ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [[ FanFic หัวขโมยแห่งบารามอส ] วันนี้ พรุ่งนี้ ตลอดไป ]

    ลำดับตอนที่ #1 : เปิดตำนานบทที่ 1 จุดเริ่มต้น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.39K
      0
      5 ม.ค. 49

    เปิดตำนานบทที่ 1 :: จุดเริ่มต้น







    “รุก”



    “ใจเย็นก็ได้ลูก” กล่าวว่าพลางขยับคิงหนี



    “เกมนี้ไม่มีคำว่าใจเย็นเพคะ รุก”



    “ใจเย็นๆน่า จบเกมแล้วก็เริ่มใหม่ก็ได้ลูก”



    “งั้นท่านพ่อเตรียมตัวเริ่มใหม่ได้เลยเพคะ รุกฆาต!”



    หมากกระดานถูกล้มลง.........



    “แพ้ลูกอีกแล้วนะ เอวิเดส” น้ำเสียงหวานๆของสตรีผู้เป็นราชินีแห่งเดมอสกล่าวขึ้นขันๆ



    “เจ้าอยากเล่นกะเฟลิโอน่าเองมั้ยล่ะ อลิเซีย” เอวิเดสหันกลับเถียงควับ



    “เรื่องอะไร๊  เล่นไปก็แพ้ เสียหน้าเปล่า”อลิเซียบ่นหงุงหงิง



    “โธ่...ที่แท้ก็เหมือนกันแหล่ะน่า”เอวิเดสว่า  เรียกเอาคนฟังถลึงนัยน์ตาคู่สวยใส่ทันที



    “พอเถอะเพคะ”เฟลิโอน่าห้ามก่อนเกิดศึกระหว่างผู้เป็นเจ้าแผ่นดินทั้งสอง “หนูเล่นกับเมอเฟร์หรือเพริตัสก็ได้ ท่านพ่อท่านแม่อย่าทะเลาะกันเลย”



    “ไม่เอาน่า พี่เฟลิโอน่า”เมอเฟร์เถียงขวับ “ยังไม่ได้ประลองเวทย์กะน้องเลย”



    “งั้นเล่นกับผมก็ได้น่า” เสียงจากเพริตัส เจ้าชายองค์เล็กแห่งราชวงศ์เกรเดเวล



    แล้วหมากกระดานก็ถูกตั้งขึ้นมาอีกรอบหนึ่ง.....











    “รุกฆาต!” เสียงประกาศจากองค์ธิดาองค์โต ผู้ซึ่งเล่นหมากรุกเก่งถึงขนาดคนทั้งวังหามีผู้ใดเทียบได้



    “เจ้าแพ้แล้วนะเพริตัส” เอวิเดสตรัสพลางอุ้มกายของเพริตัสมานั่งใต้อ้อมแขน องค์ชายองค์น้อยเบ้หน้าเมื่อได้ยินคำว่าแพ้ ก่อนที่จะ.....



    “ฮึก....ฮึก แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง๊”  



    เฟลิโอน่าถอนหายใจก่อนที่จะรับเพริตัสมาอุ้มเอง



    “โอ๋ๆ......ไม่เป็นไรหรอกน่า แพ้แค่นี้ไม่ถึงตายหรอก อย่าร้องไห้นะ”



    “งั้นเดี๋ยวเล่นใหม่นะฮะ”น้ำตาที่เคยไหลพรากตอนนี้เหลือเพียงคลอเบ้า ดวงตาสีดำใสแจ๋วหันมาสบตาผู้เป็นพี่สาว

    “จ้าๆเล่นใหม่ก็ได้ แต่เอาไว้ทีหลังนะ”



    “พี่สัญญาแล้วนะ” เพริตัสเอานิ้วก้อยชูไปด้านหน้า เป็นเครื่องหมายสัญญาที่ไว้ปลอบเด็ก หากในครอบครัวเกรเดเวลจะหมายถึง ตกอยู่ในอาคมขององค์ชายองค์น้อย ที่ไม่มีทางผิดสัญญาได้เด็ดขาด



    “จ้ะๆ แต่ไม่เกี่ยวก้อยนะ”เฟลิโอน่าต่อรอง แต่เมื่อเพริตัสได้ยินดังนั้นน้ำตาเตรียมจะไหลอีกระลอก



    “พี่เฟลิโอน่าไม่รักผมแล้วเหรอ”



    “จ้ะๆ เกี่ยวก้อยก็ได้” เฟลิโอน่าพยักหน้าอย่างหมดทางเลือก หลังจากทำสัญญาเสร็จแล้ว เสียงของเมอเฟร์ก็แว้ดขึ้นมาขัดจังหวะอย่างอารมณ์เสียเต็มที่







    “พี่เฟลิโอน่า เมื่อไหร่จะประลองเวทย์กับหนู หรือว่าจะให้หนูใช้เวทย์พันธนาการพี่อีกคน!!”



















