Iyikawee
ดู Blog ทั้งหมด

“ตกเขียว” ธุรกิจรุ่งบนหยาดน้ำตา ที่ทุกคนอาจจะลืมไปแล้วว่าสังคมในอดีตมีแบบนี้

เขียนโดย Iyikawee
              “ตกเขียว” ธุรกิจรุ่งบนหยาดน้ำตา ที่ทุกคนอาจจะลืมไปแล้วว่าสังคมในอดีตมีแบบนี้

         ตกเขียว คำนี้เดิมทีคือการขายข้าวเขียว หมายถึงขายข้าวที่ยังไม่ได้เวลาเก็บเกี่ยว และในยุคหนึ่งเมื่อประมาณร่วมสี่สิบปีผ่านมา   ตกเขียว ถูกใช้เรียกการซื้อเด็กหญิงจากบิดามารดาเพื่อไปขายตัวใน ซ่อง  "บ่เหลือไผซ้ากคน ตายเป๋นเบือ ตายโม้ดแล้วลูก...น้องจำได้ก่อ ปี้จั๋นคนงาม ๆ นั่นน่ะ รายแรกเลยหนาตี้ล่องใต้มาหาเงิน นั่นก็ต๋ายไปเป๋นสิบปีล่ะ ตายย้อนเอดส์นั่นก่ะ...ปี้บัวตองลูกลุงจายก็ต๋าย แต่คนนี้แขวนคอตาย หาเงินได้เต๊าใดป้อแม่ก็ผลาญหมดบ่เหลืออ่ออ๊อย...เป๋นดีเอ็นดูขนาด"  เคยคิดไหมว่าถ้าวันหนึ่งสังคมไทยยังมีการทำธุรกิจที่เกิดจากครอบครัวแบบนี้อยู่จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง? แต่ว่าถ้าในทัศนคติของข้าพเจ้าแล้วนั้น ไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องให้มีเรื่องเช่นนี้ขึ้นกับสังคมไทย หากว่าท่านเป็นบุตรสาวที่มีพ่อแม่แบบนี้ท่านจะรู้สึกอย่างไรที่ต้องไปคอยตอบแทนพระคุณพ่อแม่แบบนี้ ความสาว ความสวยที่เก็บรักษาไว้มาทั้งชีวิตนั้นต้องมามอบให้ผู้ชายแปลกหน้า ที่เป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้


           ข้าพเจ้าเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้หญิงอย่างเราๆนั้นต้องหวังเป็นธรรมดาที่จะได้แต่งงานกับคนดีๆ คนที่พร้อมจะเคียงข้างเราไปตลอด แต่ว่านั้นเมื่อพ่อแม่ต้องขายเรา ความฝันนั้นต้องสลายจากที่ฝันว่าจะแต่งงานและกินอยู่กับคนรักไปตลอด ก็กลับกลายมาเป็นต้องมอบกาย ถวายชีวิตให้กับคนมากมาย แต่ในขณะที่หญิงสาวเหล่านั้นได้แต่ร้องห่มร้องไห้ เจ็บปวดทรมานและย่อยยับ พ่อแม่กลับมีความสุขในการใช้เงินทองจากการขายบุตรสาวและเงินจากบุตรสาวเหล่านั้นส่งให้มีคำกล่าวหนึ่งหาเงินได้เต๊าใดป้อแม่ก็ผลาญหมดบ่เหลือก็หมายถึงบุตรสาวต้องทนทุกข์ทรมานกับคนมากหน้าหลายตาแต่พ่อแม่กลับใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย และไม่เคยจะพอ ก็คงจะตรงกับคำคมที่ว่า ความโลภไม่เข้าใครออกใครซึ่งก็เห็นชัดเลย ไม่เว้นแม้กระทั่งบุคคลใกล้ตัวที่เราคิดว่า เขาไว้ใจได้ที่สุด  แต่กลับทำร้าย 
             


ถ้าหากมองกลับไป จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรไหมหากไม่มี ..ตกเขียว..ตั้งแต่แรก?

   จะไม่มี ซ่อง มากมายอย่างทุกวันนี้
    ผู้หญิงอย่างเราๆก็จะมีคุณค่ามีราคามากกว่าค่าตัวที่พ่อแม่ขายไปหรือมีราคามากกว่าราคาที่อยู่ซ่องซะอีก และประเทศไทยคงจะไม่ขาดแคลนกำลังคนในการพัฒนาประเทศให้เจริญ  แต่ถ้าหากว่าไม่มี ตกเขียว ตั้งแต่แรกก็คงจะไม่มี ซ่อง มากมายอย่างทุกวันนี้  ดีแล้วหรอ? ที่ปล่อยให้ปัญหานี้ยังเป็นประเด็น และให้ประเทศอื่นๆต้องคอยประนามคอยตั้งแง่กับไทย แล้วไทยเคยคิดที่จะแก้ปัญหานี้ไหม? ก็จริงอยู่ที่ลูกทุกคนต้องตอบแทนบุญคุณบิดามารดาร ผู้มีพระคุณ ซึ่งเป็นคุณธรรมพื้นฐานของคนไทยอยู่แล้ว แต่ต้องไม่ใช่การที่ต้องเอาตัวไปชดใช้ แต่ที่น่าเจ็บปวดคือการที่เอาตัวชดใช้นั้น  บุตรสาวไม่ได้เต็มใจแต่เป็นการบังคับ ยิ่งเป็นการบังคับที่พ่อแม่นั้นยินดีเห็นด้วย และเต็มใจที่จะให้ลูกสาวทำแบบนี้
ปัจจุบันนี้คนไทยรับวัฒนธรรมจากต่างชาติเข้ามาจึงทำให้มีการมองเรื่องที่ผู้หญิงไปนอนกับคนที่ไม่ได้รัก ไม่ใช่คู่ครองไม่ใช่เรื่องแปลก มันจึงทำให้สังคมเปลี่ยนแปลงไป จากอดีตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการที่ไปนอนกับชายที่ไม่ใช่สามีตน ในสมัยก่อนมันเป็นเรื่องที่ผิด แต่ปัจจุบันกลับเป็นเรื่องปกติ แต่ในความปกตินั้นยังมีความไม่ปกติอยู่ด้วย


 


ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น