A Rai Naa >>>
ดู Blog ทั้งหมด

ยาเม็ดคุมกำเนิด

เขียนโดย A Rai Naa >>>

ยาเม็ดคุมกำเนิด

เป็น progestogen ที่ออกฤทธิ์ระยะยาว ชนิดของยา 2 ชนิด

  1. Depomedroxy progesterone acetate (DAPA) สังเคราะห์จาก progesterone ฮอร์โมน ออกฤทธิ์สูงสุดภายใน  7 วัน ฉีดทุก 3 เดือน (84 วัน)
  2. Norethisterone enanthate (Net-en) อยู่ในรูปของน้ำมัน เป็น Norethisterone ไม่มีฤทธิ์แบบ androgen ออกฤทธิ์สูงสุดภายใน 7 วัน ฉีดทุก 2 เดือน (56วัน) ฉีดต้นแขน การดูดซึมของยาจะเร็วกว่าฉีดที่สะโพก

กลไกการออกฤทธิ์

  1. ยับยั้งการตกไข่
  2. เปลี่ยนแปลงเยื่อบุโพรงมดลูก
  3. เปลี่ยนแปลงมูกที่ปากมดลูก
  4. ผลต่อท่อนำไข่ DMPA ทำให้ท่อนำไข่บีบตัว
  5. ผลต่อตัวอสุจิ การเดินทางของอสุจิ

การเลือกผู้รับบริการ

  1. อายุ < 50 ปี และมีบุตรมีชีวิตแล้วอย่างน้อย 1 คน
  2. ถ้าเคยมีเลือดออก ประจำเดือนไม่ปกติ พบแพทย์ก่อน

การเริ่มต้นฉีดยาคุมกำเนิด

  1. ภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือน
  2. หลังคลอดบุตรทันทีหรือภายใน 4-6 สัปดาห์
  3. หลังแท้งทันที หรือ ภายใน 2-3 สัปดาห์

วิธีฉีดยา

-         DMPA ฉีดเข้ากล้ามเนื้อสะโพก 150 mg. (3 cc.) ต้องระวังไม่ให้มีฟอง

-         Net-en ต้นแขน, สะโพก 200 mg. (1 cc.) ฉีดต้นแขน/สะโพก ไม่ควรคลึง ทำให้เกล็ดเล็กของยาแตก ปริมาณยาในกระแสเลือดจะลดลงอย่างรวดเร็ว

อาการข้างเคียง

1.      การเปลี่ยนแปลงของระดุ เลือดจะออกกะปริบกะปรอยในระยะแรก ระยะหลังจะขาดระดู

2.      การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักจะเพิ่มมากขึ้น

3.      ภาวะน้ำนมไหลผิดปกติ

4.      ปวดศีรษะ

5.      การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์

6.      การเปลี่ยนแปลงความรู้สึกทางเพศ

ข้อห้าม

1.      สตรีที่ยังไม่เคยมีบุตร

2.      เลือดออกผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ

3.      สงสัยหรือกำลังตั้งครรภ์

4.      มะเร็งเต้านม และปากมดลูก

5.      โรคเบาหวาน

ข้อดี

1.      ง่าย สะดวก

2.      ฉีดครั้งเดียวออกฤทธิ์นาน

3.      ไม่มีอาการข้างเคียง

4.      ไม่ทำให้ปริมาณน้ำนมลดลง

5.      ป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูง

6.      ไม่ขัดขวางการร่วมเพศ

ข้อเสีย

  1. ระดูผิดปกติ
  2. ปวดศีรษะ น้ำหนักตัวเพิ่ม
  3. หลังหยุดยา ตั้งครรภ์ช้า

ภาวะเจริญพันธุ์หลังหยุดยา 50% ใน 6 เดือนระดูมาปกติ 85% ใน 1 ปี

สรุป

  1. ยาฉีดเหมาะกับหญิงที่มีบุตรแล้ว ต้องการคุมกำเนิดระยะหนึ่ง ต้องการเลี้ยงบุตรด้วยนมตนเอง ไม่มีภาวะเลือดออกกะปริบกะปรอย
  2. ยาฉีดไม่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนและเป็นฝ้า
  3. หลังหยุดยาตั้งครรภ์ช้า

