Part 3 :: Bella
เบลล่าทรมานอย่างมากในการกลายร่างเป็นแวมไพร์ ในที่สุด เธอก็กลายเป็นแวมไพร์อย่างสมบูรณ์ พร้อมกับสัญชาตญาณใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งการเคลื่อนไหว การคิดคำนวณที่รวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ ความกระหาย และ ความแข็งแกร่ง ที่เหนือกว่าแวมไพร์ทุกตน ตอนนี้เธอกลายเป็นแวมไพร์เกิดใหม่แล้ว !
เบลล่าพบว่าเธอสามารถควบคุมความกระหายได้อย่างดี เธอสามารถควบคุมตนเองได้ แต่ ก็ยังไม่มีใครให้เธอพบ เรเนสเม และเธอยังไม่รุ้เรื่องระหว่างเจคอบ และเรเนสเม เพราะยังไม่มีใครแน่ใจในความสามารถในการควบคุมตนเองของเบลล่านั่นเอง
เบล ล่าเริ่มเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เกี่ยวกับการเป็นแวมไพร์ การออกล่าเหยื่อที่ไม่ใช่มนุษย์ และพบว่าตนเองมีรูปร่างหน้าตาต่างออกไปจากเดิม กลายเป็นสาวสวย สง่า เหมือนพวกคัลเลน ดวงตาสีแดงก่ำแบบแวมไพร์เกิดใหม่
การเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว สง่างาม พละกำลังอันมหาศาลของเธอ
แต่แล้วเบลล่าก็เริ่มสังเกตถึงอะไรบางอย่าง ที่ทุกคนรวมทั้งเอ็ดเวิร์ดปกปิดไว้ รวมทั้ง เรเนสเม ลุกสาวที่แสนงดงามของเธอ เบลล่ายังรู้สึกว่าเธอเหมือนความฝัน
วันหนึ่ง ขณะที่เบลล่าออกล่าเหยื่อพร้อมกับเอ็ดเวิร์ด เธอได้กลิ่นหอมหวานยวนใจของเลือดมนุษย์ เบลล่ากระโจนเข้าใส่ทันทีตามสัญชาตญาณ แต่แล้วเธอก็กลับหยุดตัวเองได้ แล้วหันกลับไปยังจุดเดิม
นั่นทำให้ทุกตนรวมทั้งเอ็ดเวิร์ดประหลาดใจมาก เพราะแวมไพร์เกิดใหม่มักจะควบคุมตนเองไม่ได้ แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะหยุดยั้งตัวเอง (โดยเฉพาะเรื่องของความกระหายเลือดมนุษย์)
เอ็ดเวิร์ดคิดว่านี่คือพรสวรรค์หรือความสามารถพิเศษของเบลล่า เอ็ดเวิร์ดเริ่มแน่ใจในเรื่องการควบคุมตัวเองของเบลล่า เหมือนกับพวกคัลเลนตนอื่นๆ เขาจึงตัดสินใจให้เธอพบเรเนสเม
เบล ล่าดีใจมาก เรเนสเมช่างเป็นสิ่งพิเศษสุด เธอมีความสามารถพิเศษ สามารถสื่อสารกับคนที่สัมผัสเธอโดยไม่ต้องพูด เธอสามารถทำให้เห็นสิ่งที่เธอต้องการบอกได้ด้วยภาพ เหมือนความฝันที่แจ่มชัดราวกับความเป็นจริง
พร้อม กันนั้น เบลล่าก็ได้รับรู้เรื่องราวของเจคอบกับเรเนสเม นั่นทำให้เธอสติแตกจนเกือบลงมือกับเจคอบ เซธ มนุษย์หมาป่ารุ่นเยาว์ เพื่อนซี้ของเอ็ดเวิร์ด เข้ามารับเคราะห์แทน มันทำให้เขาแขนหัก (แต่มนุษย์หมาป่าก็บาดเจ็บไม่นาน แค่ครึ่งชั่วโมงที่เขาใส่เฝือก โดยความช่วยเหลือของหมอคาร์ไลล์)
เบลล่ายังเคืองๆ เจคอบอยู่ ที่ไม่สามารถแยกจากเรเนสเมได้ ขณะเดียวกันก็ยังรู้สึกผิดที่ทำร้ายเซธ โดยไม่ได้ตั้งใจ
เร เนสเมโตเร็วมาก ต้องวัดส่วนสูง เปลี่ยนเสื้อผ้าทุกวัน จนเบลล่าเริ่มกังวลถึงอัตราการเติบโตของลูก แต่เอ็ดเวิร์ดปลอบว่า อีกไม่นานเธอจะหยุดโต นอกจากนั้น เรเนสเมสามารถนอนหลับได้เหมือนมนุษย์ เธอพูดได้ด้วย (แต่ชอบสื่อสารด้วยการสัมผัสและแสดงภาพมากกว่า)
เบล ล่าเริ่มคิดถึงครอบครัวของเธอ ชาร์ลี อีกครั้ง แต่เธอก็ไม่แน่ใจว่าจะสามารถสะกดกลั้นสัญชาตญาณ ความกระหาย เมื่ออยู่ใกล้เขาได้หรือไม่ เธอเริ่มกังวล ว่าครอบครัวคัลเลน รวมทั้งตัวเธอเองอาจต้องย้ายที่ไปไกลจากฟอร์คส์ เพื่อความปลอดภัยของชาร์ลี และความแนบเนียน (แน่นอนว่าเจคอบต้องติดตามไปด้วย) เบลล่าเริ่มสับสนวุ่นวายใจในข้อนี้