    “หัตถ์เพลิงโลกันตร์!”



    “ใจเย็นๆน่าพี่จ๋า  ดาราปริศนา!”



    “ขืนใจเย็นก็แพ่เธอตายสิ ยัยจอมเวทย์  ดาบนราบดีจันทรา!”



    “ใครใช้ให้พี่เรียกดาบของพี่ออกมาน่ะ!”



    “ก็เธอมันจอมเวทย์นิ จอมดาบอย่างฉันจะชนะเธอได้ยังไง เอาสู้แบบมีศักดิ์ศรีดีกว่า” เฟลิโอน่ายิ้มอย่างเป็นต่อ แต่กลับรู้สึกกลัวขึ้นมาระลอกเมื่อเห็นสีหน้าของน้องสาวจอมเวทย์



    เมอเฟร์.....จะมาไม้ไหนกันแน่........



    บริกรรมคาถาเอ่ยออกมาจากจอมเวทย์แห่งเดมอส  ดาบนราบดีจันทราค่อยๆลอยหลุดจากมือของเจ้าของช้าๆ แล้วเคลื่อนมายังอีกเจ้าหญิงของเดมอส



    “ใครใช้เธอให้ทำอย่างนี้!”เฟลิโอน่าว่าอย่างโกรธจัด



    “พี่บอกเองว่าให้ใช้สิ่งที่ตนเองถนัด....น้องก็...............”เมอเฟร์ว่ายิ้มๆ แต่ยังไม่ได้เอ่ยจบ เจ้าหญิงอีกองค์รีบประกาศศึกต่อทันที



    “คทาหัตถาทิวา !”



    “กว่าจะยอมนะคะ” เสียงจากสาวน้อยจอมเวทย์ที่ยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดี เฟลิโอน่ารีบเสกเวทย์ใส่ตัวเธอทันทีโดยที่ไม่ได้ตั้งตัว แต่เมอเฟร์กลับสร้างกำแพงเวทย์กันได้อย่างทันท่วงที หากแต่เฟลิโอน่าไม่ปล่อยเวลาให้สูญเปล่า เรียกดาบนราบดีจันทรากลับเข้าสู่มือตนเองทันที



    เคร้ง!



    ดาบกลับปะทะดาบ หาใช่กำแพงเวทมนตร์ที่น้องสาวสร้างอยู่เป็นประจำ



    “เราสู้กันด้วยศักดิ์ศรีของเจ้าหญิงเดมอสดีกว่าค่ะ”



    เพลงดาบถูกตวัดจากยอดนักดาบของเดมอส เจ้าหญิงเฟลิโอน่า เกรเดเวล เพลงดาบที่รวดเร็ว รุนแรง จนยากหาใครมาสู้ได้ แต่เมอเฟร์กลับรับไว้ได้ทันด้วยท่าทีที่สวยงามเช่นกัน แต่จอมเวทย์ยังเป็นจอมเวทย์  หาเทียบกับจอมดาบมิได้



    “ยอมแพ้ซะ” ปลายดาบถูกจ่อมาที่คอหอยของเจ้าหญิงเมอเฟร์  เกรเดเวล  ซึ่งไม่ได้มีความเกรงกลัว กลับขยิบตาให้พี่สาวอย่างผู้รู้ทันราวกับตนเองคือผู้ชนะ  



    ชั่วพริบตา ดาบนราบดีจันทราราวกับมีมือที่มองไม่เห็นผลักออกไป ดาบถูกสวนมาจากเมอเฟร์อย่างรวดเร็ว แต่เฟลิโอน่ากลับรับดาบได้ทัน โดยที่เวลานี้ ดาบของทั้งคู่อยู่ที่คอหอยของอีกฝ่าย



    “เสมอ”













    ในอีกมุมนึงของปราสาท ราชาและราชินีแห่งเดมอสเฝ้ามองเจ้าหญิงทั้งคู่สู้กันอยู่บนระเบียงห้องนอน อลิเซียมองเจ้าหญิงน้อยผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของพระองค์ ก่อนจมดิ่งอยู่กับความคิดของตนเอง



    ไม่เคยนึกว่าเธอจะมีวันนี้.............



    เธอควรจะตายไปเมื่อ 15 ปีก่อน หากเขา ไม่หลอกตาคนว่าเธอตายไปแล้ว แล้วช่วยชีวิตเธอเอาไว้.........



    ถ้าเธอตายไปจริง เมอเฟร์  เพริตัส คงไม่ได้มาอยู่มองโลกใบนี้ ............



    ไม่มีวันที่เธอได้เห็นลูกๆเฝ้าเจริญเติบโต ตั้งแต่เด็ก จนบัดนี้เข้าสู่วัยสาว..........



