ลำดับตอนที่ #19
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : ปฏิบัติการคอเคซัส(ตะวันออกกลาง)
วันที่ 4 เมษายน กระทรวงสงครามของไรช์ที่4 ได้ประกาศแผนการรบใหม่ ภายใต้ชื่อปฏิบัติการ
"พร้อมแล้วครับ ปืนStg 60 พร้อมกระสุนอีก180นัด เสบียงสำหรับ1สัปดาห์ กระติกน้ำ1ใบ หม้อสนาม1ใบ และปืนพกวอลเตอร์1กระบอกพร้อมกระสุน3แมกกาซีนครับ ตอนนี้กำลังเช็คอุปกรณ์ของแต่ละคนอยู่ว่าใช้งานได้หรือไม่น่ะครับ"จ่าบอกพร้อมพารอมเมิลไปดูทหาร
"เอาปืนยิงรถถังมาเดี๋ยวนี้!!"รูดอร์ฟตะโกนถามหาปืนแพนเซอร์เชร็ค พร้อมทหารนายหนึ่งที่แบกมันมาได้วิ่งมาหารูดอร์ฟ
คอเคซัส เป้าหมายของปฏิบัติการนี้คือยึดเทือกเขาคอเคซัสเพราะเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่ดีที่สุดหากจะเข้าสู่ยุโรปตะวันออกและแถบเอเชียกลาง โดยแผนคือจะเริ่มต้นจากเมืองเพิร์ทและเดินเรือไปที่อ่าวเปอร์เซียและไปยกพลขึ้นบกที่หาดBahrakanในอิหร่านและจะใช้แผนบริซครีท เพื่อเจาะแนวป้องกันและยึดเมืองแรชต์ให้เร็วที่สุดต่อด้วยเลาะแนวทะเลแคสเปียนเพื่อยึดมาฮัซกาลาในรัสเซีย บุกต่อไปยังเมืองโซชิและตีลงมาจากตอนเหนือและตอนใต้พร้อมๆกัน เพื่อล้อมพวกฮอรัส
โดยจะมีพลร่มปล่อยลงที่ศรีลังกา โคจิในอินเดีย ธิรุวานันทพุรามในอินเดีย และKhasabในโอมาน เพื่อใช้เป็นเมืองหน้าด่านในการคุ้มกันเรือลำเลียงพล
เหตุที่เทือเขาคอเคซัสเป็นพื้นที่ที่ดีที่สุดในการบุกยุโรปและเอเชียกลางเพราะมีทะเล2ทะเลประกบ และทหารสัมพันธมิตรสามารถปักหลักบนเขาได้โดยที่ฮอรัสไม่อาจมายุ่ง เพราะพวกฮอรัสไม่เก่งการรบในที่สูง
การรบในครั้งนี้จะขอแรงเสริมจากสหภาพรัฐเสรีโซเวียต โดยจะให้โจมตีจากตอนเหนือลงมาที่จอร์เจีย เนื่องจากภาพถ่ายทางอากาศแสดงให้เห็นว่าที่เทือกเขาคอเคซัสมีฐานทัพขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เลยจะให้กองทัพแดงช่วยสนับสนุน
แผนการนี้กำเนิดเริ่มวันที่ 5 พฤษภาคม 2020 และจำเป็นต้องยึดเทือกเขาคอเคซัสให้ได้ก่อนฤดูหนาว2021
แผนการในครั้งนี้คิดค้นโดยจอมพลรอมเมิลและมันชไตน์ และได้รับการอนุมัติจากสภาไรช์เป็นที่เรียบร้อย โดยจะมีทหารทั้งหมด5กองพลร่มที่จะไปยึดเมืองหน้าด่าน และมี47กองพลเป็นทัพหลักที่จะยึดเทือกเขา และมีUFOคอยสนับสนุนการรบคู่ไปกับทัพอากาศนาซีเยอรมัน สหรัฐและอิสราเอล โดย47กองพลจะเป็นกองพลของนาซี35กองพล อีก12กองพลจะเป็นอาสาสมัครจากนานาชาติ โดยส่วนใหญ่จะเป็นทหารรัสเซีย
