ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จบแล้ว (EXO) น้องปลา (Kaihun Ft.Chanbaek,Krislay)

    ลำดับตอนที่ #16 : ปลาตัวที่ 12

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.29K
      22
      18 เม.ย. 64


    ปลาตัวที่ 12





     

    บริษัท  มีปลา

    07.10 น.

     

    แกร๊กกก!!

     

                เสียงประตูห้องนอน...ของน้องคนเล็กแห่งบริษัทมีปลาถูกปิดด้วยแรงที่เบากว่าปกติ  เพราะผู้เป็นพี่ชายทราบดีว่าช่วงนี้น้องติด  “โทรศัพท์”  มากเป็นพิเศษและมักจะคุยกับคนปลายสายแบบไม่ค่อยเป็นเวลาสักเท่าไหร่  ใช่ว่าอยากให้น้องชายของตัวเองคุยโทรศัพท์จนดึกดื่นหรือตื่นมาก็เอาแต่คุยเสียงอ่อนเสียงหวานกับแฟนโดยไม่ยอมทำกิจวัตรประจำวันเหมือนอย่างที่เคย  แต่...การที่คนปลายสายถูกพ่อของเขาสั่งห้ามไม่ให้พาน้องชายไปนอนค้างที่บ้านเป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มมันทำให้คนเป็นพี่แทบไม่อยากว่ากล่าวน้องชายถ้าไม่จำเป็น

     


                การต้องอยู่ห่างจากคนรักเพียงไม่กี่วัน  หัวใจมันก็ห่อเหี่ยวเกินจะเยียวยา  แล้วเรื่องแบบนี้...อี้ชิงก็เข้าใจดีกว่าใครเพราะตอนที่เขาต้องอยู่ห่างจากสามีไปเกือบสามปีในช่วงที่คริสกลับไปต่างประเทศเพื่อจัดการธุรกิจภายในครอบครัวกับผู้เป็นพ่อ  อี้ชิงก็ติดโทรศัพท์แบบที่น้องปลาเป็นอยู่ตอนนี้เหมือนกัน  แถมบางวันก็นอนร้องไห้อยู่บ่อยครั้งเพราะคิดฟุ้งซ่านไปต่างๆนานาว่าสามีอาจจะไม่กลับมาอยู่ด้วยกันอีกแล้ว  ขนาดแต่งงานและมีความมั่นคงในชีวิตมากอยู่พอสมควรแต่ก็ยังคิดมากจนแทบเป็นบ้า  แล้วน้องปลา...ที่เป็นเด็กอายุเพียง  16  ปีและเพิ่งมีแฟน  มีความรักหรือได้คบหากับใครสักคนเป็นครั้งแรกจะอดทนกับความห่างไกลได้สักเพียงใด  

     

                “น้องปลา...ตื่นได้แล้ว  คุณครูคยองซูจะมาสอนพิเศษแล้วนะ”  ค่อยๆนั่งลงบนเตียงที่มีผ้าปูที่นอนลายปลาทองสีส้ม  แล้วเอื้อมมือไปเกลี่ยผมของเด็กขี้เซาด้วยความเอ็นดู  

     

                เป็นครั้งแรก...ที่อี้ชิงตามใจน้องปลา  เพราะหลังจากถูกคนเป็นพ่อสั่งห้ามไม่ให้น้องชายไปเล่นที่บ้านจงอิน  อี้ชิงก็ให้น้องใช้โทรศัพท์มือถือของเขาเพื่อเอาไว้ติดต่อกับหนุ่มผิวเข้มมาตั้งแต่วันแรกที่คุณพ่อออกคำสั่ง  และตอนนี้...เครื่องมือสื่อสารที่คนเป็นพี่เคยเอาไว้ใช้เพื่อติดต่อพูดคุยเรื่องงานกับลูกค้าก็ได้อยู่ในอ้อมกอดของน้องชายตัวแสบ  แถมยังเก็บไว้ในกระเป๋าผ้าลายปลาหมึกสีชมพูทำเหมือนโทรศัพท์เครื่องนี้เป็นของตัวเองเสียอย่างนั้น

     

                “พี่อี้...อาบน้ำให้หนูหน่อยยย  หนูง่วง”  ดึงมือพี่ชายที่ตัวเองเคยบ่นนักบ่นหนาว่าชอบดุชอบว่ามากอดไว้  พร้อมเอ่ยอ้อนแบบติดน้ำเสียงงัวเงียเล็กน้อย  โดยไม่ได้ลืมตาว่าช่วยอาบน้ำให้เขาหน่อย  เพราะเมื่อคืนเจ้าตัวเอาแต่คุยโทรศัพท์อยู่กับคุณคิมจนดึก

     

                “อยากให้พี่อาบน้ำให้ก็เอาโทรศัพท์คืนมาก่อน  เดี๋ยวเรียนพิเศษเสร็จแล้วพี่จะคืนให้”  กำลังจะหยิบสมาร์ทโฟนของตัวเองออกมาจากอ้อมกอดของน้องชาย  แต่...ยังไม่ทันได้แตะโดนอะไรทั้งนั้น  น้องปลาก็รีบเอากระเป๋าผ้าลายปลาหมึกสีหวานยัดไว้ใต้หมอนทันที

     

                “ห้ามเอาคืนนะฮะ...เดี๋ยวคุณคิมจะโทรมาตอนสิบโมง  คุณคิมสัญญากับหนูไว้แล้ว”  ขยับศีรษะมานอนบนตัก  พร้อมกอดเอวก่อนซุกใบหน้าลงบนหน้าท้องของอี้ชิงอย่างออดอ้อน  เพราะน้องปลาทราบดีว่าเวลานี้พี่ชายของตัวเองใจดีมากแค่ไหน

     

                “ถ้าโดนคุณครูดุก็อย่ามาร้องไห้ให้พี่ได้ยินเลยนะ  พี่ไม่โอ๋เด็ดขาด”  พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่จริงจังมากนัก  และลูบกลุ่มผมสีอ่อนที่เอาแต่ซุกอยู่ที่พุงของเขาอย่างทะนุถนอม

     

                “ถ้าพี่อี้ไม่โอ๋  หนูให้พี่คริสจ๋าโอ๋ก็ได้  ตะ...แต่หนูก็อยากให้พี่อี้โอ๋ด้วยหนิฮะ”  เพิ่มระดับการออดอ้อน...ด้วยการขยับกายนั่งลงบนตักและซบหน้าหงอยๆไว้ที่ไหล่พร้อมกอดพี่ชายเอาไว้แน่น

     

                โหดแค่ไหน  ดุเท่าใด...ก็ต้องยอมแพ้ให้กับความขี้อ้อนของเด็กคนนี้เสมอ  และถึงแม้จะชอบดุชอบบ่นน้องของตัวเองอยู่บ่อยๆ  แต่อี้ชิงก็ไม่เคยโกรธอะไรเป็นจริงเป็นจังได้เลยสักครั้ง  แล้วที่ว่ากล่าวตักเตือนไปทั้งหมดก็เพราะอยากให้น้องปลาเป็นเด็กดี  ส่วนเรื่องที่น้องชายติดโทรศัพท์มากเป็นพิเศษ...อี้ชิงก็เข้าใจว่าคงเป็นเพราะความคิดถึง  และตัวน้องเองก็ไม่ได้เหลวไหลหรือเอาแต่คุยกับหนุ่มผิวเข้มทั้งวันจนไม่ทำอะไรเลย  น้องปลายังช่วยทำงาน  ยังเรียนพิเศษและเล่นกับเจ้าพวกหางสวยในบ่อหลังบ้านตามปกติ  แถมยังรู้จักหน้าที่ของตัวเองมากขึ้นโดยไม่ต้องบอก  ต้องสอนและต้องให้พูดซ้ำๆเหมือนอย่างที่ผ่านมา

     

                “อยากให้พี่โอ๋...ก็ต้องเป็นเด็กดี  อย่าดื้อ  อย่าซน  แล้วตอนนี้ก็ไปอาบน้ำได้แล้ว  เดี๋ยวคุณครูคยองซูก็ไม่รักหรอก”

     

                “รักสิ...คุณครูคยองดีโอรักหนูที่สุด”

     

                “ใครบอกกกก...น้องปลาคิดไปเองต่างหาก!!!

