บันทึก(ไม่)ลับ เด็กวิทย์ หัวใจศิลป์

ลำดับตอนที่ #62 : รับเปิดเทอมสอง กับ “ภาระอันยิ่งใหญ่ ที่ต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง"

สวัสดีครับ เมื่อสักพักผมเพิ่งกลับจากค่าย Gloze เอง เป็นค่ายที่สนุกสนานมากมาย ตอนนี้ผมกำลังวางแผนจะเขียนเล่าให้ฟังอยู่แล้วหล่ะครับ เพียงแต่ว่าตอนนี้เบลอมาก เมื่อคืนแทบจะไม่ได้นอนเลย ก็เลยต้องยกยอดไปเป็นวันอื่นแทน ยังไง ถ้าสนใจค่ายดีๆแบบนี้ ลองอ่านบทความของผมดูแล้วกัน แต่ต้องรอหน่อย ต้องขอโทษจริงๆนะครับ

วันพรุ่งนี้เป็นวันเปิดเทอมของโรงเรียนผมแล้วหล่ะ แต่รู้สึกว่าตัวเองยังพักผ่อนไม่เต็มที่เลย ถ้าไปในสภาพไม่พร้อมรบแบบนี้ ผมอาจจะตายคาสนามรบได้ (เนื่องจากว่า รด.มีสอบยิงปืนด้วย -*-)

เอาหล่ะๆๆๆ เทอมสองเป็นช่วงเวลาที่หนักที่สุดของการเรียนในแต่ละปี ไม่ได้หนักไปที่เนื้อหาเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันกลับมีกิจรรมที่อื้อซ่า มากมายก่ายกองมโหระทึก ซึ่งถ้าแบ่งเวลาได้ไม่ดีเราอาจจะถึงตายกันเลยทีเดียว (เว่อร์เกิ๊น...) สำหรับคนที่รับทำกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างผมแล้วด้วย อันนี้ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ (ตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้เตรียมงานอะไรเลย ใกล้ตายแล้ว -*-) เพื่อนๆที่จะต้องทำหน้าที่เป็นแม่งานใหญ่คงจะเข้าใจดี

ไม่เพียงแค่กิจกรรมที่มากมายเท่านั้น ช่วงเทอมสองเป็นช่วงที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวันมาก ๆไม่ว่าจะเป็น วันพ่อ วันรัฐธรรมนูญ วันสิ้นปี วันปีใหม่ ฯลฯ อาจจะส่งผลให้หลายโรงเรียนสอนไม่ทัน เนี่ยแหละ! ปัญญาที่สำคัญโดยตรงสำหรับพวกเราเด็กมัธยมทั้งหลายแหล่ นั่นหมายความว่า คุณจะต้องอ่านหนังสือเอง ทำความเข้าใจเอง และที่สำคัญ คุณจะต้องทำข้อสอบประเมินผลให้ผ่านเกณฑ์ ถ้าเจออาจารย์ใจดีที่เข้าใจก็รอดตัวไป ถ้าเจออาจารย์โหดหน่อย อันนี้ก็ ตัวใครตัวมัน -*-

คนที่ไม่ได้เรียนกวดวิชาก็จะเสียเปรียบอีก เกิดความไม่ยุติธรรมขึ้นในสังคมเด็กมัธยม - -

เพราะฉะนั้น ในช่วงเวลาแบบนี้ สิ่งสำคัญที่สุด มันก็ขึ้นอยู่กับตัวเองแล้วหล่ะนะ

ถ้าเราสามารถศึกษาบทเรียนก่อนเข้าเรียนได้ทุกวัน จะช่วยเราได้มากเลยทีเดียว

ที่สำคัญ ต้องขยันให้มากๆด้วย เพราะว่าเวลาของกิจกรรมจะดึงเอาเวลาเรียนของเราออกไปมากโข

แล้วขอเน้นย้ำ ตารางการเคลียร์งาน ถือว่า Work มากๆ ขอให้ลองทำกันดูนะครับ ^^

ตัวอย่างที่กิจกรรมที่ต้องพบเจออย่างแน่นอนในเทอมสอง

1.    วันลอยกระทง

กิจกรรมที่หนีไม่พ้นก็คือการประกวดนางนพมาศ การเดินขบวนชุดไทย การประกวดทำกระทง การแข่งพายเรือ การแสดงละคร ฯลฯ อีกสารพัดอย่าง ถึงแม้จะจัดแค่ไม่กี่วัน แต่ก็ทำให้แม่งานหลายคน หนาวๆไปตามๆกัน