และแผนการนี้ไม่มีกองพลยานเกราะ มีมากสุดแค่กองพลปืนใหญ่และกองพลยานยนต์หนักเท่านั้น
วันที่ 5 พฤษภาคม รอมเมิลมาที่เพิร์ทเพื่อเยี่ยมทหารของเขาก่อนจะปฏิบัติหน้าที่
เวลา 10.25 ณ ฐานทัพเคนเนดี้ เพิร์ท,ออสเตรเลีย
"ท่านจอมพล! อรุณสวัสดิ์ครับ!"จ่าคนหนึ่งทำความเคารพขณะที่รอมเมิลเดินลงจากรถ
"ตามสบาย ทหารเราเป็นไงบ้าง?"รอมเมิลถามจ่า
"พร้อมแล้วครับ ปืนStg 60 พร้อมกระสุนอีก180นัด เสบียงสำหรับ1สัปดาห์ กระติกน้ำ1ใบ หม้อสนาม1ใบ และปืนพกวอลเตอร์1กระบอกพร้อมกระสุน3แมกกาซีนครับ ตอนนี้กำลังเช็คอุปกรณ์ของแต่ละคนอยู่ว่าใช้งานได้หรือไม่น่ะครับ"จ่าบอกพร้อมพารอมเมิลไปดูทหาร
"แล้วเรือลำเลียงกับพลร่มล่ะ?"
"เราใช้เรือของพวกนาวิกฯสหรัฐน่ะครับ พร้อมเรือประจัญบาน2ลำและเรือพิฆาต4ลำในการคุ้มกันเรือลำเลียงพล"จ่าพาไปที่ท่าเรือและชี้ไปที่เรือบิสมาร์คและเรือเทียร์พิตส์ที่กำลังนำลงทะเลอีกครั้งหลังจากที่มันอยู่ในอู่ซ่อมนานนับเดือน
"เรือพิฆาต4ลำจะเป็นเรือของพวกญี่ปุ่น เกาหลีใต้และแคนาดา แต่งานนี้เรามีJu 1943กับJu 2014งานนี้สบายๆ"จ่าบอกรอมเมิล
"ยังไงเราก็ประมาทมันไม่ได้อยู่ดีแหละ"รอมเมิลเดินกลับไปที่รถ
"เอ่อ! ลืมไปอย่างหนึ่ง พร้อมเมื่อไรเดินทางได้ทันที ไม่ต้องรอคำสั่ง เพราะฉันจะไปจัดการแนวหน้าในมาเลเซียก่อน กว่าจะกลับมาก็นานเลยนะ"รอมเมิลเข้าไปในรถและเปิดหน้าต่างมาบอก จ่าทำความเคารพและกลับไปดูแลงานตัวเอง
เวลา 12.07 เรือลำเลียงพลเริ่มออกเดินทาง ฝูงบินJu 52 เริ่มออกบินเพื่อส่งพลร่มให้ไปถึงที่หมาย
วันที่ 6 พฤษภาคม พลร่มทั้ง5กองพลยึดเมืองหน้าด่านได้ทั้งหมดอย่างสวยงาม เรือลำเลียงก็เดินทางมาถึงศรีลังกาเพื่อมาเติมน้ำมัน
วันที่ 7 พฤษภาคม เวลา 05.22 อ่าวเปอร์เซีย กองพลทหารราบเอสเอสที่7 งานนี้เราอยู่กับกองร้อยเบอร์ลิน และผู้บังคับกองร้อย จ่าสิบเอกรูดอร์ฟ เฮนส์
ซ่าาาาา...ซ่าาาาาาา "จ่าครับ จ่าครับ! ตื่นได้แล้วครับ! เราจะเข้าฝั่งแล้วนะครับ!"เสียงตะโกนของจ่าสิบตรีฮาทน์แมนดังขึ้นเพื่อปลุกเรียกรูดอร์ฟ
"หา? หือ? ตอนนี้กี่โมงแล้ว?"จ่ารูดอร์ฟกึ่งหลับกึ่งตื่น
