ตอนที่ 3 : บทที่ 3 : เรือนหอ [100%]
บทที่ 3
เรือนหอ
กว่าฮิโนกิจะกลับมาถึงบ้าน...ทุกอย่างก็เงียบฉี่เหมือนป่าช้า
นางค่อยๆ ย่องเท้าผ่านเรือนใหญ่ ตั้งใจตรงไปยังโรงอาบน้ำส่วนตัว หุบปากฉับไม่ยอมส่งเสียงสักแอะ บ่าวยามสองคนเห็นเข้าเตรียมทักทายเจ้านาย แต่ท่านฮิโนกิถลึงตาใส่เป็นเชิงสั่งให้เงียบ เงียบ! เดี๋ยวพ่อรู้ว่าหนีเที่ยว!
แต่ไม่ทันว่ะ
“ฮิโนกิ!”
หญิงสาวสะดุ้งโหยง ขาเปลี้ยกะทันหันจนต้องเกาะเสาเรือน กว่าจะรู้สึกตัวร่างกายก็ถูกบางสิ่งชนโครมเต็มรัก กลิ้งหลุนๆ ไปตามพื้นราวลูกขนุนตกจากต้น
“เจ้าไปไหนมามิทราบ!”
เจ้าของคำถามอันดุดันยันอุ้งเท้าใหญ่โตที่หน้าขาเพรียวบาง กระทืบป้าบทีหนึ่งแล้วสะบัดหางใส่อย่างองอาจ ขู่คำรามกรรโชกแผ่ศักดา ทิ้งกายลงทับฮิโนกิแบบไม่เกรงใจว่าไส้นางอาจแตกเอาได้
ไรอง พญาเสือโคร่งขาวผู้ถือศักดิ์เป็นผู้คุมพฤติกรรมของมนุษย์ตัวจ้อย กวาดนัยน์ตาวาวโรจน์จดจ้องใบหน้าแดงระเรื่อ กรงเล็บทรงพลังเขี่ยๆ แก้มนุ่มนิ่ม คราบเขม่าควันติดซอกเล็บมา พยัคฆ์หนุ่มส่ายหัวคล้ายระอา กระทืบสั่งสอนอีกรอบ
“ไยยังมอมแมมอยู่อีก นี่กลางคืนแล้วนะนังหนู ดูซิหน้าดำน่าเกลียดเชียว ไปล้าง!”
“ไส้ข้าจะแตกตายแล้วนะท่านไรอง!”
ฮิโนกิพยายามดิ้นหนี หายใจไม่ออกเพราะไอ้เสือจองหองกำลังนั่งทับนางอยู่ ไอ้เสืออ้วน ดึกขนาดนี้ยังแหกตาตื่นมาจับผิดนางอีก ตกลงนางหรือท่านพ่อที่เป็นเจ้านาย! นางเลี้ยงไรองมากับมือนะ ไม่ใช่ท่านพ่อสักหน่อย!
“ท่านซาโต้วานให้ข้ารอเจ้ากลับเรือน ไปซนที่ไหนมาฮึ โอ๊ะ...ข้าได้กลิ่น...”
เสือขาวก้มไล้จมูกตามเนื้อตัว ดมฟุดฟิดๆ ไล่ไปมั่วจนมาหยุดอยู่ที่ข้อมือ
“ข้าได้กลิ่นมนุษย์ผู้ชาย!”
นี่จมูกเสือหรือจมูกหมา
ฮิโนกิหน้าร้อนวาบ แดงก่ำด้วยความอับอาย สายตาของเจ้าเสือมองมาอย่างเชือดเฉือน ทำนองบีบเค้นว่านางไปทำสิ่งใดมา ทำไมถึงมีกลิ่นกายของบุรุษติดอยู่ด้วย!
เสือจิตอกุศล!
“ข้าทำภารกิจมา เบียดเสียดชาวเมืองไปทั่ว ไม่มีกลิ่นติดสิแปลก”
แก้ต่างอ้อมแอ้ม แทบจะร้องตายวายๆ เมื่อไรองทิ้งน้ำหนักลงทาบทับ กระทุ้งอุ้งเท้าใหญ่โตกลั่นแกล้ง
“เจ้าเด็กขี้จุ๊! กลิ่นนี้มันกลิ่นท่านโทบิรามะชัดๆ!”
