:::YOU LIGHT MY WAY:::THE LETTER:::THE GIFT:::
ไม่ได้อัพเดทไดอารี่มานานเท่าไหร่แล้วไม่รู้
รู้แต่ว่าวันนี้กลับบมาอีกครั้ง มีรูปที่ถ่ายค้างๆ ไว้
เมื่อเร็วๆ นี้ เลยอยากอัพเท่านั้น
คราวนี้มาเรื่องของ ไฟ ของขวัญ และจดหมาย
THE LIGHT
เหตุผลที่ใช้ไฟในไดอารี่คราวนี้ก็เพราะว่า...
มันทำให้นาตนึกถึงคนบางที่ ที่เปรียบเสมือนแสงไฟนำทาง
สำหรับใครหลายๆ คน เราจะรู้ได้เมื่อไหร่...ว่าใครคนนั้น
คือแสงไฟสำหรับเรารึเปล่า สำหรับนาต นาตรู้มันได้
ก็ต่อเมื่อนาตประสบปัญหามากๆ จริงๆ จนไม่สามารถ
หาทางแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง ปรกติ
เราจะพยายามที่จะแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง
แต่บางครั้งเราก็รู้สึกเหมือนอยู่ในทางตัน ไปไหนไม่ได้
ทำอะไรไม่ได้ รู้สึกไร้ความสามารถในการตัดสินใจที่จะทำอะไร
จนกระทั่งใครคนหนึ่ง...ที่อยู่ในชีวิตของเราอยู่ก่อนแล้ว
หรือแม้แต่เพิ่งเดินเข้ามา มาช่วยให้คำปรึกษา โดยไม่ต้องบอกเลยสักนิด
ว่าเราต้องทำอะไร บางครั้ง การที่เขาเหล่านั้นบอกเพียงแึ่ค่ว่า
"คิดดูดีๆ นะ ว่าเราต้องการอะไร แล้วค่อยตัดสินใจ"
เพียงแค่นั้น หนทางอันมืดมิด กลับสว่างขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
และแสงไฟดวงนี้ของนาตก็คือ "น้าผู้น่ารัก" นั่นเอง
และเขาคนนั้นที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ในช่วงที่โลกของนาตมืดมิดจริงๆ
เพียงแค่ความดีและความมีน้ำใจที่เขามีมอบให้ ทำให้เราคิดได้ว่า
"ไม่มีทางตัน บนเส้นทางของชีวิต"
ภาพนี้ถ่ายตอนไปบ้านเพื่อน
คารีน่าเป็นเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันในชั้นเดียวกันประมาณ 4 ปี
หรือห้าปีไม่รู้ จำไม่ค่อยได้ ตอนนี้คารีน่าย้ายไปอยู่สเปนแล้ว
กลับมาเยี่ยมพ่อแม่เมื่อปลายเดือนก่อน เขาชวนนาตไปกินข้าวด้วย
พูดคุยกันเล็กๆ น้อยๆ นาตหิวจัดเลยเบี่ยงเบนความสนใจตัวเอง
ด้วยการถ่ายรูปไฟ 5555
ไฟดวงนี้ตั้งอยู่ที่สถานีย์รถไฟที่หมู่บ้านที่น้องผึ้งอาศัยอยู่
นาตนัดเจอกับเพื่อนที่นั่นวันที่ 18 เดือนที่แล้ว เพราะวันนั้น
เป็นวันที่มหาวิทยาลัยเปิดให้นักเรียนเตรียมเข้ามหาลัยไปรับข่าวสาร
ข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางที่ตนสนใจจะเรียนต่อตามมหาวิทยาลัยที่
คิดว่ามีสายการเรียนนั้นๆ เปิดสอน นาตตัดสินใจไปที่มหาวิทยาลัยดีไซน์
เพื่อนร่วมชั้นอีกประมาณสองคนไปที่มหาวิทยาลัยที่เน้นทางเรื่องเศรษฐศาสตร์ ไอที
แล้วอีกห้าถึงหกคนไปมหาวิทยาลัยหนึ่งที่เกี่ยวกับ pedagogic
ของนาตต้องนั่งรถต่อไปอีกไกลเลย เพื่อนๆ ลงไปหมดแล้ว
แถมยังต้องไปเดินตามหาอีก 555 โชคดีไปแต่เช้า
สรุปว่าทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี นาตได้ข้อมูลมาเยอะพอตัว
และกลับมาทันเวลาตามนัด คิดว่าคุ้มค่าจริงๆ
ไฟอันนี้ถ่ายที่บ้านเด็บบี้ตอนไปทำขนมด้วยกัน
รอขนมในเตาอบอยู่
นี่ไฟหน้าบ้านคารีน่า นาตไปถึงก่อนที่คารีน่าจะกลับถึงบ้าน
เลยถ่ายรูปรอ หิมะตก วันนั้นขับรถออกจากบ้านนาตยากมาก
เพราะว่าเป็นน้ำแข็ง แถมทางยังทำไม่เสร็จ โชคดีีไม่เป็นอะไร
THE GIFT
ของขวัญให้เพื่อนๆ คุ๊กกี้แครนเบอร์รี่ทำเอง
ห่อเอง แจกวันที่ 7 ที่ผ่านมานี่เอง
ปรกติต้องให้วันซานต้าวันที่ 6
แต่นาตไม่ว่าง เลยเอาไปให้ย้อนหลัง
อีกส่วนหนึ่งที่ยังไม่ได้เอาใส่ถุง
ที่มีจดหมายนั้นของแอนดีเพื่อนบ้าน
และมาร์คที่รับนาตไปด้วยเกือบทุกวัน
THE LETTER
จดหมาย...
