ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ThE KiNgDoM! มหาอาณาจักรเกมออนไลน์ทะลุโลก

    ลำดับตอนที่ #9 : หนึ่งสิ่งที่ได้มา หนึ่งสิ่งที่สูญเสีย[100% แล้วคร้าบบบ]

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.22K
      0
      17 ก.ค. 52

    ตำนานหน้าที่ 8 หนึ่งสิ่งที่ได้มา หนึ่งสิ่งที่สูญเสีย
     
                “น่าสนใจชะมัด...”เสียงของคิมหันต์แผ่วจนเหมือนเสียงกระซิบแต่คนที่กำลังถูกล็อคตัวอยู่อย่างเหมันต์ก็ได้ยินชัดเจน ริมฝีปากบางแสยะออกเล็กน้อยก่อนที่จะพึมพำเบาๆให้ได้ยินกันสองคนกับพี่ชาย
     
                “...ฉันเจอก่อน”เสียงพูดที่มักจะราบเรียบอยู่เสมอกลับจับเค้าความไม่พอใจได้นิดๆ แสดงว่า...อารมณ์ยังไม่คงที่ คิดแบบนั้นคิมหันต์ก็ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ เป็นงี้ไม่บ่อยนักหรอก...เดี๋ยวก็หาย
     
                “อย่ามาแย่งนะ...”เหมันต์ขู่ฟ่อเหมือนเด็กหวงของเล่น
     
                “โอ๊ะโอ...ไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว เพราะผ่านมือน้องสุดที่รักมาไม่ได้ ก็ไม่คู่ควรที่จะมาสู้กับพี่แหงแซะ”เด็กหนุ่มเน้นคำว่าน้องสุดที่รักอย่างจงใจทำให้คิ้วที่ซ่อนอยู่ใต้เงาเสื้อคลุ่มนั้นกระตุกนิดๆ
     
                เกิดก่อนสองนาที...ข่มจริงวุ้ย!! ร่างสูงพ่นลมหายใจพรืด ก่อนที่สภาวะอารมณ์จะกลับเป็นปกติอีกครั้ง วันนี้วันเดียวเขาพูดมากกว่าที่เคยพูดรวมกันทั้งสัปดาห์อีกมั้งเนี่ย
     
                ระหว่างที่สองพี่น้องยังทะเลาะกระชับสัมพันธ์กันอย่างสนิทสนม คนเนื้อหอมโดยไม่รู้ตัวก็ใช้เวลาตรวจสอบสถานะของตัวเอง แต่ก็ต้องถอนหายใจ...
     
                …ไม่กระเตื้อง...
     
                ดูท่าคงค้างอยู่ที่ระดับนี้อีกนานโขเลยแฮะ
     
                “ทำไมระดับผมมันถึงไม่ขึ้นเลยล่ะครับ? ชักจะเบื่อแล้วนะ”ได้ฟังแบบนั้นคิมหันต์ล่ะยากจะถลาไปกระชากผมมันมาทำคุณไสยอีกซักกระจุกเหลือเกิน...แค่มันขึ้นมาถึงตอนนี้โดยให้เวลาวันเดียวเขาก็อยากจะคาราวะให้มันสามเวลาหลังอาหารแล้วว้อย!!
     
                ดวงตาสีสวยฉายแววระอาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะชี้ทางสว่าง เด็กหนุ่มแบมือแล้วยักไหล่ด้วยท่าทางเหมือนสะใจเล็กๆ
     
                “คำตอบง่ายๆ นายยังไม่ได้อาชีพ เพราะหลังจากระดับเลื่อนถึง 15 แล้วยังไม่ได้เลื่อนคลาสเปลี่ยนอาชีพขั้นสองค่าประสบการณ์ที่ใช้ในการเลื่อนระดับจะมากกว่าระดับจริง 3 เท่า ก็อย่างนายระดับ 22 ค่าประสบการณ์ที่ต้องใช้ก็เท่ากับระดับ 66 ของคนที่เปลี่ยนอาชีพแล้วไงล่ะ ชัดมั๊ย?”คิมหันต์ร่ายและเมื่อฟังจบรัตติก็ถึงกับก็หน้าเสีย
     
                “66?”เด็กหนุ่มทวนอย่างไม่อยากเชื่อคิมหันต์พยักหน้ารับ ริมฝีปากได้รูปเผยอยิ้มเครียด (แต่ดวงตาสีมรกตคู่นั้นมันกลับเป็นประกายอย่างน่าตบ!) ก่อนจะเดินเข้าไปตบไหล่ให้กำลังใจคนที่ตอนนี้คงแทบทรุด
     
                “อะ...ไร...กัน...?”เสียงแผ่วๆอย่างระโหยโรยแรงนั่นทำให้คิมหันต์ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ
     
                “ทำไม...”ตอนนี้คิ้วคนฟังเริ่มจะขมวดเข้าหากันนิดๆ
     
                “ทำไม...”...มันพูดเรื่องอะไรอยู่วะเนี่ย??
     