เด็กน้อยที่เพิ่งโดนผู้ใหญ่ใจเหี้ยมเช่นท่านโฮคาเงะไล่ต้อนมาหมาดๆ ถึงกับใบ้กิน สองแก้มยุ้ยน่าหยิกขึ้นสีแดงแปร๊ด ต่อให้มีคราบดำปี๋เปื้อนอยู่ก็เก็บไม่มิด ไรองเห็นแล้วจึงแค่นเสียงหึ หยัดกายลุกขึ้นอย่างสง่างามพร้อมสะบัดหางใส่งอนๆ
“ดีเหลือเกินนะมนุษย์ ทิ้งข้าไว้ห้องเพียงลำพังแล้วออกไปเริงร่ากับท่านโทบิรามะ ใช่ซี้ เสืออย่างข้ามันดีแค่กินเก่งแล้วก็เฝ้าบ้าน ไม่น่ารักน่าใคร่เหมือนมนุษย์ด้วยกันงั้นสิ ดี! ดี! เจ้าห้ามเข้าห้อง ข้าจอง!”
“เฮ้ยๆ นั่นมันห้องข้านะ ท่านอย่ามายึด!”
ฮิโนกิลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิ ดึงขาหลังแข็งแกร่งไว้แทบไม่ทัน พยัคฆ์หนุ่มยังเมินมีแง่งอน แกล้งฟาดหางใส่ศีรษะทุยสวยซ้ำๆ ซากๆ จนร่างบอบบางหน้ายับด้วยความเจ็บ
“ข้าทำงานต่างหาก เริงร่าที่ไหนกัน เขาจะกินหัวข้าตายอยู่แล้ว”
“โกหกบาป”
“ชูสามนิ้ว”
“มนุษย์เช่นเจ้ามันปลิ้นปล้อน ลิ้นพลิกได้ทุกเมื่อ”
คนฟังถึงกับตาพอง เตะก้นแน่นๆ ของไอ้เสือปากเสียไปป้าบหนึ่ง
“ดูถูกกันนักนะท่านไรอง มื้อเช้าอดซะดีมั้ยเจ้าคะ”
“มนุษย์ เจ้ามันแล้งน้ำใจ”
ไรองแยกเขี้ยวขู่แฮ่ แต่นาทีต่อมาตากลับวาววูบเมื่อฮิโนกิยื่นขนมนามากาชิให้ ขนมหวานสอดไส้ถั่วแดงประจำประเพณีน้ำชา มีจุดเด่นอยู่ที่รูปทรงประณีตสวยงาม นิยมทำเป็นรูปดอกไม้หรือใบไม้เพื่อแสดงให้เห็นถึงธรรมชาติที่หลากหลาย ไม่รอช้า...เสือกินจุงับก้อนขนมเข้าปากทันที
“ฉลาดนี่นังหนู ซื้อข้าด้วยขนม”
“จ้า เช่นนั้นพาข้าไปโรงเรือนที เงียบๆ นะ...เดี๋ยวท่านพ่อท่านแม่ตื่น”
พญาพยัคฆ์ขาวผู้ไม่เคยก้มหัวให้ใครยกเว้นขนมเดินนำทาง โบกสะบัดหางเรียวยาวเป็นเอกลักษณ์ ดันประตูเปิดโรงเรือนอาบน้ำส่วนตัวสำหรับท่านฮิโนกิ ไอขาวขุ่นลอยอ้อยอิ่งราวม่านหมอกลับแล หยาดน้ำพร่างพราวรอยสักรูปหยินหยาง มังกรคือหยิน เสือโคร่งคือหยาง พวกมันอยู่ร่วมกันและเรืองอำนาจด้วยพลังแห่งความสมดุล
ไรองนั่งสง่าผ่าเผยบนตั่งไม้ จ้องรอยสักรูปเสือกับมังกรที่กลางหลังของเจ้านายเนิ่นนาน นางงามไร้ที่ติ น่าเสียใจที่สติสตังกับหลักการคิดไม่งามเหมือนหนังหน้าเอาเสียเลย ฮิโนกิแปลกแยกไปจากสตรีด้วยกัน เรียกได้ว่าอะไรเลวๆ นางทำหมด สตรีนิสัยระห่ำจนน่ากลัวเช่นนางใครบ้างจะอยากคบหา แต่ก็นั่นแหละ อย่างไรเสียบนโลกแสนบิดเบี้ยวนี้ ก็ยังคงมีผู้คนบางส่วนต้องการนางอยู่ดี
นางมิได้เกิดมาเพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้ใคร แต่นางเกิดมาเพื่อเป็นตัวของนางเอง
...
