จุดหมายที่ปลายขอบฟ้า - จุดหมายที่ปลายขอบฟ้า นิยาย จุดหมายที่ปลายขอบฟ้า : Dek-D.com - Writer

    จุดหมายที่ปลายขอบฟ้า

    โดย SexOfCouse

    การเดินทางของเด็กหนุ่มนามว่า "ไซฟ่า" ที่ต้องหลบหนีจากการรอบสังหาร

    ผู้เข้าชมรวม

    108

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    108

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  แฟนตาซี
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  30 มี.ค. 63 / 23:50 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    เนื้อเรื่องแนวแฟนตาซีถึงแรกๆจะแฟนตาซีไม่มากแต่หลังๆมาแน่นวล

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      หมายเหตุ* ใครที่ได้อ่านจริงก็คอมเม้นหน่อยก็ดีนะครับจะได้ทราบว่ามีคนอ่านจริงมันเป็นกำลังใจอย่างดีเลย

      เมือง ฟอเด็น ปี x141

      ณ ปราสาทกรีนการ์เด้น พระราชากำลังดื่มด่ำกับการไวน์รสเลิศอย่างมีความสุขจู่ๆก็เกิดเสียงดังตรงทางเดิน (เสียงวิ่ง) แล้วประตูก็เปิดปรากฎเป็นทหาร 1 นายกำลังเหน็ดเนื่อยจากการวิ่ง และมีใบหน้าหวาดกลัวและตื่นตระหนกทหารไม่รีรอ รีบรายงานข้อความให้องค์ราชาทันที

      "องค์ราชา เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ (หอบ) (หอบ)" ท.

      "เกิดอะไรขึ้น? ทำไมร้อนรนนัก" ราชา

      "คือว่ามีเหตุด่วนแล้วครับองค์ราชา ที่กำแพงเมือง (หอบ) (หอบ)" ท.

      "ค่อยๆ เล่ามาว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นที่กำแพงเมือง ศัตรูบุกรึ" ราชา

      "ไม่ใช่ครับ เพียงแต่ว่า ทหารยามที่เฝ้าอยู่ที่กำแพงเมือง ได้จับ กลุ่มโจรกลุ่มหนึ่งได้ครับ (หอบ)" ท.

      "แล้วมันเป็นยังไง กับเรื่องแค่จับโจรได้ที่กำลังแพงเมือง พวกเจ้าก็" ราชา

      พระราชาถึงกับโมโหกับเรื่องที่ทหาร รายงานมันเป็นเพียงการจับโจรได้เท่านั้นและกำลังจะด่าทหารให้ไปจัดการกันเองกับแค่การจับโจร แต่ทว่าพระราชายังพูดไม่ทันจบประโยคทหารก็ได้พูดขึ้น

      "ทหารเฝ้ายามจับกลุ่มโจรได้ที่ป่าแห่งการหลับไหลครับพร้อมกับ พบสากศพอสูร อีก 10 ตัว คาดว่าน่าจะเป็นหมาป่าดำ" ท.

      เมื่อพระราชาได้ยิน ถึงกับเกิดอาการตกใจอย่างที่สุด และรีบออกคำสั่งกับทหารทันที

      "ไปแจ้งหน่วยเตือนภัย ตีระฆังอพยพ และรีบอพยพทุกคนในเมืองออกไปให้เร็วที่สุดและออกคำสั่งไปยังทุกหน่วย ให้รีบไปช่วยชาวเมืองให้อพยพ สิ่งของต่างๆ ถ้าไม่จำเป็นให้ทิ้งไว้และกำชับทุกคนด้วยว่า พยายามห้ามเกิดเสียงดังมากจนเกินไป ไปได้" ราชา

      และเพียงไม่นานทั้งเมืองก็ตกอยู่ในความกลหน ผู้คนมากมายต่างรีบเร่งเก็บของที่มีค่าเท่าที่ทำได้แล้วรีบวิ่งออกไปทางประตูเมือง โดยหวังเพียงว่าตนเองจักรอดพ้นจากเหตุการณ์เช่นนี้ผู้คนต่างสิ้นสติ ลืมกฎเกณฑ์ข้อสำคัญที่สุดของเมืองทั้งหมดไป กฎที่ไม่ว่าจะยังไงก็ห้ามทำเด็ดขาดไม่ว่าจะเป็นผู้ใด พระชาราหรือประชาชน ถ้าหากแหกกฎ จักต้องถูกประหารโดยไม่มีทางเลี่ยงและในขณะที่ผู้คนกำลังอพยพกันอยู่นั้น จู่ๆก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นพร้อมลำแสงพุ่งผ่านประตูเมืองจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่ง ทำให้ผู้คนที่อยู่ในระหว่างทางเดินหายวับไปไม่เหลือสิ่งใดบนทางเดินนั้นเหลือเพียงแต่รอยไหม้ เศษเปลวเพลิงที่ลุกไหม้ และถนนที่ถูกพังทลายเพียงเท่านั้นความกลหนทั้งหมดได้หยุดลง ผู้คนที่กำลังอพยพต่างนิ่งเงียบและคุกเข่าก้มหัวติดพื้นผู้คนต่างตกอยู่ในความสิ้นหวังทำได้เพียงแค่กัดฟันร้องไห้ ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบเพียงไม่นานก็เกิดเสียงเหยียบอิฐของถนนดังขึ้น (กร๊อบ แกร๊บ) ทุกคนต่างตัวสั่น จนเสียงนั้นเดินผ่านไปหยุดที่ประตูฝั่งทางออก

