Hestia
ดู Blog ทั้งหมด

13 Year Old Sorcerer ตอนพิเศษ: มหาจอมเวทเอเลเมนทอลกับเจ้าชายชุดดำผู้แสนโดดเดี่ยว[1]

เขียนโดย Hestia

                มหาจอมเวทเอเลเมนทอลกับเจ้าชายชุดดำผู้แสนโดดเดี่ยว[1]

หมอกหนาโรยตัวบางๆมีคฤหาสน์หลังหนึ่งซ่อนตัวอยู่เป็นคฤหาสน์สีดำโดดเด่นถูกตกแต่งด้วยดอกกุหลาบสีแดงที่บานสะพรั่งตัดกันดั่งความมืดและโลหิต ถนนหินอ่อนอย่างดีเชื่อมคฤหาสน์กับถนนสีเทาสายหลัก มองขึ้นไปบนหลังคาสูงมีร่างสีดำหนึ่งยืนเงยหน้ามองท้องฟ้าอย่างโดดเดี่ยว แม้จะเป็นสีดำแต่กลับเด่นอยู่ในความมืดอย่างน่าประหลาด ลงตัวกับคฤหาสน์หลังนี้อย่างไร้ที่ติ

[Twinkle twinkle little star~how I wander what you are….]เสียงใสๆดังมาตามสายลมจากคฤหาสน์หลังนั้นร้องออกมาเป็นเพลงดาวประกายไพเราะอย่างที่ติ.....

ตึก! ตึก! ตึก!


               
ร่างของเด็กหนุ่มเจ้าของเรือนผมสีม่วงตัดสั้นตามแบบเด็กผู้ชายและดวงตาสีเดียวกัน ใบหน้านั้นมองแล้วหวานดูน่ารักเฉกเช่นสตรี ทำให้มองเผินๆดูเหมือนเด็กผู้หญิงรับกับผิวขาวนวล เขาสวมเสื้อไหมพรมแขยาวสีดำทั้งตัวและกางเกงยีนส์สีบลอนซ์ดูทะมัดทะแมง มีสร้อยคอรูปกุญแจสวมเอาไว้ กับโซ่เส้นเล็กๆคล้องกางเกง ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มร่าเริงและสดใสบอกนิสัยได้มากกว่าครึ่ง เด็กหนุ่มเดินตามท้องถนนหินอ่อนก่อนจะหยุดฝีเท้าลงหน้าคฤหาสน์


               
“เจ้านายคะ”


               
“อือ”


               
เอลหันไปมองภูตน้อยๆผมสีดำมีดาบซามูไรเล่มเล็กๆเหน็บเอาไว้ตามเสียงเรียก ทามาเอะเงยหน้ามองผู้เป็นนายแล้วพูดต่อจากประโยคเมื่อครู่ “ข้ารู้สึกถึงจิตใครบางแถวนี้”

ฟิ้ววววววววว!!!


               
หมับ!


               
ตัวหมากรุกคิงสีดำลอยมายังดีที่เอวคว้าไว้ได้ไม่งั้นมันคงได้ประทับอยู่ที่หน้าของเขาเป็นแน่ ตัวหมากรุกคิงสีดำหัวเป็นมงกุฎมีไม้กางเขนเล็กๆยื่นออกมา ท่าทางแหลมซะด้วยสิลองนึกว่ามันจะไปปักอยู่ที่อยู่หน้าเอา ท่าทางจะน่ากลัวแฮะ


               
“เหวอ....ขอโทษนะฮะ”


               
“หา
!


               
เสียงใสๆเหมือนเด็กดังขึ้นก่อนจะเจ้าของเสียงจะวิ่งเข้ามา สร้างความประหลาดให้เด็กหนุ่มผมสีม่วงและภูตนักรบตัวน้อย “เอ่อ....ตัวหมากเมื่อกี้ผมเป็นคนปาเองอ่ะ”


