ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บันทึกจัดอันดับ สุดแปลก ฮา

    ลำดับตอนที่ #79 : ขอเม้าท์ เที่ยวดินแดนปลาดิบ (ตอนที่ 4)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.35K
      1
      24 เม.ย. 52

    ขอเม้าท์ เที่ยวดินแดนปลาดิบ
    ตอนที่ 4
    7 เรื่องญี่ปุ่นขอเม้าท์(6และ7)
    http://gotoknow.org/file/chiew-buncha/POM-Fujiyama.jpg
    โรงแรมที่ผมพักอยู่ใกล้ๆกับภูเขาไฟฟูจีครับที่ฮาโกเนะ เวลามองตอนเช้าก็จะเห็นได้ชัด แถมมีคนมาตกปลาด้วย แต่ตอนกลางคืนมันมืดง่ะ มองม่ะเห็น ข้างนอกเป็นถนนครับ อยู่ต่างจังหวัดก็ได้มุมที่สวยดีนะ คนไม่เยอะด้วย อิอิ สองเรื่องสุดท้ายสองเรื่องที่ผมชอบที่สุดในการเดินทางน่ะครับ จริงๆจะเอาฟูจีอยู่อันดับ 2 แต่เผอิญว่า อันนี้เป็นตัวหลักที่ผมชอบมาญี่ปุ่นจริงๆ อิอิ
    เสริมเรื่องน่ารู้ครับต่อจากบทควาี่มที่แล้ว มีบริษัทแห่งหนึ่ง(สงสัยจะเป็นผู้หญิง)อนุญาตให้พนักงานลากิจได้ถ้าอกหัก ซึ่งก็ไม่ทราบเหตุผลนะครับ แต่ว่ามีหลายคนอยากเข้าบริษัทนี้มากด้วยเหตุผลประการฉะนี้

    เรื่องที่ 6 ออนเซ็น
    http://www.traveladventures.org/continents/asia/images/onsen02.jpg
    เป็นที่เดียวที่ไม่มีรูปถ่ายครับ เพราะว่า ขืนเอาเข้าไปมีหวังโดนหาว่าโรคจิตแน่ อิอิ มาญี่ปุ่นทั้งที สิ่งที่ขาดไม่ได้คือออนเซ็นครับ ก็คือการอาบน้ำแล้วแช่น้ำร้อนนี่แหละ ผมได้ไปใช้ตอนพักโรงแรมคืนแรกครับ(ที่เดียวกับที่ผมพูดไว้ข้างต้นบทความตอนนี้แหละ) ซึ่งหน้าตาคล้ายๆกับรูปที่ผมไปSearchมาอันนี้แหละ ที่นี่จะใช้น้ำแร่จากภูเขาไฟฟูจีครับ ซึ่ง การอาบน้ำแร่นั้น จะต้องตรงตามมาตรฐานของญี่ปุ่นด้วยครับ เช่น น้ำจะต้องร้อนกว่า 25องศาเซลเซียส และ น้ำจะต้องมีส่วนประกอบของแร่ธาตุอย่างน้อย 1ชนิด ปริมาณ 1กิโลกรัม อะไรประมาณนั้น โรงแรมที่จะมีออนเซ็นนั้น นับว่าหายากหน่อยครับ มักจะมีที่ต่างจังหวัด แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว ในทัวร์มักจะมีซักวันนึงที่จะพักโรงแรมที่ออนเซ็นนะครับ ซึ่งผมขอแนะนำอย่างมากว่า ควรลงครับ ทัวร์ไทยคนไทยส่วนใหญ่จะอายและไม่กล้าลงเพราะว่า ออนเซ็นเป็นที่อาบน้ำรวมครับ แต่ว่าก็จะแบ่งชายแบ่งหญิงนะ ยกเว้นบางที่เท่านั้นที่จะเป็นแบบอาบรวมชายหญิงเลย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีอะไรน่ากลัวครับ เพราะว่าเมื่อเข้าไปนี่ ต่างคนต่างก็อาบของส่วนตัวเอง ไม่สนใจคนอื่นครับ ดังนั้น จึงไม่ต้องกลัวว่าเข้าไปแล้วจะโดนมองหรืออะไรก็ตามแต่ แต่โรงแรมที่ดีก็จะมีห้องอาบน้ำในห้องพักนะครับ เผื่อคนที่อายจริงๆ(ยิ่งผู้หญิงมีประจำเดือนนี่ หมดสิทธิ์)
     