แล้วอลิ ซก็เข้ามาเซอร์ไพรส์เบลล่า วันเกิดปีที่ 19 ของเธอ (และ 19 ตลอดไป) เบลล่าแอบงอนหน่อยๆ เพราะไม่อยากแก่กว่าเอ็ดเวิร์ด สามีอายุ 17 ปีตลอดกาลของเธอ ของขวัญจากอลิซ (จริงๆ ก็จากทุกคนในบ้านคัลเลน) เป็นกุญแจเงินดอกใหญ่ ส่วนของเอ็ดเวิร์ด (คงเดาได้ว่าเป็นรถ) คือเฟอรารีสีแดง ของขวัญจากครอบครัวคัลเลนก็คือบ้าน (ทุกคนเรียกกระท่อม) สำหรับครอบครัวเล็กๆ อันมี เอ็ดเวิร์ด เบลล่า และเรเนสเม (แน่นอนว่ามีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่เป็นเกือบครึ่งของบ้าน - จาก อลิซ ด้วย)
เบลล่าและเอ็ดเวิร์ดใช้เวลาด้วยกันอย่างแสนสุข หลังจากคืน honeymoon แรกที่เกาะเอสเม คราวนี้เอ็ดเวิร์ดไม่ต้องระมัดระวังหรือออมแรงแล้ว เพราะเบลล่าแข็งแกร่งกว่าเขาเสียอีก
เบลล่าหัวเสียเล็กน้อยเมื่อดูเสื้อผ้าในตู้ แต่เอ็ดเวิร์ดก็ช่วยหาชุดที่เธอต้องการจนได้ ทั้งสองมีความสุขมาก จนกระทั่งมาที่บ้านคัลเลน พบเจคอบ และรับรู้เรื่องที่เขาทำลงไป
เจคอบ (ผู้ซึ่งไม่อยากให้บ้านคัลเลนย้ายไปที่อื่น และทำให้เขาต้องจากเรเนสเม) ไปบอกอะไรบางอย่างกับชาร์ลี และแปลงร่างให้เขาดู ชาร์ลีช็อกไปครู่หนึ่ง แล้วเขาก็จะมาพบพวกคัลเลน พร้อมทั้งเบลล่า ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า เรื่องนี้ทำให้ทุกคนคลั่ง โดยเฉพาะเบลล่า และเอ็ดเวิร์ด (เขากลัวเบลล่าจะต้องทรมานในการสะกดกลั้นความกระหายเมื่ออยู่ใกล้ชาร์ลี)
ทุก คนต้องเตรียมตัวหาคำตอบให้ชาร์ลี ส่วนใหญ่คือเรื่อง เรเนสเม (เธอมาจากไหน โตขึ้นได้อย่างไรในเวลาแค่เดือนเศษๆ แต่เหมือนเด็ก 1-2 ขวบ) และเบลล่า ที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะตาแดงก่ำของเธอ (อลิซตัดสินใจให้เธอใส่คอนแทคเลนส์) ทุกคนในบ้านคัลเลนช่วยกันสอนวิธีแสร้งทำเป็นมนุษย์ เช่น ไม่เคลื่อนไหวเร็วเกินไป นั่งบ้าง (แม้ว่าแวมไพร์สามารถยืนได้ตลอดไปก็ตาม)
ในที่สุดชาร์ลีก็มา แน่นอนเขาตระหนกกับความเปลี่ยนแปลงของเบลล่า (เธอทนกอดเขาได้ โดยสะกดกลั้นความกระหายได้ดีเยี่ยม) เอ็ดเวิร์ดบอกกับเขาว่า เรเนสเม เป็นหลานที่เขารับมาเลี้ยง แต่เมื่อชาร์ลีเห็นเธอ เขาก็ดูไม่เชื่อเอ็ดเวิร์ดนัก เพราะเธอเหมือนทั้งเอ็ดเวิร์ดและเบลล่าเสียเหลือเกิน ทุกอย่างที่ชาร์ลีเคลือบแคลงสงสัยก็ดูไม่สำคัญอีกต่อไป เมื่อเขาได้สัมผัสเรเนสเม เขาหลงรักเธอทันใด (เหมือนกับทุกๆ คน) และ นั่น เขาจึงยอมทำตามเจคอบแนะนำคือ รู้เท่าที่รู้ก็พอ (เขารู้ว่าเจคอบแปลงเป็นหมาป่าได้ นั่นทำให้เขารู้ว่ามีอะไรอีกมากมายในโลกนี้ นอกจากมนุษย์)
บรรยากาศแห่งความสงบกลับมาอีกครั้ง
เบลล่าท้างัดข้อกับเอ็มเมตต์ แลกกับการที่เขาไม่ล้อเธอเกี่ยวกับเรื่องบนเตียงระหว่างเธอและเอ็ดเวิร์ด ผลคือเบลล่าชนะขาดลอย นั่นทำให้เอ็มเมตต์หัวเสีย เขาขอแก้มืออีกเดือนข้างหน้า (เบลล่าให้รอสักเดือน เผื่อเธอจะแข็งแกร่งน้อยกว่านี้)
เรเนสเมโตขึ้นทุกวัน เธอชอบอ่านหนังสือที่มีคำกลอน ไม่ชอบอ่านนิทานภาพแบบเด็กอื่น และไม่ชอบให้เบลล่าอ่านเรื่องซ้ำๆ กัน
วัน หนึ่ง บ้านคัลเลนได้รับจดหมายจาก อาโร - หัวหน้าแวมไพร์โวลตูรี พร้อมของขวัญเป็นสร้อยเพชร เขาขอพบเบลล่า นั่นแปลว่าเธอต้องเดินทางไปพบเขา - คนเดียว (การพาเอ็ดเวิร์ดไปด้วยอันตรายเกินไป อาโรจะเห็นเรเนสเม) เอ็ดเวิร์ดทั้งกลัวและกังวล พวกคัลเลนเริ่มวางแผนเดินทาง เบลล่าตัดสินใจซื้อตั๋วเครื่องบินไปอิตาลี (คนเดียว) ในวันที่เรเนสเมอายุครบสามเดือนพอดี
