกว่าของริดเดิ้ลหันหลังให้กับเขาทันทีที่พูดจบ "ตามฉันมา ฉันจะนำทางไปที่หอของนาย"


    "ขอบคุณ" แฮรี่ตอบเป็นมารยาท เขาก้าวขาตามร่างสูงๆของอีกฝ่ายไปอย่างรวดเร็ว ริดเดิ้ลขายาวกว่าและเดินเร็วกว่าเขามาก นั่นทำให้เขาต้องเปลี่ยนเป็นเดินกึ่งวิ่งเหยาะๆถึงจะตามความเร็วนั้นทัน บันไดวนยังคงทำงานแม้จะเป็นเวลากลางคืนดึกสงัด เสียงกึงกังของมันดังไม่น้อยในยามวิกาลเช่นนี้





    “ถึงแล้ว” ริดเดิ้ลขยับตัวเล็กน้อย เปิดทางให้เขาเข้าไปยังรูปของสุภาพสตรีอ้วนที่เป็นทางเข้าหอกริฟฟินดอร์ เธอหลับสนิทเสียจนเขากลัวที่จะปลุกเธอให้ตื่นขึ้นมา และสิ่งที่สำคัญกว่านั้น …






    “เอ่อ … ขอโทษครับคุณริดเดิ้ล” แฮรี่เอ่ยเสียงแผ่วเบา ร่างสูงหัดมามองเขาพลางเลิกคิ้วให้เป็นเชิงถามว่าเขาต้องการอะไร



    “ผม … จำรหัสผ่านเข้าบ้านไม่ได้ครับ”



    เขาคาดว่าอีกฝ่ายจะทำท่าเหนื่อยหน่ายใส่เขา ตวาดเขา เสกคำสาปพิฆาตใส่เขา เขวี้ยงไม้กายสิทธิ์ใส่หน้าเขา หรืออะไรเทือกนั้นอย่างแน่นอน แต่ทุกสิ่งกลับเงียบสนิท ริดเดิ้ลไม่ได้ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ไม่ได้ตลาด ไม่ได้สาปหรือแช่งเขา หรือดีดหน้าเขาด้วยไม้กายสิทธิ์




    ริดเดิ้ลทำเพียงแค่มองอย่างเงียบๆด้วยสายตาที่เขาคาดเดาไม่ได้ก็เท่านั้น



    “งั้นตามฉันมา” ขายาวๆก้าวลงจากบันไดวนลงไปอย่างรวดเร็ว แฮรี่แทบจะเอาก้นไถลตามราวจับบันไดตามเขาไปแล้วถ้าไม่กลัวว่าตัวเองจะตกจากราวบันไดลงไปด้านล่างแล้วคอหักตาย พวกเขาเดินผ่านโถงกลางไปยังอีกฟากของปราสาท โครงสร้างของฮอกวอตส์ในตอนนี้ไม่ได้ต่างอะไรกับยุคสมัยที่เขาจากมาเลยสักนิด




    ถ้าเขาจำไม่ผิด ทางที่ริดเดิ้ลกำลังพาเขาไป คือทางไปห้องนั่งเล่นบ้านสลิธีริน





    “คุณจะพาผมไปห้องนั่งเล่นบ้านคุณเหรอ ?” เด็กหนุ่มเอ่ยถามทั้งๆที่ยังเดินกึ่งวิ่งให้ตามอีกฝ่ายให้ทันอยู่



    “นายจำทางไปห้องนั่งเล่นบ้านสลิธีรินได้ แต่นายกลับจำรหัสผ่านเข้าห้องนั่งเล่นบ้านตัวเองไม่ได้เนี่ยนะ” ไม่ได้เป็นการประชด แต่เป็นการหยอกเย้ามากกว่า แฮรี่รับรู้ได้จากน้ำเสียงที่ยังพอเป็นมิตรอยู่บ้างของริดเดิ้ล ถึงแม้มันจะไม่มากก็ตาม “ใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว ถึงเป็นพรีเฟ็ค แต่หลังเที่ยงคืนฉันก็ต้องกลับไปที่หอ คงมีทางเดียวที่นายจะไม่ถูกแพ่นกบาลแตก คือเข้าไปนอนที่หอของสลิธีรินก่อน”