     

                “หนูป่าวคิดไปเองนะฮะ  คุณครูดีโอรักหนูคนเดียวจริง...จริ๊งงงงง  รักมากด้วย”

     

                “ถ้ารู้ว่าคุณครูเค้ารักก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว...เดี๋ยวคุณครูก็ต้องมารออีก  มันเสียมารยาท”

     

                “โปะ  โปะ  นะฮะพี่อี้...หนูก็พี่อี้มากๆเหมือนกัน  รักกว่าใคร  รักที่สุด  ที่หนึ่ง...เยอะๆ”

     

    จุ้บบ!!

    จุ้บบ!!

     

                “ไม่ต้องมาปากหวาน  พี่หลงกลน้องปลาเหมือนพี่คริสจ๋ากับคุณพ่อแน่นอน  ไปเลย  ไปอาบน้ำ...เดี๋ยวพี่จะไปรอที่ห้องครัว  ป่านนี้พี่คริสทำกับข้าวเสร็จแล้วมั้ง”

     

                “จ๋าจ้ะ”


    จุ้บบ!!

     

                แสดงความรัก  ความออดอ้อน  ความเป็นน้องจนพอใจ  น้องปลาก็รีบวิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว  แต่ก็ไม่ลืมที่จะหยิบถุงผ้าที่มีโทรศัพท์ของพี่ชายติดมือไปด้วย  ส่วนเจ้าของสมาร์ทโฟนตัวจริงอย่างอี้ชิงก็ได้แต่ส่ายหัวไปมาให้กับความเป็นเด็กที่ไม่รู้จักโตของผู้เป็นน้องพร้อมกับพับผ้าห่ม  เก็บที่นอนและจัดเรียงหมอนทุกใบให้เข้าที่แล้วเดินออกจากห้องของน้องปลาเพื่อไปช่วยสามีจัดโต๊ะอาหารที่ห้องครัวต่อทันที

     

    ...


     

    ...


     

    ...


     

    08.31 น.

     

                “พี่คริสจ๋าาาาาา...เช้านี้ทำอะไรกินเหรอฮะ??”

     

                “เมื่อวานบ่นว่าอยากกินอะไรล่ะ?”

     

                “สปาเก็ตตี้กุ้งซอสมะเขือเทศ  แล้วก็ใส่แครอทเยอะๆด้วยฮะ”

     

                “ตามนั้น!!

     

                “เยสสส!!!

     

                รีบเอ่ยถามพี่เขย...ที่วันนี้เป็นคนลงมือทำอาหารเช้าว่ามีอะไรทานบ้าง  ทั้งๆที่เจ้าของคำถามก็ยังเดินเข้ามาในห้องครัวได้ไม่กี่ก้าว  ส่วนคริสก็เริ่มตักเมนูที่น้องเมียบ่นว่าอยากทานใส่จานเตรียมไว้ให้เสร็จสรรพพร้อมรินนมสดใส่แก้ววางไว้ด้วย  แต่!!การทานไปหาวไปของน้องเมียกลับทำให้บรรยากาศในการทานอาหารเช้าร่วมกันเป็นสิ่งที่ดูขัดตาขัดใจไปหมด  และก็เป็นพี่เขย...ที่รู้สึกไม่ค่อยชอบใจจนอดไม่ไหวที่จะต้องพูดปราม  ตั้งแต่ภรรยาให้โทรศัพท์น้องปลาไว้ใช้ส่วนตัว  น้องก็เอาแต่หาวแบบนี้ทั้งวัน  แถมวันไหนไม่มีเรียนพิเศษก็มักจะแอบหนีไปนอนกลางวันทุกครั้ง

     

                “น้องปลา...เมื่อคืนนอนกี่โมง??!!!

     

                “หะ...ห้าทุ่มฮะ”

     

                “เอาโทรศัพท์มาให้พี่เดี๋ยวนี้!!...ใช้ไม่รู้จักเวล่ำเวลา  แล้วคุยอะไรกันดึกๆดื่นๆ  หาวหวอดๆแบบนี้จะเรียนหนังสือรู้เรื่องไหม  หึ!!!

     

                “โทรศัพท์ของพี่อี้นะฮะ...ไม่ใช่ของพี่คริสจ๋าสักหน่อย  หนูไม่ให้หรอก...เดี๋ยวคุณคิมจะโทรมาหาหนูตอนสิบโมง!!

     

                “พี่-บอก-ว่า-ให้-เอา-มา...เดี๋ยวนี้!!!

     

                “หนู-ไม่-ให้!!!!

     

                “นะ...น้อง”

     

                ยังไม่ทันที่คริสจะได้พูดโต้ตอบ...หรือใส่อารมณ์กับน้องปลามากกว่านี้  เขาก็ถูกมือเรียวสวยของภรรยาลูบไปที่ขาเบาๆเพื่อเป็นการปรามพร้อมส่งสายตาวิงวอนขอร้องให้คริสช่วยยั้งอารมณ์และหยุดต่อล้อต่อเถียงกับน้องปลาได้แล้ว  เพราะถ้ายังใช้อารมณ์คุยกันแบบนี้  น้องปลาก็คงเรียนไม่รู้เรื่องอย่างที่คริสพูดไว้แน่นอน  สามีไม่เคยว่ากล่าวเด็กคนนี้เลยสักครั้ง  อี้ชิงจึงเกรงว่าน้องปลาจะร้องไห้จนต้องยกเลิกการสอนของคุณครูคยองซู

     

                “น้องปลา...ทานเสร็จแล้วก็ไปเตรียมหนังสือเรียนให้เรียบร้อย”

     

                “หนูเตรียมเสร็จแล้วฮะพี่อี้”

     

                “งั้นก็เก็บจานของตัวเองไปล้าง  แล้วก็ไปเตรียมขนมกับชาร้อนให้คุณครูด้วย...เดี๋ยวพี่กับพี่คริสจะได้ลงไปเปิดร้าน”

     

                “ฮะ (แบร่!!)”

     

                “น้องปลาาาา...ไปได้แล้ว  เดี๋ยวพี่คริสก็โกรธจริงๆหรอก”

     

                “หนูรักพี่อี้คนเดียวก็ได้...เชอะ!!

     

                “เฮ้ออออ!

     

                คนเป็นน้องเมีย...รีบยัดอาหารเช้าคำสุดท้ายเข้าปาก  แถมยังแลบลิ้นปลิ้นตาทำทะเล้นพร้อมมองค้อนพี่เขยด้วยความรู้สึกว่าวันนี้ตัวเองมีพี่ชายคอยเข้าข้าง  แล้วรีบลุกจากเก้าอี้ก่อนถือจานกับแก้วนมไปล้างในอ่างโดยไม่บ่นอะไรสักคำ  ปกติ...หน้าที่ล้างจานหรือเก็บโต๊ะอาหารจะเป็นของคริสหรือไม่ก็อี้ชิง  แต่ที่วันนี้น้องปลาทำเองก็เป็นเพราะกลัวถูกพี่เขยโกรธทั้งๆที่ตัวเองเพิ่งทำตัวไม่น่ารักไปเมื่อครู่

     

                ส่วนคริส...ก็ใช่ว่าอยากจะขึ้นเสียงใส่น้องปลาต่อหน้าภรรยา  หรือทำลายบรรยากาศในการทานอาหารเช้าร่วมกัน  แต่ช่วงหลายวันมานี้นับตั้งแต่พ่อตาออกกฎห้ามลูกชายคนเล็กไปนอนค้างที่บ้านของจงอิน  น้องปลาก็นอนไม่เป็นเวลาเพราะคุยโทรศัพท์กับรุ่นน้องของเขาจนดึกแทบทุกคืน

     

                คริสไม่เข้าใจ...ว่าพ่อของภรรยาต้องการจะลงโทษจงอินหรือลูกชายคนเล็กของตัวเองกันแน่  ตอนออกกฏวันแรก...ท่านให้เหตุผลว่าไม่อยากให้น้องปลาบาดเจ็บบ่อยๆ  เพราะไปค้างบ้านนั้นทีไร  ไม่มีดบาดมือก็ตกบันได หรือไม่ก็ต้องเป็นอะไรสักอย่างที่ทำให้ได้แผลกลับมาทุกครั้ง  และดีที่การตกบันไดครั้งล่าสุด...น้องปลาไม่ได้เจ็บถึงขั้นขาหักเข้าเฝือก  ไม่อย่างนั้น...จงอินคงโดนลงโทษหนักกว่านี้  คริสเข้าใจดีว่าการไม่นอนกอดคนที่ตัวเองรักมันโหดร้ายมากไหน  มันทั้งโหยหา  ทั้งคิดถึงและอีกสารพัดความรู้สึกที่ยากเกินจะบรรยาย  แต่ตอนนี้...เขาเป็นห่วงสุขภาพของน้องปลามากกว่าเพราะการที่น้องนอนดึกบ่อยๆมันอาจทำให้เจ้าตัวล้มป่วย

     






















     

    10.20 น.

