ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บันทึก(ไม่)ลับ เด็กวิทย์ หัวใจศิลป์

    ลำดับตอนที่ #48 : [Tips] มาเตรียมรับมือการสอบ แกะ (GAT) กับ แพะ (PAT) กันเถอะ!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.46K
      2
      1 ก.ย. 51

    ตอนนี้เพื่อนๆหลายคนคงทราบแล้วนะครับว่า สทศ.ได้เปิดรับสมัครสอบ GAT กับ PAT แล้ว ผมมีความรู้สึกว่า ทำไมมันเร็วจัง ยังไม่ได้อ่านหนังสือเลย!!!” เชื่อว่าเพื่อนๆก็คงคิดแบบเดียวกันกับผมใช่รึเปล่า ^^

                    ส่วนตัวผมแล้ว ผมจะสอบ GAT, PAT1, PAT2 และ PAT5 ส่วน PAT7 นี่อาจจะสอบ ภาษาบาลี 555+ ซึ่งตอนนี้เพื่อนๆทุกคนต้องรู้แล้วนะครับว่า ตัวเองอยากจะเป็นอะไรกันแน่ ถามใจตัวเองให้ดีๆ เมื่อเลือกแล้ว เราจะได้ไม่เสียดายคราวหลัง

                    คนที่ยังไม่รู้ว่าความฝันของตัวเองคืออะไร ก็รีบๆตามหากันซะนะครับ ถามตัวเองดีๆว่าชอบอะไร แล้วก็เดินเครื่องเต็มที่เลย อย่าลืมว่า เรามีหน้าที่ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ การรับผิดชอบต่อความฝันของตัวเองนะครับผม ผมเชื่อว่าหลายคนต้องมีความฝันตั้งแต่เด็กๆกันบ้างแหละ ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวเองแล้วนะครับ ว่าจะมีแรงผลักดันให้ไปถึงฝันนั้นได้อย่างไร

     

                    ภาระที่ใหญ่หลวงของเด็กมัธยมปลายใกล้เข้ามาแล้ว!

                สอบ GAT PAT ซึ่งเราอาจจะได้กลายเป็นแกะ กับ แพะ ในสนามสอบ

                มีหลายคน.... เริ่มอ่านหนังสือเตรียมสอบ

                มีหลายคน.... เริ่มหยิบข้อสอบเก่ามานั่งทำ

                มีหลายคน.... เรียนพิเศษจนดึกจนดื่น

                มีหลายคน.... เริ่มตั้งใจทำเกรดในห้อง

                และก็มีหลายคน.... ที่ยังไม่สนใจอะไรเลย

     

    ผมพูดได้คำเดียวว่า ขยันกันได้แล้ว!!”

     

    เนื่องจากการสอบครั้งนี้ สอบได้ถึง 3 ครั้งด้วยกัน นั่นคือเดือนมีนาคม กรกฎาคม และธันวาคม คะแนนก็สามารถเก็บไว้ได้ 2 ปี ฟังดูเหมือนเยอะ แต่ถ้าเทียบกับเวลาเตรียมตัวจริงๆแล้ว มันน้อยมากๆ มีหลายคนเตรียมตัวตั้งแต่อยู่ม.4 แล้ว นั่นเขาอาจจะเบาใจได้ระดับหนึ่ง แล้วพวกเราหล่ะ?

    เอาหล่ะ!... พวกเรามาเตรียมรับมือการสอบแกะกับแพะกันเถอะ

    ไม่มีคำว่าสายสำหรับการเริ่มต้นครับ

     

    เตรียมพร้อม รับมือการสอบ GAT กับ PAT

    1.    ตารางอ่านหนังสือ

    ผมแนะนำให้เพื่อนๆทำไว้กันแล้ว ได้เวลาที่จะต้องใช้มันจริงๆแล้วหล่ะ ให้เราหาหนังสือที่จำเป็นกับการสอบ แล้วคิดว่า เราจะได้ความรู้จากมันอย่างเต็มที่จริงๆ ส่วนเล่มอื่นเก็บเข้ากรุ เตรียมเอาไปให้รุ่นน้องได้เลย

    ให้บวกจำนวนหน้าหนังสือทุกเล่ม (ย้ำว่าทุกเล่มที่เราคัดมาแล้วว่าจะอ่าน) จากนั้นก็หารด้วยจำนวนวันที่เหลือ เพื่อหาจำนวนหน้าเฉลี่ยที่จะต้องอ่านให้ได้ภายใน 1 วัน จากนั้นก็ลงมืออ่านได้เลย