สืบเนื่องมาจากคำพูดไม่เข้าหูของท่านโฮคาเงะรุ่นที่ 2 ฮิโนกิจึงหลบหน้าหลบตา ไม่เสวนาด้วยสักประโยคเดียว ปล่อยให้หัวหน้าหน่วยคนอื่นรายงานภารกิจแทนตน แม้โทบิรามะจะเรียกตัวเข้าพบก็ไม่ยอมโผล่หัว ซ้ำร้ายยังท้าทายเขาด้วยการส่งร่างแยกไปแทนที่ หักหน้าเจ้านายท่ามกลางธารกำนัลชัดๆ
มันทำให้เขาโมโห
ร่างสูงใหญ่สืบปลายเท้าขึ้นเรือนนอนหลังโอ่อ่าของท่านโฮคาเงะรุ่นที่ 1 เซนจู ฮาชิรามะ ด้วยกิริยาฉุนเฉียวเล็กน้อย พี่ชายคนดีของเขากำลังนั่งทำงาน จิบชาสบายอารมณ์ ข้างกายมีภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก อุซึมากิ มิโตะ ร่างสถิตจิ้งจอกเก้าหางคอยฝนหมึกขณะหัวเราะเสียงใสเบาๆ
เบื่อ เบื่อคนมีเมีย
“เป็นอะไรไปโทบิรามะ”
ชายผู้ได้รับการกล่าวขานว่าเทพเจ้าแห่งนินจาไม่ผละมือจากงาน แต่สามารถมองสีหน้าแววตาน้องชายได้ทะลุปรุโปร่ง มิโตะอาสาไปจัดสำรับชาให้น้องสามี ปล่อยให้สองพี่น้องได้มีเวลาไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบกันบ้าง
โทบิรามะมีอุปนิสัยเคร่งขรึมและดุดันเป็นนิจ คนภายนอกจึงหวั่นเกรง ไม่กล้าสู้เพราะไม่เคยเดาอารมณ์ชายผู้นี้ได้ แต่คนเป็นพี่นั้นมองออก รับรู้เต็มอกว่าอะไรกันแน่ที่สามารถทำให้น้องชายของเขาแลดูหัวเสียขนาดนี้
“ฮิโนกิเมินเจ้าอีกแล้วรึ”
ฟังแล้วหัวใจมันคันยิบๆ เหมือนมดทั้งฝูงรุมกัด โทบิรามะพ่นลมหายใจฮึดฮัดอย่างหงุดหงิด ขวางหูขวางตาจนอยากอาละวาดผิดวิสัย เมื่อไม่รู้จะกำจัดอาการผีบ้าผีบอยังไง เขาเลยเลือกที่จะเงียบ สอดแขนกอดอกจ้องกระดาษเนื้อดีราวกับมันงดงามนักหนา
“ไม่เอาน่า นางก็เป็นเช่นนี้อยู่แล้ว เจ้าจะหัวเสียไปไย”
“นางสนใจสาวๆ มากกว่าข้า”
โทบิรามะอดฟ้องไม่ได้ เขาเห็นเต็มสองตาว่าวันนี้มีนินจาสาวสองคนกรูเข้ากอดฮิโนกิกลางดงหน่วยลับ นอกจากจะไม่ผลักไสแล้วเจ้าตัวยังฉีกยิ้มร่า โอบแขนโอ๋สาวๆ ในอ้อมกอดพร้อมโม้ให้ลูกน้องหน่วยลับฟังว่าสองสาวมาจากตระกูลฮิวงะ นิสัยน่ารักน่าเอ็นดู สมควร ‘โกย’ ไว้ในสังกัด
เขาเป็นถึงบุรุษอกสามศอก แต่เด็กนั่นกลับสนใจสาวสวยมากกว่า มันน่าโมโหนัก!
“อืม...นาง...”
ฮาชิรามะเฟ้นหาเหตุผลมาหักล้างไม่ได้ เคาะขมับป๊อกๆ ก่อนจะสันนิษฐาน
“นางยังเด็กเลยชอบแกล้งชาวบ้านกระมัง”
“ตัวนางเด็กก็จริง แต่ความคิดความอ่านของนางไม่ใช่สาวอายุสิบเจ็ดแล้ว ภารกิจที่นางได้รับ พวกนินจาอายุแก่เก๋ายังมองตาวาว ฝีมือฉกาจไฉนจึงชอบเล่นพิเรนทร์เช่นนี้”
ฮาชิรามะฟังน้องชายบ่นแล้วก็หลุดหัวเราะครื้นเครง สรุปคือหึง หึงจนแทบกระอักเลือด!
