ตอนที่ 37 : D18 เรื่อง การพบกันที่ไม่เคยเกิดขึ้น ตอนพิเศษ
ดาดฟ้าโรงเรียนนามิโมริ
เราสู้กันมาหลายชั่วโมงแล้ว พักสักหน่อยเถอะ เคียวยะ
ดีโน่พูดพลางเก็บแส้แล้วนั่งลงกับพื้นเป็นการผูกมัดอีกฝ่ายไปในตัว ด้วยรู้ดีว่าลูกศิษย์ของตนไม่เคยรับฟังทั้งคำขอร้องหรือคำสั่ง มีแต่ต้องบังคับกันท่าเดียว ทั้งที่โดยพื้นฐานดีโน่ไม่ใช่อาจารย์จอมเผด็จการ แต่กับลูกศิษย์คนนี้ถือเป็นข้อยกเว้น
เชอะ เจ้าม้าแก่ แค่นี้หมดแรงแล้วหรือไง
ปึด!!!~
ประโยคต่อว่าของลูกศิษย์เล่นเอาความอดทนของอาจารย์อารมณ์ดีแทบกลายเป็นอดีต
ฮิบาริพ่นลมแรงๆท่าทางหงุดหงิดแต่ก็ยอมพักและนั่งลงดีๆ ที่หงุดหงิดเพราะสาเหตุหลายประการ ตั้งแต่การที่ถูกฝรั่งหัวทองมาบอกว่าจะเป็นอาจารย์เรื่องแหวนบ้าๆ ที่สำคัญเจ้าม้าหัวทองนี่ยังเป็นสัตว์กินพืชที่เก่งจนเขาสู้ไม่ได้อีกด้วย
...แต่ที่โมโหที่สุดคงเป็นเรื่องที่ร่างสูงถือวิสาสะเรียกชื่อเขา...
เพราะมันดันไปเหมือนใครสักคน...
...ใครสักคนที่ลางเลือนในความทรงจำ
...ใครสักคนที่ทำหน้าเจ็บปวดเหลือเกินตอนฮิบาริบอกไม่รู้จัก...
ชื่อของเจ้าคนน่าโมโหนั่น รู้สึกจะเป็น...
นี่ครับ บอส
อา ขอบใจนะโรมาริโอ้ แล้วก็ฝากไปซื้อข้าวกล่องให้ที เผื่อเคียวยะด้วยนะ
ดีโน่รับกระป๋องน้ำเย็นฉ่ำสองใบจากลูกน้อง กระป๋องหนึ่งเป็นของเขา ส่วนอีกกระป๋อง... ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเดินไปให้ลูกศิษย์ตัวดีที่จงใจนั่งให้ห่างจากเขาสามเมตรเป็นอย่างต่ำ
เอ้า เคียวยะ...
ฮิบาริเหลือบตามองร่างสูงแวบหนึ่งก่อนจะยื่นมือไปรับกระป๋องโดยไม่พูดอะไร คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเมื่อคนส่งให้ยังไม่ยอมปล่อยกระป๋อง
เรือนผมสีเดียวกับดวงตา แววตาดื้อดึงไม่ยอมลงให้ใคร ท่าทางหยิ่งยโสไม่หวั่นเกรง ทุกท่วงท่าการกระทำของเคียวยะทำให้ดีโน่รู้สึกคุ้นเคย ชายในชุดสูทที่เขาเคยพบด้วยความบังเอิญในวันหิมะโปรย คนที่เพิ่งพบกันเป็นครั้งแรกแต่กลับทำท่าเหมือนรู้จักเขาเป็นอย่างดี
ชื่อของชายคนนั้น คือ...
...ฮิ...บาริ...คุง...
บรึ้ม!!!
เกิดเสียงระเบิดตามด้วยกลุ่มควันโขมง เมื่อกลุ่มควันจางลงคนที่อยู่ต่อหน้าดีโน่หาใช่ลูกศิษย์ตัวดีในชุดนักเรียน แต่เป็นคนๆหนึ่งในความทรงจำที่โหยหา...
ฮิบาริคุง ใช่ ฮิบาริคุงจริงๆด้วย
ดีโน่ร้องอย่างดีใจเหลือประมาณ แต่พริบตานั้นเอง...
ผัวะ!!!
โอ๊ย...