2.    กีฬาสี

กาดอกจัน 700 ดอก ไม่ออกมาเผาบทความผมได้เลย ขนาดมหาวิทยาลัยยังมีคณะสี แล้วมัธยมอย่างเราจะเหลือเหรอ ทั้งชีวิตของเราตั้งแต่อนุบาลจนจบ หรือ ขณะที่กำลังทำงานอยู่ ก็ยังคงต้องวนเวียนอยู่กับคณะสีพวกนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้ จนบางคนจะอยู่ครบทุกสีอยู่แล้ว กีฬาสีมีจุดเด่นคือ สามารถสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพี่กับน้อง หรือกับเพื่อนๆได้อย่างดีเยี่ยม จะสนุกมาก หากเป็นเพียงแค่หน้างาน แต่เบื้องหลังน่ะ ถ้าไม่เคยรู้จักคำว่า “ลำบาก” ก็จะได้รู้จักมันจริงๆจากกิจกรรมนี้แหละ บางคนถึงขั้นต้องมานอนค้างที่รร.เพื่อทำสแตน ซ้อมเชียร์ลีดเดอร์กลับบ้านดึกๆ ล้วนแล้วแต่หนักหน่วงทั้งสิ้น

กีฬาสี สามารถแบ่งออกได้อีกหลาย Part ย่อยๆ คือ

-          พาเหรด + ดรัมเมเยอร์

-          ซ้อมกีฬาชนิดต่างๆ

-          การแสดงหน้าประธาน (ถ้าโรงเรียนเพื่อนๆมีนะ)

-          Cheer Leader

-          คุมสแตนเชียร์

-          ฯลฯ

ซึ่งทั้งหมดที่พูดมานี้ ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อและแรงงานอย่างมากมายสุดใจขาดดิ้น แล้วก็เป็นการซ้อมระยะยาวและต่อเนื่องอย่างมาก เพราะฉะนั้นจะต้องแบ่งเวลาให้ดีๆ แต่ก็อย่าเห็นแก่ตัวจนไม่ยอมช่วยเพื่อนทำอะไรเลย

สำหรับแม่งาน อันนี้ถือว่าเหนื่อยสุโค่ย! เพราะจะต้องวางแหน กำหนดกรแข่งขันเองทั้งหมด ฟังดูแล้วเครียดจัง -*- (ไม่ได้โกหกเลย เพราะตอนนี้ ผมเองก็ได้รับเรื่องมาแล้ว....)

3.    วันคริสต์มาส

ส่วนใหญ่จะเป็นงานของกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ รูปแบบของงานแต่ละที่อาจจะไม่เหมือนกัน ที่สำคัญ ไม่ใช่ภาษาบ้านเกิดเราครับ คนส่วนใหญ่เลยไม่ให้ความสนใจ แต่บางที เราก็ต้องทำเพื่อแลกกับคะแนนจิตพิสัยวิชาภาษาอังกฤษ เหอๆ

4.    อื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับวันสำคัญ

อาจจะมีการจัดบอร์ดนิเทศเกี่ยวกับเรื่องเพศศึกษาในวันวาเลนไทน์ของหมวดสุขศึกษา ความสำคัญของรัฐธรรมนูญของหมวดสังคม รวมไปถึง วัน Open House ของกิจกรรมชมรมอะไรต่างๆมากมาย ซึ่งการเตรียมงานนั้น ก็ไม่ใช่น้อยๆ เพราะคงจะต้องใช้ระยะเวลาอีกเหมือนกัน ยิ่งเป็นสิ่งที่จะต้องแสดงให้คนอื่นดูแล้วเกิดความสนใจแล้วด้วย ยิ่งต้องมีความละเอียดและประณีตมากขึ้น (โดยเด็กส่วนมักจะโดนอาจารย์หยิบคะแนนมาขู่ เหอๆ)

5.    วันอำลาอาลัย

เป็นงานแรกของผม ผมจำได้แม่นเลย ถึงแม้ว่าเบื้องหลังจะเหนื่อยมาก แต่เมื่อทำเสร็จ ได้เห็นผลสำเร็จของงาน ก็ทำให้พวกเรามีความสุขไม่น้องเลยทีเดียว เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่มีคุณค่าทางจิตใจมากๆครับ ไม่มีอะไรหนักหนาสาหัสมากมาย ถ้าไม่ได้เป็นแม่งาน (สังเกตว่า แม่งานนี่จะเหนื่อยสุด -*-)

นอกเหนือจากนี้ คงมีเป็นกิจกรรมย่อยๆแล้วหล่ะครับ

สำหรับวิธีการลำดับงานขอให้ไปดูในบทความ “ยอมเหนื่อยวันนี้ เพื่ออนาคตที่ดีในวันข้างหน้า” นะครับ ผมเขียนแนะนำไว้อย่างละเอียดแล้วหล่ะ ^^

ถึงแม้กิจกรรมจะเยอะอย่างไร สุขภาพตัวเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญเหมือนกันนะครับ

อย่าหักโหมจนเกินไป จนไม่มีเวลาพักผ่อน

อย่าหย่อนจนเกินไป จนไม่เป็นอันทำอะไรเลย

ดำเนินตาม “ทางสายกลาง” ไม่ตึง และไม่หย่อนจนเกินไปนะครับ ^^