ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    อนุตัวร้าย

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 2/2

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 63.59K
      2.45K
      14 ก.ค. 66

                    

    บทที่ 2/2

                            กลับมาสู่ช่วงหมาลอบเข้าถ้ำเสือ !

                      ลู่เอินลอบเดินเข้าไปหน้าเรือนทันทีที่พ่อบ้านจงและซิ่วหลินเดินไปลับสายตา

                                  แอดดดดด

                         เสียงเปิดประตูไม่ต่างกับเอฟเฟกต์หนังสยองฝันเลยสักนิด ลู่เอินก้าวเข้าไปในเรือนและพยายามปิดประตูให้เบาที่สุด 

                     มันมืดมากกก!!  หากไม่รู้ว่านี้คือเรือนของพี่เหอ นางคงคิดว่านี้คือบ้านที่เขาใช้ถ่ายทำหนังสยองฝันแน่ๆ

                                      ปึก !!

                    “ซี้ด .....” ความเจ็บหน้าแข้งครั้งนี้เกิดจากการเดินเตะโต๊ะแบบโง่ ๆ   โง่จริง ๆ นางยอมรับ

                        หน้าแข้งของนางถูกเจ้าโต๊ะเตี้ยประทุษร้าย !!

                     “โต๊ะบ้าไม่รู้จักหลบ”ถึงแม้จะเตะเองแต่ก็โทษให้เป็นความผิดโต๊ะซะเลย แต่มันเจ็บจริงๆนะ นางไม่ยอมถอยหรอก เข้ามาครึ่งนึงแล้ว นางต้องไปต่อ....ไปที่ไหนต่อนะหรือ ก็ห้องนอนพี่เหอไง

                       นางไม่ได้ไปถอดผ้ารอพี่เหอกลับมานะ...นางคิดว่าระหว่างอยู่ตรงนี้กับห้องนอนพี่เหอ โอกาสที่จะถูกจับโยนออกไปตรงนี้ดูเสี่ยงกว่า นางต้องเข้าไปในห้องนอนพี่เหออย่างไรเสียก็ปลอดภัยกว่า [?]

                       ตรรกะอะไรอย่าถามนางเลยเพราะนางเองก็ตอบไม่ได้ แต่นางอยากให้การพบกันครั้งแรกของนางกับพี่เหอเป็นเรื่องตื่นเต้น

                       ผ่านไป 1 เค่อ [15 นาที]    

                           สำเร็จ !!!!

                    นางลากขาเข้ามาในห้องนอนพี่เหอได้แล้วและตอนนี้นางกำลังนั่งแหมะหลบอยู่หลังฉากกั้น แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้นางกำลังมีปัญหา

                                    พี่ ......

                    นั้นไง ญาติผู้น้องของนางนามว่า ยุง นับสิบตัวกำลังร่วมด้วยช่วยกันเจาะเลือดนาง เพื่อประทังชีวิต

                       อา  นางรู้สึกได้บุญ

                            แปะ    แปะ    แปะ   แปะ

                      ญาติผู้น้องของนางนับได้ราวๆ 4 ตัวร่วงหล่นจากแขนซ้ายนางตกสู่พื้นอย่างอเนจอนาถ...ฮึ่ม นางเป็นคนดีแต่นางลืมบอกไป อย่ากัดนางเจ็บ ยังอีก 4 ตัวบนแขนขวา

                                                    แอด !

                    เสียงเปิดประตูทำให้ลู่เอินละความสนใจจากยุงที่กำลังดื่มกินเลือดของนางอย่างเอร็ดอร่อยมาจดจ่อกับเสียงพูดคุยของบุคคลที่เดินเข้ามาแทน

                     “นายท่าน !”เสียงตื่นตกใจนี้ย่อมไม่ใช่พี่เหอ เพราะในเรือนนี้พี่เหอนางใหญ่สุดไม่มีทางเรียกใครว่านายท่าน

                    “ เดี่ยวข้าจัดการเอง”นี่แหละ ทูนหัวของบ่าว ทุ้มนุ่มหู ละมุน .... พี่เหอของนางแน่นอน

                    “ขอรับ” แค่เนี้ย ! คือนางอยากรู้ เขาคุยอะไรกัน ?

