คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : ปลาตัวที่ 12
ปลาตัวที่ 12
บริษัท มีปลา
07.10 น.
แกร๊กกก!!
เสียงประตูห้องนอน...ของน้องคนเล็กแห่งบริษัทมีปลาถูกปิดด้วยแรงที่เบากว่าปกติ เพราะผู้เป็นพี่ชายทราบดีว่าช่วงนี้น้องติด “โทรศัพท์” มากเป็นพิเศษและมักจะคุยกับคนปลายสายแบบไม่ค่อยเป็นเวลาสักเท่าไหร่ ใช่ว่าอยากให้น้องชายของตัวเองคุยโทรศัพท์จนดึกดื่นหรือตื่นมาก็เอาแต่คุยเสียงอ่อนเสียงหวานกับแฟนโดยไม่ยอมทำกิจวัตรประจำวันเหมือนอย่างที่เคย แต่...การที่คนปลายสายถูกพ่อของเขาสั่งห้ามไม่ให้พาน้องชายไปนอนค้างที่บ้านเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มมันทำให้คนเป็นพี่แทบไม่อยากว่ากล่าวน้องชายถ้าไม่จำเป็น
การต้องอยู่ห่างจากคนรักเพียงไม่กี่วัน หัวใจมันก็ห่อเหี่ยวเกินจะเยียวยา แล้วเรื่องแบบนี้...อี้ชิงก็เข้าใจดีกว่าใครเพราะตอนที่เขาต้องอยู่ห่างจากสามีไปเกือบสามปีในช่วงที่คริสกลับไปต่างประเทศเพื่อจัดการธุรกิจภายในครอบครัวกับผู้เป็นพ่อ อี้ชิงก็ติดโทรศัพท์แบบที่น้องปลาเป็นอยู่ตอนนี้เหมือนกัน แถมบางวันก็นอนร้องไห้อยู่บ่อยครั้งเพราะคิดฟุ้งซ่านไปต่างๆนานาว่าสามีอาจจะไม่กลับมาอยู่ด้วยกันอีกแล้ว ขนาดแต่งงานและมีความมั่นคงในชีวิตมากอยู่พอสมควรแต่ก็ยังคิดมากจนแทบเป็นบ้า แล้วน้องปลา...ที่เป็นเด็กอายุเพียง 16 ปีและเพิ่งมีแฟน มีความรักหรือได้คบหากับใครสักคนเป็นครั้งแรกจะอดทนกับความห่างไกลได้สักเพียงใด
“น้องปลา...ตื่นได้แล้ว คุณครูคยองซูจะมาสอนพิเศษแล้วนะ” ค่อยๆนั่งลงบนเตียงที่มีผ้าปูที่นอนลายปลาทองสีส้ม แล้วเอื้อมมือไปเกลี่ยผมของเด็กขี้เซาด้วยความเอ็นดู
เป็นครั้งแรก...ที่อี้ชิงตามใจน้องปลา เพราะหลังจากถูกคนเป็นพ่อสั่งห้ามไม่ให้น้องชายไปเล่นที่บ้านจงอิน อี้ชิงก็ให้น้องใช้โทรศัพท์มือถือของเขาเพื่อเอาไว้ติดต่อกับหนุ่มผิวเข้มมาตั้งแต่วันแรกที่คุณพ่อออกคำสั่ง และตอนนี้...เครื่องมือสื่อสารที่คนเป็นพี่เคยเอาไว้ใช้เพื่อติดต่อพูดคุยเรื่องงานกับลูกค้าก็ได้อยู่ในอ้อมกอดของน้องชายตัวแสบ แถมยังเก็บไว้ในกระเป๋าผ้าลายปลาหมึกสีชมพูทำเหมือนโทรศัพท์เครื่องนี้เป็นของตัวเองเสียอย่างนั้น
“พี่อี้...อาบน้ำให้หนูหน่อยยย หนูง่วง” ดึงมือพี่ชายที่ตัวเองเคยบ่นนักบ่นหนาว่าชอบดุชอบว่ามากอดไว้ พร้อมเอ่ยอ้อนแบบติดน้ำเสียงงัวเงียเล็กน้อย โดยไม่ได้ลืมตาว่าช่วยอาบน้ำให้เขาหน่อย เพราะเมื่อคืนเจ้าตัวเอาแต่คุยโทรศัพท์อยู่กับคุณคิมจนดึก
“อยากให้พี่อาบน้ำให้ก็เอาโทรศัพท์คืนมาก่อน เดี๋ยวเรียนพิเศษเสร็จแล้วพี่จะคืนให้” กำลังจะหยิบสมาร์ทโฟนของตัวเองออกมาจากอ้อมกอดของน้องชาย แต่...ยังไม่ทันได้แตะโดนอะไรทั้งนั้น น้องปลาก็รีบเอากระเป๋าผ้าลายปลาหมึกสีหวานยัดไว้ใต้หมอนทันที
“ห้ามเอาคืนนะฮะ...เดี๋ยวคุณคิมจะโทรมาตอนสิบโมง คุณคิมสัญญากับหนูไว้แล้ว” ขยับศีรษะมานอนบนตัก พร้อมกอดเอวก่อนซุกใบหน้าลงบนหน้าท้องของอี้ชิงอย่างออดอ้อน เพราะน้องปลาทราบดีว่าเวลานี้พี่ชายของตัวเองใจดีมากแค่ไหน
“ถ้าโดนคุณครูดุก็อย่ามาร้องไห้ให้พี่ได้ยินเลยนะ พี่ไม่โอ๋เด็ดขาด” พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่จริงจังมากนัก และลูบกลุ่มผมสีอ่อนที่เอาแต่ซุกอยู่ที่พุงของเขาอย่างทะนุถนอม
“ถ้าพี่อี้ไม่โอ๋ หนูให้พี่คริสจ๋าโอ๋ก็ได้ ตะ...แต่หนูก็อยากให้พี่อี้โอ๋ด้วยหนิฮะ” เพิ่มระดับการออดอ้อน...ด้วยการขยับกายนั่งลงบนตักและซบหน้าหงอยๆไว้ที่ไหล่พร้อมกอดพี่ชายเอาไว้แน่น
โหดแค่ไหน ดุเท่าใด...ก็ต้องยอมแพ้ให้กับความขี้อ้อนของเด็กคนนี้เสมอ และถึงแม้จะชอบดุชอบบ่นน้องของตัวเองอยู่บ่อยๆ แต่อี้ชิงก็ไม่เคยโกรธอะไรเป็นจริงเป็นจังได้เลยสักครั้ง แล้วที่ว่ากล่าวตักเตือนไปทั้งหมดก็เพราะอยากให้น้องปลาเป็นเด็กดี ส่วนเรื่องที่น้องชายติดโทรศัพท์มากเป็นพิเศษ...อี้ชิงก็เข้าใจว่าคงเป็นเพราะความคิดถึง และตัวน้องเองก็ไม่ได้เหลวไหลหรือเอาแต่คุยกับหนุ่มผิวเข้มทั้งวันจนไม่ทำอะไรเลย น้องปลายังช่วยทำงาน ยังเรียนพิเศษและเล่นกับเจ้าพวกหางสวยในบ่อหลังบ้านตามปกติ แถมยังรู้จักหน้าที่ของตัวเองมากขึ้นโดยไม่ต้องบอก ต้องสอนและต้องให้พูดซ้ำๆเหมือนอย่างที่ผ่านมา
“อยากให้พี่โอ๋...ก็ต้องเป็นเด็กดี อย่าดื้อ อย่าซน แล้วตอนนี้ก็ไปอาบน้ำได้แล้ว เดี๋ยวคุณครูคยองซูก็ไม่รักหรอก”
“รักสิ...คุณครูคยองดีโอรักหนูที่สุด”
“ใครบอกกกก...น้องปลาคิดไปเองต่างหาก!!!”