     

    เอี๊ยดดดด!!!!!!

     

                Volkswagen New Beetle (ปี00-12)  สีเขียวตุ่น...จอดลงที่หน้าบริษัทมีปลาด้วยความเร่งรีบ  และเมื่อเจ้าของรถดับเครื่องยนต์พร้อมกับคว้าอุปกรณ์การสอนได้ครบ  เจ้าตัวก็รีบวิ่งเข้ามาในร้านทันทีเพราะตอนนี้มันเลยเวลาสอนเด็กนักเรียนของเขามาเกือบชั่วโมง  คุณครูตัวเล็กในเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้าทับด้วยสื้อกั๊กสีดำก้าวขาฉับๆเดินก้มหน้าก้มตาขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านเพื่อไปยังห้องนั่งเล่น

     

    ปึ่กก!!

     

                แต่...พอเดินขึ้นไปถึงบันไดขั้นสุดท้ายก็ต้องเกือบล้มหงายหลัง  เพราะมันรีบจนไม่ทันได้มองว่าใครกำลังเดินสวนลงบันไดมาเช่นกัน  และดีที่ได้มือของพี่ชายลูกศิษย์คนโปรดคว้าไว้ได้ทัน  ไม่อย่างนั้นทั้งเขาและสื่อการเรียนการสอนคงร่วงตกบันไดไปพร้อมๆกัน

     

                “เป็นอะไรไหมครับคุณครู!!?  เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ!!!”  เกือบตกบันไดเหมือนกันเพราะอี้ชิงก็จะรีบลงไปข้างล่างเพื่อช่วยสามีดูแลลูกค้าหลังจากที่ลืมบิลค่าใช้จ่ายต่างๆไว้บนห้องจนต้องเดินขึ้นมาหาอยู่นานสองนาน

     

                “ไม่เจ็บครับ  ไม่เจ็บ  เอ่อออ...ผมขอตัวไปสอนก่อนนะครับคุณอี้ชิง  แล้วก็ต้องขอโทษด้วยนะครับที่วันนี้มาสาย  พอดีมีปัญหาที่บ้านนิดหน่อยครับ”  รีบขอโทษขอโพยพี่ชายของลูกศิษย์ทันที  พร้อมยอมรับผิดเรื่องที่ตัวเองมาสอนไม่ตรงเวลา  และป่านนี้น้องปลาคงรอเรียนพิเศษอยู่ในห้องนั่งเล่นนานแล้ว

     

                “ไม่เป็นไรครับ  คุณครูไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้...เดี๋ยวผมไปอุ่นของว่างให้ใหม่ดีกว่านะครับ  คือออ...ของเดิมที่เตรียมไว้คงเย็นชืดหมดแล้ว”  ส่งยิ้มและพูดคุยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนเพื่อให้คุณครูคนโปรดของน้องชายรู้สึกสบายใจและไม่ต้องคิดมาก

     

                “ขอบคุณมากครับ  งั้นนน...ผมขอตัวไปสอนน้องปลาก่อนนะครับ”  โค้งตัวอย่างสุภาพแล้วรีบเดินตรงไปที่ห้องนั่งเล่นทันที  และคิดว่าลูกศิษย์ที่ชอบพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุดต้องบ่นเรื่องที่เขามาสอนผิดเวลาแน่นอน

     

    แกร๊กก!!

     

                แต่!!เมื่อเปิดประตูเข้ามาด้านใน  สิ่งที่คิดไว้...กลับดูสวนทางกันไปหมด  ไม่มีเสียงเจื้อยแจ้วที่เคยเอ่ยทักทายกันเมื่อเจอหน้าหรือแม้กระทั่งหันมามองว่ามีคนเดินเข้ามาในห้องนี้ก็ไม่สักนิด??!  เพราะลูกศิษย์คนโปรดเอาแต่จ้องโทรศัพท์ที่ถืออยู่ในมือ  แถมยังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่และทำปากส่งจุ๊บให้กับผู้ที่อยู่บนหน้าจอทัชสกีน

     

    เป็นครั้งแรก...ที่คยองซูเห็นน้องปลาใช้เครื่องมือสื่อสารในห้องเรียน  รวมถึงไม่ยอมทักทายกันเหมือนอย่างที่เคยปฏิบัติอยู่เป็นประจำ

     

                (หนูคิดถึงคุณคิมจังเลยฮะ  เมื่อไหร่หนูจะไปนอนกับคุณคิมล่ะ)

     

                “......????!!”

     

                (คุณคิมคิดถึงหนูไหม  หนูเป็นเด็กดีนะเพราะฉะนั้นคุณคิมต้องคิดถึงหนูเยอะๆ  แล้วก็รักหนูมากๆด้วย)

     

                “อะแฮ่มมม!!!...ได้เวลาเรียนแล้วครับน้องปลา”

     

                (อุ้ยย!!!...แค่นี้ก่อนนะฮะคุณคิม  คุณครูคยองดีโอมาแล้ว  ขับรถดีๆนะฮะ  จุ๊บๆร้อยที  บ๊าย  บายยยยย)


     

                จีบปากจีบคอ...พูดจนอยากหยิกให้เนื้อเขียว  แล้วการยกสมาร์ทโฟนขึ้นมาจูบและโบกมือพร้อมเอียงศีรษะไปมาเพื่อกล่าวลาคนที่อยู่บนหน้าจอมือถือ  ก็เป็นภาพที่ทำให้คยองซูยิ้มออกมาอย่างห้ามความรู้สึกเอาไม่ได้  มันดูน่ารัก  น่าหมั่นไส้และดูแก่แดดในเวลาเดียวกัน  แต่ในฐานะที่เขาเป็นคุณครู...คยองซูจึงปล่อยให้บทสนทนาอันแสนหวานและออดอ้อนที่ได้ยินเมื่อครู่ดำเนินต่อไปนานกว่านี้ไม่ได้  เพราะวันนี้ตัวเขาก็มาสายมากแล้ว  และจะรอให้ลูกศิษย์คุยโทรศัพท์จนเสร็จก็คงไม่ต้องเรียนหนังสือกันพอดี

     

                “คุยกับใครครับน้องปลา??  แล้วทำไมต้องหน้าแดงขนาดนั้น?!!

     

                “หนูป่าวหน้าแดงสักหน่อย  แล้วทำไมวันนี้คุณครูดีโอถึงมาสายล่ะฮะ”

     

                “ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย  เมื่อกี๊น้องปลาคุยกับใคร?  บอกครูมาเดี๋ยวนี้นะครับ  ไม่อย่างนั้นคุณครูจะฟ้องพี่อี้กับพี่คริสว่าน้องปลาไม่ตั้งใจเรียน”

     

                “ถ้าหนูบอก...คุณครูคยองห้ามดุนะฮะ  แล้วก็ห้ามโกรธหนูด้วย”

     

                “มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอครับน้องปลา?”

     

                “แล้วถ้าหนูบอกว่า  เอ่อออ...หนูคุยกับ  แฟน  ล่ะฮะ!  มันจะร้ายแรงสำหรับคุณครูดีโอไหมฮะ”

     

                “........?????!!