"ตอนนี้ตี5ครับ อีก10นาทีเราจะยกพลขึ้นบกแล้วครับ!"จ่าฮาทน์แมนบอก
"อ้อ อ้อ อืมๆ เคๆๆ"จ่ารูดอร์ฟลุกขึ้นนั่งและส่องกล้องส่องทางไกลไปยังชายหาด
ชิ้วๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!!!!!........จรวดไม่นำวิถีข้างลำเรือระดมยิงขึ้น
"โอ้ว! เชี่ย!"ทหารเอสเอสบนเรือแต่ละลำก้มหมอบลงเพราะตกใจ
"ไม่ต้องกลัว!! ไม่ต้องกลัว!! นี่จรวดของฝ่ายเรา! มันอยู่ข้างลำเรือของพวกเราแต่ละลำนี่แหละ!"จ่ารูดอร์ฟบอกลูกน้องตัวเอง
*ขออธิบายระบบจัดกองทัพของนาซีก่อน ระบบการจัดทัพเปลี่ยนใหม่ตอนที่เข้าร่วมรบกับฮอรัส
1กองทัพ มี 1แสนนาย หรือ 10กองพล
1กองพล มี 1หมื่นนาย หรือ 10กองพัน
1กองพัน มี 1พันนาย หรือ 10กองร้อย
1กองร้อย มี 100นาย หรือ 10หมวด
1หมวด มี 10นาย หรือ 2 หมู่
1หมู่ มี 5นาย
ฟิ้วววววว...ฟิ้วววววว..ฟิ้ววววววว Ju 1943 3ลำบินผ่านหัวไปยังชายหาด
"เฮ้!!!!!!!!!!! จัดการมันเลย!"
"วู้ววววว!!! ฆ่ามันเลย!!!"
ไม่นานนักMe262จะฐานทัพอากาศในดูไบบินมาสนับสนุนJu 1943
เมื่อการยกพลขึ้นบกเริ่มขึ้น เรือของกองร้อยเบอร์ลินเป็นเรือลำแรกที่มาถึงชายหาด
"พลปืนกลหนัก! ไปติดตั้งปืนที่หัวเรือซะ พอฝาเรือเปิดเมื่อไร ยิงไม่ยั้ง ส่วนคนที่เหลือถือปืนรอ พอMg 42เริ่มยิงเมื่อไร ยิงไปให้ทั่วชายหาด เราจะกดดันพวกมัน เข้าใจนะ?!"จ่ารูดอร์ฟบอกทุกคน
พลปืนกลMg 42 2คนติดตั้งปืนที่หัวเรือและนำแผ่นเหล็กมาวางปิดขาพวกตน
ปึง!...โครม!! ฝาเรือเปิดออก เสียงปืนก็ดังตามมา แต่ยิงได้ไม่นาน
"หยุดก่อน! พวกมันไม่อยู่ต้อนรับ ฉะนั้นรีบไปยึดหัวหาดเร็วเข้า!"รูดอร์ฟสั่งลูกน้องก่อนที่จะรีบวิ่งออกจากเรือ เรือลำอื่นๆก็เริ่มวิ่งออกมาแล้วเช่นกัน
"ตอนนี้เรายึดหัวหาดไว้ได้แล้ว พลวิทยุ!!"รูดอร์ฟเรียกพลวิทยุ พลวิทยุเรียกก้มมาหาและติดต่อวิทยุหากองทัพอากาศ
"นี่! จะมียูเอฟโอมาสนับสนุนอีกมั้ย?"รูดอร์ฟถาม
"มีแน่นอนครับ ถ้าต้องการเมื่อไรติดต่อมาได้ทันทีนะครับ"รูดอร์ฟได้ยินเช่นนั้นจึงวางสายไปและหันมาโฟกัสกับการรบ
"สถานการณ์เป็นไงบ้าง?"จ่าคอนติแนนท์จากกองร้อยมิวนิคถามรูดอร์ฟ
"ตอนนี้ยังไม่แน่ชัด เรายังไม่ทราบตำแหน่งของพวกมันแต่ที่แน่ๆคือบังเกอร์ทั้งหลายบนหาดน่ะ เละหมดแล้ว"รูดอร์ฟบอก
"แล้วตอนนี้เรารออะไร?"