“หนูป่าวคิดไปเองนะฮะ คุณครูดีโอรักหนูคนเดียวจริง...จริ๊งงงงง รักมากด้วย”
“ถ้ารู้ว่าคุณครูเค้ารักก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว...เดี๋ยวคุณครูก็ต้องมารออีก มันเสียมารยาท”
“โปะ โปะ นะฮะพี่อี้...หนูก็พี่อี้มากๆเหมือนกัน รักกว่าใคร รักที่สุด ที่หนึ่ง...เยอะๆ”
จุ้บบ!!
จุ้บบ!!
“ไม่ต้องมาปากหวาน พี่หลงกลน้องปลาเหมือนพี่คริสจ๋ากับคุณพ่อแน่นอน ไปเลย ไปอาบน้ำ...เดี๋ยวพี่จะไปรอที่ห้องครัว ป่านนี้พี่คริสทำกับข้าวเสร็จแล้วมั้ง”
“จ๋าจ้ะ”
จุ้บบ!!
แสดงความรัก ความออดอ้อน ความเป็นน้องจนพอใจ น้องปลาก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ลืมที่จะหยิบถุงผ้าที่มีโทรศัพท์ของพี่ชายติดมือไปด้วย ส่วนเจ้าของสมาร์ทโฟนตัวจริงอย่างอี้ชิงก็ได้แต่ส่ายหัวไปมาให้กับความเป็นเด็กที่ไม่รู้จักโตของผู้เป็นน้องพร้อมกับพับผ้าห่ม เก็บที่นอนและจัดเรียงหมอนทุกใบให้เข้าที่แล้วเดินออกจากห้องของน้องปลาเพื่อไปช่วยสามีจัดโต๊ะอาหารที่ห้องครัวต่อทันที
...
...
...
08.31 น.
“พี่คริสจ๋าาาาาา...เช้านี้ทำอะไรกินเหรอฮะ??”
“เมื่อวานบ่นว่าอยากกินอะไรล่ะ?”
“สปาเก็ตตี้กุ้งซอสมะเขือเทศ แล้วก็ใส่แครอทเยอะๆด้วยฮะ”
“ตามนั้น!!”
“เยสสส!!!”
รีบเอ่ยถามพี่เขย...ที่วันนี้เป็นคนลงมือทำอาหารเช้าว่ามีอะไรทานบ้าง ทั้งๆที่เจ้าของคำถามก็ยังเดินเข้ามาในห้องครัวได้ไม่กี่ก้าว ส่วนคริสก็เริ่มตักเมนูที่น้องเมียบ่นว่าอยากทานใส่จานเตรียมไว้ให้เสร็จสรรพพร้อมรินนมสดใส่แก้ววางไว้ด้วย แต่!!การทานไปหาวไปของน้องเมียกลับทำให้บรรยากาศในการทานอาหารเช้าร่วมกันเป็นสิ่งที่ดูขัดตาขัดใจไปหมด และก็เป็นพี่เขย...ที่รู้สึกไม่ค่อยชอบใจจนอดไม่ไหวที่จะต้องพูดปราม ตั้งแต่ภรรยาให้โทรศัพท์น้องปลาไว้ใช้ส่วนตัว น้องก็เอาแต่หาวแบบนี้ทั้งวัน แถมวันไหนไม่มีเรียนพิเศษก็มักจะแอบหนีไปนอนกลางวันทุกครั้ง
“น้องปลา...เมื่อคืนนอนกี่โมง??!!!”
“หะ...ห้าทุ่มฮะ”
“เอาโทรศัพท์มาให้พี่เดี๋ยวนี้!!...ใช้ไม่รู้จักเวล่ำเวลา แล้วคุยอะไรกันดึกๆดื่นๆ หาวหวอดๆแบบนี้จะเรียนหนังสือรู้เรื่องไหม หึ!!!”
“โทรศัพท์ของพี่อี้นะฮะ...ไม่ใช่ของพี่คริสจ๋าสักหน่อย หนูไม่ให้หรอก...เดี๋ยวคุณคิมจะโทรมาหาหนูตอนสิบโมง!!”
“พี่-บอก-ว่า-ให้-เอา-มา...เดี๋ยวนี้!!!”
“หนู-ไม่-ให้!!!!”
“นะ...น้อง”
ยังไม่ทันที่คริสจะได้พูดโต้ตอบ...หรือใส่อารมณ์กับน้องปลามากกว่านี้ เขาก็ถูกมือเรียวสวยของภรรยาลูบไปที่ขาเบาๆเพื่อเป็นการปรามพร้อมส่งสายตาวิงวอนขอร้องให้คริสช่วยยั้งอารมณ์และหยุดต่อล้อต่อเถียงกับน้องปลาได้แล้ว เพราะถ้ายังใช้อารมณ์คุยกันแบบนี้ น้องปลาก็คงเรียนไม่รู้เรื่องอย่างที่คริสพูดไว้แน่นอน สามีไม่เคยว่ากล่าวเด็กคนนี้เลยสักครั้ง อี้ชิงจึงเกรงว่าน้องปลาจะร้องไห้จนต้องยกเลิกการสอนของคุณครูคยองซู
“น้องปลา...ทานเสร็จแล้วก็ไปเตรียมหนังสือเรียนให้เรียบร้อย”
“หนูเตรียมเสร็จแล้วฮะพี่อี้”
“งั้นก็เก็บจานของตัวเองไปล้าง แล้วก็ไปเตรียมขนมกับชาร้อนให้คุณครูด้วย...เดี๋ยวพี่กับพี่คริสจะได้ลงไปเปิดร้าน”
“ฮะ (แบร่!!)”
“น้องปลาาาา...ไปได้แล้ว เดี๋ยวพี่คริสก็โกรธจริงๆหรอก”
“หนูรักพี่อี้คนเดียวก็ได้...เชอะ!!”
“เฮ้ออออ!”
คนเป็นน้องเมีย...รีบยัดอาหารเช้าคำสุดท้ายเข้าปาก แถมยังแลบลิ้นปลิ้นตาทำทะเล้นพร้อมมองค้อนพี่เขยด้วยความรู้สึกว่าวันนี้ตัวเองมีพี่ชายคอยเข้าข้าง แล้วรีบลุกจากเก้าอี้ก่อนถือจานกับแก้วนมไปล้างในอ่างโดยไม่บ่นอะไรสักคำ ปกติ...หน้าที่ล้างจานหรือเก็บโต๊ะอาหารจะเป็นของคริสหรือไม่ก็อี้ชิง แต่ที่วันนี้น้องปลาทำเองก็เป็นเพราะกลัวถูกพี่เขยโกรธทั้งๆที่ตัวเองเพิ่งทำตัวไม่น่ารักไปเมื่อครู่
ส่วนคริส...ก็ใช่ว่าอยากจะขึ้นเสียงใส่น้องปลาต่อหน้าภรรยา หรือทำลายบรรยากาศในการทานอาหารเช้าร่วมกัน แต่ช่วงหลายวันมานี้นับตั้งแต่พ่อตาออกกฎห้ามลูกชายคนเล็กไปนอนค้างที่บ้านของจงอิน น้องปลาก็นอนไม่เป็นเวลาเพราะคุยโทรศัพท์กับรุ่นน้องของเขาจนดึกแทบทุกคืน
คริสไม่เข้าใจ...ว่าพ่อของภรรยาต้องการจะลงโทษจงอินหรือลูกชายคนเล็กของตัวเองกันแน่ ตอนออกกฏวันแรก...ท่านให้เหตุผลว่าไม่อยากให้น้องปลาบาดเจ็บบ่อยๆ เพราะไปค้างบ้านนั้นทีไร ไม่มีดบาดมือก็ตกบันได หรือไม่ก็ต้องเป็นอะไรสักอย่างที่ทำให้ได้แผลกลับมาทุกครั้ง และดีที่การตกบันไดครั้งล่าสุด...น้องปลาไม่ได้เจ็บถึงขั้นขาหักเข้าเฝือก ไม่อย่างนั้น...จงอินคงโดนลงโทษหนักกว่านี้ คริสเข้าใจดีว่าการไม่นอนกอดคนที่ตัวเองรักมันโหดร้ายมากไหน มันทั้งโหยหา ทั้งคิดถึงและอีกสารพัดความรู้สึกที่ยากเกินจะบรรยาย แต่ตอนนี้...เขาเป็นห่วงสุขภาพของน้องปลามากกว่าเพราะการที่น้องนอนดึกบ่อยๆมันอาจทำให้เจ้าตัวล้มป่วย
10.20 น.