    ขั้นตอนการอาบออนเซ็นครับ
    1. หาเสื้อยูคาตะมาใส่ซะก่อน ตัวอย่างชุดครับ
    http://www.geocities.com/sawaddeejapan/yukata0.jpg
    ซึ่งไม่ต้องกังวลเรื่องวิธีผูกครับ เขาไม่สนใจเท่าไหร่ ขอให้ผกแล้วอยู่ตัวก็โอเชย์ อย่าลืมใส่กกน.ด้วยครับ เพราะว่า โรงแรมหลายที่เขาจะให้ใส่ชุดยูคาตะเดินในตัวโรงแรม และผ้าคาดก็มีแต่ผ้าคาดพุงนี่แหละครับ นึกถึงชุดคลุมอาบน้ำเอาละกัน(ตอนผมไปนี่มาถึงทุ่มเค้านัดกินข้าวทุ่มครึ่ง ก็เลยยังไม่อาบน้ำ ไปกินข้าวก่อน ซึ่งถ้าไม่ใส่กกน.มีหวังลมโกรกแน่ครับ เวลานั่งก็ปิดๆหน่อย)

    2. ผ้าจะมีสองผืนครับ ผมเรียกว่า ผ้าเล็กกับผ้าใหญ่ ผ้าเล็กเอาไว้ใช้ตอนอาบน้ำ ผ้าใหญ่ไว้เช็ดตัวครับ ไว้ผมจะบอกรายละเอียดภายหลัง

    3.ที่ที่อาบน้ำจะมีล็อกเกอร์ครับ อย่างในรูป
    Image of Japanese onsen - hot bath, Japanese Bath, Japan
    ซึ่งของใครของมันครับ เลือกตะกร้าที่ถูกใจ แล้วก็แก้ผ้าใส่ตะกร้าให้หมดไม่ว่าจะนาฬิกาหรือกุญแจ ทั้งตัวจะไม่มีอุปกรณ์ใส่เลยครับ เรียกว่า ล่อนจ้อนหมดเลย ไม่ต้องอายครับ เพราะว่าไม่มีใครสนใจกัน ที่โรงแรมที่ผมพักจะมีโต๊ะเครื่องแป้งที่มีที่เป่าผมและที่โกนหนวดให้ใช้ด้วยครับ และมีเจลใส่ผมด้วย เลือกได้ตามใจชอบ แต่นั่นคือ หลังอาบเสร็จนะ และก็เก็บผ้าใหญ่ไว้ที่ตะกร้า พกผ้าเล็กไป ตอนเปิดประตูเข้าไปในห้องอาบน้ำจริงนี่จะเห็นคนอื่นๆอาบน้ำด้วย ถ้าอายก็เอาผ้าบังนิดนึงก็ได้ครับ ส่วนผู้หญิงก็ลำบากหน่อย แต่โดยส่วนใหญ่จะไม่ปิดกันครับ คนที่ปิดเนี่ยกลับจะโดนคนอื่นมองซะมากกว่า

