ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    World At War : Strike back ภาค2

    ลำดับตอนที่ #11 : เข้าสู่เวียดนาม

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 182
      2
      29 มี.ค. 61

    วันที่ 11 พฤศจิกายน กองทัพนาวิกโยธินสหรัฐมากกว่า5กองพลรุกเข้าเวียดนาม พร้อมกับกองทัพอังกฤษ ญี่ปุ่น แคนาดาและจีนที่ยกพลขึ้นบกทั่วชายฝั่งตะวันออก 

    ทัพอากาศและทัพเรือสหรัฐสามารถครองน่านฟ้าได้สำเร็จ ทำให้การรบในเวียดนามจะง่ายขึ้นไปอีก ทัพเรือสหรัฐและทัพเรือญี่ปุ่นครอบครองน่านน้ำในทะเลจีนใต้ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เหลือแค่เวียดนามเท่านั้นที่ยังตีไม่เข้า

    กองพลนาวิกฯสหรัฐทั้งหมด7กองพลบัญชาการโดยนายพลเก็นน์ เอ็ม. วอลเตอร์ 
    กองพลยานเกราะเบาอังกฤษ4กองพลบัญชาการโดยนายพลนิโคลัส คาร์เตอร์ 
    กองพลทหารราบญี่ปุ่น10กองพลบัญชาการโดยนายพลเมงูเระ โอมาโงะ

    ทั้งสามกองพลต่างอยู่คนละฟากของเวียดนาม กองพลนาวิกของสหรัฐอยู่ที่ตอนใต้ฝั่งกัมพูชา ส่วนกองทัพญี่ปุ่นอยู่ที่ชายแดนจีน กองทัพอังกฤษอยู่เหนือขึ้นไปจากกองทัพสหรัฐ420กิโลเมตรที่เมืองดักจึง และทั้งสามทัพจะรุกเข้ามาพบกันที่ดานัง 

    ณ กองบัญชาการภาคพื้นแปซิฟิก ฐานทัพเรือสัตหีบ ชลบุรี

    วันที่ 12 พฤศจิกายน นายพลทั้งสามถูกเรียกโดยนายพลสจวตส์ สมิธ ผบ.สูงสุดของกองทัพภาคพื้นแปซิฟิก และได้สรุปแผนการภายใต้ชื่อ ปฏิบัติการ"พายุแดง" โดยกองทัพอังกฤษจะแบ่งเป็น2ทิศ เหนือและใต้ โดยเหนือจะไปสมทบกับทัพญี่ปุ่นที่เมืองวิญ ส่วนทัพใต้จะไปสมทบกับกองทัพสหรัฐที่เมืองโฮจิมินห์

    (ขอบอกก่อนนะ ตอนนี้จะลองเปลี่ยนรูปแบบคือจะไม่อธิบายสถานการณ์แบบเราอยู่ในเหตุการณ์ แต่จะเล่าแบบเราเป็นนายพลและต้องคอยดูแลทหารของตัวเอง^^)

    วันที่ 14 พฤศจิกายน ณ กองบัญชาการภาคพื้นแปซิฟิก นายพลวอลเตอร์กับคาร์เตอร์มาพบกันก่อนเวลาที่นัดกันไว้

    "คาร์เตอร์? นายมาเร็วไปนิ"วอลเตอร์ถาม

    "พอดีฉันต้องมาเคลียร์รายงานของภารกิจที่แล้วน่ะ เลยมาทีเดียวเลย"คาร์เตอร์บอกวอลเตอร์

    "แล้วสถานการณ์ในจีนเป็นยังไงบ้าง?"วอลเตอร์ถามกลับ

    "ก็ยื้อได้เรื่อยๆน่ะนะ แต่ถ้าทัพเสริมยังมาไม่ถึง เราจะเสียคุนหมิงไปน่ะ"คาร์ตอร์ตอบและเดินไปที่ห้องเอกสาร ส่วนวอลเตอร์ก็ไปรอที่ห้องยุทธการ

    "เฮ้อ....ทหารในแนวหน้าเวียดนามก็น้อยซะ...แบบนี้อาจบุกไม่เข้าก็ได้นะเนี่ย.."วอลเตอร์กางแผนที่และบ่นกับตัวเอง

    "อ้าว? แล้วคาร์เตอร์ล่ะ?"นายพลเมงูเระเดินเข้ามา

    "คาร์เตอร์ไปเคลียร์เอกสารภารกิจเก่าน่ะครับ อีกเดี๋ยวก็คงตามมา แต่ทำไมนายมาเร็วจัง? กว่าจะประชุมก็อีกตั้งครึ่งชั่วโมงนะ"

    "แล้วนายมาเร็วทำไมล่ะ?"

