ลำดับตอนที่ #11
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : เข้าสู่เวียดนาม
วันที่ 11 พฤศจิกายน กองทัพนาวิกโยธินสหรัฐมากกว่า5กองพลรุกเข้าเวียดนาม พร้อมกับกองทัพอังกฤษ ญี่ปุ่น แคนาดาและจีนที่ยกพลขึ้นบกทั่วชายฝั่งตะวันออก
ทัพอากาศและทัพเรือสหรัฐสามารถครองน่านฟ้าได้สำเร็จ ทำให้การรบในเวียดนามจะง่ายขึ้นไปอีก ทัพเรือสหรัฐและทัพเรือญี่ปุ่นครอบครองน่านน้ำในทะเลจีนใต้ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เหลือแค่เวียดนามเท่านั้นที่ยังตีไม่เข้า
กองพลนาวิกฯสหรัฐทั้งหมด7กองพลบัญชาการโดยนายพลเก็นน์ เอ็ม. วอลเตอร์
กองพลยานเกราะเบาอังกฤษ4กองพลบัญชาการโดยนายพลนิโคลัส คาร์เตอร์
กองพลทหารราบญี่ปุ่น10กองพลบัญชาการโดยนายพลเมงูเระ โอมาโงะ
ทั้งสามกองพลต่างอยู่คนละฟากของเวียดนาม กองพลนาวิกของสหรัฐอยู่ที่ตอนใต้ฝั่งกัมพูชา ส่วนกองทัพญี่ปุ่นอยู่ที่ชายแดนจีน กองทัพอังกฤษอยู่เหนือขึ้นไปจากกองทัพสหรัฐ420กิโลเมตรที่เมืองดักจึง และทั้งสามทัพจะรุกเข้ามาพบกันที่ดานัง
ณ กองบัญชาการภาคพื้นแปซิฟิก ฐานทัพเรือสัตหีบ ชลบุรี
วันที่ 12 พฤศจิกายน นายพลทั้งสามถูกเรียกโดยนายพลสจวตส์ สมิธ ผบ.สูงสุดของกองทัพภาคพื้นแปซิฟิก และได้สรุปแผนการภายใต้ชื่อ ปฏิบัติการ"พายุแดง" โดยกองทัพอังกฤษจะแบ่งเป็น2ทิศ เหนือและใต้ โดยเหนือจะไปสมทบกับทัพญี่ปุ่นที่เมืองวิญ ส่วนทัพใต้จะไปสมทบกับกองทัพสหรัฐที่เมืองโฮจิมินห์
(ขอบอกก่อนนะ ตอนนี้จะลองเปลี่ยนรูปแบบคือจะไม่อธิบายสถานการณ์แบบเราอยู่ในเหตุการณ์ แต่จะเล่าแบบเราเป็นนายพลและต้องคอยดูแลทหารของตัวเอง^^)
วันที่ 14 พฤศจิกายน ณ กองบัญชาการภาคพื้นแปซิฟิก นายพลวอลเตอร์กับคาร์เตอร์มาพบกันก่อนเวลาที่นัดกันไว้
"คาร์เตอร์? นายมาเร็วไปนิ"วอลเตอร์ถาม
"พอดีฉันต้องมาเคลียร์รายงานของภารกิจที่แล้วน่ะ เลยมาทีเดียวเลย"คาร์เตอร์บอกวอลเตอร์
"แล้วสถานการณ์ในจีนเป็นยังไงบ้าง?"วอลเตอร์ถามกลับ
"ก็ยื้อได้เรื่อยๆน่ะนะ แต่ถ้าทัพเสริมยังมาไม่ถึง เราจะเสียคุนหมิงไปน่ะ"คาร์ตอร์ตอบและเดินไปที่ห้องเอกสาร ส่วนวอลเตอร์ก็ไปรอที่ห้องยุทธการ
"เฮ้อ....ทหารในแนวหน้าเวียดนามก็น้อยซะ...แบบนี้อาจบุกไม่เข้าก็ได้นะเนี่ย.."วอลเตอร์กางแผนที่และบ่นกับตัวเอง
"อ้าว? แล้วคาร์เตอร์ล่ะ?"นายพลเมงูเระเดินเข้ามา
"คาร์เตอร์ไปเคลียร์เอกสารภารกิจเก่าน่ะครับ อีกเดี๋ยวก็คงตามมา แต่ทำไมนายมาเร็วจัง? กว่าจะประชุมก็อีกตั้งครึ่งชั่วโมงนะ"
"แล้วนายมาเร็วทำไมล่ะ?"