     

                คำตอบของลูกศิษย์...ทำให้คุณครูอย่างคยองซูคาดไม่ถึงและตกใจอยู่ไม่ใช่น้อย  แต่ก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเหมือนอย่างที่น้องปลากังวล  ถึงแม้การมีแฟนมันจะดูไม่เหมาะกับวัยของเด็กที่มีอายุเพียง  16  ปีก็ตาม  แต่การที่น้องปลากล้าบอกความจริงให้ฟัง  พวกๆพี่ทั้งสองคนก็คงจะทราบเรื่องนี้แล้วด้วยเช่นกัน  คยองซูรู้ตัวดี...ว่าไม่มีสิทธิ์ไปห้ามหรือตักเตือนในเรื่องที่ลูกศิษย์คนนี้มีแฟนเพราะเขามีหน้าที่มาสอนหนังสือตามที่ถูกว่าจ้างมาเท่านั้น  เขาไม่ใช่พ่อแม่  ไม่ใช่ผู้ปกครองและไม่ใช่ญาติพี่น้องเหมือนอย่างอี้ชิงกับคริส

     

    แต่...ถ้าน้องปลาต้องการคำปรึกษาหรือมีเรื่องไม่สบายใจ  คุณครูอย่างเขาก็พร้อมที่จะรับฟังและตอบทุกข้อสงสัยของลูกศิษย์คนโปรดเสมอ

     

                “คุณครูคยองซูโกรธหนูหรือเปล่าฮะ?”

     

                “ไม่โกรธเลยครับ  แต่คุณครูไม่ชอบให้น้องปลาคุยโทรศัพท์ในห้องเรียน”

     

                “หนูจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วฮะ  หนูขอโทษ”

     

                “น่ารักมากกก...งั้นก็เริ่มเรียนกันได้แล้ว”

     

                “แต่คุณครูดีโอยังไม่บอกหนูเลยนะฮะว่าทำไมวันนี้มาสาย  หนูเตรียมของว่างไว้ให้ตั้งนาน  คุณครูก็ไม่มาสักที”

     

                “เมื่อเช้าครูมีธุระด่วนครับ  ก็เลยมาสอนน้องปลาสาย”

     

                “อ๋อออออ...เข้าใจแล้วฮะ  งั้นหนูก็จะไม่โกรธคุณครูคยองเหมือนกัน”

     

                หยิบสมุดการบ้านส่งให้คุณครูคนโปรด...และพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุดจนคยองซูอยากลองหยิกปากบางๆนั่นดูสักครั้งโทษฐานพูดจาแก่แดดมากขึ้นทุกที  บรรยากาศในการเรียนพิเศษเป็นไปด้วยความเรียบร้อย  น้องปลาทำการบ้านถูกเกือบทุกข้อและตั้งใจเรียนเหมือนเช่นทุกครั้ง  แต่!!ก็มีความผิดปกติอยู่อย่างหนึ่งตรงที่วันนี้ลูกศิษย์คนโปรดหาวบ่อยจนต้องเบรกการสอนเพื่อปล่อยให้เจ้าตัวไปล้างหน้าล้างตาถึงสองครั้ง  นั่นจึงทำให้คยองซูรู้สึกเป็นกังวลอยู่ไม่ใช่น้อย  มันทั้งสงสัย  ทั้งเป็นห่วง  เพราะทุกครั้งของการสอน...ลูกศิษย์อย่างเด็กชายโอเซฮุนมักจะถามนั่นถามนี้และชวนคุยไปตามประสาเด็ก  แต่วันนี้...กลับไม่มีแม้แต่เสียงพูดหรือการยกมือเพื่อถามคำถามเลยสักข้อ

     

                “น้องปลาครับ  คุณคะ...ครู!!?

     

    ก๊อก ๆ ๆ ๆ!!

     

              กำลังจะเอ่ยถาม...ถึงสาเหตุที่ลูกศิษย์คนโปรดหาวไม่หยุดด้วยความสงสัย  แต่เสียงเคาะประตูก็ดังขัดจังหวะไปเสียก่อน  ถึงแม้น้องปลาจะตั้งใจเรียนหรือทำการบ้านเก่งมากกว่าเดิม  แต่ความผิดปกติของลูกศิษย์ในวันนี้ก็ทำให้คยองซูอดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี  และจากที่คิดไว้ว่าคนที่มาเคาะประตูจะเป็นอี้ชิงที่นำของว่างมาให้  แต่ก็กลับเป็นพี่เขยของลูกศิษย์ที่เดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าที่ดูเคร่งเครียด!!?

     

                “ขอโทษที่มารบกวนเวลาสอนนะครับ  พอดีมีคนมาขอพบคุณครู...ตอนนี้รออยู่ข้างล่างครับ”

     

                “ใครเหรอครับคุณคริส???!!

     

                “เอ่ออ...คุณครูลงไปดูเองดีกว่าครับ”

     

                “ครับๆ  ขอบคุณมากครับ”

     

                ทั้งสีหน้าทั้งคำพูดที่ดูลำบากใจของคริส...ทำให้คยองซูต้องรีบวางปากกา  และหยุดการสอนเอาไว้ชั่วครู่เพื่อลงไปดูว่าใครเดินทางมาหาตัวเองถึงที่นี่???  ส่วนคนเป็นลูกศิษย์อย่างน้องปลาก็รีบวิ่งตามลงไปข้างล่างด้วยเช่นกัน  เพราะอยากรู้ว่าใครมาหาคุณครูคนโปรดของเขา 

     

    แต่...เมื่อวิ่งลงมาถึงชั้นล่าง  และได้เห็นภาพที่คุณครูกำลังถูกผู้ชายคนหนึ่งกึ่งลากกึ่งจูงพร้อมมีการโต้เถียงกันอยู่ตรงทางเชื่อมระหว่างทางไปร้านกับตัวบ้าน  น้องปลาจึงรู้สึกโมโหขึ้นมาทันทีและรีบเดินเข้าไปหาคนทั้งคู่ด้วยความโกรธ!!!

     

    พลั่กก!!!!

     

                “หยุดนะ!!!...ปล่อยคุณครูของหนูเดี๋ยวนี้!!!!!

     

                ชายร่างสูง...ที่มีใบหน้าเคร่งเครียดและกำลังยื้อยุดฉุดกระชากคุณครูคนโปรดไปตามทางเดินถูกน้องปลาผลักจนเสียหลักไปทางด้านหลังเล็กน้อย  ส่วนคยองซู...ก็ถูกลูกศิษย์ดึงตัวมากอดไว้เหมือนอยากปกป้องทั้งๆที่ขนาดร่างกายของเด็กคนนี้ก็ไม่ต่างจากเขาสักเท่าไหร่  แถมใบหน้าจิ้มลิ้ม...ที่กำลังแสดงอาการโกรธเกรี้ยวก็ไม่ได้ดูน่ากลัวสำหรับผู้มาเยือนเลยสักนิด  

     

                “น้องปลาใจเย็นๆก่อนนะครับ  คุณครูไม่ได้เป็นอะไร”

     

                “หนูไม่เชื่อหรอก  หนูจะแจ้งตำรวจมาจับผู้ชายคนนี้!!!

     

                เด็กน้อยที่ใส่เสื้อยืดคอกลมสีแดงลายการ์ตูนกับกางเกงขาสั้นสีขาว  มันไม่ได้ทำให้ชายร่างสูงรู้สึกกลัวกับคำขู่แบบนั้นเลยสักนิด  แต่กลับทำให้รู้สึกมันเขี้ยวจนอยากจับเด็กคนนี้มาฟัดแก้มให้ช้ำเสียมากกว่า  ตัวเล็กยังกับลูกแมวแต่ทำเหมือนตัวเองเป็นเสือตัวใหญ่ๆ  แล้วปากบางสีสดที่ขยับพูดเสียงแจ๋วก็น่าบีบให้ร้องไห้งอแง

     

                “น้องปลาครับ...จำพี่ไม่ได้แล้วเหรอ?  เราเคยเจอกันแล้วนะครับ”

     

                “อย่าเรียกชื่อนั้นเด็ดขาด!  คุณไม่มีสิทธิ์นะ!!!

     

                “โอเคครับ!!...ไม่เรียกก็ไม่เรียก  แล้วตกลงหนูจำพี่ได้หรือยัง??  เราเคยเจอกันที่งานเลี้ยงรุ่นไงครับ  จำได้ไหม?”

     

                “จำไม่ได้!!...แล้วก็ไม่อยากจำด้วย  คุณกลับไปเลยนะ  ไม่งั้นหนูจะแจ้งตำรวจ!

