บันทึก(ไม่)ลับ เด็กวิทย์ หัวใจศิลป์

ลำดับตอนที่ #38 : ธรรมะ ฉบับ R@kung : บุคคลที่ 2 ที่ต้องกำจัด

เพื่อนๆคงรู้แล้วว่าผมเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือธรรมะมากๆเหมือนกัน เนื่องจากแม่เป็นคนชอบอ่านหนังสือประเภทนี้มากๆ สงสัยคงได้จากแม่มา 555+ ความจริงผมก็ไม่ได้ถึงกับคร่ำเคร่งอะไรมากมายหรอก ผมก็รู้งูๆปลาๆเท่ากับเพื่อนๆทุกคนนั่นแหละ เพียงแต่ว่าผมให้ความสำคัญกับมันมากพอสมควร เพื่อเยียวยาความรู้สึกของตัวเอง เวลามาอ่านหนังสือธรรมะแล้วแบบว่ามันใช่เลย ผมถึงได้รู้วิธีดับความทุกข์ตรงนั้นได้ เหมือนที่ผมเขียนแทรกในเกือบทุกบทความของผม (ลักษณะจะเป็นบทความธรรมะไปซะและ ^^)

ทั้งนี้ ทั้งนั้น ระต้องขอบคุณ หนังสือ เข็มทิศชีวิต ฉลาดทำใจ ฯลฯ อีกหลายเล่ม ที่ช่วยยกจิตใจของผมให้สูงขึ้นได้ในระดับหนึ่ง

เชื่อเถอะว่า การศึกษาพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติของเรา ให้อะไรมากมายกว่าที่เราคิดอีกนะครับ เอาเกียรติของ Top วิชาพระพุทธฯเป็นประกัน 555+

วันนี้ สิ่งที่ผมจะนำเสนอ เป็นธรรมะที่ผมบังเอิญไปอ่านเจอในร้านนายอินทร์ สาขาวงเวียนใหญ่ ซึ่งผมมักจะไปกบดานอยู่ที่นั่นเป็นประจำก่อนเรียนกวดวิชา ผมบังเอิญไปเจอะกับหนังสือเล่มหนึ่ง ซึ่งผมก็จำไม่ได้แล้วว่าชื่ออะไร (ถ้าจำได้แล้ว ผมจะเอามาลงแก้ให้แล้วกันนะครับ) ซึ่งก็เป็นหนังสือธรรมะอีกเช่นเคย

ผมเปิดดูสารบัญข้างใน แล้วก็กะจะหาบทความดีๆสักบทความหนึ่ง เพราะตอนนั้น รู้สึกว่าตัวเองสับสนมากๆ แล้วก็ไปเจอกับเรื่องหนึ่ง ที่ผมคิดว่าตรงกับความรู้สึกของผมในตอนนั้นมากๆ

เรื่องนั้นมีชื่อว่า “บุคคลที่ 2 ที่ต้องกำจัด”.....

อ่านหัวข้อตอนแรกก็งงๆ แต่พออ่านไปอ่านมา ถึงได้เข้าใจอย่างแท้จริง แล้วผมก็เห็นว่ามันเป็นเรื่องที่หลายๆคนอาจจะเผชิญอยู่ในขณะนี้ก็ได้ ผมจึงอยากจะเอาบทความนี้ที่ผ่านการกลั่นกรองของผมแล้ว มาลงในบทความของผม หวังว่าทุกคน คงจะได้รับอะไรดีๆจากบทความอันนี้ครับ

“บุคคลที่ 2 ที่ต้องกำจัด”

               
 เพื่อนๆเชื่อกันรึเปล่าว่า ในตัวของเรา จิตของเราคนหนึ่งๆนี้ มีถึง 3 บุคคลด้วยกัน ซึ่งนั่นก็คือ

1.     บุคคลที่เราวาดฝันไว้ว่าอยากจะเป็น (บุคคลในมโนภาพของเรา)