"ก็ผมไม่รู้ว่าจะอยู่ที่พักไปทำไม ก็เลยมาเดินเล่นที่ค่าย"
"ก็ผมไม่รู้ว่าจะอยู่ที่พักไปทำไม ก็เลยมาเดินเล่นที่ค่าย"
"แหมๆๆ มากันพร้อมหน้าเชียว งั้นเราเริ่มคุยกันดีกว่านะ"คาร์เตอร์เดินเข้ามา
"ดีเลย มาคุยกันก่อนดีกว่านะ เรามีทั้งหมด21กองพลและคอยมีทัพอากาศและทัพเรือสนับสนุน แต่ตามข้อมูลที่เรามีละก็...มันมีกองพลทหารราบ400กองพล(4ล้าน5แสนคน) และก็รถถังอีก4หมื่นคัน"เมงูเระรายงานสถานการณ์
"เดี๋ยวนะ!!! พวกมันมีทหารมากกว่าเราถึง20เท่าเลยเหรอ??!!"วอลเตอร์ตะลึง
"ใช่ นั่นแหละที่น่ากลัว แต่เรายังมีพลเรือนและทัพอื่นๆมาสนับสนุน ต่อให้เราแพ้พวกฮอรัสในเวียดนามก็ออกมาจากชายแดนไม่ได้หรอก"เมงูเระบอกวอลเตอร์
"เราควรเรียกทัพอากาศขอเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ดีมั้ย? แบบเอาระเบิดนาปาล์มเผาให้หมดน่ะ"คาร์เตอร์เสนอ
"แล้วจะมีทัพหนุนมาเสริมเรามั้ย? เมงูเระ?"
"ถ้าสถานการณ์ในจีนยังไม่ขึ้น.....ก็ไม่มีใครมาช่วยเราหรอก"เมงูเระตอบด้วยสีหน้าหดหู่
"ฉันว่าเราควรทิ้งนาปาล์มใส่เวียดนามนะครับ เผื่อสถานการณ์ของแนวหน้าจะได้เบาลง"วอลเตอร์เสนอ
"ผมเห็นด้วย...."คาร์เตอร์โดนคนมาขัดจังหวะ
"ขอโทษที่มาขัดนะ ผมนาวาโทลี วัง กุน ผู้บัญชาการทัพอากาศของIDF ส่วนนี่คือพลเรือเอก
คริสโตฟี่ ฟราซุสค์ ผู้บัญชาการสูงสุดของทัพเรือภาคพื้นแปซิฟิก"ลีแนะนำตัว
"ทัพอากาศและทัพเรือนี่เอง มาทำไมเหรอ?"เมงูเระถาม
"เพราะว่างานนี้นายจะเสียเปรียบถึง20เท่า เราเลยมาร่วมโต๊ะเผื่อว่าทัพบกกับพวกเราจะติดต่อกันได้ง่ายขึ้น โดยที่ไม่ต้องมาติดต่อแบบเฉพาะหน้าน่ะ"ลีบอก
"ท่านนายพลลีครับ ผมว่าเราควรใช้B-52ทิ้งระเบิดนาปาล์มใส่แนวหน้านะครับ มันจะเป็นการตัด
กำลังฮอรัสได้ดีเลยทีเดียว"วอลเตอร์เสนอกับลี
"ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ"
"ทำไมล่ะ?!"