                “ทำไมไม่เห็นไอ้พี่ธันมันบอก หนอย...ไอ้เราก็นึกว่ามันยิ้มอะไรนักหนาตอนรู้ว่าเรายังไม่มีอาชีพ อย่าให้เจอนะเฟ้ย พ่อจะรีดเงิน รีดแรร์ให้หมดตัวเชียว!”จู่ๆเด็กหนุ่มก็โวยออกมาเพราะทนกลั้นไว้ไม่อยู่ ทำให้สองศรีพี่น้องถึงกับเหวอค้าง
     
                ไอ้ที่เงียบไปนี่พี่กำลังสงบสติอารมณ์เหรอครับ!?
     
                ก่อนที่จะได้สติแตกไปมากว่านั้นเหมันต์ก็ชี้ให้ดูเลือดที่เริ่มทะลักออกมาในปริมาณที่ไม่น่าไว้ใจจากแผลบนต้นคอของเด็กหนุ่ม
     
                “หวา...”มือขาวรีบกดที่ปากทันทีแต่ผลที่ได้ก็มือเลือดที่ทะลักออกมามากกว่าเดิม ก่อนที่สมุนไพรห้ามเลือดที่คิมหันต์พกมาด้วยจะได้สำแดงเดชนิ้วเรียวของรัตติก็ปาดเบาๆบนบาดแผล
     
                “...Mother Of the Earth(มาดรแห่งผืนดิน)”สิ้นเสียงแสงสว่างสีทองนวลตาก็กระพริบสองสามครั้งบาดแผลนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
     
    “นาย...นาย...นายทำได้ยัง?”คำถามของคิมหันต์ทำให้รัตติเลิกคิ้วสูงเด็กหนุ่มคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ตอบตามข้ออธิบายที่ทางระบบให้มาแต่ก็แอบกั๊กๆไว้นิดนึง
     
    “ก็...ร่างกายคนก่อเกิดจากดิน และต้องกลับคืนสู่ดิน รักษาได้ก็ไม่เห็นแปลก”แต่ไม่บอกแล้วกันว่ามันต้องเป็นขั้นสูงถึงจะทำได้
     
    “หา?”
     
    “มันเป็นทักษะประจำอาวุธพลองเจ็ดเปลี่ยนนี่น่ะ”ยังไงก็ขออุบไว้ก่อนว่ามีทักษะที่อยู่ในกรุอีกเพียบ แค่อาวุธ 2 อย่างก็มีเยอะจนแทบจะทับเขาตาย ถ้าบังเอิญปลดครบ 7 ชิ้น ต่อไปขุดยังไงชาตินี้ก็คงไม่ถึงก้นแหงๆ
     
    พอได้ยินแบบนี้คิมหันต์ก็ยิ่งเสียดายเจ็ดเปลี่ยนเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว เด็กหนุ่มมองมันตาละห้อย จนน้ำลายแทบหยด รึเปล่า...? มันหยดไปแล้วเว้ยย!!!
     
    “ปัญญาอ่อน”เหมันต์จิกด้วยน้ำเสียงแสดงความรังเกียจสุดๆ
     
    “บ๊ะ...เหมันต์ นั่นน่ะเจ็ดเปลี่ยนเชียวนะเว้ย! เป็นนายไม่อยากได้รึไง?”
     
    “ไม่!”ร่างสูงตอบแบบไม่ต้องคิด อาวุธนั่นยุ่งยากจะตายไป ข้อเสียมากกว่าข้อดี สังกัดตั้งเจ็ดธาตุ...เจ็ดรูปแบบอาวุธ ทักษะต้องร่ายบทสวดถึงแม้ว่ามันจะรุนแรงกว่าพูดปากเปล่าแบบทักษะของวิหคเพลิงเหมันต์ แต่แค่นี้มายาอัคคีน้ำแข็งก็แช่แข็งสัตว์อสูรที่ระดับสูงกว่าผู้ใช้ไม่เกิน 20 ระดับได้ร้อยเปอร์เซ็น(ที่สูงกว่านั้นโอกาสก็แปรผันตามระดับ) พลังโจมตีของวิหคเพลิงเหมันต์ก็แรงเวอร์พอสมควร(แค่ตบมังกรระดับ 55 ล้มทั้งยืนมาแล้วเท่านั้นเอ๊ง) สังกัดสามธาตุที่โคตรจะขัดแย้งกันอย่างน้ำ ลม และไฟ และที่ถูกใจมากที่สุดก็เพราะมันเป็นอาวุธหนึ่งเดียวในเจ็ดอาวุธในตำนานที่สามารถพัฒนาได้
     
    ไม่ต้องเจ๋งมากมายอย่างไอ้เจ็ดเปลี่ยนนั่น(ขนาดยังไม่เจ๋งนะนี่)...ตอนนี้ก็พอใจในสิ่งที่มีแล้ว...
    .
    .
    .
     