เอี๊ยดดดด!!!!!!
Volkswagen New Beetle (ปี00-12) สีเขียวตุ่น...จอดลงที่หน้าบริษัทมีปลาด้วยความเร่งรีบ และเมื่อเจ้าของรถดับเครื่องยนต์พร้อมกับคว้าอุปกรณ์การสอนได้ครบ เจ้าตัวก็รีบวิ่งเข้ามาในร้านทันทีเพราะตอนนี้มันเลยเวลาสอนเด็กนักเรียนของเขามาเกือบชั่วโมง คุณครูตัวเล็กในเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้าทับด้วยสื้อกั๊กสีดำก้าวขาฉับๆเดินก้มหน้าก้มตาขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านเพื่อไปยังห้องนั่งเล่น
ปึ่กก!!
แต่...พอเดินขึ้นไปถึงบันไดขั้นสุดท้ายก็ต้องเกือบล้มหงายหลัง เพราะมันรีบจนไม่ทันได้มองว่าใครกำลังเดินสวนลงบันไดมาเช่นกัน และดีที่ได้มือของพี่ชายลูกศิษย์คนโปรดคว้าไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นทั้งเขาและสื่อการเรียนการสอนคงร่วงตกบันไดไปพร้อมๆกัน
“เป็นอะไรไหมครับคุณครู!!? เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ!!!” เกือบตกบันไดเหมือนกันเพราะอี้ชิงก็จะรีบลงไปข้างล่างเพื่อช่วยสามีดูแลลูกค้าหลังจากที่ลืมบิลค่าใช้จ่ายต่างๆไว้บนห้องจนต้องเดินขึ้นมาหาอยู่นานสองนาน
“ไม่เจ็บครับ ไม่เจ็บ เอ่อออ...ผมขอตัวไปสอนก่อนนะครับคุณอี้ชิง แล้วก็ต้องขอโทษด้วยนะครับที่วันนี้มาสาย พอดีมีปัญหาที่บ้านนิดหน่อยครับ” รีบขอโทษขอโพยพี่ชายของลูกศิษย์ทันที พร้อมยอมรับผิดเรื่องที่ตัวเองมาสอนไม่ตรงเวลา และป่านนี้น้องปลาคงรอเรียนพิเศษอยู่ในห้องนั่งเล่นนานแล้ว
“ไม่เป็นไรครับ คุณครูไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้...เดี๋ยวผมไปอุ่นของว่างให้ใหม่ดีกว่านะครับ คือออ...ของเดิมที่เตรียมไว้คงเย็นชืดหมดแล้ว” ส่งยิ้มและพูดคุยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนเพื่อให้คุณครูคนโปรดของน้องชายรู้สึกสบายใจและไม่ต้องคิดมาก
“ขอบคุณมากครับ งั้นนน...ผมขอตัวไปสอนน้องปลาก่อนนะครับ” โค้งตัวอย่างสุภาพแล้วรีบเดินตรงไปที่ห้องนั่งเล่นทันที และคิดว่าลูกศิษย์ที่ชอบพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุดต้องบ่นเรื่องที่เขามาสอนผิดเวลาแน่นอน
แกร๊กก!!
แต่!!เมื่อเปิดประตูเข้ามาด้านใน สิ่งที่คิดไว้...กลับดูสวนทางกันไปหมด ไม่มีเสียงเจื้อยแจ้วที่เคยเอ่ยทักทายกันเมื่อเจอหน้าหรือแม้กระทั่งหันมามองว่ามีคนเดินเข้ามาในห้องนี้ก็ไม่สักนิด??! เพราะลูกศิษย์คนโปรดเอาแต่จ้องโทรศัพท์ที่ถืออยู่ในมือ แถมยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่และทำปากส่งจุ๊บให้กับผู้ที่อยู่บนหน้าจอทัชสกีน
เป็นครั้งแรก...ที่คยองซูเห็นน้องปลาใช้เครื่องมือสื่อสารในห้องเรียน รวมถึงไม่ยอมทักทายกันเหมือนอย่างที่เคยปฏิบัติอยู่เป็นประจำ
(หนูคิดถึงคุณคิมจังเลยฮะ เมื่อไหร่หนูจะไปนอนกับคุณคิมล่ะ)
“......????!!”
(คุณคิมคิดถึงหนูไหม หนูเป็นเด็กดีนะเพราะฉะนั้นคุณคิมต้องคิดถึงหนูเยอะๆ แล้วก็รักหนูมากๆด้วย)
“อะแฮ่มมม!!!...ได้เวลาเรียนแล้วครับน้องปลา”
(อุ้ยย!!!...แค่นี้ก่อนนะฮะคุณคิม คุณครูคยองดีโอมาแล้ว ขับรถดีๆนะฮะ จุ๊บๆร้อยที บ๊าย บายยยยย)
จีบปากจีบคอ...พูดจนอยากหยิกให้เนื้อเขียว แล้วการยกสมาร์ทโฟนขึ้นมาจูบและโบกมือพร้อมเอียงศีรษะไปมาเพื่อกล่าวลาคนที่อยู่บนหน้าจอมือถือ ก็เป็นภาพที่ทำให้คยองซูยิ้มออกมาอย่างห้ามความรู้สึกเอาไม่ได้ มันดูน่ารัก น่าหมั่นไส้และดูแก่แดดในเวลาเดียวกัน แต่ในฐานะที่เขาเป็นคุณครู...คยองซูจึงปล่อยให้บทสนทนาอันแสนหวานและออดอ้อนที่ได้ยินเมื่อครู่ดำเนินต่อไปนานกว่านี้ไม่ได้ เพราะวันนี้ตัวเขาก็มาสายมากแล้ว และจะรอให้ลูกศิษย์คุยโทรศัพท์จนเสร็จก็คงไม่ต้องเรียนหนังสือกันพอดี
“คุยกับใครครับน้องปลา?? แล้วทำไมต้องหน้าแดงขนาดนั้น?!!”
“หนูป่าวหน้าแดงสักหน่อย แล้วทำไมวันนี้คุณครูดีโอถึงมาสายล่ะฮะ”
“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย เมื่อกี๊น้องปลาคุยกับใคร? บอกครูมาเดี๋ยวนี้นะครับ ไม่อย่างนั้นคุณครูจะฟ้องพี่อี้กับพี่คริสว่าน้องปลาไม่ตั้งใจเรียน”
“ถ้าหนูบอก...คุณครูคยองห้ามดุนะฮะ แล้วก็ห้ามโกรธหนูด้วย”
“มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอครับน้องปลา?”
“แล้วถ้าหนูบอกว่า เอ่อออ...หนูคุยกับ แฟน ล่ะฮะ! มันจะร้ายแรงสำหรับคุณครูดีโอไหมฮะ”
“........?????!!”