"เรามีB-52ให้ใช้แค่50ลำเท่านั้น ถ้าจะถล่มทั้งแนวหน้าเราจะต้องใช้เครื่องบินอย่างต่ำ1พันลำนะ อีกอย่างเรามีนาปาล์มแค่5ร้อยตันเท่านั้น เผากรุงโซลยังไม่ทั่วเมืองเลยนะ ถ้าคิดจะใช้นาปาล์มถล่มละก็ตัดไปได้เลย เราช่วยได้มากสุดแค่สนับสนุนภาคพื้นดิน"
"เรามีB-52ให้ใช้แค่50ลำเท่านั้น ถ้าจะถล่มทั้งแนวหน้าเราจะต้องใช้เครื่องบินอย่างต่ำ1พันลำนะ อีกอย่างเรามีนาปาล์มแค่5ร้อยตันเท่านั้น เผากรุงโซลยังไม่ทั่วเมืองเลยนะ ถ้าคิดจะใช้นาปาล์มถล่มละก็ตัดไปได้เลย เราช่วยได้มากสุดแค่สนับสนุนภาคพื้นดิน"
"แล้วพวกทัพเรือล่ะ?! พวกนายมีมิสไซล์ไม่ใช่เหรอ?"วอลเตอร์ถาม
"ก็มีนั่นแหละแต่ว่า....เรามีแค่ให้พอป้องกันตัวจากมิสไซล์ต่อต้านผิวหน้าเท่านั้น เราไม่มีเหลือให้ถล่มเมืองหรอก...."คริสโตฟี่ตอบ
"ยังไงก็ตาม เราก็ต้องหาวิธีเอาชนะทหาร4ล้าน5ให้ได้นะ!"คาร์เตอร์ตะคอกขึ้น
"ขอโทษที คนในแนวหน้าผมเป็นพวกมือใหม่ทั้งนั้นผมเลยเครียดไปหน่อย"
"ผมขอเวลาสักแปบนะ ผมรู้สีกว่ามันมีกลยุทธ์การรบที่สามารถเอาชนะข้าศึกที่มีจำนวนมากกว่าได้นะ ผมขอเวลาหาแปบ"วอลเตอร์บอกและเดินไปที่มุมห้อง
"วอลเตอร์นายหาข้อมูลไปล่ะกัน ฉันว่านะ เราควรที่จะให้พวกทหารราบไปเคลียร์พื้นที่กันก่อนแล้วค่อยให้รถถังตามมาที่หลัง"เมงูเระบอก
"แต่ว่าทหารราบยิ่งน้อยอยู่แล้วนะ เราไม่ควรเอาทหารราบไปเสี่ยงให้มีจำนวนน้อยลงด้วยการนำทัพหรอกนะ"ลีเสนอขึ้น
"ผมเห็นด้วยกับลีนะครับ"คาร์เตอร์พูดขึ้น
"แต่ผมว่ามันเป็นทางเลือกที่ดีนะ เพราะสภาพป่าแบบนั้นน่ะ ต่อให้เอารถถังของพวกฮิตเลอร์มา เดี๋ยวเดียวมันก็กลายเป็นเศษเหล็กแน่ๆ ให้ทหารราบนำและเคลียร์ป่าน่าจะดีกว่านะ"คริสโตฟี่พูดขึ้น
"ไม่ไหว ไม่มีวิธีไหนที่เหมาะกับภูมิประเทศเวียดนามเลย แต่ผมคิดได้แผนนึงนะ"วอลเตอร์เสนอ
"แผนไหน?"คาร์เตอร์ถาม
"เราจะให้กองทัพยานเกราะเคลื่อนทัพเข้าโฮจิมินห์และรุกขึ้นเหนือน่าจะง่ายกว่า ส่วนทัพญี่ปุ่นก็บุกจากตอนเหนือลงมาอย่างช้าๆเพื่อกันฮอรัสไม่ให้รุกเข้าจีนและลาว ส่วนนาวิกฯสหรัฐก็สนับสนุนทัพอังกฤษ แม้ฟังดูเป็นแผนง่อยๆแต่ผมว่ามันดูเข้าท่าที่สุด"วอลเตอร์อธิบายแผนพร้อมกับชี้ตามแผนที่
"นั่นสินะ ถ้าบุกจากใต้จะง่ายเพราะมีถนนจากกัมพูชาเข้าโฮจิมินห์โดยตรง ส่วนตอนเหนือก็ยันเอาไว้ ผมเห็นด้วยกับแผนนี้"คริสโตฟี่สนับสนุน
"ผมเอาด้วย"คาร์เตอร์บอกตาม
"งั้นตกลงตามนี้ เราจะให้ทัพอังกฤษและอเมริกาเข้าโฮจิมินห์ก่อนจากนั้นก็ขึ้นเหนือไปหาทัพญี่ปุ่น ส่วนทัพอากาศและทัพเรือ ค่อยว่ากันอีกที แยกย้าย!"เมงูเระสรุปแผนการ
วันที่ 15 พฤศจิกายน เวลา 07.00 นายพลวอลเตอร์และคาร์เตอร์เดินทางมาถึงค่ายแนวหน้าในกัมพูชา ตั้งอยู่บนถนนทางหลวงหมายเลข 1 ซึ่งนาวิกฯสหรัฐประจำการอยู่แล้ว
"อรุณสวัสดิ์ครับ ท่านนายพล รับกาแฟมั้ยครับ?"สารวัตรทหารถามวอลเตอร์และคาร์เตอร์
"ไม่ต้องหรอก แล้วสถานการณ์ในแนวหน้าล่ะ?"วอลเตอร์ถามสห.