      "ราชาอยู่ไหน?" เงาดำ

      เสียงถามจากคนผู้หนึ่งที่เดินตัดผ่านถนนมาดังขึ้น แต่ก็ไร้เสียงตอบรับ จนต้องถามซ้ำอีกครั้ง

      "ข้าถามว่า ราชาอยู่ไหน?" เงาดำ

      "ข้าอยู่นี่ ท่าน ??? ขออภัยที่ต้องให้ท่านพูดซ้ำ" ราชา

      พระชาราได้รีบวิ่งออกมาจากในตรอก เพื่อมาก้มหัวผู้ชายที่มีเงาดำของตึกพาดผ่านจนไม่สามารถเห็นหน้าตาได้เห็นเพียงร่างกายเท่านั้น ดูผิวเผิน เหมือนเด็กหนุ่มอายุ 19-25 ปี ผิวสีขาวอมน้ำผึ้งเปลือยกายท่อนบนร่างกายกำยำ กล้ามเนื้อสมสวน เดินเท้าเปล่า

      "เจ้าคงรู้สินะว่าเกิดอะไรขึ้น?" เงาดำ

      "ข้าทราบแล้วเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น" ราชา

      "งั้นเจ้าก็จำได้สินะกับกฎที่เราได้ตั้งกันไว้" เงาดำ

      "ข้าจำได้ ไม่มีทางลืมได้เด็ดขาดเกี่ยวกับคำสัญญาที่อาณาจักรนี้มีต่อท่าน แต่เพียงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่จากผู้คนในเมืองของข้า แต่สัญญาก็คือสัญญาเพราะฉะนั้นได้โปรด ถ้าหากจักลงโทษ ได้โปรดลงโทษเพียงตระกูลของข้าที่ไม่ทำตามสัญญาให้ดี พวกชาวเมืองไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยได้โปรดท่านเมตตาพวกเขาด้วย" ราชา

      "โอ้เป็นคำพูดที่ดีนี่ ถ้าอย่างนั้น" เงาดำ

      ------------------------------------------------------------------------

      เมือง วอเตอร์เท็ค ปี x190

      ณ บ้านตระกูล แมนเดย์ เสียงวิ่งบนทางเดิน หนุ่มน้อยอายุ 15 ปี ไซฟ่า กำลังวิ่งเล่นอยู่ในคฤหาสน์กับน้องสาว เซริน อย่างสนุกสนานไซฟ่าหนุ่มน้อยผู้มุ่งมั่นที่จะเป็นบารอนผู้มีเกียรติ และมีผู้คนนับถือเฉกเช่น ไวท์ พ่อของตนเซริน สาวน้อยอายุ 9 ปี ผู้งดงามเหมือนแม่ของนาง ซิล และต้องการที่จะทำประโยชน์ต่อตระกูลอย่างยิ่ง

      "ว๊ายย!! คุณหนูมันอันตรายนะค่ะแบบนี้ แล้วนี่คุณหนูจะไปไหนกันค่ะเนี่ยะ" ม.ไวโอเร็ต

      "ข้าจะพาเซรินไป ขี่ม้าเล่นนะ" ไซฟ่า

      "ท่านพี่รอหนูด่วยสิ ชุดหนูมันหนักวิ่งตามไม่ไหว" เซริน

      "ฮ่า ๆ ๆ ข้าบอกเจ้าแล้วให้ใส่ชุดที่มัน สะดวกสะบายหน่อย แล้วเจ้าใส่แบบนั้นจะไปทำอะไรได้" ไซฟ่า