คำตอบของลูกศิษย์...ทำให้คุณครูอย่างคยองซูคาดไม่ถึงและตกใจอยู่ไม่ใช่น้อย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเหมือนอย่างที่น้องปลากังวล ถึงแม้การมีแฟนมันจะดูไม่เหมาะกับวัยของเด็กที่มีอายุเพียง 16 ปีก็ตาม แต่การที่น้องปลากล้าบอกความจริงให้ฟัง พวกๆพี่ทั้งสองคนก็คงจะทราบเรื่องนี้แล้วด้วยเช่นกัน คยองซูรู้ตัวดี...ว่าไม่มีสิทธิ์ไปห้ามหรือตักเตือนในเรื่องที่ลูกศิษย์คนนี้มีแฟนเพราะเขามีหน้าที่มาสอนหนังสือตามที่ถูกว่าจ้างมาเท่านั้น เขาไม่ใช่พ่อแม่ ไม่ใช่ผู้ปกครองและไม่ใช่ญาติพี่น้องเหมือนอย่างอี้ชิงกับคริส
แต่...ถ้าน้องปลาต้องการคำปรึกษาหรือมีเรื่องไม่สบายใจ คุณครูอย่างเขาก็พร้อมที่จะรับฟังและตอบทุกข้อสงสัยของลูกศิษย์คนโปรดเสมอ
“คุณครูคยองซูโกรธหนูหรือเปล่าฮะ?”
“ไม่โกรธเลยครับ แต่คุณครูไม่ชอบให้น้องปลาคุยโทรศัพท์ในห้องเรียน”
“หนูจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วฮะ หนูขอโทษ”
“น่ารักมากกก...งั้นก็เริ่มเรียนกันได้แล้ว”
“แต่คุณครูดีโอยังไม่บอกหนูเลยนะฮะว่าทำไมวันนี้มาสาย หนูเตรียมของว่างไว้ให้ตั้งนาน คุณครูก็ไม่มาสักที”
“เมื่อเช้าครูมีธุระด่วนครับ ก็เลยมาสอนน้องปลาสาย”
“อ๋อออออ...เข้าใจแล้วฮะ งั้นหนูก็จะไม่โกรธคุณครูคยองเหมือนกัน”
หยิบสมุดการบ้านส่งให้คุณครูคนโปรด...และพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุดจนคยองซูอยากลองหยิกปากบางๆนั่นดูสักครั้งโทษฐานพูดจาแก่แดดมากขึ้นทุกที บรรยากาศในการเรียนพิเศษเป็นไปด้วยความเรียบร้อย น้องปลาทำการบ้านถูกเกือบทุกข้อและตั้งใจเรียนเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่!!ก็มีความผิดปกติอยู่อย่างหนึ่งตรงที่วันนี้ลูกศิษย์คนโปรดหาวบ่อยจนต้องเบรกการสอนเพื่อปล่อยให้เจ้าตัวไปล้างหน้าล้างตาถึงสองครั้ง นั่นจึงทำให้คยองซูรู้สึกเป็นกังวลอยู่ไม่ใช่น้อย มันทั้งสงสัย ทั้งเป็นห่วง เพราะทุกครั้งของการสอน...ลูกศิษย์อย่างเด็กชายโอเซฮุนมักจะถามนั่นถามนี้และชวนคุยไปตามประสาเด็ก แต่วันนี้...กลับไม่มีแม้แต่เสียงพูดหรือการยกมือเพื่อถามคำถามเลยสักข้อ
“น้องปลาครับ คุณคะ...ครู!!?”
ก๊อก ๆ ๆ ๆ!!
กำลังจะเอ่ยถาม...ถึงสาเหตุที่ลูกศิษย์คนโปรดหาวไม่หยุดด้วยความสงสัย แต่เสียงเคาะประตูก็ดังขัดจังหวะไปเสียก่อน ถึงแม้น้องปลาจะตั้งใจเรียนหรือทำการบ้านเก่งมากกว่าเดิม แต่ความผิดปกติของลูกศิษย์ในวันนี้ก็ทำให้คยองซูอดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี และจากที่คิดไว้ว่าคนที่มาเคาะประตูจะเป็นอี้ชิงที่นำของว่างมาให้ แต่ก็กลับเป็นพี่เขยของลูกศิษย์ที่เดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าที่ดูเคร่งเครียด!!?
“ขอโทษที่มารบกวนเวลาสอนนะครับ พอดีมีคนมาขอพบคุณครู...ตอนนี้รออยู่ข้างล่างครับ”
“ใครเหรอครับคุณคริส???!!”
“เอ่ออ...คุณครูลงไปดูเองดีกว่าครับ”
“ครับๆ ขอบคุณมากครับ”
ทั้งสีหน้าทั้งคำพูดที่ดูลำบากใจของคริส...ทำให้คยองซูต้องรีบวางปากกา และหยุดการสอนเอาไว้ชั่วครู่เพื่อลงไปดูว่าใครเดินทางมาหาตัวเองถึงที่นี่??? ส่วนคนเป็นลูกศิษย์อย่างน้องปลาก็รีบวิ่งตามลงไปข้างล่างด้วยเช่นกัน เพราะอยากรู้ว่าใครมาหาคุณครูคนโปรดของเขา
แต่...เมื่อวิ่งลงมาถึงชั้นล่าง และได้เห็นภาพที่คุณครูกำลังถูกผู้ชายคนหนึ่งกึ่งลากกึ่งจูงพร้อมมีการโต้เถียงกันอยู่ตรงทางเชื่อมระหว่างทางไปร้านกับตัวบ้าน น้องปลาจึงรู้สึกโมโหขึ้นมาทันทีและรีบเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่ด้วยความโกรธ!!!
พลั่กก!!!!
“หยุดนะ!!!...ปล่อยคุณครูของหนูเดี๋ยวนี้!!!!!”
ชายร่างสูง...ที่มีใบหน้าเคร่งเครียดและกำลังยื้อยุดฉุดกระชากคุณครูคนโปรดไปตามทางเดินถูกน้องปลาผลักจนเสียหลักไปทางด้านหลังเล็กน้อย ส่วนคยองซู...ก็ถูกลูกศิษย์ดึงตัวมากอดไว้เหมือนอยากปกป้องทั้งๆที่ขนาดร่างกายของเด็กคนนี้ก็ไม่ต่างจากเขาสักเท่าไหร่ แถมใบหน้าจิ้มลิ้ม...ที่กำลังแสดงอาการโกรธเกรี้ยวก็ไม่ได้ดูน่ากลัวสำหรับผู้มาเยือนเลยสักนิด
“น้องปลาใจเย็นๆก่อนนะครับ คุณครูไม่ได้เป็นอะไร”
“หนูไม่เชื่อหรอก หนูจะแจ้งตำรวจมาจับผู้ชายคนนี้!!!”
เด็กน้อยที่ใส่เสื้อยืดคอกลมสีแดงลายการ์ตูนกับกางเกงขาสั้นสีขาว มันไม่ได้ทำให้ชายร่างสูงรู้สึกกลัวกับคำขู่แบบนั้นเลยสักนิด แต่กลับทำให้รู้สึกมันเขี้ยวจนอยากจับเด็กคนนี้มาฟัดแก้มให้ช้ำเสียมากกว่า ตัวเล็กยังกับลูกแมวแต่ทำเหมือนตัวเองเป็นเสือตัวใหญ่ๆ แล้วปากบางสีสดที่ขยับพูดเสียงแจ๋วก็น่าบีบให้ร้องไห้งอแง
“น้องปลาครับ...จำพี่ไม่ได้แล้วเหรอ? เราเคยเจอกันแล้วนะครับ”
“อย่าเรียกชื่อนั้นเด็ดขาด! คุณไม่มีสิทธิ์นะ!!!”
“โอเคครับ!!...ไม่เรียกก็ไม่เรียก แล้วตกลงหนูจำพี่ได้หรือยัง?? เราเคยเจอกันที่งานเลี้ยงรุ่นไงครับ จำได้ไหม?”
“จำไม่ได้!!...แล้วก็ไม่อยากจำด้วย คุณกลับไปเลยนะ ไม่งั้นหนูจะแจ้งตำรวจ!”
หงุดหงิดกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น...แถมชายตรงหน้ายังยิ้มเจ้าเล่ห์และพูดจาเหมือนสนิทสนมกันมานาน น้องปลาไม่อยากจำอะไรทั้งนั้นในตอนนี้ แล้วการเรียกเขาด้วยชื่อพิเศษก็ยิ่งทำให้โมโหมากขึ้นกว่าเดิม ขนาดหมอซูโฮที่เป็นเพื่อนสนิทกับพี่เขยก็ยังไม่กล้าเรียกเขาด้วยชื่อชื่อนั้น แล้วผู้ชายคนนี้เป็นใครถึงกล้าเอ่ยมันออกมา ทำร้ายคุณครูโปรดยังไม่พอ แล้วคิดจะมาตีสนิทกันอีก และ.....
“น้องปลาาาา...เกิดอะไรขึ้นครับ เสียงดังไปถึงข้างนอกนู้นนน!!??”
เห็นคนที่ตัวเองคิดถึงมากที่สุด...เดินตรงเข้ามาในที่เกิดเหตุพร้อมเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน น้องปลาจึงละออกจากการปกป้องคุณครูคนโปรด แล้วรีบวิ่งเข้าไปกอดเจ้าของกายสีน้ำผึ้งทันที แถมยังรู้สึกว่าตัวเองปลอดภัยมากขึ้นหลังจากที่ยืนเถียงกับชายแปลกหน้าอยู่นาน
“คุณคิมมมมมมมมม!!! ช่วยหนูด้วยยยย!!”
“ไงครับเด็กดี...จะให้คุณคิมช่วยอะไร หื้มม?”
“คุณคิมจัดการผู้ชายคนนั้นให้หนูหน่อยสิฮะ ผู้ชายคนนั้นนิสัยไม่ดี คุณคิมต่อยมันเลย”
“ใครเหรอครับน้องปลา?”
“นั่นไงฮะ...คนใจร้ายยืนอยู่ตรงนั้น!!”
“(เหี้ยย!!..ป๋ามาได้ไงวะ?)”
สบถได้แค่ในใจ...เมื่อผู้มาใหม่อย่างคิมจงอินเห็นรุ่นพี่ที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน คณะเดียวกันและเป็นรุ่นใหญ่จนไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากด่ายืนอยู่ตรงหน้า และถ้าจะให้จัดการรุ่นพี่คนนี้ด้วยการต่อยเหมือนอย่างที่แฟนเด็กสั่งเมื่อครู่ ตัวเขาก็คงทำไม่ได้อีกเช่นกัน
12.47 น.
“เมียยยยยยย!!!”
เสียงโวยวายของน้องปลาในตอนแรก...ทำให้คนเป็นพี่เขยพี่ชายและจงอินต้องมานั่งรวมตัวกันอยู่ในห้องรับแขกอย่างหาทางหลีกเลี่ยงไม่ได้ และเมื่อรู้ว่าชายแปลกหน้าคนนี้เป็นใครหรือมาหาคยองซูด้วยสาเหตุอะไรก็ยิ่งทำให้เสียงโวยวายดังขึ้นกว่าเดิม เพราะชายแปลกหน้าที่เพิ่งมีปากเสียงกับน้องปลาเมื่อครู่ก็คือรุ่นพี่ โจอินซอง ผู้เป็นทั้งรุ่นพี่ในคณะวิศวะฯและเป็นทั้งเจ้าของสถานบันเทิงสุดหรูที่ใช้จัดงานเลี้ยงรุ่นไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
คนเป็นรุ่นน้องอย่างคริสและจงอิน...ต่างอุทานออกมาในประโยคเดียวกันเมื่อรู้ว่ารุ่นพี่ของตัวเองเป็นคนรักของคุณครูคยองซู ส่วนคนที่ดูตกใจมากกว่าใคร และตกใจจนพูดอะไรไม่ออกก็คือลูกศิษย์คนโปรดอย่างน้องปลา เด็กน้อยได้แต่กระพริบตาปริบๆและมองหน้าทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกสลับกันไปมา
“เออออ!!!...คุณครูของน้องพวกมึงเป็นเมียกูเอง ใครมีปัญหาอะไร? ว่ามา...!!”
“(เหี้ยย...ใครจะกล้ามีปัญหาด้วยวะ แม่งโหดทั้งผัวทั้งเมีย!)”
รุ่นน้องอย่างคริส...บ่นได้แค่ในใจเพราะตอนแรกที่เจออิซองอยู่ที่หน้าบริษัท เขาก็ไม่ทราบจริงๆว่ารุ่นพี่ต้องการมาพบคุณครูคยองซูด้วยสาเหตุใดหรือมาที่นี่ได้อย่างไร รวมถึงสีหน้าท่าทางที่ดูเคร่งเครียดของอินซองก็ทำให้คริสไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากถาม ยิ่งพอมารู้ความจริงว่าใครเป็นใคร มีความสัมพันธ์กันเช่นไรและจะทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร...ก็ยิ่งทำให้ไม่อยากรู้อะไรทั้งนั้น
คริสทราบดี...ว่ารุ่นพี่ของตัวเองเป็นคนที่จริงจังกับชีวิตมากแค่ไหน แถมยังโหดมากที่สุดในรุ่นอีกด้วย และคยองซูก็เป็นคุณครูในโรงเรียนมัธยมชื่อดัง ที่ถูกขนานนามว่าเจ้าระเบียบและดุจนเด็กๆในโรงเรียนต่างก็กลัวกันทุกคน แล้วเมื่อโหดกับโหดมาเจอกัน...ใครมันจะกล้ามีปัญหาด้วย ส่วนรุ่นน้องผิวเข้มก็ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ เพราะถึงแม้อินซองจะเป็นรุ่นพี่ที่จบไปนานมากแล้ว และเจอกันแค่วันที่มีงานเลี้ยงรุ่นในแต่ละปี แต่กิติศัพท์ความโหดที่ได้ยินกันมารุ่นสู่รุ่นก็ทำให้จงอินไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาสักคำ เพราะขนาดรุ่นพี่อย่างคริสยังโหดขนาดนี้ แล้วรุ่นใหญ่อย่างอินซองจะโหดขนาดไหน!!?
แต่......
“หนูมี!!!” ใครจะโหดแบบไหน รุ่นใด...น้องปลาไม่สนทั้งนั้น และเมื่อตั้งสติได้หลังจากที่นั่งเงียบอยู่นาน เด็กตัวน้อยๆในสายตาของคนทั้งห้องรับแขก ก็ลุกขึ้นจากโซฟาก่อนยืนเท้าเอวพูดจาเสียงแข็งอย่างไม่นึกกลัวชายแปลกหน้าคนนี้อีกแล้ว
“หึ หึ!” อดหัวเราะไม่ได้...เพราะต่อให้เด็กตรงหน้าจะพูดด้วยเสียงที่ดังกว่านี้ อินซองก็ยังคิดว่าน่ารักอยู่ดี ยิ่งปากเล็กๆสีสดพ่นคำที่ดูมั่นใจออกมามากเท่าไหร่ก็ยิ่งน่ารักมากขึ้นเท่านั้น นานแค่ไหนแล้วที่ไม่มีใครกล้าเถียงเขาแบบนี้ อินซองจึงรู้สึกว่าน้องปลาเป็นเด็กที่ใจกล้ามากอยู่พอสมควร
“ขำอะไร คนนิสัยไม่ดี...เป็นสามีภรรยากันก็ต้องพูดจาเพราะๆสิ พูดดีๆน่ะเป็นไหม?? // คุณครูคยองไม่ต้องไปรักผู้ชายคนนี้เลยนะฮะ คนใจร้าย!!” หันไปต่อว่าคนนั้นคนนี้ด้วยท่าทางที่พาให้คนในห้องรับแขกต่างส่ายหัวกันไปหมด แถมยังกอดคุณครูคนโปรดไว้แน่นเหมือนอยากปกป้อง
!!!!!!!!!!!!!!!