    "ก็ผมไม่รู้ว่าจะอยู่ที่พักไปทำไม ก็เลยมาเดินเล่นที่ค่าย"

    "แหมๆๆ มากันพร้อมหน้าเชียว งั้นเราเริ่มคุยกันดีกว่านะ"คาร์เตอร์เดินเข้ามา

    "ดีเลย มาคุยกันก่อนดีกว่านะ เรามีทั้งหมด21กองพลและคอยมีทัพอากาศและทัพเรือสนับสนุน แต่ตามข้อมูลที่เรามีละก็...มันมีกองพลทหารราบ400กองพล(4ล้าน5แสนคน) และก็รถถังอีก4หมื่นคัน"เมงูเระรายงานสถานการณ์

    "เดี๋ยวนะ!!! พวกมันมีทหารมากกว่าเราถึง20เท่าเลยเหรอ??!!"วอลเตอร์ตะลึง

    "ใช่ นั่นแหละที่น่ากลัว แต่เรายังมีพลเรือนและทัพอื่นๆมาสนับสนุน ต่อให้เราแพ้พวกฮอรัสในเวียดนามก็ออกมาจากชายแดนไม่ได้หรอก"เมงูเระบอกวอลเตอร์

    "เราควรเรียกทัพอากาศขอเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ดีมั้ย? แบบเอาระเบิดนาปาล์มเผาให้หมดน่ะ"คาร์เตอร์เสนอ

    "แล้วจะมีทัพหนุนมาเสริมเรามั้ย? เมงูเระ?"

    "ถ้าสถานการณ์ในจีนยังไม่ขึ้น.....ก็ไม่มีใครมาช่วยเราหรอก"เมงูเระตอบด้วยสีหน้าหดหู่

    "ฉันว่าเราควรทิ้งนาปาล์มใส่เวียดนามนะครับ เผื่อสถานการณ์ของแนวหน้าจะได้เบาลง"วอลเตอร์เสนอ

    "ผมเห็นด้วย...."คาร์เตอร์โดนคนมาขัดจังหวะ

    "ขอโทษที่มาขัดนะ ผมนาวาโทลี วัง กุน ผู้บัญชาการทัพอากาศของIDF ส่วนนี่คือพลเรือเอก
    คริสโตฟี่ ฟราซุสค์ ผู้บัญชาการสูงสุดของทัพเรือภาคพื้นแปซิฟิก"ลีแนะนำตัว

    "ทัพอากาศและทัพเรือนี่เอง มาทำไมเหรอ?"เมงูเระถาม

    "เพราะว่างานนี้นายจะเสียเปรียบถึง20เท่า เราเลยมาร่วมโต๊ะเผื่อว่าทัพบกกับพวกเราจะติดต่อกันได้ง่ายขึ้น โดยที่ไม่ต้องมาติดต่อแบบเฉพาะหน้าน่ะ"ลีบอก

    "ท่านนายพลลีครับ ผมว่าเราควรใช้B-52ทิ้งระเบิดนาปาล์มใส่แนวหน้านะครับ มันจะเป็นการตัด
    กำลังฮอรัสได้ดีเลยทีเดียว"วอลเตอร์เสนอกับลี

    "ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ"

    "ทำไมล่ะ?!"