      "หนอย ทำได้สิ! คอยดูให้ดีล่ะ" เซริน

      เซรินได้ทำการฉีกกระโปรงของตนเองออกไปเพื่อให้ตนเองนั้นวิ่งได้สะดวกจนเมดไวโอเร็ตถึงกับตกใจแล้วเซรินก็วิ่งตามพี่ชายไปหายไปด้านนอกไปพบกับโทมัสแล้วไซฟ้ากับเซรินก็ได้ทักทายกับโทมัส แล้วพูดคุยกับโทมัสเรื่องที่ทั้งสองคนจะไปขี่ม้าเล่นแต่โทมัสก็รู้สึกเป็นห่วงเรื่องที่ทั้งคู่จะออกไปขี่ม้าเล่นกนแค่สองคนจึงได้ขอทั้งสองติดตามไปด้วยเพื่อที่ตนเองนั้นจะได้ทำการปกป้องคุ้มครองทั้งสองคนได้ แต่ไซฟ่าก็ปฏิเสธที่จะให้โทมัสติดตามไปด้วยแต่โทมัสก็ไม่ยอมทำตามไม่ว่ายังไงตนนั้นก็จะตามไปด้วยให้ได้ เผื่อเหตุการณ์ฉุกเฉินตนเองจะได้ปกป้องคุ้มครองได้ จะได้ไม่มีอันตราย ไซฟ่าและโทมัสเถียงกันไปเถียงกันมาอยู่พักนึงแล้วจบด้วยข้อสรุปที่ว่า ถ้าหากไม่ให้โทมัสตามไปด้วยตนจะไปบอกนายท่านไวท์ให้กักบริเวณทั้งสองไว้ห้ามออกไปไหนเป็นเวลา 1 เดือน ด้วยเหตุนี้ไซฟ่าจึงต้องยอมไปโดยปริยายทั้งสามคนได้ขี่ม้าออกเดินทางมายังด้านออกนอกเมือง วอเตอร์เท็ค แล้วพบเข้ากับ สัตว์อสูร

      "นายน้อยกผมว่านี่เราออกกันมาไกลมากแล้วนะครับ แถมตะวันก็ใกล้ตกแล้วด้วยผมว่าถึงเวลาที่เราควรกลับได้แล้วนะครับ" โทมัส

      "นี่พี่ไซฟ่านั้นมันกระต่ายหรือเปล่า หนูเห็นไม่ชัดเลยแต่ดูมันตัวใหญ่มากเลยนะ" เซริน

      "เอิ่มเมินกันเฉยเลย" โทมัส

      "ไหนพี่ไม่เห็นเลย มันอยู่ตรงไหน?" ไซฟ่า

      "นั้นไง ตรงป่านั่นนะ" เซริน

      "อ่อนั่นเอง ไปจับมาเลี้ยงดีไหม เดี๋ยวพี่ไปจับม.." ไซฟ่า

      "เดี๋ยวครับ นั่นมันไม่ใช่กระต่ายนะครับ นั่นมันสัตว์อสูร กระต่ายดูดเลือดถ้าตัวเล็กก็ไม่อันตรายหรอกนะครับแต่เท่าที่ผมดูแล้วเนี่ย นั่นมันตัวโตเต็มวัยเลยนะครับอันตรายนะครับ" โทมัส

      "อันตรายหรอ ฉันไม่ห่วงหรอกเพราะนายมาด้วยนี่ไง

      ที่นายมาด้วยก็เพราะมาป้องกันอยู่แล้วไม่ใช่หรอไม่ใช่หรอ" ไซฟ่า

      กระต่ายดูดเลือดพอเห็นทั้ง 3 คนก็พุ่งเข้าโจมตีทันทีโดยเป้าหมายแรกของมันคือ เซรินมันพุ้งเข้ากระแทกม้าของเซรินจนทำให้เธอตกลงจากหลังม้า โทมัสรีบชักดาบแล้วลงจากหลังม้าพุ้งเข้าเซรินเพื่อปกป้องเธอทันที ไซฟ่าหลังจากที่เห็นน้องของตนร่วงลงจากหลังม้าก็รีบลงไปช่วยทันทีไซฟ่าได้พาเซริน ถอยห่างออกมาเพื่อที่จะให้โทมัสต่อสู้กับกระต่ายดูดเลือดได้ง่ายขึ้นกระต่ายดูดเลือดหลังจากที่พุ่งกระแทกใส่ม้าแล้วก็กัดไปที่คอของม้าอย่างรุนแรงมันทำการขย่ำแล้วกระชากช่วงล่างของคอม้าหลุดทำให้ม้าตายลง มันได้ทิ้งศพม้าไปแบบนั้นแล้วพุ่งเข้าใส่โทมัสที่เข้ามาขวางมันและเซรินทันที โทมัสป้องกันไว้ได้แล้วโจมตีสวนกลับไปแต่ก็พลาดโทมัสรีบทำการป้องกันทันทีหลังจากที่ตนพลาดกระต่ายก็โจมตีใส่ไม่ยั้ง โทมัสได้หันหลังกลับไปดูข้างหลังของตนพอได้เห็นว่าไซฟ่าได้พาเซรินหลบไปแล้ว โทมัสก็เลิกป้องกันแล้วสวนกลับกระต่ายดูดเลือดทันทีคราวนี้สำเร็จโทมัสโจมตีใส่ต่ายดูดเลือดเต็มแต่มันก็ไม่ได้รับความเสียหายมากนักกระต่ายได้เข้าโจมตีอีกรอบโดยการหมุนตัวแล้วพุ่งกระแทกใส่โทมันเหมือนเดิม โทมันก็ป้องกันได้แต่ทว่าในการโจมตีครั้งนี้ มันได้ยื่นกรงเล็บออกมาด้วยทำให้โทมันป้องกันไม่ทัน โดนกรงเร็วข่วนที่แขนซ้ายเป็นแผลลึกกระต่ายเห็นผลของการโจมตีของตนเองแล้วรู้สึกได้ใจแล้วทำการหมุนแล้วโจมตีอีกรอบหวังผลให้โทมัสโดนโจมตีเหมือนเดิม โทมัสที่เห็นแบบนั้นก็ทำการหลบด้านขวาแล้วเหวี่ยวดาบจากด้านล่างขึ้นด้านบนอย่างสุดแรง ในขณะที่กระต่ายกำลังหมุนอยู่นั้น ก็โดนการโจมตีของโทมัสเข้าไปเต็มๆไม่รู้ว่าโชคช่วย หรือด้วยความฮึด ทำให้โทมัสโจมตีเข้าไปที่ท้องของมันเต็มๆ และด้วยแรงหมุนของมันเองทำให้ผลของการโจมตีของโทมัส ทวีความรุนแรงขึ้นไปอีก จนทำให้ตัวของมันเกือบขาดมันพุ่งไปตกอยู่ต่อหน้าสองพี่น้อง แมนเดย์ ทั้งสองที่เปื้อนไปด้วยเลือดของมันนั้นหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

