ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Language Zone

    ลำดับตอนที่ #42 : New Generation แหวกกรอบ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 218
      0
      23 มี.ค. 55


    อยากตะโกนออกมาดังๆ ว่า
    "ไม่ทำแล้วโว้ย"

    !! อ้ากก อย่าพึ่งปิดหนีนะครับ
    ยังพูดไม่จบ

    คือผมพักฟื้น >> ไปนาน
    *นอนตาย*

    ปีหน้าก็จะขึ้น ม.6 แล้วหละ
    ก็คงยุ่งกว่านี้


    แต่ถ้าสอบติดแล้ว >O<
    จะอัพเยอะๆ นะ! (<<โกหก)
    *ประโยคข้างบนมิใช่การบนบานนะครับ ไม่มีแล้ววิ่งรอบวงเวียนพันรอบ แต่เป็นการอัพบทความร้อยบท =[]= บ้าแล้ว อย่าจริงจังนะ ผมพูดเล่น*

    ตอนนี้ผมกำลังสานต่อโปรเจ็คเก่าแก่แต่ครั้งดึกดำบรรพ์
    (หวังว่าทุกคนคงไม่ถือสาตัวอักษรสีแสบตาของผม ทั้งนี้มันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรืองทางการเมืองแต่อย่างใดนะครับ)

    จากการหลงใหลในภาษาต่างๆจากทั่วโลก ผมขอนำเสนอส่วนหนึ่่งของโปรเจ็ค (ที่เคยพูดไว้แล้วในบทก่อนๆ หนะนะครับ ทั้งนี้ ผมอยากขอความเห็นจากผู้รักในภาษาทุกท่าน ให้ช่วยออกความเห็นเกี่ยวกับโปรเจ็คนี้ด้วย อย่างที่ทราบกันดีว่า แต่ละภาษามีเอกลักษณ์ในตัวของมันเอง ทั้งลักษณะการเีขียน การอ่าน การเชื่อมเป็นคำ ไวยากรณ์ ทุกอย่างล้วนเป็นศิลปะที่ถูกสร้างขึ้นไว้ เป็นเสมือนสมบัติล้ำค่าของเจ้าของภาษาและลูกหลาน

    การคิดภาษาหนึ่งขึ้นมานั้น ผมทึกทักเอาว่า มันคงใช้เวลา ใช้การกลั่นกรองอยู่ไม่น้อย อาจใช่ มันอาจมาจากความบังเอิญ ความเคยชิน หรือจากเรื่องราวในชีวิตธรรมดาๆ ในแต่ละวัน แต่กว่าจะมาเป็นภาษาได้ก็ใช่ว่าจะเขียนๆๆ จบๆๆ ซะหน่อย

    เรื่องแย่ๆอีกอย่างที่ผมได้เจอมา >> คอมเปิดไม่ติด
    แหล่งข้อมูลหลายส่วน รวมถึงพจนานุกรมภาษากว่าภาษาละ 500 คำ ที่ผมคิดขึ้นเอง มลายหายวับไปกับตา (เข้าใจแล้วนะครับ ขนาดยุคเทคโนโลยี ชีวิตยังลำบากขนาดไหน)

    สำหรัับบทนี้จะขอบรรยายเกี่ยวกับโครงสร้างของภาษา << ที่อยู่ในส่วนหนึ่งของนิยายผมนะครับ (คนมันรักเลยอดไม่ได้ที่จะเอาไปเกี่ยวกัน ฮิ้ว)

    *คำเตือน ตั้งแต่จุดนี้ไปเราจะออกนอกโลกแล้วนะครับ ไม่สามารถใช้ข้อมูล ตามวิกิพีเดียอ้างอิงได้ และส่วนนี้ ขอสงวนลิขสิทธิ์ครับ นำไปใช้เป็นไอเดีย(มันคงไม่มีใครเอาหรอกมั้ง)กรุณาใส่เครดิตเต็มยศด้วยครับ (คงไม่ห้ามใช้อ่ะ เพราะงานผมยิ่งทำประโยชน์ให้คนอื่นมากเท่าไหร่ยิ่งดี ตัวเองมีแต่ขี้เกียจไปวันๆ)

    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ตลอดเวลาทางข้อความลับหรือ email ครับ (คลุมดำ)
    เพราะกรณีที่ใช้ไอเดียด้านประวัติศาสตร์ (ที่ผมมั่วๆคิดเอา) หรือ คำศัพท์ ~ ไม่รู้สิ เพราะผมกะเอาไว้ว่า ข้อมูลพวกนี้ จะอยู่ในนิยายทุกเรื่องที่ผมเขียน ย้ำว่าทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นแนวไซไฟ แฟนตาซี กำลังภายใน หรืออะไรก็ตาม ผมจะลากมันมาโยงกับเนื้อหาพวกนี้จนได้ เพราะงั้น มันสำคัญกับผมมากนะครับ *วิ้ง* อย่าจิ้มๆคลุมๆ แล้วฉกไปเฉยๆนะ
    "Middle_ai_K@hotmail.com"