    4. เมื่อเข้าไปข้างในก็ล้างตัวก่อนเลยครับ
    http://www.traveladventures.org/continents/asia/images/onsen03.jpg
    จะมีสบู่แชมพูให้ครับ ซึ่งเป็นของทางโรงแรม ก็ลองดูว่าใช้ดีหรือเปล่า ถ้าดี มีขายที่ข้างล่างโรงแรมครับ ถ้าชอบ ขอแนะนำให้ซื้อ เพราะว่าจะไม่มีขายที่ไหนนอกจากที่โรงแรมครับ อย่างตอนผมไปนี่ เป็นแชมพูจากไขมันท้องม้า และก็สบู่ถ่าน มันก็ดีนะ แต่ผมไม่ได้ซื้อ แต่ละคนก็เข้าแต่ละล็อกครับ ปกติจะมีที่กั้นให้ ละฏ้นั่งเก้าอี้อาบเลยครับ อาบเหมือนทั่วไป ส่วนผ้าเล็กนั้น ก็เอาไว้ถูหลังครับ นึกถึงตอนเช็ดหลัง แต่ว่าใส่สบู่ละก็ขัดหลัง ถ้ามาเป็นเพื่อน ก็ถูหลังให้กันได้ครับ แต่ตอนมานี่ ไม่เคยเห็นใครทำเลยนะ น้ำปรับได้ตั้งแต่เย็นถึงร้อนครับ อุณหภูมิที่ปลอดภัยจะอยู่ที่40องศาเซลเซียสครับ ถ้าทนระดับนี้ได้ ก็พอจะลงแช่ได้แล้ว (แต่บ่อนั้นสูงประมาณ43องศานะ)คนที่เพิ่งลองครั้งแรก แนะนำว่า อาบน้ำร้อนจนร่างกายพอปรับตัวได้ จึงค่อยลงไปแช่นะครับ

    5. แล้วก็ได้เวลาลงอ่างครับ

    มารยาทในอ่างขอญี่ปุ่นจะเคร่งความสะอาดมาก ดังนั้นจึงไม่ให้ลงอ่างเลย ต้องอาบน้ำก่อน และไม่ให้ใส่กางเกงว่ายน้ำลงไปครับ จริงๆรวมถึงผ้าเล็กด้วย แต่ผ้าเล็กส่วนใหญ่จะเอามาพักไว้ที่หัวเพื่อจะได้รู้ว่าของๆใครครับ จำไว้ว่าผ้าเล็กจะไม่ตกถึงบ่อน้ำร้อน ตอนจะลงนี้ แนะนำว่าแหย่ขาลงไปก่อน แล้วค่อยๆเลื่อนตัวลงกับบ่อ มันจะมีขั้นบันไดอยู่ครับทำให้ค่อยๆลงได้ และก็แช่ประมาณ 5-30ครับ มือสมัครเล่นเริ่มที่ 5 ก่อนก็ได้ แล้วขึ้นมาอาบน้ำนิดนึงแล้วลงไปแช่ต่อ ไม่เกิน30นาทีนะครับ ไม่งั้นขึ้นมา วูบได้เลยเชียว บ่อน้ำร้อนจะมีทั้งแบบIndoor และ Outdoorครับ Outdoorนี่จะเห็นบรรยากาศข้างนอก สวยงามมากครับแต่น้ำจะร้อนเป็นพิเศษ(ผมไปแช่ตอนเช้า ห็นภูเขาไฟฟูจีด้วยแหละ) และเค้าจะมีที่นั่งชมวิวได้ครับ แต่ว่า หนาวนะท่าน ถ้าขี้หนาว อย่าได้ออกไปเลย ละก็ตรงระเบียงมีที่กั้นก็อย่าไปยืนปีนเล่นนะ เพราะว่าออกมาข้างนอกนั่นก็คือถนนที่คนเดินไปเดินมา เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน อิอิ

    6. พอขึ้นจากบ่อ ก็อาบที่เดิมต่อแป๊บนึง อาจราดน้ำเย็นด้วย แล้วขึ้นมาที่ล็อกเกอร์เดิมครับ เช็ดตัวให้เรียบร้อย ใส่กกน.แล้วก็ใส่ยูคาตะ เป็นอันเรียบร้อย และถ้าจะโกนหนวด ใส่เจล เป่าผมก็มีให้ที่โรงแรมครับ(แต่ที่อื่นมีป่าวไม่รู้นะ) แต่เคยเจอคนจากทัวร์จีน(มั้ง)บางคนโกนหนวดเป่าผมตั้งแต่ออกจากห้องเลยครับ ช่างกล้า(คือพี่แกไมไม่ใส่ยูคาตะก่อนล่ะ?)