เขียนให้มาร์คตอนมอบคุ๊กกี้เป็นการขอบคุณครั้งแรก
เพราะไม่แน่ใจว่าวันนั้นเขามีเรียนไหม เลยเอาคุ๊กกี้ใส่ห่อ
แถมจดหมายเอาไปวางไว้บนหลังคารถ สรุปว่าเขามีเรียน
เลยได้เจอกันก่อนไปเรียนนิดนึง มาร์คบอกคุ๊กกี้อร่อย
แต่สูตรที่สองอร่อยกว่า (สรุป...ไม่มีอะไรไม่อร่อย)
เพราะตามาร์คชอบกินของหวาน 55555555
::บ่อยครั้งที่ฉันไม่รู้สึกตัว เวลาตัดสินใจทำอะไร เพื่อให้ได้อยู่ใกล้กับเธอ:::
ไม่ได้อัพเดทไดอารี่มานานเท่าไหร่แล้วไม่รู้
รู้แต่ว่าวันนี้กลับบมาอีกครั้ง มีรูปที่ถ่ายค้างๆ ไว้
เมื่อเร็วๆ นี้ เลยอยากอัพเท่านั้น
คราวนี้มาเรื่องของ ไฟ ของขวัญ และจดหมาย
THE LIGHT
เหตุผลที่ใช้ไฟในไดอารี่คราวนี้ก็เพราะว่า...
มันทำให้นาตนึกถึงคนบางที่ ที่เปรียบเสมือนแสงไฟนำทาง
สำหรับใครหลายๆ คน เราจะรู้ได้เมื่อไหร่...ว่าใครคนนั้น
คือแสงไฟสำหรับเรารึเปล่า สำหรับนาต นาตรู้มันได้
ก็ต่อเมื่อนาตประสบปัญหามากๆ จริงๆ จนไม่สามารถ
หาทางแก้ไขปัญหาได้ด้วยตัวเอง ปรกติ
เราจะพยายามที่จะแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง
แต่บางครั้งเราก็รู้สึกเหมือนอยู่ในทางตัน ไปไหนไม่ได้
ทำอะไรไม่ได้ รู้สึกไร้ความสามารถในการตัดสินใจที่จะทำอะไร
จนกระทั่งใครคนหนึ่ง...ที่อยู่ในชีวิตของเราอยู่ก่อนแล้ว
หรือแม้แต่เพิ่งเดินเข้ามา มาช่วยให้คำปรึกษา โดยไม่ต้องบอกเลยสักนิด
ว่าเราต้องทำอะไร บางครั้ง การที่เขาเหล่านั้นบอกเพียงแึ่ค่ว่า
"คิดดูดีๆ นะ ว่าเราต้องการอะไร แล้วค่อยตัดสินใจ"
เพียงแค่นั้น หนทางอันมืดมิด กลับสว่างขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
และแสงไฟดวงนี้ของนาตก็คือ "น้าผู้น่ารัก" นั่นเอง
และเขาคนนั้นที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ในช่วงที่โลกของนาตมืดมิดจริงๆ
เพียงแค่ความดีและความมีน้ำใจที่เขามีมอบให้ ทำให้เราคิดได้ว่า
"ไม่มีทางตัน บนเส้นทางของชีวิต"
ภาพนี้ถ่ายตอนไปบ้านเพื่อน
คารีน่าเป็นเพื่อนที่เคยเรียนด้วยกันในชั้นเดียวกันประมาณ 4 ปี
หรือห้าปีไม่รู้ จำไม่ค่อยได้ ตอนนี้คารีน่าย้ายไปอยู่สเปนแล้ว
กลับมาเยี่ยมพ่อแม่เมื่อปลายเดือนก่อน เขาชวนนาตไปกินข้าวด้วย
พูดคุยกันเล็กๆ น้อยๆ นาตหิวจัดเลยเบี่ยงเบนความสนใจตัวเอง
ด้วยการถ่ายรูปไฟ 5555