“ให้เวลานางบ้าง เจ้าน่ะใจร้อนเกินไปโทบิรามะ”
คนฟังชะงักนิ่ง หัวคิ้วคมเข้มชักเข้าหากันมุ่น
“ข้าใจร้อนตรงไหนกัน”
ร่างสูงของท่านโฮคาเงะรุ่นที่ 1 ยกชาหอมกรุ่นขึ้นจิบผ่อนคลาย นัยน์ตาคมกริบสบประสานกับฝ่ายตรงข้ามอย่างจริงจัง
“นางยังเด็ก...เด็กมาก อ่อนกว่าเจ้าเกือบสิบปี กำลังอยู่ในวัยร่าเริงและชอบลองของไปทั่ว จู่ๆ เจ้าไปสู่ขอนางแบบไม่ให้สุ้มเสียงนางก็ตกใจสิ ข้าเดาว่าเจ้าคงไม่อธิบายเหตุผลที่แท้จริงให้นางฟัง”
โทบิรามะนิ่งคิดนานพักใหญ่ กำลังจะแย้งแต่ขวัญกลับถูกพี่ชายตีแตกกระเจิง
“เจ้ามันปากแข็ง ชอบก็ไม่บอกว่าชอบ”
“ข้าบอกทีหลังก็ได้นี่นา”
โธ่ มันยังจะเถียงข้างๆ คูๆ
“เจ้าจะบอกตอนไหนเล่า หรือเจ้ากะบอกตอนนางใจกล้าไปสู่ขอสาวตระกูลฮิวงะรึ?”
“ตลก ข้าเตรียมสินสอดทองหมั้นไว้แล้ว เรื่องอะไรจะยอม!”
ฮาชิรามะหัวเราะลั่นจนไหล่สั่น เรียกน้ำโหคู่สนทนาให้เดือดปุด ใบหน้าคมสันมีริ้วแดงจัดกระจายเกลื่อนแก้มสาก โทบิรามะเบือนมองบานประตูบ้านแทนหน้าพี่ชาย ไม่รู้จะเนรเทศอาการติดๆ ขัดๆ เหมือนประหม่าเคอะเขินยังไงดี
“สินสอดพร้อม แล้วเจ้าคิดหรือว่าเจ้าสาวพร้อม”
“นางไม่อยากแต่ง” ชายหนุ่มแสดงความห่อเหี่ยวให้เห็นในเสี้ยววินาที ก่อนจะจางหายอย่างรวดเร็ว ทดแทนด้วยกิริยาฮึดฮัดประสาคนเผด็จการ “แต่ข้าจะแต่ง ท่านลุงซาโต้ยกนางให้ข้าแล้ว”
“โฮ่ย จะเอาเมียทั้งทีทำไมชอบทำตัวเถื่อนให้เขากลัว”
“ก็ข้ากลัวคนอื่นฉกนางไป!”