    ทริกเล็กน้อย ถ้าคุณเป็นคนเหนียมอายแต่อยากลงออนเซ็น
    1.ตอนเข้าไป พยายามทำเหมือนกับว่า มีแค่เราคนเดียวในห้องอาบน้ำ อย่าลุกลี้ลุกลน ยิ่งลุกลี้ลุกลน คนยิ่งมองครับ และรีบเข้าล็อกของตัวเองเลยครับ คนที่อาบส่วนใหญ่จะเป็นทัวร์ต่างชาติอย่างเช่นจีนครับ แลก็มีแต่หุ่นแบบอ้วนทั้งนั้น ทำให้เราดูผอมลงทันตา เขาก็ไม่ปิดนะ และอีกเรื่องที่ทะลึ่งก็คือ คนญี่ปุ่นจะมี___สั้นครับ ดังนั้น หนุ่มไทยมั่นใจได้ว่า ไม่ต้องอายใคร(ยกเว้นคุณก็สั้นเหมือนกัน อิอิิ)
    2.พยายามเลือกเวลาที่จะลงให้เหมาะสม โดยสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือ ลงพร้อมกับคนไทยด้วยกันโดยเฉพาะกรุ๊ปที่ทัวร์ด้วยกันนี่ล่ะครับ ควรดูด้วยว่าห้องอาบน้ำเปิดช่วงไหน ปิดช่วงไหน อย่างโรงแรมผมนี่24ชั่วโมงเว้นเที่ยงคืนที่จะทำความสะอาดครึ่งชั่วโมง เป็นโชคดีของผมครับ ไปอาบ3ครั้ง เจอคนไทยกรุ๊ปที่ทัวร์เดียวกัน 2ครั้งครับ เพราะว่าอีกครั้งหนึ่งเจอโชเฟอร์ชาวญี่ปุ่นครับ(คนที่ขับรถให้ทัวร์เรานี่แหละ) สรุปว่าเจอหมดว่างั้น เหอเหอ
    3.มีอีกอันนึงคือ ถ้ามีOutdoorให้ไปOutdoorเลยครับ ไม่ค่อยมีคน แต่ว่าทนอากาศหนาว และน้ำร้อนกว่าปกติหน่อยนะ


    พออาบเสร็จ แนะนำว่า หานมเย็นๆดื่มครับ จะรู้สึกสดชื่นมากมาย จริงๆเพราะว่าร่างกายเสียน้ำและเกลือแร่ด้วยครับ ดังนั้นควรเติมน้ำให้ร่างกายซะหน่อย โดยเฉพาะนมที่อร่อยกว่าเมืองไทย พอตอนกินหลังออนเซ็น ทำไมรู้สึกอร่อยกว่าเดิมก็ไม่รู้สิ

    บางที่จะมีบริการเก้าอี้นวดนะครับ เฉลี่ยประมาณ 100เยน 10นาที สบายดีเหมือนกัน และก็เข้าใจเลยล่ะว่า ทำไมมาออนเซ็นแล้วหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง(เพราะต้องระมัดระวังตัวไม่ให้เจอคนไทยด้วยกันเองนั่นเอง อืมม์ ล้อเล่นนะ)