“พี่จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว หนูยกโทษให้พี่ได้ไหมครับบบ...ถ้าคุณครูคยองซูไม่รักพี่ พี่ต้องเสียใจมากแน่ๆเลย” พูดด้วยความสำนึกผิด แถมยังคุกเข่าลงกับพื้นและเอามือประสานกันไว้บนอกเพราะรู้สึกพ่ายแพ้ให้กับความใจกล้า ความน่ารัก ความตรงไปตรงมาของน้องปลา และการกระทำของอินซองก็พาให้รุ่นน้องอย่างคริสและจงอินถึงกับไม่เชื่อสายตาตัวเอง ยิ่งเฉพาะกับคริส...ก็ยิ่งไม่อยากเชื่อเนื่องจากความโหดที่เคยได้เห็นหรือได้เจอมากับตัวมันคงกลายเป็นแค่เสียงลือเสียงเล่าอ้างก็วันนี้
“โอเค้!!!...หนูยกโทษให้ก็ได้!! แต่พี่อย่าทำคุณครูของหนูเจ็บอีกนะฮะ ไม่อย่างนั้นหนูจะให้คุณครูมานอนที่นี่ แล้วก็จะหาแฟนใหม่ให้ด้วย พี่เฉินหล่อนะ...หนูบอกไว้เลย ฮึ!!” ละมือจากการปกป้องคุณครูคนโปรดก่อนยืนกอดอกแสดงสีหน้าจริงจังพร้อมพูดเจื้อยแจ้วด้วยท่าทางมั่นใจ น้องปลาคิดเสมอ...ว่าคนที่เป็นสามีภรรยาต้องไม่ลงไม้ลงมือกันเด็ดขาด ต่อให้มีปากเสียง ไม่มีความเข้าใจหรือเกิดความขัดแย้ง คนทั้งคู่ก็ต้องพูดจากันให้ดีและควบคุมอารมณ์ให้ได้ เพราะเจ้าตัวไม่เคยเห็นพี่เขยตบตีและใช้ความรุนแรงกับพี่ชายของเขาเลยสักครั้ง แม้แต่การพูดด้วยความโกรธเกรี้ยวก็ยังไม่เคย
...
...
...
...
...
กว่าปัญหาต่างๆจะจบลงได้ด้วยดี...ก็ต้องใช้เวลาในการปรับความเข้าใจอยู่นาน และการเรียนพิเศษในวันนี้ก็ต้องยุติไว้เพียงเท่านั้น ไม่มีการบ้าน ไม่มีการเรียนเสริมในภายหลัง แถมยังเกินเวลาในการทานมื้อเที่ยงไปหลายนาที แต่...เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันก็ทำให้คริสได้คำตอบแล้วว่าสิ่งที่เขาเห็นในห้างสรรพสินค้าเมื่อหลายวันก่อนคืออะไร...คุณครูซื้อเม้าท์ไปให้แฟน แล้วแฟนก็คือรุ่นพี่ของเขาจริงๆ การจับมือ การโอบไหล่และรอยยิ้มของคนทั้งคู่ที่เขาเห็นในวันนั้น มันคือความจริง ถือเป็นคู่รักที่มีชีวิตต่างกันมากเหลือเกิน คนหนึ่งเป็นเจ้าของผับสุดหรู อีกคน...เป็นคุณครูในโรงเรียนมันธยมชื่อดัง คนที่ทำงานคนละเวลา คนละหน้าที่ คนละความรับผิดชอบ...แต่ก็มารักกันได้
VROOMMM!!
VROOMMM!!
เสียงรถยนต์ของอินซองและคยองซูเคลื่อนตัวออกไปจนรั้วบ้าน โดยมีมือน้อยๆของลูกศิษย์คอยโบกไปมาเพื่อเป็นการร่ำลาคุณครูของตัวเอง ขาเรียวในกางเกงสีขาวรีบวิ่งกลับเข้ามาในบ้านเมื่อประตูอัตโนมัติถูกปิดลง เพราะตอนนี้มีคนสำคัญรอเขาอยู่ในห้องนอน น้องปลาเดินเลี้ยวเข้าไปในห้องนั่งเล่นเพื่อเก็บอุปกรณ์ในการเรียนหนังสือ แล้วรีบกวาดดินสอ ยางลบ สมุดการบ้านที่วางอยู่บนโต๊ะใส่ลงในกระเป๋าเป้ปลาวาฬใบใหญ่ และเดินไปที่ห้องนอนทันทีเมื่อเก็บของทุกอย่างเรียบร้อย
ปังง!!!
“คุณคิมมมมมมม!!”
อั่กก!!
“โอ้ยย!”
ปิดประตูเสียงดังและโยนกระเป๋าเป้ที่เคยหวงนักหวงหนาลงพื้นอย่างไม่ใยดี พร้อมเรียกชื่อแล้วกระโดดลงไปทับเจ้าของกายสีน้ำผึ้งที่นอนอยู่บนเตียงด้วยความคิดถึงโดยไม่สนว่าใครจะเจ็บหรือไม่ เพราะตอนนี้มันมีความสุขจนเก็บอาการดีใจเอาไว้ไม่อยู่ ส่วนคนที่ถูกกระโดดลงมาทับร่างอย่างจงอินก็ได้แต่ร้องโอดโอย และไม่อยากว่ากล่าวเด็กน้อยเนื่องจากทราบดีว่าน้องกำลังรู้สึกเช่นไร เพราะตัวเขา...ก็รู้สึกที่ไม่ต่างไปจากน้องปลาเลยสักนิด
มันคิดถึง อยากกอด อยากหอม อยากอยู่ใกล้ๆ เพราะหลังจากที่โดนคำสั่งห้ามพาน้องปลามานอนค้างที่บ้าน เขาก็ไม่ค่อยได้แตะเนื้อต้องตัวแฟนเด็กสักเท่าไหร่ และตอนที่มารับสินค้าที่สั่งไว้ก็ทำได้อย่างมากแค่จับมือหรือไม่ก็หอมแก้มกันบ้าง งานก็เยอะ เดินทางไปติดตั้งตู้ปลาที่ต่างจังหวัดก็บ่อย นอนก็ดึก...คุณคิมจึงคิดถึงปลาตัวน้อยจนอยากขอน้องแต่งงานให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเสียเลย
แต่...คำสั่งอันแสนโหดร้ายของว่าที่พ่อตา มันก็ทำให้จงอินมีเวลาสร้างอะไรบางอย่างเพื่อเซอร์ไพรส์ลูกชายคนเล็กของท่านเช่นกัน แถมเมื่อเช้า...คำสั่งต่างๆที่ห้ามนั่นห้ามนี่จนทำให้เขาเหี่ยวแห้งมาเกือบเดือนก็ถูกได้ยกเลิกแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย จงอินเข้าใจดี...ว่าการที่คนเป็นพ่อออกคำสั่งมาแบบนั้นก็เพราะเป็นห่วงลูกชายที่มักเจ็บตัวอยู่บ่อยครั้งเวลามานอนค้างกับเขาที่บ้าน แต่...ความเป็นห่วงก็กลับกลายเป็นการทำร้ายน้องปลาไปโดยไม่ได้ตั้งใจเนื่องจากการวีดีโอคอลหากันจนดึกดื่นเป็นเวลาติดต่อกันมาหลายวัน มันย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพเด็กน้อยมากกว่าผู้ชายบ้างานอย่างเขาเสียอีก
ฟอดดดด!!
ฟอดดดด!!
