คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 2 อวสานสายเผือก (4)
คนอะไรหล่อก็ไม่หล่อ หน้าก็เหมือนโจร ทั้งดิบทั้งเถื่อน เซอร์จนเข้าขั้นสกปรกและยังมั่นหน้าคิดว่าตัวเองหล่อแล้วมาเก๊กใส่อีก!
เธอคิดอย่างเซ็งๆ แล้วมองไปรอบบ้าน บริเวณที่ตัวเองสร้างหายนะเข้าไว้ สนามหญ้าเละเทะไปเกือบครึ่ง กระถางต้นไม้แตกไปอีกสามกระถาง และ...
“อุ้ย!” สาวหน้าหวานสะดุ้ง เมื่อหันมาเห็นเด็กหญิงตัวน้อยยืนฉีกยิ้มแป้นแล้นอยู่ตรงหน้าเธอนี่เอง
แอบหยิกได้ไหม...โทษฐานทำให้เธอหน้าแตก
นางมารร้ายในหัวส่งเสียงยุยงอยู่ในใจ แต่พอเห็นรอยยิ้มหวานจ๋อยของเด็กหญิงตรงหน้าแล้วก็ทำไม่ลงอยู่ดี ยายหนูไม่ผิดเสียหน่อย ผิดที่เธอ ‘เผือก’เอง และอีกอย่าง...ถ้าเธอแอบหยิกลูกสาวหน้าเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ของเขา มีหวังถูกคนพ่อฆ่าหมกแทงก์น้ำหลังบ้านแน่นอน
“พี่” ภาษาไทยแปร่งปร่าจากเด็กหญิงบ่งบอกว่าเด็กคงพูดได้ทั้งไทยและอังกฤษ
“สวัสดีจ้ะ...แดนี่ใช่ไหมจ๊ะ” เธอจำได้ว่ายายหนูชื่อแดเนรีส และเหมือนจะแว่วๆ ว่าได้ยินเหมันต์เรียกลูกสาวว่า ‘แดนี่’เธอจึงเรียกตามและถือโอกาสทำความรู้จักเด็กหญิงไปด้วย
“พี่ชื่ออะไร” ยายหนูแดนี่ถามเป็นภาษาไทยสำเหนียงแปร่งเหมือนเดิม แต่เหมือนเพิ่งจะนึกได้ว่าลืมลงท้ายคำถามด้วยหางเสียงให้สุภาพแบบคนไทย เด็กหญิงจึงฉีกยิ้มแป้นแล้วถามย้ำ “พี่ชื่ออะไรค้า”
“พี่ชื่อณดา...” ยังไม่ทันที่ซูเปอร์ฮีโรสาวจะแนะนำตัวกับหนูน้อยจบ ยายหนูก็ตบมือแปะๆ
“ดาด้า”
“ดาด้าก็ดาด้าจ้ะ” ณดาพยักหน้าเออออไปกับเด็กหญิง เธอไม่มีชื่อเล่น ชื่อจริงว่าณดา ก็ชื่อเล่นว่าณดาเลย เพื่อนสนิทเคยค่อนขอดว่าชื่อนางเอกน้ำเน่าไปหน่อย พออยู่ๆ มีชื่อเล่นจึงไม่รู้สึกคุ้นเท่าไร
“แดนี่ปวดฉี่จังเลย” ยายหนูยืนบิดขาอายๆ แต่ทำเอาพี่สาวคนสวยหน้าเหลอหลาขึ้นมาทันที
ปวดฉี่แล้วมาบอกเธอทำไม!
ณดาทำตาโตพลางมองซ้ายมองขวาหาพ่อเด็กที่ไม่รู้หายไปไหน อยากเดินไปไหนก็ไปทันที ไม่บอกไม่สั่งอะไรเลย เธอจะหนีกลับบ้านก่อนก็เท่ากับทิ้งเด็กหญิงไว้ตามลำพัง เธอก็ทำไม่ลงอยู่ดี
“ดาด้าพาไปหน่อย” ยายหนูทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ “แด๊ดดี้ไปไหนไม่รู้ แดนี่กลัว”
“พี่จะเข้าบ้านแดนี่ได้ยังไงล่ะคะ” ณดาส่ายหน้าพรืด ถ้าเธอเข้าไปแล้วนายคนหน้าเถื่อนนั่นกลับมา...ตายแน่ๆ เธอได้ลงไปคุยกับรากมะม่วงแน่!