      "นายน้อย คุณหนู เป็นอย่างไรบ้างครับทั้งสองปลอดภัยดีไหมครับ" โทมัส

      ทั้งคู่ต่างนิ่งเงียบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า โดยเฉพาะเซรินที่โดนอสูรโจมตีใส่รู้สึกช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมากจนทำให้กลัวจนไม่กล้าจะทำอะไรโทมัสพยายามเรียกทั้งคู่จนไซฟ่ารู้สึกตัวแล้วโทมัสก็สั่งให้ทั้งคู่กลับคฤหาสน์ทันที โดยเซรินไปกับโทมัสเมื่อทั้งคู่มาถึงคฤหาสน์ ไวท์และซิลก็รีบออกมารับทันที

      -----------------------------------------อัพเดตเพิ่มเติม 31/3/63 Time : 11.19-------------------------------------

      หลังจากที่ทั้งสามคนได้กลับคฤหาสน์โทมัสก็ถูกส่งตัวรักษาทันทีเนื่องจากบาดแผลที่ถูกกระต่ายดูดเลือดโจมตี
      พี่น้องแมนเดย์ที่กำลังหวาดกลัวก็ถูกนำตัวไปเช็คสภาพร่างกายพอตรวจเสร็จไม่พบบาดแผลไดๆ เซรินนั้นก็ถูกนำตัวไปห้องนอนไซฟ่าถูก ไวท์และซิล ถามถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น พอทั้งคู่เข้าใจเรื่องราวก็ได้ดุด่ากว่ากล่าวสั่งสอนเป็นเวลานาน
      และถูกสั่งกักบริเวณเเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม หลังจากการถูกเทศนาเป็นเวลานาน ไซฟ่าก็ได้ขึ้นมาที่ห้องนอน คิดถึงความผิดที่ตนเองนั้นเอาแต่ใจตัวเองจนเป็นเหตุทำให้เซริสตกอยู่ในอันตรายและโทมัสที่บาดเจ็บสาหัส เขาได้ครุ่นคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและความรู้สึกผิดที่อัดแน่นอยู่เต็มอก จนผลอยหลับไป

      วันรุ่งขึ้นไซฟ่าตื่นขึ้นแล้วแต่งตัวออกจากห้องเดินตามทางเดิน เพื่อไปดูอาการโทมัส และหวังจะกล่าวขอโทษกับโทมัสที่ตนนั้นไม่ยอมฟังคำเตือนของโทมัสและเป็นเหตุทำให้เซริสตกอยู่ในอันตรายและโทมัสบาดเจ็บสาหัส แต่ระหว่างทาง ได้เดินผ่านห้องทำงานของไวท์ ไซฟ่าได้ยินเสียงพูดคุยกันแต่จับใจความไม่ได้ เลยไม่ได้สนใจแล้วเดินผ่านไปเพื่อไปหาโทมัสที่ห้องพยาบาล เมื่อเดินไปถึงก็พบโทมัสที่กำลังนอนหลับอยู่ตนจึงเข้าไปนั่งใกล้ๆ เพื่อดูอาการ แล้วโทมัสก็ตื่นมา

      "อ่ะ! นายน้อย มาทำอะไรที่นี่ครับ" โทมัส

      "มาดูอาการของนายนะสิโทมัส พอเห็นว่านายไม่เป็นอะไรมากก็ข้าก็โล่งใจ คือว่าข้าขอโทษนะที่ข้าเป็นต้นเหตุที่นายต้องมามีสภาพแบบนี้" ไซฟ่า

      "ไม่เป็นไรครับนายน้อย มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว พอผมเห็นนายน้อยไม่เป็นอะไรแบบนี้ผมก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่าแล้วครับที่ผมทุ่มสุดตัวในตอนนั้น แล้วคุณหนูเซรินล่ะครับ เธอเป็นยังไงบ้างหลังจากนั้น" โทมัส