               
ร่างของเด็กหนุ่มน่าจะวัยไล่ๆกัน เรือนผมสีดำเป็นเงาสะท้อนแสงวูบวาบตัดซอยระต้นคอตัดกับผิวขาวซีดอาจจะยิ่งกว่าคนตายเสียด้วยซ้ำไป นัยน์คู่โตประดับแพขนตายาวเป็นสีเขียวประหลาดเด่นออกมาจากทุกๆสัดส่วนบนใบหน้า เครื่องหน้าค่อนไปทางจิ้มลิ้มโชตะค่อนน่ารักน่าเอ็นดู ในผิวขาวสว่างเหมือนหิมะนั้นมันตัดกับริมฝีปากสีแดงจัดจนเหมือนเลือดราวเชื้อเชิญให้จุมพิตลงไป เด็กหนุ่มสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีแดงคอปกแหลมขลิบเป็นไม้กางเขนสีดำ ผูกริบบิ้นสีดำเอาไว้หลวมๆที่คอปกแล้วติดทับตรงกลางด้วยอัญมณีสีแดงทรงรีตั้งกริบสีเงินมีไม้กางเขนกลับหัวสีดำฝังอยู่ในนั้น กางเกงขายาวและรองเท้าก็เป็นสีดำดั่งความมืดมิด....ราวกับเป็นเจ้าชายชุดดำก็ไม่ปาน


               
“แล้วนายเป็นใคร
?(ฮ่ะๆ ฉันไม่ถือหรอกเฟ้ย วัยเดียวกัน!!)”เอลมองเด็กหนุ่มตรงหน้าแล้วฉีกยิ้มให้ ถามด้วยน้ำเสียงฟังดูเป็นมิตรอย่างน่าประหลาด เด็กหนุ่มผมสีดำเอียงคอมองหนุ่มน้อยหน้าหวานตาบ๊องแบ้วเป็นลูกแมวน้อย “....ถามชื่องั้นหรอ?


               
“อืม นั่นสิ เวลาถามชื่อคนอื่นต้องบอกชื่อตัวเองใช่มะ?(เจอตัวเดียวกัน ฉันหน้าหวาน แกมันหน้าโชตะนี่หว่า)


               
เด็กหนุ่มผมสีดำยังคงมองด้วยดวงตาแป๋วๆ แล้วส่งยิ้มหวานถามบางๆ “......ถ้างั้นเอาชื่อไหนของผมดีล่ะ
?” ทำหยั่งกะตัวเองมีมากกว่าหนึ่งชื่องั้นล่ะ....


               
“ชื่อเล่น ชื่อจริง ฉายา ตอบมาก่อนสิ”


               
“ระวังนะคะเจ้านาย ข้ารู้สึกถึงพลังมือที่แผ่ออกมาจากคนๆนี้
!


               
ทามาเอะทำท่าจะชักดาบคาตานะจิ๋วออกมาจากฝัก แต่เอลยกมือห้ามเอาไว้แล้วเบนสายตากลับไปมองเด็กหนุ่มชุดดำ “ราเวน....ราเวน สติกซ์ ซาโวน คือชื่อของผม....
[ในตอนนี้]


               
“หลายชื่อจังแหะ เอาสักอย่างสิฟะ (กระตุกรอยยิ้มบนหน้าหวาน) งั้น ฉัน กาบรีเอล ทอเรียส มาจากคำว่ากาเบรียว ชื่อเล่น เอล อายุ13 ฉายา มหาจอมเวทเอเลเมนทอล ดูไว้นะ (อย่าหาว่าตูหน้าตุ๊ดเหมือนผู้หญิงนะเฟ้ย)”เอลแนะนำตัว(อย่างยาว) ราเวนน้อยๆกระพิบตามองเด็กหนุ่มผมสีม่วงปริบๆ ก่อนจะแนะนำตัวใหม่อีกครั้งให้ความยาวมันใกล้ๆกัน


         
“อ่า ผมชื่อ ราเวน สติกซ์ ซาโวน ชื่อเล่น
....มันเยอะไป ส่วนฉายา......Midnight Lord ครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”


         
“พวกสังกัดธาตุมืดสินะ ฉันมันเล่นสายธรรมชาติทุกสาย”

      
             
ปังงงงงงงงง
!!!!