"รอให้ทหารทั้งหมดอยู่ที่ชายหาดไง ไม่งั้นทหารที่ตามมาหลงกลุ่มแน่ พวกนี้เป็นทหารกระจอกๆที่ไม่เคยแม้แต่รู้จักคำว่าสงครามด้วยซ้ำ"รูดอร์ฟชี้ไปที่เรือของกองพลนานาชาติ
"ข้าศึกบุก!!!!!!!!"ทหารนายหนึ่งตะโกนขึ้น พร้อมระเบิดที่ระเบิดอยู่ข้างๆรูดอร์ฟ
"รถถังป้อมปราการทาง9นาฬิกา!!"
"เอาปืนยิงรถถังมาเดี๋ยวนี้!!"รูดอร์ฟตะโกนถามหาปืนแพนเซอร์เชร็ค พร้อมทหารนายหนึ่งที่แบกมันมาได้วิ่งมาหารูดอร์ฟ
"ยิงที่เกราะตรงท้องมันนะ ตรงนั้นบางที่สุด มาเดี๋ยวฉันช่วย"รูดอร์ฟหยิบจรวดมาบรรจุใส่ท่อยิง
"ยิงได้!"รูดอร์ฟตะโกน จรวดที่ยิงออกไปนั้นเจาะเกราะได้แต่ไม่ได้สร้างความเสียหายให้รถถังเลยแม้แต่น้อย
"พลวิทยุ! ติดต่อเรือประจัญบาน บอกให้พวกเขายิงถล่มซะ"รูดอร์ฟบอกพลวิทยุ
"นี่กองพลเบอร์ลิน ต้องการการยิงสนับสนุนที่พิกัด30องศาเหนือ9ลิปดา 49องศาตะวันออกและลิปดา รถถังป้อมปราการ ยิงมาโดยด่วน!"
"รับทราบ"
บึ้มๆๆๆ! เรือประจัญบาน2ลำในอ่าวเริ่มยิงปืนใหญ่600มม. กระสุนปืนใหญ่บินลงมาที่รถถังอย่างจัง กระสุนทุกนัดยิงโดนรถถังและทรายด้านข้าง
"มันไม่เป็นอะไร!"ทหารนายหนึ่งตะโกนบอก ก่อนที่เขาจะโดนทหารฮอรัสด้านหลังรถถังยิงใส่เขา
"จ่าครับ ยูเอฟโอจะมาในอีก2นาทีครับ ถึงตอนนั้นเราต้องเอาตัวรอด"พลวิทยุบอกรูดอร์ฟ
2นาทีต่อมา Ju 1943 3ลำก็บินมาลอยตัวเหนือกองพลเอสเอส และเริ่มเคลียร์พื้นที่ด้วยปืนพลาสมา
"บุกเลย!"รูดอร์ฟเป่านกหวีดและวิ่งออกมาร่องทราย การสนับสนุนจากยานรบJu 1943 ทำให้รถถังป้อมปราการเละในนัดเดียว ทหารฮอรัสที่วิ่งออกมาจากบังเกอร์ก็โดนปืนใหญ่และปืนกลจากJu 1943ยิงจนเละไม่เหลือซาก
เวลา 07.31 ยานรบทั้ง3ยังคงบินสนับสนุนการรบอย่างต่อเนื่อง ทหารภาคพื้นดินแทบไม่ต้องเสียกระสุนเลย การนัดเจอกันของทหารทั้ง47กองพลคือที่เมืองHendijan