    พวกเขามาถึงห้องนั่งเล่นของสลิธีรินที่ใต้ดินของปราสาท รหัสผ่านเข้าบ้านนี้ยังคงเป็น ‘เลือดบริสุทธิ์’ แฮรี่สงสัยว่าบ้านนี้เคยเปลี่ยนรหัสผ่านบ้างไหม บางทีสลิธีรินอาจไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรหัสผ่านก็ได้ เพราะอย่างไรเสียก็ไม่มีใครอยากจะเข้ามาป้วนเปี้ยนในบ้านของพวกเขาอยู่แล้ว



    “รอสักแป๊บนึงก็แล้วกัน” ริดเดิ้ลเอ่ยกับเขา ก่อนที่จะปลีกตัวเข้าไปด้านหลังของห้องนั่งเล่นที่แฮรี่คาดว่าน่าจะเป็นโซนของหอพักนักเรียน ไม่นานนักเขาก็กลับออกมาพร้อมกับชุดนอนสีเขียวครึ้มชุดหนึ่ง ร่างสูงโยนชุดนอนให้แฮรี่ที่รับมาแบบงงๆ “ห้องน้ำอยู่มุมขวา จะแยกเป็นหญิงกับชาย คงไม่ต้องให้ฉันเข้าไปเป็นเพื่อนหรอกใช่ไหม”



    เขาทำเพียงแค่ยิ้มแหยๆให้กับริดเดิ้ล ก่อนที่จะหอบหิ้วเสื้อผ้าเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว







    เด็กหนุ่มปล่อยให้สายน้ำไหลผ่านเรือนผม ความเย็นจากกระแสน้ำแผ่วเบาช่วยให้สบายตัวอย่างบอกไม่ถูก มโนความคิดหลายอย่างไหลผ่านหัวเขาไปโดยที่ไม่อาจควบคุมได้ มือของแฮรี่คว้าเอาสบู่เหลวกลิ่นเปปเปอร์มิ้นมาถูตัวอย่างเลื่อลอย จมจ่อมกับความคิดของตนเอง



    บางทีเขาก็ไม่เข้าใจเอาเสียเลยว่าคนอย่างทอม มาร์โวโล ริดเดิ้ล จะกลายเป็นลอร์ดโวลเดอมอร์ได้อย่างไร เด็กหนุ่มที่ครองตำแหน่งพรีเฟคและหัวหน้าบ้านสลีธีรินคนนี้ ไม่ได้มีเค้าลางว่าจะกลายเป็นอะไรแบบนั้นเลยสักนิด



    หรือเขาอาจจะเป็นแบบที่ดัมเบิลดอร์ว่าไว้จริงก็ได้ ว่าหากมีอะไรที่เลวร้ายซ่อนอยู่ในนั้น มันคงอยู่ลึกมากเสียจนเขารับรู้ไม่ได้



    แฮรี่ไม่อยากจะยอมรับความจริงว่า ชั่วพริบตาหนึ่ง เขามีความคิดที่ว่า โวลเดอมอร์ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด





    เสียงเคาะประตูห้องน้ำดังขึ้นเบาๆ เด็กหนุ่มสะดุ้ง เสียงของริดเดิ้ลดังขึ้นด้านนอก



    “รีบหน่อยก็ดี ไม่อยากให้นักเรียนบ้านฉันตื่นมาเจอหรอกใช่ไหม”






    ทอม มาร์โวโล่ ริดเดิ้ล ยังคงนั่งอยู่ตรงโซฟาสีเขียวแก่ตัวยาวในห้องนั่งเล่นสลิธีริน เขาปิดหนังสือลงเมื่อเห็นแฮรี่ออกมาจากห้องน้ำแล้ว


    “มาสิ” ร่างสูงเดินนำเข้าไปด้านหลังของห้องนั่งเล่น บันไดวนนำลงไปชั้นใต้ดินเป็นหอพักสลิธีรินที่ไม่ต่างกับกริฟฟินดอร์เท่าไหร่ คือแยกหอหญิง-ชาย แต่ริดเดิ้ลไม่ได้พาเขาเข้าไปในห้องเหล่านั้น เขากลับเดินลึกเข้าไปอีก เป็นจุดที่แฮรี่คาดเดาว่า มันน่าจะเป็นห้องนอนของพรีเฟ็ค หรือห้องนอนของหัวหน้าหอสลิธีริน


