คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #27 : ☏ พิเศษสาม ☏
พิเศษ 3.
บริษัท บ้านปลา
05.00
น.
ติ๊ดด ๆ ๆ ๆ!!!
ติ๊ดด ๆ ๆ ๆ !!!
“อืออ...”
เหมือนจะเช้าเกินไปสำหรับการตื่นนอนของเด็กอายุ 16
ปี...แต่เสียงของนาฬิกาปลุกที่ตัวเองตั้งไว้เมื่อคืนมันพาให้ต้องลืมตาท่ามกลางความมืด มือบางรีบคว้าโทรศัพท์จากหัวเตียงมากดปิดเสียงเตือนและทิ้งไว้บนหมอนเหมือนของไร้ค่า เครื่องมือสื่อสารของใครหลายๆคนอาจเป็นสิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้
แต่สำหรับเด็กที่ชอบปลาเป็นชีวิตจิตใจ...เจ้าโทรศัพท์เครื่องนี้มันมีไว้แค่ตั้งปลุกกับเล่นเกมเท่านั้น
ยิ่งการตั้งปลุกก็ยิ่งไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์เพราะถ้าไม่จำเป็นต้องตื่นเช้าแบบวันนี้ เขาก็แทบไม่ได้จับโทรศัพท์เลยสักนิด
ห้องปลอดเชื้อสนุกกว่าตั้งเยอะ
ทำกับข้าวก็สนุกและในโรงงานบ้านปลาก็มีอะไรให้เล่นเยอะแยะ ไประบายสีปะการังกับพี่แทมินก็ได้
^O^
โทรศัพท์มันเอาไว้ใช้สื่อสารก็จริง...แต่เด็กอย่างเขารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องใช้เพราะลูกค้าที่ต้องการบ้านปลาทุกคนต้องโทรหาคุณคิมเท่านั้น ส่วนใครที่อยากได้สัตว์น้ำสวยๆไปเลี้ยงหรือใช้ตกแต่งสถานที่ก็ให้ติดต่อพี่คริสจ๋ากับลูกน้องที่บริษัท แต่...ถ้าคุณพ่อคิดถึง พี่อี้ชิงมีปัญหา และถ้าลุงจ๋าป้าจ๋าอยากพบ น้องปลาก็จะรีบเดินทางไปหาทันที
แล้วการตื่นเช้าในวันนี้ก็เพื่อจะรีบเดินทางไปหาคุณปลาวาฬจ๋าด้วยตัวเอง
ไกลแค่ไหนก็จะไป
ไม่มีใครห้ามได้และไม่มีใครกล้าขัดใจอีกต่างหาก ขนาดอี้ชิงที่ว่าดุ พี่คริสจ๋าที่ว่าเข้มงวดหรือว่าจะเป็นคุณครูคยองดีโอที่เคารพก็ไม่สามารถห้ามความต้องการของเด็กคนนี้ได้เลยสักคน ยิ่งเป็นคุณคิมก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึง อะไรที่ภรรยาตัวน้อยต้องการก็จะสรรหามากองไว้ตรงหน้า ถ้าดวงดาว ท้องฟ้าหรือมหาสมุทรมันสามารถหยิบมาให้เชยชมได้อย่างใจนึก คนเป็นสามีก็คงหอบมัลดีฟมาไว้ที่บริษัท หลงกว่านี้
รักกว่านี้...ไม่มีอีกแล้ว
อะไรที่ทำให้น้องปลามีความสุข
คุณคิมก็พลอยมีความสุขไปด้วย แต่.....
“....!!!”
“อ๊ะ!!...อื้มมม”
ความสุขของคุณคิม...ก็คือการได้ฟัดภรรยาแต่เช้า เครื่องออกแปดโมง>>ตอนนี้ตีห้ากว่า>>เวลาเหลือเฟือ กายน้อยๆที่กำลังลุกออกจากเตียงเพื่ออาบน้ำและตรวจเช็คของในกระเป๋าก่อนออกเดินทางต้องล้มลงไปบนความนุ่มลายปลาดาวเพราะถูกมือหนาคว้าเอาไว้
กายสมส่วน...บดเบียดกดคนใต้ร่างพร้อมจุมพิตที่แสนดูดดื่ม
ลิ้นร้อนกวานต้อนเหมือนโหยหาทุกอย่างมานานทั้งๆที่จูบกันอยู่ทุกวัน ผิวพรรณของเด็กวัยเพียงสิบหกปีมันช่างหอมหวาน ความขาวเนียนที่แม้จะมองไม่เห็นในความมืดยังพาให้สติเลือนหาย
ไม่มีวันไหน...ที่ภรรยาตัวน้อยจะทำให้คนเป็นสามีหยุดคลั่งได้เลยสักวัน สะโพกมนถูกลูบก่อนบีบเค้นจนน่าจะขึ้นริ้ว
ปากคมปลดปล่อยรสจูบเพียงเสียววินาทีและเติมรสสัมผัสอีกครั้งอย่างไม่อาจห้ามใจ ชุดนอนที่เคยอยู่ครบชิ้นก็เหลือเพียงช่วงบนเท่านั้น
แถมยังหลุดลุ้ยเพราะกระดุมมันถูกปลดอย่างรีบร้อน
ส่วนอาภรณ์เจ้าของผิวเข้มที่เคยมีแค่กางเกงติดกาย...ตอนนี้ก็ไม่เหลืออะไรแล้ว
“น้องปลาาา...”
“คะ...คุณคิมม อ๊ะ!”
เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าที่พร่ำเรียก เสียงหอบหายใจที่ดังข้างหู แรงขบบนยอดอกที่ไม่อาจปิดกลั้นเสียงร้อง
ทุกๆอย่างมันพาให้เด็กวัยเพียงเท่าน้องปลาเพ้อชื่อสามีออกไปเช่นกัน กายบางแอ่นโค้งไปตามแรงที่ถูกปลุกปั่น ปากคมยังไม่เลิกหยอกเย้าแผ่นอกทั้งสองข้าง
มือบางจิกเกร็งอยู่บนบ่ากว้างเพื่อระบายทุกความรู้สึก แต่...จากบ่ากว้างก็ต้องเปลี่ยนมาเป็นหมอนใบโตเมื่อฉลามเพชฌฆาตเริ่มออกล่าเหยื่อ
“ซี้ดดด ฮื้มมม!!”
“ฮึกก!...”
แทบจะถึงความปรารถนาในคราวเดียว....เพราะทุกอย่างที่เป็นน้องปลามันพาให้เป็นเช่นนั้น ใจเต้นจนยากจะควบคุม
และรอยจูบที่ยังมอบให้แก่กันก็ยิ่งทำให้ควบคุมการหายใจได้ยากขึ้น เหมือนจะชินกับบทรักที่ร้อนแรงของสามี
แต่...ความเป็นเด็กก็ยังทำให้ผู้เป็นภรรยารู้สึกว่ามันหนักหน่วงเกินไป น้องปลาอยากโตเร็วๆเพื่อจะได้ตอบสนองทุกความต้องการของจงอินได้ เขาไม่อยากเป็นภรรยาที่แย่
ไม่อยากเป็นภรรยาที่แสนน่าเบื่อและไม่อยากเป็นภรรยาที่ไม่ได้เรื่อง
คุณคิมเคยบอกว่า...เจ็บให้เรียก
ไม่ไหวให้เตือน
ไม่ชอบอะไรให้พูดกันตรงๆ แต่น้องปลาไม่อยากขัดใจเพราะคุณคิมกำลังมีความสุข
ใช่ว่าเจ็บมาก...แต่ก็ต้องยอมรับว่าวาบหวามเกินทน และจะให้เป็นแบบนี้ไปจนสิ้นสุดเพลงรัก มีหวังไปฮ่องกงไม่ไหวแน่ๆ มือบางดันหน้าท้องแกร่งเพื่อหยุดยั้งการเคลื่อนไหวก่อนตบเบาๆเพื่อเป็นสัญญาณบอกว่าให้ถนอมเขามากกว่านี้จะได้ไหม??
“เจ็บเหรอครับน้องปลา...”
“ฮึกก!...ฮะคุณคิม”
“งั้นพี่ไม่ทำแล้ว พี่ขอโทษนะครับ ขอโทษจริงๆ
ชู่ววว!!!”
ความมืดภายในห้อง...ทำให้คนที่กำลังถูกความปรารถนาเข้าครอบงำไม่ทันได้เห็นน้ำตาที่ไหลจากผลของบทรักที่ร้อนแรง และเสียงสะอื้นเพียงแผ่วเบาพร้อมการตอบรับก็พาให้จงอินต้องถอนความต้องการออกโดยไม่นึกเสียดายหรือคิดว่าอารมณ์ค้าง
ไฟหัวเตียงถูกเปิดด้วยความรีบร้อนก่อนร่างน้อยๆจะถูกประคองเข้ามากอดด้วยความเป็นห่วง
“หนูขอโทษนะฮะคุณคิม แต่หนูไม่ไหวจริงๆ...”
ฟอดดด!!
(เฮ้ออออออ!!!)