     

                หงุดหงิดกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น...แถมชายตรงหน้ายังยิ้มเจ้าเล่ห์และพูดจาเหมือนสนิทสนมกันมานาน  น้องปลาไม่อยากจำอะไรทั้งนั้นในตอนนี้  แล้วการเรียกเขาด้วยชื่อพิเศษก็ยิ่งทำให้โมโหมากขึ้นกว่าเดิม  ขนาดหมอซูโฮที่เป็นเพื่อนสนิทกับพี่เขยก็ยังไม่กล้าเรียกเขาด้วยชื่อชื่อนั้น  แล้วผู้ชายคนนี้เป็นใครถึงกล้าเอ่ยมันออกมา  ทำร้ายคุณครูโปรดยังไม่พอ  แล้วคิดจะมาตีสนิทกันอีก  และ.....  

     

                “น้องปลาาาา...เกิดอะไรขึ้นครับ  เสียงดังไปถึงข้างนอกนู้นนน!!??”

     

                เห็นคนที่ตัวเองคิดถึงมากที่สุด...เดินตรงเข้ามาในที่เกิดเหตุพร้อมเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน  น้องปลาจึงละออกจากการปกป้องคุณครูคนโปรด  แล้วรีบวิ่งเข้าไปกอดเจ้าของกายสีน้ำผึ้งทันที  แถมยังรู้สึกว่าตัวเองปลอดภัยมากขึ้นหลังจากที่ยืนเถียงกับชายแปลกหน้าอยู่นาน

     

                “คุณคิมมมมมมมมม!!!  ช่วยหนูด้วยยยย!!

     

                “ไงครับเด็กดี...จะให้คุณคิมช่วยอะไร  หื้มม?”

     

                “คุณคิมจัดการผู้ชายคนนั้นให้หนูหน่อยสิฮะ  ผู้ชายคนนั้นนิสัยไม่ดี  คุณคิมต่อยมันเลย”

     

                “ใครเหรอครับน้องปลา?”

     

                “นั่นไงฮะ...คนใจร้ายยืนอยู่ตรงนั้น!!

     

                “(เหี้ยย!!..ป๋ามาได้ไงวะ?)”

     

                สบถได้แค่ในใจ...เมื่อผู้มาใหม่อย่างคิมจงอินเห็นรุ่นพี่ที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน  คณะเดียวกันและเป็นรุ่นใหญ่จนไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากด่ายืนอยู่ตรงหน้า  และถ้าจะให้จัดการรุ่นพี่คนนี้ด้วยการต่อยเหมือนอย่างที่แฟนเด็กสั่งเมื่อครู่  ตัวเขาก็คงทำไม่ได้อีกเช่นกัน

     











     










    12.47 น.

     

                “เมียยยยยยย!!!

     

                เสียงโวยวายของน้องปลาในตอนแรก...ทำให้คนเป็นพี่เขยพี่ชายและจงอินต้องมานั่งรวมตัวกันอยู่ในห้องรับแขกอย่างหาทางหลีกเลี่ยงไม่ได้  และเมื่อรู้ว่าชายแปลกหน้าคนนี้เป็นใครหรือมาหาคยองซูด้วยสาเหตุอะไรก็ยิ่งทำให้เสียงโวยวายดังขึ้นกว่าเดิม  เพราะชายแปลกหน้าที่เพิ่งมีปากเสียงกับน้องปลาเมื่อครู่ก็คือรุ่นพี่  โจอินซอง  ผู้เป็นทั้งรุ่นพี่ในคณะวิศวะฯและเป็นทั้งเจ้าของสถานบันเทิงสุดหรูที่ใช้จัดงานเลี้ยงรุ่นไปเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

     

                คนเป็นรุ่นน้องอย่างคริสและจงอิน...ต่างอุทานออกมาในประโยคเดียวกันเมื่อรู้ว่ารุ่นพี่ของตัวเองเป็นคนรักของคุณครูคยองซู  ส่วนคนที่ดูตกใจมากกว่าใคร  และตกใจจนพูดอะไรไม่ออกก็คือลูกศิษย์คนโปรดอย่างน้องปลา  เด็กน้อยได้แต่กระพริบตาปริบๆและมองหน้าทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องรับแขกสลับกันไปมา  

     

                “เออออ!!!...คุณครูของน้องพวกมึงเป็นเมียกูเอง  ใครมีปัญหาอะไร?  ว่ามา...!!

     

                “(เหี้ยย...ใครจะกล้ามีปัญหาด้วยวะ  แม่งโหดทั้งผัวทั้งเมีย!)”

     

                รุ่นน้องอย่างคริส...บ่นได้แค่ในใจเพราะตอนแรกที่เจออิซองอยู่ที่หน้าบริษัท  เขาก็ไม่ทราบจริงๆว่ารุ่นพี่ต้องการมาพบคุณครูคยองซูด้วยสาเหตุใดหรือมาที่นี่ได้อย่างไร  รวมถึงสีหน้าท่าทางที่ดูเคร่งเครียดของอินซองก็ทำให้คริสไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากถาม  ยิ่งพอมารู้ความจริงว่าใครเป็นใคร  มีความสัมพันธ์กันเช่นไรและจะทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไร...ก็ยิ่งทำให้ไม่อยากรู้อะไรทั้งนั้น

     

                คริสทราบดี...ว่ารุ่นพี่ของตัวเองเป็นคนที่จริงจังกับชีวิตมากแค่ไหน  แถมยังโหดมากที่สุดในรุ่นอีกด้วย  และคยองซูก็เป็นคุณครูในโรงเรียนมัธยมชื่อดัง  ที่ถูกขนานนามว่าเจ้าระเบียบและดุจนเด็กๆในโรงเรียนต่างก็กลัวกันทุกคน  แล้วเมื่อโหดกับโหดมาเจอกัน...ใครมันจะกล้ามีปัญหาด้วย  ส่วนรุ่นน้องผิวเข้มก็ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ  เพราะถึงแม้อินซองจะเป็นรุ่นพี่ที่จบไปนานมากแล้ว  และเจอกันแค่วันที่มีงานเลี้ยงรุ่นในแต่ละปี  แต่กิติศัพท์ความโหดที่ได้ยินกันมารุ่นสู่รุ่นก็ทำให้จงอินไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาสักคำ  เพราะขนาดรุ่นพี่อย่างคริสยังโหดขนาดนี้  แล้วรุ่นใหญ่อย่างอินซองจะโหดขนาดไหน!!?

     

    แต่......

     

                หนูมี!!!”  ใครจะโหดแบบไหน  รุ่นใด...น้องปลาไม่สนทั้งนั้น  และเมื่อตั้งสติได้หลังจากที่นั่งเงียบอยู่นาน  เด็กตัวน้อยๆในสายตาของคนทั้งห้องรับแขก  ก็ลุกขึ้นจากโซฟาก่อนยืนเท้าเอวพูดจาเสียงแข็งอย่างไม่นึกกลัวชายแปลกหน้าคนนี้อีกแล้ว

     

                “หึ หึ!”  อดหัวเราะไม่ได้...เพราะต่อให้เด็กตรงหน้าจะพูดด้วยเสียงที่ดังกว่านี้  อินซองก็ยังคิดว่าน่ารักอยู่ดี  ยิ่งปากเล็กๆสีสดพ่นคำที่ดูมั่นใจออกมามากเท่าไหร่ก็ยิ่งน่ารักมากขึ้นเท่านั้น  นานแค่ไหนแล้วที่ไม่มีใครกล้าเถียงเขาแบบนี้  อินซองจึงรู้สึกว่าน้องปลาเป็นเด็กที่ใจกล้ามากอยู่พอสมควร

     

                “ขำอะไร  คนนิสัยไม่ดี...เป็นสามีภรรยากันก็ต้องพูดจาเพราะๆสิ  พูดดีๆน่ะเป็นไหม??  //  คุณครูคยองไม่ต้องไปรักผู้ชายคนนี้เลยนะฮะ  คนใจร้าย!!”  หันไปต่อว่าคนนั้นคนนี้ด้วยท่าทางที่พาให้คนในห้องรับแขกต่างส่ายหัวกันไปหมด  แถมยังกอดคุณครูคนโปรดไว้แน่นเหมือนอยากปกป้อง


    !!!!!!!!!!!!!!!

