ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Harry potter xx/OC

    ลำดับตอนที่ #2 : 2 Rewrite

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 912
      92
      28 ต.ค. 61







              “แน่ใจใช่มั้ยว่าไปเองได้ พ่อว่าลูกรอไปพร้อมพ่อดีกว่านะ”

    “หนูโตแล้วนะพ่อ แค่ไปซื้อของเอง ไปคนเดียวก็ได้ พ่อจัดการธุระของตัวเองเถอะ”

              “เห้อ เอางั้นก็ได้ ระวังตัวด้วย แล้วก็ห้ามก่อเรื่องเป็นอันขาดเข้าใจใช่ไหม” โจนาธาน โรซิเออร์ ชายวัยกลางคนผูมีศักดิ์เป็นพ่อบังเกิดเกล้าย้ำกับลูกสาวตัวเอง

              “เข้าใจแล้วค่า พ่อไปซักทีเถอะ เดี๋ยวก็สายหรอก” ฉันว่าก่อนจะแยกตัวออกมาจากผู้เป็นพ่อ เดินขึ้นไปห้องตัวเองที่อยู่ชั้น3ของบ้าน(คนทั่วไปคงเรียกว่าคฤหาสณ์มากกว่า)ซึ่งเป็นชั้นสูงสุด ไม่รู้ว่าจะมีไปทำไมหลายชั้นในเมื่ออยู่กันแค่สองคนพ่อลูก และถ้าว่ากันตามความจริงก็คงมีแค่เอลฟ์ประจำบ้านเท่านั้นแหละที่อยู่บ้านหลังนี้ พอเปิดเทอมฉันก็ต้องไปอยู่โรงเรียน ส่วนพ่อนั้นแทบไม่เคยอยู่บ้านเลยด้วยซ้ำเพราะงานที่พ่อทำนั้นต้องเดินทางไปโน่นไปนี่ทีละนานๆ แล้วถ้ายิ่งเป็นตอนปิดเทอมแบบนี้ก็แทบไม่ได้เจอกันเลยเพราะฉันตื่นสายเป็นกิจวัตร พอตื่นมาก็พ่อก็ไม่อยู่แล้ว ลิซ่าหยิบถุงเงินออกจากหีบใบกลางบนโต๊ะเครื่องแป้งที่ผู้เป็นบิดาให้ไว้สำหรับใช้สอยสำหรับทั้งเทอม กะด้วยสายตาคร่าวๆก็เห็นแล้วว่าคงมากพอที่จะใช้ได้อย่างเหลือเฟือ

    มันก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่จำความได้แล้ว ครอบครัวฉันมีกันอยู่สองคนพ่อลูก แม่ตายไปตั้งแต่ฉันอายุยังไม่ครบขวบ พ่อเอาแต่ทำงานงกๆจนแทบไม่มีเวลาให้ลูกสาวคนนี้ ฉะนั้นคนเป็นพ่อจึงพยายามชดเชยในส่วนนี้ให้โดยการตามอกตามใจแทบจะทุกอย่าง(ยกเว้นเรื่องเวลา) แต่เธอชินแล้ว เมื่ออายุ7ขวบเธอเข้าเรียนโรงเรียนประจำของโนแมจแห่งนึง พออายุได้13ปีเธอจึงเข้ามาเรียนที่อิลเวอร์เมอร์นี โรงเรียนสำหรับพ่อมดแม่มด และมาตอนนี้ที่อายุ15 เธอก็ย้ายมาเรียนที่ฮอกวอตส์ หึ บางทีฉันก็คิดนะว่าจะมีแม่มดคนไหนได้พบเจอความหลากหลายทางการศึกษาเท่าฉันกันนะ


    ***



    “ขอซื้อตำราเรียนปีสามฮอกวอตส์ค่ะ” ลิซ่าบอกกับพนักงานขายของร้านตัวบรรจงและหยดหมึกก่อนจะเดินไปดูหนังสือเล่มอื่นๆระหว่างรอหนังสือที่สั่ง ระหว่างนั้นมีคนอีกกลุ่มใหญ่เดินเข้ามา ทั้งร้านก็ตกอยู่ในความวุ่นวายเพราะเสียงคุยกันดังเจี๊ยวจ้าวไม่ยอมหยุด

    “แม่หนู หนังสือที่ต้องการได้แล้ว” ไม่นานพนักงานก็กลับมาพร้อมกับหนังสือเรียนตั้งใหญ่  เธอรีบจ่ายเงินเพื่อจะได้ออกจากร้านเสียที ก่อนจะเดินกลับไปรับชุดที่สั่งตัดไว้ที่ร้านเสื้อคลุมทุกโอกาศของมาดามมัลกิ้น


    “มารับชุดที่สั่งตัดไว้ค่ะ” เธอบอกกับพนักงานคนเดิมที่เป็นคนวัดตัวให้เธอในตอนแรก

    “กรุณารอสักครู่นะคะ พอดีเรายังตัดไม่เสร็จ แต่อีกเดี๋ยวคงได้แล้ว” พนักงานคนเดิมเดินกลับมาบอกอย่างสุภาพ เธอจึงเดินมาหาที่นั่งสำหรับอ่านหนังสือรอเงียบๆ