    2.    ทำข้อสอบเก่าเยอะๆ

    เป็นสิ่งสำคัญมากๆ หากเราอ่านหนังสืออย่างเดียว โดยไม่ที่ไม่ทำโจทย์ เราก็จะขาดทักษะในการคิดวิเคราะห์ข้อสอบ ไม่รู้จุดหลอก จุดตายในข้อสอบ เวลาสอบอาจจะทำให้เราตายสนิทได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น ข้อสอบเก่าๆสำคัญมากๆ หาโหลดได้ตามเว็บไซต์ หรือไม่ก็ซื้อตามร้านขายหนังสือก็ได้

    ที่แนะนำก็คือ อย่างน้อยต้อง 10 พ.ศ. ขึ้นไปนะครับ

    3.    Short Note

    การอ่านหนังสือโดยไม่จดอะไรเลย เหมือนกับการอ่านเชิงรุกอย่างเดียว เพราะฉะนั้น อีกมือหนึ่งควรจดสาระสำคัญไปด้วย เราจะได้ไม่ต้องเมื่อมาเปิดดูในหนังสือใหม่อีกรอบ

    4.    เรียนกวดวิชา (ในบางกรณี)

    ช่วงนี้ใครมีเงินก็คงจะต้องเฮโลไปเรียนกวดวิชากันหมดแหละ ซึ่งจะบอกว่าแพงเอามากๆ แต่ก็คุ้ม ถ้าเรียนแล้วรู้เรื่อง (การศึกษาคือการลงทุนระยะยาวครับ) กวดวิชาแต่ละที่ย่อมมีดีแตกต่างกัน เพราะฉะนั้น พูดได้คำเดียวว่า ต้องตั้งใจเรียนเท่านั้นครับ มีการบ้านก็ต้องทำ เพื่อให้เข้าใจเนื้อหาได้รวดเร็ว

    คนที่อยากเรียน ผมว่าช่วงนี้น่าจะเรียนคอร์สเอนทรานซ์ได้แล้วนะครับ

    5.    ติดตามข่าวสาร

    อย่างที่รู้กัน การสอบครั้งนี้เป็นระบบใหม่ เพราะฉะนั้นการติดตามข่าวสารถือว่าสำคัญมากๆ ไม่งั้นเราอาจจะพลาดสิ่งสำคัญบางสิ่งไปโดยที่ไม่รู้ตัว อย่าลืมตามข่าวกันด้วยนะครับ

    6.    ยกเลิกการเล่นเกม อินเทอร์เนตไปได้เลย

    ตอนนี้เป็นช่วงของการเตรียมตัวสอบแบบเต็มรูปแบบแล้วนะครับ เพราะฉะนั้นอะไรก็ตามที่ทำให้เราอ่านหนังสือไม่ได้ เลิกได้ก็คงต้องเลิกแล้วหล่ะ อินเทอร์เนตคงเปิดได้เฉพาะช่วงทำรายงานเท่านั้น (ฟังดูโหดร้ายดีจัง)

    7.    เสียสละความสุขส่วนตัว

    ดูหนัง ฟังเพลง ไปเที่ยวกับเพื่อน อาจจะต้องถูกเลื่อนออกไปก่อน เพื่อให้เวลาเราได้อ่านหนังสืออย่างเต็มที่ ถ้าใครขาดไม่ได้ก็ลดการเที่ยวเล่นให้น้อยลงก็พอครับ

    8.    อย่าเรียนพิเศษเพลิน อย่าลืมว่า มีอีกหลายวิชาที่ต้องอ่าน

    อย่าเสียเวลาไปกับการเรียนกวดวิชาเพียงวิชาเดียว อย่าลงคอร์สที่ใกล้จะสอบเกินไป เพราะจะทำให้เรามีเวลาอ่านวิชาอื่นน้อยลง

    อย่าคิดว่า ลงเรียนทุกวิชาแล้วมันจะได้ผล เพราะอาจจะทำได้ไม่ดีทั้งหมด ร่ายกายเราจะล้าเกินไป

    9.    พลัดกันติวกับเพื่อน

    เราจะได้ทราบความคิดเห็นที่แตกต่างของเพื่อนเรา บางทีเพื่อนอาจจะรู้ในสิ่งที่เราไม่รู้ เราจะได้ไม่ไปพลาดในห้องสอบไงหล่ะครับ