ฝังความเอ็ดดูลงบนกลุ่มผมสีเข้ม...แต่ขอถอนหายใจแค่ในความคิด และที่ถอนหายใจก็ใช่ว่าเป็นเพราะเบื่อหรือรำคาญคนในอ้อมกอด มันกำลังอดกลั้นต่อความโกรธ โกรธที่ไม่เคยหักห้ามใจ หักห้ามอารมณ์หรือหักห้ามเรี่ยวแรงของตัวเองเอาไว้บ้าง มีเมียน่ารักมันเลยอดใจไม่ไหว แต่พออดใจไม่ไหวก็เลยอดสานต่อบทรักแถมยังทำให้น้องปลาร้องไห้ ภรรยาก็ตัวแค่นี้...ทำไมคุณคิมถึงได้รุนแรงนัก เอวคอดเท่ามือจีบ ขาเล็กเท่ามือจับ และถึงแม้สะโพกจะกลมกลึงน่าฟัด แต่น้องก็ยังเด็กอยู่ดี (หนู16 ขวบเองนะฮะ)
“คุณคิมโกรธหนูไหมฮะ? หนูเป็นเมียที่ไม่ดะ..ดี”
“ดีสิครับ น้องปลาเป็นเมียที่ดีที่สุด แล้วพี่ก็รักน้องปลาที่สุดด้วย น้องปลาห้ามพูดแบบนี้อีกนะครับ”
“แต่ว่า....”
“เรื่องนี้พี่ผิดเอง พี่ทำแรงไป
พี่ขอโทษนะครับน้องปลา”
“ไม่เป็นไรฮะ หนูอดทนได้
ตะ...แต่วันนี้มันไม่ไหวจริงๆฮะ”
“งั้นพี่ขอดูหน่อยว่าเลือดออกหรือเปล่า?”
“ได้ฮะ”
(แม่.......งงงง เอ๊ยยย!!!)
ยอมทำตามอย่างว่าง่าย...และง่ายจนทำให้ฉลามเพชฌฆาตมันตื่นอีกรอบ
การที่น้องปลาพลิกกายนอนคว่ำลงไปบนเตียงแล้วค่อยๆยกสะโพกขึ้นก่อนใช้มือทั้งสองข้างจับความกลมกลึงให้แยกออก
มันพาลให้ผู้ที่เห็นความสวยงามอยู่ตรงหน้ารู้สึกปั่นป่วน ถ้าน้องไม่ได้อายุสิบหก ถ้าน้องไม่ใช่เด็ก แล้วถ้าส่วนนั้นไม่ฉ่ำ
ไม่ใช่สิ!!!...ตั้งสติคิมจงอิน
ตั้งสติ!!!
ไม่ช้ำขนาดนี้ เขาก็คงคิดว่ากำลังถูกยั่วยวนและคงต้องรีบตอกตรึงทุกสัดส่วนไว้ด้วยความต้องการ
แต่...มันต้องถนอม
ส่วนนั้นก็แดงจนน่าวิตก คนเป็นสามีจึงต้องอดใจไว้ (หายใจเข้าลึกๆ)
ดีที่เลือดไม่ออก ไม่มีการฉีกขาดและไม่ถึงขึ้นต้องพบแพทย์หรือทายา
แต่คงต้องรอให้หายดีเสียก่อนถึงจะกินปลาตัวน้อยได้อีกครั้ง
ปากคมจูบก้นงามงอนของภรรยาด้วยหมายจะปลอบใจ
ปลอบขวัญรวมถึงขอโทษที่ทำอะไรไปโดยไม่ถึงกายภาพและรูปร่างของน้องปลา คิมจงอินคงหาคู่ชีวิตที่ดีกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว
คงไม่มีใครยอมปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อเขาได้เท่าเด็กในอ้อมกอด ใครจะอดทน
ใครจะยอมรับความผิดพลาดและใครจะยอมเขาแบบโอเซฮุน....ไม่มีเลยจริงๆ
“ไปอาบน้ำกันนะครับน้องปลา เดี๋ยวพี่อาบให้”
“ตรงนั้นต้องแสบแน่ๆเลยฮะ”
“แสบนิดเดียวครับ แต่ไม่มีแผลนะ
แค่บวมๆนิดหน่อย”
“โอเค...หนูจะอดทน แต่ไม่ต้องกินยาใช่ไหมฮะคุณคิม”
“ไม่ต้องกินครับ”
แสบแค่ไหนก็ทนได้...แต่ไม่อยากกินยา ยิ่งถ้าต้องฉีดยาด้วยแล้วก็ยิ่งไม่เอาเด็ดขาด จงอินอุ้มภรรยาตัวน้อยเข้ามาในห้องน้ำด้วยความระมัดระวัง
น้องปลาถูกวางลงบนอ่างก่อนเปิดน้ำให้อุณหภูมิพอเหมาะ ของเหลวเนื้อเนียนถูกเทออกมาจากขวดรูปปลาหมึกก่อนถูกมือบางตีจนเป็นฟอง ตั้งแต่แต่งงาน...ก็ใช่ว่าน้องปลาคนเดียวที่ยอมเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่าง
ห้องคุณคิม...จากห้องที่เคยเป็นสีโทนอ่อนสลับเข้ม ตอนนี้ก็แทบมีทุกสี ผ้าปูที่นอนก็ลายปลาดาว ขวดครีมอาบน้ำ
ยาสระผม แม้กระทั่งแปรงสีฟันก็เป็นสีหวานแหววและเป็นรูปสัตว์ทะเลทั้งหมด
...
...
...
สนามบิน XXX
07.00
น.
Rrrrr!!!!
Rrrrr!!!!
“ครับเฮีย...”
“ถึงไหนกันแล้วเนี่ย?”
“ถึงสนามบินแล้วครับ”
“ไปจนได้สินะ”
“ห้ามได้ที่ไหนละเฮีย เฮียก็รู้ว่าน้องปลาเป็นยังไง”
“ก็เพราะรู้ไงเลยไม่ห้าม แล้วทำไมน้องปลาไม่รับสายกูวะ โทรศัพท์เป็นอะไร??”
“น้องเอามาที่ไหนล่ะเฮีย”
“กูบอกมึงแล้วว่าไม่ต้องซื้อ น้องมันไม่ใช้หรอก”
“บ่นให้มันได้อะไรขึ้นมาเฮีย แล้ววว...โทรมามีไรป่าว?”
“ก็แค่เป็นห่วง”
“คิดถึงน้องเหรอเฮียยยย...”
“เออ!!!...แล้วถึงฮ่องกงเมื่อไหร่ก็ให้น้องปลาโทรหากูด้วย”
“ครับเฮีย”
ตั้งแต่น้องปลาแต่งงานและแยกออกไปมีครอบครัวเป็นของตัวเอง คนเป็นพี่เขยก็รู้สึกเหงาอย่างบอกไม่ถูก ดีใจที่น้องเจอคนรักที่ดี ภูมิใจที่น้องโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นบ้าง แต่...เสียงแจ๋วๆที่เรียกเขาว่า พี่คริสจ๋า
พี่คริสจ๋าตลอดทั้งวันมันไม่มีอีกแล้ว
มือน้อยๆที่คอยบีบนวดเวลาเมื่อยก็ไม่มี
เด็กตัวเล็กๆที่ร้องให้พาไปกินไอติมก็ไม่มีอีกแล้ว เจ็บก็ร้องหา
ป่วยก็อ้อนสารพัด ทุกอย่างมันหายไปเหมือนไม่เคยมี ถึงแม้น้องปลาจะกลับบ้านบ่อยเพราะยังต้องเรียนพิเศษและต้องช่วยทำงานในบริษัทบ้าง แต่มันก็ไม่เหมือนตอนที่ยังไม่แต่งงาน
เฮ้ออออ...พี่คริสจ๋าอยากจะร้องไห้
T^T
วางสายไปด้วยความเป็นห่วงปนอิจฉาเพราะการที่น้องปลาต้องเดินทางไปฮ่องกงในครั้งนี้เพราะมันเป็นวันเกิดพี่ชายของเขา ไอ้อูบิน...มึงโชคดีฉิบหาย!! ทุกคนในบ้านต่างปิดปากเงียบ
ไม่มีใครกล้าเอ่ยให้เจ้าของวันเกิดทราบว่าใครกำลังเดินทางไปหา น้องปลาอยากเซอร์ไพส์ อยากกอด
อยากขอบคุณที่พี่ชายตัวใหญ่เหมือนปลาวาฬใจดีกับเขา อยากได้อะไร...แค่โทรหากริ๊งเดียวก็สมใจปรารถนา
คราวทีแล้วก็ให้คุณคิมพาไปขี่กวางแบบในหนังเรื่องโฟรเซ่น ของขวัญวันแต่งงานก็หรูหราสมเป็นตระกูลอู๋ แล้วถ้าครั้งนี้บอกว่าจะไปหาถึงฮ่องกง
อูบินมันคงเอาเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวมารับถึงหน้าบ้าน
“ซื้ออะไรครับน้องปลา?”
