ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อยากบอกนายว่า "ไปตายซะน่อ!!!"

    ลำดับตอนที่ #16 : บทที่ 14 ค่าสินสอดที่ถูกเรียกจากแม่เจ้าสาว มันเยอะจนแทบจะกินข้าวกับแกลบ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.12K
      40
      23 เม.ย. 58

     

     บทที่ 14 ค่าสินสอดที่ถูกเรียกจากแม่เจ้าสาว มันเยอะจนแทบจะกินข้าวกับแกลบ

     

                           

                  หลังจากที่ได้เดินตรวจเมืองเสร็จแล้ว ทั้งสามคนก็เดินทางกลับซินเซ็นงุมิ และก็เป็นเวลาพอดีที่แขกคนใหญ่คนโตกลับไปแล้ว

                 ในระหว่างที่เดินผ่านห้องรับแขกของซินเซ็นงุมิ ทั้งสามก็สังเกตุเห็นคอนโด้กับิจิคาตะนั่งทำหน้าซีเรียสกันอยู่จึงเดินเข้าไปหา

              “ทำหน้าอย่างนั้น ญาติเสียรึไง” กินโทกิเริ่มต้นด้วยประโยคคำถามที่ชวนกระทืบ

              “ญาติเสียบ้านป้าแกสิไอ้หัวหงอก” ฮิจิคาตะหันมาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

              “หรือว่าคุณเป็นโรคมะเร็งแล้วใช่มั้ยครับ คุณฮิจิคาตะ” โซโกะถามบ้าง (ไม่ต้องถามก็ได้มั้ง)

              “ถ้าเป็นแบบนั้นฉันก็คงไม่สนอะไรหรอก” ฮิจิคาตะยังคงตอบด้วยสีหน้าแบบเดิม

              “แล้วมีเรื่องอะไรกันน่อ” คราวนี้เป็นสาวหมวยที่เอ่ยถามขึ้น

              “พวกนายก็รู้กันแล้วใช่มั้ยว่าวันนี้มีแขกคนสำคัญมาที่นี่” คอนโด้เริ่มต้นพูดขึ้น

              “ก้พอรู้ แล้วมีเรื่องอะไร เขาสั่งยุบที่นี่งั้นหรอ” กินโทกพูดพลางเดินมานั่งฝั่งตรงข้ามกับฮิจิคาตะพร้อมกับโซโกะและคางุระ

               “ฮ่าๆๆๆๆ มั่นใจนะว่าปากน่ะ แต่ช่างเถอะมันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรหรอก”

               “ก็แล้วมันเรื่องอะไรล่ะน่อ อากอริลล่า”

               “ก็วันนี้น่ะ...ขุนนางในวังเข้ามาที่ซินเซ็นงุมิ เขาบอกว่าต้องการจะเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคนของเรากับคนของเขาน่ะ”

              “เลยจะให้คุณคอนโด้แต่งงานกับผู้หญิงในวังหรอ” หนุ่มเอสเอ่ยถามขึ้นบ้าง

              “ฮ่าๆๆๆๆ ยังฉลาดเหมือนเดิมเลยน่ะโซโกะ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกน่ะ”

              “ไม่ใช่ทั้งหมดงั้นหรอครับ แล้วมันเป็นยังไงล่ะครับ”

              “เรื่องแต่งงานน่ะถูกแล้วล่ะ แต่คนที่เขาต้งการให้แต่งไม่ใช่ฉันหรอก”

              “ไม่ใช่ลื้อ แล้วใครกันอ่ะน่อ”

             คอนโด้เงียบพักหนึ่งก่อนจะพูดขึ้นมา

             “คนที่เขาต้องการให้แต่งงานกับหญิงสาวในวังเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์คราวนี้เป็น โทชิน่ะ”

             ทุกคนหันไปมองหน้าชายหนุ่มที่ตกเป็นเครื่องเชื่อมความสัมพันธ์ที่ตอนนี้ตีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด เขาสูบควันบุหรี่เข้าปอดก่อนจะพ่นออกมาแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่

              “ก็เรื่องดีนีน๊า ไอ้ปีศาจนิโคตินจะได้ทำตัวเป็นผู้เป็นคนกับเขาซักที” กินโทพุดพลางใช้นิ้วแคะขี้มูก

              “ดีกับผีน่ะสิ ฉันไม่ได้อยากแต่งงานซะหน่อย” ฮิจิคาตะเอ่ยขึ้น

               “แล้วทำไมถึงเป็นอีตามายองเลอร์อ่ะน่อ”