“คิดถึงพี่มากขนาดนั้นเลยเหรอครับน้องปลา” ถูกคนที่นอนทับอยู่บนอกหอมแก้มซ้ายแก้มขวาทำตาปริบๆจนต้องถามให้แน่ใจว่าเด็กน้อยรู้สึกอย่างที่แสดงออกมาหรือเปล่า?? และใช่ว่าจะไม่รู้คำตอบ...แต่ที่ต้องถามเพราะอยากได้ยินเสียงหวานเจื้อยแจ้วให้ฟังต่อหน้ามากกว่าได้ยินผ่านทางโทรศัพท์เหมือนหลายวันที่ผ่านมา
จุ้บบ!!
จุ้บบ!!
“คิดถึงฮะ คิดถึงม๊ากกกกกกก มากๆ...เยอะๆ ๆ ๆ เลยฮะ” ยื่นหน้ายื่นตา...ส่งปากบางสีหวานจูบลงบนอวัยวะเดียวกันของด้านล่างอย่างไม่นึกถึงใจคนโดนจูบโดนหอมบ้างเลยสักนิดว่าจะรู้สึกเช่นไร เพราะตอนนี้...จงอินอยากจับเด็กขี้อ้อนที่นอนขยับยุกยิกไปมาอยู่บนอกฟัดให้จมเตียงด้วยความมันเขี้ยว และสิ่งที่น้องปลาทำไปทั้งหมดหรือสิ่งที่พูดออกมาแต่ละประโยคมันก็คือความรู้สึกที่อยู่ในใจของเขาเช่นกัน ♥
การไม่ได้ไปนอนค้างบ้านแฟนมานานเกือบเดือน...รวมถึงไม่ได้ไปเล่นกับพวกพี่ๆในโรงงานบ้านปลามันทำให้ลูกชายคนเล็กของตระกูลโอรู้สึกเหงา...ทั้งๆที่เมื่อก่อนก็อยู่แต่ในบ้านและเล่นกับเจ้าหางสวยในบ่อแค่นี้ก็มีความสุขมากแล้ว แต่พอได้มาเจอกับครอบครัวของคุณคิมมันกลับทำให้เขามีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม น้องปลาคิดถึงและอยากเจอทุกคนในบริษัทบ้านปลาไม่ว่าจะเป็น บยอนนี่ พี่แทมิน พี่ยอลหรือคนอื่นๆในโรงงาน
แต่ถ้าคิดถึงม๊ากกกก...มากเยอะๆแบบที่เจ้าตัวพูดไปเมื่อครู่ก็คงมีแค่คนเดียวเท่านั้นนั่นก็คือ “คุณคิม”
“พี่ก็คิดถึงน้องปลาเหมือนกันนะครับ คิดถึงม๊ากกก...มากกว่าน้องปลาอีก แล้วก็เยอะ ๆ ๆ...เป็นสิบเท่าเลยครับ”
“งื้ออ...หนูรักคุณคิมที่สุดเลยฮะ”
“ปากหวานจังเลยนะครับ...เด็กดีของคุณคิม”
“คุณคิมรู้ได้ไงว่าหนูปากหวาน?...คุณคิมยังไม่ได้ชิมเลยน้าาาาา”
“งั้นนนน...ขอชิมหน่อยนะครับว่าหวานจริงๆหรือเปล่า”
“อื้มมมมม!!”
เจ้าของกายสีน้ำผึ้ง...จับเด็กที่พูดจาเชิญชวนด้วยถ้อยคำที่ดูแก่แดดเกินอายุให้นอนราบลงไปกับที่นอนลายสัตว์น้ำสีส้มแสนน่ารัก แล้วประกบปากป้อนจูบให้อย่างอ่อนโยน ลิ้นอุ่นชื้น...กวาดต้อนกอบโกยความหวานด้วยความรู้สึกโหยหาและคิดถึง ส่วนน้องปลาก็ค่อยๆเอียงใบหน้าเรียวสวยเพื่อปรับองศาให้ถนัดต่อการรับสัมผัสมากยิ่งขึ้น และจากรสสัมผัสที่แสนอ่อนโยนก็เริ่มร้อนแรงเมื่อการตอบสนองของเด็กน้อยมันพาลให้อารมณ์ต่างๆดับลงได้ยาก มือหนาลูบไล้ บีบรัดและบดคลึงไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งของคนที่จูบเก่งขึ้นจนน่าตกใจ แต่ก็ทำให้รู้สึกดีอยู่ไม่ใช่น้อย ปากหยักละจากความหอมหวานเพื่อให้อีกฝ่ายได้หายใจเพียงชั่วครู่ก็จูบใหม่อีกครั้งอย่างห้ามความรู้สึกเอาไว้ไม่ได้
แต่.....
Rrrrr!!
Rrrrrr!!!
Rrrrrrr!!!!
Rrrrrrrr!!!!!
“อื้มมม! คะ..คุณคิม อืออ!!..รับโทรศัพท์ อื้มม!! กะ...ก่อนฮะ”
“เฮ้ออออ!”
ก่อนที่อารมณ์ต่างๆทั้งร้ายและดีจะทำให้จงอินทำอะไรเกินเลยไปมากกว่าแค่การจูบ เสียงโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงก็ดังขึ้นฉุดสติให้เจ้าของเครื่องต้องละออกจากความหอมหวานที่กำลังกอบโกยอยู่อย่างมีความสุขให้รีบล้วงเข้าไปหยิบสมาร์ทโฟนออกมากดรับสายด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจ ส่วนคนถูกจูบ...ก็รีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมใบหน้าขวยเขินทันทีเพราะรู้สึกอาย
“ขัดความสุขผมตลอดเลยนะเจ๊!! โทรมามีไร!!??”
(ความสุขส้นตีนอะไรของมึงอีกล่ะ!!)
“ไม่ต้องมาอยากรู้ ตกลงโทรมามีอะไร??!!!”
(ลูกค้าขอปลาเพิ่ม กูส่งรายชื่อปลาให้มึงดูตั้งนานแล้วมึงไม่กดอ่านสักทีกูเลยต้องโทรมานี่ไง!! แล้วมึงเป็นบ้าอะไร...มาโวยวายใส่กูทำไม??)
“เออ!!...ขอโทษก็ได้วะ!!!”
(กลับมามึงโดนตบแน่...จงอิน!!)
ตู้ดด ตู้ดดด!!!!!
รับสายด้วยความหงุดหงิด...และจบการสนทนาด้วยความหงุดหงิดที่มีมากขึ้นกว่าเดิม แถมยังมีงานมาให้ทำทั้งๆที่วันนี้ตั้งใจจะมาหาแฟนเด็กโดยเฉพาะ จงอินพยายามปรับสีหน้าและอารมณ์ให้เป็นปกติ แล้วค่อยๆดึงผ้าห่มออกจากใบหน้าจิ้มลิ้มก่อนโน้มกายมาหอมแก้มกลมๆจนมันยุบไปตามแรงกด
“เดี๋ยวพี่ลงไปสั่งของกับเฮียคริสก่อนนะครับ น้องปลาไปอาบน้ำเตรียมตัวกลับบ้านพร้อมพี่ได้เลย”
“หนูจะไปได้ยังไง? ก็พ่อสั่งห้ามไว้หนิฮะ!!”
“ท่านไม่ห้ามแล้วครับ คุณพ่อน้องปลาโทรมายกเลิกคำสั่งกับพี่เมื่อเช้า แต่ถ้าน้องปลาไม่ชะ..เชื่อ”
“เย้ๆ ๆ ๆ .....!!”
“อย่าเพิ่งดีใจตอนนี้...เพราะพี่มีของบางอย่างจะเซอร์ไพรส์น้องปลาด้วยนะ”
“อะไรเหรอฮะคุณคิม??..บอกหนูหน่อย หนูอยากรู้!!?”
“บอกตอนนี้ก็ไม่เรียกเซอร์ไพรส์สิครับ”
“งั้นหนูไปอาบน้ำดีกว่า...คุณคิมรีบไปสั่งของเร็วๆนะฮะ เดี๋ยวหนูจะไปรอที่รถ”
ปังงง!!!!