เดินตามภรรยาอยู่ในสนามบิน...เพราะตั้งแต่มาถึง
เจ้าตัวก็เข้าร้านนั้นออกร้านนี้จนใกล้จะถึงเวลาเข้าเกท
มือหนาเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงตามเดิมก่อนกระชับเป้บนหลังพร้อมลากกระเป๋าเดินทางอีกสองใบ ความหนักไม่เท่าไหร่ จะซื้ออะไรก็ไม่เคยว่า
แต่...การรูดบัตรของลุงจ๋าเพื่อซื้อของขวัญให้ลูกชายคนโตของลุงจ๋ามันช่างน่าขำ เออดี...เงินทองไม่รั่วไหล
“ซื้อน้ำหอมให้คุณปลาวาฬจ๋า คุณปลาวาฬจ๋าใช้กลิ่นนี้”
“จำได้ขนาดนั้น???”
“จำได้ฮะ จำได้ทุกคนเลย”
เรื่องความใส่ใจ...คงต้องยกน้องปลาให้เป็นที่หนึ่ง เพราะไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใคร พ่อ พี่ชาย ญาติหรือแม้กระทั่งลูกน้องทั้งสองบริษัท
เจ้าตัวก็มักจะให้ความใส่ใจเหมือนเป็นคนในครอบครัว ยิ่งเป็นคุณพ่อ พี่อี้ชิง
คนในตระกูลอู๋และตระกูลคิม
น้องปลายิ่งใส่ใจมากเป็นพิเศษ
ใครชอบอะไรไม่ชอบอะไรก็จำได้หมด
“แล้วรู้ได้ไงว่าน้ำหอมพี่เค้าหมดแล้ว??”
“ไม่รู้หรอกฮะ
แต่คุณปลาวาฬจ๋าจะไม่ยอมใช้น้ำหอมอันอื่นถ้าหนูไม่ซื้อให้”
(ร้ายนักนะมึงงง!!!)
ต้องเก็บความขุ่นเคืองเอาไว้ในใจ...เพราะคำพูดของน้องปลามันน่าโมโห อ้อนได้แม้กระทั่งเด็ก ไอ้หัวงู!!! คงด่าได้แค่นี้ แค่ในใจ
แค่ในความรู้สึก
ขืนไปพูดต่อหน้าหรือไปแสดงความโกรธเคืองให้เห็น มีหวังลูกน้องในชุดดำของพี่อูบินคงหักคอฆ่าน้องเขยคนนี้ตายคาฮ่องกง รู้ว่าหวง
รู้ว่ารัก แต่บางทีพี่ชายของคริสก็ดูจะหวงมากเกินไปหน่อย เรื่องใจดีก็ส่วนใจดี แต่เรื่องกวนตี_____น แม่งก็น่าโดนต่อยสักครั้ง
“ใกล้เวลาแล้วนะครับ...น้องปลาจะซื้ออะไรอีกไหม?”
“ไม่แล้วฮะ แค่น้ำหอมก็พอ”
มันกะทันหันไปหมด...เพราะการที่น้องปลาต้องเรียนพิเศษ ทำงานกับคุณคิมและบางวันก็ต้องไปช่วยงานที่บริษัทมีปลา
ทุกอย่างทำให้เจ้าตัวลืมไปเลยว่าวันไหนเดือนไหนคือวันเกิดของพี่อูบิน ของขวัญก็ยังไม่ได้เตรียม ตั๋วเครื่องบินก็เพิ่งซื้อเมื่อวานและดีที่มีไฟล์ในเช้าวันนี้ คุณปลาวาฬจ๋ามีทุกอย่างแล้ว ทั้งเงินทอง
รถยนต์ นาฬิกาหรือแม้กระทั่งเสื้อผ้ารองเท้า แต่น้ำหอม...มันเป็นสิ่งที่พี่เขาจะไม่ซื้อเองเด็ดขาดและจะไม่ยอมใช้ของที่คนอื่นซื้อให้ถ้าไม่ใช่น้องปลา
คุณปลาวาฬจ๋าตัวใหญ่...น้ำหอมขวดเก่าคงหมดไปนานแล้วมั้ง??!
“น้องปลา...เมื่อกี๊พี่คริสโทรมา บอกถึงฮ่องกงเมื่อไหร่ให้โทรกลับด้วย”
“พี่คริสจ๋าว่าอะไรหนูอีกล่ะฮะ เดี๋ยวนี้พี่คริสจ๋าขี้บ่นมากเลย”
“ก็พี่คริสเป็นห่วงนิครับ”
“พี่อี้กับคุณพ่อยังไม่ห่วงเลยฮะ ไม่บ่นด้วย”
“ไม่บ่น...หรือว่าน้องปลาไม่ได้พกโทรศัพท์กันแน่ครับ?”
“แล้วมันเกี่ยวกันด้วยเหรอฮะ หนูงง??”
“เกี่ยวสิครับ พี่ซื้อโทรศัพท์ให้เพราะพี่อยากให้น้องปลาใช้คุยกับคนที่บ้าน
เวลาทุกคนคิดถึงก็โทรหาน้องปลาได้โดยไม่ต้องผ่านพี่ น้องปลาฟังพี่ดีๆนะครับ...พี่ไม่ได้รำคาญที่ใครๆก็โทรหาพี่แต่ขอสายน้องปลา แล้วพี่ก็รู้ว่าน้องปลายังไม่ชินกับของพวกนี้ แต่มันจำเป็นนะครับ สมมุติถ้าวันนี้เราหลงกันในสนามบิน แล้วน้องปลาจะทำยังไง?”
“หนูรักคุณคิมนะฮะ รักที่หนึ่งเยอะๆกว่าใคร”
จุ๊บบ!!
เนี่ย!!....ก็เป็นแบบเนี้ยทุกครั้ง แล้วใครมันจะโกรธลง รู้ว่าผิดก็รีบเข้ามากอด รู้สำนึกก็เอาปากบางๆมาประทับที่สันกรามคม แล้วอ้อมแขนน้อยๆก็โอบกายสามีเอาไว้ด้วยความออดอ้อน โกรธได้ก็คงใจร้ายมากๆและสิ่งที่จงอินทำไปโดยอัตโนมัติก็คือการกอดตอบความน่ารักด้วยทุกๆความรู้สึก เป็นห่วง
หวงและรักเกินกว่าจะว่ากล่าวด้วยถ้อยคำรุนแรงเพราะเด็กก็คือเด็ก ยิ่งเด็กแบบน้องปลาด้วยแล้วก็ยิ่งไม่เหมือนเด็กคนอื่นๆ การถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี มีคนตามใจ
การถูกกลั่นแกล้งหรือการไม่ได้เรียนหนังสือและมีเพื่อนเหมือนเด็กทั่วๆไปมันพาให้คุณคิมต้องใส่ใจน้องปลามากเป็นพิเศษ
“ไปกันได้แล้วครับน้องปลา กอดกันนานกว่านี้เดี๋ยวพี่อดใจไม่ไหว”
“คุณคิมก็ทำเบาๆสิฮะ ถ้าทำเบาๆหนูทนได้ แล้วถ้าฉลามของคุณคิมมันเล็กกว่านี้ก็จะดีมากๆเลยฮะ”
(ตัวแสบบ!!!)
เล็กกว่านี้...ก็ยังเป็นปลาฉลามอยู่ดีค้าบบบ แต่จะเป็นฉลามขาวหรือฉลามวาฬ น้องปลาก็ต้องไปทำความเข้าใจกับสายพันธุ์ให้ดีกว่านี้ คุณคิมได้แต่คาดโทษคนพูดจาสองแง่สามง่ามอยู่ในใจ เพราะรู้ดีว่าน้องปลาพูดไปตามความรู้สึกโดยไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองเอ่ยออกมานั้นมันควรพูดที่นี่หรือไม่ คนเป็นสามีนึกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าจะทำให้ภรรยาตัวน้อยเข็ดไปอีกนาน แต่ที่ไหนได้
“ทำเบาๆสิฮะ” กลับกลายเป็นคำตอบ
ถึงที่พักก่อนเถอะ...ฉลามบุกกกกกก!!!!
XXX Bank
13.00
น.
VROOMMMMM!!!!!
กว่าจะเดินทางมาถึงฮ่องกงก็ต้องใช้เวลาอยู่สมควร...และการนั่งแท็กซี่จากสนามบินมาถึงธนาคารXXXก็ต้องใช้เวลาอีกเช่นกัน
คนที่แบกสัมภาระอยู่คนเดียวอย่างคุณคิมเริ่มรู้สึกเมื่อยหลัง
แถมยังรู้สึกท้อแท้ต่อการเดินทางที่ไม่คุ้นชิน ส่วนเด็กที่สะพายเพียงเป้ใบโปรดรูปปลาดาวสีชมพูพร้อมการถือถุงของขวัญไว้ในมือก็ยังคงยิ้มไม่หุบตลอดการเดินทาง
เมื่อรถแท็กซี่...เคลื่อนออกไปจากหน้าแบงค์น้องปลาก็รีบก้าวขาขึ้นบันไดก่อนประตูกระจกขนาดใหญ่จะถูกเปิดออกโดยอัตโนมัติ มันเป็นทั้งที่ทำงาน เป็นออฟฟิศและที่เป็นที่เรียนซัมเมอร์สำหรับเด็กอย่างเขา เจ้าตัวจึงคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างดี
“คุณคิมเอากระเป๋าวางไว้ตรงนี้ก่อนก็ได้ฮะ”
“มันจะไม่หายเหรอครับน้องปลา??”