    มือผลักประตูเข้าไปเบาๆ เขาโบกไม้กายสิทธิ์หนึ่งครั้ง ดวงไฟติดขึ้นในโคมไฟโทนสีเขียวหม่น มันทำให้ทั้งห้องเป็นสีเขียวราวกับเมืองมรกต ห้องนอนขนาดใหญ่นี้มีเตียงสี่เสาอยู่ติดผนังกลางห้อง เครื่องเรือนในห้องเป็นโทนสีเขียวแก่ ทุกอย่างถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ทั้งหนังสือบนโต๊ะเขียนหนังสือขนาดย่อม ตู้และชั้นวางของ น่าทึ่งยิ่งกว่าคือในห้องนอนขนาดใหญ่นี้มีห้องน้ำส่วนตัวเสียด้วย



    บางทีเขาก็นึกโกรธอีกฝ่ายที่ให้เขาอาบห้องน้ำรวม แต่พอทบทวนความคิดเดิมอีกที เขาก็ไม่เห็นเหตุผลที่อีกฝ่ายต้องแบ่งห้องน้ำส่วนตัวให้เขาใช้ แฮรี่สลัดความคิดนี้ทิ้ง



    ริดเดิ้ลทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟานวมตัวยาว





    “ฉันดูแล้วนายก็ไม่ได้ง่วงสักเท่าไหร่ ขอถามนายสักสองสามคำถามซิ” นัยน์ตาสีเทาคมกริบกวาดมองดูร่างเล็กตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับเครื่องเอ็กซเรย์ในโลกมักเกิ้ล แฮรี่กลืนน้ำลายเบาๆ พยักหน้าน้อยๆ



    “นายชื่ออะไร ?”



    “แฮรี่ … แฮรี่ พอตเตอร์”



    “นายเป็นนักเรียนชั้นปีไหน”



    “ผมอยู่ปีห้า”



    “อย่างงั้นรึ ?” ริดเดิ้ลไม่ได้คาดคั้นอะไรต่อ เขาทำเพียงแค่ลุกขึ้นก่อนจะย้ายที่นั่งไปนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือ ดึงสมุดและปากกาขนนกออกมาจากลิ้นชัก “ถ้านายอยากนอน จะนอนเตียงของฉันก่อนก็ได้”



    “แล้วคุณล่ะ”



    “ฉันคงไม่ได้นอนเร็วๆนี้หรอก แฮรี่ พอตเตอร์” เขาเอ่ยขึ้น มือเริ่มสาละวนเขียนอย่างเร็วระรัวลงสมุดเล่มนั้น “อาจจะหลังจากที่นายตื่นแล้วก็ได้ งานพรีเฟ็คหนักกว่าที่นายรู้ รวมไปถึงพวกอาจารย์ก็เช่นกัน”



    แฮรี่ไม่ได้ตอบอะไร เขาเลือกที่จะไม่กวนอีกฝ่ายระหว่างที่กำลังสะสางงาน เด็กหนุ่มทิ้งตัวลงบนเตียงอ่อนนุ่มนั่น พริบตาท่ศีรษะแตะหมอนพองฟูขนาดใหญ่ ดวงตาเขาก็ปิดลงทันทีอย่างรวดเร็ว ความเหนื่อยอ่อนทั้งหมดละลายแทรกหายไปในเตียงแสนสบายนั้น





    ทอม มาร์โวโล่ ริดเดิ้ล เหลือบสายตามามองคนที่นอนอยู่บนเตียงเขา นัยน์ตาที่ดุดันและคมกริบอยู่เสมอดูอ่อนลงเมื่อมองดูแฮรี่ พอตเตอร์ รอยยิ้มบางๆวาดบนใบหน้าคมคายนั้น ก่อนที่เขาจะหันกลับไปจัดการงานของตนเองต่อ








    ----


    OMGGGGG เป็นโมเม้นที่แบบว่า ได้แว้บบบบบบบบมาแต่งฟิคสักทีฉัน อะไรอย่างนี้ หลังจากที่จมจ่อมอยู่ในลีคออฟเลเจนส์นานมาก บรรลุเป้าหมายของปีนี้เรียบร้อยแล้ว แรงจูงใจในการเล่นก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเหลือเชื่อเลย
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×