    อาจจะมีวันพิเศษ พลัดกันติวภายในห้องก็ได้ ซึ่งเป็นความคิดที่ดีมากๆเลย

    10.                       หมั่นทบทวนความรู้อยู่เสมอ

    ว่างๆก็อาจจะนำวิชาที่ตัวเอง Short Note ลงไป ขึ้นมาอ่านก็ได้ หรือไม่ก็หยิบโพสต์อิทที่แปะไว้ตามหน้าหนังสือมาอ่านดู เพื่อทบทวนความรู้ที่ตัวเองได้เรียนไปแล้ว ควรฝึกเป็นประจำทุกวัน ทนเหนื่อยหน่อย เพื่ออนาคตของเรา

    11.                       ตั้งใจเรียนในห้องให้มากๆ

    เกรดเป็นสิ่งที่สำคัญในการสอบ Admission ครั้งนี้ เพราะใช้ถึง 20% เพราะฉะนั้นเราจะประมาทไม่ได้เลย ขยันเรียนในห้องให้มากๆ ตั้งใจส่งงาน ทำข้อสอบในโรงเรียน เกรดดีๆก็จะไม่หนีเราไปไหน ^^

     

    สิ่งที่แนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสอบ GAT PAT

    (อันนี้ได้มาจาก Brochure ของโรงเรียนกวดวิชาอาจารย์เจี๋ยนะครับ ซึ่งเขียนไว้ดีมาก ผมจะสรุปให้ฟังเป็นภาษาของผมเองนะครับ)

    1.   ควรอ่านทุกวิชาให้จบตั้งแต่ ม.5 เทอม 1 ซึ่งอาจจะไม่ทันแล้วในตอนนี้ เพราะฉะนั้นควรจะต้องเร่งอ่านให้จบภายในเทอม 2 เพื่อที่จะเตรียมตัวสอบในช่วงต้นปี (เดือนมีนาคม) ที่สำคัญเวลาเพื่อนๆอ่านหนังสืออย่าลนนะครับ ไม่งั้นจะทำให้อ่านไม่รู้เรื่อง

    2.   จะเห็นได้ว่าในช่วงการเอ็นทรานซ์ระบบเก่า คนที่ได้คะแนนแค่ 65 ก็ติดคณะดีๆได้แล้ว นั่นเป็นเพราะเขาจะต้องสอบพร้อมกันทุกวิชา ใครจะไปอ่านหมด อ่านทันพวกที่ได้คะแนนสูงๆ กว่าจะทำได้ถึงขนาดนี้ก็ถึงกับหืดขึ้นคอเลยทีเดียว

    เพราะฉะนั้นสำหรับเรา ซึ่งไม่ได้เทพจัดขนาดที่จะอ่านทุกวิชาได้ทัน ผมเสนอให้มีการแบ่งเก็บคะแนน เพราะว่าระบบนี้ สอบได้ 3 ครั้ง/ปี เช่น ถ้าครั้งแรกเราแม่นวิทย์ อ่านเคมี ฟิสิกส์ ชีวะมาเป็นอย่างดี เราอาจจะสอบ PAT2 เก็บคะแนนสวยๆไว้ก่อน พอรอบที่ 2 ค่อยมาเก็บ PAT1 ตามทีหลัง เป็นต้น ถ้าไม่ทำแบบนี้ เราอาจจะต้องยัดทะนาน อดตาหลับขับตานอนอ่านทั้งคืนเลยก็ได้ ซึ่งอาจจะออกมาไม่ดีสักวิชา เพราะฉะนั้นค่อยๆเป็นค่อยๆไปดีกว่านะครับ รู้ให้กระจ่างเป็นรายวิชาไป แล้วค่อยไปสอบทีเดียวเลย

    3.   ก่อนจะสอบ ต้องดูดีๆว่าคณะไหน เขาใช้วิชาอะไรสอบบ้าง ใช้ GAT PAT อย่างละเท่าไหร่ ใช้ PAT ตัวไหนบ้าง เพื่อการวางแผนการสอบที่ประสิทธิภาพมาขึ้น

    4.   หน้าจอการสมัครสอบบนเว็บ สทศ. เขาจะให้เราเลือกวิชาที่จะสอบทั้งหมด 3 ครั้ง (มี.ค/ก.ค./ธ.ค.) พร้อมกับจ่ายเงินพร้อมกันในคราวเดียวเลย เพราะฉะนั้นควรวางแผนไว้แต่เนิ่นๆ ก่อนที่จะไปสมัครสอบนะครับ ว่าเดือนมีนาเราจะสอบอะไร กรกฎาเราจะสอบอะไร เพื่อเราจะได้วางแผนอย่างรอบคอบมาขึ้น

     

    ....ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับตัวเพื่อนๆแล้วนะครับผม....

    ....มาพยายามด้วยกันนะครับ ^^....



    ตารางองค์ประกอบคะแนนนะครับผม ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×