    ...เอ่อ...อยากจะบอกว่าถ้ายังไม่พอใจอีก ก็ไม่ต้องลงต้องเล่นมันแล้วล่ะครับเกมเกิมอะไรเนี่ย!! เถื่อนค่อด!!
     
    “เออเซ่ แต่ฉันไม่ได้มีอาวุธเทพระดับตำนานนี่หว่า”เด็กหนุ่มบ่นหงุงหงิงพลางหรี่ตามองวิหคเพลิงเหมันต์สลับกับเจ็ดเปลี่ยนแล้วถอนหายใจ
     
    เล่นเป็นนักพรตแบบนี้ก็ใช้ได้แต่ยันต์ซะด้วยสิ...
     
    “คิมหันต์รู้วิธีเปิดกล่องนี่รึเปล่า?”รัตติถามแต่คิมหันต์ก็ยังเหม่อ...
     
    เหมันต์เดินเข้ามาสำรวจกล่องสีทองอย่างใคร่รู้เช่นกัน แต่เท่าที่ดูก็เป็นแค่กล่องลูกบาศก์ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก แต่ช่วยแงะกันอยู่นานสองนานก็ไม่มีท่าทีว่าจะหาฝากล่องเจอเลยแม้แต่น้อย
     
    เฮ้อ...ทำไมมันไม่มียันต์แบบถาวรเทพๆเซียนๆซักใบมั่งน้อ~
     
    จนในที่สุดรัตติก็ตัดสินใจได้ว่าไอเทมเกมนี้ชอบความรุนแรง เลยจัดการโยนมันลงพื้นแล้วกระทืบซ้ำ เหมันต์ไม่ยอมน้อยหน้าด้ามดาบวิหคเพลิงเหมันต์กระแทกเข้าเต็มๆกล่องแล้วมันก็...
     
    ขอมาแบบนี้ อยากได้ซักใบมาถ่วงดุลความปิศาจของไอ้พวกนี้เหรอ ด๊ายยยย~!! เอ้าจัดไป!!
     
    เพล้ง!!
     
    วิ้ง~!! ทันทีที่กล่องแตกแสงสีทองสว่างทำให้ ทั้งสามหลับตาโดยอัตโนมัติ และเมื่อลืมตาขึ้น คิมหันต์ก็แทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความซาบซึ้ง...
     
    “อ๊าาาา ยันต์เวทย์ถาวรณ์~!!”เด็กหนุ่มที่กำลังเหม่ออยู่จนถึงเมื่อครู่แทบกระโดดเข้าตะครุบกล่องขนาดยาว 1 ฟุตกว้างครึ่งฟุต และสูงประมาณ 3 นิ้ว สีดำสนิททั้งกล่องดูท่าว่าจะทำจากโลหะชนิดพิเศษ บนฝากล่องแกะเป็นลายเต่าที่มีหางเป็นงู ที่พอจะเดาได้ว่ามันคือ เสวียนอู่ ผู้พิทักษ์แห่งทิศเหนือ ล้อมรอบด้วยอักขระแปลกตาที่มีเพียงคนที่ได้อาชีพนักพรตเท่านั้นที่เข้าใจ
     
    ซึ่งมันสลักเอาไว้ว่า...
     
    ‘ยันต์เก้าดารา’
     
    “พวกนายนี่มือเทพฟ้าประทานของแท้~!! ขอหอมแก้มทีเด่ะ!”
     
    “เฮ้ยไม่เอา!”แล้วทั้งคู่ก็หลบกันกันเป็นพัลวัน นี่ถ้าใครมาเห็นเข้าคงคิดว่ามันบ้ากันเข้าขั้นเป็นแน่แท้...
     
    ...................................................................
     
                “มีคนเปิดกล่องได้ยันต์เก้าดาราไปแล้วล่ะ”เสียงจาก 003 ทำให้อีกสามคนที่เหลือเกือบสำลักอากาศ เพราะยันต์ที่ว่าพวกเขาเพิ่งจะเอาไปยัดไว้ในกล่องปริศนาที่มีโอกาสดรอปจากสีหาราชทิวาระดับ 80 แค่ 1% ตอนอัพเกรดดันเจี้ยนถ้ำปริศนาเมื่อวานนี้เอง
     
    นั่นยังไม่เท่าไหร่หรอก แต่ที่สำคัญที่สุดโอกาสที่จะเปิดได้ของจากกล่องได้ยันต์นั่นก็มีเพียงแค่ 1 ชิ้น จากขยะกว่าสามแสนแบบที่พวกเขาเอาไปยัดๆไว้ซะด้วยสิ
     
                “ไหนใครมันจะโชคดีเวอร์แบบนั้น ขอดูหน้าหน่อยซิ”เมื่อ 002 ยื่นหน้ามาดูเจ้าหล่อนก็อยากจะลงไปดิ้นตายซะตรงนั้นให้ได้
     
                ...ไอ้เด็กนี่อีกแล้ว!!
     