      "ถึงเซรินจะไม่ได้บาดเจ็บอะไรแต่ก็ยังนอนหมดสติเพราะอาการช๊อคอยู่นะสิ นี่โทมัสถ้านายหายเมื่อไหร่ ฝึกดาบให้ข้า่หน่อยสิข้าไม่อยากเจอกับเหตุการณ์แบบนั้นอีกแล้ว" ไซฟ่า

      "ได้ครับได้น้อย แต่ดูท่ากว่าผมจะกายดีก็คงใช้เวลา อีกสัก 10 ปีได้ ฮ่า ๆ" โทมัส

      "จะบ้าเรอะ แค่นั้นอาทิตย์เดียวก็หายแล้วไหมเหอะ (เสียงตุบ ไซฟ่าเอามือไปทุบที่หลังของโทมัส)" ไซฟ่า

      "นายน้อย นี่ผมยังไม่หายเลยนะแบบนี้สงสัยอีก 15 ปีหายแหงๆ ฮ่า ๆ" โทมัส

      ทั้งสองคุยกันหลังจากโทมัสตื่นมา

      ขอตัดมา ณ ห้องทำงานของ ไวท์ แมนเดย์ ในตอนนี้ ไวท์ ได้คุยกับ ขุนนางชั้น มาร์ควิส กริมมอ เรดแมรี่ ทั้งคู่ได้นั่งคุยกันเกี่ยวกับเรื่องของลูกชายของ กริมมอ ที่ได้ไล่สังการผู้บริสุทธิ์โดยไร้เหตุผล แล้วโดน ไวท์จับกุมตัวได้ และจะนำเรื่องนี้แจ้งต่อราชา กริมมอได้มาขอเจรจาในเรื่องนี้ ไม่ให้นำเรื่องแจ้งต่อราชา โดยแลกกับทรัพย์สิน เงินทองมากมาย เพียงแค่ เก็บเรื่องนี้ไว้แล้วปล่อยผ่านมันไป แต่ด้วยความที่ไวท์นั้น เป็นคนที่ยึดมั่นในความถูกต้องอย่างมาก จึงได้ยินกรานว่า ยังไงเรื่องนี้ก็ต้องถึงราชา เพื่อให้ราชาลงโทษด้วยตนเอง ทั้งคู่ถกเถียงกันไปมาและไม่อาจตกลงกันได้ จนกริมมอหมดความอดทน จึงได้เอ่ยมาว่า "ถ้าเช่นนั้นเราก็คงไม่มีอะไรที่ต้องคุยกันอีก" แล้วกริมมอก็ถอยกลับไป แต่ในใจของตนที่เป็นชนชั้นสูงนั้นได้แค้นเป็นอย่างมาก จึงวางแผนที่จะชิงตัวลูกชายของตนกลับมาเอง

      ในวันนี้ ไซฟ่าได้ทำทุกอย่างเหมือนวันปกติ โดยคิดว่าการใช้ชีวิตในคฤหาสน์นั้นช่างมีความสุขเสียจริงๆ ไวฟ่าได้เดินเล่นไปพบคนในคฤหาสน์ทุกคน ไซฟ่าได้ทำสิ่งต่างๆที่แตกต่างไปจากเดิมในวันนี้เขาได้ฝึกดาบ ยิงธนู ทำอาหาร ขี่ม้า และอื่นๆกระทั่งถึงตอนเย็นไซฟ่าได้ไปหาโทมัสอีกรอบก่อนจะกลับเข้าตัวคฤหาสน์ มีการพูดคุยไร้สาระเล็กน้อยจนค่ำ และในค่ำคืนที่เงียบสงัดนั่นเอง ก็ได้มีกลุ่มคนปริศนาบุกเข้ามาที่คฤหาสน์ กลุ่มเงาปริศนามีทั้งหมดเจ็ดคน ทั้งเจ็ดแยกย้ายกันออกไปทำหน้าที่ของตนเองช่วยตัวประกัน เผาคฤหาสน์ และ ลอบสังหาร ผู้คนในคฤหาสน์ ไวท์ที่สดุ้งตื่นเพราะรู้สึกถึงความผิดปกติ ก็ได้ตื่นขึ้นมา พบกันนักลอบสังหารที่กำลังจะปิดชีพซิลภรรยาของตน ไวท์ได้ถีบนักลอบสังหารที่จนกระเด็นถอยออกไป แล้วตะโกนเรียกทหารในคฤหาสน์และคนอื่นๆได้ยินว่ามีผู้บุกลุกเข้ามาในคฤหาสน์แล้วซิลที่ได้ยินจึงตื่นขึ้นมาแต่ด้วยที่เธอเคยฝึกการต่อสู้มาก่อน เธอจึงมีสติแล้วช่วยไว์จัดการกับนักลอบสังหารพอสำเร็จแล้วก็รีบออกมาดูด้านนอกห้องพบว่า มีผู้คนในคฤหาสน์ล้มนอนจมกองเลือดอยู่ ไวท์แทบไม่ต้องคิดเลยว่าเป็นฝีมือของใคร นั่นต้องเป็นฝีมือของกริมมอแน่นอน ทั้งคู่รีบวิ่งไปที่ห้องของเซริน พบว่าเซรินยังคงปลอดภัยดี จึงได้อุ้มเธอขึ้นมาแล้ว พยายามรีบวิ่งหนีออกจากคฤหาสน์ที่กำลังจะมอดไหม้