               “ฝ่ายผู้หญิงเขาเป็นคนขอร้องมาน่ะ ว่าต้องเป็นโทชิเท่านั้น”

               “งั้นลื้อกับอาตี๋นี่ก็หญิงไม่แลสิน่อ”

                “หล่อนอย่าเอาฉันไปรวมกับไอ้แว่นโอตาคุจืดจางนั่นสิ เห็นแบบนี้แต่พวกหมูตัวเมียก็ยอมศิโรราบเมื่ออยู่ต่อหน้าฉันทั้งนั้น” โซโกะพูดอย่างภาคภูมิใจ

                “อย่างน้อยก็ไม่ใช่อั้วอ่ะน่อ”

                “ฉันจะทำให้หล่อนยอมก้มหัวให้ฉันเอง หึหึ” โซโกะหันไปแสยะยิ้มใส่คางุระที่นั่งอยู่ข้างๆ

                “ไม่มีทางหรอกน่อ ยี้” คางุระบุ๊ยหน้าใส่โซโกะอย่างรู้สึกหมั่นไส้

                “แล้วงานแต่งจะเริ่มเมื่อไหร่” กินโทกิพูดขัดและยังคงทำสีหน้าปลาตายตามเคย

                

                ปัง!

                  เสียงมือของคนๆหนึ่งทุบลงโต๊ะทำให้เกิดเสียงดังจนทุกคนหันมามองเป็นทางเดียวกันด้วยความตกใจ

               “จะไม่มีงานแต่งอะไรทั้งนั้น” ฮิจิคาตะพูดด้วยความหงุดหงิด

               “หมายความว่าไงกันครับ คุณฮิจิคาตะ” โซโกะเป็นคนแรกที่พูดขึ้นหลังจากเงียบกันไปได้ซักพัก

               “ก็อย่างที่โทชิว่านั่นแหละ พอได้ยินแบบนั้นโทชิก็ปฏิเสธทันทีเลย” คอนโด้พูดขึ้นบ้าง

               “แบบนั้น ขุนนางที่มาวันนี้คงฉุนน่าดูเลยสิ”

                  “ใช่แล้วล่ะ พอโทชิปฏิเสธเขาโมโหขึ้นทันที แต่ดูเหมือนจะไม่ยอมซะด้วยสิ”

               สีหน้าของคอนโด้ดูหม่นหมองลงอย่างสังเกตุได้ ทำให้ทุกคนในที่นี้ต่างก็นั่งเงียบไปตามๆกัน

               “แต่ว่าน่ะ ฉันไปตกลงกับขุนนางคนนั้นมาแล้ว เขาบอกว่าจะยกเลิกการแต่งงาน ก็ต่อเมื่อ....” คอนโด้พูดขึ้นอย่างใจเย็นทำให้ทุกคนหันมามองอย่างตั้งใจโดยเฉพาะฮิจิคาตะ

               เขาเงียบพักหนึ่งก่อนจะ..........

     

                จะ..........................

     

                จะ....

     

                ซู้ดดดด!!

     

                  ยกแก้วน้ำชาขึ้นมาดื่ม

             

              ทุกคนหงายหลังขาชี้ฟ้ากันเป็นแถบๆ

              “อากอริลล่า ลื้ออยากตายมากใช่มั้ยน่อ อั้วไม่ชอบค้างคารีบบอกมาซะทีเซ่” คางุระตรงเข้ากระชากคอเสื้อชายร่างใหญ่แล้วเงื้อมือขึ้นเพื่อเตรียมปล่อยหมัดใส่อย่างเสียอารมณ์

                    “จะ...ใจเย็นๆสิอาหมวย ก็ฉันคอแห้งนี่น๊า เลยต้องดื่มชาซักหน่อย” คอนโด้รู้สึกเหงื่อตกเล็กน้อย เพราะเด็กสาวตรงหน้าทำได้มากกว่าที่เขาคิด เขาอาจถึงตายได้ถ้าทำอะไรไม่ถูกใจเธอ

                            “ลื้อก็บอกมาเร็วๆสิน่อ หรือจะให้อั้วเอาเลือดหัวลื้อออกมาก่อน” คางุระทำสายตาอำมหิตทำให้คอนโด้เหงื่อตกมากกว่าเดิม

                    “บะ...บอกแล้วจ้า บอกแล้ว”

                    ได้ยินดังนั้น คางุระจึงปล่อยคอเสื้อชายร่างยักษ์ แล้วกลับมานั่งที่เดิม

                    “อะ..แฮ่ม คือ ขุนนางคนนั้นบอกว่าจะยกเลิกการแต่งงาน ถ้า...โทชิมีคนที่หมายตาไว้แล้ว”