    "เรามีB-52ให้ใช้แค่50ลำเท่านั้น ถ้าจะถล่มทั้งแนวหน้าเราจะต้องใช้เครื่องบินอย่างต่ำ1พันลำนะ อีกอย่างเรามีนาปาล์มแค่5ร้อยตันเท่านั้น เผากรุงโซลยังไม่ทั่วเมืองเลยนะ ถ้าคิดจะใช้นาปาล์มถล่มละก็ตัดไปได้เลย เราช่วยได้มากสุดแค่สนับสนุนภาคพื้นดิน"

    "แล้วพวกทัพเรือล่ะ?! พวกนายมีมิสไซล์ไม่ใช่เหรอ?"วอลเตอร์ถาม

    "ก็มีนั่นแหละแต่ว่า....เรามีแค่ให้พอป้องกันตัวจากมิสไซล์ต่อต้านผิวหน้าเท่านั้น เราไม่มีเหลือให้ถล่มเมืองหรอก...."คริสโตฟี่ตอบ

    "ยังไงก็ตาม เราก็ต้องหาวิธีเอาชนะทหาร4ล้าน5ให้ได้นะ!"คาร์เตอร์ตะคอกขึ้น

    "ขอโทษที คนในแนวหน้าผมเป็นพวกมือใหม่ทั้งนั้นผมเลยเครียดไปหน่อย"

    "ผมขอเวลาสักแปบนะ  ผมรู้สีกว่ามันมีกลยุทธ์การรบที่สามารถเอาชนะข้าศึกที่มีจำนวนมากกว่าได้นะ ผมขอเวลาหาแปบ"วอลเตอร์บอกและเดินไปที่มุมห้อง

    "วอลเตอร์นายหาข้อมูลไปล่ะกัน ฉันว่านะ เราควรที่จะให้พวกทหารราบไปเคลียร์พื้นที่กันก่อนแล้วค่อยให้รถถังตามมาที่หลัง"เมงูเระบอก

    "แต่ว่าทหารราบยิ่งน้อยอยู่แล้วนะ เราไม่ควรเอาทหารราบไปเสี่ยงให้มีจำนวนน้อยลงด้วยการนำทัพหรอกนะ"ลีเสนอขึ้น

    "ผมเห็นด้วยกับลีนะครับ"คาร์เตอร์พูดขึ้น

    "แต่ผมว่ามันเป็นทางเลือกที่ดีนะ เพราะสภาพป่าแบบนั้นน่ะ ต่อให้เอารถถังของพวกฮิตเลอร์มา เดี๋ยวเดียวมันก็กลายเป็นเศษเหล็กแน่ๆ ให้ทหารราบนำและเคลียร์ป่าน่าจะดีกว่านะ"คริสโตฟี่พูดขึ้น

    "ไม่ไหว ไม่มีวิธีไหนที่เหมาะกับภูมิประเทศเวียดนามเลย แต่ผมคิดได้แผนนึงนะ"วอลเตอร์เสนอ

    "แผนไหน?"คาร์เตอร์ถาม

    "เราจะให้กองทัพยานเกราะเคลื่อนทัพเข้าโฮจิมินห์และรุกขึ้นเหนือน่าจะง่ายกว่า ส่วนทัพญี่ปุ่นก็บุกจากตอนเหนือลงมาอย่างช้าๆเพื่อกันฮอรัสไม่ให้รุกเข้าจีนและลาว ส่วนนาวิกฯสหรัฐก็สนับสนุนทัพอังกฤษ แม้ฟังดูเป็นแผนง่อยๆแต่ผมว่ามันดูเข้าท่าที่สุด"วอลเตอร์อธิบายแผนพร้อมกับชี้ตามแผนที่

    "นั่นสินะ ถ้าบุกจากใต้จะง่ายเพราะมีถนนจากกัมพูชาเข้าโฮจิมินห์โดยตรง ส่วนตอนเหนือก็ยันเอาไว้ ผมเห็นด้วยกับแผนนี้"คริสโตฟี่สนับสนุน

    "ผมเอาด้วย"คาร์เตอร์บอกตาม

    "งั้นตกลงตามนี้ เราจะให้ทัพอังกฤษและอเมริกาเข้าโฮจิมินห์ก่อนจากนั้นก็ขึ้นเหนือไปหาทัพญี่ปุ่น ส่วนทัพอากาศและทัพเรือ ค่อยว่ากันอีกที แยกย้าย!"เมงูเระสรุปแผนการ

    วันที่ 15 พฤศจิกายน เวลา 07.00 นายพลวอลเตอร์และคาร์เตอร์เดินทางมาถึงค่ายแนวหน้าในกัมพูชา ตั้งอยู่บนถนนทางหลวงหมายเลข 1 ซึ่งนาวิกฯสหรัฐประจำการอยู่แล้ว 

    "อรุณสวัสดิ์ครับ ท่านนายพล รับกาแฟมั้ยครับ?"สารวัตรทหารถามวอลเตอร์และคาร์เตอร์

    "ไม่ต้องหรอก แล้วสถานการณ์ในแนวหน้าล่ะ?"วอลเตอร์ถามสห.