ตึกระฟ้า หรูหรา
ใหญ่โต...พร้อมผู้คนในชุดทำงานสีแดงที่เดินจนเกลื่อนตามันทำให้จงอินต้องตั้งคำถาม อยากจะร้องว้าวก็กลัวถูกกล่าวหาว่าบ้านนอกเข้ากรุงเพราะเขาเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรกและได้เห็นอะไรแบบนี้เป็นครั้งแรก สำนักงานใหญ่ของธนาคารXXXมันเป็นแบบนี้เอง ว้าววววววววว!!!!
“ไม่หะ...หาย”
“อ้าวว..คุณจงอิน คุณหนูเซฮุน!!!”
“พี่ซึงฮอน!!!”
ยังไม่ทันที่จงอินจะหายสงสัยหรือใครจะได้เอ่ยคำตอบ
การทักทายด้วยน้ำเสียงทุ้มหนักพร้อมการโค้งคำนับก็มายืนอยู่ตรงหน้า
ชายชุดดำที่คุ้นหน้าคุ้นตามันพาให้น้องปลารู้สึกหงุดหงิดเพราะเจ้าตัวไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขามาที่นี่
แต่สงสัยมันจะไม่ทันเสียแล้วเมื่อถูกบอร์ดี้การ์ดเจ้าของธนาคารมาเจอเข้าโดยบังเอิญ
น้องปลาจำได้ว่าพี่ซึงฮอนคือคนที่เข้ามาดูแลความเรียบร้อยในวันแต่งงาน
และเมื่อพิธีการต่างๆเสร็จสิ้น
พี่เค้าก็พาลูกน้องเกือบยี่สิบคนกลับฮ่องกงทันที เท่ชะมัด!!
“มากันได้ยังไงครับ??! ไม่มีใครแจ้งผมเลยว่าคุณหนูจะมา!!”
ลงมาเตรียมรถให้เจ้านายเพื่อออกไปทานกลางวันที่โรงแรมAA...แต่กลับมาเจอเด็กน้อยที่คนในตระกูลอู๋รักดั่งดวงใจ
ซึงฮอนจึงต้องรีบซักถามออกไปด้วยความเป็นห่วงและกลัวถูกตำหนิ
มันรู้สึกว่าตัวเองกำลังบกพร่องต่อหน้าที่เพราะทุกครั้งที่น้องปลามาที่ฮ่องกง เขาก็จะกลายเป็นผู้ที่ต้องดูแลความปลอดภัยให้เด็กคนนี้แทนผู้เป็นนาย
“ชู่วววว..เบาๆสิครับพี่ซึงฮอน หนูมาเอง
พี่ซึงฮอนอย่าบอกคุณปลาวาฬจ๋านะฮะว่าหนูอยู่ที่นี่”
“ไม่ได้นะครับคุณหนู ผมโดนไล่ออกแน่ๆ”
“หนูสั่งว่าไม่ให้บอกไงฮะ ให้หนูโทรหาลุงจ๋าไหมล่ะ??”
“โอเคครับคุณหนู...ผมจะไม่บอก”
คุณอูบินน่ากลัวแค่ไหน...ประมุขตระกูลอู๋ก็ทวีคูณเข้าไปอีกร้อยเท่า และหน้าที่ของบอร์ดี้การ์ดในตอนนี้ก็คือต้องโกหกเจ้านาย ไม่มีใครจะกล้าขัดใจน้องปลา
เด็กผู้ที่มีอิทธิพลต่ออูบินกลายเป็นบุคคลที่ลูกน้องทุกคนต้องเชื่อฟัง ขัดใจเจ้านายได้ แต่อย่าขัดใจคุณหนูเซฮุนของเจ้านาย คำสั่งใดที่ลูกน้องคิดว่าสามารถชี้แจ้งเหตุผลให้เจ้านายฟังได้ อูบินก็พร้อมที่จะเปิดใจรับฟังเสมอ แต่คำสั่งของน้องปลาถือเป็นเด็ดขาด
“แล้วตอนนี้คุณปลาวาฬจ๋าอยู่ไหนฮะ?”
“กำลังประชุมอยู่ครับ แต่ก็ใกล้จะเลิกแล้ว”
“งั้นหนูไปรอที่ออฟฟิศดีกว่า ขอบคุณนะฮะพี่ซึงฮอน”
“เดี๋ยวครับคุณหนู คือคุณอูบินต้องไปทานกลางวันที่โรงแรมAAต่อครับ เอ่ออ...”
“มีอะไรหรือเปล่าฮะพี่ซึงฮอน??”
อาการน้ำท่วมปากของบอร์ดี้การ์ด...ทำให้สองขาเล็กๆที่กำลังจะก้าวไปยังลิฟท์ด้านข้างต้องหยุดชะงักและต้องเอ่ยถามเพราะมันน่าสงสัย
ทุกครั้งที่มาที่นี่...เขาก็มักจะขึ้นไปเล่นบนห้องทำงานของพี่อูบินเสมอ ต่อให้พี่อูบินไปประชุม ไปพบลูกค้าหรืออะไรก็ตาม ห้องทำงานหรือแม้กระทั่งตึกนี้ทั้งตึก น้องปลาก็สามารถเข้านอกออกในได้อย่างง่ายดาย ไม่มีใครห้าม
ไม่มีใครกล้ายุ่งและไม่มีใครอยากมีปัญหากับเจ้านาย
“คุณหนูไปรอที่ห้องรับรองดีกว่านะครับ เดี๋ยวผมจะให้เด็กไปเอาของว่างมาให้ แล้วถ้าคุณอูบินเลิกประชุมเมื่อไหร่ ผมจะรีบแจ้งให้ทราบทันที”
“ทำไมละฮะ พี่ซึงฮอนมีอะไรปิดบังหนูหรือเปล่า?? บอกมาซะดีๆ”
(น้องปลา...พี่ว่าเรากลับไปพักที่โรงแรมก่อนดีไหม?)
คนที่ยืนเงียบอยู่นาน...อดไม่ได้ที่จะเข้ามากอดภรรยาตัวน้อยด้วยความเป็นห่วงและอยากตักเตือนว่าสิ่งที่เจ้าตัวกำลังทำอยู่นี่มันไม่เหมาะสม พี่อูบินคงงานยุ่ง เด็กแบบน้องปลาคงไม่เข้าใจ แล้วชายชุดดำที่ชื่อซึงฮอนก็คงลำบากใจน่าดู คิมจงอินบอกแล้ว...ว่าน้องปลาจะเอาแต่ใจมากแค่ไหนก็ได้
แต่จะเอาแต่ใจจนทำให้ใครสักคนต้องทำผิดต่อหน้าที่ เห็นทีมันจะมากเกินไปและคงต้องรีบปรามเอาไว้
“คุณคิมมม...หนูอยากไปหาคุณปลาวาฬจ๋า”
“พี่อูบินกำลังยุ่ง น้องปลาต้องเข้าใจนะครับ เรามาเที่ยว
แต่พี่เค้าต้องทำงาน
แล้วพี่ซึงฮอนก็ต้องทำตามหน้าที่
เรามาโดยไม่ได้บอกพวกเค้า
เพราะฉะนั้นเราต้องทำตามกฎ”
“ก็หนูจะไปรอที่ห้องทำงานไงฮะ
หนูไม่ได้ไปรบกวนคุณปลาวาฬจ๋าในห้องประชุมสักหน่อย”
“น้องปลา...ไม่เอาแต่ใจนะครับ”
“หนูขอโทษ...หนูไม่น่ารักอีกแล้วใช่ไหมฮะคุณคิม U_U”
น่ารักมากครับคุณหนู น่ารักจนบอร์ดี้การ์ดอย่างผมอยากเข้าไปปลอบ สำหรับซึงฮอน...น้องปลาไม่ได้เอาแต่ใจเลยสักนิด เขาทราบดีว่าเด็กคนนี้คือข้อยกเว้นต่อกฎทุกข้อของเจ้านาย แต่ที่ไม่อยากให้ขึ้นไปรอบนห้องทำงานก็เพราะ....
“มีอะไรกันหรือเปล่าคะ??”
“มะ...ไม่มีครับ คุณจีวอน
ผู้หญิงคนนี้???
ซึงฮอน...อยากหายตัวได้เหมือนในการ์ตูนเพราะต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดก็มาจากเธอทั้งนั้น
การที่ประมุขของตระกูลอู๋อยากให้ลูกชายโตเป็นฝั่งเป็นฝา มีครอบครัว
มีทายาทหรือมีในสิ่งที่ลูกคนรองทำไม่ได้
มันพาให้บอร์ดี้การ์ดอย่างเขาต้องขัดใจน้องปลาเป็นครั้งแรก
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะคุณลูกค้า??”
“คุณป้าคนนี้เป็นใครเหรอฮะพี่ซึงฮอน?”