ไฟดวงนี้ตั้งอยู่ที่สถานีย์รถไฟที่หมู่บ้านที่น้องผึ้งอาศัยอยู่
นาตนัดเจอกับเพื่อนที่นั่นวันที่ 18 เดือนที่แล้ว เพราะวันนั้น
เป็นวันที่มหาวิทยาลัยเปิดให้นักเรียนเตรียมเข้ามหาลัยไปรับข่าวสาร
ข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางที่ตนสนใจจะเรียนต่อตามมหาวิทยาลัยที่
คิดว่ามีสายการเรียนนั้นๆ เปิดสอน นาตตัดสินใจไปที่มหาวิทยาลัยดีไซน์
เพื่อนร่วมชั้นอีกประมาณสองคนไปที่มหาวิทยาลัยที่เน้นทางเรื่องเศรษฐศาสตร์ ไอที
แล้วอีกห้าถึงหกคนไปมหาวิทยาลัยหนึ่งที่เกี่ยวกับ pedagogic
ของนาตต้องนั่งรถต่อไปอีกไกลเลย เพื่อนๆ ลงไปหมดแล้ว
แถมยังต้องไปเดินตามหาอีก 555 โชคดีไปแต่เช้า
สรุปว่าทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี นาตได้ข้อมูลมาเยอะพอตัว
และกลับมาทันเวลาตามนัด คิดว่าคุ้มค่าจริงๆ
ไฟอันนี้ถ่ายที่บ้านเด็บบี้ตอนไปทำขนมด้วยกัน
รอขนมในเตาอบอยู่
นี่ไฟหน้าบ้านคารีน่า นาตไปถึงก่อนที่คารีน่าจะกลับถึงบ้าน
เลยถ่ายรูปรอ หิมะตก วันนั้นขับรถออกจากบ้านนาตยากมาก
เพราะว่าเป็นน้ำแข็ง แถมทางยังทำไม่เสร็จ โชคดีีไม่เป็นอะไร
THE GIFT
ของขวัญให้เพื่อนๆ คุ๊กกี้แครนเบอร์รี่ทำเอง
ห่อเอง แจกวันที่ 7 ที่ผ่านมานี่เอง
ปรกติต้องให้วันซานต้าวันที่ 6
แต่นาตไม่ว่าง เลยเอาไปให้ย้อนหลัง
อีกส่วนหนึ่งที่ยังไม่ได้เอาใส่ถุง
ที่มีจดหมายนั้นของแอนดีเพื่อนบ้าน
และมาร์คที่รับนาตไปด้วยเกือบทุกวัน
THE LETTER
จดหมาย...
เขียนให้มาร์คตอนมอบคุ๊กกี้เป็นการขอบคุณครั้งแรก
เพราะไม่แน่ใจว่าวันนั้นเขามีเรียนไหม เลยเอาคุ๊กกี้ใส่ห่อ
แถมจดหมายเอาไปวางไว้บนหลังคารถ สรุปว่าเขามีเรียน
เลยได้เจอกันก่อนไปเรียนนิดนึง มาร์คบอกคุ๊กกี้อร่อย
แต่สูตรที่สองอร่อยกว่า (สรุป...ไม่มีอะไรไม่อร่อย)
เพราะตามาร์คชอบกินของหวาน 55555555
::บ่อยครั้งที่ฉันไม่รู้สึกตัว เวลาตัดสินใจทำอะไร เพื่อให้ได้อยู่ใกล้กับเธอ:::
no.
beer
ความคิดเห็น
::บ่อยครั้งที่ฉันไม่รู้สึกตัว เวลาตัดสินใจทำอะไร เพื่อให้ได้อยู่ใกล้กับเธอ:::
ของขวัญเจ้าตัวเขาดีใจมากมายก็ยินดีกับเธอด้วย วี้วๆๆ (เป่าปากแซว ฮา)
น่ารักจริงๆ พี่
^_____^
พี่นาตไม่ได้มาอัพไดนานมาก ยิมรออ่านตั้งนาน ;))
คิดถึงพี่นาตจัง ><
ตามาร์คของพี่นาตนี่ ใช่คนที่ทำให้หัวใจกิ้วก๊าว จนเผลออยากอยู่ใกล้หรอคะ ^[]^