เวลา 08.02 กองพลเยอรมันทั้งหมด35กองพลได้อยู่ในเมืองเรียบร้อย กองพลนานาชาติอีก4กองพลก็มาถึงแล้ว ส่วนอีก8กองพลที่เหลือไม่ทราบตำแหน่ง เพราะพายุทรายกำลังเข้าทำให้สัญญาณวิทยุขาดหาย
"เอาล่ะทหารทุกคน พายุทะเลทรายกำลังจะมาในอีก2ชั่วโมง เราจะต้องขุดหลุมใต้ดินอาศัยกันได้แล้วนะ"จ่าจากกองร้อยวิคตอเรียยืนบนซากรถยนต์และบอกทหาร
"งั้นกองร้อยเบอร์ลินจองสนามกีฬานะ"รูดอร์ฟบอกจ่าโจฮันเนสจากกองร้อยดอยช์แลนด์
"ไม่เอาน่า สนามกีฬาจุคนได้เป็นพันคน ขุดรวมกันนี่แหละ"โจฮันเนสหยิบพลั่วขึ้นมา
"นี่พวกนาย คิดจะเอาสนามกีฬากันสองกองร้อยไม่ได้นะ ฉันเอาด้วย"จ่าคอนติแนนท์จากกองร้อย
มิวนิคเดินมาแจม
สุดท้ายมีทั้งหมด5กองร้อยที่เลือกสนามกีฬาเป็นที่กบดานรอให้พายุผ่านพ้นไป ส่วนที่เหลือต่างไปหลบพายุตามที่สวนต่างๆของเมือง
"จ่าครับเอาไงต่อดีครับ?"พลทหารถามรูดอร์ฟในที่กำบัง
"รอให้พายุผ่านไปก่อน ที่เหลือค่อยว่ากันที่หลัง"รูดอร์ฟหยิบแผนที่มาดู
"ตอนนี้เราอยู่ตรงนี้(ชี้ที่สนามกีฬา) ภารกิจของกองร้อยเราและอีก2กองพลคือยึดโรงพยาบาลที่ห่างไป1.27กิโลเมตร ทหารอีก5กองพลจะไปยึดท่าเรือที่แม่น้ำ ส่วนอีก4กองพลจะไปประจำที่ตอนตะวันออกของแม่น้ำเพื่อตั้งแนวรับที่แม่น้ำ 4กองพลจะไปตั้งแนวรับที่เมืองฝั่งตะวันออก ส่วนกองพลที่เหลือจะตั้งแนวรับทางฝั่งนี้ เราจะต้องออกจากเมืองนี้ถ้าตามเวลาคือตี2ของวันพรุ่งนี้"
"จ่าครับ จ่าคอนติแนนท์บอกว่ากองร้อยเขาเสียกำลังไปมากตอนปะทะกับรถถัง อาจจะต้องถอนตัวจากภารกิจหลักครับ"ทหารอีกนายสไลด์เข้าที่กำบังและบอกรูดอร์ฟ
"แล้วใครแทนที่กองร้อยของเขาล่ะ? กองพลเอสเอสที่7จะขาดสักกองร้อยนึกไปไม่ได้นะ"ทหารอีกนายทักขึ้น
"ทำไมไม่เอาทหารจากกองพลอื่นมาแทนละครับ?"