“แต่แดนี่กลัว” ยายหนูแดเนรีสบิดตัวจนแทบจะเป็นเลขแปด “นะนะดาด้า”
“ถ้าแด๊ดดี้ของหนูมา หนูต้องช่วยพี่นะ”
“โอเค” เด็กหญิงตัวน้อยพยักหน้าแรงๆ แล้วรีบดึงมือหญิงสาวเข้าไปในบ้านอย่างเร่งรีบ พร้อมกับสูดปากไปด้วย ท่าทางบ่งบอกว่ากำลังจะกลั้นต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว
“แดนี่” ณดาทำตาโต เพราะแค่มาถึงห้องน้ำ ยายหนูก็กลั้นไว้ไม่ได้เสียแล้ว
“ดาด้าอย่าบอกแด๊ดดี้นะ” มือน้อยยกขึ้นมาปิดหน้าตัวเองอายๆ แต่ก็แอบมองลอดช่องระหว่างนิ้วมาสบตาหญิงสาว “แดนี่กลัวโดนดุ"
“โธ่” เห็นท่าทางกลัวพ่ออย่างเห็นได้ชัดของเด็กหญิงแล้วก็ยิ่งทำให้ณดาสงสารยายหนูเหลือเกิน เธอจำตอนนี้แดเนรีสเห็นเหมันต์มายืนข้างหลังเธอได้ ตอนนั้นเธอนึกว่ายายหนูเข้าใจที่เธอพูดว่าให้หลบไปไกลๆ ก่อนที่เธอจะทุบกระจก แต่ตอนนี้เธอคิดว่ายายหนูกลัวเพราะเห็นพ่อตัวเองยืนอยู่ข้างหลังเธอต่างหาก
“งั้นพี่จะช่วยทำลายหลักฐานนะ” เธอบอกยิ้มๆ และเด็กหญิงก็รีบพยักหน้าแรงๆ ตอบ
“แดนี่จะช่วยดาด้า”
สองสาวยิ้มและพยักหน้าให้กัน จากนั้นก็ลงมือช่วยกันซักกางเกงในตัวน้อยของเด็กหญิงทันที แต่แดเนรีสอายจึงอาสาที่จะทำเอง โดยมีณดาคอยช่วยกำกับและช่วยซักให้อีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าสะอาดจริง แล้วจึงนำไปตากที่บริเวณข้างบ้าน
“เรียบร้อย” ณดาก้มลงไปแปะมือกับเด็กหญิง ที่ตอนแรกก็นึกหมั่นไส้อยากจะแอบหยิกสักที แต่ตอนนี้เธอหลงรักยายหนูเข้าแล้ว เด็กอะไรน่ารักน่าชัง เสียอยู่อย่างเดียวคือมีพ่อหน้าตาน่ากลัวเหมือนมนุษย์ยุคหินหลุดออกมาจากจูราสิคเวิร์ลก็ไม่ปาน
“ดาด้า...แดนี่ต้องใส่กางเกงในใหม่นะ ไม่งั้นจะโป๊”
“แล้วกางเกงหนูอยู่ไหนล่ะ”
“อยู่ข้างบน” นิ้วป้อมๆ ชี้ไปยังชั้นสองของตัวบ้าน “แดนี่ขึ้นบันไดเองไม่ได้”
“ถ้าอย่างนั้นพี่พาไปนะ”
แดเนรีสพยักหน้า ณดาจึงยอบตัวลงเล็กน้อยเพื่ออุ้มเด็กหญิงตัวกลมที่ทำเอากล้ามแขนเธอแทบขึ้นเช่นกัน ทั้งที่ยายหนูก็ไม่ได้อ้วนมาก คะเนจากสายตาก็อายุราวๆ สี่ขวบ แต่ตัวหนักกว่าที่คิดเยอะ พอขึ้นชั้นสองมาได้ณดาก็รีบวางเด็กหญิงลงทันที
“อยู่ในนั้น”
ตากลมโตมองเข้าไปในห้องนอนชั้นสองตามที่เด็กหญิงบอก ด้วยความที่เป็นทาวน์โฮมแบบเหมือนกันทั้งหมด เธอจึงรู้ดีว่ามีสัดส่วนห้องอะไรอยู่ชั้นไหนของตัวบ้านบ้าง ทว่าเมื่อเข้ามาในห้องนอนชั้นสองก็พบว่ามันโล่งมาก ยังไม่ได้รับการตกแต่งใดๆ กระเป๋าเดินทางใบน้อยของเด็กหญิงวางอยู่กลางห้อง ยังไม่เก็บให้เป็นที่เป็นทาง บ่งบอกว่าเขาคงเพิ่งมาถึงจริงๆ
“แดนี่อยู่ตรงนี้อย่าไปไหนนะ” ณดากำชับกับยายหนูแดเนรีสอีกครั้ง การที่อยู่ๆ เธอขึ้นมาถึงบนชั้นสองของบ้านเหมันต์ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำเลยสักนิด แต่ทำยังไงได้ จะทิ้งให้เด็กหญิงอยู่บ้านโดยไม่ได้สวมกางเกงชั้นในก็จะใจร้ายไปหน่อย แต่เธอไม่รู้ว่าเหมันต์ไปไหนและไม่รู้ว่าจะไปนานไหม คงไม่ดีแน่ถ้าเขากลับมาตอนนี้
รีบเข้าไปหยิบแล้วรีบลงไปข้างล่างจะดีที่สุด!