      ในขณะเดียวกันไซฟ่าที่อยู่กับโทมัสได้ยินเสียงตะโกนของไวท์ ก็ถูกโจมตี โดยนักลอบสังหารสองคน ทั้งคู่รีบกระโดดหนีออกจากหน้าต่าง โทมัสได้หยิบดาบมาด้วยจึงชัดดาบออกมาเพื่อเอาไว้ป้องกันตัว แล้วพยายามหนีจากนักลอบสังหารทั้งสองคนจนไปพบกัน ไวท์ ซิล และเซริน ทั้งคฤหาสน์นั้น แทบไม่เหลือผู้ใดรอดชีวิต เหลือเพียงแค่ห้าคนเท่านั้น ทั้งห้าคนได้ถูกล้อมโดยนักลอบสังหารทั้งหกคน และอีกคนคือ เกรย์ ลูกชายของกริมมอ เกรย์ยกมือทั้งสองข้างขึ้นเพื่อให้นักลอบสังหารอย่าพึ่งทำอะไร เกรย์ได้พูดขึ้น

      "นี่คุณไวท์ แมนเดย์ เราไม่คิดจะมาเจรจากันหน่อยหรอ ข้าจะสั่งให้คนของข้าหยุดเรื่องนี้ไว้เท่านี้ก็ได้ แต่ว่า ลูกสาวของเจ้าต้องกลายมาเป็นของเล่นของข้า ว่ายังไงเพียงแค่เงื่อนไขง่ายๆ" เกรย์

      เกรย์ยังไม่ทันได้พูดจบ โทมัสก็พุ่งเข้าเกรย์แล้วยกดาบฟันไปที่หน้าของเกรย์เพื่อหวังฆ่า แต่เกรย์หลบได้จนทำให้เกรย์เกิดรอยดาบขนาดใหญ่ที่ใบหน้าเกรยืนั่นโมโหมากสั่งนักลอบสังหารโจมตี โทมัสนั่นได้ถีบไปที่เกรย์จนกระเด็นเพื่อเป็นการเปิดทางให้พวกเขาหนีทั้งหมดได้หนีออกจากวงล้อมได้แต่ ไซฟ่านั่นโดนจับไปได้แล้วนำตัวไปโทมัสรีบเข้าไปช่วยแต่ก็ไม่สำเร็จนักลอบสังหารสองคนได้เข้ามาขวางและโจมตีสวนกลับใส่โทมัส ทำให้โทมัสได้รับบาดเจ็บโทมัสจึงไม่มีทางเลือก รีบบอกท่านไวท์

      "นายท่าน รีบหนีไปก่อนครับ เดี๋ยวผมจะยื่อเวลาให้เอง เดี๋ยวพอท่านหนีได้แล้วเดี๋ยวผมจะไปช่วยท่านไซฟ่าเองครับ" โทมัส

