จนกว่าความตายจะพราก (louis & antoinette) จบบริบูรณ์

งานเขียนชิ้นนี้ความจริงเป็นโปรเจคเรื่องสั้นที่คิดไว้ว่าจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับความรักวัยรุ่น ก็เลยคิดขึ้นมาว่ามีคนเขียนเรื่องเกี่ยวกับมารี อังตัวเนตต์ เยอะมาก แต่น้อยเรื่องที่จะเขียนในมุมมองของพระสวามี คือพระเจ้าหลุยที่ 16 ก็เลยกลายเป็นเรื่องนี้ขึ้นมา 

เนื้อหาของเรื่องค่อนข้างโดดไปโดดมาอาจทำให้ผู้อ่านที่ไม่เคยศึกษาชีวประวัติของพระนางฯมาก่อนสับสนได้ เนื้อเรื่องของเรื่องนี้เปิดขึ้นในปี 1792 ซึ่งเป็นช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส ที่ฝรั่งเศสเปลี่ยนการปกครองเป็นสาธารณรัฐ ล้มระบอบกษัตริย์ลง พระนางฯและพระเจ้าหลุย ถูกลดศักดิ์เป็นสามัญชนและถูกคุมขังไว้ในคุกหอคอย พระเจ้าหลุยถูกไต่สวนและสภาลงมติว่าให้ประหาร และเรื่องหลังจากนั้นเป็นแฟล็ชแบ็คที่ย้อนกลับไปในปี 1770 ในรัชสมัยของพระเจ้าหลุยที่ 15 ซึ่งในเวลานั้นพระเจ้าหลุยที่ 16 ยังเป็นเจ้าชายรัชทายาท (Le Dauphin) 

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย:  
พระเจ้าหลุยที่ 15 หรือทูลกระหม่อมปู่ที่กล่าวถึงในเรื่องมีโอรสธิดาหลายองค์ โอรสองค์ที่เป็นเจ้าชายรัชทายาทก่อนหน้านั้นคือพ่อของพระเจ้าหลุยที่ 16 แต่ได้เสียชีวิตไปก่อน 

ในเนื้อเรื่องราชินีของหลุยที่ 15 สิ้นพระชนม์ไปก่อนแล้ว พระเจ้าหลุยที่ 15 มีสนมหลายองค์ แต่คนที่เป็นคนโปรดคนสุดท้ายคือมาดาม ดู บารี ซึ่งคอยกลั่นแกล้งมารี อังตัวเนตต์อยู่ตลอด ภายหลังสิ้นพระเจ้าหลุยที่ 15 มาดาม ดู บารีย้ายออกไปอยู่นอกพระราชวัง แต่หลังเกิดการประหารก็ถูกฝ่ายปฏิวัติสั่งจับและถูกประหารเช่นเดียวกับพระนางมารี อังตัวเนตต์ และ พระเจ้าหลุยที่ 16 แต่ต่างกันตรงที่ทั้งพระเจ้าหลุยฯและพระนางฯ สามารถเผชิญหน้าต่อความตายได้อย่างสุขุม ในขณะที่มาดาม ดู บารี ฟูมฟายด้วยความหวาดกลัวอย่างน่าเวทนา 

เมอร์ซิเออร์ มาลแซร์บ Malesherbes ที่ทำหน้าที่ทนายความในการไต่สวนคดีของพระเจ้าหลุยที่ 16 เป็นบุคคลที่อาสาตัวรับหน้าที่เองโดยไม่ได้ค่าจ้างและนำเอาชีวิตของตนเองมาเสี่ยงภัย โดยในระหว่างการไต่สวนพระเจ้าหลุยได้พูดกับเขาว่า 'การเสียสละของท่านนั้นยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใด ทั้งที่รู้ว่าถึงอย่างไรก็ไม่สามารถยื้อชีวิตของเราเอาไว้ได้ แต่ท่านก็ยังยอมเอาชีวิตของท่านมาเสี่ยงเพื่อปกป้องเรา' แล้วก็เป็นจริงอย่างที่พูด เพราะนอกจากพระเจ้าหลุยจะถูกตัดสินให้ประหารชีวิต มาลแซร์บ ก็ถูกจับและถูกประหารในสองปีหลังจากนั้น 

พระเจ้าหลุยที่ 16 เป็นกษัตริย์ที่อ่อนแอ โง่เขา ใช่หรือไม่? คำตอบคือไม่ใช่ ภาพลักษณ์ความโง่เขลาของพระเจ้าหลุยเกิดจากอิทธิพลจากสื่อการสร้างภาพของฝ่ายปฏิวัติที่ต้องการจะดิสเครดิตราชสำนัก ความจริงพระเจ้าหลุยที่ 16 เป็นกษัตริย์ที่ทรงงานหนักตลอดรัชกาล สาเหตุความอดอยากและยากจนของพลเมืองฝรั่งเศสที่เป็นส่วนหนึ่งซึ่งทำให้เกิดการปฏิวัติขึ้นมีมูลเหตุยืดเยื้อมาตั้งแต่รัชกาลพระเจ้าหลุยที่ 14 ซึ่งใช้เงินในการสร้างพระราชวัง กับ หลุยที่ 15 ซึ่งใช้เงินไปกับการทำสงครามซึ่งยืดเยื้อกินเวลาถึง 7 ปี ตลอดจนใช้จ่ายปรนเปรอนางสนม และต่อเติมพระราชวัง โดยไม่ได้ใส่ใจต่อความเป็นอยู่ของประชาชน เมื่อมาถึงรัชกาลของพระเจ้าหลุยที่ 16 สภาพความเป็นอยู่ของประชาชนจึงลำบาก เมื่อเทียบกับอังกฤษที่ส่งเสริมให้มีการพัฒนาทั้งด้านกษิกรรมและอุตสาหกรรมซึ่งสามารถช่วยเหลือด้านปากท้องของประชาชนได้ส่วนหนึ่งแล้วฝรั่งเศสล้าหลังอยู่มาก พระเจ้าหลุยที่ 16 พยายามจะทำการปฏิรูปในหลายๆด้าน เช่นนำมันฝรั่งเข้ามาเพาะปลูกเพื่อรับประทานแทนมันฝรั่ง และนอกจากนั้นยังทำการปฏิรูปกฏหมายที่ไม่เป็นธรรมอีกหลายบท เครื่องกิโยติน ซึ่งประดิษฐ์ขึ้นเพื่อลดความเจ็บปวดของนักโทษที่ถูกประหาร ก็ได้รับความคิดเห็นจากพระเจ้าหลุยซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านเครื่องกลไก และวิศวกรรม ในด้านการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของใบมีดให้ทำเป็นรูปเฉียงเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการตัดคอนักโทษ  

หากมีความผิดพลาดประการใดผู้เขียนยินดีรับคำติชม
โดยสามารถติดต่อผู้อ่าน และติดตามเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยทางประวัติศาตร์ที่ผู้เขียนนำเสนอได้ตามลิงก์นี้
https://www.facebook.com/Enlightth