วัน หนึ่ง ขณะที่เรเนสเม เจคอบ และเบลล่า ออกล่าด้วยกัน (พวกเขาพยายามฝึกเรเนสเมให้ลองเลือดสัตว์บ้าง เพราะเลือดมนุษย์ที่ได้จากการบริจาคมีไม่มากนัก และเรเนสเมเกลียดอาหารแบบมนุษย์) เบลล่าพบแวมไพร์ตนหนึ่งกำลังเฝ้ามองพวกเธอ นั่นคือ เอริน่า - คู่ของโลรองต์ (ที่ถูกฆ่าตาย) เอริน่าเมื่อรู้ว่าเบลล่ารุ้ตัว เธอคำรามแล้วหนีไป นี่ทำให้เบลล่ากังวลใจอย่างมาก เธอบอกเอ็ดเวิร์ดและคาร์ไลล์ พวกเขาตามเอริน่าไปทันที
เบลล่าพาเรเนสเมกลับบ้าน โดยเจคอบคอยคุ้มครองอยู่ตลอด ไม่มีใครรู้จุดประสงค์ของเอริน่าในขณะนี้ แม้แต่อลิซ
จนกระทั่งวันหนึ่ง อลิซมองเห้นผ่านนิมิตของเธอ มันช่างน่ากลัว ราวกับว่าเธออยู่ในความมืดดำของหลุมฝังศพพวกโวลตูรีกำลังมุ่งหน้ามาทางฟอร์คส์ ! พวกเขาทั้งหมด มันชัดเสียจนไม่มีทางเป็นอื่นไปได้ นี่คือความจริงที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้
สิ่งที่อลิซเห็นคือ เอริน่าพบ เรเนสเม และเธอรู้ว่าเรเนสเมไม่ใช่มนุษย์ (เอริน่าคิดว่าเธอคือ เด็กอมตะ - ผู้ซึ่งจะต้องถูกฆ่า หากพวกโวลตูรีรู้ความจริงข้อนี้ เพราะเด็กอมตะเป็นตัวอันตราย พวกเขาควบคุมสัญชาตญาณของตัวเองไม่ได้ และมันจะทำให้พวกแวมไพร์ถูกเปิดโปง)
พวก โวลตูรีคงมาเพื่อกำจัดเรเนสเม นอกจากนั้นก็เป็นข้ออ้างที่จะทำลายพวกคัลเลน (กลุ่มแวมไพร์อาวุโสที่สุดรองจากโวลตูรี ซึ่งอาจสั่นคลอนบัลลังก์ของโวลตูรีได้หากต้องการ) รวมทั้งเอ็ดเวิร์ด และ อลิซ ผู้ซึ่งมีพรสวรรค์ที่ทรงพลังยิ่ง (เอ็ดเวิร์ด - ผู้อ่านใจ, อลิซ - ผู้มีนิมิต มองเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า)
ทุกคนอยู่ในความตึงเครียด เพราะไม่มีทางที่จะชนะหากต่อสู้กับโวลตูรี และยิ่งรู้ว่าไม่มีทางหนี
เจ คอบรู้เรื่องนี้แล้ว แน่นอนพวกหมาป่าก็รู้ด้วย พวกเขาเตรียมพร้อมจะสู้ แต่นั่นไม่มีประโยชน์ เบลล่ารู้ดี มีแต่พวกเขาจะเอาชีวิตมาทิ้งเท่านั้น ทุกคนถูกพิพากษาแล้ว - พวกเราทุกคนจะถูกฆ่าตาย เบลล่าคิดอย่างสิ้นหวัง
อลิซอ้างว่าเธอจะมองเห็นนิมิตได้ดีหากอยู่ห่างจากเนสซี่ (เรเนสเม) เธอและแจสเปอร์ออกไปข้างนอกในคืนนั้น
เช้าวันรุ่งขึ้น ที่บ้านคัลเลน เอ็ดเวิร์ดพบว่ามันผิดปกติ อลิซควรจะกลับมาได้แล้ว หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ พวกคัลเลนตัดสินใจออกตามหาอลิซ และแจสเปอร์ พวกเขาพบ แซม พอลและจาเร็ดในป่า แซมบอกว่าอลิซมาขอข้ามแดนเพื่ออกไปยังมหาสมุทร และฝากโน้ตไว้ที่เขาเพื่อให้เบลล่า มันคือกระดาษที่ฉีกออกมาจากหนังสือเวนิสวาณิชของเบลล่านั่นเอง
เธอให้พวกเขาตามหาแวมไพร์ตนอื่นๆ ที่จะมาเป็นพยานได้ว่าเรเนสเมไม่ใช่เด็กอมตะและพวกอลิซจะช่วยตามหาอีกแรง ไม่มีเวลาแล้ว ทำไมอลิซต้องฉีกกระดาษของเบลล่าเพื่อทิ้งโน้ต ทำไมเธอต้องลำบากขนาดนั้น ในเมื่อเธอสลักลงบนหินก้อนใดในป่าก็ได้ มันต้องมีอะไรแอบแฝงอยู่ และอลิซต้องการบอกเบลล่าคนเดียว
เบลล่าพบว่ามันคือ คำว่า เจ.เจงคส์ เมื่อเธอค้น (โดยไม่ให้เอ็ดเวิร์ดรู้) ก็พบแต่ ชื่อและที่อยู่ของทนายคนหนึ่ง (ที่ใกล้เคียงกับคำใบ้ของอลิซที่สุด) เบลล่าเก็บมันไว้ เธอรู้สึกหนักอึ้งและสิ้นหวังไปหมด เช่นเดียวกับพวกคัลเลน