สาวร่างเล็กเดินเข้าไปในห้องแล้วเปิดกระเป๋าลายเจ้าหญิงของแดเนรีส แต่ไม่พบว่ากางเกงชั้นในอยู่ส่วนไหนของกระเป๋า
“แดนี่...กางเกงในหนูอยู่ไหนจ๊ะ” ณดาหันไปถาม แต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้ว เพราะไม่เห็นแดเนรีสรออยู่ข้างหลังตามที่ตกลงกันไว้
“แดนี่” เสียงหวานเรียกอีกครั้ง ใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ กลัวว่ายายหนูจะตกบันไดไปหรือเปล่า เพราะถ้าเป็นแบบนั้นเหมันต์ฆ่าเธอทิ้งแน่นอน
“แดนี่กำลังหาตุ๊กตา” เสียงเด็กน้อยตอบกลับ
ได้ยินเสียงตอบอยู่ไม่ไกลของยายหนูณดาก็ค่อยกลับมาหายใจทั่วท้อง แล้วจึงหากางเกงชั้นในของเด็กหญิงต่อ แต่หาไม่เจอ คิดว่าอาจจะอยู่ที่อื่น เธอจึงกวาดตามองไปรอบห้องจนกระทั่งเห็นกระเป๋าสีเข้มอีกใบที่อยู่มุมห้อง
“ขออนุญาตนะคะพี่เถื่อน” เธอกระซิบเบาๆ พร้อมกับยกมือท่วมหัว หวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยกันดึงขาเหมันต์ไว้อย่าเพิ่งให้เขากลับมาตอนนี้ แล้วจึงเปิดกระเป๋าเขาต่อ หวังจะค้นหากางเกงชั้นในเจ้าปัญหาของเด็กหญิงแดเนรีส
ทว่าสิ่งที่เห็น...ทำเอาณดาตาแทบถลนออกมาจากเบ้า!
อาวุธปืนมากมายหลากหลายชนิดอยู่ในกระเป๋าของเขา ทั้งปืนพกสั้นและเครื่องกระสุน แถมในตู้ด้านหลังยังมีปืนลูกซอง ปืนไรเฟิลแบบซุ่มยิงและอุปกรณ์ต่างๆ มิน่าเล่าเขาถึงไม่ให้ลูกสาวขึ้นมาบนบ้านตามลำพัง
อย่าบอกนะว่า...
โจร!
มือบอบบางทิ้งรูปพวกนั้นแล้วรีบปิดกระเป๋า ช่างกางเกงในของยายหนูเถอะ ต่อให้สงสารเด็กแค่ไหนแต่เธอรักชีวิตตัวเองมากกว่า เพราะถ้าเหมันต์จับได้ว่าเธอรู้ เขาไม่เอาเธอไว้แน่ เธอยังไม่อยากตายตอนนี้ เพราะยังห่วงพ่อแม่ หมาแมวที่บ้านแม่ จิ้งจกตุ๊กแกแมลงสาบในบ้านอีกมากมายที่เธอยังห่วง และที่สำคัญ...ยังไม่มีสามีเลย
ร่างเล็กบอบบางลุกขึ้นแล้วหมุนตัวจะวิ่งออกจากห้อง แต่แล้วก็ต้องชะงัก ยืนขาตายอยู่กับที่ทันทีที่มองเห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ยืนกอดอกพิงกรอบประตู ทั้งยังมองเธอด้วยสายตาเยือกเย็น
“เห็นหมดแล้วสินะ” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับจ้องมองสาวร่างบอบบางตรงหน้าด้วยแววตาเหมือนเสือสะกดเหยื่อ
เหมันต์ก้าวเข้ามาหาณดาช้าๆ ท่าทางสบายๆ แต่แฝงไปด้วยความคุกคาม สายตามาดร้ายของเขาเป็นดังสัญญาณเตือนให้เธอหนี ณดาก้าวขาไม่ออกจนกระทั่งเขาเข้ามาจนชิดแล้วรวบต้นแขนทั้งสองข้างเธอไว้
“รู้ความลับของผมแล้ว ผมคงปล่อยคุณออกไปเฉยๆ ไม่ได้” มุมปากได้รูปยกยิ้มเล็กน้อย ทว่าสายตากับเยือกเย็นเหมือนพวก...ฆาตกร!
