[Yuri] ..Inactive Sonata..บทเพลงของคนเฉื่อยชา - นิยาย [Yuri] ..Inactive Sonata..บทเพลงของคนเฉื่อยชา : Dek-D.com - Writer
×

    [Yuri] ..Inactive Sonata..บทเพลงของคนเฉื่อยชา

    โดย KvaliaKing

    เป็นเรื่องที่แต่งของจากบุคลิกของเพื่อนๆในห้องครับ อยากให้ลองอ่านกันดูผมว่าคู่นี้มันน่ารักนะครับ

    ผู้เข้าชมรวม

    232

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    232

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    2
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  19 พ.ค. 58 / 19:25 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ


    ...Incative Sonata...

    มีคนอยู่ประเภทหนึ่งที่ไม่สามารถทำความปารภนาของตัวเองให้เป็นจริงได้
    คนที่ไม่รู้ความปารถนาของตัวเอง...

    ฉันเคยเจอคนประเภทนั้น 
    คนใกล้ตัวของฉันคนหนึ่ง...
    คนที่เคยไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ใช้ชีวิตเฉื่อยชา
    ราวกับคนเบื่อโลกไปวันๆ

    ...แต่ตอนนี้ 'เธอคนนั้น' โบยบินไปไกลแล้ว
    ไกล...จนฉันไม่สามารถมองเห็นเธอได้

     
     

    ...Intro...

                    ฤดูร้อนกำลังจะผ่านไปแล้ว และฤดูหนาวก็กำลังจะมาเยือน แสงจันทร์ยามค่ำบวกกับการที่พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้ายิ่งทำให้ใจคนเหงาๆคนหนึ่งอย่างฉันรู้สึกหดหู่ พอทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่างก็พบเพียงท้องฟ้ามืดมิดกับแสงสีตระการตาของเมืองกรุง ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ...โลกมันหมุนของมันอยู่ทุกวัน กาลเวลาเปลี่ยนไปคนก็มีสิทธิ์เปลี่ยน ช่วงเวลาและความทรงจำที่ฉันแสนหวงแหนจนตอนนี้ก็ยังคงคิดถึงมันอยู่ แม้จะเอากลับมาไม่ได้แล้วแต่ยังคงระลึกถึงได้เสมอ...

     

                    “เฮ้อ!” ถอนหายใจออกมาดังๆปลดเปลื้องความรู้สึกหนักอึ้งในใจออกไปก่อนจะหมุนตัวกลับไปในห้อง หยุดยืนอยู่หน้ากระจกและจัดการกับเนกไทที่พาดอยู่บนคอมานานให้มันเข้าที่กับเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตา

     

                    “ยังไม่เสร็จอีกหรอ เพื่อนคนอื่นมารอกันแล้วนะ” เสียงทุ้มแหบของเพื่อนชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นก่อนที่ร่างของเจ้าตัวจะก้าวเข้ามาในห้องในชุดสูทกึ่งทางการ ข้างนอกนั้นพอได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายอยู่เลาๆคงจะมีเพื่อนคนอื่นมารอกันแล้วอย่างที่มันว่า เพราะพวกเรากำลังจะไปงานเลี้ยงรุ่นสมัยมัธยมและแน่นอนว่าต้องมีแอลกอฮอล์ ฉันซึ่งไม่ใช่นักเที่ยวนักดื่มจึงโดนพวกมันขอติดรถตามระเบียบ
     

                    “งั้นหรอ โอเครึยังอ่ะ” ฉันถามขึ้นก่อนจะหันกลับไปที่กระจก ภาพตรงหน้าคือร่างสูงบางของหญิงสาวผมยาววัย 27 ปีคนหนึ่ง ผมดำยาวถูกมัดรวบไว้ลวกๆเป็นหางม้า ผิวหน้าแต่งเพียงบางๆด้วยรองพื้น ดวงตากลมใสที่เคยมีแว่นกรอบดำปกปิดเจ้าตัวอยู่ในชุดสบายๆของเสื้อเชิ้ตแขนสั้นผูกเนกไทสีแดงเลือดหมูระกับกางเกงสแลกสีดำสวมเข็มขัดแดงกับรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อสีน้ำเงิน อืมๆ...ก็พอไปได้ละนะ

                    “ดูดีแล้ว ไปกันเหอะ”

                    ...ฉันรู้หรอกว่ามันพูดไปงั้น ถึงรู้แบบนั้นก็โดนมันลากออกมาจากคอนโดอยู่ดี - -*



     

                                    บรรยากาศที่โรงเรียนเก่า มันก็ไม่มีอะไรมากเพียงแค่ทุกๆอย่างมันเปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้เท่านั้น ฉันทอดสายตามองป้ายโรงเรียนขนาดใหญ่ขณะเหยียบคันเร่งพาให้รถเคลื่อนตัวเข้าไปยังที่จอด ที่แห่งนี้เคยเป็นโรงเรียนสตรีชื่อดังมาก่อนจะเปิดเป็นสหะรับผู้ชายบ้างในจำนวนน้อยๆ ไม่ง่ายเลยที่จะสอบเข้าที่นี่ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นโรงเรียนอันดับหนึ่งของจังหวัด ยิ่งจะอยู่ในห้องอันดับต้นๆก็ยิ่งต้องดิ้นรนมาก นั่นก็เพื่อปูทางสู่อนาคตที่ดี