รีบคว้าผ้าเช็ดตัว...วิ่งเข้าห้องน้ำและปิดประตูจนดังไปสามบ้านแปดบ้านด้วยความเร่งรีบเมื่อรู้ว่าคำสั่งของคุณพ่อถูกยกเลิก มันดีใจที่จะได้ไปเล่นกับทุกคนที่บริษัทบ้านปลาแถมยังมีเซอร์ไพรส์รออยู่อีกด้วย ส่วนคนที่ตั้งใจทำเรื่องเซอร์ไพรส์ให้กับคนที่ตัวเองรักอย่างคิมจงอินก็รีบเดินลงไปหาคริสที่โกดัง พร้อมกับสั่งปลาตามจำนวน ขนาด สีและประเภทของสัตว์น้ำตามแบบที่พี่ชายต่างแม่ส่งข้อความมาบอกทันที
...
...
...
VROOMM!!!!
“บ๊าย บายนะฮะพี่คริส บ๊าย บายนะฮะพี่อี้”
“อย่าซนอีกนะน้องปลา เดี๋ยวคุณพ่อโทรมาดุพี่อีก”
“ฮะพี่อี้...หนูรักพี่อี้นะฮะ รักที่สุดในโลกเลย”
“โปะ โปะ กันหน่อยซิน้องปลา”
จุ้บ!!
จุ้บ!!
จุ้บ!!
นานๆครั้ง...คนเป็นสามีจะได้เห็นภรรยาแสดงความรักแบบนี้กับน้องชาย เพราะปกติจะได้ยินแต่เสียงบ่น เสียงดุและเสียงว่ากล่าวที่คอยพร่ำสอนน้องคนเล็กจนปากแทบฉีก และภาพของการแสดงความรักระหว่างพี่น้องสองคนก็สามารถสร้างรอยยิ้มให้กับจงอินได้เช่นกัน มือน้อยๆ...โบกลาพี่ชายทั้งสองคนจนเมื่อรถเคลื่อนตัวออกไปจากบริษัทมีปลา คนขับก็รีบปิดกระจกทันทีและไม่แวะซื้ออะไรทั้งนั้นเพราะไม่อยากให้ถึงบ้านเย็นค่ำมากนัก และต้องการให้แฟนเด็กนอนก่อนสองทุ่ม
บริษัท บ้านปลา
17.49 น.
เอี๊ยดดด!
“เดี๋ยวฮะ!!...คุณคิมเอาผ้ามาปิดตาหนูทำไม??”
“ก็เซอร์ไพรส์ไงครับน้องปลา พี่เลยต้องปิดตาไว้ก่อน”
ขับรถกลับมาด้วยความเร่งรีบ...แต่จอดลงด้วยความนุ่มนวลเมื่อมาถึงบ้าน และหยิบผ้าเช็ดหน้าที่เตรียมไว้ในลิ้นชักหน้ารถออกมาปิดตาแฟนเด็กเอาไว้ เจ้าของเซอร์ไพรส์...พาคนที่แต่งกายได้เข้ากับบางสิ่งที่เขาเตรียมไว้ให้เหมือนรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า เพราะการใส่เสื้อยืดสีสันสดใสกับกางเกงขาสั้นเสมอเข่า มันช่างเหมาะกับของชิ้นใหญ่ที่เขาตั้งใจทำในช่วงที่ถูกว่าที่พ่อตาลงโทษ...และเซอร์ไพรส์ที่ว่าก็สร้างเสร็จทันเวลาพอดี
“พื้นต่างระดับนะครับน้องปลา ค่อยๆเดินนะครับ”
“ถึงหรือยังฮะ..คุณคิม? ทำไมไกลจัง??”
“อีกนิดนึงครับน้องปลา”
เดินลัดจากหน้าบ้าน ผ่านโรงงานและเลี้ยวซ้ายผ่านห้องปลอดเชื้อที่น้องปลาชอบเข้าไปคุยกับเจ้าพวกหางสวยบ่อยๆก็ถึงของเซอร์ไพรส์ชิ้นใหญ่ที่จงอินเตรียมไว้ให้ จากนั้นก็ค่อยๆเปิดผ้าออกจากดวงตาคู่สวยอย่างช้าๆ และ......
“ว้าววววว...สระว่ายน้ำ!!!!!”
“ชอบไหมครับน้องปลา?”
“ชอบฮะ!! ชอบมาก!...คุณคิมทำให้หนูเหรอฮะ?”
“ครับ...พี่ทำให้น้องปลา น้องปลาอยากว่ายน้ำไหมครับ?”
“ฮึกก!!...อยากฮะ ฮึก ฮึกก!”
“เด็กดีของคุณคิมร้องไห้ทำไม...หื้มม?”
“หนูดีใจ ฮึก!! คุณคิมใจดีที่สุด รู้ใจหนูที่สุด ฮึกกก! หนูรักคุณคิม รักกว่าใครเยอะๆ ๆเลยฮะ”
“คุณคิมก็รักน้องปลานะครับ รักมากๆ มากกว่าใคร”
เจ้าของบริษัทบ้านปลาอย่างคิมจงอิน...ลงทุนทุบทางเดินที่เคยเป็นสนามหญ้า ซึ่งติดอยู่ระหว่างตัวบ้านกับโรงงานออกทั้งหมด แล้วสร้างสระน้ำขึ้นมาแทนที่ และจ้างช่างให้สร้างกำแพงอิฐกั้นโรงงานกับสระน้ำเอาไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว สระน้ำด้านหนึ่ง...ทำจากกระจกที่ได้ลูกน้องในโรงงานเป็นคนช่วยกันทำ ส่วนการเดินท่อหรือวางระบบบำบัดน้ำรวมถึงการออกแบบสระน้ำทั้งหมดเขาเป็นคนทำเองทุกขั้นตอน แต่เรื่องของการตกแต่งสถานที่อย่างเช่นการต่อเติมส่วนต่างๆให้เชื่อมกับตัวบ้าน และการปูกระเบื้องสระน้ำก็เป็นหน้าที่ของช่างอีกหนึ่งทีมที่จ้างมาเพื่อทำงานนี้โดยเฉพาะ
...
...
...
...
...
ตูมมมมมม!!!!!
ตูมมมมมม!!!!!
“คุณคิมมมมมม!!...ช่วยหนูด้วยยยยย!!! บยอนนี่กับพี่ยอลแกล้งหนู!!”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ^_^)”
100%
**เมียผมเองครับ
Talk.
น้องปลากลับมาแล้วค้าาาา...ขอโทษที่หายไปนานนนนน นะคะ (กราบสามครั้ง)
หลังจากนี้...เราขออนุญาตหยุดอัพฟิคเรื่องนี้ไปก่อน เพราะต้องการรีไรท์เรื่อง #ดอกไม้ของเจ้านายให้เสร็จ (สมองเรารวนหนักจริงๆค่ะ T-T)
และเราก็มีของเล็กๆน้อยๆจะมอบให้นักอ่านทุกคนด้วยนะคะ เรารบกวนขอที่อยู่ของทุกคน...โดยการส่งเมลมาให้เราที่ Mokara16@hotmail.com หรือคอมเม้นท์ที่ฟิคตอนนี้ได้เลย หรือจะ DM...มาทางทวิตเตอร์ก็ได้นะคะ เราตั้งใจทำให้นักอ่านทุกคนจริงค่ะ ^-^)
ขอบคุณทุกคนที่ยังคงติดตาม และไม่ลืมฟิคเรื่องนี้ของเรา
ขอบคุณคอมเม้นท์ ขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆค่ะ
แล้วจะเข้ามาตรวจคำผิดเรื่อยๆนะคะ
รัก ♥
Cr. Decoist.com
#ฟิคน้องปลา
ความคิดเห็น