                “ชิ...ไม่ได้การแล้ว” 001 ที่มีสติที่สุดติดต่อไปที่ประชาสัมพันธ์กลางอย่างรวดเร็ว
     
    “เรียกประชุมทุกฝ่ายด่วนเลย เออ หมอนั่นไม่ต้อง...ที่ห้องนี้นี่แหละ อืม...ได้ ขอบใจมาก”ชายหนุ่มตัดสายไป แล้วหันไปบอกคนอื่นๆที่กำลังจ้องอยู่หน้าจอตาแทบไม่กระพริบ
     
    “เลิกดูได้แล้ว! 002 รีบไปคุ้ยๆเอาเทปบันทึกตั้งแต่เจ้าหนูนี่เริ่มเล่นมาเลย ขอแบบละเอียดยิบเลยนะ 003 ช่วยไปตามท่านประธานมาที ตอนนี้น่าจะไปแอบงีบอยู่ที่ห้องข้อมูล 004 ไปด้วยกันกับ 003 นั่นแหละ ช่วยกันแงะออกมาให้ทันสองทุ่มนะ เราต้องประชุมด่วนแล้ว อาวุธเทพที่ตกมามันมากเกินกว่าจะเรียกได้ว่าปกติ แถมยังไปรวมกันอยู่ที่คนคนเดียวแบบนี้ สมดุลของเกมต้องรวนแน่ๆ”ทั้งสามพยักหน้ารับ
     
    “ให้ตายเถอะ...ทำไมเรื่องต้องเกิดในกะตูทุกทีเลยฟร่ะ”เขาบ่นพอเป็นพิธี ก่อนจะลุกขึ้นยืน
     
    “เดี๋ยวฉันจะไปหาพวกฝ่ายเทคนิคหน่อย สองทุ่มตรงเจอกันที่นี่ ห้ามสายแม้แต่วินาทีเดียว เข้าใจ๋?”
     
    ...................................................................
     
                “...ชิบ!! นี่มันอะไรกันวะ!? ถ้ำนี่มันเป็นดันเจี้ยนสำหรับพวกมือใหม่ระดับ 30-40 ไม่ใช่รึไง ทำไมมันถึงได้ผ่ามามีค้างคาวระดับ 80 เป็นฝูงอย่างงี้ฟะ!?”เด็กหนุ่มผมสีเขียวเจิดจ้าโคตรจะบาดตาสบถออกมาอย่างหงุดหงิดสุดขีดขณะที่เท้าก็ไม่หยุดวิ่ง เรียกสายตาจิกๆกัดๆจากอีกสองที่วิ่งตามมาติดๆได้เป็นอย่างดี
     
                ...ถามตูแล้วจะให้ตูไปตามใคร!!
     
                ทั้งคู่คิดพร้อมกันแล้วเพิ่มจังหวะการสับขาเมื่อไอ้ฝูงค้างคาวนรกที่ว่ากำลังบินตามมาจนแทบจะทันอยู่แล้ว
     
                “คิมหันต์ไอ้กล่องนั่นน่ะของดีไม่ใช่เหรอทำอะไรซักอย่างเซ่!!”รัตติตะโกนถามเสียงดัง
     
                “ก็อยากอยู่หรอกนะ...แต่มันเปิดไม่ได้โว้ย!!”คนถูกถามก็ตะโกนตอบกลับด้วยเสียงที่ดังไม่แพ้กัน
     
                “เวร!! ไหนว่าของดีห๊ะ!!”
     
                “ไอ้ดีน่ะดีแน่...แต่มันยังไม่ได้ปลดผนึกนี่หว่า! จะใช้ได้ไงเล่า!!” และขณะที่กำลังเถียงกันอย่างออกรส ก็ถูกตบหัวไปคนละทีจากเจ้าของฝ่ามือพิฆาตที่ตอนนี้ขึ้นไปวิ่งนำอยู่หน้าขบวน ดวงตาสีน้ำเงินเข้มหรี่มองอย่างหงุดหงิดก่อนจะเหลือบไปมองด้านหลังเป็นเชิงเตือน
     
                ...ว่าข้างหลังพวกเอ็งน่ะ นรกรออยู่!!
     