"ไม่ได้หรอก 1กองพลต้องมี10กองร้อย ถ้าขาดไป1จะไม่ครบกองร้อย และเราจะเอาจากกองพลอื่นไม่ได้ด้วย ภารกิจน่ะ ของใครของมัน"รูดอร์ฟบอก
"จ่าครับ! พลสังเกตการณ์บอกว่าพายุมาแล้วครับ พวกเขากำลังวิ่งลงมาครับ"พลส่งสารวิ่งมาบอก
"งั้นเข้ามาหลบพายุุก่อน!"รูดอร์ฟลากแขนทหารคนนั้นเข้ามาในหลุมหลบภัยและเอาผ้าใบเต็นท์ปิดทำเป็นหลังคา
"นายมาจากหน่วยไหน?"รูดอร์ฟถาม
"พลส่งสารยศพลตรีครับ พลตรีอดอร์ฟ เฮนฟราวมิ่ง จากกองร้อยวิคตอเรียครับ"พลส่งสารแนะนำตัว
"เอากาแฟหน่อยมั้ย?"จ่าฮาทแมนน์ยื่นกาแฟให้
"ขอบคุณครับ"อดอร์ฟรับถ้วยกาแฟ และยกดื่ม
"แล้วนายเคยไปสู้ที่ไหนบ้าง?"พลทหารนายนึงถามพลางกัดช็อคโกแลต
"แนวหน้าอินเดียครับ ได้ยศพลตรีตอนโดนยิงที่เข่าเลยล้มและกลิ้งจนกระดูกแขน ขา ซี่โครง กรามและไหปลาร้าหักเป็นเสี่ยงๆ"
"ทำไมนายเละแบบนั้นว่ะน้ะ แค่โดนยิงจนล้มไม่น่ากระดูกหักเยอะแบบนั้นนะ"
"ก็ฉันกลิ้งลงมาจากยอดเขาเอเวอเรสต์นี่หว่า ไปค้างบนก้อนหินนาน2วันในสภาพเละเป็นโจ๊ก จนฮ.ของทัพจีนมาเจอและมารับไปนอนโรงบาลนานครึ่งปี"อดอร์ฟโชว์รอยผ่าตัดที่หน้าอกให้ดู
40นาทีต่อมา พายุทรายก็ได้ผ่านพ้นไป
"แค่ก!! แค่ก!! อะแฮ่ม!! ทรายแม่งเข้าปากฉันเต็มเลยว่ะ! อะ แค่กๆ!!"ทหารเริ่มเปิดผ้าใบและปัดเศษทรายออกจากผ้าใบ
"ปืนใหญ่!!!!"ทหารนายหนึ่งตะโกนบอก ทหารที่วิ่งออกจากหลุมจึงรีบกลับเข้าไปในหลุม
"กลับมาก่อน!! กลับมาในหลุมเร็วเข้า!!"รูดอร์ฟโผล่หน้าตะโกนเรียกทหารที่ยังอยู่ท่ามกลางดงระเบิดปืนใหญ่
ตู้มมม!!! กำแพงของสนามกีฬาถูกยิงจนพังลงมา เป็นการเปิดทางให้รถถังฮอรัสวิ่งเข้ามาโลดแล่นในสนาม
"รถถังเอตินเซเว่น! เอาปืนต่อต้านรถถังมา!! ด่วน!!!"รูดอร์ฟตามหาปืนต่อต้านรถถัง
"จ่าครับ! เอานี่!"พลทหารโยนปืนแพนเซอร์เชร็คให้
"ดีละ งั้นเอาไปกินซะ!"รูดอร์ฟยืนขึ้นและยิงใส่ตัวถังเยื้องไปด้านหลัง
บึ้ม!!!!!!! จรวดยิงโดนรางกระสุนรถถังทำให้ตัวถังฉีกออกและเศษเหล็กลอยมาแทงท้องของ
รูดอร์ฟ
"จ่า! เสนารักษ์อยู่ไหน?!"พลทหารนายหนึ่งลุกขึ้นไปลากรูดอร์ฟกลับเข้าหลุม