แต่พวกเขาก็ยืนยันที่จะทำตามอลิซแนะนำ พวกเขาแยกย้ายกันออกตามหาเหล่าแวมไพร์ที่รู้จัก
คา ร์ไลล์ - เอสเม, โรซาลี - เอ็มเม็ตต์ ออกหาแวมไพร์เพื่อให้กลับมารวมตัวกันที่บ้านคัลเลน เพื่อหวังว่าพวกเขาจะเป็นพยานต่อโวลตูรีได้ว่าเรเนสเมไม่ใช่เด็กอมตะ เบลล่า เอ็ดเวิร์ด และเรเนสเม อยู่รอต้อนรับที่บ้านคัลเลน
แน่นอน ในความคุ้มกันของพวกฝูงหมาป่า รวมทั้งแซม พอล จาเร็ตต์และเอ็มบรีด้วย พวกเขารวมตัวกันอีกครั้งหนึ่งแล้ว
กลุ่มแวมไพร์แรกที่มาถึงคือ กลุ่มเดนาลี (ธัญญา เคท อิลิซาร์ - คาร์เมน) (หมายเหตุ ที่มี - คั่นชื่อใคร แปลว่าเป็นคู่กันค่ะ) อิลิซาร์ เคยอยู่กับพวกโวลตูรี เขามีพลังพิเศษ สามารถล่วงรู้ได้ว่าแวมไพร์ตนใดมีอำนาจพิเศษอะไรบ้าง พวกเดนาลีตกใจมากเมื่อพบเรเนสเม เช่นเดียวกับเอริน่า พวกเขาคิดว่าเธอคือเด็กอมตะ แต่เมื่อสัมผัสเรเนสเม เธอทำให้พวกเขาหลงรักเธอแทบจะทันที โดยเฉพาะคาร์เมน
อิลิซาร์ได้พบความสามารถของเบลล่า เธอคือเกราะกำบังที่แสนวิเศษ เบลล่าสามารถป้องกันอะไรก็ตามที่จะทำอันตรายเธอ หรือแม้แต่ใครที่จะอ่านใจเธอก็ตาม (นั่นคือเหตุผลที่ทำไมเอ็ดเวิร์ดอ่านใจเบลล่าไม่ได้) เธออาจแผ่เกราะป้องกันคนอื่นได้ แต่ต้องอาศัยการฝึกฝน พวกเดนาลีตกลงใจที่จะอยู่ช่วยเป็นพยานให้เรเนสเม (พวกเขาก็ไม่คิดว่าโวลตูรีจะหยุดฟัง แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะอยู่) เคทมีพลังในการปล่อยกระแสไฟฟ้าออกมา ใครที่ถูกตัวเธอจะต้องโดนไฟฟ้าช็อต ยกเว้นเบลล่า
อลิซและแจสเปอร์ส่งเพื่อนมาอีกสองตน นั่นคือ ปีเตอร์ – ชาร์ล็อต พวกเขาได้พบเรเนสเมและให้เธอ " แสดง " คำอธิบาย จากนั้นก็คล้ายๆ กับพวกเดนาลี ทั้งสองตนยอมอยู่ช่วยบ้านคัลเลน
เอ็ดเวิร์ดทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี เขายอมให้เพื่อนแวมไพร์ออกล่านอกเขตที่พวกหมาป่ารักษาอยู่ และยอมให้พวกเขายืมใช้รถสปอร์ตทุกคัน เจคอบนั้นไม่พอใจนักที่มีการล่ามนุษย์ แม้จะนอกเขตของเขาก็ตาม แต่เมื่อเรเนสเมมีภัยซึ่งใกล้จะมาถึงตัวเร็วๆ นี้ เขาก็ยอมปิดปากสนิท
ต่อมา คาร์ไลล์ได้ส่งเพื่อนมาอีกสองกลุ่ม กลุ่มที่มาถึงก่อนเป็นแวมไพร์จากไอร์แลนด์ (ชิวอน - เลียม, แม็กกี้) ตามด้วยพวกแวมไพร์จากอียิปต์ (อามุน - เคบิ, เบนจามิน - เทีย) ชิวอน นั้นเป็นแวมไพร์สาวรูปร่างสูงใหญ่ เคลื่อนที่ได้พลิ้วไหวสง่างาม และดูสงบนิ่ง แต่น่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน ส่วนคู่ของเธอ - เลียม เป็นแวมไพร์หนุ่ม หน้าตาราบเรียบปราศจากการแสดงความรู้สึกใด ส่วนแม็กกี้ เป็นแวมไพร์สาวร่างเล็ก ผมสีแดง เธอมีความสามารถพิเศษ สามารถล่วงรู้ได้ทันทีว่าใครพูดจริงหรือว่าโกหก ดังนั้น เมื่อแม็กกี้ประกาศว่าเอ็ดเวิร์ดพูดความจริงเกี่ยวกับเรเนสเม ทั้งชิวอนและเลียมต่างก็เชื่ออย่างหมดใจ โดยยังไม่ทันแตะต้องเรเนสเมเลยด้วยซ้ำ
หากแต่ปฏิกิริยาสำหรับพวกอียิปต์ต่อเรเนสเมนั้นต่างออกไป เทีย คู่ของเบนจามิน เมื่อแตะต้องเรเนสเม เธอก็หลงรักเรเนสเมเหมือนกับตนอื่นๆ เบนจามิน ผู้ซึ่งอารมณ์ดีเสมอก็เช่นเดียวกัน เขาเป็นคนรู้จักแยกแยะผิดชอบอยู่มากทีเดียว ซึ่งเอ็ดเวิร์ดก็นิยมเบนจามินมากในข้อนี้ แต่อามุนนั้นไม่สนใจจะรับฟัง หรือแตะต้องเรเนสเม เขามีท่าทีค่อนข้างมึนตึง ที่มาเพราะต้องการมากับเบนจามินเท่านั้น เขาไม่ค่อยเห็นด้วยกับการเผชิญหน้าพวกโวลตูรี (เคบิ คู่ของเขาไม่ต้องพูดถึง เธอปฏิบัติตามอามุนราวกับทาสผู้ซื่อสัตย์ เธอเห็นตามเขาทุกอย่าง) แต่อามุนนั้นไม่อาจคัดค้านเบนจามินได้ ด้วยเขาต้องการเบนจามินให้อยู่รวมกลุ่มด้วยกัน (เบนจามิน มีความสามารถพิเศษในการเล่นแร่แปรธาตุทั้งสี่ แต่เขาก็ไม่ค่อยแน่ใจว่ามันคืออะไรมากนัก อาจเพราะเวลาในการฝึกฝนยังน้อย - อามุนเป็นผู้สร้างเบนจามินขึ้นมา) ดังนั้นพวกอียิปต์จึงอยู่รอเช่นเดียวกับกลุ่มอื่นๆ