จากที่กลัวอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เธอกลัวจนแทบพูดไม่เป็นคำ สายตาของเขาชวนให้นึกไปถึงพวกฆาตกรโรคจิตในภาพยนตร์ แต่นั่นไม่เท่ากับสิ่งที่เขาพูด มันคือการตอกย้ำยืนยันว่าสิ่งที่เธอคิดคือความจริง
“ปล่อยฉัน” ณดาพยายามทำใจดีสู้เสือ แต่ไม่ได้ผล เหมันต์รวบข้อมือทั้งสองข้างไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียวแล้วพาร่างบอบบางออกจากห้องทันที
เขาจะพาเธอไปไหน!
เขาจะพาเธอไปไหน!
ณดาดิ้นสุดแรงแต่ไม่อาจสู้แรงของผู้ชายตัวใหญ่อย่างเหมันต์ได้ เธอมองซ้ายมองขวาหาแดเนรีส แต่ไม่เจอ จนกระทั่งลงมาชั้นล่างแล้วได้ยินเสียงโทรทัศน์ฉายภาพการ์ตูนเจ้าหญิงบาร์บี ก็รู้ทันทีว่าเหมันต์คงมานานแล้ว เขาคงพาลูกลงมาก่อนแล้วค่อยเล่นงานเธอทีหลัง
“แดนี่...อุ๊บ!” สาวผู้เคราะห์ร้ายพยายามเรียกเด็กหญิงเพียงคนเดียวที่พอจะช่วยเธอได้ แต่ยังไม่ทันพูด มือหนากร้านก็ปิดปากเธอไว้อย่างแรง แล้วลากเธอเข้ามาในห้องเล็กที่อยู่ถัดจากห้องนั่งเล่นชั้นล่าง ที่ภายในห้องปิดหน้าต่างมิดชิด ผ้าม่านสีเข้มผืนหนาบดบังแสงจากด้านนอกเกือบหมด มีเพียงแสงสลัวรางพอมองเห็นว่ามุมสุดของห้องมีโต๊ะทำงานที่ด้านหลังมีไวต์บอร์ดถูกเขียนแผนผังและรูปภายใบหน้าของผู้คนมากมายที่เธอไม่รู้จัก และอีกด้านเป็นโซฟาเบดสีแดงเลือดนกกลืนไปกับความมืดภายในห้อง
ปัง!
เสียงปิดประตูดังสนั่นข่มขวัญสั่นประสาทของณดาจนเธอแทบสิ้นสติ จินตนาการไปล้านแปดว่าเขาจะทำอะไรกับเธอ
ตายแน่ๆ...เธอตายแน่!
คงไม่ดีแน่ถ้ามีพาดหัวข่าวตามเว็บข่าวออนไลน์ว่า ‘สลดสาวแร้งทึ้งถูกพบเป็นศพหลังบ้านชายโฉดเหตุเพราะไปเสือกไม่เข้าเรื่อง’ หรือไม่ก็ ‘ตะลึง! อวสานสายเผือก เสพเผือกจนตายอนาถ’
ในวาระสุดท้ายของชีวิต คนเรามักจะคิดถึงพ่อแม่เสมอ คนใกล้ตายอย่างเธอได้แต่ขอโทษพ่อกับแม่อยู่ในใจ ที่หาเรื่องใส่ตัว ปล่อยให้ความอยากรู้อยากเห็นบังตา ถึงต้องมีจุดจบแบบนี้ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เธอจะไม่ยุ่งเรื่องของใครอีกแล้ว
ณดาหลับตาลงยอมจำนนต่อความตายที่กำลังจะมาถึง แต่จนแล้วจนรอดเหมันต์ก็ไม่ลงมือเสียที เธอยังหายใจก็จริง แต่กลับรู้สึกถึงลมหายใจของใครอีกคนอยู่ใกล้ๆ
กลิ่นมินต์เสียด้วย
ว่าแต่...ใคร!