                   

                    “หมายตาไว้แล้วงั้นหรอครับ” โซโกะพูดขึ้น

                    “ใช่แล้ว จะพูดให้ถูกคือมีแฟนแล้วนั่นแหละ” คอนโด้หยิบชาขึ้นมากินอีกรอบ

                           

                    ได้ยินดังนั้นฮิจิคาตะก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะหยิบบุหรี่ม้วนใหม่ขึ้นมาคาบแล้วใช้ไฟแช็คจุดไฟตรงปลายบุหรี่

                            “งั้นก็แปลว่าถ้าบอกเขาไปว่ามีแฟนแล้ว ไอ้บ้ามายองเลอร์นี่ก็ไม่ต้องแต่งงานแล้วงั้นสิ ดีใจด้วยนาเหวย” กินโทกิพูดพลางตบบ่าฮิจิคาตะเบาๆ

                            “แล้วทำไมหน้าแกมันถึงบ่งบอกว่าเสียดายโคตรๆขนาดนั้นว่ะ”

                    “งั้นคุณฮิจิคาตะก็ไม่ต้องย้ายไปอยู่ในวัง แล้วยกตำแหน่งรองหัวหน้าให้ผมสิน่ะครับ” โซโกะทำสีหน้าเศร้าสร้อย

                    “นี่แกคิดเรื่องนี้อยู่งั้นเรอะ”

                    “หวา อั้วนึกว่าจะกำจัดมายองเนสไปได้ซะเลี่ยวน่อ”

                    “มายองเนสมันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยรึไง”

     

                    “เอ่อ.....”

                    ในระหว่างที่ทั้งสถานการณ์กำลังดีขึ้นเพราะเสียงเถียงกันขอลคนสามคน คอนโด้ก็เอ่ยแทรกขึ้น

                    “มีอะไรหรอครับคุณคอนโด้” เป็นฮิจิคาตะที่หันมาถาม

                    “คือว่าน่ะ....ขุนนางคนนั้นบอกว่าจะยกเลิกการต่งงานถ้าโทชิมีแฟนก็จริง แต่ถ้าพาผู้หญิงคนนั้นมาพบไม่ได้ เขาก็จะไม่ยอมรับว่าโทชิมีแฟนแล้วน่ะสิ”

                   

                    ฮิจิคาตะถึงกับหน้าซีดเผือดแทบจะล้มทั้งยืนเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาไม่รู้ว่าทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดกับเขาด้วย ทั้งที่เขาไม่คิดจะแต่งงานกับใครเลยตั้งแต่ผู้หญิงที่เขารักจากไป

                    เหมือนกินโทกิจะรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร รู้สึกยังไงอยู่ ชายผมหยักมองคนข้างๆอย่างรู้สึกเห็นใจจึงหาทางช่วย

                    “มีแฟนแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นแฟนจริงๆนี่”

                    “อะไรกังอ่าน่อ อากินจัง” คางุระถามขึ้นอย่างรู้สึกสงสัย

                    “ก็แฟนหลอกๆไง ยัยโง่” โซโกะหันมาตอบใส่หูคางุระทำให้เจ้าหล่อนต้องเอนตัวหนี

                    “ไม่ได้ถามลื้อน่อ เงียบไปเลย”

                    “เห็นผู้หญิงโง่ๆอย่างหล่อนแล้วมันขัดหูขัดตาชะมัด ฉันเลยแสดงความฉลาดให้ดูเป็นขวัญตาไง สำนึกบุญคุณไว้ซะ”

                    “รู้แค่นี้ไม่ถือว่าฉลาดหรอกน่อ ความรู้แค่เด็กป.3 ก็ตอบได้แล้วน่อ”

                    “งั้นหล่อนก็โง่กว่าเด็ก ป. 3 น่ะสิ แค่นี้ก็ไม่รู้”

                            “ซักยกมั้ยน่อ อาตี๋” คางุระถลกแขนเสื้อขึ้นพลางทำท่าหาเรื่อง

                    “ก็เอาสิ ยัยหมวย” โซโกะเหยียดยิ้มอย่างนึกสนุก

                    “นี่พวกนายสองคนน่ะเลิกทะเลาะกันได้แล้ว เรากำลังหางช่วยโทชิอยู่น่ะ” คอนโด้รีบพูดห้ามแต่ก็ไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะเด็กสองคนนั้นอันตรายพอกัน ถ้าเข้าไปห้ามอาจทำให้เขาถึงชีวิตได้