                                     ตึก  ตึก  ตึก 

                      เสียงเท้าที่ลงจังหวะสม่ำเสมอไม่เร่งรีบนั้นทำนางเหงื่อซึมไม่ทราบสาเหตุ คงเพราะอากาศในนี้มันร้อน

                                      ตึก  ตึก

                      นางขอตัวกลับเรือนตอนนี้ทันหรือไม่ มันอึดอัดและอยากจะวาร์ปหายตัวไปซะเดี๋ยวนี้

                                      ตึก  ตึก  ตึก

                    พี่เหอ ท่านจะเดินหยุดเดินหยุดเช่นนี้ สงสารหัวใจข้าบ้างเถิด

                                                    ตึก  ตึก 

                    เสียงเท้าที่ใกล้เข้าทำให้ลู่เอินเกร็งตัว คาดว่าอีกไม่เกินสองก้าวพี่เหอคงมาถึงนาง

                                                       ตึก !!

                               ข้าคิดถึง ซิ่วหลิน

                                                    พรึบ   ชิ่ง !

                        ลู่เอินมองดาบที่จรดปลายคอของนางแข็งค้าง...ดาบ ชีวิตนี้นางไม่เคยเห็นดาบระยะประชิดเช่นนี้มาก่อน ระยะที่ว่า หากขยับเพียงนิดหัวของนางคงหลุดจากบ่าได้ ดาบ...นี่คือดาบ พลันน้ำใสๆก็คลอหน่วยตาอย่างไม่อาจห้าม จะห้ามได้เหรอ กลัวเหมือนกันนะ

                     นี่คงเป็นเรื่องตื่นเต้นของการพบกันครั้งแรกของนางกับพี่เหอ.....

                     “เจ้า...... !”

                “ฮึก ท่านเป็นสามีที่ชื่นชอบการทรมานภรรยาหรือเจ้าคะ ฮือ...”พูดได้เท่านั้นน้ำตาก็ไหลออกมาราวกับเขื่อนแตก

                    จิ้นเหอมองร่างบอบบางของอนุของเขาที่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่บนพื้นอย่างเอาเป็นเอาตายตรงหน้า เขาไม่รู้จะสงสารหรือหัวเราะขบขันนางดี ดวงตาที่เคยหวานหยดย่อยยามเจอหน้าเขาบัดนี้คลอด้วยหยาดน้ำตา แก้มนวลเปรอะเปรื้อนธารน้ำตา เรียวปากที่เคยเอื้อนเอ่ยคำหวานให้เขาเคลิบเคลิ้มบัดนี้อ้ากว้างเปล่งเสียงร่ำไห้ออกมาแทน จมูกโด่งรั้นขึ้นสีแดงจัด มือเรียวสองข้างต่างช่วยกันปาดหยาดน้ำตาแต่ยิ่งปาดมันก็ยิ่งไหล สาบานได้เขาไม่เคยเห็นสตรีนางใดร้องไห้ได้น่าขบขันเช่นนางมาก่อน

                     “ฮึก ดะ....ดาบ อึก ที่...คอ ฮือ”ชายหนุ่มชะงักวูบเมื่อสบดวงตาแสนหวานที่เอ่อคลอด้วยหยาดน้ำตาของนาง

                    เหมือนลู่เอินไม่ใช่ลู่เอิน เขาสะบัดหัวไล่ความคิดแปลก ๆ ออกไป

                “หืม ดาบทำไมหรือ” เขาไม่รู้ว่านางกำลังเล่นอันใด แต่เอาเถิด เมื่อนางอยากเล่นเขาก็จะเล่นเป็นเพื่อน

                    “เอามัน...ฮึก....ออกไป”   

                     “หากข้าไม่เอาออกเล่า”

                     “ข้าก็จะ...จะร้อง ฮือ.....” จิ้นเหอหลุดยิ้มกับคำตอบของนาง  เขากำลังรู้สึกว่า...สนุก

                     “น้ำตาเจ้ามิใช่น้ำตาข้า” 

                     “ท่านเป็นสามีที่ใจร้ายที่สุด ฮึก”

                     “เจ้าก็เป็นภรรยาที่น่าตีที่สุดเช่นกัน”

                    “ฮึก ข้าน่าตีตรงไหน ท่านนั้นแหละ ฮึก...ใจร้าย”

                     “เจ้าน่าตีตรงที่ ริอาจอยากเป็นโจรลอบเข้ามาในเรือนของข้าอย่างไรเล่า”

                     “เพราะท่าน ฮึก ท่านใจร้ายไม่ให้ข้าเข้าพบ”

                     “เป็นเจ้าที่ทำผิดไม่ยอมสำนึก”

                    “ฮึก...ผิดอันใด ข้าทำอันใดผิด ท่านนั้นแหละใจร้าย”จิ้นเหอมองแววตาดื้อรั้นไม่ยอมคนของร่างบอบบางตรงหน้าแล้วพลันแปลกใจ