งานเข้าเต็มๆ...อยากลาออกเพราะไม่อยากบอกว่าเธอเป็นใคร
น้องปลาต้องไม่ชอบแน่ๆและผู้หญิงคนนี้ก็ต้องไม่ชอบน้องปลาเหมือนกัน ขนาดเขาที่เป็นเพียงลูกน้องยังไม่ชอบเธอเลย
แต่จะให้พูดออกไปตรงๆก็ทำไม่ได้
ลูกน้องก็คือลูกน้อง
มีหน้าที่แค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น
จะให้ไปบอกเจ้านายว่าเธอไม่เหมาะสม
เธอไม่คู่ควร เธอไม่ได้รักอูบินแต่รักความเป็นตระกูลอู๋...มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาควรเอ่ย
“เอ่ออ...ว่าที่คู่หมั้นของคุณอูบินครับคุณหนู”
“ไม่จริง...หนูไม่เชื่อ พี่ซึงฮอนโกหกหนูใช่ไหมฮะ”
ใครก็ได้...ช่วยกูด้วย
แล้วใครจะเกลียดกูก็ได้...แต่ต้องไม่ใช่คุณหนูเซฮุนนนนน!!! ซึงฮอนไม่เคยรู้สึกลำบากใจแบบนี้มาก่อน คนหนึ่งเป็นถึงว่าที่คู่หมั้นของเจ้านาย อีกคนก็...น้องปลา ส่วนคนที่ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอย่างคิมจงอินก็ไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรเหมือนกัน
และสิ่งที่ทำได้อย่างเดียวก็คือ...กอดภรรยาตัวน้อยเอาไว้ด้วยความเป็นห่วง เข้าใจว่าน้องปลารักคุณปลาวาฬจ๋ามากแค่ไหน
มาที่นี่ก็เพื่อหวังจะเซอร์ไพส์...แล้วมันก็เซอร์ไพส์สุดๆไปเลย
Rrrrr!!!!
Rrrrr!!!!
เหมือนเสียงของเครื่องมือสื่อสาร...จะเป็นตัวยุติความสงสัยเอาไว้ชั่วคราวและต้องรีบกดรับเมื่อทราบว่าปลายสายเป็นใคร มือหนึ่งยังคงโอบเอวบางเอาไว้ อีกมือก็กระชับโทรศัพท์แนบไปกับหู
จงอินพยายามประคองสติให้ได้มากที่สุดเพราะเกรงว่าเจ้าของเอวบางจะพาลใส่พี่ซึงฮอน ตอนเป็นเด็กดีก็ดีจนทุกคนหลงรักกันไปหมด แต่ตอนร้ายหรือมีใครทำให้เสียใจก็ออกฤทธิ์ออกเดชจนเอาไม่อยู่
“ครับเฮีย...”
“กูสั่งว่าไงไอ้ดำ”
“พอดีมีเรื่องเฮีย”
“น้องปลาเป็นอะไร?!!!”
“พี่อูบินมีคู่หมั้นตั้งแต่เมื่อไหร่วะเฮีย?”
“ซวยแล้ววว...”
“สุดๆเลยเฮีย...แล้วผมควรทำไง”
“เอาชีวิตรอดกลับมาให้ได้ โชคดี”
ติ๊ดด!!!
“เฮีย!!! เดี๋ยว...เฮียยย (เชี่ย)”
ต่างคนต่างรู้ดี...ว่าสถานการณ์มันวิกฤติมากแค่ไหน ไม่มีใครอยากถูกน้องปลาเกลียดเลยสักคน
และเรื่องที่พี่ชายของตัวเองมีคู่หมั้นก็เพิ่งรู้พร้อมกันเมื่อครู่ ถ้าไม่โทรหาจงอินก็คงไม่ทราบว่าป๊าหาคู่หมั้นให้พี่อูบิน
ปกติอย่างมากก็แค่ดูตัวหรือไม่ก็พาไปรู้จักตามงานสังคมต่างๆ แต่คำว่า
“คู่หมั้น”
มันเพิ่งมีครั้งนี้เป็นครั้งแรก
คนที่น่าสงสารที่สุด...เห็นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากคิมจงอิน และคนที่น่าเป็นห่วงก็คือน้องปลา แล้วคนที่ไม่อยากมีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องรีบวางสายก่อนที่ความซวยจะมาเยือน
“ไอ้ซึงฮอน...กูให้ไปเตรียมรถ ทำไมมายืนอยู่ตะ...ตรง น้องปลา!!!!!”
“คุณปลาวาฬจ๋าาาา”
ฟอดดดดด!!!
ยังไม่ทันได้เก็บเครื่องมือสื่อสารลงกระเป๋า...ร่างใหญ่ๆ ใส่สูทสีเข้ม
เซ็ทผมเปิดหน้าพร้อมเสียงทุ้มหนักที่เรียกลูกน้องก็ทำให้เด็กที่เคยอยู่ในอ้อมแขนวิ่งเข้าไปกอดด้วยความคิดถึง จงอินเหมือนจะหายใจได้สะดวกมากขึ้นเพราะบรรยากาศเมื่อครู่มันพาลให้รู้สึกอึดอัด แต่ปากนุ่มๆกับจมูกโด่งรั้นที่ฝังลงบนแก้มเจ้าของธนาคารกลับสร้างความหงุดหงิดใจเล็กๆให้กับผู้เป็นสามี รู้ทั้งรู้ว่าสองคนนี้ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยไปว่าคำว่าพี่น้อง แต่...มันหึงนี่หว่า!!!
“สวัสดีครับพี่อูบิน”
“เออดีๆ...แล้วมากันตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“สักพักแล้วครับ ผมกับน้องปลาต้องขอโทษด้วยนะครับที่มาโดยไม่บอก”
“ไม่เป็นไร แล้วพักกันที่ไหน”
“โรงแรมXYZครับ”
“เดี๋ยวกูจะให้เด็กเอากระเป๋าไปเก็บไว้ที่โรงแรม แล้วเราไปกินข้าวด้วยกัน”
“จะดีเหรอครับพี่ เอ่ออ...”
(แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะฮะคุณปลาวาฬจ๋า เซอร์ไพส์ไหมฮะ...หนูขอให้คุณปลาวาฬจ๋ารักหนูเยอะๆ แล้วก็ห้ามไปรักคนอื่น!!!!)
“โอ้โห...เซอร์ไพส์มากๆเลยค่ะ ขอบคุณนะคะน้องปลา แล้วของขวัญคืออะไรน้าาาาา”
เต็มๆ...เป็นคำอวยพรพร้อมกับการมอบของขวัญให้เจ้าของวันเกิดด้วยรอยยิ้ม แต่คำอวยพรที่เหมือนจะสื่อไปถึงใครอีกคนก็พาลให้ทั้งบอร์ดี้การ์ดและคุณคิมทำหน้าไม่ถูก ซึงฮอนรีบขอตัวเพื่อออกไปเตรียมรถ จงอินรีบส่งกระเป๋าเดินทางให้ลูกน้องอีกคนไปเก็บไว้ที่โรงแรม
ส่วนผู้ที่เป็นคู่หมั้น...ก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นธาตุอากาศมาได้สักพัก
“พี่อูบินคะ...”
“อ้าวจีวอน...พี่ไม่นึกว่าเธอจะรอ งั้นก็ไปทานกลางวันด้วยกันหมดนี่แหละ”
มารอตั้งแต่เช้า...และตอนนี้ก็บ่ายกว่า ไม่รู้จะประชุมอะไรกันนักหนา แต่ความเป็นตระกูลอู๋มันสามารถทำให้ความอดทนของ คิมจีวอน มีความหมายเสมอ ถ้าสองตระกูลได้เกี่ยวดองครองคู่ เธอก็คิดว่ามันต้องสุขสบายไปชั่วชีวิตแน่ๆ การมีภรรยาเป็นถึงลูกสาวเพียงคนเดียวของนักการเมืองมันก็สมฐานะกันแล้วกับลูกชายเจ้าของธนาคาร ไม่มีใครเหมาะสมเท่าเธอทั้งนั้น
แต่หารู้ไม่...ว่าสิ่งที่เธอคิดมาทั้งหมดมันคงเป็นได้แค่ความฝัน
“แล้วพี่อูบินจะไม่แนะนำเด็กๆให้จีวอนรู้จักหน่อยเหรอคะ?”
“เอ่อทุกคน...นี่คุณจีวอนนะ ส่วนเด็กคนนี้ชื่อเซฮุน เป็นน้องชายของพี่เอง คนนั้นชื่อจงอินเป็นสามีของเซฮุน”
“อะไรนะคะ...สามี!!! น้องพี่อูบินอายุเท่าไหร่กันคะ ทำไมแต่งงานเร็วจัง”
แทนที่จะยิ้มรับหรือกล่าวทักทายกันตามมารยาท...หญิงสาวที่ไม่ได้รู้จักตัวตนของอูบินเลยสักอย่างกลับถามลึกเข้าไปในส่วนที่เกินเลยกว่าการเป็นว่าที่คู่หมั้น และจะให้ใช้คำว่าคู่หมั้นก็ดูเหมือนจะมากเกินไปหน่อยเพราะเราทั้งคู่แทบจะไม่เคยได้เข้าใกล้คำว่าคบหาดูใจกันเลยด้วยซ้ำ พ่ออยากให้หมั้น แม่อยากให้มีลูก แล้วผู้หญิงที่คิดว่าดีสำหรับลูกชายคนโตก็คือคิมจีวอน
แต่สำหรับอูบิน....เธอไม่มีทางได้เป็นอะไรทั้งนั้น
“ไม่ใช่เรื่องของเธอ!!!”