"ตอนนี้ก็ยันไว้ได้อยู่ครับ พวกมันรุกเข้ามา200เมตรจากชายแดน ยังดีที่เรามีปืนใหญ่สนามเลยจัดการพวกมันซะเละ"สห.ตอบ
"คาร์เตอร์ นายไปเช็คที่เต็นท์วิทยุสิ จะได้รู้ความเคลื่อนไหวของรถถังนาย"วอลเตอร์บอกคาร์เตอร์
ณ ค่ายแนวหน้าในเมืองท้ายเงวียน เวลา 14.10 เมงูเระพึ่งถึงค่ายทหารของพวกเขา
เวลา 15.03 เมงูเระเดินไปที่เต็นท์วิทยุเพื่อสั่งการรบ
"วอลเตอร์กับคาเตอร์ เริ่มแผนได้เลย"เมงูเระสั่ง
"พวกเรา!!!!! ลงมือได้!!!!"วอลเตอร์ตะโกนสั่งทหาร พลรถถังFV101 Scorpionทั้งหมดวิ่งไปที่
รถถังของตัวเอง
"ให้พวกอังกฤษไปก่อน!!!! ให้พวกอังกฤษไปก่อน!!!"วอลเตอร์วิ่งไปบอกนาวิกฯ
บรื้นนนนน.......เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นและค่อยๆเบาลง
"เอาล่ะ พวกรถถังไปแล้ว ตาของพวกนายแล้ว ไปได้!!!"วอลเตอร์บอกจ่า
"นี่วอลเตอร์ นายมีทหารเท่าไร?"คาร์เตอร์วิ่งมาถาม
"ฉันมี7กองพลก็เท่ากับ78400นาย ถามทำไมเหรอ?"
"แค่อยากรู้ เผื่อเวลาสังกัดหน่วยเละจะได้รู้ว่ายังเหลือเท่าไร"
เวลา 20.11 วอลเตอร์และคาร์เตอร์นั่งสูบบุหรี่อยู่ข้างนอกเต็นท์เสบียง มองไปยังแสงระเบิดที่มาจากตัวเมือง จากนั้นมีทหารนายนึงทำหน้าเหมือนหาอะไรสักอย่าง
"ไอหนุ่ม!! เอาบุหรี่สักมวนมั้ย?"วอลเตอร์ตะโกนถาม
"อ้อ! นั่นไงนายพลวอลเตอร์ นายพล!!!"ทหารนายนั้นวิ่งมาหา
"มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ?"วอลเตอร์ลุกขึ้น
"ตามมาหน่อยครับ"ทหารนายนั้นเรียก
ณ เต็นท์ยุทธการ คาร์เตอร์กับวอลเตอร์งงว่าเกิดอะไรขึ้น
"ท่านวอลเตอร์ครับ เมื่อกี้มีวิทยุจากกองพลนาวิกฯที่45 เขาบอกว่ายึดโฮจิมินห์ได้แล้ว แต่ว่าตอนนี้พวกเขาถูกล้อมครับ"
"ถูกล้อมในเมืองเหรอ?"คาร์เตอร์ถาม
"ใช่ครับ อยู่ในตัวเมืองพร้อมพลเรือนนับแสนที่ยังไม่ตาย"
"พวกมันมีกันเท่าไร?"วอลเตอร์ถาม
"พวกฮอรัสมีกัน1แสน2หมื่นคนครับ"
"ติดต่อทัพอากาศ ขอการสนับสนุนภาคพื้นซะ!"วอลเตอร์บอกพลวิทยุที่มาฟังด้วย
"อ่อ แล้วก็บอกให้ทัพเรือเตรียมพร้อมรบตลอดเวลาด้วยนะ"วอลเตอร์สั่งเพิ่ม
"มีใครบ้างมั้ยที่ไม่ได้อยู่ในวงล้อม?"คาร์เตอร์ถาม
"คาดว่ามีนะครับ เพราะในวงล้อมกับจำนวนทหารที่เหลือไม่เท่ากัน"
"งั้นก็อาจมีสักกองร้อยก็ได้นิที่อยู่นอกวงล้อมน่ะ"
"เป็นได้เหมือนกันครับ แต่นอกโฮจิมินห์เป็นนาเกือบหมด ถ้าอยู่นอกวงจริงๆตอนนี้คงโดนฆ่าไปหมดแล้วอะครับ"
"เอาไงดีวอลเตอร์?"คาร์เตอร์ถาม
"ลองติดต่อที่นิวเบอร์ลิน เผื่อว่าเขามีทหารมาช่วยเราได้!"วอลเตอร์เดินไปบอกพลวิทยุ
เวลา 20.31 "นายพลวอลเตอร์ครับ!! มีรายงานเข้ามาครับ!!"