                สองหนุ่มจึงกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แล้วหันกลับมาตั้งหน้าตั้งตาเผ่นอย่างไม่คิดชีวิต แต่ถึงอย่างนั้นเทพแห่งความซวยก็คงจะถูกชะตากับพวกเขามากเกินกว่าปกติเป็นแน่แท้เมื่อทางที่ทอดยาวสิ้นสุดลงเบื้องหน้า
     
                เส้นทางรอดตายของพวกเขาถูกตัดวูบด้วยช่องผาลึกที่มองแทบไม่เห็นก้น ผืนดินอยู่ห่างออกไปอีกประมาณ 30 เมตร ซึ่งแน่นอนว่ามนุษย์หน้าไหนก็กระโดดข้ามไปไม่ได้ชัวร์ๆ
     
                ทางตันอีกแล้ว?...ทำไมชีวิตตูถึงมีแต่อุปสรรค?? ตกลงพระเจ้าจะไม่รักตูจริงๆใช่มั๊ย!!!...เด็กหนุ่มคร่ำครวญในใจ พลางขยี้หัวอย่างหงุดหงิด ไม่ทันจะได้สบถสรรเสริญบรรพรุษของใครต่อ ฝูงค้างความที่ใครก็ไม่รู้ออกแบบมาได้โคตรจิตก็ตามพวกเขาทันซะแล้ว...!!
     
                “ตรงนั้น!! คำใบ้!!”คิมหันต์ตะโกนพลางชี้มือไปยังผนังถ้ำที่อยู่ด้านหลังของฝูงค้างคาวซึ่งห่างออกไปราวๆ 15 เมตร แต่เมื่อเห็นชัดๆทั้งสามก็กรอกตาอย่างรวดเร็วก่อนจะเอ่ยขึ้นมาพร้อมกันอย่างไม่ต้องคิด
     
                “นรก!!”ความหมายเหมือนดังที่พูดทุกประการ ตัวหนังสือขนาดเพียงครึ่งฝ่ามือเป็นสีทองที่แทบจะเลือนไปกับผนังถ้ำทำให้พวกเขาแกะข้อความนั้นไม่ออก แถมด้วยระยะห่างขนาดนี้ ฝูงค้างคาวผีขนาดนั้น
     
                ฆ่าตูให้ตายเลยง่ายกว่ามั๊ย!!
     
                “คิมหันต์...เหมันต์ กำลังคิดเหมือนที่ผมคิดรึเปล่า?”จู่ๆรัตติก็เอ่ยถาม ฝูงค้างคาวใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
     
    10…เมตร 9…เมตร 8…7
     
                “คิดว่าอาจจะไม่แต่ก็คงใกล้เคียง...”คิมหันต์ตอบก่อนจะหันไปสบตากับอีกคนยังคงยืนนิ่ง
     
                รอยยิ้มผุดพรายขึ้นบนเรียวปากสวย ในขณะที่เด็กหนุ่มผมดำก้าวถอยหลังจนไปยืนอยู่ที่ขอบเหว เหมันต์ถอนหายใจเหนื่อยๆแล้วตามไปสมทบ ส่วนคิมหันต์เองก็กำลังฉีกยิ้มเคร่งขรึม แล้วก้าวตามไปเช่นกัน
     
                “3”รัตติเอ่ยยิ้มๆ
     
                “2”คิมหันต์กล่าวด้วยเสียงหน่ายๆ
     
                “1”เสียงเรียบสนิทดังขึ้นจากเหมันต์ ก่อนที่ดวงตาสามคู่สามสีจะสบกันเป็นครั้งสุดท้าย ต่างคนต่างเห็นแววตาระริกระรี้ที่ซ่อนไม่มิดในดวงตาของอีกฝ่าย!!
     
                “โดด!”สิ้นเสียงร่างสูงโปร่งของทั้งสามก็ดิ่งวูบ รู้สึกถึงสายลมที่พัดผ่านผิวไปอย่างรวดเร็วทำให้รอยยิ้มโรคจิตนิดๆ(?)ของรัตติกว้างขึ้น เด็กหนุ่มเหลือบสายตามองลงไปด้านล่าง อีกไม่กี่สิบเมตรพื้นหินกับรอรับร่างของพวกเขาอยู่
     
                “โอ้ว~ แค่โดนเล็บเฉี่ยวคอก็เจ็บจะแย่ ไม่อยากจะจินตนาการเล้ย ว่าถ้าตกพื้นในสภาพนี้จะซาบซ่าขนาดไหน ร่างกายแหลกเป็นชิ้นๆนี้จะมีกี่คนที่จะได้ลองกันครับ”
     
                “มุกนี้ไม่ขำฟร่ะ ขี้เกียจเข้ามาใหม่อ่ะ”คิมหันต์เถียงพร้อมกับอาการขมวดคิ้วเล็กๆ
     
                “...”โนคอมเม้นจากเหมันต์ ดวงตาครามที่มองพื้นเบื้องล่างฉายชัดถึงความ...นิ่ง
     
                ในขณะนั้นเองเสียงที่ไม่มีใครคาดคิดก็ดังขึ้น...
     
