ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บันทึก(ไม่)ลับ เด็กวิทย์ หัวใจศิลป์

    ลำดับตอนที่ #5 : [เรื่องเล่า เมาท์ประจำวิชา] ภาษาอังกฤษ วิชาที่เด็กทุกสายควรทำได้!!! >> Update!

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.76K
      2
      6 พ.ค. 51

    เอาหล่ะ หัวข้อที่ 5 แล้วใช่รึเปล่าคัฟ ^^

     

    วันนี้ผมมาอัพเพื่อขู่กันโดยเฉพาะเลย สำหรับคนที่ไม่เก่งวิชานี้เอามากๆต้องระวังนะคัฟผม เพราะว่าอนาคตข้างหน้า เข้ามหาลัย เราจะต้องคลุกคลีอยู่กับมันอยู่ตลอดเวลา (ได้ยินรุ่นพี่ที่เข้ามหาลัยรัฐได้เล่าให้ฟัง ตำราเป็นภาษาอังกิดหมดนะคัฟผม)

     

    ผมอาจจะโชคดีหน่อย ที่ชอบมันมาตั้งแต่อนุบาล อิอิ ส่งผลให้ตอนนี้ได้อังกิด Top ของสายชั้น 555+ (แต่วิชาอื่น อืม........)

     

    อยากจะพูดอีกอย่างว่า หลักสูตรการเรียนภาษาอังกิดของแต่ละโรงเรียนมันไม่เหมือนกัน ใช้หนังสือคนละเล่ม ซึ่งที่รร.ผมใช้ Different (เชื่อว่าหลายๆรร.ก็ใช้เล่มนี้) ซึ่งทั้ง วิด-สิน ต้องเรียนเล่มนี้เป็นพื้นฐาน ส่วนเล่มเพิ่มเติมที่เด็กสินเรียนจะเป็น Waving it together ซึ่งผมว่าเล่มนี้ดีหน่อย เพราะยากกว่า Different เยอะ

     

    ผมไม่ค่อยชอบ Different ซักเท่าไหร่......

     

    อย่าหาว่าผมเก่งแล้วอวดดีเลย เพราะว่าหนังสือเล่มนี้เหมือนเรียนตอนสมัยประถมปลายๆ Grammar ไม่ค่อยลึกเท่าที่ควร ถ้าเพื่อนๆน้องๆ จะสอบเข้าหมาลัยนะ ถ้าอ่านเล่มนี้เล่มเดียว ยังไม่ก็ไม่มีทางทำอังกิดได้คะแนนดีแน่นอน (ฟังธง!) เพราะความยากของข้อสอบ O-NET มันมีมากกว่าเยอะ

     

    ผมจะบอกแนวข้อสอบ O-NET กับ A-NET ภาษาอังกฤษให้ฟังนะคัฟผม

     

    ขอบคุณ : หนังสือ ภารกิจพิชิตฝัน.....แอดมิชชั่นติดชัวร์ ของพี่ส้ม (พี่รหัสผมในอนาคต 555+)

     

    O-NET : แกรมม่า หรือส่วนที่เป็น Reading จะไม่ค่อยซับซ้อน เป็นความรู้พื้นบาน ส่วนบทสนทนา ก็เป็นบทสนทนาตรงตัว สามารถอ่านแล้วเข้าใจได้เลย

     

    A-NET : เพิ่มส่วนที่เป็นข้อสอบ Error ซึ่งค่อนข้างยาก จะต้องแม่นแกรมม่าให้มากๆ ส่วนที่เป็น Reading ก็ใช้คำศัพท์ในระดับที่สูงขึ้นกว่า O-NET บทสนทนายากกว่า เช่น มีสำนวน ถ้าแปลตรงตัวก็จะตีความหมายผิด ดังนั้นจะต้องใช้ความรู้มากกว่าตอนสอบ O-NET

     