     

                “พี่จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว  หนูยกโทษให้พี่ได้ไหมครับบบ...ถ้าคุณครูคยองซูไม่รักพี่  พี่ต้องเสียใจมากแน่ๆเลย”  พูดด้วยความสำนึกผิด  แถมยังคุกเข่าลงกับพื้นและเอามือประสานกันไว้บนอกเพราะรู้สึกพ่ายแพ้ให้กับความใจกล้า  ความน่ารัก  ความตรงไปตรงมาของน้องปลา  และการกระทำของอินซองก็พาให้รุ่นน้องอย่างคริสและจงอินถึงกับไม่เชื่อสายตาตัวเอง  ยิ่งเฉพาะกับคริส...ก็ยิ่งไม่อยากเชื่อเนื่องจากความโหดที่เคยได้เห็นหรือได้เจอมากับตัวมันคงกลายเป็นแค่เสียงลือเสียงเล่าอ้างก็วันนี้  

     

                “โอเค้!!!...หนูยกโทษให้ก็ได้!!  แต่พี่อย่าทำคุณครูของหนูเจ็บอีกนะฮะ  ไม่อย่างนั้นหนูจะให้คุณครูมานอนที่นี่  แล้วก็จะหาแฟนใหม่ให้ด้วย  พี่เฉินหล่อนะ...หนูบอกไว้เลย  ฮึ!!”  ละมือจากการปกป้องคุณครูคนโปรดก่อนยืนกอดอกแสดงสีหน้าจริงจังพร้อมพูดเจื้อยแจ้วด้วยท่าทางมั่นใจ  น้องปลาคิดเสมอ...ว่าคนที่เป็นสามีภรรยาต้องไม่ลงไม้ลงมือกันเด็ดขาด  ต่อให้มีปากเสียง  ไม่มีความเข้าใจหรือเกิดความขัดแย้ง  คนทั้งคู่ก็ต้องพูดจากันให้ดีและควบคุมอารมณ์ให้ได้  เพราะเจ้าตัวไม่เคยเห็นพี่เขยตบตีและใช้ความรุนแรงกับพี่ชายของเขาเลยสักครั้ง  แม้แต่การพูดด้วยความโกรธเกรี้ยวก็ยังไม่เคย



    ...

     

    ...

     

    ...

     

    ...

     

    ...

     


                กว่าปัญหาต่างๆจะจบลงได้ด้วยดี...ก็ต้องใช้เวลาในการปรับความเข้าใจอยู่นาน  และการเรียนพิเศษในวันนี้ก็ต้องยุติไว้เพียงเท่านั้น  ไม่มีการบ้าน  ไม่มีการเรียนเสริมในภายหลัง  แถมยังเกินเวลาในการทานมื้อเที่ยงไปหลายนาที  แต่...เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันก็ทำให้คริสได้คำตอบแล้วว่าสิ่งที่เขาเห็นในห้างสรรพสินค้าเมื่อหลายวันก่อนคืออะไร...คุณครูซื้อเม้าท์ไปให้แฟน  แล้วแฟนก็คือรุ่นพี่ของเขาจริงๆ  การจับมือ  การโอบไหล่และรอยยิ้มของคนทั้งคู่ที่เขาเห็นในวันนั้น  มันคือความจริง  ถือเป็นคู่รักที่มีชีวิตต่างกันมากเหลือเกิน  คนหนึ่งเป็นเจ้าของผับสุดหรู  อีกคน...เป็นคุณครูในโรงเรียนมันธยมชื่อดัง  คนที่ทำงานคนละเวลา  คนละหน้าที่  คนละความรับผิดชอบ...แต่ก็มารักกันได้  

     

    VROOMMM!!

    VROOMMM!!

     

                เสียงรถยนต์ของอินซองและคยองซูเคลื่อนตัวออกไปจนรั้วบ้าน  โดยมีมือน้อยๆของลูกศิษย์คอยโบกไปมาเพื่อเป็นการร่ำลาคุณครูของตัวเอง  ขาเรียวในกางเกงสีขาวรีบวิ่งกลับเข้ามาในบ้านเมื่อประตูอัตโนมัติถูกปิดลง  เพราะตอนนี้มีคนสำคัญรอเขาอยู่ในห้องนอน  น้องปลาเดินเลี้ยวเข้าไปในห้องนั่งเล่นเพื่อเก็บอุปกรณ์ในการเรียนหนังสือ  แล้วรีบกวาดดินสอ  ยางลบ  สมุดการบ้านที่วางอยู่บนโต๊ะใส่ลงในกระเป๋าเป้ปลาวาฬใบใหญ่  และเดินไปที่ห้องนอนทันทีเมื่อเก็บของทุกอย่างเรียบร้อย

     

    ปังง!!!

     

                “คุณคิมมมมมมม!!

     

    อั่กก!!

     

                “โอ้ยย!

     

                ปิดประตูเสียงดังและโยนกระเป๋าเป้ที่เคยหวงนักหวงหนาลงพื้นอย่างไม่ใยดี  พร้อมเรียกชื่อแล้วกระโดดลงไปทับเจ้าของกายสีน้ำผึ้งที่นอนอยู่บนเตียงด้วยความคิดถึงโดยไม่สนว่าใครจะเจ็บหรือไม่  เพราะตอนนี้มันมีความสุขจนเก็บอาการดีใจเอาไว้ไม่อยู่  ส่วนคนที่ถูกกระโดดลงมาทับร่างอย่างจงอินก็ได้แต่ร้องโอดโอย  และไม่อยากว่ากล่าวเด็กน้อยเนื่องจากทราบดีว่าน้องกำลังรู้สึกเช่นไร  เพราะตัวเขา...ก็รู้สึกที่ไม่ต่างไปจากน้องปลาเลยสักนิด

     


                มันคิดถึง  อยากกอด  อยากหอม  อยากอยู่ใกล้ๆ  เพราะหลังจากที่โดนคำสั่งห้ามพาน้องปลามานอนค้างที่บ้าน  เขาก็ไม่ค่อยได้แตะเนื้อต้องตัวแฟนเด็กสักเท่าไหร่  และตอนที่มารับสินค้าที่สั่งไว้ก็ทำได้อย่างมากแค่จับมือหรือไม่ก็หอมแก้มกันบ้าง  งานก็เยอะ  เดินทางไปติดตั้งตู้ปลาที่ต่างจังหวัดก็บ่อย  นอนก็ดึก...คุณคิมจึงคิดถึงปลาตัวน้อยจนอยากขอน้องแต่งงานให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเสียเลย

     


                แต่...คำสั่งอันแสนโหดร้ายของว่าที่พ่อตา  มันก็ทำให้จงอินมีเวลาสร้างอะไรบางอย่างเพื่อเซอร์ไพรส์ลูกชายคนเล็กของท่านเช่นกัน  แถมเมื่อเช้า...คำสั่งต่างๆที่ห้ามนั่นห้ามนี่จนทำให้เขาเหี่ยวแห้งมาเกือบเดือนก็ถูกได้ยกเลิกแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย  จงอินเข้าใจดี...ว่าการที่คนเป็นพ่อออกคำสั่งมาแบบนั้นก็เพราะเป็นห่วงลูกชายที่มักเจ็บตัวอยู่บ่อยครั้งเวลามานอนค้างกับเขาที่บ้าน  แต่...ความเป็นห่วงก็กลับกลายเป็นการทำร้ายน้องปลาไปโดยไม่ได้ตั้งใจเนื่องจากการวีดีโอคอลหากันจนดึกดื่นเป็นเวลาติดต่อกันมาหลายวัน  มันย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพเด็กน้อยมากกว่าผู้ชายบ้างานอย่างเขาเสียอีก

     

    ฟอดดดด!!

    ฟอดดดด!!