    "ตอนนี้ก็ยันไว้ได้อยู่ครับ พวกมันรุกเข้ามา200เมตรจากชายแดน ยังดีที่เรามีปืนใหญ่สนามเลยจัดการพวกมันซะเละ"สห.ตอบ

    "คาร์เตอร์ นายไปเช็คที่เต็นท์วิทยุสิ จะได้รู้ความเคลื่อนไหวของรถถังนาย"วอลเตอร์บอกคาร์เตอร์

    ณ ค่ายแนวหน้าในเมืองท้ายเงวียน เวลา 14.10 เมงูเระพึ่งถึงค่ายทหารของพวกเขา

    เวลา 15.03 เมงูเระเดินไปที่เต็นท์วิทยุเพื่อสั่งการรบ

    "วอลเตอร์กับคาเตอร์ เริ่มแผนได้เลย"เมงูเระสั่ง

    "พวกเรา!!!!! ลงมือได้!!!!"วอลเตอร์ตะโกนสั่งทหาร พลรถถังFV101 Scorpionทั้งหมดวิ่งไปที่
    รถถังของตัวเอง

    "ให้พวกอังกฤษไปก่อน!!!! ให้พวกอังกฤษไปก่อน!!!"วอลเตอร์วิ่งไปบอกนาวิกฯ

    บรื้นนนนน.......เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นและค่อยๆเบาลง 

    "เอาล่ะ พวกรถถังไปแล้ว ตาของพวกนายแล้ว ไปได้!!!"วอลเตอร์บอกจ่า

    "นี่วอลเตอร์ นายมีทหารเท่าไร?"คาร์เตอร์วิ่งมาถาม

    "ฉันมี7กองพลก็เท่ากับ78400นาย ถามทำไมเหรอ?"

    "แค่อยากรู้ เผื่อเวลาสังกัดหน่วยเละจะได้รู้ว่ายังเหลือเท่าไร"

    เวลา 20.11 วอลเตอร์และคาร์เตอร์นั่งสูบบุหรี่อยู่ข้างนอกเต็นท์เสบียง มองไปยังแสงระเบิดที่มาจากตัวเมือง จากนั้นมีทหารนายนึงทำหน้าเหมือนหาอะไรสักอย่าง

    "ไอหนุ่ม!! เอาบุหรี่สักมวนมั้ย?"วอลเตอร์ตะโกนถาม

    "อ้อ! นั่นไงนายพลวอลเตอร์ นายพล!!!"ทหารนายนั้นวิ่งมาหา

    "มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ?"วอลเตอร์ลุกขึ้น

    "ตามมาหน่อยครับ"ทหารนายนั้นเรียก

    ณ เต็นท์ยุทธการ คาร์เตอร์กับวอลเตอร์งงว่าเกิดอะไรขึ้น 

    "ท่านวอลเตอร์ครับ เมื่อกี้มีวิทยุจากกองพลนาวิกฯที่45 เขาบอกว่ายึดโฮจิมินห์ได้แล้ว แต่ว่าตอนนี้พวกเขาถูกล้อมครับ"

    "ถูกล้อมในเมืองเหรอ?"คาร์เตอร์ถาม

    "ใช่ครับ อยู่ในตัวเมืองพร้อมพลเรือนนับแสนที่ยังไม่ตาย"

    "พวกมันมีกันเท่าไร?"วอลเตอร์ถาม

    "พวกฮอรัสมีกัน1แสน2หมื่นคนครับ"

    "ติดต่อทัพอากาศ ขอการสนับสนุนภาคพื้นซะ!"วอลเตอร์บอกพลวิทยุที่มาฟังด้วย

    "อ่อ แล้วก็บอกให้ทัพเรือเตรียมพร้อมรบตลอดเวลาด้วยนะ"วอลเตอร์สั่งเพิ่ม

    "มีใครบ้างมั้ยที่ไม่ได้อยู่ในวงล้อม?"คาร์เตอร์ถาม

    "คาดว่ามีนะครับ เพราะในวงล้อมกับจำนวนทหารที่เหลือไม่เท่ากัน"