สรรหาสาวๆมาให้เลือกก็รับไว้ แต่...จะให้แต่งงานไม่มีทางแน่นอน
โรงแรม AA
13.45
น.
แกร็กก!!!
ประตูห้องอาหารในโซนวีไอพี...ถูกปิดด้วยมือของพนักงาน
เก้าอี้ถูกเลื่อนเพื่อให้หญิงสาวนั่งด้านข้างและตามมาด้วยน้องเขยที่ต้องนั่งลงอีกฝั่ง ส่วนน้องปลาต้องนั่งตักพี่อูบิน ทั้งจงอินทั้งจีวอนต่างมองไปที่เก้าอี้ของสองคนพี่น้อง แต่สิ่งที่คิดอยู่ภายในใจกลับแตกต่างกันไปเป็นคนละเรื่องราว คนหนึ่งคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ ส่วนอีกคนคิดว่า...มันมากเกินไป แค่พี่น้องจริงๆเหรอ? ทำไมถึงไม่สนใจกันบ้าง?? แล้วที่บอกว่าไม่ใช่เรื่องของเธอ...ก็ยังคงทำให้คนถูกตำหนิรู้สึกหงุดหงิด
“น้องปลาอยากกินอะไรสั่งได้เลยนะคะ จงอิน...สั่งได้เลยไม่ต้องเกรงใจ คุณจีวอนด้วยนะ สั่งได้ตามสบายเลยครับ”
“คุณปลาวาฬจ๋าชอบของขวัญของหนูไหมฮะ”
“ชอบค่ะ ชอบมากกก...แล้วพี่ก็ดีใจที่สุดที่น้องปลามาหา”
“ก็หนูคิดถึงนิฮะ...วันเกิดคุณปลาวาฬจ๋าทั้งที่หนูจะไม่มาได้ไง”
เจอแบบนี้...ใครไม่รักก็บ้าแล้ว แต่คนที่ใกล้บ้าจริงๆก็คงเป็นหญิงสาวที่ยังมั่นใจว่าตัวเองคือคู่หมั้น
เมนูอาหารแทบไม่ได้อยู่สายตาเพราะสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้ามันพาลให้รู้สึกรำคาญใจ ส่วนคนที่เห็นภาพแบบนี้จนเคยชินก็เริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ถ้าตอนนี้มันมีแต่คนในครอบครัว จงอินคงมีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่ แต่การมีคนนอกอย่างคุณจีวอนมาร่วมทานมื้อเที่ยงด้วยมันพาลให้อึดอัด
“น้องปลาครับ...มานั่งกับพี่มา เดี๋ยวพี่อูบินปวดขา”
“ตกลงน้องเซฮุนชื่ออะไรกันแน่คะ?”
“ชื่อเซฮุนครับ แต่คนในครอบครัวจะเรียกว่าน้องปลา”
(คนอื่นห้ามเรียกฮะ พี่คริสจ๋าไม่อนุญาต)
ความอึดอัดเริ่มมีมากขึ้น...และคนที่ดูเหมือนจะไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับสิ่งใดก็ยังคงเป็นพี่อูบิน แถมเจ้าตัวก็เอาแต่นั่งกอดน้องปลาอยู่แบบนั้น พี่ครับ...ช่วยทำอะไรหน่อยได้ไหมครับ ผมอึดอัดนะพี่
คู่หมั้นพี่จะแดกหัวน้องปลาแล้วครับ!!! สายตาของเธอมันค่อยเป็นมิตรสักเท่าไหร่
จงอินจึงรู้สึกเป็นห่วงทุกอย่างที่อาจเป็นภัยต่อภรรยาตัวน้อย
“พี่จีวอนก็เป็นคู่หมั้นของพี่อูบินนะคะ พี่ต้องเรียกน้องเซฮุนว่าน้องปะ..ปลา”
“ไม่ให้เรียก แล้วก็ไม่ให้หมั้นด้วย...หนูจะไม่ให้คุณปลาวาฬจ๋ากับใครทั้งนั้น คุณปลาวาฬจ๋าต้องรักหนูคนเดียว”
“น้องเซฮุนไม่ควรก้าวก่ายเรื่องของผู้ใหญ่นะคะ!!!”
“คุณคิมมมมมม...”
เป็นเรื่องจนได้...และที่พึ่งพิงของน้องปลาก็คือสามีพร้อมอ้อมกอดที่คุ้นเคย ต่อให้สนิทกับพี่อูบินมากแค่ไหน รักมากไหน
แต่เมื่อรู้สึกไม่ดีหรือต้องการคนปกป้อง
อกกว้างของคุณคิมก็คือทุกอย่างสำหรับน้องปลา
ภรรยาตัวน้อยไม่มีทางเกลียดคนที่เพิ่งพบหน้าเป็นครั้งแรกเด็ดขาด แต่ความเป็นเด็ก ความรัก
ความหวงและการถูกต่อว่าด้วยน้ำเสียงแบบนั้นมันคงทำให้เจ้าตัวเสียใจ
“น้องปลายังเด็ก...คุณจีวอนจะไปถือสาหาความทำไมครับ”
“จีวอนผิดเหรอคะที่สอนน้องเซฮุน เด็กไม่ควรพูดแบบนี้กับผู้ใหญ่นะคะพี่อูบิน
เลี้ยงกันมายังไง...ทำไมถึงเป็นเอาแต่ใจขนาดนี้”
ปึ่กกก!!!
“คิมจีวอน!!!!!”
เสียงตบโต๊ะด้วยความโมโห...ทำให้ทุกคนในห้องอาหารสะดุ้งสุดตัว และคนที่ดูจะตกใจกว่าใครก็คือน้องปลา
อ้อมกอดเริ่มกระชับแน่นขึ้นด้วยความหวาดหวั่นเพราะเจ้าตัวไม่เคยเห็นอูบินโกรธเลยสักครั้ง คุณปลาวาฬจ๋าใจดีจะตาย ไม่เคยตะคอก
ไม่เคยพูดด้วยน้ำเสียงแบบนี้
แล้วที่ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป...ต้นเหตุมาจากเขาใช่ไหม??
“พี่อูบินใจเย็นๆก่อนครับ”
“ให้พี่ใจเย็นเนี่ยนะ ไม่...จงอิน
//
ส่วนเธอ...กลับไปก่อนที่ฉันจะโมโหมากกว่านี้ แล้วเรื่องคู่หมั้นที่เพ้ออยู่คนเดียวก็จงเพ้อต่อไป เพราะฉันไม่หมั้นแล้วก็ไม่อยากพบเธออีก ออกไป...”
“เฮ้ยย!!! พี่..”
“พอจงอิน...หยุด!!!!!”
ถ้าผู้หญิงคนนี้...เข้าใจพื้นฐานคำว่าครอบครัว มารยาทหรืออะไรก็ตามที่ต้องใช้ในการเข้าสังคม อูบินก็คงไม่ต้องเอ่ยวาจาเช่นนี้ มันอาจดูใจร้ายสำหรับฟัง แต่สำหรับคนในตระกูลอู๋มันคือเรื่องปกติ คริสเป็นคนตรงมากแค่ไหน อูบินก็เป็นเช่นนั้น รักบอกรัก
เลิกคือเลิก พวกขาทั้งคู่ไม่ชอบให้ความหวังหรือทิ้งปัญหาไปโดยไม่แก้ไข พวกเขาเด็ดขาดกับทุกๆเรื่องในชีวิต ยิ่งเป็นลูกคนโตก็ยิ่งต้องทำสิ่งดีๆให้น้องเห็นเป็นตัวอย่าง
คนเราอยากรู้จักกัน...มันก็ต้องค่อยๆทำความเข้าใจ เธอชอบอะไร
ฉันเป็นยังไง มันก็ควรเริ่มไปทีละน้อย ครอบครัวของฉันเป็นแบบนั้น ครอบครัวของเธอเป็นแบบนี้อย่างนั้นหรือ ทำไมเด็กคนนี้ถึงชื่อว่าน้องปลา
อ๋อ...แล้วเมื่อไหร่พี่จะเรียกชื่อพิเศษแบบนั้นได้บ้างล่ะ แล้วน้องเซฮุนกับจงอินแต่งงานกันมากี่ปีแล้วคะ? ไปฮันนีมูนกันที่ไหน?? อาหารที่โรมแรมAAอร่อยนะคะ...พี่เคยทานแล้ว ทุกอย่าง
ทุกคำพูดและทุกการสนทนามันควรเป็นแบบนี้
ไม่ใช่ยึดติดกับคำว่าคู่หมั้นแล้วคิดว่าฉันจะทำอะไรก็ได้
การเป็นลูกคนโต...มันทำให้อูบินต้องคิดทุกอย่างให้ไกล
แล้วการมีน้องปลาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวก็ยิ่งต้องคิดทุกอย่างให้ไกลและรอบคอบกว่าเดิม ขอย้ำไว้เลย...ว่ารักเด็กคนนี้มากกว่าสิ่งใด ถึงจะแต่งงานไปแล้วก็ยังรัก
และความรักมันก็คงมากพอที่จะเป็นคุณพ่อได้ในอนาคต อูบินไม่ได้แช่งให้คุณลุงโอจีโฮตายไวๆ แต่ถ้าวันหนึ่งน้องปลาต้องสูญเสียคุณพ่อ
เขาก็พร้อมที่จะเป็นผู้ใหญ่ที่น้องจะเคารพรักได้เท่ากับคุณลุง แล้วถ้าในอนาคต...เขาต้องมีครอบครัวขึ้นมาจริงๆ ใครคนนั้นก็ต้องรักน้องปลาเท่ากับที่ทุกๆคนรัก
“คุณพ่อของจีวอนต้องไม่ยอมแน่ๆค่ะ!”