2.     บุคคลที่คนอื่นยัดเยียดให้เราเป็น

3.     บุคคลที่เป็นตัวเราที่แท้จริง

หลายคนอาจจะฟังดูว่าเท่ห์ดี มีถึง 3 แบบในตัวเราคนหนึ่งนี้เลยหรอ ผมจะเริ่มอธิบายตั้งแต่บุคคลแบบที่ 1 ก่อน ซึ่งนั่นก็คือ บุคคลที่เราวาดฝันไว้ว่าอยากจะเป็น หรือพูดง่ายๆก็คือ สิ่งที่เราฝันจะเป็นในอนาคต หลายคนอาจจะฝันว่าอยากเป็นหมอ อยากเป็นทันตแพทย์ หรืออยากมีชีวิตที่สุขสบาย ซึ่งความเพ้อฝันเหล่านี้แหละที่ผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตของเรามีสีสันมากขึ้น และด้วยความพยามยาม ทะเยอทะยานอยากจะเป็นในสิ่งที่เราฝันไว้นี้เอง เป็นแรงผลักดันให้เราต้องตั้งใจเรียนหนังสือดั่งในทุกวันนี้ บุคคลคนนี้ ไม่เคยทำร้ายใคร เนื่องจากมันเป็นสิ่งที่เราหวังไว้ว่าอยากจะเป็น มันเป็นหน้าที่ของเราเองที่จะต้องรับผิดชอบกับความฝันของตัวเอง เขาก็จะรอเราที่อยู่ที่ปลายทางของความฝันอันนั้น และแน่นอน ถ้าเราได้กลายเป็นบุคคลคนนี้เมื่อไหร่ นั่นแหละ ความสุขในใจของเราก็จะเพิ่มขึ้นเป็นกอง

มีหลายคนนะ ที่ไม่สามารถเป็นได้อย่างที่เขาหวังเอาไว้ แต่เขาก็มีความสุขกับชีวิตของเขาอยู่แบบนี้ ความฝันของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บุคคลที่ 1 ในมโนภาพของแต่ละคนก็แตกต่างกัน บางคนไม่ได้หวังจะจบการศึกษาสูงๆ แต่หวังเพียงอยากมีชีวิตความอยู่ที่สบาย ไม่เบียดเบียนใคร และนั่นก็เป็นสิ่งที่ดี

เพื่อนพร้อมที่จะเดินทางไปหาบุคคลที่ 1 ของตัวเองกันแล้วรึยังครับ?

บุคคลที่ 2 คือ บุคคลที่คนอื่นยัดเยียดให้เราเป็น ซึ่งบุคคลนี้อาจจะเกิดได้กับหลายๆคน ผมกล้าฟังธงได้เลยว่า ทุกคนต้องเคยพบกันบุคคลคนนี้มาแล้วแทบทั้งนั้น เคยบ้างไหมที่เราไม่ได้ทำผิดอะไร แล้วกลับถูกมองว่าเป็นคนที่ทำผิด ทั้งๆที่จริงๆแล้ว เรานั้นบริสุทธิ์ใจ เคยบ้างไหมที่จะต้องทำตัวตัวบ้าๆ บอๆ ให้เพื่อนๆหัวเราะชอบใจ ทั้งๆที่จริงๆแล้ว เราไม่ใช่คนแบบนั้นเลย นั่นคือ สิ่งที่คนอื่นมองว่าเราเป็น ตัดสินออกมาจากสายตา และจิตใจอันหยาบช้าของมนุษย์โดยมิได้ผ่านการกลั่นกรองมาก่อน ความทุกข์ที่เกิดจากบุคคลที่ 2 นี้มีมากมายเหลือเกิน และมันอาจจะทำให้เกิดเรื่องที่ไม่ดีขึ้นหลายอย่าง เราไปส่งแฟนเพื่อน ก็โดนมองว่าไปแย่งแฟนของเพื่อนเสียแล้ว ทั้งๆที่จิตใจของเราไม่ได้คิดอะไรเลย ผลที่ตามมาล่ะคืออะไร? เราโดนซ้อม ทั้งๆที่เราคิดบริสุทธิ์ใจงั้นหรอ มีผู้บริสุทธิ์อยู่หลายคนที่ถูกกล่าวหา โดนประหารชีวิตตายไป แต่ความบริสุทธิ์ของพวกเขาไม่ได้ตายจากไปด้วย มีแต่เจ้าบุคคลที่ 2 เท่านั้นที่สูญสลายไป