ดีโน่หงายหลังล้มมือหนึ่งกุมใบหน้าตัวเองที่โดนวัตถุยาวเรียวสีเงินฟาดเข้าเต็มรัก
ทะ ทำอะไรน่ะ ฮิบาริคุง จำฉันไม่ได้แล้วเหรอ ก็ฉัน...
เจ้าม้าโง่ คนอย่างแกนี่มัน...
ฮิบาริร่างผู้ใหญ่กัดฟันกรอดด้วยโมโหเหลือประมาณ รู้สึกว่าเขาจะถูกบาซูก้าทศวรรษทำให้สลับกับตัวเองในอดีตอีกแล้ว ถูกสลับตัวให้กลับมาในยุคที่ดีโน่ยังเรียกเขาว่า ฮิบาริคุง
อนาคตอีก10ปีข้างหน้า
วะ เหวอ คะ เคียวยะ
ดีโน่หลุดครางเสียงอ่อย สองขาเริ่มถอยหนีจากร่างเล็กตรงหน้า ที่อยู่ต่อหน้าเขาคือเคียวยะในวัยเด็กซึ่งไม่แน่ใจว่ารู้จักกับเขาแล้วหรือยัง
นาย...ดีโน่...คาบัคโรเน่...
เจ้าของชื่อฝืนกลืนน้ำลายเหนียวเหนอะลงคอ ร่างเล็กเรียกชื่อเขา จะเพราะเวลาปัจจุบันได้รู้จักกันแล้ว หรือว่ายังจำเขาในอนาคตได้กันนะ แต่อย่างไหนดีโน่ก็รู้สึกดีใจทั้งนั้นล่ะ
ฮิบาริในวัยเด็กสั่นหัวไปมาเล็กน้อยไล่ความมึนงง ในหัวเริ่มตรึกตรองอะไรบางอย่าง ความเคร่งเครียดปรากฏบนใบหน้าจนดีโน่ไม่กล้าขัด
ตอนนั้น...นายเคยบอกว่าสักวันนายจะมาพบฉัน...
ใช่ ฉันจะต้องมาแน่
ตอนนั้น...นายบอก...บอกว่า...รักฉัน...
ใช่ ฉันรักเคียวยะยิ่งกว่าใคร
ฮิบาริหลุบตาลงต่ำกว่าเดิม ลมหายใจถี่กระชั้นรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว แต่ไม่ใช่เพราะความเขินอาย
ตอนนี้นายมาเป็นอาจารย์ให้ฉัน...
ปรากฏร่องรอยความตื่นเต้นบนใบหน้าหล่อเหลาของดีโน่ นี่แปลว่า...
ตอนนี้นายมาเป็นอาจารย์ให้ฉัน แต่ทำไม10ปีต่อมา นายถึงมารักฉันได้
อะ...คะ...คือ...เรื่องนั้นมัน...
ฉันจะขย้ำนายให้ตายข้อหาพรากผู้เยาว์
แว้กกกก ไม่นะเคียวยะ เคียวย้า!!!~
ปัจจุบัน
โธ่ ใจร้อนจัง
ดีโน่ส่งเสียงตัดพ้อ เพราะผมที่เลื่อนลงมาปรกหน้าทำให้ฮิบาริไม่เห็นรอยยิ้มกว้าง
ทั้งที่ฉันเฝ้ารอวันที่จะได้พบ เคียวยะ มาตลอดแท้ๆ
ฮิบาริชะงักไปเล็กน้อย เมื่อกี้เจ้าม้าพยศพูดว่า... ชายหนุ่มกวาดสายตาไปรอบๆ เขากำลังอยู่ที่ดาดฟ้านามิโมริ ถ้างั้นหรือว่า เขากับดีโน่ในตอนนี้จะ...
ดีโน่ลุกขึ้นยืนสืบเท้าเข้าหาอีกฝ่าย ท่าทางมีลับลมคมในทำให้ฮิบาริเผลอเกร็งตัวโดยอัตโนมัติ
ตอนนี้ฉันรู้แล้ว...รู้ว่าเคียวยะคนนี้มาจากโลกในอนาคตเพราะบาซูก้าทศวรรษ...รู้ว่าเคียวยะในปัจจุบันเป็นลูกศิษย์ของฉัน...แต่ว่า...