"ว่ามา"วอลเตอร์บอก
"นี่คือกองร้อยนาวิกที่4 เราอยู่นอกเมืองโฮจิมินห์พร้อมกับกองร้อยที่5และกองร้อยที่22 เราเจออุโมงค์ใต้ดินสมัยสงครามเวียดนามเลยไปแอบในนั้น ตามนั้นครับ"
"งั้นสถานการณ์ก็จะเป็นแบบนี้สินะ 3กองร้อยอยู่นองเมือง ส่วนที่เหลือตกอยู่ภายใต้วงล้อม"
คาร์เตอร์กล่าว
"ติดต่อคนในวงล้อม บอกว่าพวกฮอรัสอยู่ที่พิกัดไหนบ้าง เราจะส่งเครื่องบินไปถล่ม แล้วก็ถามพิกัดของ3กองร้อยด้วย ว่าอยู่ที่ไหน เข้าใจนะ?"วอลเตอร์สั่ง
"วอลเตอร์ ฉันว่าเราควรให้กองร้อยทั้งสามตีวงไปช่วยพวกเขานะ"คาร์เตอร์บอก
"นั่นแหละที่ฉันต้องการ"วอลเตอร์เดินออกจากเต็นท์
"หมวดปืนใหญ่และปืนครก!! บรรจุกระสุนและเตรียมยิงให้พร้อมนะ!! เล็งไปที่เมืองโฮจิมินห์!!"
วอลเตอร์สั่งทหารสนับสนุน
วอลเตอร์เดินกลับเข้าเต็นท์พร้อมกับคาร์เตอร์และการตอบกลับจากแนวหน้าก็มาถึง
"ท่านนายพลครับ ทั้ง3กองร้อยอยู่ที่ลองอันครับ บนถนนDT9น่ะครับ ส่วนพิกัดฮอรัสนั้นไม่แน่นอนครับ เหมือนพวกมันดักรอทหารเราทุกวินาที แต่ที่แน่นอนเลยคือที่Tan son nhi พวกมันตั้งที่พักกันที่นั่นครับ"
"ดีมาก บอกทอ.เลยว่าถล่มTan son nhiให้หายไปจากแผนที่เลยนะ และก็ให้ทหารแนวหน้าออกจากพื้นที่Tan son nhiให้เร็วๆด้วย"วอลเตอร์สั่ง
ณ ฐานทัพอากาศพนมเปญ นายพลลีได้รับการติดต่อ
"นักบินทุกนาย!!! ประจำเครื่องซะ!!! เตรียมตัวขึ้นบิน!!"นายพลลีตะโกนสั่ง
เครื่องบินB-52 10ลำพร้อมกับเครื่องบินA-10อีก20ลำและเครื่องบินขับไล่F-18อีก30ลำ บินขึ้นจากฐานทัพอากาศและมุ่งหน้าไปที่Tan son nhi
ณ ค่ายของวอลเตอร์ เครื่องบินของลีพึ่งบินผ่านหัวไปไม่นาน
"กระจายคำสั่งไปที่แนวหน้า! ให้กองพลนาวิกที่55และ44 ขึ้นเหนือซะ และให้กองพลนาวิกที่27และ109ลงใต้ เปิดช่องโหว่ล่อพวกมันซะ!"วอลเตอร์สั่ง
"ท่านครับ กองพลที่55 ตายหมดแล้วครับ"
"งั้นเอากองพลอื่นไปแทนซะ อย่าให้มีทหารแม้แต่คนเดียวอยู่ตรงกลางของสองทัพ!"