แต่เจ้าบุคคลที่ 2 นี้ ถึงแม้ว่าเราจะจัดการกับมันไปได้แล้ว แต่มันจะแวะเวียนกลับมาหาเราอยู่เรื่อยๆ ยังไงซะเราก็หนีมันไม่พ้น สิ่งที่เราทำได้ก็คือ ทำใจยอมรับมัน อย่างน้อย เราก็บริสุทธิ์ใจ ไม่ได้ทำอะไรให้ใครเสียหาย เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการมาเยือของบุคคลที่ 2 ได้ตลอดชีวิต แต่เราสามารถลดการพบกับบุคคลที่ 2 ได้ เพียงขอให้เรามีจิตใจที่ตั้งมั่นในความดี คิดดีเข้าไว้ เท่านี้ ชีวิตของเราก็จะมีความสุขแล้ว

บุคคลที่ 3 บุคคลที่เป็นตัวเราที่แท้จริง มีคำกล่าวที่ว่า “โกหกใครน่ะ โกหกได้ แต่เราโกหกตัวเองไม่ได้” มันก็เป็นจริงอยู่ที่ว่า ถึงแม้เราจะโกหกใครมาแล้วนักต่อนัก แต่สุดท้ายสิ่งที่เราไม่สามารถโกหกได้นั่นก็คือ จิตใจของตนเอง เพราะสุดท้าย ยังไง เราก็รู้อยู่แก่ใจของตัวเองอยู่ดี บุคคลนี้เป็นสิ่งที่แท้จริงที่สุดในจิตใจของเรา เป็นตัวบ่งบอกที่แท้จริงว่า ความจริงแล้วตัวเราเป็นคนอย่างไร มีความรู้สึกนึกคิดอย่างไร ความบริสุทธิ์ใจ ความเป็นเราจริงๆจะอยู่ที่บุคคลที่ 3 คนนี้แหละ

นอกจากจะหมายถึงจิตใจของเราแล้ว ยังบอกถึงสถานะภาพของเราในตอนนี้ด้วย ซึ่งจะไม่เหมือนกับบุคคลที่ 1 เช่น เราวาดฝันไว้สวยงามว่าอนาคตเราอยากจะเป็นหมอ แต่สุดท้าย สิ่งที่เราเป็นอยู่จริงๆ เราอาจจะไม่ได้เป็นหมอ เราอาจจะไปเป็นนักเขียน อาจจะไปเป็นล่าม หรืออย่างอื่นแทนก็ได้ เราอาจจะเรียกบุคคลคนนี้ได้ว่า เป็นโลกแห่งความเป็นจริงของเรานี่เอง ตอนนี้เราเป็นนักเรียน เราก็คือนักเรียน เราไม่ใช่ครู หรือคนอื่นๆ และมันเป็นสิ่งที่เราจะต้องทำใจยอมรับให้ได้ เพราะอย่างไรก็ตาม ชีวิตของเราตลอดทั้งชีวิต ก็ตั้งอยู่บทความเป็นจริงทั้งสิ้น

….เพื่อนๆทุกคนคงจะคลายความสงสัยลงไปแล้วนะครับผม หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว เพื่อนๆรู้สึกอย่างไรกันบ้าง เพื่อนๆคิดอะไรได้จากการอ่านบทความอันนี้ ลองเก็บเอาไปขบคิดกันดูนะครับผม....

พร้อมที่จะกำจัดบุคคลที่ 2 ออกไปรึยัง ^^