                “โครก~ คราก~”ไม่มีใครคาดคิดจริงๆน่ะแหละ
     
                “แหะๆ แบบว่า...วิ่งไปวิ่งมามันก็เหนื่อยนะครับ แถมสกิลของพลองนี่ก็กินพลังงานสุดๆ จะไม่ให้หิวได้ไงล่ะ”รัตติแก้ตัวพร้อมกับรอยยิ้มชืดๆ ใบหน้าขาวกำลังแดงจัดอายจนแทบจะมุดดินหนี
     
                หือ? เดี๋ยวนะ ดินเหรอ? คนเราล้มต้องรู้จักลุก เมื่อหน้าแตกไปแล้วก็ต้องกลับมาพร้อมกับความด้านที่เหนือชั้นกว่าเดิม(อันนี้ไม่ใช่ละ)
     
                “เอาล่ะ Delete ข้อมูลเมื่อกี้ทิ้งไปซะ คราวนี้จะให้ดูแบบเท่ๆมั่ง”...จะทำได้เร้อ? สองพี่น้องคิดเป็นเสียงเดียวกันขณะมองดูเด็กหนุ่มตรงหน้าควงพลองด้วยท่าทางชำนิชำนาญทั้งที่ยังลอยอยู่กลางอากาศ
     
    “เหล่าภูติพรายที่หลับใหลในผืนดิน โปรดฟังวิงวอนมองไปถึงใจข้า แล้วจงสะท้อนกายาให้ข้าเห็น ขอเจ้าเป็นดั่งข้าปารถนา Land Command!”ฉับพลันผนังผาข้างๆก็แปรสภาพ เหมือนกับมีอะไรบางอย่างตกลงบนผิวน้ำจนเกิดคลื่น จะแปลกหน่อยก็ตรงที่มันเกิดบนผนังหินขัดกับแรงโน้มถ่วงโลกโดยสิ้นเชิง!!
     
    หินกลายเป็นของสภาพกึ่งของเหลวลอยวนเหมือนเถาวัลย์มีชีวิตมารัดร่างของแต่ละคนเอาไว้ก่อนจะส่งพวกเขาลงพื้นอย่างช้าๆ
     
    “อืม...ครั้งแรกได้แบบนี้ก็ไม่เลว”เด็กหนุ่มฉีกยิ้มหวานหยดทำให้คิมหันต์อดจะคิดตามไม่ได้
     
    ถ้าครั้งแรกพี่ได้ขนาดนี้เรียกว่าก็ไม่เลว ถามหน่อยเถอะครับ...ครั้งต่อไปพี่จะสร้างดาวเคราะห์ดวงใหม่ขึ้นมาเลยรึไง(วะ)!?
     
    เห็นสีหน้าปุเลี่ยนๆของพี่ชายเหมันต์ก็ตบไหล่เบาๆเป็นเชิงให้กำลังพร้อมกับส่งสายตาบอกประมาณว่า
     
    ...มันไม่ใช่คน
     
    “ถูกต้องที่สุด”เด็กหนุ่มผมเขียวพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะนั่งลงอย่างเหนื่อยใจ เล่นเกมมาไม่ถึงสองอาทิตย์ ระดับพรวดขึ้นมาเป็น 40 กว่าใครก็ว่าเร็วเวอร์ แต่พอมาเจอไอ้คนที่เลื่อนเป็น 22 ได้ตั้งแต่วันแรกแล้วความมั่นใจชักจะหดหาย
     
    “เอาล่ะ! หาทางไปต่อกันเถอะครับ!”ไม่สิ...มันพังทลายไปแล้วล่ะ!!
     
    ...................................................................
     
                “ระดับขึ้นเร็วมาก แต่ก็ไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของระบบ ส่วนไอเทมระดับเทพทั้งหมดที่มีอยู่ในครอบครองก็ไม่ใช่การได้มาอย่างผิดกฎ...อืม สงสัยดวงจะดี”เสียงเอื่อยๆเหมือนคนง่วงนอนดังขึ้นจากชายหนุ่มที่นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ
     
                ...ถ้าอย่านั้นรียกว่าดวงดี แล้วคนแบบไหนถึงจะเรียกว่า โชคดีโคตรๆล่ะครับ!? ต้องถูกหวยรางวัลที่ 1 ติดกัน 7 หนรึง๊าย!
     
                “ขอดูสเตตัสของเด็กคนนี้ได้รึเปล่า?”เขาพูดอีกครั้งก่อนจะอ้าปากหาววอด ไม่แคร์สายตาลูกน้องทั้งหลายที่จ้องมาอย่างละเหี่ยใจ
     
                …หัวหน้าแอบอู้ลูกน้องเหนื่อย แต่หัวหน้าหลับ...พวกตูโคตรเหนื่อย!!!!
     
    เสียงรัวนิ้วบนแป้นพิมพ์แรงๆด้วยความหงุดหงิดสุดๆดังขึ้นไม่นาน ค่าสเตตัสของรัตติก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าทุกคน เสียงอุทานอย่างไม่อยากเชื่อดังขึ้นไม่หยุด มันน่าเหลือเชื่อจริงๆนั่นแหละก็คนดีๆที่ไหนมันจะมีได้แบบนี้บ้าง...
               