    เรื่องที่ 7 Tokyo Disneyland
    Tokyo Disneyland Park Map
    มาญี่ปุ่นทั้งที ไม่ไปโตเกียวดิสนีย์แลนด์นี่ น่าเสียดายมากๆครับ ข้างในนี่สวนสนุกของแท้เลย แต่คนจะเยอะมากๆครับ เยอะขนาดที่ว่าคนต่อคิวซื้อตั๋วเข้านี่เลยมาถึงถนนด้านนอกเลยครับ(ประมาณ100เมตร) ดังนั้น ช่วงทัวร์ที่ไป เช็คเวลาดีๆครับ ควรไปช่วงวันธรรมดาที่ไม่ใช่วันนักขัตฤกษ์ คิวจะน้อยลง และควรไปตอนเช้าครับ เปิด9โมงนะ ข้างในก็จะมีที่ให้เล่นมากมายครับ ซึ่งแต่ละที่ รอคิวไปเลยอย่างน้อย ครึ่งชั่วโมง(จนถึง1ชั่วดมงครึ่ง) แต่ก็มีFastpassนะครับ ทำให้เหลือเวลาประมาณ15นาทีถึงครึ่งชั่วโมง อันนี้คือ ที่ธรรมดานะครับ ไม่รวมเครื่องเล่นเปิดใหม่ ต่อไปนี้ผมจะขอสปอยล์ส่วนต่างๆ ใน โตเกียวดิสนีย์นะครับ ซึ่งเครื่องเล่นจะเป้นอะไรก็อยู่ที่ช่วงเดือนด้วยครับ อย่างเดือนที่ผมไปจะเป็นพวกนี้(spoilนะครับ spoil)

    1. Pirates of the Caribeans อันนี้เดี๋ยวได้เจอ แจ๊คสแปร์โรว์แน่ครับ ล่องเรือไป ก็จะมีเรื่องโจรสลัดต่างๆ แต่อย่าลืมว่าเขา No Picture ครับ เวลาไปถึงน้ำตกนี่มีหน้าเดวี่ โจนส์โผล่มาด้วย
    2. Adventureอะไรซักอย่าง เป็นนั่งเรือชมป่าครับ อันนี้น่าเบื่อหน่อย แต่ว่าไกด์นำทางต่อให้พูดญี่ปุ่นฟังไม่รู้เรื่อง แต่ได้อารมณ์ดีครับ เหอเหอ
    3. Haunted House บ้านผีสิงครับ อันนี้ถ้าพาเด็กมาด้วยก็อาจจะร้องช่วงแรกครับ แต่ช่วงหลังไม่ร้องละ(เพราะช็อค) จริงๆถ้าระดับพวกเราไม่น่ากลัวครับ จะมีที่ชอบก็คือ เอฟเฟคอย่างรูปภาพที่จู่ๆหน้าก็กลายเป็นกะโหลกไปซะงั้น รวมถึงพี่เต้นรำ3Dแล้วก็หายไป ที่เด็ดอันนึงคือ เมื่อส่องกระจก จะมีผีนั่งรถไปกับเราด้วย เหอเหอ ที่นี่บริการดีครับ เพราะตอนที่ผมไปนั้น มีคนที่นั่งแชร์(ขาพิการ)มาเล่น เค้าก็หยุดรางให้(ปกติรางจะวิ่งตลอด)ละก็พยุงคนแก่ขึ้นไปครับ ผมไม่เห้นหรอกนะ แต่ว่าพ่อเล่าให้ฟัง เผอิญช่วงที่หนุด ผมไปหยุดตรงที่มีรูปภาพที่มองมาทางผมเนี่ยสิ โคตะระน่ากลัวเลย
    4. Stone mountainมั้ง เป็นรางรถไฟที่ให้เรานั่งเหมือนรถไฟเหาะครับ ก็สนุกดี
    5. Splash Mountainครับ อันนี้ทีเด็ดครับ ภาพก็ประมาณนี้
    http://www.wdwinfo.com/wdwinfo/guides/magickingdom/photos/Splash-Mountain-250.jpg
    คือว่ามันจะนั่งแล้วก็ไปตามทางครับ แต่เค้าจะมีซ้อมๆให้ก่อนหน่อยนึง จากนั้น ก็ของจริง ก็คือดังรูปครับ ซึ่งทำหน้าตาดีๆกันหน่อยนะ มันมีกล้องแอบถ่ายรูปเราตอนดิ่งลงด้วย ถ้าไม่อยากให้ภาพประจานก็ ไปซื้อที่ร้านนะครับ อิอิอิ