 
              ลูกปืนยิงจากบนหลังคาเฉียดระหว่างสายตาเอลกับราเวน ภูตน้อยเงยหน้ามองบนหลังคาสัมผัสจิตได้ว่าต้นเหตุคงมาจากบนนั้นอย่างแน่นอน


               
เด็กหนุ่มคนหนึ่งนั่งชันเข่ายิ้มอยู่บนหลังคา เส้นผมสีส้มแปร๊ดชี้ตั้งเด่กับต่างหูที่เฉาะใส่ไว้เต็มไปหมด ชุดที่ออกแนวพังค์ๆ เอาควงปืนเล่นไปมา ที่ปากกระบอกปืนยังมีควันสีเทาลอยอยู่เลย


               
“ตามมาถึงนี่เลยหรอเนี่ย....”ราเวนน้อยเงยหน้ามองแล้วเปรยขึ้นเบาๆ ก่อนจะหยิบตัวหมากรุกออกมา พร้อมกับมีดสั้นในกระเป๋ากางเกง “หมอนั่นมันใคร!?” “จิตชั่วร้ายจริงๆ ไม่ธรรมดาแล้ว”ไม้เท้าของเอลชูขึ้นมาบ่งบอกดีกรีลักษณ์การต่อสู้


               
.......คราวนี้ฉันจะจัดการเเกเอง Midnight Lord หึหึหึ~


         
เด็กหนุ่มผมสีส้มกระโดดลงมาแย้มรอยยิ้มโรคจิต ปืนนั้นยกขึ้นจ่อหน้าราเวนน้อยที่มองอย่างนิ่งๆ “เพื่อนนายเองหรอราเวน? โผล่มาซะตกใจ (ว่าแต่คนที่นี่ทำไมมันพิลึกจังแหะ)ว่าแต่พวกนายเล่นอะไรกัน?”เอลผู้ยังไม่เข้าใจถึงสถาการณ์ถาม และนั่นเป็นเหตุทำให้นัยน์ตาคู่วาวสีน้ำตาลเข้มเรียวคมนั้นตวัดมามอง “เพื่อนเรอะ? พูดอะไรน่าคลื่นไส้ไอ้หน้าหวาน”


         
“เพื่อนเรอะ
- -พูดอะไรน่าคลื่นไส้ ไอ้หน้าหวาน”


         
“เฮอ.. ชั้นโดนทักมาตั้งแต่ปีมะโว้แล้วเฟ้ย กะอีแค่หน้าหวาน (ว่าแล้วก็แสยะยิ้ม) แต่หวานแล้วเหี้ยมได้นะเฟ้ย”


         
“ฉันไม่มีธุระกับเเก
......ฉันมีธุระกับไอ้ชุดดำข้างๆเเกต่างหาก- -


         
เด็กหนุ่มผมสีส้มประดุจว่าบนหัวเขานั้นปลูกต้นส้มเอาไว้เพยิดหน้าไปทางเด็กหนุ่มชุดดำโกธิคอย่างไม่สบอารมณ์นัก ราเวนที่น่ารักสบตากับคนหัวส้ม อย่างนิ่งๆไม่มีเสียงตอบรับออกมาจากริมฝีปากสีแดงที่แนบสนิทของเด็กหนุ่ม

      
         
“เอางั้นก็เชิญท่านสุภาพบุรุษ ตามสบาย ผมไม่เกี่ยวละกัน”เอลหลีกทาง ทำท่าเชิญปัดมือใส่ราเวน มีทามาเอะน้อยยิ้มแห้งๆอยู่ข้างหลัง ฉับพลันคนหัวส้มก็ควักปืนออกมาจ่อเข้าที่ศรีษะเจ้าชายชุดดำแล้วเหนี่ยวไกอย่างไม่มีคำว่าเมตตา


               
ปังงงงงงง
!!!!


               
ต่อหน้าต่อตาเอล


               
“เฮ้ย เจ้าโชตะตายรึยัง
! ทำไมแกทำแบบนี้!”เอลหันไปทำหน้าเหี้ยมเกรียมใส่ ท่าทางจะช็อกไม่น้อยแล้วเขย่าตัวราเวนแรงๆเหมือนบาเทนเดอร์เขย่าค็อกเทล อะไร๊อะไรของมันวะ ไหนจะว่าจะคุยกันนี่มันจะฆ่ากันเลยนี่หว่า!! ....หารู้ไม่ว่าไอ้ที่เขย่าอยู่นั่นมันกลายสภาพเป็นท่อนไม้ไปตั้งแต่ไม่ไหร่ก็ไม่ทราบเหมือนกับว่าเป็นกลหลอกของเจ้าชายชุดดำ