"วอลเตอร์? นายคิดจะทำอะไร?"คาร์เตอร์ถาม
"ก็จะให้พวกมันมาตรงกลางจากนั้นเราก็จะล้อมพวกมัน พอฆ่ามันหมดเราก็จะได้เคลื่อนทัพไป
ทางอื่นๆได้ไง"วอลเตอร์ให้เหตุผล
"ท่านนายพลครับ จ่าโรนาสในแนวหน้าวิทยุขอปืนใหญ่ครับ"พลวิทยุเดินมาที่เต็นท์
"พิกัดไหน?"
"ทั่วเมืองครับ...เขาบอกว่าถล่มเมืองให้หมด ไม่งั้นพลเรือนและทหารทั้งหมดจะตาย"
"วอลเตอร์! อย่าคิดสั่งยิงนะ!"คาร์เตอร์เตือนสติ
"ฉันว่าเราควรเสียส่วนน้อย เพื่อรักษาส่วนมากนะ ถ้าเรายิงแล้วมีพลเรือนกับทหารตาย อย่างน้อยก็ไม่ตายหมด แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลยพวกเขาทั้งหมดจะตายแน่ๆ"วอลเตอร์บอกคาร์เตอร์และเดินออกไป
"เป้าหมายคือเมืองโฮจิมินห์! ยิงให้ทั่วเมือง คละพื้นที่กันไป ยิงจนกว่าจะมีคำสั่งหยุดยิง!"วอลเตอร์สั่งทหารปืนใหญ่
เวลา 23.02 "ท่านนายพลวอลเตอร์ครับ ข่าวดีจากแนวหน้าครับ"พลวิทยุปริ๊นส์ข้อความให้
วอลเตอร์ที่กำลังรับประทานอาหารค่ำกันอยู่
".....แผนเราประสบความสำเร็จ..ตอนนี้เราอยู่ที่หวุงเต่าและกำลังตีลงใต้เรื่อยๆ พร้อมกับกองทัพอังกฤษที่กำลังขึ้นเหนือโดยมีนาวิกสหรัฐ2กองพลไปเสริมทัพ....ดี..ดีมากๆ ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ บอกพวกเขาด้วยว่าให้2กองร้อยใครก็ได้มารับเสบียงที่ค่าย"วอลเตอร์อื่นเอกสารกลับไป
"วอลเตอร์ นายคิดว่าแคมเปญเวียดนามยากมั้ย? ฉันว่าง่ายกว่าที่คิดนะ"คาร์เตอร์ถาม
"........(เคี้ยวข้าว)......"
"หือ? คิดว่าไง?.....ไม่ตอบอีก"คาร์เตอร์งอน
"บ้านนายสอนให้พูดตอนเคี้ยวอาหารด้วยเหรอ? บ้านฉันไม่สอนนะ"วอลเตอร์ขำ
"ตลกเหรอ?"คาร์เตอร์อารมณ์เสีย
"เอาน่าๆ ตอนนี้สถานการณ์ก็ไม่ตึงเครียดเหมือนที่คิดเอาไว้ก็ดีแค่ไหนแล้ว"
"วอลเตอร์ครับ!!! ท่านต้องมาฟังนี่!!!"พลวิทยุวิ่งกลับมา
"เดี๋ยวนี้เหรอ?"วอลเตอร์ถาม
"ตอนนี้เลยครับ!!"
วอลเตอร์ไปที่เต็นท์วิทยุและใส่หูฟัง
"....อ๊ากกก!!!! ฮัลโหล!! มีใครได้ยินบ้าง?!!!!"เสียงร้องแห่งความทุกข์ดัง
"ผมนายพลวอลเตอร์ของกองทัพสหรัฐ เกิดอะไรขึ้น?"