                    “อย่าทำหน้าแบบนั้นสิไอ้หมอ” เพื่อนชายไม่แท้ข้างกายหันมาตบบ่าฉันเบาๆ ทุกคนในรถเองก็ส่งสายตามาแปลกๆ...อันที่จริงไม่แปลกเท่าไร ในเมื่อพวกมันทุกคนรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับฉันในที่แห่งนี้ด้วยกันทั้งหมด ก็แน่ล่ะเราเรียนห้องเดียวกันมาก...ใครอีกคนที่เป็นคู่กรณีนั่นก็เรียนห้องเดียวกับพวกเราเหมือนกัน

                    “เออน่า เราไม่เป็นไรหรอกไม่ต้องมาทำหน้าแบบนั้นกันเลย” ฉันตอบกลับก่อนจะหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าที่จอดอย่างสวยงาม บรรดาเพื่อนสามสี่คนที่นั่งมาด้วยพากันก้าวลงจากรถช้าๆเอื่อยๆแม้เราจะมากันสายมากแล้วก็ตาม

                    “สนามบอลยังแคบเหมือนเดิมเลยว่ะ”

                    “ผู้หญิงเขาเตะบอลกันที่ไหนเล่า”

                    “เฮ้ย! มึง! ตรงนั้นปกรณ์ป่าวว่ะที่เคยอยู่ห้อง B อ่ะ”

                    “เออว่ะ หล่ออ่ะๆ เมื่อก่อนยังใส่แว่นเนิร์ดๆอยู่เลย”

                    “ไปนั่งที่เหอะกูหิว” ฉันได้แต่ยกมือขึ้นกุมขมับ ‘สาบานว่านี่ผู้หญิงคุยกัน...ผู้หญิงจากโรงเรียนสตรีที่ดีที่สุดของจังหวัดด้วย!!’ คิดอย่างปลงๆไปพลางก็เดิมตามพวกมันไปนั่งไปพลาง ไม่ได้เจอกันนานพวกมันก็ยังเหมือนเดิม เสียงดัง ปากเสีย เหมือนๆเดิม

                    “โอ๊ะ! นั่นเด็กใหม่ห้อง A นี่นา!!!” พวกเขาหมายถึง ฉัน...จนถึงตอนนี้ เราจะจบมาก็หลายปีฉันไม่ได้เป็นแค่เด็กใหม่ย้ายกลางเทอมเหมือนเมื่อตอนนั้นแล้วแต่ก็ยังมีแต่คนเอาไปเรียกแบบนั้นดูจะติดปากยิ่งกว่าชื่อฉันอีก

                    “สแตมป์?” ฉันพึมพำก่อนที่จะคลี่ยิ้มออกมาอย่างดีใจที่ได้เจออีกคน...สแตมป์ คือเพื่อนคนแรกของฉันที่ได้พบที่โรงเรียนแห่งนี้ หล่อนเป็นลูกสาวของเพื่อนแม่ที่เรียนรุ่นเดียวกับฉัน เป็นคนที่เปรียบเหมือนพี่สาวของฉันเลยล่ะเพราะพอมีเรื่องอะไรฉันก็เอาไปปรึกษาเธอแทบทุกเรื่อง

                    “ได้ยินว่าจบไปเป็นหมอนี่ เร็วจังเลยนะ” สแตมป์ยิ้มอย่างภูมิใจ ฉันยิ้มตามเช่นกัน

                    “ตอนนี้ผันตัวไปเป็นจิตแพทย์แล้วล่ะ ทำงานสบายกว่าเยอะ หมอเหมือนกัน” ฉันตอบกลับ อันที่จริงจะเรียกว่าผันตัวก็ไม่ถูกเพราะมันคืออาชีพแรกเริ่มที่ฉันอยากจะเป็นก่อนจะบอกใครต่อใครว่าอยากเป็นหมอเสียอีก

                    “ ‘ออม ต้องภูมิใจแน่ๆ” ชื่อของบุคคลที่สามทำให้รอยยิ้มของฉันสะดุดกึกก่อนจะหันไปมองหน้าแสตมป์ที่ยืนส่งยิ้มกลับมาให้อย่างจงใจ...จงใจที่จะเอ่ยชื่อใครคนหนึ่งออกมาให้รู้สึกใจเต้น ฉันเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะขยับยิ้มน้อยๆ

                    “ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็อยาก...ให้มาชื่นชมความสำเร็จของเราด้วยตัวเอง” ฉันพึมพำ ภาพความทรงจำในวันเก่าๆฉายชัดในสมอง...จนตอนนี้ก็ยังคงคิดถึงอยู่ เรื่องราวอันแสนยาวนานของพวกเราที่เดินไปด้วยกันจนถึงสุดทาง ก็ได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่งเรื่องราวของเราสองคนจะถูกขีดเขียนต่อไป สักวัน...เรื่องราวของพวกเราจะไม่รู้จบ

    ====================

    ประเดิม Intro กันเลยนะครับ ยังไงก็ฝากด้วยนะครับถึงแม้มันจะเป็นแนว yuri ก็ตาม
    ผมเห็นมีเพื่อนหญิงสองคนในห้องเคมีและบุคลิกเข้ากันมาก แต่บอกไว้ก่อนนะครับเหตุการณ์ในเรื่องนี้
    เป็นเพี่ยงเรื่องที่แต่งขึ้นเท่านั้น ไม่มีมูลความจริงนอกจากบุคลิกของตัวละครครับ

     

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น