ตากลมโตเปิดพึ่บแล้วก็ตกใจแทบเสียสติเมื่อเห็นว่าโจรใจโฉดก้มลงมาหาเธอในระยะใกล้ ใกล้...ชนิดที่ว่าแทบจะจูบเธออยู่แล้ว
“พร้อมที่จะตายแล้วใช่ไหม” เหมันต์ถามพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย
รอยยิ้มโรคจิตแบบของพวกฆาตกร...
เขาจะไม่ ‘ข่มขืน’ ก่อนแล้วค่อย ‘ฆ่า’ ทิ้งใช่ไหม!
บทที่ 3 สัญญาทาส
ร่างสูงเดินออกจากห้องทำงานไปดูลูกสาวที่นอนดูการ์ตูนอยู่สักพักก็หลับไปอย่างง่ายดาย เพราะเดินทางมาตอนกลางคืนทั้งยังเป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรกก็มาไกลคนละซีกโลก ส่งผลให้ยังเจ็ตแล็กมาจนถึงตอนนี้ จึงยังปรับเวลานอนไม่ได้และยังคงนอนไม่เป็นเวลา
แต่ก็ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องรับรู้ว่าข้างในห้องทำงานนั้น ‘เดือด’ แค่ไหน
หนุ่มหน้าดุก้มลงห่มผ้าให้ลูกสาว แล้วเดินไปปิดม่านและประตูบ้านจนเรียบร้อย จากนั้นจึงเดินกลับมาปรับเครื่องปรับอากาศให้เย็นลงอีกนิด แล้วจึงเดินกลับเข้าไปในห้องเล็กหลังห้องนั่งเล่น ที่เปรียบได้ดัง ‘ห้องแห่งความลับ’ ของเขา
ตาคมปลาบมองไปยังร่างเล็กแบบบางที่นอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่บนโซฟาเบดมุมห้อง ผู้หญิงที่มองแค่ปราดเดียวก็รู้ว่า ‘ตัวยุ่ง’ แน่นอน การก้าวเข้ามาของเธอทำให้ ‘แผนการ’ ของเขาพังไปเกือบหมด และอีกอย่าง...เธอเห็นของสำคัญของเขาและนั่นก็ทำให้เขาไม่อาจปล่อยเธอได้อีกแล้ว
เหมันต์เดินเข้าไปใกล้ มองคนที่แค่เขาถามว่าพร้อมจะตายหรือยัง เธอทำตาเหลือกแล้วสลบไปทันที แรกทีเดียวเขาก็คิดว่าเธอแกล้งทำเพื่อเอาตัวรอด แต่เนื้อตัวนุ่มนิ่มที่อ่อนปวกเปียกเหมือนไร้กระดูกอยู่ในอ้อมแขนของเขานั้นบ่งบอกว่าเธอเป็นลมไปจริงๆ จึงใช้กุญแจมือล็อกข้อมือเล็กไว้กับขาโต๊ะ แล้วนั่งจับตามองเธออย่างเงียบๆ
ดูท่าเขาจะปล่อยเธอออกไปง่ายๆ ไม่ได้เสียแล้ว
เสียงโลหะกระทบกันดังขึ้นหลายครั้งจนหญิงสาวร่างเล็กที่สลบไปนานเริ่มขยับเล็กน้อย จากนั้นจึงลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ จากเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ ทำให้เธอผวาลุกขึ้นแล้วมองไปรอบตัวทันที คิดว่าถ้าตายแล้ว รอบตัวคงจะเป็นสีขาวและเต็มไปด้วยปุยเมฆสวยงามโอบอุ้มเธอไว้ ไม่ต้องเจ็บไม่ต้องทรมานเหมือนตอนก่อนตาย แต่สิ่งที่เห็นกลับไม่เป็นอย่างที่คิด
ภาพแรกที่เห็นคือผ้าม่านสีทึบที่บดบังแสงสว่างจากด้านนอกไปจนหมดสิ้น หญิงสาวขมวดคิ้วทันทีที่คิดได้ว่านี่ไม่ใช่บ้านของเธอ ไม่ใช่สวรรค์ ไม่มีปุยเมฆที่ไหนมาโอบอุ้มเธอทั้งนั้น...แต่เป็นบ้านของเหมันต์!