โทบิรามะพลั้งปากบอกสิ่งที่กลัวมาโดยตลอดจนฮาชิรามะตาค้าง อ้าปากเหวอ ส่วนมิโตะที่เพิ่งเข้ามาใหม่แทบทำสำรับหลุดมือ
ความเงียบงันตรงเข้าแทรกทุกอณูบรรยากาศ ท่านโฮคาเงะกะพริบตาปริบ จะอุดปากก็ไม่ทัน เลยสำทับเสียงแข็งกลบแก้มร้อนๆ ที่แดงก่ำเหมือนโดนไฟลน
“นางเป็นสาวแล้ว ท่านลุงซาโต้มีลูกสาวเดียว แถมพวกอุจิวะยังเข้าๆ ออกๆ บ้านซาโต้ประจำ ชาวบ้านลือกันหนาหูว่าบ้านนี้หัวกระไดไม่เคยแห้ง ถึงไม่มีพวกอุจิวะไอ้พ่อสื่อแม่สื่อ ตระกูลอื่นก็เข้าหาฮิโนกิอยู่ดี”
“เหตุผลร่ายยาวเป็นหางว่าว สรุปสั้นๆ คือเจ้ากลัวนางตกเป็นของชายอื่นว่างั้นเถอะ”
ไม่มีอะไรที่โทบิรามะสามารถปกปิดพี่ชายสายเลือดเดียวกันได้ เขาเลยยอมรับในที่สุด
“เออ”
“ท่านนี่ก็มีมุมน่ารักนะ ท่านโทบิรามะ”
มิโตะอมยิ้มหวานจากใจจริง ค่อยๆ จัดวางสำรับอย่างนุ่มนวล เอ่ยสอนเสียงแผ่วสมมารยาทผู้ดี
“ฮิโนกิเป็นเด็กน่ารัก ดื้อบ้างประสาสาวห้าว เจ้าอย่าดุนางมาก...นางไม่ชอบให้ใครมาตีกรอบหรือกฎเกณฑ์ ที่นางชอบโอ๋สาวเพราะผู้หญิงมักจะเข้าใจผู้หญิงด้วยกัน หากท่านยังปากแข็งเช่นนี้ ไม่แคล้วนางจะจับผู้หญิงทำผัวแทนท่าน”
สองพี่น้องเซนจูถึงกับสะดุ้งในใจ ฝ่ายโทบิรามะเหงื่อตกเรียบร้อย เชิงชายเขาคงไม่เหลือถ้าฮิโนกิเมินเขาไปเอาผู้หญิงด้วยกัน
ไม่ เขาไม่ยอม ยอมไม่ได้!
“ข้าขอตัว...ไว้จะกลับมาตอนดึก”
ร่างสูงใหญ่ผุดลุกยืนเต็มความสูง ก่อนจะค้อมศีรษะทำความเคารพพี่ชายกับพี่สะใภ้ แอบเดินเซเล็กน้อยเพราะรับไม่ได้อย่างแรง ฮิโนกิสมควรดีใจที่เขาเลือกนางเพียงคนเดียว สาวงามมีเป็นร้อยเป็นพัน แต่เขาเต็มใจจะร่วมเรียงเคียงหมอนกับนางเท่านั้น แล้วฟังสิ่งที่นางพูด...ไม่เอาเซนจู!
ท่านโฮคาเงะยืนมองโครงสร้างของเรือนหอที่เขาแอบสร้างขึ้นเงียบๆ โดยไม่ปริปากบอกใครสักคน พื้นที่จุดนี้ห่างจากเรือนของฮาชิรามะกับมิโตะไกลพอสมควร เสาเข็มลงดินเรียบร้อย เค้าโครงเริ่มชัดเจนว่าคือเรือนหอที่เขาอุตส่าห์สร้างขึ้นเพื่อฮิโนกิ เขาพร้อมขนาดนี้เด็กนั่นจะใจร้ายทิ้งเขาลงหรือ
พี่ชายบอกอย่าใจร้อน...พี่สะใภ้บอกอย่าดุ
ดี ภายในเดือนนี้เรือนหอต้องเสร็จ!
♣
คุยกับไรต์ช้อย
ใครบอกท่านพรี่ใจร้อน เดี๋ยวตีมือเลย ท่านพรี่คูลเต็มที่แล้ว5555555555
พี่ไม่รีบเลย ไม่รีบจริงๆนะ เดี๋ยวเสียลุคหนุ่มสุดคูล แต่พอดีลงเสาเข็ม เรือนหอพร้อม.... เหลือแต่ภรรเมียนี่ละที่ยังไม่พร้อม
ไม่ใช่โทบิรามะจริงทำไม่ได้นะนั่น!
ยอมใจเลยว่ะ!
ส่วนน้องก็...อืม...เเมนกว่าชายใดในทั่วหล้า พลิกทั้งโคโนฮะก็หาใครที่เเมนเเทนน้องไม่ได้อีกเเล้ว555+
ซึนปากแข็งมากน่ารักนะปู่แหม่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
น้องกิแนะนำสาวสวยน่ารักๆให้เราสักคนสิ---แค่กๆผิดๆ
ช่างเขาปะไรข้าไม่เกี่ยวกับเขาด้วยสักหน่อย ท่านก็เลิกพูดเรื่องนี้เสียทีเถอะ/น้องกิ
เช่นนั้นข้าจักเรียกโทบิรามะมา"กด"เจ้าซะ^^(ยิ้มเ-้ยม)/พิมพ์
พอๆหาสาระไรไม่ได้เลย=-=
#ท่านช้อยสู้ๆ
เอาแล้วปู่ เขาไม่อยากแต่งเลยนะ