    ส่วนที่ 1 ประวัติศาสตร์

    มีหลักฐานเล็กๆ เกี่ยวกับภาษาทั้งสามที่กำเนิดขึ้นบนโลกใบนี้ คือทั้งสามนั้นล้วนมีต้นกำเนิดมาจากศิลาแห่งอารยธรรม เติบโตอยู่บนผืนดินแห่งนั้นและออกเดินทางไป พื้นที่ที่ว่าคือ ดินแดนซอร์แทน ที่แม้ในขณะนี้จะถูกเรียกขานว่าเป็นดินแดนของ "อนารยชน"  แต่ใครจะรู้บ้างว่าที่แห่งนี้ เป็นดินแดนต้นกำเนิดของภาษา วัฒนธรรม ภูมิปัญญา ทั้งเรื่องเล่าเกี่ยวกับ ต้นกำเนิดเ่ผ่าพันธุ์มนุษย์ เทพผู้พิทักษ์โลก และเป็นที่ซึ่งเคยได้รับการเรียกขานว่าเป็น "ดินแดนศักดิ์สิทธิ์"

    ผู้คนในดินแดนแถบนี้เชื่อว่าตนคือผู้ได้รับพรจากพระเจ้า พื้นเพของพลงพวกเขามาจากพลังธรรมชาติ ต่างจากคนทางเหนือที่ถูกเชื่อว่าเป็นการสาปแช่งจากเทพเจ้า

    สำหรับเรื่องของศิลาแห่งอารยธรรม ; แม้ชื่อจะบอกเช่นนั้น แต่ศิลาที่ว่า จริงๆแล้วเป็นหน้าผาขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของทวีป ถูกสลักไว้ด้วยคำสวด และตำนานบทต่างๆ ตั้งแต่เชิงผาจนถึงยอด

    ส่วนที่ 2 คำอธิบายแผนภาพและตำนานนิดหน่อย

    http://writer.dek-d.com/Maya-/writer/viewlongc.php?id=685941&chapter=3 
    ^ภาพประกอบอยู่ในนี้
    ภาษาทั้งสามที่พูดถึงนั่นก็คือ (ในขั้นตอนนี้จะขออกเสียงเป็นภาษากลาง) 
    เฟนินโซล โลเนส และ โซลดิงเกล
    ถ้าให้เปรียบเทียบให้อยู่ในรูปลักษณ์มนุษย์แล้วละก็...

    เฟนินโซลนั้นเป็นพี่คนโตที่ถือกำเนิดขึ้นมาก่อน ที่ศิลาแห่งอารยธรรม เป็นภาษาที่เหล่าเทพเจ้าและวิญญาณธรรมชาติต่างใช้สื่อสารกัน มนุษย์น้อยคนนักที่จะรู้จักเธอ เพราะเธอถวายตัวรับใช้เทพอยู่ในมหาวิหาร

    โซลดิงเกลเป็นพี่คนรอง เป็นคนเรียบง่ายและชอบใช้ชีวิตทำนู่นทำนี่ไปเรื่อย เขาชอบงานสร้างสรรค์และทำมันออกมามากมาย เดินทางไปทั่วดินแดนและพอใจที่จะแสวงหาความสุขจากสิ่งเล็กๆน้อยๆ เสียงดนตรี อาหารอร่อยๆ และความรื่นเริงจากการพบปะผู้คน เขาจึงเป็นภาษาของคนในทวีปใต้

    โลเนสเป็นน้องคนเล็กที่ดื้อมาก ชอบการเดินทาง และการเรียนรู้อะไรใหม่ๆเป็นที่สุด เขาเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังดินแดนอันแสนไกล และใช้เวลาชั่วชีวิต เพื่อค้นหาความลับของเรื่องราวต่างๆ แม้แต่เรื่องที่ผิดต่อกฏของภูตแห่งดินแดน อาจเป็นหตุผลหนึ่งที่ทำให้ใครๆ ก็เชื่อกันว่าที่ดินแดนภาคเหนือ ที่ที่โลเนสถูกสาป คนของเขาจะถูกสาปไปจนชั่วอายุขัย ชั่วลูกชั่วหลาน  

    ส่วนที่ 3 ขอพูดอะไรที =[]= 

    ย้ายบทความอันเมื่อกี้มาใส่ในนี้ดีมั๊ยอ่ะ เพราะอยู่นู่นไม่มีคนอ่าน มันคาใจ!!
    อยากได้คำแนะนำ >< อยากได้แรงบันดาลใจ

    และ...เพื่อเป็นการขอขมาผู้อ่านทุกท่าน วันนี้...เราขออัพให้อีกซักบท

    :D ขอบคุณมากนะครับ ที่ทนอ่านจนถึงบรรทัดนี้ หรือยอมทนเลื่อน scroll bar ช่างมันเถอะ ไม่ว่ากัน~

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×