“ก็เรื่องของพ่อเธอสิ...ออกไปได้แล้ว น้องปลาหิวข้าว!!”
ปังงงง!!!!
เสียงปิดประตูที่ดังจนห้องสะเทือน...ทำให้จงอินรู้ได้ทันทีว่าอดีตคู่หมั้นของพี่อูบินโกรธมากไหน แต่ถ้าถามว่าเธอผิดมากไหม?? ก็คงตอบได้ว่า...ผิดมั้ง? เธออาจผิดที่พูดกับน้องปลาแบบนั้น
แต่เธอก็คงพูดไปด้วยความไม่รู้ว่าเด็กที่ยังอยู่ในอ้อมกอดของเขาในตอนนี้เกิดมาเช่นไร คุณแม่เสียตอนคลอดเจ้าตัว โดนเพื่อนแกล้งที่โรงเรียน แต่ขยันทำงาน
อ้อนเก่งและเป็นเด็กที่น่ารักกว่าเด็กคนไหนๆ ถ้าได้ลองทำความรู้จักกันดีๆ คุณจีวอนก็จะหลงรักน้องปลาไม่ต่างไปจากคนอื่น
เฮ้อออ...!!!!
“น้องปลา....มาหาพี่ได้แล้วครับ”
“คุณปลาวาฬจ๋าา”
“โอ๋ๆ ๆ...ไม่ตกใจนะคะ คุณปลาวาฬจ๋าขอโทษที่เสียงดัง”
“หนูก็ขอโทษที่เป็นเด็กไม่น่ารัก...”
“น่ารักค่ะ...น้องปลาน่ารักที่สุด”
“หนูไม่อยากให้คุณปลาวาฬจ๋าหมั้นเลยฮะ หนูรักคุณปลาวาฬจ๋าที่สุด”
“ไม่หมั้นแล้วค่ะ พี่จะไม่หมั้นกับใครทั้งนั้น”
ฟอดดดด!!!
ถ้าคำไหนที่มากกว่าคำว่า “รัก”
หรือสามารถบอกความรู้สึกของเขาได้ในตอนนี้
อูบินจะพูดและทำทุกอย่างให้เด็กแก้มกลมในอ้อมอกมีความสุขมากที่สุด ถึงแม้วันเกิดจะมีเรื่องไม่ดีเข้ามากวนใจ
แต่มันก็ทำให้ผู้ใหญ่แบบเขาไม่ต้องพบพานกับผู้หญิงแบบนั้นอีกแล้ว ขอบคุณความวุ่นวายที่พาให้ชีวิตมันลงตัว ขอบคุณน้องปลาที่ยังเห็นเขาเป็นคนสำคัญ และขอบคุณจงอินที่รักน้องของเขาด้วยหัวใจ
“กินข้าวกันดีกว่า อาหารมาเสิร์ฟละ...แล้ว”
“♪♫..♪♫..♪ แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู..
♪♫....♪”
ไม่ใช่แค่อาหารเท่านั้นที่มาเสิร์ฟ...แต่เค้กก้อนโตในมือของลูกน้องคนสนิท มันทำให้อูบินอยากจะร้องไห้ น้องปลาร้องเพลงวันเกิดให้เขา
เค้กก็เป็นรูปปลาวาฬตัวใหญ่สีฟ้าพร้อมปักเทียนสีชมพูที่บอกถึงตัวเลขของอายุและของขวัญก็ยังเป็นสิ่งซื้อให้ด้วยความรู้ใจ
ถ้าเขาไม่รักเด็กคนนี้ก็คงจะเป็นผู้ใหญ่ที่เสียสติไปแล้วจริงๆ อูบินไม่เคยซีเรียสเรื่องของวันเกิด อายุมันพาให้การจัดงานหรือการเลี้ยงสังสรรค์ถูกลดทอนไปตามหน้าที่ แค่ป๊ากับม๊าและเจ้าคริสโทรมาอวยพร...แค่นี้เขาก็มีความสุขแล้ว แต่ปีนี้...มันคือวันเกิดที่พิเศษที่สุด
(ขอให้น้องปลามีความสุขมากกว่าคุณปลาวาฬจ๋า ขอให้น้องอย่าเจอทุกข์ใดใด ขอให้ตระกูลอู๋ตระกูลโอและครอบครัวของจงอินทุกคนจงมีความสุข)
เป็นคำอธิษฐานก่อนเป่าเค้กของคนวัยเข้าสู่เลขสี่...และนี่ก็คงเป็นเค้กก้อนแรกในรอบหลายปีที่อร่อยจนแบ่งให้ลูกน้องได้ทานด้วยกัน น้องปลาเคี้ยวของหวานแสนนุ่มนิ่มจนเต็มแก้ม แล้วการมาเซอร์ไพส์พี่ชายตัวใหญ่ถึงฮ่องกงก็เป็นอันสำเร็จ พี่ซึงฮอนเก่งมากที่หาเค้กมาได้ตามที่สั่ง ไม่รู้ไปซื้อมาจากร้านไหนเพราะมันอร่อยมากจริงๆ แถมยังมาทันเวลาโดยที่ไม่มีคนอื่นมาทำให้เสียบรรยากาศ ใช่ว่าไม่อยากให้คุณปลาวาฬจ๋ามีแฟน แต่ถ้าไม่มีก็น่าจะดีกว่า
คุณปลาวาฬจ๋าต้องรักหนูคนเดียวเท่านั้น!!!
...
...
...
โรงแรม XYZ
19.04
น.
VROOMMMMM!!!
“พักผ่อนเยอะๆนะคะน้องปลา แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะมารับไปเที่ยว”
“คุณปลาวาฬจ๋าไม่ติดงานแน่นะฮะ?”
“แน่นอนคะ
น้องปลาเตรียมตัวไว้เลย...ได้เที่ยวทั้งวันแน่ๆ”
“ขอบคุณนะฮะคุณปลาวาฬจ๋า”
“บายนะคะ พรุ่งนี้เช้าเจอกัน”
“บายฮะ ฝันดีนะฮะคุณปลาวาฬจ๋า”
“กู๊ดไนท์ค่ะเด็กดี”
พาไปกินข้าว ได้เลี้ยงฉลองวันเกิด
ตกเย็นก็ไปเล่นที่ออฟฟิศและเดินทางมาส่งถึงที่โรงแรม
แถมพรุ่งนี้ยังมีทริปอีกมากมายที่อูบินเตรียมไว้เพื่อความสนุกของน้องปลา รถหรูสีเข้มค่อยๆเคลื่อนออกไปพร้อมการโบกไม้โบกมือหลังจากรำลากันเรียบร้อย
ส่วนคนที่วันนี้แทบไม่ได้ทำหน้าที่ดูแลภรรยา...ก็ถึงเวลาที่ต้องดูแลแล้วในคืนนี้ ดีที่ไม่ได้พักบ้านพี่อูบิน ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องนอนคนเดียวแน่ๆ
“เหนื่อยไหมครับน้องปลา”
“ไม่เหนื่อยฮะ แล้วคุณคิมล่ะฮะเหนื่อยหรือเปล่า”
“พี่ก็ไม่เหนื่อยครับ แต่เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“คุณคิมน่ากลัว”
ใช่...คุณคิมน่ากลัว เพราะทั้งน้ำเสียงและสีหน้ามันเรียบเฉยจนคนฟังรู้สึกว่ามันห่างเหิน ปกติจงอินจะขี้เล่น
ชอบพูดทะลึ่งให้เขินอายแถมยังยิ้มได้ตลอดเวลาเมื่อเราอยู่ด้วยกัน แต่ตอนนี้คุณคิมไม่ยิ้มเลยสักนิด น้องปลาต้องทำอะไรผิดแน่ๆ เจ้าตัวรู้สึกแบบนั้น ถึงแม้เราจะยังจับมือกันเดินเหมือนเช่นทุกครั้ง แต่การเดินโดยไร้เสียงพูดคุยจนลิฟท์พามาส่งถึงชั้นที่พัก มันพาลให้ใจของเด็กวัยสิบหกปีรู้สึกหวั่นเกรง
“คุณคิมโกรธอะไรหนูหรือเปล่าฮะ คุณคิมเงียบเกินไป หนูกลัว”
“งั้นอาบน้ำไปด้วยคุยไปด้วยก็แล้วกัน พี่อยากนอนแช่น้ำอุ่นสักหน่อย เดินทางมาไกลก็เลยเมื่อย”
“โอเค...เดี๋ยวหนูไปรองน้ำไว้ให้ คุณคิมถอดเสื้อได้เลยฮะ”
วิ่งปู๊ดดด...เหมือนตุ๊กตาที่เพิ่งใส่ถ่านเมื่อการ์ดทำหน้าที่เปิดประตูห้อง สองขาน้อยๆเดินเลี้ยวไปที่ห้องน้ำก่อนเปิดสิ่งที่จะทำให้คุณคิมสบายตัวมากขึ้นจนเต็มอ่าง อุณหภูมิกำลังพอดี
ครีมเนื้อเนียนถูกละลายไปกับน้ำพร้อมตีให้เกิดฟองเล็กน้อย
น้องปลาค่อยๆถอดเสื้อผ้าจนเปลือยเปล่าแล้วหย่อนกายลงไปในอ่างเพราะไม่อยากทำให้สามีเหนื่อยไปมากกว่านี้
“คุณคิมลงมาเร็วๆฮะ หนูพร้อมแล้ว”
เรื่องความเขินอาย...คงต้องลืมไปชั่วขณะเพราะมีเรื่องต้องเคลียร์ใจ ปกติเวลาที่คุณคิมถอดเสื้อจนเห็นซิกแพค น้องปลาต้องก้มซ่อนใบหน้าเอาไว้ทุกครั้งเนื่องจากหุ่นของสามีมันดีเกินไป หน้าท้องที่เป็นลอนสมส่วนกับผิวเข้มๆพร้อมกล้ามแขนกำลังพอดี และฉลามเพชฌฆาตที่ตอนนี้ยังไม่ตื่นคือสิ่งที่น้องปลาไม่อาจสบจ้องได้เกินห้าวินาที
“เฮ้ออออ...สบายจัง ขอบคุณนะครับน้องปลา”
รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาทันที...และถ้าจะให้ดีกว่านี้ก็ต้องได้ก้นนุ่มๆมาแนบบนตัก มือหนาคว้าร่างเปลือยเปล่าขาวเนียนให้มานั่งอยู่บนส่วนตามที่ใจต้องการ อ้อมแขนแข็งแรงโอบรอบเอวบางเอาไว้ก่อนขยับกายน้อยๆให้พิงลงมาบนอกกว้าง
“คุณคิมจะคุยอะไรกับหนูเหรอฮะ?”