    Draco Part





    วันนี้เป็นวันที่ค่อนข้างยุ่งวุ่นวายสำหรับเด็กหนุ่ม เพราะพ่อกับแม่ติดธุระกับแขกคน

    สำคัญจ้าตัวจึงต้องมาทำธุระในการจัดซื้อของสำหรับเปิดเทอมนี้แต่เพียงผู้เดียวด้วยเหตุผลจากผู้เป็นแม่ว่าโตแล้ว ต้องหัดจัดการอะไรด้วยตัวเองบ้างและเจ้าตัวก็ยินดีเป็นที่สุดเพราะเบื่อกับการนั่งๆนอนๆอยู่บ้านเต็มที

    เดรโก มัลฟอย ทายาทคนเดียวของตระกูลมัลฟอย เลือดบริษุทธิ์ที่เก่าแก่และสูงส่ง เด็กหนุ่มเพิ่งจะมีอายุครบ15เมื่อไม่นานมานี้ รูปร่างที่สูงโปร่งบัดนี้เริ่มมีกล้ามเนื้อแบบผู้ชายที่เข้าสู้วัยหนุ่ม ผิวที่ขาวซีดราวกับไม่เคยโดนแดดบวกกับดวงตาสีห้าและผมสีบรอนด์สว่างตัดกับเสื้อสีดำที่สวมใส่ เมื่อรวมกับคุณสมบัติข้างต้นแล้ว ทำให้เขาเป็นจุดเด่นได้โดยไม่ยาก และทันทีที่เขาเดินมาในร้านพนักงานก็กุลีกุจอมาต้อนรับเป็นอย่างดี

    “นายน้อยมัลฟอย วันนี้มีอะไรให้รับใช้คะ” มาดามเจ้าของร้านรีบออกมาต้อนรับ

    “ฉันต้องการเสื้อคลุมตัวใหม่อย่างเร็วที่สุด รบกวนด้วย มาดาม” เสียงที่เริ่มแตกหนุ่มบอกความต้องการไป

    “โอ้ ได้เลยค่ะนายน้อยมัลฟอย รอสักครู่นะคะ” มาดามมักกิ้นเจ้าของร้านเรียกพนักงานคนที่กำลังว่างอยู่มาวัดตัวคุณชายมัลฟอยอย่างรีบเร่งก่อนจะเชิญให้เขานั่งรอ เด็กหนุ่มได้ยินเสียงถอนหายใจมาจากทางด้านหลังจึงหันไปมอง ราวกับตกอยู่ในภวังค์อะไรสักอย่าง สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือเด็กสาววัยน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกับเขานั่งไขว่ห้างกอดอกทำสีหน้าไม่พอใจไปทางมาดามเจ้าของร้านก่อนจะหันมาหยุดลงที่เด็กหนุ่ม ดวงตาสีฟ้าปะทะกับดวงตาสีน้ำตาลเข้มเป็นประกายของอีกฝ่าย เด็กหนุ่มพินิจมองเด็กสาวอย่างอดไม่ได้ ใบหน้าเรียวเล็ก ดวงตาสีน้ำตาลเข้มกลมโต ริมฝีปากบางเฉียบที่ออกสีชมพูระเรื่อ เรือนผมสีเงินสว่างเหมือนของพ่อเขาไม่มีผิด เด็กหนุ่มแอบคิดว่าถ้าเป็นเวลากลางคืนมันคงก็จะสวยเด่นแข่งกับแสงจันทร์ เธอสวมเสื้อยืดตัวโคร่ง ทับด้วยแจ็คเก็ตหนังสีดำมันเลื่อม กางเกงยีนต์สีซีดที่มีรอยขาดเล็กน้อยบริเวณต้นขา รองเท้าที่สวมก็เป็นรองเท้าผ้าใบหุ้มข้อแบบที่พวกมักเกิ้ลชอบใส่ ทำไมเขาไม่เคยเจอเธอเลยนะ เด็กหนุ่มคิด ถ้าเรียนฮอกวอตส์ก็น่าจะเคยเห็นผ่านตามาบ้าง เพราะจากรูปร่างหน้าตาแล้ว เด็กสาวตรงหน้าจัดว่าดูดีเลยทีเดียว แต่ดูจากการแต่งตัวเธอคงจะเป็นพวกลูกมักเกิ้ลเสียมากกว่า เสียดาย จู่ๆความคิดนี้ก็แวบเข้ามาในหัว แต่เขาจะเสียดายอะไรกันหล่ะ เสียดายที่เธอไม่ใช่เลือดบริสุทธิ์งั้นหรอ

    “ขอโทษนะคะ มีอะไรกับฉันรึเปล่า เห็นคุณจ้องมานานแล้ว” เด็กสาวตรงหน้าเอ่ยถามอย่างไม่ค่อยจะสบอามรมณ์นัก เด็กหนุ่มสะดุ้งตัว นึกขึ้นได้ว่าเป็นการเสียมารยาทที่จ้องผู้หญิงแบบนั้น