    อย่างที่ผมเคยบอกไป ผมเคยไปลองสอบพรีของโครงการมาม่ามา ข้อสอบภาษาอังกิดเป็นอะไรที่ยากพอสมควร เนื่องจากจอนนั้นผมรู้ศัพท์น้อย แต่แม่นแกรมม่าพอสมควร โอเน็ตเล่นเอาผมแทบแย่ เนื่องจากมีแต่ Reading เต็มไปหมด อยากรู้คะแนนทั้ง 2 ฉบับของผมมั้ยล่ะ ^^

     

    O-NET : 42 คะแนน

    A-NET : 47 คะแนน (จำแม่นเลย 555+)

     

    ผมถึงได้รู้ว่าผมยังเก่งไม่พอ ตอนนี้ผมก็กำลังพยายามอ่านหนังสือเพิ่มเติมอยู่ จะลองไปสอบใหม่อีกทีในปีหน้า อิอิ

     

    พูดเรื่องสอบให้เครียดพอควรและ ลองมาพูดถึงภาษาอังกิดในห้องมั่งดีกว่า

     

    หนังสือ Different ออกจะดูน่าเบื่อสักนิดสำหรับคนที่เก่งอังกิดแล้ว ผมแนะนำให้ไปลองซื้อหนังสือแกรมม่ามาอ่านเพิ่มเติมนะคัฟผม ลองศึกษาพวกรากศัพท์อะไรเถือกๆนี้ ก่อนสอบก็อ่านหนังสือที่จารย์สอนนิดๆหน่อยๆ แค่นี้ก็สามารถทำข้อสอบในห้องได้ดีแล้ว

     

    แกรมม่าในหนังสือเล่มนี้ค่อนข้างง่าย ข้อสอบในรร.ก็คงจะไม่ยากมาก สู้ๆนะคัฟ

     

    อย่างที่บอกไปเด็กสายวิดที่รร.ผม เรียนเล่มนี้กันทั้งหมด ข้อสอบจึงค่อนข้างง่ายพอสมควร (บางทีเอาจากในหนังสือนั่นแหละมาออก อิอิ) แต่ไม่น่าเชื่อว่าเด็กสายวิด-สายสินบางคนก็ตก แต่ก็โทษเค้าไม่ได้ ^^

     

    สำหรับคนที่ไม่เก่งภาษาอังกิด ผมก็พูดอะไรมากไม่ได้ นอกจากบอกให้ขยันแล้ว ขยันอีก หัวใจหลักของภาษาอังกิดคือคำศัพท์ ถึงจะไม่ได้แกรมม่า แต่ถ้าแปลออกก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว เพราะข้อสอบที่ออกเป็นข้อความ ต้องการการแปลศัพท์ที่มีประสิทธิภาพ เพราะฉะนั้นต้องขยันท่องศัพท์ + กับการศึกษาแกรมม่าไปเรื่อยๆนะคัฟผม

     

    ถ้าอยากแอดติด ก็ต้องขยันนะคัฟผม จะขี้เกียจไม่ได้แล้ว

     

    สำหรับวิชานี้ เค้าให้หน่อยกิตมากพอๆกับวิชาฟิสิกส์เลย (2.0) ถ้าเกรดอังกิดไม่ดี ตัดออกมาทีก็ไม่เหลือเลยนะ (ไม่เชื่อลองตกฟิสิกส์ดู 555+) เด็กที่ไม่เก่งทางวิด แต่เก่งอังกิดไว้ก็ไม่เสียหลายนะคัฟผม อย่างน้อย เราก็ได้เปรียบทางภาษาแล้ว แต่คนที่เก่งทั้ง 2 อย่าง ต้องขอคารวะ -/\-

     

    มีอาจารย์อังกิดชอบพูดว่า เด็กเก่งคณิต มักจะไม่เก่งอังกิด เพื่อนว่าจิงป่ะคัฟ ^^

     