    6. Space Mountain อันนี้ไม่น่ากลัวเท่าSplashแต่ว่าเครื่องเหวี่ยงมากกว่า รวมถึงไม่รู้ทิศทางของรางด้วย คนเมาง่าย ให้ระวังนะครับ
    7.Small World น่ารักมากครับ เค้าจะเปิดเพลง It's a small worldทั้งวันเลยครับที่นั่น ก็จะสำหรับเด็กๆครับ ข้างในก็จะมีตุ๊กตาูนานาชาติ(ใส่ชุดน่ะ) เต้นไปมา โบกมือ เด็กๆมากครับ แต่ว่าเสียงเพลงจะหลอนไปถึงรุ่งเช้าอีกวันนึงเลยล่ะ เหอเหอ แต่ถ้าไม่นับเรื่องนี้ ถือว่า น่ารักดีครับ
    8.บ้านหมีพูห์ ไม่ได้เข้าครับ เพราะปิดซ่อมปรับปรุง แต่เค้าบอกว่าฮิตมากๆ ขนาดที่ว่ามีคนรอนานที่สุดก็ว่าได้(เพื่อที่จะนั่งดูบ้านหมีพูห์3นาที) อยู่ที่3ชั่วโมงครึ่งโดยประมาณครับถึงขนาดที่ว่าไม่เปิดFastpassให้ครับ
    9.Monster Inc. อันนี้มาใหม่ล่าสุดครับ ไม่ได้ขึ้นเหมือนกันเพราะว่าตอนมา9โมง มีคนรอคิวขนาดที่ว่าต้อง210นาที ก็คือ 3ชั่วโมงครึ่งครับ และก็ไม่มีFastpassเช่นกัน ทั้งนี้เนื่องมาจากคนญี่ปุ่นค่อนข้างบ้าเห่อครับ เวลามีของใหม่มา ก็จะรีบไปโดยที่ยืนนานแค่ไหน ก็ยอม น่ากลัวจริงๆ

    มาที่นี่ ก็ต้องลองป๊อบคอร์นครับ ป๊อบคอร์นที่นี่ขาย 1500เยน แต่จะมีกระป๋องตัวการ์ตูนประจำเครื่องเล่นด้วยครับ ซึ่งผมใช้Stitch อิอิ และรสชาติของป๊อบคอร์นแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกันครับ อย่างเช่น ที่ผมซื้อเป็นรสจืด แต่ที่อีกที่เป็นรสแกงกะหรี่ และก็คนรอซื้อป๊อบคอร์นนี่ ต่อแถวกันครึ่งชั่วโมงเลยครับ

    ตอนขากลับอย่าลืมซื้อของฝากติดไม้ติดมือด้วยนะครับ ของขายเยอะมากมาย โดยเฉพาะหมวกMonster Inc.ตอนนี้เป็นที่นิยมกัน

    มีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับTokyo Disneyนิดนึงคือ นักเรียนญี่ปุ่นสามารถลากิจเพื่อไปเที่ยวดิสนีย์ได้ครับ ไม่รู้นะว่าเพราะว่าอะไร แต่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเสมอที่ญี่ปุ่นจนคนที่เข้าโตเกียวดิสนีย์อันดับ1คือญี่ปุ่นครับ ไทยอยู่อันดับ4