บรรยากาศ ในบ้านคัลเลนตอนนี้ชวนอึดอัดพิลึก (ส่วนใหญ่เพราะกลุ่มอียิปต์ ที่ความเห็นขัดแย้งกันเกือบจะตลอดเวลา) เบลล่าหวังว่าคาร์ไลล์จะกลับมาเร็วๆ เพื่อช่วยผ่อนคลายบรรยากาศ
เอ็มเมตต์และโรสส่งพวกนักเดินทางพเนจร (แวมไพร์) มาให้ ตน แรกที่มาถึงคือการ์เร็ต เขาเป็นแวมไพร์ผมยาว ดวงตาสีทับทิม เขาดูเป็นนักเดินทางจริงๆ เมื่อมาถึงบ้านคัลเลน เขาผูกมิตรกับสองสาวเดนาลี (ธัญญา และเคท) อย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยแมรี่ และแรนดัล ซึ่งเป็นเพื่อนกัน พวกเขาทั้งสามยอมอยู่เป็นพยานให้เราด้วยความเต็มใจ
คาร์ไลล์และเอสเมตามมาในอีกไม่นาน บรรยากาศในบ้านเริ่มผ่อนคลายเมื่อคาร์ไลล์ - เอสเมกลับมา
อีกไม่กี่วันโรส - เอ็มเมตต์ก็มาสมทบ ทุกตนรู้สึกดีขึ้น
คาร์ไลล์ พาเพื่อนมาด้วยตนหนึ่ง (จริงๆ คำว่าเพื่อนก็ไม่ค่อยตรงนัก) เขาคือ อลิสแตร์ แวมไพร์จากอังกฤษผู้รังเกียจสังคม เขาชอบอยู่อย่างโดดเดี่ยวมานับศตวรรษ อลิสแตร์มีความหวาดระแวงในผู้มีอำนาจทุกชนิด แน่นอนหมายถึงโวลตูรีด้วย จริงๆ แล้ว อลิสแตร์เป็นนักแกะรอย แม้จะไม่เก่งเท่าดมิทรี (หนึ่งในองครักษ์โวลตูรี) เขารู้เสมอว่าควรจะไปทางไหน (ก็ทางตรงข้ามกับดมิทรียังไง) เขาตำหนิการเผชิญหน้ากับโวลตูรี และไม่ยอมแตะต้องเรเนสเมเหมือนอามุน แต่อลิสแตร์ก็ยังอยู่ที่บ้านคัลเลน
และแล้วก็มีการมาเยือนของมิตรแวมไพร์อีกคู่หนึ่ง เป็นการมาเยือนอย่างนึกไม่ถึง (เพราะคาร์ไลล์ - เอสเม ต่างก็หาพวกเขาไม่พบ) พวก อเมซอนนั่นเอง ซาฟรีนา - เซนนา (อันที่จริง มี คาชิรี อีกตนหนึ่ง แต่อลิซ ผู้ซึ่งพบพวกเขา ขอให้พวกเขาแยกกัน เธอต้องการให้คาชิรีไปที่อื่น) พวก เขาแลดูป่าเถื่อน ดวงตาแดงฉาน ลอกแลก การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วแบบแปลกๆ ผมยาว เสื้อกั๊กหนัง กางเกงรัดรูป (เบลล่าคิดว่าพวกเขาแลดูไร้อารยธรรม) แม้ ว่าพวกอเมซอนจะดูดิบเถื่อน แต่ซาฟรีนากลับนิ่งสงบ ฟังเอ็ดเวิร์ดอย่างตั้งอกตั้งใจ และเมื่อเขาสัมผัส เรเนสเม ก็เช่นเดียวกับแวมไพร์ตนอื่นๆ ก่อนหน้านี้ เรเนสเมมีเสน่ห์เกินห้ามใจ เซน นาคู่ของเธอก็มีปฏิกิริยาเหมือนซาฟรีนา (เธอไม่ได้ปริปากว่ากระไร เพียงแต่ตามคู่ของเธอ เหมือนกับเซนนาและซาฟรีนาเป็นอวัยวะในร่างคนคนเดียวกัน แต่ซาฟรีนาเป็น ปาก เท่านั้น ต่างกับอามุน - เคบิ ที่ดูเหมือนนายกับบ่าว) การได้ยินข่าวของอลิซจากพวกอเมซอน ทำให้เบลล่าสบายใจขึ้นอย่างประหลาด ซาฟรีน่ามีความสามารถในการสร้างภาพลวงตาได้ นั่นเป็นที่ชื่นชอบของเรเนสเมมาก
ขณะ เดียวกัน เอ็ดเวิร์ดเริ่มฝึกการต่อสู้ให้เบลล่า แต่ไม่นานนัก เขาก็ขอให้แวมไพร์ตนอื่นๆ สอนแทน ซึ่งส่วนใหญ่ยินดีจะสอน (เอ็ดเวิร์ดคงไม่อยากจะสู้กับเธอ หรือแม้แต่แสร้งทำก็เถอะ)
