ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บันทึก(ไม่)ลับ เด็กวิทย์ หัวใจศิลป์

    ลำดับตอนที่ #17 : “จน เครียด ฆ่าตัวตาย” ปัญหาสังคมที่ยังไม่ได้ให้ความใส่ใจ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 937
      4
      21 พ.ค. 51

    วันนี้พอดีไม่ได้ไปรร.เลย เนื่องจากเพื่อนมันไปทำกิจกรรมกันทั้งห้อง มีผมไม่ไปคนเดียว จะหั้ยอาจารย์สอนคนเดียวมันก็กระไรอยู่ใช่มะ (ใครจะสอนอ่ะ คนเดียว - -) ไม่ได้ขี้เกียจอะไรหรอก เพราะว่าวันนี้เปิดคอร์ส Enconcept สอนสดครั้งแรก เลยไม่อยากขาด อุตส่าห์เสียตังค์ไปเรียนแล้วด้วย เหอๆ

     

    ที่มาอัพเร็วหน่อยก็เพราะว่าเดี๋ยวจะต้องออกไปเรียนพิเศษแล้ว กลางคืนก็จะนั่งอ่านหนังสือแล้วหล่ะ เนื่องจากรู้ว่าแล้วว่า สอบ GAT กับ PAT ใช้สัดส่วนมากขนาดไหน ที่สำคัญจะสอบปีหน้าแล้วด้วย ยิ่งตัวเองมีเวลาน้อยกว่าคนอื่น ยิ่งต้องขยันมากกว่าคนอื่น 2 เท่าตัว - - เครียดดดดดดดด........

     

    เรื่องที่ผมจะมาเล่าหั้ยฟังวันนี้ เนื่องจากว่าเมื่อซักพัก ผมเพิ่งอ่านหนังสือพิมพ์ของไทยรัฐฉบับวันนี้ (21 พ.ค. 2551) สกู๊ปหน้าหนึ่ง เรื่อง “‘การศึกษามรณะซ้ำๆ วัยเรียนคิดสั้น คอกที่ยังล้อมไม่เสร็จ

     

    ความจิงแล้ว ปัญหาแบบนี้มันมีเกิดขึ้นเกือบทุกปีนะ ผมก็สังเกตแล้วก็สนใจติดตามข่าวแบบนี้มาพอสมควร และล่าสุด ที่มีเด็กไม่ติดวิดวะเกษตรฆ่าตัวตาย รวมไปถึงเด็กศิลปากร พ่อแม่ไม่มีเงินส่งเรียนก็ฆ่าตัวตายเช่นเดียวกัน

     

    ส่วนตัว ผมว่าผมเข้าใจนะ

    ณ จุดๆนั้น ทุกคนมันก็เครียดเหมือนกันๆ คงไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี

     

    และการที่มหาลัยให้ทุนเรียนฟรี หลังจากที่มีข่าวการฆ่าตัวตายไปแล้ว มันไม่เหมือน วัวหายแล้วล้อมคอก ไปหน่อยหรอ

     

    การศึกษาของไทย รวมไปถึงค่านิยมของมหาวิทยาลัย ผมก็ว่ามีส่วน

    วันนึง ผมไปอ่านคอมเมนท์ในบอร์ดของเด็กดี มีอยู่คำๆนึง ผมเห็นด้วยมากๆ

     

    การศึกษาไทยเค้าแข่งกันกันที่การสอบเข้ามหาวิทยาลัย

    ในขณะที่ต่างประเทศเค้าแข่งขันกันในแง่ของธุรกิจ

     

    เพื่อนๆว่าจิงมั้ยอ่ะ?

     

    ทำไมเราจะต้องพยายามสอบเข้ามหาลัยดังๆให้ได้ โดยที่ไม่รู้ว่า อนาคตข้างหน้าจบมาแล้วเราจะมีงานทำรึเปล่า

    ในทางกลับกัน คนที่จบเอกชนมาก กลับมีงานทำ มีชื่อเสียงมากกว่า

     

    ทำไมทุกคนจะต้องจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดัง มีชื่อเสียง มันก็กลายเป็นค่านิยมไปแล้ว

    แล้วก็เป็นค่านิยมที่ในสังคมไทย อาจจะเปลี่ยนได้ยากอีกด้วย

     

    ที่แย่ก็คือ บางบริษัทถึงกับใช้มหาวิทยาลัยเป็นตัวช่วยในการเลือกบุคคลเข้าทำงานอีกต่างหาก

     

    ระบบการสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ไม่นิ่งสักที มีเปลี่ยนนู่นนี่กันไปหมด หาความแน่นอนไม่ได้

    ที่สำคัญ ยังได้คนที่ไม่ค่อยมีคุณภาพเข้าไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยอีกต่างหาก

     

    ครอบครัวบางครอบครัวก็ตั้งความหวังกับลูกไว้สูงเกินไป

    ว่าจะต้องเข้ามหาลัยดีๆให้ได้ สุดท้าย พอไม่ได้อย่างที่หวังเอาไว้ ก็แสดงความเสียใจออกมา

    ทำให้ลูกยิ่งเกิดภาวะกดดันหนัก

     

    ลำพัง การอ่านหนังสือเตรียมตัวสอบ ไหนจะทำงานที่โรงเรียน ไหนจะต้องสอบในห้องเรียน มันก็เครียดมากพออยู่แล้ว

    การตั้งความหวังกดดันลูก เป็นสิ่งที่มีมาทุกยุคทุกสมัย ซึ่งผมไม่ค่อยอยากให้เกิดขึ้นเลย

     

    เด็กบางคนมีจิตใจเปราะบางมาก หรืออาจจะไม่เคยเจอกความผิดหวังในชีวิตมาก่อน

    พอผิดหวังขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าจะหาทางแก้ไขอย่างไรดี

    การที่เด็กจะคิดสั้น มันก็ไม่แปลกหรอก

     

    ทั้งนี้ทั้งนั้น จะโทษใครไม่ได้หรอก

    ต้องเริ่มจากครอบครัวก่อนเป็นที่แรก

    ทุกฝ่ายก็ต้องให้ความสำคัญ ช่วยเหลือกันด้วยนะคัฟ

     

    มันไม่ใช่ปัญหาไกลตัวเลย - -

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×