Nimbus
ดู Blog ทั้งหมด

ไม่เข้าใจตัวเองเพิ่มขึ้น

เขียนโดย Nimbus

วันนี้ผมไปโรงเรียน
รอวันนี้มานาน ที่จะได้พบเธอ

ด้วยความกลัวว่าเธอจะย้ายไปโรงเรียนอื่นหรือเปล่า
ผมเลยเดินไปหน้าอาคาร4เพื่อดูรายชื่อ
และผมก็รู้สึกโล่งใจนิดๆ
เมื่อพบชื่อของเธออยู่ในม.6/7

เมื่อกริ่งดัง ผมเลยเดินไปเข้าแถว
อาจารย์ตรวจทรงผม
ผมยังไม่ได้ตัด เลยโดนอาจารย์ฝ่ายปกครองตัดซะเสียเลย
แต่เอาเถอะ
เรื่องแค่นี้ไม่มีปัญหากับชีวิตของผมอยู่แล้ว

เรียนชม.แรก วิชาอังกฤษ
ชม.2-3 วิชาศิลปะ

พักเที่ยง ผมไม่หิว เลยเดินไปเรื่อย
จนพบเธอนั่งอยู่กับเพื่อนๆนั่งอยู่ที่โต๊ะไม้หลังอาคาร

แปลก ผมรู้สึกเฉยๆ เฉย จนน่ากลัว
ราวกับ อาการใจเต้น รู้สึกดีเวลาเห็นรอยยิ้มของเธอมันไม่เคยเกิดขึ้น

อาจเป็นเพราะ เธออยู่ไกลจนผมแทบมองไม่เห็น
อาจเป็นเพราะ ผมยังไม่เห็นรอยยิ้มของเธอ
รึคงเป็นเพราะ ผมไม่เคยมีใจให้เธอก็เป็นได้

วันนี้ เธอไม่ได้ใส่แว่น
แต่ยังคงรวบผมเช่นเดิม
ถ้าเธอปล่อยผม ผมคงจะยืนมองอยู่อย่างนั้นกระมัง

แต่....ผมยังไม่ได้ซื้อสมุด เลยเดินไปซื้อ
พอกลับมา เพื่อนมันก็ลากไปขึ้นห้องซะแล้ว
ผม.....ไม่อยากให้อะไรผิดสังเกตุ เลยเดินตามไป

ขึ้นมาบนห้อง จากมุมของผม ไม่อาจมองเห็นเธอได้เลย
ผมไม่ได้นั่งติดริมหน้าต่าง
ห้องของผมอยู่ชิดจนมองเห็นได้แค่แขนเสื้อของเพื่อนเธอเท่านั้น
ต่อให้กางหน้าต่างมากขึ้นเท่าไหร่ มันก็ไม่มีประโยชน์
และแล้ว อาจารย์ก็เข้าสอน

เวลาผ่านไปจนเลิกเรียน ผมเดินออกมานอกประตูใหญ่ทิศตะวันตก
เดินอ้อมซื้อขนมนมเนยน้ำเนิ้มเรียบร้อย
ก็เดินกลับเข้ามาโรงเรียนทางทิศตะวันออก
ผม เห็นเธอกับเพื่อนอีกคน ยืนคุยกันอยู่หน้ารถตู้สีขาวคันนึง
เธอ คงจะกลับกับรถรับส่งแล้วสินะ
ผมคงไม่มีโอกาศนั่งมองหน้าเธอบนรถอีกแล้ว
ผมคิดเช่นนั้น ทั้งๆที่ไม่มีหลักฐานสักนิดว่าเธอกลับบ้านโดยรถคันนั้น
แต่....คุณคงไม่ยืนคุยกับเพื่อนกลางแดดยามเย็นที่แสนร้อนแรงหน้ารถตู้ใช่ไหม?

น่าเสียดายผมมาช้าไปนิด
ถ้ามาเร็วกว่านี้อีกหน่อยผมอาจจะได้เห็นตอนเธอปล่อยผม
เพราะเธอกำลังรวบผมอยู่
ผมยอมรับ เธอขาวขึ้นมาก หน้าก็เนียน ใสขึ้น
เธอ....น่ารักขึ้นมากมาย
แต่....กลับทำให้ผมใจเต้นไม่ได้

ผมมองค้างอยู่5-6วิ เพราะกลัวว่าเธอจะหันมาเจอ
ทั้งๆที่รู้ว่า ถึงเธอหันมาก็ต้องมองเลยผ่านผมไปอยู่แล้ว
ถ้า....ผมไม่ยืนอยู่นาน

ผมเดินผ่านเข้ามาในรั้วอีกครั้ง กลับมานั่งที่โต๊ะม้านั่ง
ที่ตอนม.2มานั่งอยู่เป็นประจำ

ผมลืมเธอด้วยการพูดคุยกับเพื่อนอีกครั้ง
เมื่อมองออกไปอีกครั้ง เธอ และรถตู้คันนั้นได้หายไปแล้ว
เหลือก็แต่ กลุ่มนักเรียนม.ปลาย และเพื่อนที่เธอยืนคุยด้วยเมื่อครู่
ถ้าผมจำไม่ผิด เพื่อนเธอคนนั้นก็อยู่ในทัยธานีเช่นกัน

ผมกับเพื่นนั่งเล่นกันอยู่อย่างนั้นจบผ่านไปนานพอสมควร
ผมเดินไปบอกลารุ่นพี่ แล้วเดินกลับไปกับเพื่อน
รอรถตั้งนาน รถก็ยังไม่มา
ผมและเพื่อนจึงตัดสินใจเดินไปหน้าปากทางแทน

ผม แบกหนักสือ สมุด ในกระเป๋า รวมๆกันเกือบ10โล
อากาศ ร้อนราวกับจะแผดเผาเหงื่อและเกลือแร่ให้ระเหยไปกับสายลม
แต่..... ผมกลับต้องวิ่งไล่ต่อยเพื่อน เพราะมันกวนตีน= =
ผมจะไปวิ่งทันได้ยังไงเมื่ออยู่บ้านก็แทบไม่ได้วิ่ง
แถมแบกหนักสืออภิมหาหนัก

และแล้ววันนี้ก็จบลงด้วยอาการเหนื่อยหอบ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
หิวน้ำ ตัวแดง(แดงเผา) กลับบ้าน\ \ =.,=

ไปทำการบ้านดีกว่า อาจารย์ให้ส่งพร่งนี้ เดี๋ยวโดนด่าเปิง= =

ความคิดเห็น

eureka
eureka 16 พ.ค. 49 / 02:26
ฟังเอ๊ยอ่านแล้วเหนื่อยจัง เหนื่อยแทนเลย

สรุปว่าบัซชอบคนแก่กว่าใช่มั้ย??? ว่าแล้วไมมาแจกขนมจีบเรา... (อ่าวเลยยอมรับว่าแก่ไปเลยเรา.... แป่ววว)

พี่เค้าอยู่อุทัยธานี แล้วบัซอยู่ไหน... แล้วเราจะถามทำไมเนี่ย... อ่าว???

ช่างมัน... สรุปว่ารูปเจ้าเหมียวตรง Head ยังน่ารักเหมือนเดิม >_< งี้ดดดด <= เป็นอะไรไปแล้วเรา -_-' 555