    สำหรับสวนสนุกที่อื่นนะครับ ยังมีที่ื Tokyo Disney Sea และ ฟูจิคิว เครื่องเล่นจะหวาดเสียวกว่าDisneylandเยอะครับ แต่คนน้อยกว่า ว่างๆก็ลองไปเล่นได้(ผมไม่ได้ไปนะ แต่พี่กุ้งเล่าให้ฟัง)
    ตัวอย่างเครื่องเล่นนะครับ
    1. Tower of Terrorของ Disney Sea จะเป็นหอคอยครับ และพอเข้าไปก็จะเปิดลิฟต์ให้ดูแต่ละชั้นและบอกประวัติความเป็นมา(ภาษาญี่ปุ่น ฟังไม่รู้เรื่อง) ละก็ไปถึงชั้นบนสุดเป็นวิวสวยครับ เห็นทะเล จากนั้นประตูลิฟต์ปิดแล้วทิ้งดิ่งลงครับ ถ้าคิดว่าหมดแล้ว ยังครับ ลิหต์ก็จะขึ้นไปใหม่ ก็จะเปิดชั้น1 ชั้น2เหมือนเดิมอธิบายเหมือนเดิม และก็ขึ้นไปละก็ดิ่งใหม่ กี่รอบไม่รู้ครับ แต่พี่เค้าบอกว่า ขาสั่นเลย
    2.  รถไฟกระชากวิญญาณของฟูจิคิวครับ พี่เค้าเล่าให้ฟังว่า มันคือขึ้นไปแล้วก็ปกติรถไฟเหาะที่ดีจะมีเวลาให้ตั้งตัว แต่นี่ไม่ มันพุ่ง300km/ชั่วโมงเลยครับ
    3. โรงพยาบาลผีสิงของฟูจิคิว เค้าบอกว่าทำได้หลอนสะใจมาก ข้างในก็คือทำแบบโรงพยาบาลเก่าๆ และ็มีลงทะเบียน(ทำเหมือนรพ.ครับ ใครที่เคยเข้ารพ.จะพอรู้)ละก็จะมีเิปิดวีดิโอให้ดูประวัติความเป็นมาของรพ.และมีคนถ่ายทำโดยถือกล้องดูที่ต่างๆครับ ซึ่งวีดิโอนั้นสยิงมาก ไม่ขอเล่า จากนั้นก็จะให้ไปตามห้องต่างๆครับ รู้สึกมี8ห้องนะ แต่คนส่วนใหญ่5ห้องขอออกแล้ว สยองยังไง ลองไปดูสิครับ
    4. เอจาไนกา(ไม่ใช่ยาราไนก๊านะ)อันนี้เครื่องเล่นหวาดเสียวเหมือนกันแบบว่าเหมือนรางจะหลุด จะหล่น เฉี่ยวนู้นนี้ น่ากลัวมากมาย


    เล็กๆน้อยๆ

    ตอนขากลับ อย่าลืมซื้อของที่สนามบินด้วยนะ ที่อร่อยๆคือ Tokyo Banana กับ Royceครับ
    http://og-made.com/wp-content/uploads/2007/08/tokyobn_03.jpg
    TokyoBanana จะมีซอฟต์เค้กที่ข้างในเป็นครีมกล้วย อร่อยมากๆ นอกจากนี้ยังมีรูปแบบอื่นๆ แต่ไส้กล้วยเหมือนเดิม เช่น ทำเป็นแผ่นแครกเกอร์ หรือ แบบที่ตัวเค้กเป็นเค้กช็อคโกแลตก็มี แต่อร่อยสุดต้องซอฟต์เค้ก ร้านที่ขายคือร้าน Akihabaraครับ
    Royce chocolate box by shimmertje.
    Royceนี่คือช็อคโกแลตครับ ที่ร้านBlue sky จะมีช็อคโกแลตแบบแท่ง และแบบ ตัดครับ แบบตัดนี่อร่อยมากๆ อร่อยกว่าแบบแท่งครับ ถ้านึกไม่ออก ช่วงนี้ไม่รู้ว่าพารากอนยังเปิดบู๊ทมั้ย ที่ชั้นล่างตรงใกล้Gourmet Marketจะมีขายของอยู่ครับ ตอนนั้นก็เจอเจ้านี่แหละราคา 460บาท แต่ซื้อนี่ราคา300กว่าๆนะ ที่อร่อยสุด ต้องกล่องน้ำเงิน!!!

    ทัวร์บางที่จะแวะที่Aeonด้วยครับ เป็นห้างใหญ่ แหล่งช็อปตรึม ไม่แพ้กัน ที่แวะเพราะว่าอยู่ใกล้สนามบินครับ ถ้ามาทัวร์คิดว่าน่าจะมีโอกาสได้ไป

    สุดท้าย ขอขอบคุณทาง Jplanครับ สนุกมากมาย และขอบคุณพี่กุ้งและพี่เล็ก รวมทั้งพี่โชเฟอร์ใจดีครับ ^_^
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×