    ผู้เล่น รัตติ        Lv. 22 Class 1<beginner>
    HP       413      MP       2608
    ATK      20        DEF     20
                STR     5          VIT       5
                INT       5          AGI      5
                DEX     5          CHE     30
    LUK     50       
               
                ไอ้ที่โผล่พรวดมา 50 น่ะ ดวงล้วนๆ!! มันระดับ 22 จริงเปล่าวะ ไม่อยากจะเชื่อเลยโว้ยย!! แม้แต่ชายหนุ่มผู้ดูเหมือนจะไม่ทุกข์ร้อน เรื่องที่ลูกน้องจะโหมงานหนักกันไม่ได้หลับได้นอน ก็ขยี้ตาดูไปสามรอบ หายง่วงเป็นปลิดทิ้ง
     
                “ATK 20? เป็นไปไม่ได้น่า!! เจ้าเด็กฆ่าพยัคฆ์ลายวรุณด้วยดาบสั้นของผู้เริ่มต้นมาแล้วนะ แล้วไอ้พลังเวทย์มหาศาลนั่นมันอะไร!? ให้ตายเถอะ!! ฉันไม่เคยเห็นค่าสเตตัสใครมั่วได้ขนาดนี้มาก่อนเลย!!”002 พูดเสียงแหลมสูง
     
                “เรื่องที่ว่าพลังโจมตีนั่นโดนจุดตายทั้งนั้นครับ เลยฆ่าได้สบายๆ ส่วนพลังเวทย์นั่นน่าจะเป็นผลมาจากการใช้เวทย์ชั้นสูงติดต่อกันน่ะครับ”004 ตอบทีละคำถาม
     
                “ปัญหาอยู่ที่ค่า LUK ที่มันพรวดพราดออกมาโคตรเยอะกดค่าอื่นจนตกต่ำนั่นต่างหากล่ะ ข้อมูลตอน Lv.1 ล่ะครับ?”เด็กหนุ่มหันไปถามหัวหน้าฝ่ายเทคนิค หรือโค้ดเนม 006
     
                “ไม่มี”เสียงตอบง่ายๆดังขึ้นจากคนถูกถาม
     
                “ไม่มี?”เขาทวนคำของ 006 อย่างไม่อยากจะเชื่อ
     
                “อืม...ไม่มี”ชายหนุ่มยักไหล่ด้วยท่าทางกวนๆก่อนจะเอ่ยต่อ
     
    “AI เป็นคนจัดการน่ะเพราะผู้เล่นคนที่ 10 ล้านน่ะกลัวให้คนจริงๆไปจัดการจะเผลอหลุดหัวเราะสมน้ำหน้า เอ๊ย! หลุดบอกอะไรไป เลยไม่มีไง นายก็น่าจะรู้นี่ AI ของบริษัทเก็บข้อมูลได้ก็จริง แต่เจาะเอาออกมาโคตรจะยากเลย เจ้าหล่อนให้เหตุผลว่า...ถึงมีก็เปิดเผยไม่ได้ แค่นี้ก็ก้าวก่ายสิทธิส่วนตัวของผู้เล่นมากเกินไปแล้ว”รูปประโยคประดุจจะมีสาระแต่ขอโทษ น้ำเสียงโคตรจะกวนตรีนเลยว่ะ หลายคนส่งเสียง เฮอะ! ออกมาอย่างขัดใจ แล้วก็หันไปช่วยกันวิเคราะห์แก้ปัญหานี้อีกครั้ง
     
    “อืม...ลดอัตราการดรอปลงมาอีก หรือจะเพิ่มความยากของการทำเควสดี?”001 เสนอ
     
    “0.02% จากบอสระดับ 70 ขึ้นไป(โหดเล็กน้อย...มั้ง? บอสมันก็แค่เก่งกว่าตัวทั่วไปนิดๆ เรียกลูกน้องออกมาช่วยรุมได้ร้อยสองร้อยตัวเอ๊ง อันนี้โหดแค่เล็กน้อย) 0.001% จากมอนเตอร์ธรรมดาที่ระดับไม่ต่ำกว่า 90 (โหดน้อยมากถึงปานกลาง แค่มันจะอยู่เป็นฝูง ต่ำๆก็สามสิบสี่สิบตัว ไม่ค่อยจะโหดเล้ย~) เควสยากสุดหินระดับ SS คลาส(โหดโคตรๆ ตอนนี้ยังไม่มีใครเคยเคลียร์ แม้แต่คนที่ขึ้นชื่อว่ารอบรู้เรื่องเควสมากขนาดไหนก็ยังต้องกุมขมับ)
     
    ในดันเจี้ยนสุดโหดค่าเฉลี่ยต่ำๆสำหรับปาร์ตี้ไม่ต่ำกว่า 50 คน ระดับ 100 ขึ้นไป(เกมนี้ผู้เล่นระดับสูงสุดยังแค่ 98 นะครับ) หรือเป็นรางวัลจากระบบ แต่ก็ปลดผนึกไม่ได้ ตายก็หายจ้อย(ไม่ค่อยจะงกเลยเกมนี้!! ของฟรียังใช้แล้วทิ้งอีก) ยังโหดไม่พอเหรอ?”หัวหน้าฝ่ายไอเทมเจ้าของโค้ดเนม 005 แจกแจงยาวเหยียด
     
    “โอ้...ขนาดนั้นแล้วเหรอ?”เจ้าของตำแหน่งประธานถามเสียงใส 005 จิกสายตาอย่างอาฆาต
     
    “ก็ใครสั่งปรับล่ะครับ?”
     