      "ถ้าอย่างนั้น ให้ไปเจอกันยังสถานที่ที่ข้าได้เคยบอกไว้" ไวท์

      "รับทราบครับนายท่าน !!" โทมัส

      นักลอบสังหารที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบสิ่งใส่ไวท์ทันที แต่โทมัสก็เข้ามาขวางไว้ทำให้หยุดอยู่กับโทมัส สองคนและมีสี่คนที่ตามไวท์ ซิลและเซรินไป ทั้งสามได้หลบหนีอย่างที่สุดแต่เหมือนจะไม่ได้ห่างไกลขึ้นเลยซิลที่เห็นอย่างนั้นจึงหันหลังแล้วยกมือขึ้นแล้วร่ายเวทย์มนต์ สร้างกำแพงไฟขนาดใหญ่ปิดกั้นเส้นทางไม่ให้นักลอบสังหารเหมือนจะเป็นผล ทั้งสามคนจึงวิ่งหนี แต่ก็มีนักลอบสังหารหลุดรอดมาได้สองคน ไวท์กับซิลจึงตัดสินใจที่จะต่อสู้กับสองคนนั้นเพื่อกำจัดโอกาศรอดจะได้มากขึ้นทั้งคู่ต่อสู้ด้วยความยากลำบาดเนื่องด้วยต้องปกป้องลูกของสาวตนไปด้วย นักลอบสังพุ่งเข้าใส่เซรินไวท์ที่เห็นจึงพุ่งเข้ามาขวางไว้ ด้วยมีดสั้นที่ตนนั้นแอบพกไว้เผื่อในกรณีฉุกเฉินถูกลอบโจมตีไวท์ได้ปัดดาบออกไปแล้วพุ่งเข้าทางแต่ก็หลบได้
      แล้วโดนสวนกลับมาด้วยหมัดชกเข้าที่หน้าของไวท์อย่างจัง จนไวท์ล้มลงกับพื้น ไวท์ได้ตัดสินใจปามีดสั้นใส่แต่ก็หลบได้ไวท์จึงถีบใส่แต่โดนสวนกลับด้วยดาบฟันที่ขาข้างซ้ายบาดเจ็บ ซิลที่เห็นแบบนั้นจึงร่ายเวทย์ลูกไฟใส่นักลอบสังหารกระโดดหลบถอยหลังออกไป ไวท์ที่เห็นว่าได้โอกาศที่นักลอบสังหารกระโดดหลบออกไปตนจึงพุ่งเข้าชาร์จ หมัดของไวท์กระแทกเข้าที่ท้องของนักลอบสังหารจนทำให้มันจุกไวท์ไม่รีรอ รีบขึ้นคล่อมมันที ซิลที่พึ่งปลอยเวทย์ออกไปก็ถูกเตะเข้าที่ท้องหมัดชกเข้าที่หน้าและลำตัวกระหน่ำรัวไม่หยุดพอจะล้มก็ถูกกระชากกลับขึ้นมา ซิลที่ยังพอคงสติได้อยู่จึงใช้เวทย์ไฟใส่พื้นเพื่อทำให้เกิดการระเบิด ทั้งคู่กระเด็ดออกจากันซิลนั้นแทบสิ้นสติ ไวท์ที่กำลังขึ้นคล่อมนักลอบสังหารอยู่ก็กระหน่ำหมัดใส่ไม่ยั่งแต่ก็ถูกกลับมาเช่นกัน ไวท์ได้หักแขนนักลอบสังหารเพื่อให้ไม่สามารถตอบโต้ได้นักลอบสังหารอัดหมัดซ้ายที่เหลืออยู่ใส่หน้าของไวท์ จนไวท์ล้มลง ตนจึงพยายามพริกตัวเพื่อจะหลุดออกจากสถานะการณ์นี้ แต่ทว่า ไวท์นั้นได้ใช้แรงฮึดก่ายขึ้นไปลัดคอของนักลอบสังหารจนสิ้นใจ เซรินที่อยู่ ณ ตรงนั้นไม่กล้าเปิดตาขึ้นดูเนื่องด้วยความกลัว แต่ทว่า เพราะเสียงของแม่ตนเองนั้นได้โดยซ้อมอยู่นั้นเธอจึงตัดสินใจเปิดตาขึ้นมาดูเห็น แม่และนักรอบสังหารกระเด็นออกจากกัน ตนได้ตัดสินใตจหยิบก้อนหินปาใส่นักลอบสังหาร แต่นักลอบสังหารไม่สนใจเดินเข้าไปหาซิลเพื่อหวังปิดชีพ แต่ไวท์ก็ได้นำดาบพุ่งเข้าแทงนับลอบสังหารจากด้านหลังจนทำให้นักลอบสังหารนั่นสิ้นชีพไป ทั้งไวท์และซิลที่อยู่ในสภาพสะบักสะบอมเดินมาหาเซรินแล้วจับมือเธอแล้วเดินทางไปที่ที่ได้เอ่ยกับโทมัส เมือง ฟอเด็น

      ------------- อัพเดต 1/4/63 ----------

      ขอย้อนภาพกลับมาที่โทมัสที่เห็น ไวท์ ซิลและเซรินหนีไปได้แล้ว แต่ก็อดกังวลใจไม่ได้เมื่อเห็นนักลอบสังหารสี่คนตามไปแต่ก็ต้องหันกลับมาได้ติดคิดในใจหวังว่านายท่ายของเขาจะปลอดภัย และทันใดนั้นศัตรูที่อยู่ต่อหน้าเขานั้นก็เข้าโจมตีพร้อมกันสองคนโทัมพยายามป้องกันแต่ก็ป้องกันไว้ไม่อยู่โดนการโจมตีจนทำให้เขานั้นต้องกระเด็นถอยห่างออกไปสายตาของเขาเหลือบไปเห็นนายน้อยถูกลากหายไปในเงามืด เขาคิดในใจพยายามหาทางออกจากศัตรูที่อยู่ตรงหน้าจะพยายามต่อสู้อย่างสุดชีวิตหวังโชคช่วยให้ชนะ หรือจะหาทางสลับออกไปหนึ่งคนเพื่อแยกศัตรูออกจากกันจะได้ต่อสู้ได้ง่ายขึ้น แต่ด้วยสภาพร่างกายของเขาที่ยังไม่พร้อมกับการต่อสู้ดีนัก เขาจึงเลือกที่จะแยะศัตรูออกจากกันเขาได้ก้าวถอยหลังอย่างช้าๆ พอได้ระยะห่างที่พอดีเขารีบวิ่งเข้าไปที่คฤหาสน์ที่กำลังลุกไหม้เพื่อไปยังอีกทางและเป็นการล่อศัตรูให้ตามมา แต่ทว่าศัตรูก็ไม่ได้ตามมาแต่กลับพุ่งผ่านกระจกที่กำลังลุกไหม้ เขาได้ตัดสินใจวิ่งต่อไปถึงแม้ว่าจะล่อศํตรูแยกออกจากกันไม่ได้แต่ก็พอจะหนีห่างออกจากศัตรูได้เขารีบวิ่งผ่านและกระโดดผ่านหน้าต่างแต่กลับมาดาบพุ่งตัดผ่านหน้าต่างหวังฟันร่างของเขาให้ขาดแต่เขานั้นก็ได้นำดาบมาป้องกันได้ทันและพุ่งออกไปด้านนอก เขาแทบไม่ได้สนใจศัตรูและพยายามวิ่งไปข้างหน้าเพื่อหวังจะตามนายน้อยได้ทัน จะได้จัดการกับเกรย์แล้วจับมาเป็นตัวประกันจะได้หนีพ้นจากเหตุการณ์นี้