ร่างสูงโน้มใบหน้าหล่อคมเข้าหาร่างโปร่ง กระซิบเบาๆที่ข้างหู
แต่ว่า...ฉันกับเคียวยะในอนาคต...เป็นมากกว่านั้นใช่มั้ย
ดีโน่ใช้จังหวะที่อีกฝ่ายกำลังอึ้งตรงเข้าสวมกอดร่างโปร่งแนบแน่น
เคียวยะ...ฉันน่ะนะ...คิดมาตลอดว่า...
อนาคต อีก10ปีข้างหน้า
วะ หวา เคียวยะ พอเถอะนะ
ดีโน่ถูกไล่ต้อนไปจนติดกำแพง ยกสองมือขึ้นกันพลางร้องขอให้ร่างเล็กหยุดมือที่ถือทอนฟา คนรุกไล่สบถออกมาเบาๆแต่ก็ยอมลดทอนฟาในมือลง รู้สึกหงุดหงิดที่ร่างสูงมีฝีมือเหนือกว่าเขามากแต่ก็ไม่เคยใช้มันปัดป้องการโจมตีของเขาสักหน
นี่...
อะ อะไรเหรอ
ตัวฉัน...ในอนาคต...
คำถามที่เบาลงๆทุกตัวอักษรทำให้คนฟังต้องเอียงหูเข้าไปใกล้ๆ
...คิดยังไง...กับนาย
สิ้นประโยคดีโน่ผุดยิ้มบาง ต่างกับร่างเล็กที่เอาแต่ก้มหน้านิ่ง
ไม่สำคัญหรอกว่าจะเป็นเคียวยะในอนาคตหรือเคียวยะในตอนนี้ เพราะหัวใจของเคียวยะมีเพียงหนึ่งเดียว ไม่ว่าเคียวยะจะมอบมันให้ใคร...ฉันก็เชื่อว่าคนๆนั้นจะไม่ทำให้เคียวยะต้องเสียใจเป็นอันขาด
ร่างสูงได้ยินเสียงพึมพำตอบเบาๆว่างั้นหรือ อีกวินาทีต่อมาฮิบาริสืบเท้าเข้ากอดร่างสูงแบบหลวมๆเก้ๆกังๆราวไม่แน่ใจในการกระทำของตัวเอง ท่าทางน่ารักเช่นนี้ทำให้ดีโน่ยิ้มไม่หุบ สองแขนแกร่งประคองกอดร่างเล็กอย่างทะนุถนอม
ดีโน่...
หือ อะไรหรือ
บรึ้ม!!!~
ดีโน่...
ท่ามกลางกลุ่มควันตลบอบอวลแม้น้ำเสียงจะเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ไม่มีทางที่ดีโน่จะจำไม่ได้ ชายหนุ่มก้มลงจูบหน้าผากฮิบาริเบาๆ
...ฉันกลับมาแล้ว
ยินดีต้อนรับกลับนะ เคียวยะ
ปัจจุบัน
ในกลุ่มควันดีโน่รู้สึกว่าร่างในอ้อมแขนตัวหดเล็กลง ผลของบาซูก้าทศวรรษหมดลงโดยที่เขายังไม่ทันพูดสิ่งที่อยากพูดมาตลอด
เคียวยะ...
นัยน์ตาสีนิลที่ดูสับสนเล็กน้อยมองย้อนกลับมา ร่างเล็กกวาดสายตามองรอบๆ ที่นี่ไม่ใช่คฤหาสน์คาบัคโรเน่แต่เป็นดาดฟ้านามิโมริ และคนที่อยู่ตรงหน้าก็คือ...
ดีโน่...
มีสายลมพัดมาวูบหนึ่ง เป็นสายลมที่อบอุ่นทั้งยังเย็นสบาย สายลมอันอ่อนโยนช่วยพัดความรู้สึกทั้งมวลเชื่อมโยงเข้าหากันเป็นหนึ่งเดียว ดวงตาสองคู่สอดประสานลึกล้ำไปถึงหัวใจ รู้สึกราวกับการรอคอยมาถึงจุดสิ้นสุด
ดีเหลือเกินที่ได้พบกับ เคียวยะ
ดีโน่ ขอบคุณนะที่มาพบฉัน
เพราะการรอคอยสิ้นสุด นับจากนี้คือการเริ่มต้นใหม่ มือทั้งสองยังคงกุมประสานย่างก้าวเล็กๆไปสู่อนาคตอันยิ่งใหญ่
END
D18 บันไซ