                    “แล้วแกจะว่าไง ไอ้ปีศาจนิโคติน” กินโทกิหันมาถามฮิจิคาตะโดยไม่สนว่าคนที่เหลือกำลังจะทำอะไร

                    “อา..ถึงจะไม่ชอบขี้หน้าแกเท่าไหร่ แต่ก็ขอบใจล่ะกัน” ฮิจิคาตะเปรยยิ้มออกมาน้อยๆ

                     

                   

                    ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนพลางทำสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะหันไปหาคอนโด้

                    “คุณคอนโด้ครับ แค่พาผู้หญิงซักคนไปพบ แล้วโกหกว่าเป็นแฟนก็พอสิน่ะครับ”

                    “อ่ะ..อ่อ ใช่”

                    “ถ้างั้น ต้องหาผู้หญิงซักคนมาช่วยงานนี้”ฮิจิคาตะทำท่าครุ่นคิด พลันสายตาก็หันไปมองเด็กสาวผมส้มที่กำลังก่อสงครามน้ำลายกับโซโกะอยู่

                    “แล้วแกจะหาผู้หญิงที่ไหนมาแสดงละครตบตาว่าเป็นแฟนแกกันล่ะ ที่โยชิวาระมีเยอะแยะเลย นายจะเอามั้ยล่ะ” ชายผมหยักออกความเห็น

                    “ไม่จำเป็นหรอก...” ฮิจิคาตะเดินไปหาคางุระแล้วดึงแขนเธอให้ลุกขึ้น

                    “หืม? มีอะไรน่ออามายองเลอร์” หญิงสาวถามด้วยความงุนงง

                    “นี่ยัยหมวย....”

                    “อะไรหรอน่อ”

     

                    “ช่วยเป็นแฟนฉันซักวันหนึ่งสิ”

     

                            ณ วินาทีนั้น ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ ต่างคนต่างอึ้ง แม้แต่หนุ่มซาดิสม์อย่างโซโกะก็ยังตัวแข็งทื่อ

                    “หา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

                            เสียงของกินโทกิกับคอนโด้ประสานขึ้นมาพร้อมกัน

                    “จะบ้ารึไงไอ้ปีศาจนิโคติน ยัยคางุระเนี่ยน่ะ” กินโทกิลุกขึ้นมาถามด้วยตกใจปนสงสัย

                    “ใช่ โทชิ อีกอย่างแม่หนูหมวยนี่ยังเด็กอยู่เลย เด๋ยวคนอื่นก็คิดว่านายเป็นพวกโลลิค่อนหรอก” คอนโด้พูดเสริมอีกคน

                    “ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ครับ ก็แค่แฟนหลอกๆ” ฮิจิคาตะพูด

                    “ผมว่ายัยนี่น่าจะทำงานพังมากว่าสำเร็จน่ะครับ” โซโกะพูดขึ้นแต่หน้าตาแฝงไปด้วยความหงุดหงิดไม่น้อย

                    “ฉันไว้ใจยัยนี่ แล้วเธอจะว่าไง” ฮิจิคาตะหันมามองเด็กสาวผมส้มที่ยังคงทำหน้าเอ๋อประมาณว่า ที่นี่ที่ไหน

                    คางุระมองหน้าชายหนุ่มพร้อมทำหน้าครุ่นคิดก่อนจะเอ่ยปากตอบ

                    “อืม...แต่อั้วไม่ชอบทำอะไรไร้สาระพรรค์นี้น่อ” คางุระพูดพลางเชิดหน้าไปทางอื่น

                    “สาหร่ายดอง 10 ห่อ”

                    “คิดว่าอั้วจะเห็นแก่กินขนาดนั้นเลยหรอน่อ”

                    “งั้น 10 ลัง”

                    “ค่าตัวอั้วไม่ได้ถูกขนาดนั้นหรอกน่อ”

                    “งั้นสาหร่ายดองตลอดชีวิตเลย เป็นไง”

                    “โอ้! ปล่อยให้เป็นหน้าที่อั้วเองน่อ อามายองเลอร์

                    “ค่าตัวถูกมากเลยว้อยยยยยยย!!!” คอนโด้กับกินโทกิตวาดลั่น

                    “งั้นตกลงตามนี้ พรุ่งนี้เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ”

                    “โอส! ได้เลยน่อ”

                   

                   

                   

                    ทุกคนยังคงคุยกันอยู่อย่างนั้น มีเพียงชายผมสีน้ำตาลอ่อนเท่านั้นที่นั่งเงียบไม่พูดอะไร จากการกระทำของคนตรงหน้า ทำให้เขารู้สึก หมั่นไส้ อย่างไม่รู้ตัว   

                

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×