    “อุ๊ย! เค้าเปล่านะตัวเอง”ชายหนุ่มว่าเสียงสูงอย่างมีพิรุธ ไหนจะท่าทางปัญญาอ่อนนั่นก็ยิ่งชวนให้ยกเท้าขึ้นสะกิดจริงๆให้ดิ้นตาย
     
                “เอาเถอะๆ แล้วเรื่องนี้จะเอายังไง ระดับ 22 ยังขนาดนั้น ถ้าเด็กนี่ระดับสูงไปมากกว่านี้ฉันไม่อยากจะคิดแล้วนะ”007 หญิงสาวที่นั่งเงียบมาตลอดเอ่ยพลางถอนหายใจ หัวหน้าฝ่ายภารกิจอย่างเธอก็จนใจจะออกความอะไรมากมายเพราะที่เกี่ยวข้องก็มีแค่เควสระกับ SS คลาสเท่านั้นเอง
     
                “เอางี้!”ท่านประธานคนเก่งเอ่ยอย่างรื่นเริง ดีดนิ้วดังเป๊าะ แล้วร่ายความคิดที่ดูมีเหตุมีผลอย่างไม่น่าเชื่อออกมา
     
                “เพิ่มกฎเข้าไปว่าหากฆ่าสัตว์อสูรที่ระดับมากกว่ากันเกินในระดับนึง จะไม่ได้ของตอบแทนใดๆ ทั้งค่าประสบการณ์และไอเทม ยกเว้นวัตถุดิบจากการชำแหละ ยังไงๆก็ไม่ค่อยมีคนกล้าบ้าบิ่นขนาดท้าชนกับพวกระดับสูงกว่าขนาดนั้นอยู่แล้ว กักระดับเจ้าหนูนั่นได้ แล้วลดความเป็นไปได้ที่จะครอบครองไอเทมระดับเทพไปด้วยในตัว”
     
                “มีเหตุผลดี แต่ผู้เล่นคนอื่นล่ะคะ?”002 แย้งขึ้นมาเล็กน้อย
     
                “ไม่มีปัญหาแน่นอนอยู่แล้ว ถามหน่อยสิว่ามีใครคิดจะทำแบบเด็กคนนี้บ้าง? ปกติห่างกันเกิน 5 ระดับก็ไม่มีใครกล้าแหยมแล้วล่ะ”003 ตอบให้แทน พลางพยักเพยิดไปทางจอภาพที่กำลังแสดงการฆ่าล้างบางพยัคฆ์สายวสันต์อย่างปราณี(!?)
     
                เห็นภาพแบบนั้น 001 ก็เอ่ยขึ้นยิ้มๆ
     
                “...อืม กล้าน่าดูเลยเนอะ”ไม่ใช่แค่กล้าน่าดู แต่มันเรียกบ้าขั้นเทพ!!
     
                “ซัก 20 แล้วกันนะฉันว่า เผื่อพวกคนเก่งๆหน่อย”007 เสนอบ้าง ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วยกับความคิดนี้
     
                “ตกลงทุกคนเห็นสมควร การประชุมยุติ ฉันกลับไปนอน เอ๊ย! ไปหาข้อมูลต่อได้แล้วใช่มะ?”เลี่ยงได้เป็นเลี่ยง อู้ได้เป็นอู้เลยนะเฮีย
     
                “...ก่อนไปอย่าลืมทำงานให้เสร็จก่อนสิครับ ท่านประธาน”ควับ!! มือแข็งแรงของ 001 เอื้อมมาคว้าไหล่ของชายหนุ่มไว้ได้ทันก่อนที่เขาจะแสยะยิ้ม
     
                “แหมๆ ในที่สุดก็ได้ฤกษ์สางงานซะทีนะครับ…หึหึหึ”
     
    ………………………………………………….
     
                ...ไม่มีใครได้อะไรมาโดยไม่สูญเสีย แน่นอนว่ารัตติที่เป็นเพียงมนุษย์(?)ธรรมดาคนหนึ่ง ก็หนีไม่พ้นกฎข้อนี้เช่นกัน...
     
                อ้อ...ข้อมูลของ 006 ไม่ได้บวกสเตตัสชุดเกราะของระบบเข้าไปนะเออ...คึคึคึ พวกผู้ออกแบบเกมจะรู้เมื่อไหร่ บุญกรรมมันจะพาไปเอง...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×