ที่ สำคัญ ซาฟรีนา สอนการใช้เกราะกำบังของเธอ โดยมีเอ็ดเวิร์ดเป็นเหยื่อล่อ ต่อมา เคท ร่วมด้วย โดยใช้กระแสไฟฟ้าของเธอ แต่ที่ดูจะทำให้เกราะของเบลล่าทรงพลังขึ้นก็เมื่อเคทใช้มันกับเรเนสเม เกราะของเบลล่าแผ่กว้างขึ้นอย่างมากมาย
จากนั้น มีแขกผู้ไม่ได้นัดหมายตามมาอีกสองตน นั่น คือพวกโรมาเนียน (วลาดิเมียร์ และสเตฟาน) ผู้โกรธแค้นโวลตูรีจากการถูกชิงอำนาจมานับสหัสวรรษ พวกเขาคิดว่าพวกคัลเลนเตรียมตัวโค่นล้มโวลตูรี จึงคิดมาร่วมด้วย
คาร์ไลล์ อธิบายว่าเป็นเพราะพวกเขาต้องการปกป้องเรเนสเมต่างหาก และนั่นก็เป็นอีกครั้งที่เบลล่านำเรเนสเมออกมา มาเพื่อพบพวกโรมาเนียน และ แสดง ความจริงให้พวกเขาดู
ชาร์ลีโทร.หาเบลล่า เขาอยากมาพบพวกเธอ แต่เบลล่าปฏิเสธ เธอจะพาเรเนสเม และเจคอบไปบ้านชาร์ลี เพื่อเลี่ยงพวกแวมไพร์ทั้งหมด และแล้ เบลล่าก็ได้เวลาเหมาะในการปลีกตัวจากเอ็ดเวิร์ดเพื่อไปตามหาปริศนาที่อลิซทิ้งไว้ เจคอบเริ่มรู้สึกว่าเบลล่ามีจุดประสงค์อื่น นอกจากการไปหาชาร์ลีในครั้งนี้ เธออ้างว่าให้เอ็ดเวิร์ดอยู่ดูแลพวกแวมไพร์ตนอื่นๆ ที่บ้านคัลเลน
ชาร์ลีดีใจมากที่เรเนสเมมาหา เขารู้สึกว่าเธอโตขึ้นเร็วมากในเวลาไม่กี่วัน (อาจจะเกือบครึ่งฟุต) เบลล่าแสร้งทำเป็นลืมซื้อของขวัญคริสต์มาส เธอขอปลีกตัวไปจากบ้านชาร์ลี ทิ้งเรเนสเมและเจคอบไว้ที่นั่น เธออกตามหาเจ.เจงคส์ และพบว่าที่อยู่ที่มีนั้นเป็นแหล่งเสื่อมโทรมแห่งหนึ่ง
คนที่เธอตามหาตกใจมาก เมื่อรู้ว่าเธอคือพวกคัลเลน เขาละล่ำละลักบอกที่อยู่ของเจ.เจงคส์ ทันที และเบลล่าก็รีบตามไปโดยไม่ลังเลเลย และเธอก็ระลึกได้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของอลิซ พวกคัลเลน - พวกเธอทั้งหมดต้องตาย และเธอต้องเหลือทางรอดให้ เรเนสเม
เจ เป็นทนาย ออฟฟิศของเขาอยู่ในย่านกลางเมือง (อลิซให้เบลล่าไปติดต่อที่แหล่งเสื่อมโทรม เพราะเธอต้องการให้เบลล่ารู้ว่า เจ มีฉากหลังเป็นธุรกิจผิดกฏหมาย - การปลอมแปลงเอกสารส่วนตัว)
ในที่สุดเบลล่าก็เข้าใจ เธอต้องให้เรเนสเมหนีไป พร้อมกับคนที่จะรอดจากการตามล่าของโวลตูรี คนที่พวกแวมไพร์ไม่สามารถแกะรอยได้ - เจคอบ
เธอ กลั้นก้อนสะอื้นในลำคอ ขณะที่หยิบรูปถ่ายของ เรเนสเม ในอ้อมกอดของเจคอบ ซึ่งเธอพกในกระเป๋าเงินเสมอ ยื่นให้เจ เพื่อทำเอกสาร เช่น บัตรประจำตัว พาสปอร์ต ในนามของเจคอบ และวาเนสซ่า วูล์ฟ เธอนัดเจมารับเอกสารภายใน 1 อาทิตย์ - เธอเหลือเวลาอีกไม่นานแล้วสินะ
เบลล่ากลับมารับเรเนสเมที่บ้านของชาร์ลี พวกเขากลับบ้านคัลเลน เอ็ดเวิร์ดอาจรู้สึกได้ว่าเบลล่าปิดบังบางอย่างกับเขา
เธอมอบล็อกเก็ตโบราณ ภายในมีคำว่า มากกว่าชีวิต ให้เรเนสเมสวมไว้ เบลล่าแอบเข้าไปในห้องอลิซ เธอหยิบเป้ใบเล็กสีดำ (ซึ่งเข้ากับขนาดเรเนสเมได้ เธอคงสะพายหลังโดยไม่หนัก) เพื่อเตรียมใส่เงินและเอกสารที่จำเป็นไว้ให้ เงินนั้นเป็นจำนวนมากพอที่จะอยู่ได้เป็นปี)การหยิบของในห้องอลิซไป คงไม่เป็นที่สังเกตของพวกคัลเลนที่เหลือ
เบลล่าพยายามมองโลกในแง่ดี อย่างน้อย เจคอบและเรเนสเมก็รอด นั่นถือเป็นชัยชนะอย่างหนึ่ง แม้พวกเธอต้องตาย แต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นจุดจบของโลกนี่นะ
เบลล่า เอ็ดเวิร์ด เรเนสเม และเจคอบ (รวมทั้งฝูงหมาป่า) ไปบ้านชาร์ลีเพื่อจัดงานคริสต์มาสปาร์ตี้เล็กๆ เบลล่าคิดว่านี่คงเป็นการร่ำลาชาร์ลีครั้งสุดท้าย มันช่างยากเหลือเกิน เธอยังไม่ได้พบเรเน่ แต่อาจจะดีกว่าที่กันเธออกจากเรื่องพวกนี้ได้ เรเน่คงรับมือไม่ได้อย่างชาร์ลี