    แม้ว่าเธอ.........คือคนที่ตายไปแล้วในดินแดนเอเดน ดินแดนบ้านเกิดของเธอ..................













    15 ปีก่อน......





    “อลิเซีย ดื่มน้ำแก้วนี้หน่อย” เอวิเดสส่งแก้วน้ำให้เธอก่อนที่เธอจะออกไปร่วมงานฉลองครบเดือนของพระธิดาองค์แรก เฟลิโอน่า เกรเดเวล



    “มันคืออะไรหรือ เอวิเดส” อลิเซียอดถามบุคคลที่ส่งแก้วน้ำนี้ให้เธอไม่ได้



    “ไว้เวลานั้น เธอจะรู้เอง วันนี้ฉันมีลางสังหรณ์ใจไม่ดีเลย เหมือนจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นมา” เอวิเดสตรัสด้วยพระพักตร์ที่ไม่ดีนัก อลเซียจึงรีบปลอบพระทัยของบุคคลที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพระสวามี



    “อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิดเพคะ เวลานั้นค่อยว่ากันอีกที” น้ำเสียงที่ให้ผู้ฟังยิ้มขึ้นมาได้ ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงขันๆ



    “ตอนนี้เจ้ากินน้ำนี่ก่อนเถอะ หรือจะให้ข้าป้อนให้”น้ำเสียงตอนท้ายส่อแววเจ้าเล่ห์ไม่มีผิด อลิเซียแจกค้อนวงเบอเร้อให้พระสวามีก่อนบ่นอุบอิบ



    “น้ำแค่นี้หม่อมฉันกินได้ ไม่ต้องมาป้อนปรอกน่า”











    ลางร้ายที่เอวิเดสสังหรณ์ใจไว้ไม่มีผิด !



    กองทัพเอเดนบุกชิงตัวพระธิดาเฟลิโอน่าในวันครบรอบเดือน!!!



    เสียงอาวุธปะทะกันไปทั่ว ต่างฝ่ายต่างสู้บ้าระห่ำจนไม่สนใจอะไร จนกระทั่งพลทหารคนนึงร้องดังลั่น



    “สมเด็จพระราชินีโดนลอบปลงพระชนม์ !”



    เสียงที่หยุดทุกการต่อสู้  ร่างของเอวิเดสรีบเยื้องกรายเข้าไปในห้องของพระธิดาอย่างเร็วสุดความสามารถ



    ร่างของสตรีผู้เป็นที่รัก......บัดนี้เสื้อผ้าเต็มไปด้วยเลือดที่เปรอะเปื้อน ลมหายใจที่แผ่วลงทุกที เบาลง เบาลง จนเหมือนแทบไม่ได้หายใจ ร่างของจ้าวปีศาจสั่นสะเทิ้มอย่างควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ดวงหทัยราวกับแตกสลาย



    “ฝากเฟลิโอน่าด้วย.....เพ.คะ.....”



    คำกล่าวสุดท้ายก่อนลมหายใจจะหมดลง จ้าวปีศาจก้มลงจุมพิตสุดท้าย......เนิ่นนาน............



    ก่อนที่จะหันมาทางกองทัพเอเดนอย่างกราดเกรี้ยว ด้วยจิตสังหารที่ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นเกิดความรู้สึก....กลัว





    “ออกไปซะเอเดน!! ออกไป ก่อนที่ข้าจะควบคุมตัวเองไม่ให้ฆ่าเจ้าไม่ได้ !! อย่าให้การตายของนางสูญเปล่า ออกจากไปเดมอสซะ !! แล้วอย่ามายุ่งกับข้าอีก !!!!”



    คำพูดที่ราวกับคำอาญาสิทธิ์ ทหารเอเดนทุกหมู่ต้องรีบกลับไปยังเอเดนจนเวลาพริบตา ก่อนที่จ้าวปีศาจจะโกรธาจนพินาศไปข้างหนึ่ง



    หลังจากสิ้นทหารเอเดนในพระราชวังเดมอสแล้ว เอวิเดสหันไปรับสั่งกับเสนาบดีที่อยู่ใกล้ที่สุด



    “เตรียมแท่นพิธีให้พร้อม......เราจะชุบชีวิตอลิเซีย”













    คาโนวาล.....