“เรื่องพี่อูบินครับ...วันนี้น้องปลาก็มีส่วนผิดรู้ไหม?”
“คุณคิมโกรธหนูเหรอฮะ”
“ไม่โกรธครับ แค่รู้สึกติดใจอะไรนิดหน่อย”
“ตรงไหนฮะ??”
“ตรงที่น้องปลาบอกว่าไม่อยากให้พี่อูบินหมั้น”
“ก็หนูไม่อยากให้คุณปลาวาฬจ๋าหมั้นจริงๆนิฮะ”
“น้องปลาฟังพี่ดีๆ...แล้วคิดตามนะครับ ถ้าย้อนไปในวันแต่งงาน ถ้าสมมุติว่าพี่อูบินไม่ให้น้องปลาแต่งงานกับคุณคิม น้องปลาจะยอมไหมครับ?”
“ไม่ยอม หนูจะแต่งงานกับคุณคิม คุณพ่อกับคุณลุงใจดีอนุญาตแล้ว พี่อูบินไม่มีสิทธิห้าม”
“เหมือนกัน...น้องปลาก็ไม่มีสิทธิห้ามพี่อูบิน ถ้าพี่อูบินเจอคนที่ดี คนที่ดูแลพี่เค้าได้เหมือนที่คุณคิมดูแลน้องปลา
แต่น้องปลาไม่อนุญาต...พี่อูบินก็ต้องเสียดีๆไป”
“แต่ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนไม่ดีนะฮะ”
“พี่ไม่ได้พูดถึงผู้หญิงคนนั้นครับ พี่กำลังพูดถึงน้องปลา พี่อยากให้น้องปลาเอาใจเค้ามาใส่ใจเรา พี่รู้ว่าน้องปลารักพี่อูบิน แต่พี่อูบินเค้าโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว พี่เค้ามองออกว่าใครเป็นคนดีหรือไม่ดี
เราไม่ควรเข้าไปยุ่งกับชีวิตส่วนตัวของใครมากขนาดนั้น”
“หนูไม่น่ารักอีกแล้วเหรอฮะ?”
“น่ารักครับ...แต่เรื่องของผู้ใหญ่ ก็ต้องปล่อยให้ผู้ใหญ่จัดการ ถ้าพี่เค้ารักใครเราก็ต้องสนับสนุน แล้วถ้าวันหนึ่งพี่เค้าไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องของคู่ชีวิต น้องปลาก็ต้องให้กำลังใจ แต่เราจะเข้าไปสั่งให้ใครรักใครเลิก หมั้นหรือไม่หมั้นไม่ได้ น้องปลาเข้าใจไหมครับ”
“โอเค...เข้าใจแล้วฮะ ทีหลังหนูจะไม่ทำแบบนี้อีก”
“ยังไงพี่อูบินก็รักน้องปลาอยู่แล้ว
น้องปลาไม่ต้องห่วงว่าพี่เค้าจะรักคนอื่นมากกว่า
ขนาดพี่เคยเป็นคนอื่น...พี่อูบินยังรักได้เลย แล้วพี่ก็ได้เข้ามาเป็นครอบครัวของน้องปลา”
“งือออ...คราวหลังหนูจะไม่ทำแบบนั้นแล้ว หนูรักคุณคิมนะฮะ ทะ...ที่”
“ที่หนึ่งเยอะๆกว่าใคร...”
จุ๊บบบ!!
“อื้มมม...”
รู้เลยว่าต้องพูดคำไหน...เพราะจนมุมทีไรก็พูดแบบนี้ทุกครั้ง น้องปลายังเด็ก...ข้อนี้คุณคิมทราบดี จงอินเป็นสามี...ข้อนี้น้องปลาก็ทราบดีเช่นกัน อะไรที่สอนกันได้ก็สอน สิ่งใดที่คาใจก็รีบเคลียร์เพราะการเป็นคู่ครองคนรักมันต้องคอยปรับตัวกันอยู่เสมอ ไม่เข้าใจเรื่องนี้ก็จะอธิบาย ตรงไหนยังบกพร่องก็รีบแก้ไข
ทั้งน้องปลาและจงอินจึงไม่เคยโกรธกันเลยแม้แต่ครั้งเดียว รอยจูบถูกมอบให้เด็กดีเหมือนเป็นรางวัล ความกลมกลึงถูกฟอนเฟ้นอย่างไม่อาจห้ามความรู้สึก และไหล่กว้างก็ถูกกระชับไว้มั่นเพราะรสสัมผัสที่ถูกกอบโกยมันพาให้ใจสั่น
“รีบอาบน้ำรีบเข้านอนดีกว่านะครับน้องปลา เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปเที่ยวกับพี่อูบินไม่ไหว”
“แต่ตอนนี้หนูก็ไม่ไหวเหมือนกันนะฮะ คุณคิมไม่อยากรักหนูเหรอ”
“หึ!!...”
ใครทนได้ก็ทนไปเถอะครับ...แต่คิมจงอินคนนี้จะไม่ทนนนนนน!!! เสียงหวานที่พร่ำขอ เรือนร่างที่สวยงาม สายตาที่ฉ่ำปรือ มันทำให้คุณคิมไม่อาจทนต่อสิ่งเหล่านั้นได้ จะถนอมให้ดีที่สุด จะกลืนกินทุกหยาดหยด แต่...จะไม่รุนแรงเหมือนอย่างที่ผ่านมา ถ้าเลือกแล้วว่าจะรักก็ต้องดูแลกันไปตลอดชีวิต สิ่งไหนยอมได้ก็จะยอมเพื่อประคองความรักของเราให้มั่นคง
และสัญญาว่ารักน้องปลาแบบนี้ไปจนกว่าจะไร้ซึ่งลมหายใจ
...
...
...
...
“อ๊ะ!!..”
“น้องปลาาา”
“คุณคิม คุณคิมมม!!!”
“อื้มมมม...”
ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะตื่นไหวหรือไม่เพราะบทรักที่ค่อยๆละเลียดชิมไปอย่างช้าๆ
มันคงยาวนานจนไม่รู้เวลาที่สิ้นสุด♡♪♫…♡♪♫♪♫..♡♪♫..♡♪..♡♡♫♪♫
100%
Cr.ภาพตอนพิเศษ 3 : Instazu.com
และhiburan dreamers id
คิมจีวอน
Talk.
คิดถึงกันไหมคะ? แต่เราคิดถึงนะ
^^)
ขอบคุณนักอ่านทุกคนนะคะ
เราหวังว่าฟิคเรื่องนี้จะยังคงทำให้ทุกคนยิ้มได้
แต่น้องปลาดื้อไปหน่อย55555555
รัก ♥
#ฟิคน้องปลา
ความคิดเห็น