เบลล่าเขียนจดหมายไว้ให้เจคอบ หวังว่าเธอคงจะมีเวลาให้เขาทันก่อนพวกเขาจะหนี เมื่อพวกเบลล่ากลับถึงบ้านคัลเลน พวกเขาก็พบว่า อลิสแตร์ จากไปแล้ว (อลิสแตร์ คิดว่าต้องมีการต่อสู้เกิดขึ้นแน่ๆ) นั่นทำให้ อามุน ขัดแย้งกับ เบนจามินอีกครั้ง เพราะอามุนไม่ต้องการสู้กับโวลตูรี แต่แน่นอน เบนจามิน ไม่ยอมให้ใครมาบังคับเขาได้ อามุนจึงจำใจอยู่ อีกครั้ง แต่เขาประกาศว่า หากมีการเพลี่ยงพล้ำ เขาจะไปอยู่ฝ่ายโวลตูรีแทน
ฝูงหมาป่าตกลงใจแน่วแน่ว่าจะสู้ (แวมไพร์ทุกตนเห็นว่างี่เง่ามาก และไม่มีประโยชน์)
เบลล่าหาโอกาสออกไปพบเจ เพื่อรับเอกสารที่ทำไว้ เธอกลับมาพร้อมกับเตรียมเอกสาร เงินสด ใส่ในกระเป๋าเป้ใบเล็กๆ ของอลิซ หวังว่าเรเนสเมจะนำติดตัวไปได้โดยไม่ลำบากนัก นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่เธอมอบให้ลูกและเพื่อนรักได้ เบลล่าค้อมตัว สะกดกลั้นความอยากร้องไห้ไว้อย่างแสนยากเย็น
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน เธอสวมล็อกเก็ตให้ลูก ในนั้นมีรูปพ่อแม่ลูก และสลักคำว่า มากกว่าชีวิตของฉัน ไว้ ในกระเป๋าเป้ มีเครื่องเล่น mp3 เล็กๆ บรรจุเพลงของเอ็ดเวิร์ดไว้มากมาย รวมทั้งที่ข้อนิ้วของเรเนสเมสวมแหวนถักของเจคอบไว้
1-2 วันนี้ คาร์ไลล์และเอ็ดเวิร์ดออกลาดตระเวณดูที่ลานกว้าง ที่ซึ่งวิคตอเรียและแวมไพร์เกิดใหม่ถูกฆ่า
และแล้ววันนั้นก็มาถึง
เบล ล่านั่งเฝ้าเรเนสเมในเต็นท์ ใกล้บริเวณลานกว้างนั้น เมื่อลูกตื่น เบลล่าบรรจงสวมชุดให้ลูก - นี่คงเป็นครั้งสุดท้าย เธอสวมชุดสวย แต่ก็ทนทานมากพอสำหรับการเดินทางไกล เบลล่า สะพายเป้ให้ลูก สวมทับด้วยแจ็คเกต
รูปร่างเรเนสเมตอนนี้เกือบเท่าเด็ก 5 ขวบ เธอคงพอแบกมันไหวขณะขี่หลังเจคอบหนี เรเนสเมอ่านทุกอย่างออกทันทีเมื่อสัมผัสเบลล่า และดวงตาที่ทุกข์ระทมของเธอ เรเนสเมเฝ้าถามด้วยแววตาที่ไร้เดียงสาว่า ทำไม
เบลล่าบอกลูกว่า เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไปในใจลูก แต่อย่าเพิ่งบอกเจคอบ จนกว่าแม่จะบอกให้หนีนะ เบลล่าสวมสร้อยที่อาโรให้เป็นของขวัญ บางที มันอาจช่วยเธอได้
สวยจังค่ะแม่ เรเนสเมพึมพำ เบลล่ากอดลูกไว้แน่น เอ็ดเวิร์ดกอดเธอทั้งสอง เรเนสเมปีนไปอยู่หลังเบลล่า เพื่อให้เธอมือว่าง
พวกคัลเลน รวมทั้งแวมไพร์ทุกตนพร้อมแล้ว พวกเขายืนเรียงรายกันในลานกว้างนั้น และแล้ว พวกเขาก็มา มันเป็นการเคลื่อนที่อย่างช้าๆ น่าเกรงขาม
พวกโวลตูรี…
พวกโวลตูรี นำโดย ไกอัส และ อาโร องครักษ์ และเหล่าภรรยา มากันทั้งหมด และมีแวมไพร์ที่ตามมาเป็นพยานด้วย พวกเขาพบเบลล่า ซึ่งกลายเป็นแวมไพร์แล้ว และพบ เรเนสเม ในที่สุด อาโร ต้องยอมรับว่าเธอไม่ใช่เด็กอมตะ แต่นั่นไม่ได้ทำให้พวกโวลตูรีหยุดและกลับไป จริงๆ แล้วพวกเขามาเพื่อจุดประสงค์อื่นๆ ที่มากกว่านั้น
คือกวาดล้างพวกคัลเลน แวมไพร์กลุ่มใหญ่ที่สุดรองจากพวกเขา และเหลือ เอ็ดเวิร์ด รวมทั้ง อลิซ เพื่อไปเป็นพวกเดียวกับโวลตูรี อาโร แอบผิดหวังที่ไม่มีอลิซอยู่ในที่นี้ด้วย
เมื่อเขาหาเรื่อง เรเนสเม ไม่ได้ เขาก็ใช้ข้ออ้างเกี่ยวกับ พวกมนุษย์หมาป่า เพราะพวกแวมไพร์ ไม่ควรผูกมิตรด้วย