                      ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางกล้าโต้เถียงกันทั้งยังกล้ากล่าวโทษเขาแล้วแสดงท่าทีดื้อรั้นใส่เขา เหตุใดเขารู้สึกราวกับว่า...นางไม่ใช่ลู่เอิน

                    ชายหนุ่มสะบัดหัวไล่ความคิดไร้สาระออกจากสมอง เขาคงเหนื่อยเลอะเลือนไป ลู่เอินยังคงเป็นลู่เอิน เขาชักดาบกลับเข้าฝัก เห็นนางถอนหายใจยกมือปาดน้ำตาบนแก้มออก

                    “เจ้าจะนั่งอยู่ตรงนี้”จิ้นเหอเลิกคิ้ว

                      ........” เขามองร่างบางที่กอดอกเชิดหน้าเบ้ปากมองหน้าเขาราวกับไม่สนใจคำถามของเขา พลันคิ้วหนาก็ขมวดเป็นปมแน่น

                            เมื่อใดกันที่นางกล้าทำท่าทางเช่นนี้กับเขา ?

                      “ตามใจเจ้า” ว่าแล้วเขาก็หมุนตัว

                     “เดี่ยวเจ้าค่ะ”เขาปลายตามองร่างบางด้านล่าง

                     “คือ...ข้าลุกไม่ไหวเจ้าค่ะ”

                     “เหตุใด”ชายหนุ่มขมวดคิ้ว นางจะเล่นอะไรอีก

                     “ตอนเข้ามาข้าเดินชนโต๊ะ เจ็บขาเจ้าคะ”จิ้นเหอหรี่ตาจ้องมองหญิงสาวราวกับจับผิด ครั้นไม่เห็นพิรุธใดก็ถามต่อ

                      “แล้ว....”

                     “ท่านต้องช่วยพยุงข้าสิเจ้าคะ”

                     “หากข้าไม่ช่วยเล่า”จิ้นเหอเลิกคิ้วถามส่งรอยยิ้มยียวนให้นาง หากเขาตาไม่ฝาดเขาเห็นนางส่งสายตาตัดพ้อต่อว่ามาให้เขา

                     “ท่านก็เป็นบุรุษใจร้าย”ชายหนุ่มมองดูดวงหน้าที่เชิดขึ้น นางกล้าเปลี่ยนเรียกเขาจาก 'สามี' เป็น 'บุรุษ' เขาอยากบีบจมูกโด่งรั้นนั้นนัก!

                    จิ้นเหอสาวเท้าเข้าไปหาร่างบางทำให้นางผงะแทบหงายหลัง ชายหนุ่มกระตุกยิ้มโน้มตัวโอบอุ้มร่างเล็กจนร่างบางของนางตกอยู่ในวงแขน ความใกล้ชิดเช่นนี้เขาได้กลิ่นหอมจากร่างบาง

                    “ซุ่มซ่าม”เขามองเสี้ยวหน้าที่ขึ้นสีของร่างบางในวงแขน

                    ....”เห็นนางไม่ตอบโต้เขาก็กระชับวงแขน

                    “น่าเวทนา”

                    “ท่านว่าใคร”เขากระตุกยิ้มพึงพอใจเมื่อร่างบางในอ้อมแขนหันมาจ้องหน้าเขา

                    “ย่อมเป็นเจ้า “

                     .....”นางหายใจฟึดฟัดไม่พอใจแล้วเสหน้าไปทางอื่นไม่มองหน้าเขา

                        ชายหนุ่มต้องพยายามอย่างหนักเพื่อจะไม่หัวเราะหน้าตาบูดบึ้งของนางในตอนนี้

                                       เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าอยู่กับนางแล้วสนุก !

                    ลู่เอินเองก็ต้องพยายามอย่างหนักเช่นกัน นางพยายามที่จะกุมมือทั้งสองข้างของนางให้อยู่นิ่งๆ ไม่ไปข่วนหน้าหล่อๆของบุรุษที่นางเชิดชูยกเขาขึ้นเหนือบุรุษอื่น บุรุษร้ายกาจ ! นางรึอุตส่าห์เป็นแฟนคลับตัวยงของเขา พอมาเจอเขาตัวเป็น ๆนางแทบจะตะกุยหน้าเขาให้ยับ มีอย่างที่ไหนกันเจอกันครั้งแรกก็เอาดาบมาทักทายนางแล้ว