               
“เขย่าแบบบนั้น.....น่ากลัวจังนะ”


               
เสียงใสจากริมฝีปากกลีบแดงของราเวนน้อยที่ยืนอยู่ข้างหลังเอล พร้อมก้มใบหน้าจิ้มลิ้มมองอย่างนิ่งๆด้วยนัยน์ตาคู่ปิดปรือสีเขียวประหลาดนั่น ราวกับเขาชินกับการถูกลอบโจมตีและอ่านเกมได้ตั้งแต่แรก แต่คนผมสีม่วงที่ยังไม่รู้ตัวยังคงเขย่าขอนไม้ต่อไป “
แบบนี้ต้องเล่นยาผีบอก ฉบับวิถีตูข้าทำเองว่าแล้วเสด็จพี่ผมสีม่วงก็หยิบเอาหัวยารูปหัวกะโหลก กลิ่นช่างเหม็นแทบจะฆ่าตกรรมช้างได้ทั้งโขลงขึ้นมา จับกรอกใส่ขอนไม้..... น้ำสีเขียวราวกับคลองแสนแสบ น่ากลัวจริงๆ


               
“ฮ่าๆ คนตายจะฟื้นภายใน 2 วินาที”


               
“คิกๆๆ.....”ราเวนที่ยืนอยู่ข้างหลังเบนหน้าหนีกับอาการเหมือนพระเจ้าปกครองโลกแบบตลกๆของเอล พร้มอส่งเสียงหัวเราะเบาๆที่เจ้าตัวยังไม่รู้ตัว เอลหันมามองศพเพื่อนที่จับกรอกพึงระลึกได้บัดเดี๋ยวนั้นว่า


               
อ้าว....นี้มันขอนไม้นี่หว่า


         
“อะ
..เอ่อ เจ้านาย ยาแบบนั้นมีด้วยหรอคะ นั่นมันยาที่เจ้านายผสมมั่วๆ จากน้ำในกระเพาะตัวบีเจิร์นีล กับดอกลาเวนเดอร์นี่”


         
“ฉันไม่ว่างมาเล่นด้วยแล้วโว้ย
!!!

   
        
ปัง!! ปัง!! ปัง!!

      
         
ตะโกนด้วยความโกรธาเสร็จคนหัวส้มก็กระหน่ำปืนยิงมาที่เจ้าชายชุดดำที่มองหน้าเอ๋อๆ ก่อนจะชักดาบง้าวสีดำเป็นเงาสะท้อนแสงสลักลวดลายแปลกๆและใหญ่เท่าบ้านออกมาจากไหนไม่ทราบปัดป้องกระสุนออกจนหมดด้วยลีลาเยี่ยงยามาโมโตะ ทาเคชิในรีบอร์น และนั่นทำให้เอลเพิ่มสังเกตเห็นคนที่อยู่ข้างหลังอย่างสะดุ้งต๊กกะใจ


         
“ฮะ
...เฮ้ย! นายเป็นผีหรอ! อย่ามาหลอกหลอนกันเลย! ตายแล้วไปที่ชอบๆ เถิด” 


         
หมับ
!!!


         
เด็กหนุ่มชุดดำไม่ได้ฟังคำพูด มือเล็กขาวซีดฉุดมือเอลวิ่งหนีกระสุนปืนที่กระหน่ำยิงมาก่อนจะยัดเอลเข้าไปหลบที่ซอกของคฤหาสน์ด้วยกันเมื่อแน่ใจว่าพ้นแล้ว ราเวนทรุดนั่งลงบนพื้นเอนหลังพิงกำแพงแล้วเงยใบหน้ามองฟ้า “พ้นแล้วล่ะมั้ง....”หนุ่มน้อยถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะหันไปสนใจเด็กหนุ่มผมสีม่วง


         
“พูดอะไรมั่งสิราเวน
! พวกมันเป็นใคร แล้วนี่มันอะไรกัน”

     
          
“เขามาเพื่อฆ่าผม
....อ่ะนะ”