"เสนารักษ์!!!! เสนารักษ์อยู่ไหน?!!?!"พลทหารโผล่หัวตะโกนถามหาเสนารักษ์ทำให้เขาโดนสไนเปอร์ยิงเข้าที่หัว
"จ่าครับ! อดทนแปบนึงนะครับ! เสนา!!! เสนาตายไปแล้วเหรอ?!!"คอนติแนนท์โผล่หัวตะโกนถามกองร้อยข้างๆ
"แปบนึง!!!! เสนารักษ์อยู่นี่!"กองร้อยเอริกะตะโกนตอบ ไม่นานเสนารักษ์ก็วิ่งฝ่าดงกระสุนมาที่หลุมของกองร้อยเบอร์ลิน
"มาแล้วครับ!"เสนารักษ์หยิบผ้าก๊อตและแอลกอฮอล์ล้างแผลมาเช็ครอบๆแผลถูกเหล็กแทง
"อ๊ากกกกก!!!!!!!!"รูดอร์ฟตะโกนร้องด้วยความเจ็บปวด
"แปบนึงนะจ่า!!! ดึงเหล็กออกและเย็บแผลก็จบแล้ว! อย่าดิ้นนะจ่า!"เสนารักษ์มองตารูดอร์ฟ
เมื่อการทำแผลจบลง เสนารักษ์ก็วิ่งออกไปหาทหารที่ต้องการความช่วยเหลือ
เวลา 08.42 ความช่วยเหลือมาถึง กองพลนานาชาติ12กองพลเข้าเมืองขอเสบียงและเมื่อพบศัตรูทำให้พวกเขาจัดการศัตรูได้หมด
วันแรกผ่านไป วันที่สองและสามก็ผ่านไปอย่างชิวๆ เพราะกองทัพฮอรัสมีแค่ที่ตั้งรับบนชายหาดและเมืองทำให้แทบไม่มีการต่อต้านระหว่างทางเลย
วันที่ 10 พฤษภาคม ฝ่ายสัมพันธมิตรเข้าสู่เมืองอาห์วาซ ณ สถานีรถไฟใต้ดินของมหาวิทยาลัย
"พวกมันหนีกลับบ้านไปหมดแล้วเหรอ?"รูดอร์ฟแซว
"กลับบ้านไปดูดนมแม่ที่ดาวขยะ5555"พลทหารอีกนายตอบ
เก๊งๆๆๆ...เสียงฝีเท้าที่เหยียบบนโลหะดังขึ้นภายในอุโมงค์รถไฟ
"ใครน่ะ?!!!!"คอนติแนนท์เดินไปดู รูดอร์ฟและทหารคนอื่นๆวิ่งมามุงและส่องไฟ
"อย่ายิงผมเลย!! ผมมีลูกมีเมีย!"พบทหารพลร่มเยอรมันนายหนึ่งที่กำลังโอดครวญอยู่
"ฟอลซริมเจเกอร์เหรอ?! พวกนายมานี้ได้ไงเนี้ย?"จ่าโจฮันเนสเดินมาดู
"ผมคาคินสกี้ จากพลร่มที่7ครับ นั้นเอสเอสเหรอ?"
"ใช่ พวกนายมาที่นี้ได้ยังไง?"
"พวกเราหนีออกจากเยรูซาเล็มตอนกุมภาพันธ์ครับ เราเจอพวกฮอรัสล้อมตำแหน่งทำให้เราไม่มีทางเลือกนอกจากขับรถหนีมาที่นี้น่ะครับ"พลร่มนายนั้นตอบ พร้อมกับพลร่มอีก4คนที่เปิดฝาห้องนิรภัยใต้รางรถไฟออกมาข้างนอก
"นั้นเอสเอสนิ"พลร่มคนแรกที่ปีนบันไดขึ้นมาบอก
"เรารอดแล้ว"
ด้วยการสอบถามพลร่มทั้ง5นาย ทำให้รู้ว่าฮอรัสเกือบทั้งหมดในตะวันออกกลางถอนกำลังไปหนุนแนวหน้าในอินเดียและจีน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น