     

                “คิดถึงพี่มากขนาดนั้นเลยเหรอครับน้องปลา”  ถูกคนที่นอนทับอยู่บนอกหอมแก้มซ้ายแก้มขวาทำตาปริบๆจนต้องถามให้แน่ใจว่าเด็กน้อยรู้สึกอย่างที่แสดงออกมาหรือเปล่า??  และใช่ว่าจะไม่รู้คำตอบ...แต่ที่ต้องถามเพราะอยากได้ยินเสียงหวานเจื้อยแจ้วให้ฟังต่อหน้ามากกว่าได้ยินผ่านทางโทรศัพท์เหมือนหลายวันที่ผ่านมา

     

    จุ้บบ!!

    จุ้บบ!!

     

                “คิดถึงฮะ  คิดถึงม๊ากกกกกกก  มากๆ...เยอะๆ ๆ ๆ  เลยฮะ”  ยื่นหน้ายื่นตา...ส่งปากบางสีหวานจูบลงบนอวัยวะเดียวกันของด้านล่างอย่างไม่นึกถึงใจคนโดนจูบโดนหอมบ้างเลยสักนิดว่าจะรู้สึกเช่นไร  เพราะตอนนี้...จงอินอยากจับเด็กขี้อ้อนที่นอนขยับยุกยิกไปมาอยู่บนอกฟัดให้จมเตียงด้วยความมันเขี้ยว  และสิ่งที่น้องปลาทำไปทั้งหมดหรือสิ่งที่พูดออกมาแต่ละประโยคมันก็คือความรู้สึกที่อยู่ในใจของเขาเช่นกัน 

     

                การไม่ได้ไปนอนค้างบ้านแฟนมานานเกือบเดือน...รวมถึงไม่ได้ไปเล่นกับพวกพี่ๆในโรงงานบ้านปลามันทำให้ลูกชายคนเล็กของตระกูลโอรู้สึกเหงา...ทั้งๆที่เมื่อก่อนก็อยู่แต่ในบ้านและเล่นกับเจ้าหางสวยในบ่อแค่นี้ก็มีความสุขมากแล้ว  แต่พอได้มาเจอกับครอบครัวของคุณคิมมันกลับทำให้เขามีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม  น้องปลาคิดถึงและอยากเจอทุกคนในบริษัทบ้านปลาไม่ว่าจะเป็น  บยอนนี่  พี่แทมิน  พี่ยอลหรือคนอื่นๆในโรงงาน

     

    แต่ถ้าคิดถึงม๊ากกกก...มากเยอะๆแบบที่เจ้าตัวพูดไปเมื่อครู่ก็คงมีแค่คนเดียวเท่านั้นนั่นก็คือ  “คุณคิม”

     

                “พี่ก็คิดถึงน้องปลาเหมือนกันนะครับ  คิดถึงม๊ากกก...มากกว่าน้องปลาอีก  แล้วก็เยอะ ๆ ๆ...เป็นสิบเท่าเลยครับ”

     

                “งื้ออ...หนูรักคุณคิมที่สุดเลยฮะ”

     

                “ปากหวานจังเลยนะครับ...เด็กดีของคุณคิม”

     

                “คุณคิมรู้ได้ไงว่าหนูปากหวาน?...คุณคิมยังไม่ได้ชิมเลยน้าาาาา”

     

                “งั้นนนน...ขอชิมหน่อยนะครับว่าหวานจริงๆหรือเปล่า”

     

                “อื้มมมมม!!

     

                เจ้าของกายสีน้ำผึ้ง...จับเด็กที่พูดจาเชิญชวนด้วยถ้อยคำที่ดูแก่แดดเกินอายุให้นอนราบลงไปกับที่นอนลายสัตว์น้ำสีส้มแสนน่ารัก  แล้วประกบปากป้อนจูบให้อย่างอ่อนโยน  ลิ้นอุ่นชื้น...กวาดต้อนกอบโกยความหวานด้วยความรู้สึกโหยหาและคิดถึง  ส่วนน้องปลาก็ค่อยๆเอียงใบหน้าเรียวสวยเพื่อปรับองศาให้ถนัดต่อการรับสัมผัสมากยิ่งขึ้น  และจากรสสัมผัสที่แสนอ่อนโยนก็เริ่มร้อนแรงเมื่อการตอบสนองของเด็กน้อยมันพาลให้อารมณ์ต่างๆดับลงได้ยาก  มือหนาลูบไล้  บีบรัดและบดคลึงไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งของคนที่จูบเก่งขึ้นจนน่าตกใจ  แต่ก็ทำให้รู้สึกดีอยู่ไม่ใช่น้อย  ปากหยักละจากความหอมหวานเพื่อให้อีกฝ่ายได้หายใจเพียงชั่วครู่ก็จูบใหม่อีกครั้งอย่างห้ามความรู้สึกเอาไว้ไม่ได้

     

    แต่.....

     

    Rrrrr!!

    Rrrrrr!!!

    Rrrrrrr!!!!

    Rrrrrrrr!!!!!

     

                “อื้มมม!  คะ..คุณคิม  อืออ!!..รับโทรศัพท์  อื้มม!!  กะ...ก่อนฮะ”

     

                “เฮ้ออออ!

     

                ก่อนที่อารมณ์ต่างๆทั้งร้ายและดีจะทำให้จงอินทำอะไรเกินเลยไปมากกว่าแค่การจูบ  เสียงโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงก็ดังขึ้นฉุดสติให้เจ้าของเครื่องต้องละออกจากความหอมหวานที่กำลังกอบโกยอยู่อย่างมีความสุขให้รีบล้วงเข้าไปหยิบสมาร์ทโฟนออกมากดรับสายด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจ  ส่วนคนถูกจูบ...ก็รีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมใบหน้าขวยเขินทันทีเพราะรู้สึกอาย

     

                “ขัดความสุขผมตลอดเลยนะเจ๊!!  โทรมามีไร!!??”

     

                (ความสุขส้นตีนอะไรของมึงอีกล่ะ!!)

     

                “ไม่ต้องมาอยากรู้  ตกลงโทรมามีอะไร??!!!

     

                (ลูกค้าขอปลาเพิ่ม  กูส่งรายชื่อปลาให้มึงดูตั้งนานแล้วมึงไม่กดอ่านสักทีกูเลยต้องโทรมานี่ไง!!  แล้วมึงเป็นบ้าอะไร...มาโวยวายใส่กูทำไม??)

     

                “เออ!!...ขอโทษก็ได้วะ!!!

     

                (กลับมามึงโดนตบแน่...จงอิน!!)

     

    ตู้ดด  ตู้ดดด!!!!!

     

                รับสายด้วยความหงุดหงิด...และจบการสนทนาด้วยความหงุดหงิดที่มีมากขึ้นกว่าเดิม  แถมยังมีงานมาให้ทำทั้งๆที่วันนี้ตั้งใจจะมาหาแฟนเด็กโดยเฉพาะ  จงอินพยายามปรับสีหน้าและอารมณ์ให้เป็นปกติ  แล้วค่อยๆดึงผ้าห่มออกจากใบหน้าจิ้มลิ้มก่อนโน้มกายมาหอมแก้มกลมๆจนมันยุบไปตามแรงกด

     

                “เดี๋ยวพี่ลงไปสั่งของกับเฮียคริสก่อนนะครับ  น้องปลาไปอาบน้ำเตรียมตัวกลับบ้านพร้อมพี่ได้เลย”

     

                “หนูจะไปได้ยังไง?  ก็พ่อสั่งห้ามไว้หนิฮะ!!

     

                “ท่านไม่ห้ามแล้วครับ  คุณพ่อน้องปลาโทรมายกเลิกคำสั่งกับพี่เมื่อเช้า  แต่ถ้าน้องปลาไม่ชะ..เชื่อ”

     

                “เย้ๆ ๆ ๆ .....!!

     

                “อย่าเพิ่งดีใจตอนนี้...เพราะพี่มีของบางอย่างจะเซอร์ไพรส์น้องปลาด้วยนะ”

     

                “อะไรเหรอฮะคุณคิม??..บอกหนูหน่อย  หนูอยากรู้!!?”

     

                “บอกตอนนี้ก็ไม่เรียกเซอร์ไพรส์สิครับ”

     

                “งั้นหนูไปอาบน้ำดีกว่า...คุณคิมรีบไปสั่งของเร็วๆนะฮะ  เดี๋ยวหนูจะไปรอที่รถ”

     

    ปังงง!!!!