 

ยาฝังคุมกำเนิด

ชนิด

  1. ชนิดที่ต้องเอาออก (nonbiodegradable)

1.1  ยาฝังคุมกำเนิดชนิด 6 หลอด คุมได้นาน 5 ปี

1.2  ยาฝังคุมกำเนิดชนิด 2 หลอด คุมได้นาน 3 ปี

  1. ชนิดที่ไม่ต้องเอาออก (Biodegradable)

2.1  Capronor มีฤทธิ์ 18 เดือน

2.2  Norethindrone pellets มีฤทธิ์ 12 เดือน ปัจจุบันมี 6 หลอด บรรจุด้วย levonorgestrel 36 mg. หลังฝังคุมกำเนิดได้ภายใน 24 ชั่วโมง มีผลคุมกำเนิดนาน 5 ปี

กลไกการออกฤทธิ์

  1. มูกเหนียวข้น
  2. ทำให้เยื่อบุมดลูกไม่เจริญ
  3. ระงับการตกไข่ 50% ของรอบเดือน

ผู้รับบริการ

  1. มีบุตรมีชีวิตอย่างน้อย 1 คน
  2. ต้องการคุมกำเนิดระยะยาว
  3. ต้องการเว้นระยะการมีบุตรและกลับคืนสู่ภาวะปกติได้ทันที
  4. สตรีที่มีข้อห้ามต่อการใช้ estrogen
  5. สตรีที่กลัวการผ่าตัดทำหมัน และยังไม่พร้อมที่จะตัดสินใจทำหมัน

การเริ่มฝังยา

  1. ภายใน 1-5 วันแรกของการมีประจำเดือน
  2. 4-6 สัปดาห์หลังคลอด
  3. หลังแท้งทันที

วิธีฝัง : ฝังใต้ผิวหนัง (Subdermal) ตำแหน่งที่ฝัง ต้นแขน หลัง ต้นขา หัวเหน่า

อาการข้างเคียง

  1. ระดูมาไม่สม่ำเสมอ
  2. ปวดศีรษะ พบบ่อย
  3. สิว พบน้อย
  4. ภายหลังฝัง 2-3 วันแรกจะเจ็บแผล ไม่ให้แผลถูกน้ำ 1 วันแรก 1 สัปดาห์เอาพลาสเตอร์ออกหลีกเลี่ยงงานหนัก 3-7 วัน กลับมาตรวจ 1 เดือน 3 เดือน 6 เดือน ถอดออกได้ เมื่อต้องการมีบุตร

ข้อห้าม สงสัย/ตั้งครรภ์ ตับ ดีซ่าน มะเร็ง เบาหวาน sickle cell anemia เลือดออก หัวใจและระบบไหลเวียน

ข้อดี

-         ประสิทธิภาพสูง

-         ปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อน estrogen

-         ยาออกฤทธิ์ก่อนที่จะผ่านตับ

-         ระดับยาเป็นไปอย่างสม่ำเสมอถึง 5 ปี

ข้อเสีย

-         อาการข้างเคียงจนทำให้เลิกใช้

-         จำเป็นต้องให้แพทย์เป็นผู้ให้บริการ

ภาวะเจริญพันธุ์ทันทีหลังถอดออก ยาจะถูกขับออกจากร่างกายในระยะเวลาเพียง 96 ชั่วโมงหลังคลอด

สรุป

-         ยาฝังเหมาะกับหญิงที่ต้องการคุมกำเนิด 3-5 ปี พวกที่แพ้ Estrogen

-         ยาฝังคุมกำเนิด ได้หลังฝัง 24 ชม.

-         หลังถอดยาออก 96 ชม. ตั้งครรภ์ได้ทันที

-         ระดับฮอร์โมนสม่ำเสมอตลอด 5 ปี

 

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น