    ผมว่า ถ้าคนเรารักที่จะทำอะไร ผลที่ได้ออกมามันก็จะดีตาม เพราะฉะนั้น คนที่เรียนคณิตกับอังกิดเก่งก็มีถมเถไป เหอะๆ (มันคงเป็นมนุษย์ต่างดาวว -*-)

     

    เพราะฉะนั้น ทุกสายโปรดทราบ คะแนนภาษาอังกิดดี มีชัยไปกว่าครึ่ง ขอบอกๆๆๆๆ ^^

     

    ผมจะบอกเทคนิคเก่งอังกิด Style ผมหั้ยนะคัฟ ^^

    - คำศัพท์

    1. ตอนนี้ไม่สาย ลอง(แอบ)ซื้งหนังสือภาพคำศัพท์ (ของเด็กๆ ไอ้ 2000 คำอะไรประมาณนั้น) มานั่งอ่านเล่นๆ เราจะได้ฝึกท่องศัพท์ไปในตัว มีภาพประกอบสวยๆด้วยนะ อิอิ (ตอนนี้ผมก็ยังชอบอ่านอยู่เลย)
    2. ถ้าไม่ชอบแบบเด็กๆ ก็ลองซื้อหนังสือคำพ้องศัพท์มานั่งท่องเอาเล่นๆก็สนุกดีเหมือนกัน ได้ความรู้ด้วย
    3. มีเวลาว่าง ให้ลองศึกษารากศัพท์ (Prefix Suffix) เพราะว่าคำพวกนี้จะช่วยทำให้ข้อสอบแอดเราง่ายขึ้น
    4. ลองเอาหนังสือพิมอังกิดมาอ่านทุกวันๆ (บ่อยๆเท่าที่จะทำได้) แปลไม่ออกก็วงเอาไว้ ลองฝึกเดาคำศัพท์ อ่านจบก็ลองเปิดดิกคำที่เราแปลไม่ออก

    ตรงนี้เป็นการเพิ่มพูนศัพท์ในหัวสมองนะคัฟผม ฝึกไปบ่อยๆ เราก็จะได้คุ้นกับคำศัพท์มากขึ้น

    - แกรมม่า

    1. ลองศึกษาแกรมม่าในบทเรียนดูก่อน แล้วก็หาหนังสือแกรมม่ามาเปิดเทียบกับบทเรียน

                2. ศึกษาหัวข้อแกรมม่าที่เกี่ยวข้องกัน อย่างเรื่อง Tense มีทั้งหมด 12 Tense มีอะไรบ้าง แล้วค่อยกระจายออกไปยังหัวข้อแกรมม่าอื่นๆ

                    3. ฝึกทำข้อสอบแกรมม่า เพื่อความชำนาญ

                4. หนังสือแกรมม่า ซื้อมาเก้บไว้ไม่เสียหลาย แต่ก็อย่าลืมอ่านด้วยหล่ะ

     

    สำหรับคนที่ไม่ชอบวิธีการพวกนี้ ผมแนะนำหั้ยไปลองเรียนกวดวิชาดูนะคัฟผม เพื่อจะได้เป็นการกระตุ้นให้ตื่นตัวกับวิชานี้มากขึ้น ^^

     

    กวดวิชาภาษาอังกิดดังๆที่ผมแนะนำก็คือ : Enconcept, Access ฯลฯ แล้วแต่จะชอบนะคัฟผม ^^

     

    ส่วนเรื่องเมาท์ในกวดวิชา ผมจะเอามาเล่าให้ฟังที่หลังนาคัฟผม แหะๆ

     

    ถ้ามีปัญหาอะไรเกี่ยวกับอังกิด โพสมานะคัฟผม ถ้าผมช่วยได้ ผมก็จะตอบให้ทันทีเลย ^^

    Ps.ลิมบอกไปเลย คะแนนแอดภาษาอังกิด ใช้เป็นส่วนหนึ่งในการคิดคะแนนของคณะส่วนใหญ่ด้วยนะคัฟผม เพราะฉะนั้น ห้ามประมาทกับวิชานี้เด็ดขาด สู้ๆ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×