         
“นายไปสร้างวีรกรรมอะไรไว้อีกละ
- - อ๋อ ทวงดอกเบี้ยเงินกู้ใช่ไหม ไม่เป็นไรบ้านฉันมีให้นายยืมก่อนไม่คิดดอก”

          “ไม่ใช่คร้าบ....อย่าไปใส่ใจเลย”


         
ราเวนน้อยๆส่ายหน้าแล้วโบกมือปฎิเสธ “ช่างเถอะ จะเล่นอะไรกันฉันไม่สนหรอก ว่าแต่นายรู้จักทางไป เมืองคอเลจไหม พอดีฉันเดินมาแล้วหลง….ว่าแต่ที่นี่คือ?”เอลหันสายตากวาดมองรอบๆ สถานที่มีแต่สีดำอันมืดมิด ต้นไม้และทุกอย่างล้วนมีเพียงสีดำและแดงประดับเหมือนหลุดเข้ามาในคฤหาสน์ตระกูลผีๆในการ์ตูนยุโรป ดอกกุหลาบสีแดงเบ่งบานสะพรั่งล้อมรอบคฤหาสน์ตัดกับหมอกหนาโรยตัวรอบด้านอย่างลงตัวไร้ที่ติ “ คอเลจคือที่ไหนหรอ^^a....เป็นอะไรกับคอเกต= =a(นั่นมันยาสีฟัน)”ราเวนที่น่ารักถามเอลหน้าอิอั๊งน่ากดเป็นที่สุด ก่อนจะสะดุ้งเป็นลูกแมวตื่นๆเมื่อเด็กหนุ่มผมสีม่วงตวัดตามอง


         
“ก็ฉันเดินๆมาในหมอกจู่ๆก็มาโผล่ที่นี่ ไม่ใช่เวลามาเล่นมุขนะ ฉันจากลาบ
~บ้านน~!


         
“ที่นี่รู้สึกจะเป็น
.....คฤหาสน์ 3 บ้านใหญ่ของซาโวนละมั้ง” 


         
“ชุมชนคฤหาสน์แถบเมืองไหนอีกล่ะเนี่ย?


         
ราเวนมองเอลหน้าตาบ๊องแบ้วเป็นลูกแมวน้อยก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ เขาต้องเป็นคนถามไม่ใช่หรอว่าหมอนี่มาจากไหนน่ะ.....?


         
“คือข้ากับเจ้านายจะต้องกลับคฤหาสน์ทอเรียสอ่ะค่ะ”


         
เด็กหนุ่มชุดดำมองทามาเอะตาแป๋วแล้วก็พยักศรีษะเล็กเบาๆ “เอางี้...เข้าไปข้างในก่อนแล้วกันนะ ผมคงพอช่วยได้”....ถ้าใช้ ไอ้นั่นคงก็ช่วยได้นั่นแหละน่า


         
“จริงหรอ
!!”เอลตาตาระริกทำให้ราเวนน้อยๆพยักหน้าเบาๆอีกครั้ง มือเรียวขาวจนไม่มีสีเนื้อนั้นผลักบานประตูขนาดใหญ่เป็นไม้สลักเคลือบเงาสีดำออกทำให้ประตูคฤหาสน์เปิดออก กลิ่นดอกกุหลาบฟุ้มกระจายเข้ามาแตะจมูกชวนให้รู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูกเหมือนหลุดเข้ามาในป่าแห่งดอกไม้ 


         
“อื้ม เข้ามาสิ
.... ที่นี่ไม่ใช่[ปราสาทหลัก]สิ่งมีชีวิตอยู่ก็สามารถเข้าได้”


         
???


         
ราเวนกล่าวเบาๆเดินเข้าไปที่ประตูซึ่งมีกลิ่นของดอกกุหลาบตลบอบอวล ทิ้งเอลกับทามาเอะจังที่มีสีหน้างงๆเอาไว้ข้างหลัง ทั้งคู่เงยหน้ามองป้ายที่มีตัวอักษรสีแดงจารึกเอาไว้อย่างประณีตหน้าคฤหาสน์ เป็นตัวอักษรที่เหมือนสลักด้วยมือช่างเทวดาแล้ว....ใช้เลือดละเลงให้เป็นสีแดง


         
[Bara No Hana Mansion of Sawon I Dynasty]


         
.....[คฤหาสน์รอง]ลำดับที่หนึ่งแห่งราชวงศ์ซาโวน....