    "งั้นก็อาจมีสักกองร้อยก็ได้นิที่อยู่นอกวงล้อมน่ะ"

    "เป็นได้เหมือนกันครับ แต่นอกโฮจิมินห์เป็นนาเกือบหมด ถ้าอยู่นอกวงจริงๆตอนนี้คงโดนฆ่าไปหมดแล้วอะครับ"

    "เอาไงดีวอลเตอร์?"คาร์เตอร์ถาม

    "ลองติดต่อที่นิวเบอร์ลิน เผื่อว่าเขามีทหารมาช่วยเราได้!"วอลเตอร์เดินไปบอกพลวิทยุ

    เวลา  20.31 "นายพลวอลเตอร์ครับ!! มีรายงานเข้ามาครับ!!"

    "ว่ามา"วอลเตอร์บอก

    "นี่คือกองร้อยนาวิกที่4 เราอยู่นอกเมืองโฮจิมินห์พร้อมกับกองร้อยที่5และกองร้อยที่22 เราเจออุโมงค์ใต้ดินสมัยสงครามเวียดนามเลยไปแอบในนั้น ตามนั้นครับ"

    "งั้นสถานการณ์ก็จะเป็นแบบนี้สินะ 3กองร้อยอยู่นองเมือง ส่วนที่เหลือตกอยู่ภายใต้วงล้อม"
    คาร์เตอร์กล่าว

    "ติดต่อคนในวงล้อม บอกว่าพวกฮอรัสอยู่ที่พิกัดไหนบ้าง เราจะส่งเครื่องบินไปถล่ม แล้วก็ถามพิกัดของ3กองร้อยด้วย ว่าอยู่ที่ไหน เข้าใจนะ?"วอลเตอร์สั่ง

    "วอลเตอร์ ฉันว่าเราควรให้กองร้อยทั้งสามตีวงไปช่วยพวกเขานะ"คาร์เตอร์บอก

    "นั่นแหละที่ฉันต้องการ"วอลเตอร์เดินออกจากเต็นท์

    "หมวดปืนใหญ่และปืนครก!! บรรจุกระสุนและเตรียมยิงให้พร้อมนะ!! เล็งไปที่เมืองโฮจิมินห์!!"
    วอลเตอร์สั่งทหารสนับสนุน

    วอลเตอร์เดินกลับเข้าเต็นท์พร้อมกับคาร์เตอร์และการตอบกลับจากแนวหน้าก็มาถึง

    "ท่านนายพลครับ ทั้ง3กองร้อยอยู่ที่ลองอันครับ บนถนนDT9น่ะครับ ส่วนพิกัดฮอรัสนั้นไม่แน่นอนครับ เหมือนพวกมันดักรอทหารเราทุกวินาที แต่ที่แน่นอนเลยคือที่Tan son nhi พวกมันตั้งที่พักกันที่นั่นครับ"

    "ดีมาก บอกทอ.เลยว่าถล่มTan son nhiให้หายไปจากแผนที่เลยนะ และก็ให้ทหารแนวหน้าออกจากพื้นที่Tan son nhiให้เร็วๆด้วย"วอลเตอร์สั่ง

    ณ ฐานทัพอากาศพนมเปญ นายพลลีได้รับการติดต่อ

    "นักบินทุกนาย!!! ประจำเครื่องซะ!!! เตรียมตัวขึ้นบิน!!"นายพลลีตะโกนสั่ง

    เครื่องบินB-52 10ลำพร้อมกับเครื่องบินA-10อีก20ลำและเครื่องบินขับไล่F-18อีก30ลำ บินขึ้นจากฐานทัพอากาศและมุ่งหน้าไปที่Tan son nhi 

    ณ ค่ายของวอลเตอร์ เครื่องบินของลีพึ่งบินผ่านหัวไปไม่นาน

    "กระจายคำสั่งไปที่แนวหน้า! ให้กองพลนาวิกที่55และ44 ขึ้นเหนือซะ และให้กองพลนาวิกที่27และ109ลงใต้ เปิดช่องโหว่ล่อพวกมันซะ!"วอลเตอร์สั่ง

    "ท่านครับ กองพลที่55 ตายหมดแล้วครับ"

    "งั้นเอากองพลอื่นไปแทนซะ อย่าให้มีทหารแม้แต่คนเดียวอยู่ตรงกลางของสองทัพ!"