    “สาส์นจากท่านจ้าวเอวิเดสพะยะค่ะ” ราชทูตจากเดมอสส่งสาส์นให้กับกษัตริย์บาโร วาเนบลี ซึ่งรับสาส์นมาเปิดอ่าน ในนั้นมีกระดาษสองแผ่น



    ‘จดหมายนี้อลิเซียเขียนก่อนตาย นางต้องการให้ข้าส่งให้เจ้า’



    พระขนงของกษัตริย์คาโนวาลมุ่นอย่างงงพระทัย ก่อนเปิดกระดาษอีกแผ่นออกอ่าน เมื่ออ่านจบพลางถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนหันไปรับสั่งกับราชทูตแห่งเดมอส



    “เราตกลงตามที่อลิเซียเขียนไว้ หากเราเจอเฟลิโอน่า เราจะดูแลเขาเป็นอย่างดี” หันพระวรกายเตรียมเสด็จกลับเข้าพระตำหนัก หากราชทูตแห่งเดมอสท้วงไว้ก่อน



    “มีอีกสิ่งพะย่ะค่ะ ท่านจ้าวเอวิเดสฝากให้ท่านด้วย”



    คทา......... คทาในตำนาน.......



    ‘คทาอัคราวารี ข้าเคยได้ยินว่าเจ้ามีลูกชายเกิดแก่จอมภูตสโนว์แลนด์ คทานี้คงมีประโยชน์กับคาโล สิ่งนี้ถือเป็นของขวัญจากข้าให้ลูกท่านแล้วกัน  อลิเซีย’    



    บาโรรับคทาไว้ในพระหัตถ์ ก่อนส่งถอนหายใจอีกรอบ พลางเหม่อมองขึ้นไปบนฟากฟ้า



    คำสัญญานี้คงเป็นสิ่งสุดท้ายที่ข้าคงให้กับเจ้าได้ ข้าจะดูแลเฟลิโอน่าตามที่เจ้าขอมา อลิเซีย.........













    การเริ่มต้นชีวิตใหม่........



    เริ่มต้นชีวิตในฐานะแค่ราชินีแห่งเดมอส เมื่อเจ้าหญิงแห่งบารามอสได้ตายไปจากโลกนี้แล้ว



    การปกปิดความลับโดยอาศัยเวทมนตร์ของราชินีจันทรา....ที่ร่ายเวทย์พันธนาการไม่ให้ชาวเดมอสเอ่ยปากความลับนี้ไปถึงชาวเอเดน แลหากชาวเอเดนคนไหนรู้เรื่องนี้ด้วยอลิเซียไม่ต้องการ



    ชาวเอเดนผู้นั้นต้องถึงแก่ชีวิต !



    การที่จะได้สิ่งนึง  แม้จะต้องสูญเสียอีกสิ่งหนึ่ง



    แต่แค่นี้ก็ดีพอแค่ไหนแล้วสำหรับนาง.......ผู้ที่เจอปาฏิหาริย์จากจ้าวปีศาจ



    หากวันนั้นนางไม่ได้ดื่มยานั้นลงไป คงไม่มีวันนี้....................











    “เหม่ออะไรอยู่ อลิเซีย” เอวิเดสสะกิดตัวนางขึ้นมา



    “ฉันคิดถึงวันเก่าๆ เมื่อ 15 ปีที่แล้ว” อลิเซียถอนใจ เอวิเดสมองภรรยาด้วยสายตาที่หยั่งไม่ถึง พลางสวมกอดนาง



    “วันนี้เจ้ามีชีวิตใหม่แล้ว อย่ากังวลไปเลย ลืมชีวิตเก่า แล้วใช้ชีวิตใหม่ดีกว่านะ” คำพูดที่ทำให้นางได้คิด อลิเซียเงียบไปอึดใจก่อนจะเอ่ยถามพระสวามี



    “หากหม่อมฉันจะขออย่างนึง จะได้มั้ยคะ ?”



    เอวิเดสก้มมองอลิเซียด้วยแววตาใคร่รัก



    “อะไรล่ะ”



    “หม่อมฉันอยากให้ลูกไปเรียนที่เอดินเบิร์กเพคะ” คำขอจากนางทำให้เอวิเดสคาดไม่ถึง ก่อนแปรเป็นคำถาม



    “ทำไมล่ะ เจ้าถึงอยากให้ลูกไปเรียนที่นั่น”



    “เพราะว่าครึ่งนึงของเขาก็คือเอเดน หม่อมฉันอยากให้ลูกลองไปใช้ชีวิตในฐานะคนเอเดนบ้าง ก็เท่านั้นเพคะ”



    เอวิเดสยิ้มน้อยๆ ก่อนเอ่ยปาก



    “ฉันไม่ขัดข้องหรอก เราลองไปคุยกับลูกดูดีกว่า ว่าเขาอยากไปมั้ย  ?”









    To Be Continued
      





    ลองแต่งดูค่ะ เป็นฟิคบารามอสเรื่องแรกเลย ลองคิดดูว่าถ้าเกิดนางเอกเราเป็นเจ้าหญิง และมีพี่น้องจะเป็นยังไง เรื่องนี้พึ่งหัดแต่งค่ะ มีขอเสนอแนะก็ช่วยบอกกันด้วยนะคะ ^^  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×