         
“คฤหาสน์ซาโวนงั้นหรอ?” “อะ..เอ่อเจ้านาย ข้าว่ากลิ่นมันแปลกๆนะ =[]=


         
ภายในนั้นประดับเป็นซุ้มโค้งเรียงกันชั้นๆใหญ่ดูเหมือนเป็นวิหารในศาสนาคริสต์แต่เป็น[สีดำ ขาวและแดง]ทำให้เหมือนเป็นมหาวิหารเวอร์ชั่นมืด ที่ปราสาทนั้นมีช่องเปิดมากและมีภาพเขียนปราณีตสีแดงเหมือนใช้เลือดวาดบนฝาผนังค่อนข้างน้อยตามหลักการเบื้องต้นของศิลปะโกธิค บานกระจกหน้าต่างใช้กระจกสีแดงและขาวล้วนออกแบบอย่างสวยงามขอบหน้าต่างเป็นซุ้มใหญ่ให้อารมณ์พลิ้วและอ่อนช้อยยิ่ง เหมือนหลุดกลับไปในยุควิกตอเรี่ยนโบราณของอังกฤษ มีบันไดเลียบเด่นตรงกลางห้องปูพรมผ้ากำหยี่ชั้นดีหรูหรา ผ้าม่านเนื้อดีสีดำติดห้อยลงมาหลายผืนติดขลิบลายลูกไม้เป็นดอกกุหลาบสีแดง 


         
พื้นปูเป็นกระเบื้องต่างสีซ้อนกันเป็นวงๆตรงกลางเป็นดอกกุหลาบสีแดงมีไม้กางเขนสีดำกลับหัวขนาดใหญ่ทับอยู่ดูแปลกตา ฝังอัญมณีสีแดงก่ำเหมือนเลือดเล็กๆเอาไว้แวววาวเหมือนโรยเกล็ดเพชรลงไปบนพื้นอันมันวับ ดอกกุหลาบเลื้อยไปทั่วทุกที่ในห้องโถง ตั้งแต่หุ่นเกราะอัศวินขลังๆไปยังบันไดสูงและเลื้อยต่อขึ้นไปข้างบน ราวกับเป็นปราสาทต้นหนามของเจ้าหญิงนิทรา โคมไฟระย๊าใหญ่ประดับด้วยคริสตัลสีดำทำเป็นรูปกกุหลาบเด่นอยู่บนเพดานที่ถูกวาดเป็นรูปป่าดอกกุหลาบสีแดงสด นาฬิกาเลขโรมันหน้าปัดสีดำเรือนหนึ่งลอยคว้างอยู่ในอากาศด้านล่างโคมไฟระย๊า ตีบอกเวลาไม่หยุดนิ่ง เสาแบบโรมันหลายต้นทาสีดำเอาไว้ยึดพื้นถูกสลักให้มีลายของดอกกุหลาบ กับเชิงเทียนมากมายที่มีเปลวไฟสีดำที่ลุกร่ายรำวางเอาไว้รอบๆเป็นทางยาวเหมือนเชื้อเชิญให้ขึ้นไปบนบันไดเรื่อยๆ 


         
ทั้งๆที่เป็นแค่คฤหาสน์รอง....แต่กลับถึงขนาดนี้


          
 “....ภาพสวยจังนะ จะอะไรก็เหอะ หวังว่าคงไม่มี
[ลาเวนเดอร์]หรอกนะ ฉันแพ้มัน”เด็กหนุ่มผมสีม่วงบ่นอุบอิบขณะเดินตามเด็กหนุ่มชุดดำเข้าในคฤหาสน์ที่มีกลิ่นกุหลาบตลบอบอวลจนชักมากเกินไป...


         
“มีเเต่กุหลาบน่ะค่ะ
.....


         
เสียงหวานใสเล็กๆตอบกลับคำพูดของเอล เด็กหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอกแต่เมื่อหันสายตาไปข้างๆนัยน์ตาถึงกับเบิกพล่าน แม้กระทั่งภูตตัวจิ๋วข้างๆเมื่อพบว่า.....


+ +ข้าน้อยจะมาต่อ....ทีหลัง(ถ้ามันเสร็จนะ)

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น