                    เอ่อ ถึงแม้นางจะลอบเข้ามาในเรือนเขาเองก็เถอะ ความผิดยังนับได้ว่ารับไปคนละครึ่ง

                    แต่เขาก็ไม่ควรยกดาบมาพาดคอนางเช่นนี้นี่ ยังจะมีวาจาร้ายกาจที่เขาเอื้อนเอ่ยกับนางอีก นางเคยชื่นชอบวาจาอันร้ายกาจของเขายามเขาพูดกับแม่นางเอก จริง ๆ นางคิดว่าเขาจะพูดวาจายียวนชวนตีหัวกับแม่นางเอกแค่ผู้เดียว ไม่ได้คิดว่านางจะมีโอกาสได้รับฟังวาจาร้ายกาจนี้ด้วย ตอนนี้นางเข้าใจแล้วว่าเหตุใดเขาถึงได้รับบทเป็นตัวร้าย 

                      ก็..เพราะวาจาร้ายกาจของเขานั้นไง !

                      เอาเถอะ ถึงแม้เขาจะปากร้ายแต่เขาก็ใจดีอยู่นา......เห็นแก่อกอุ่นๆที่นางซบอยู่ นางให้อภัยเขาได้

                    จิ้นเหอพาร่างบอบบางในอ้อมแขนมาถึงเตียงแล้วเขาจ้องมองร่างบางที่หลับตาพริ้มซบอกของเขาอยู่อย่างขบขัน 

                          หน้านางในตอนนี้ช่างน่ากลั้นแกล้งนัก!!

                    “อยากอยู่กับข้าหรือ”จิ้นเหอก้มลงกระซิบข้างหูนาง

                     “อือ”นางพยกหัวรับพร้อมกับยิ้มสดใสที่เขาไม่เคยได้เห็น จิ้นเหอมองรอยยิ้มพิมพ์ใจอย่างแปลกใจ ทว่าอารมณ์อยากกลั้นแกล้งมันมีเหนือกว่า

                    “คิดถึงข้าหรือ”

                      “อือ”หญิงสาวพยักหน้ารับ ใบหน้างามคล้ายไร้สติ

                      “จะไม่ลงหรือ”

                      “อือ”

                      “แต่ข้าหนัก !”

                      “ว้าย !”ร่างบางในอ้อมแขนลืมตาโพลงดีดตัวออกห่างจากเขาทำให้.....ลู่เอินพลัดตกจากอ้อมแขนแกร่งของชายหนุ่ม ซึ่งไม่แน่อาจเพราะเขาเป็นคนตั้งใจปล่อยลง

                                         พลั่ก !

                     นางหล่นกระแทกเตียง ! สีหน้าของนางแสดงถึงความเจ็บปวดจนเขารู้สึกสงสาร

                     เมื่อใดกันที่เขานึกสงสารนาง! จิ้นเหอขมวดคิ้วกับความคิดของตนเอง แต่ก่อนแต่ไรสตรีนางนี้ไม่สามารถทำให้เขารู้สึกอันใดได้เลยแม้เพียงน้อย

                     ลู่เอินลูบคลำก้นงอนงามของนางแล้วหน้างอ  เจ็บ !!! น้ำตาแทบไหล เหตุใดวันนี้จึงต้องมีเหตุให้นางต้องเจ็บกายเช่นนี้ได้กัน หรือเพราะเขา...ใช่ต้องเป็นเขา

                      “ท่าน !”ลู่เอินมองหน้าตัวต้นเหตุแห่งความเจ็บปวดของนางอย่างเอาเรื่อง

                      “หืม”คืออะไร? เขาทำหน้ามึน ไม่รู้ว่าเขาทำให้นางตกมาเจ็บนั่นนะ หน้าหนาเกินไปแล้ว ลู่เอินมองใบหน้าลอยไปลอยมาของจิ้นเหอแล้วเข่นเขี้ยว

                         นางขอถอนคำพูด นางไม่ให้อภัยเขาแล้ว!

                      “หึหึ”จิ้นเหอหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นสีหน้าราวกับจะฆ่าคนได้ของหญิงสาว

                       “ท่านแกล้งข้า”ลู่เอินเม้มปากแน่นจ้องชายหนุ่มเขม็ง ไม่อยากจะเชื่อบุรุษที่มีใบหน้าหล่อเหลาเช่นเขาจะมีจิตใจดำมืดไม่มีสำนึกแม้เพียงจะขอโทษสักคำ

                      “เป็นเจ้าที่ดิ้นพรวดพราดจนตกไป”จิ้นเหอกอดอกมองร่างบางบนเตียงอย่างสำรวจ มองอย่างไรท่าที คำพูดของนางไม่เหมือนนางคนเดิมเอาเสียเลย