"ขอบคุณพระเจ้า!!! อยากให้ท่านมาเห็นด้วยตาตัวเองมากเลย!! อร๊าากก!!"
"นายสบายดีรึเปล่า?!!!"
"สบายกับผีน่ะสิ!!! ตอนนี้ผมอยู่ที่ริมแม่น้ำโขง!!! พวกฮอรัสมันขุดสนามเพลาะตามแนวแม่น้ำ!!! ตอนี้พวกเราตีพวกมันไม่เข้าเลย!!! ในสนามเพลาะคาดว่ามีฮอรัสมากกว่า5แสนคนน่ะครับ!! เผลอๆ7-8แสนคน!! อ๊ากกกก!!!"
"พวกนายอยู่แม่น้ำโขงที่ไหน? เดี๋ยวเราส่งทัพอากาศไปให้"
"ปังๆๆๆ!!! ตอนนี้ผมอยู่ที่ริมแม่น้ำโขงเส้นที่ห่างจากโฮจิมินห์ไป121กิโลเมตร!!! แถวๆเมือง
กาวหลัญน่ะครับ!!! ปิ้ว!!! เฮ้ย! อย่าพึ่งตายสิเห้ย!!"
"พอทัพอากาศขึ้นบินแล้วผมจะติดต่อไปนะ! อย่าตายซะละ"วอลเตอร์เปลี่ยนสัญญาณไปที่ช่องทัพอากาศ
"นี่ค่ายแนวหน้ากัมพูชา ต้องการการสนับสนุนภาคพื้นดินที่กาวหลัญโดยด่วน"
"รับทราบ เมืองกาวหลัญใช่มั้ย?"
"ริมแม่น้ำโขงแถวกาวหลัญ ห่างจากโฮจิมินห์ไป121กิโลเมตร เป็นลักษณะสงครามสนามเพลาะและต้องการการโจมตีภาคพื้นดินโดยด่วน"
"รับทราบ เครื่องบินจะถึงในอีก8นาที"
"คาร์เตอร์ ไปเช็คสภาพอากาศของตอนนี้จนถึงพรุ่งนี้เช้าเลยนะ"วอลเตอร์บอกขณะที่กำลังเปลี่ยนช่องสัญญาณ
แก๊ก..แก๊ก..."เอ๊ะ?"
"ท่านนายพลเกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?"พลวิทยุถามวอลเตอร์
"สัญญาณช่องกี้หายไปแล้ว ฉันติดต่อพวกเขาไม่ได้แล้ว"
"แน่ใจเหรอครับ? ลองเปลี่ยนสัญญาณไปเรื่อยๆสิครับ!!!"
"ไม่ไหว พวกเขาคง...."
"วอลเตอร์!!!! งานเข้าละสิ"คาร์เตอร์มาขัดจังหวะ
"สภาพอากาศเป็นไงบ้าง?"วอลเตอร์ถาม
"ตั้งแต่ตี2โดยประมาณจนถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน พายุจะเข้าเวียดนาม ถึงแม้จะอ่อนกำลังลงเพราะไปปะทะกับฟิลิปปินส์แล้วก็เถอะ ทัพเราน่ะไม่ค่อยน่ากังวลเพราะเราเจอแค่ขอบของพายุ แต่...."
"แต่อะไร?"
"ทัพของเมงูเระน่ะสิ พวกเขาจะโดนเต็มๆ"
"งั้นฉันวิทยุบอกเมงูเระก่อนละกัน"
วันที่ 17 พฤศจิกายน ในที่สุดเวียดนามตอนใต้ทั้งหมดก็ถูกยึดกลับมาได้ และตอนนี้กองพล10กองพลที่เหลือรอดเดินทางขึ้นเหนือและข้ามเส้นขนานที่15 หรือแนวเส้นตรงจากชายแดนกัมพูชาถึงเมืองตามกี่ และทหารนาวิกก็เจกกับทหารหลักล้านครั้งแรก จนทำให้ไม่สามารถรุกขึ้นเหนือต่อไปได้
นาวิกโยธินสหรัฐและยานเกราะอังกฤษจึงยันกันที่เส้นขนานที่15 เป็นแนวหน้ายาว195กิโลเมตร งานนี้กองทัพญี่ปุ่นจึงต้องแสดงฝีมือแทน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น