    “ขอโทษ ฉันแค่ไม่คุ้นหน้าเธอ ไม่เคยเห็นที่ฮอกวอตส์” แต่ถึงจะขอโทษไปอย่างนั้น แต่เด็กหนุ่มก็ยังคงความเย่อหยิ่งไว้ในน้ำเสียงอยู่ดี

    “ฉันเพิ่งย้ายมาฮอกวอตส์ปีนี้”

    “งั้นสินะ” เด็กหนุ่มพึมพำกับตัวเองเบาๆ  “เราคงได้เจอกันอีก ฉันมัลฟอย เดรโก มัลฟอย หวังว่าเธอจะได้อยู่บ้านที่ดีอย่างสลิธิลิน”

    “ยินดีที่ได้รู้จักมัลฟอย ฉันลิซ่า ลาลิซ่า โรซิเออร์” หญิงสาวยื่นมือมาจับทักทายกับชายหนุ่มตรงหน้า “ฉันต้องไปแล้ว แล้วเจอกันที่ฮอกวอตส์ มัลฟอย” เด็กสาวเอ่ยลา รับชุดที่สั่งตัดเอาไว้และเดินออกไปโดยไม่มีท่าทีสนใจในตัวเขาเลยสักนิดเดียว ให้ตายสิ ฉันคือมัลฟอยนะ ต่อให้โง่แค่ไหนก็ต้องรู้จักชื่อเสียงของตระกูลเขาบ้างสิ ยัยนั่นคงเป็นพวกลูกมักเกิ้ลจริงๆถึงได้ไม่รู้จัก เหอะ


    เดรโกกลับมาถึงบ้านก็เจอกับชายผู้หนึ่งที่คุ้นหน้าเค้าอย่างบอกไม่ถูก จนกระทั่งพ่อเขาแนะนำให้รู้จักเด็กหนุ่มจึงถึงบางอ้อ โจนาธาน โรซิเออร์ เพื่อนสมัยเรียนและญาติห่างๆของแม่ นี่เขาคงต้องกินปลาให้เยอะกว่านี้หน่อยแล้วเผื่อสมองจะได้ไม่ขี้เลื่อยขนาดนี้ ตอนที่เด็กสาวที่ร้านมาดามมัลกิ้นแนะนำตัว เขาลืมไปได้ยังไงว่าโรซิเออร์คือนามสกุลเก่าของคุณยายก่อนจะแต่งเข้าตระกูลแบล็ค

    “สวัสดีเดรโก โตเป็นหนุ่มแล้วหล่อเหมือนพ่อเลยนะ” โจนาธานว่าอย่างอารมณ์ดี

    “ขอบคุณครับคุณโรซิเออร์”

    “เรียกโจเถอะ ฉันชอบความสบายๆ แย่จัง ลิซ่าลูกสาวฉันไม่ได้มาด้วย ไม่งั้นคงได้แนะนำให้รู้จักกันไว้ จะได้เป็นเพื่อนกัน” ลิซ่างั้นหรอ ใช่จริงๆด้วยสินะ งั้นแสดงว่ายัยนั่นก็ไม่ใช่เลือดผสมหรือลูกมักเกิ้ลที่ไหน เด็กหนุ่มยกยิ้มพึงพอใจ

    “ครับ แต่เกรงว่าเราจะบังเอิญเจอกันแล้ว”

    “งั้นหรอ ดีจริง ลิซ่าจะย้ายมาเรียนที่ฮอกวอตส์ปีนี้ ยังไงฉันฝากเธอดูแลให้หน่อยนะ” โจนาธานว่ากับเด็กหนุ่มแล้วหันไปคุยเรื่องสัพเพเหระกับพ่อแม่เขาต่อ ก่อนจะลากลับในอีกไม่นาน

    “แกไปรู้จักกับลูกสาวเขาได้ยังไง เดรโก” ลูเซียส มัลฟอยซักลูกชายทันทีที่ส่งแขกเสร็จ

    “บังเอิญเจอกันที่ร้านมาดามมัลกิ้นครับพ่อ”

    “หรอ แล้วเธอเป็นยังไงบ้างหล่ะ” ลูเซียสถามอย่างสนใจ

    “ก็ดีครับ แต่เราไม่ได้คุยอะไรกันมาก แค่แนะนำตัวกันเล็กน้อยตามมารยาท”

    “อืม แกจะไปไหนก็ไปเถอะ อ้อ ที่โรงเรียน ดูแลเธอด้วย ลูกสาวโจนาธานหน่ะ”

    “ครับพ่อ” เด็กหนุ่มรับคำของบิดาด้วยแววตาของความยินดีที่ปิดไม่มิดก่อนจะรีบแจ้นขึ้นห้องตัวเองไป





    ** รีไรท์ใหม่หมดเลย หวังว่าคงจะชอบนะคะ เราเปลี่ยนไทม์ไลน์ในเรื่องจากช่วงต้นปี90เป็นช่วงปี2000นะคะ เพราะเรานึกภาพตามได้ง่ายกว่า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×