    "วอลเตอร์? นายคิดจะทำอะไร?"คาร์เตอร์ถาม

    "ก็จะให้พวกมันมาตรงกลางจากนั้นเราก็จะล้อมพวกมัน พอฆ่ามันหมดเราก็จะได้เคลื่อนทัพไป
    ทางอื่นๆได้ไง"วอลเตอร์ให้เหตุผล

    "ท่านนายพลครับ จ่าโรนาสในแนวหน้าวิทยุขอปืนใหญ่ครับ"พลวิทยุเดินมาที่เต็นท์

    "พิกัดไหน?"

    "ทั่วเมืองครับ...เขาบอกว่าถล่มเมืองให้หมด ไม่งั้นพลเรือนและทหารทั้งหมดจะตาย"

    "วอลเตอร์! อย่าคิดสั่งยิงนะ!"คาร์เตอร์เตือนสติ

    "ฉันว่าเราควรเสียส่วนน้อย เพื่อรักษาส่วนมากนะ ถ้าเรายิงแล้วมีพลเรือนกับทหารตาย อย่างน้อยก็ไม่ตายหมด แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลยพวกเขาทั้งหมดจะตายแน่ๆ"วอลเตอร์บอกคาร์เตอร์และเดินออกไป

    "เป้าหมายคือเมืองโฮจิมินห์! ยิงให้ทั่วเมือง คละพื้นที่กันไป ยิงจนกว่าจะมีคำสั่งหยุดยิง!"วอลเตอร์สั่งทหารปืนใหญ่

    เวลา 23.02 "ท่านนายพลวอลเตอร์ครับ ข่าวดีจากแนวหน้าครับ"พลวิทยุปริ๊นส์ข้อความให้
    วอลเตอร์ที่กำลังรับประทานอาหารค่ำกันอยู่

    ".....แผนเราประสบความสำเร็จ..ตอนนี้เราอยู่ที่หวุงเต่าและกำลังตีลงใต้เรื่อยๆ พร้อมกับกองทัพอังกฤษที่กำลังขึ้นเหนือโดยมีนาวิกสหรัฐ2กองพลไปเสริมทัพ....ดี..ดีมากๆ ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ บอกพวกเขาด้วยว่าให้2กองร้อยใครก็ได้มารับเสบียงที่ค่าย"วอลเตอร์อื่นเอกสารกลับไป

    "วอลเตอร์ นายคิดว่าแคมเปญเวียดนามยากมั้ย? ฉันว่าง่ายกว่าที่คิดนะ"คาร์เตอร์ถาม

    "........(เคี้ยวข้าว)......"

    "หือ? คิดว่าไง?.....ไม่ตอบอีก"คาร์เตอร์งอน

    "บ้านนายสอนให้พูดตอนเคี้ยวอาหารด้วยเหรอ? บ้านฉันไม่สอนนะ"วอลเตอร์ขำ

    "ตลกเหรอ?"คาร์เตอร์อารมณ์เสีย

    "เอาน่าๆ ตอนนี้สถานการณ์ก็ไม่ตึงเครียดเหมือนที่คิดเอาไว้ก็ดีแค่ไหนแล้ว"

    "วอลเตอร์ครับ!!! ท่านต้องมาฟังนี่!!!"พลวิทยุวิ่งกลับมา

    "เดี๋ยวนี้เหรอ?"วอลเตอร์ถาม

    "ตอนนี้เลยครับ!!"

    วอลเตอร์ไปที่เต็นท์วิทยุและใส่หูฟัง

    "....อ๊ากกก!!!! ฮัลโหล!! มีใครได้ยินบ้าง?!!!!"เสียงร้องแห่งความทุกข์ดัง

    "ผมนายพลวอลเตอร์ของกองทัพสหรัฐ เกิดอะไรขึ้น?"

    "ขอบคุณพระเจ้า!!! อยากให้ท่านมาเห็นด้วยตาตัวเองมากเลย!! อร๊าากก!!"