                       ......”เมื่อครุ่นคิดตามคำพูดของจิ้นเหอลู่เอินจึงต้องยอมรับว่านางเองที่เป็นฝ่ายดิ้นรนจนตกลงไปแม้อยากจะเถียงต่อ แต่ด้วยรู้ดีว่าเป็นนางที่ผิดก็จำใจเงียบ

                    ทั้งนี้นางเพิ่งนึกได้ว่าในยุคนี้ไม่ได้มิสิทธิเสรีภาพที่เท่าเทียมกันระหว่างบุรุษและสตรีโต้เถียงไปนางก็ผิด แต่นางก็อดไม่ได้ที่จะโต้เถียง นี้คือนิสัยอย่างหนึ่งของนาง หากนางไม่ผิดนางไม่ยอมรับผิดเด็ดขาด และนางยังเพิ่งสำเนียกตัวเองว่าบัดนี้ นางเป็นเพียงอนุภรรยาของเขา หากเถียงไปเถียงมาเกิดเขาโกรธขึ้นมา ทีนี้ละ แม้แต่ที่ซุกหัวนอนนางคงจะไม่มี ด้วยเหตุนี้หากยอมรับได้จึงต้องยอมรับไป

                      “เป็นข้าที่ผิดเองเจ้าค่ะ”จิ้นเหอหรี่ตามองร่างบางที่ยอมรับว่าตนเองผิดทั้งๆที่เมื่อครู่ยังเถียงเขาเอาเป็นเอาตายอยู่แท้ๆ

                      .......”เขาเลือกที่จะเงียบเพื่อรอดูว่านางจะทำสิ่งใดต่อ

                    “ข้าขออภัยเจ้าค่ะ”ร่างบางก้มหัวราวกับสำนึกผิด แต่จิ้นเหอที่สังเกตนางมาตั้งแต่ต้นกลับเห็นปากบางของนางขมุบขมิบ....เดาได้ไม่ยากว่า

                   นางกำลังก่นด่าเขา ! เรียวปากบางที่พูดบางสิ่งที่ไม่สามารถจะได้ยิน ร้ายนักเชียว

                    “หืม พูดอีกครั้งสิ”

                    “ข้าขออภัยเจ้าค่ะท่านพี่”ชายหนุ่มชะงักเมื่อร่างบางเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาออดอ้อน ....

                     เขาเคยเห็นแววตาออดอ้อนของนางแต่เขากลับคิดว่าครั้งนี้กลับน่ามองกว่าทุกครั้งและอยากให้นางออดอ้อนเขาด้วยสายตาเช่นนี้อีก

                    “อืม “จิ้นเหอละสายตาจากใบหน้าของลู่เอินลงมามองขาของนางแทน เขาสังเกตเห็นรอยเขียวช้ำบนขาขวาของนาง คงเจ็บไม่น้อย มือเขาแตะบริเวณรอยช้ำ

                    รอยช้ำดังกล่าวแลดูน่ากลัวเมื่ออยู่บนผิวกายของนาง

                     “เจ็บมากหรือ”ลู่เอินฟังคำถามของชายหนุ่มแล้วใจสั่น...เสียงของเขาช่างอบอุ่นยิ่งนัก

                    ไม่สั่นได้ไง ก็นี่คำพูดแรกที่เขาไม่ยียวนใส่นางนี่

                      “มะ...ไม่มากเจ้าค่ะ”ลู่เอินตอบเสียงสั่นๆ

                    ลู่เอินลอบมองหน้าของจิ้นเหอ.....เวลาที่เขาพูดดีๆแล้วเขาดูมีเสน่ห์กว่าพูดยียวนเสียอีก ดูแล้วหากนางเป็นนักเขียนนิยายนางคงต้องยกบทพระเอกให้เขาโดยไม่ต้องคิดเชียว เขาไม่น่าเป็นตัวร้ายเลย

                     ดีแล้ว ทีหลังอย่าริอาจอยากเป็นโจรอีกเล่า”ลู่เอินมองหน้าตายียวนของเขาแล้วอยากกัดลิ้นตาย !!  

                    เขาสมควรเป็นตัวร้ายแล้ว เป็นเขาจะดีที่สุด ........ 

                    นางจะไม่มีวันให้อภัยเขาในเรื่องของวันนี้แน่นอน ให้ตายอย่างไรก็ไม่มีทาง ความเจ็บปวดในวันนี้ตัวร้ายเช่นจิ้นเหอจะต้องชดใช้ ไม่มีข้อโต้แย้ง แม้จะคิดแค้นเคืองอย่างไรในตอนนี้นางก็ไม่สามารถทำสิ่งใดได้

                    รอเถิดอีกไม่นานนางจะเอาคืน


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×