แต่ อาโร ก็ถูกคัดค้าน เพราะจริงๆ แล้ว พวกเจคอบคือ มนุษย์แปลง ต่างหาก พวกเขาไม่ใช่ บุตรแห่งพระจันทร์ ซึ่งเป็นศัตรูกับแวมไพร์ แต่ที่เป็นหมาป่า เพราะตามบรรพบุรุษ อันที่จริง พวกเขาจะแปลงเป็น นกอินทรี ก็ได้ หรืออะไรที่อยากจะเป็น เรื่องนี้ตกไป
เอริน่า เสียใจที่เธอกล่าวหา เรเนสเม ผิด และทำให้พวกเดนาลีของเธอตกอยู่ในอันตราย เธอสารภาพกับเหล่าพยานของโวลตูรี และไล่พวกเขากลับไป นั่นทำให้เอริน่าถูกไกอัสฆ่า มันเป็นแผนของอาโร ที่ให้ไกอัสฆ่าเอริน่า
เพื่อให้พวกเดนาลีโกรธแค้น และเปิดฉากต่อสู้ก่อน โวลตูรีจะได้กวาดล้างพวกคัลเลนได้ โดยไร้มลทิน แต่เอ็ดเวิร์ดหยุด ธัญญา ได้ ส่วนเคท ไม่มีใครจับเธอไว้ได้ เพราะกระแสไฟฟ้าที่รุนแรงจากตัวเธอ เบลล่านั่นเองที่ช่วยรั้งเคทไว้ได้ เธอใช้เกราะของเธอกั้นระหว่างเคทและการ์เร็ต ทำให้การ์เร็ตหยุดเคทไว้ทัน
ทำให้อาโรผิดหวัง แต่นั่นไม่ได้ทำให้พวกโวลตูรีหยุดแผนการร้าย พวกโวลตูรีแสร้งทำประชุมกัน แต่ก็ให้ เจน จัดการพวกคัลเลน โดยไม่ให้รู้ตัว (เจนสามารถส่งพลังจิตแผดเผาใครก็ได้ให้ทรมานจนกว่าจะตาย)
เริ่มที่คาร์ไลล์ เอ็ดเวิร์ด ผู้อ่านใจได้ รู้ทันทีว่าเจนจัดการคาร์ไลล์ เขาละล่ำละลักถามคาร์ไลล์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
คาร์ไลล์ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เบลล่านั่นเอง เกราะกำบังแสนวิเศษของเธอ เธอปกป้องพวกเธอได้ทุกตน
เจนโกรธแค้นแสนสาหัสที่เบลล่ามาขวางเธอไว้ได้ (ซึ่งไม่เคยมีใครในโลกนี้ทำได้) เชลซี สมุนโวลตูรีอีกคน พยายามจัดการต่อ ตามด้วยอเล็ก ฝาแฝดของเจน ไม่มีใครใช้พลังผ่านเกราะของเบลล่าได้เลย (เชล ซี สามารถทำให้สายสัมพันธ์ขาดสะบั้นลงได้ ทำให้คนในครอบครัวแตกแยกกัน เพื่อเข้ากับโวลตูรี, อเล็ก ทำให้พวกเขาหมดความรู้สึก ตาบอด หูหนวก ไม่รับรู้อะไร)
ในที่สุด โวลตูรีต้องยอมกลับไป เพราะไม่สามารถหาข้ออ้างใดๆ มาทำลายล้างพวกคัลเลนได้อีก เมื่อ อลิซ ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับ นาฮูเอล ชายหนุ่มครึ่งแวมไพร์อีกตนหนึ่ง เขามาเพื่อยืนยันว่า เมื่อเติบโตขึ้น เรเนสเม จะไม่เป็นตัวอันตราย เธอจะหยุดโตในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แต่จะมีชีวิตยืนยาวกว่ามนุษย์ปกติ (นาฮูเอลอายุ 150 ปีแล้ว) โวลตูรีจำต้องกลับไป
และบรรยากาศแห่งความสงบเริ่มกลับคืนสู่ฟอร์คส์ ทุกๆ คนได้อยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง การ์เร็ต ตัดสินใจว่า เขาจะติดตาม เคท ไปทุกหนแห่ง
เบลล่า เอ็ดเวิร์ด และเรเนสเม ได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ตลอดไป ตลอดไป และตลอดไป ตราบชั่วนิรันดร์เล็กๆ ของพวกเขา
จบบริบูรณ์
==========================================================
อัพจบแล้ว >O<
หวังว่าทุกคนจะมีความสุขที่ได้อ่านกันนะคะ
ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามมาจนจบ
แต่ว่าสรยังมีเซอไพรอีกน้า
ใครที่อยากรู้ก็ต้องสัญญาว่าจะติดตามบล็อกต่อไปนะ
เกี่ยวก้อยสัญญากันด้วยสิ ^^
______________________________________________________
Je
ธีมโดย
ความคิดเห็น
ได้โปรดอัพเถอะจะลงแดงตายแล้วT^T~
กรี๊ดๆๆๆๆ
อัพไวนะคะ
รอเสมอ
อิอิ
ขอบคุณค่ะที่เอามาให้ได้อ่านกัน
เร็วๆนะตัวเอง
เร็วๆๆน่ะค่ะ
ตอนนี้ มหาลัย สอบ กัน
เรายังไม่ได้อ่านหนังสือ เลย
มาอ่านแวมไพร์ก่อน
จะรอดไหมเนี่ย
อ่านไม่จบแล้วมันค้างคา อ่ะ
รีบลงนะค่ะ