     

                รีบคว้าผ้าเช็ดตัว...วิ่งเข้าห้องน้ำและปิดประตูจนดังไปสามบ้านแปดบ้านด้วยความเร่งรีบเมื่อรู้ว่าคำสั่งของคุณพ่อถูกยกเลิก  มันดีใจที่จะได้ไปเล่นกับทุกคนที่บริษัทบ้านปลาแถมยังมีเซอร์ไพรส์รออยู่อีกด้วย  ส่วนคนที่ตั้งใจทำเรื่องเซอร์ไพรส์ให้กับคนที่ตัวเองรักอย่างคิมจงอินก็รีบเดินลงไปหาคริสที่โกดัง  พร้อมกับสั่งปลาตามจำนวน  ขนาด  สีและประเภทของสัตว์น้ำตามแบบที่พี่ชายต่างแม่ส่งข้อความมาบอกทันที

     

    ...

     

    ...

     

    ...

     


    VROOMM!!!!

     

                “บ๊าย  บายนะฮะพี่คริส  บ๊าย  บายนะฮะพี่อี้”

     

                “อย่าซนอีกนะน้องปลา  เดี๋ยวคุณพ่อโทรมาดุพี่อีก”

     

                “ฮะพี่อี้...หนูรักพี่อี้นะฮะ  รักที่สุดในโลกเลย”

     

                “โปะ  โปะ  กันหน่อยซิน้องปลา”

     

    จุ้บ!!

    จุ้บ!!

    จุ้บ!!

     

                นานๆครั้ง...คนเป็นสามีจะได้เห็นภรรยาแสดงความรักแบบนี้กับน้องชาย  เพราะปกติจะได้ยินแต่เสียงบ่น  เสียงดุและเสียงว่ากล่าวที่คอยพร่ำสอนน้องคนเล็กจนปากแทบฉีก  และภาพของการแสดงความรักระหว่างพี่น้องสองคนก็สามารถสร้างรอยยิ้มให้กับจงอินได้เช่นกัน  มือน้อยๆ...โบกลาพี่ชายทั้งสองคนจนเมื่อรถเคลื่อนตัวออกไปจากบริษัทมีปลา  คนขับก็รีบปิดกระจกทันทีและไม่แวะซื้ออะไรทั้งนั้นเพราะไม่อยากให้ถึงบ้านเย็นค่ำมากนัก  และต้องการให้แฟนเด็กนอนก่อนสองทุ่ม

     









     








    บริษัท  บ้านปลา

    17.49 น.

     

    เอี๊ยดดด!

     

                “เดี๋ยวฮะ!!...คุณคิมเอาผ้ามาปิดตาหนูทำไม??”

     

                “ก็เซอร์ไพรส์ไงครับน้องปลา  พี่เลยต้องปิดตาไว้ก่อน”

     

                ขับรถกลับมาด้วยความเร่งรีบ...แต่จอดลงด้วยความนุ่มนวลเมื่อมาถึงบ้าน  และหยิบผ้าเช็ดหน้าที่เตรียมไว้ในลิ้นชักหน้ารถออกมาปิดตาแฟนเด็กเอาไว้  เจ้าของเซอร์ไพรส์...พาคนที่แต่งกายได้เข้ากับบางสิ่งที่เขาเตรียมไว้ให้เหมือนรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า  เพราะการใส่เสื้อยืดสีสันสดใสกับกางเกงขาสั้นเสมอเข่า  มันช่างเหมาะกับของชิ้นใหญ่ที่เขาตั้งใจทำในช่วงที่ถูกว่าที่พ่อตาลงโทษ...และเซอร์ไพรส์ที่ว่าก็สร้างเสร็จทันเวลาพอดี

     

                “พื้นต่างระดับนะครับน้องปลา  ค่อยๆเดินนะครับ”

     

                “ถึงหรือยังฮะ..คุณคิม?  ทำไมไกลจัง??”

     

                “อีกนิดนึงครับน้องปลา”

     

                เดินลัดจากหน้าบ้าน  ผ่านโรงงานและเลี้ยวซ้ายผ่านห้องปลอดเชื้อที่น้องปลาชอบเข้าไปคุยกับเจ้าพวกหางสวยบ่อยๆก็ถึงของเซอร์ไพรส์ชิ้นใหญ่ที่จงอินเตรียมไว้ให้  จากนั้นก็ค่อยๆเปิดผ้าออกจากดวงตาคู่สวยอย่างช้าๆ  และ......

     

                “ว้าววววว...สระว่ายน้ำ!!!!!

     

                “ชอบไหมครับน้องปลา?”

     

                “ชอบฮะ!!  ชอบมาก!...คุณคิมทำให้หนูเหรอฮะ?”

     

                “ครับ...พี่ทำให้น้องปลา  น้องปลาอยากว่ายน้ำไหมครับ?”

     

                “ฮึกก!!...อยากฮะ  ฮึก  ฮึกก!

     

                “เด็กดีของคุณคิมร้องไห้ทำไม...หื้มม?”

     

                “หนูดีใจ  ฮึก!!  คุณคิมใจดีที่สุด  รู้ใจหนูที่สุด  ฮึกกก!  หนูรักคุณคิม  รักกว่าใครเยอะๆ ๆเลยฮะ”

     

                “คุณคิมก็รักน้องปลานะครับ  รักมากๆ  มากกว่าใคร”

     

                เจ้าของบริษัทบ้านปลาอย่างคิมจงอิน...ลงทุนทุบทางเดินที่เคยเป็นสนามหญ้า  ซึ่งติดอยู่ระหว่างตัวบ้านกับโรงงานออกทั้งหมด  แล้วสร้างสระน้ำขึ้นมาแทนที่  และจ้างช่างให้สร้างกำแพงอิฐกั้นโรงงานกับสระน้ำเอาไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว  สระน้ำด้านหนึ่ง...ทำจากกระจกที่ได้ลูกน้องในโรงงานเป็นคนช่วยกันทำ  ส่วนการเดินท่อหรือวางระบบบำบัดน้ำรวมถึงการออกแบบสระน้ำทั้งหมดเขาเป็นคนทำเองทุกขั้นตอน  แต่เรื่องของการตกแต่งสถานที่อย่างเช่นการต่อเติมส่วนต่างๆให้เชื่อมกับตัวบ้าน และการปูกระเบื้องสระน้ำก็เป็นหน้าที่ของช่างอีกหนึ่งทีมที่จ้างมาเพื่อทำงานนี้โดยเฉพาะ


     


     


    ...

     

    ...

     

    ...

     

    ...

     

    ...

     

    ตูมมมมมม!!!!!

    ตูมมมมมม!!!!!

     

                “คุณคิมมมมมม!!...ช่วยหนูด้วยยยยย!!!  บยอนนี่กับพี่ยอลแกล้งหนู!!

     

                “ฮ่า  ฮ่า  ฮ่า ^_^)”












     










    100%

    **เมียผมเองครับ



    Talk.

    น้องปลากลับมาแล้วค้าาาา...ขอโทษที่หายไปนานนนนน  นะคะ (กราบสามครั้ง)

    หลังจากนี้...เราขออนุญาตหยุดอัพฟิคเรื่องนี้ไปก่อน  เพราะต้องการรีไรท์เรื่อง #ดอกไม้ของเจ้านายให้เสร็จ  (สมองเรารวนหนักจริงๆค่ะ T-T)

    และเราก็มีของเล็กๆน้อยๆจะมอบให้นักอ่านทุกคนด้วยนะคะ  เรารบกวนขอที่อยู่ของทุกคน...โดยการส่งเมลมาให้เราที่  Mokara16@hotmail.com  หรือคอมเม้นท์ที่ฟิคตอนนี้ได้เลย  หรือจะ DM...มาทางทวิตเตอร์ก็ได้นะคะ  เราตั้งใจทำให้นักอ่านทุกคนจริงค่ะ ^-^)

    ขอบคุณทุกคนที่ยังคงติดตาม  และไม่ลืมฟิคเรื่องนี้ของเรา

    ขอบคุณคอมเม้นท์  ขอบคุณนักอ่านทุกคนมากๆค่ะ

    แล้วจะเข้ามาตรวจคำผิดเรื่อยๆนะคะ

    รัก 

    Cr. Decoist.com

    #ฟิคน้องปลา 

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×