    "นายสบายดีรึเปล่า?!!!"

    "สบายกับผีน่ะสิ!!! ตอนนี้ผมอยู่ที่ริมแม่น้ำโขง!!! พวกฮอรัสมันขุดสนามเพลาะตามแนวแม่น้ำ!!! ตอนี้พวกเราตีพวกมันไม่เข้าเลย!!! ในสนามเพลาะคาดว่ามีฮอรัสมากกว่า5แสนคนน่ะครับ!! เผลอๆ7-8แสนคน!! อ๊ากกกก!!!"

    "พวกนายอยู่แม่น้ำโขงที่ไหน? เดี๋ยวเราส่งทัพอากาศไปให้"

    "ปังๆๆๆ!!! ตอนนี้ผมอยู่ที่ริมแม่น้ำโขงเส้นที่ห่างจากโฮจิมินห์ไป121กิโลเมตร!!! แถวๆเมือง
    กาวหลัญน่ะครับ!!! ปิ้ว!!! เฮ้ย! อย่าพึ่งตายสิเห้ย!!"

    "พอทัพอากาศขึ้นบินแล้วผมจะติดต่อไปนะ! อย่าตายซะละ"วอลเตอร์เปลี่ยนสัญญาณไปที่ช่องทัพอากาศ

    "นี่ค่ายแนวหน้ากัมพูชา ต้องการการสนับสนุนภาคพื้นดินที่กาวหลัญโดยด่วน"

    "รับทราบ เมืองกาวหลัญใช่มั้ย?"

    "ริมแม่น้ำโขงแถวกาวหลัญ ห่างจากโฮจิมินห์ไป121กิโลเมตร เป็นลักษณะสงครามสนามเพลาะและต้องการการโจมตีภาคพื้นดินโดยด่วน"

    "รับทราบ เครื่องบินจะถึงในอีก8นาที"

    "คาร์เตอร์ ไปเช็คสภาพอากาศของตอนนี้จนถึงพรุ่งนี้เช้าเลยนะ"วอลเตอร์บอกขณะที่กำลังเปลี่ยนช่องสัญญาณ

    แก๊ก..แก๊ก..."เอ๊ะ?" 

    "ท่านนายพลเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?"พลวิทยุถามวอลเตอร์

    "สัญญาณช่องกี้หายไปแล้ว ฉันติดต่อพวกเขาไม่ได้แล้ว"

    "แน่ใจเหรอครับ? ลองเปลี่ยนสัญญาณไปเรื่อยๆสิครับ!!!"

    "ไม่ไหว พวกเขาคง...."

    "วอลเตอร์!!!! งานเข้าละสิ"คาร์เตอร์มาขัดจังหวะ

    "สภาพอากาศเป็นไงบ้าง?"วอลเตอร์ถาม

    "ตั้งแต่ตี2โดยประมาณจนถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน พายุจะเข้าเวียดนาม ถึงแม้จะอ่อนกำลังลงเพราะไปปะทะกับฟิลิปปินส์แล้วก็เถอะ ทัพเราน่ะไม่ค่อยน่ากังวลเพราะเราเจอแค่ขอบของพายุ แต่...."

    "แต่อะไร?"

    "ทัพของเมงูเระน่ะสิ พวกเขาจะโดนเต็มๆ"

    "งั้นฉันวิทยุบอกเมงูเระก่อนละกัน"

    วันที่ 17 พฤศจิกายน ในที่สุดเวียดนามตอนใต้ทั้งหมดก็ถูกยึดกลับมาได้ และตอนนี้กองพล10กองพลที่เหลือรอดเดินทางขึ้นเหนือและข้ามเส้นขนานที่15 หรือแนวเส้นตรงจากชายแดนกัมพูชาถึงเมืองตามกี่ และทหารนาวิกก็เจกกับทหารหลักล้านครั้งแรก จนทำให้ไม่สามารถรุกขึ้นเหนือต่อไปได้ 

    นาวิกโยธินสหรัฐและยานเกราะอังกฤษจึงยันกันที่เส้นขนานที่15 เป็นแนวหน้ายาว195กิโลเมตร งานนี้กองทัพญี่ปุ่นจึงต้องแสดงฝีมือแทน 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×