      "โถเว้ย ไม่ทันหรอเนี่ย คิดว่ามาทันแล้วเชียว แบบนี้ก็ผิดแผนนะสิว่ะ ไอพวกนักลอบสังหารแม่งก็ตามกัดไม่ยอมปลอยสลัดยังไงก็ไม่หลุดโถ่เว้ย แล้วอย่างนี้นายน้อยจะเป็นยังไงล่ะทีนี่" โทมัส

      โทมัสเกิดอารมณ์โมโหอย่างมากถึงขั้นที่หลุดปากออกมา แต่พอโทมัสวิ่งไปได้สักพักก็พบกับไซฟ่าที่กำลังโดนซ้อมเพราะการขัดขืนของไซฟ่า โทมัสเตรียมใช้เสริมสมรรถภาพร่างของตนเพื่อที่จะพุ่งเข้าชาร์จใส่เกรย์ แต่ไม่ทันไรโทมัสก็รับรู้ได้ถึงจิตสังหารจากด้านหลังซึ่งก็คือนักลอบสังหารทั้งสองคนที่ไล่ตามเขามา ศัตรูนั้นได้ปามีดสั้นมาแต่เขาหลบได้แล้วไปปักที่ต้นไม้ โทมัสจึงเปลี่ยนเป้าหมายพุ่งเขาชาร์จใส่นักลอบสังหารที่ปามีดใส่เขาแทนทันทีคราวนี้ศัตรูที่ปามัดใส่เขานั้นตั้งรับไม่ทันจึงโดนดาบของโทมัสเขาไปแต่ก็ไม่ถึงจุดตายจึงโดนสวนกลับมานักลอบสังหารใช้สอกกระแทงใส่โทมัสจนล้มลงติดพื้นแล้วรีบแทงดาบใส่ทันทีโทมัสรีบหมุนตัวหลบและเตะขาจนทำให้นักลอบสังสารล้มลง โทมัสรีบลุกแล้ววิ่งไปต่อเพราะนักลอบสังการอีกคนตามมาติดมันจะไม่ดีแน่ถ้าโดนลุมสองต่อหนึ่งไม่ว่ายังไงมันก็เป็นการเสียเปลียบมากเกินไป โทมัสได้ใช้แผนเดิมรีบพุ้งเขาใส่เกรย์ทันทีแต่เกรย์ได้รีบถอยหลังหลบเมื่อไซฟ่าเห็นแบบนั้นก็ได้เกาะขาของเกรย์ทันทีทำให้เกรย์ขยับไปไหนไม่ได้แล้วเกรย์ก็กระแทกเข้ากับโทมัสอย่างจังทำให้เกรย์กระเด็นห่างออกไปและเพราะการกระแทกเข้าอย่างจังทำให้เกรย์เกิดอาการจุกมากลุกได้ลำบาก ไซฟ่าที่เห็นมีดสั้นที่ปักอยู่ที่ต้นไม้ก็รีบลุกไปดึงมีดที่ปักอยู่ที่ต้นไม้ออกมาและนำมีดเล่มนั้นกระหน่ำแทงใส่เกรย์พร้อมน้ำตาและความโกรธ โทมัสรีบลุกขึ้นวิ่งไปนำตัวนายน้อยของตนเพื่อที่จะวิ่งหนีไปทันใดนั้นนักลอบสังหารอีกสองคนก็มาถึงแต่จากภาพที่เห็นทำให้ตนเกิดการสับสนว่าจะทำสิ่งใดก่อนจะช่วยเกรย์ที่เป็นเจ้านาย หรือจะตามคนที่วิ่งหนีไปที่เป็นคนที่ต้องฆ่าเพื่อทำลายหลักฐานทั้งหมด แต่ว่าเขาก็ได้ตัดสินใจช่วยเกรย์แล้วรีบนำตัวไปรักษาที่คฤหาสน์ของกริมมาทันที แต่ทว่าการรักษาก็แทบไม่มีผลเลยเพราะด้วยรอยแผลมากมายที่ถูกไซฟ่ากระหน่ำแทงจึงทำให้เกรย์ตายในเวลาต่อมา

      ----------ยังไม่จบ-------------

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×