“ตื่นแล้วหรือ”
เพียงได้ยินเสียงเข้มคุ้นหูที่ดังอยู่ด้านข้าง ณดาก็สะดุ้งสุดตัวแล้วหันขวับ ตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นชายหนุ่มนั่งจ้องเธอด้วยแววตาแข็งกร้าว มือข้างหนึ่งขยับมีดพับอย่างดีในมืออย่างคล่องแคล่ว
โอเค...เธอยังไม่ตาย แต่พอเห็นมีดในมือเหมันต์ ณดาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเธอเหลือเวลาไม่มากแล้ว คิดได้ดังนั้นสาวร่างเล็กบอบบางก็ลุกพรวดขึ้นทันทีแต่กลับหนีไปไหนไม่ได้ไกล เพราะข้อมือถูกพันธนาการไว้กับขาโต๊ะ ตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นกุญแจมืออันใหญ่
ถึงขั้นคล้องกุญแจมือเธอไว้แบบนี้...ต่อให้อยากหนีก็หนีไม่รอดแล้ว
“ขอสั่งเสียก่อนได้ไหมคะ” ณดาถามเสียงสั่น ใจนึกถึงแต่พ่อแก้วแม่แก้ว นึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง เตรียมอธิษฐานขอไปเกิดในภพภูมิที่ดี และที่สำคัญ ขออย่าเจอเขาอีกเลย
ชาติเดียวก็พอแล้ว...สาธุ
“พูดเรื่องอะไร” เหมันต์ขมวดคิ้ว มองเธอด้วยสายตาเหมือนเห็นตัวประหลาด ในขณะที่มือยังควงมีดพับในมือเล่นพร้อมกับมองเหยื่อตัวน้อยตรงหน้าตาไม่กะพริบ
สายตาเยือกเย็นของเขากดดันณดาอย่างหนัก เขามองเธอ เธอก็มองมีดในมือเขา ดวงใจดวงน้อยเต้นรัวแรงอย่างหลอนๆ ว่าเขาจะ ‘ลงมือ’ เมื่อไหร่ แต่เขาก็ไม่ทำอะไรเลยนอกจากมองจนเธอแทบเสียสติ
จะลงมือก็ทำเสียที...กดดันกันด้วยสายตาแบบนี้เธอกำลังจะสติแตกอยู่แล้ว!
แน่นอนว่านั่นคือสิ่งที่คิดในใจเท่านั้น หน้าอย่างเธอนี่หรือจะกล้าพูดจริงๆ แค่จะขยับตัวยังไม่กล้า ได้แต่นั่งรอคอยท่านผู้กุมชะตากรรมของเธอต่อไป
“ผมไม่ฆ่าคุณหรอก”
“จริงหรือคะ” ณดาถอนหายใจโล่งอก ตั้งใจจะขอบคุณที่เขามีเมตตากรุณาต่อสิ่งมีชีวิตน้อยๆ อย่างเธอ แต่ยังไม่ทันได้พูด เธอก็ต้องสะดุ้งตัวโยนเมื่อได้ยินประโยคต่อมาจากปากเหมันต์
“ยังไม่ใช่ตอนนี้”
คนฟังตกใจแทบสิ้นสติ ภาพตรงหน้าพร่ามัว รู้สึกหวิวตาลายคล้ายจะเป็นลมเมื่อได้ยินคำตอบของเขา เขาบอกว่าจะไม่ฆ่าเธอตอนนี้ แต่ไม่ได้บอกว่าจะไม่ฆ่าเสียหน่อย แล้วเขาจะเก็บเธอไว้ทำไม
อย่าบอกนะว่าเขาเป็นพวกชอบทรมานเหยื่อ หรือไม่ก็... ‘ข่มขืน’ ก่อนแล้วค่อยฆ่า!
“ผมมีเรื่องตกลงกับคุณ” หนุ่มหน้าเข้มพูดขึ้นทันทีที่เห็นสีหน้าแววตาตระหนกของสาวตรงหน้า ไม่บอกก็รู้ว่าป่านนี้เธอคงคิดไปถึงไหนต่อไหน แต่เขาก็ไม่คิดแก้ความเข้าใจผิด ให้กลัวแบบนี้แหละดี
“ค่ะ!” คนถูกข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่าตอบตกลงแบบไม่รอฟังเลยสักนิดเดียว นาทีนี้เธอยอมสิ้น ขอให้เขาไม่ฆ่าเธอก็พอ เธอยังไม่อยากตายตอนนี้
แกล้งเก่งมากกกก
พี่เหมแกล้งสาวเก่งมากกกกกก
ความคิดเห็น