คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #20 : - Ankylose - Chapter.20
TALK ::
ดำเนินมาค่อนทางแล้วนะคะ^^~
อีกประมาณสิบกว่าตอนก็ใกล้จะจบแล้วล่ะค่ะ
มายด์ว่ามาอัพวันเว้นวันก็เยอะแล้วน้า...ใครบอกให้อัพทุกชั่วโมงเลยคะเนี่ย?
ตายก่อนพอดี ฮ่าๆๆ
ขอบคุณทุกๆคอมเมนท์และการติดตามนะคะ^^ ขอบคุณมากๆค่ะ
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านด้วยนะค้า~
Chapter.20
“นายพูดอย่างกับนายหึงจุนซูอย่างนั้นแหละ”
คำพูดของพี่ชายผู้เป็นหัวหน้าวงที่ถูกเอ่ยขึ้นด้วยแววตาที่อ่านไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ทำเอายูชอนเบิกตากว้างก่อนที่จะควานหาเสียงตัวเองเพื่อปฏิเสธคำพูดประโยคนั้นอย่างลนลาน
“
จ
จะบ้าเหรอพี่! ม
ไม่มีทางอ่ะ!”
“ถามจริง ไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ?”
“
รู้สึกอะไรของพี่?”
“จุนซูไง
ถึงเจ้านั่นจะบ้าเกมส์ บ้าบอล ชอบเล่นมุขแป็ก หัวเราะเสียงแปลกๆแถมยังพูดมาก ตะกละก็เท่านั้น เอาแต่ใจสุดๆแถมยังหัวรั้นยังไง แต่ก็น่ารักมากๆเลยไม่ใช่เหรอ ไอ้เรื่องที่ชอบเอาแต่ใจแต่เวลาเป็นเรื่องของคนอื่นทีไรก็ยกให้ทุกทีน่ะก็น่ารักดีไม่ใช่รึไง? ไหนจะยิ้มหวานๆแบบนั้น ความคิดซื่อๆเหมือนเด็กๆแบบนั้น กลิ่นหวานๆแบบนั้น ตัวเล็กๆน่ากอดแบบนั้น พี่ถามจริงๆเถอะ นายไม่คิดอะไรเลยเหรอ?”
ยุนโฮเอ่ยขึ้นมาเป็นชุดในขณะที่ทำหน้าพยักพเยิดไปทางน้องชายตัวเล็กที่ตอนนี้ผละออกมาจากการซ้อมกับชางมินแล้วเปลี่ยนมาเป็นลากเจ้าน้องชายตัวสูงมานั่งคุยกับทีมงานอย่างออกรสแทน ยูชอนมองเพื่อนสนิทร่างเล็กอย่างเงียบๆก่อนที่จะเอ่ยกับคนข้างๆอย่างจับผิด
“พี่จะนอกใจพี่แจจุงรึไง?”
“จะบ้าเหรอ! ไอ้นี่นี่ปากเสีย นั่นมันน้องชายฉันนะเว้ย ฉันก็ต้องรักต้องหวงหน่อยสิวะ ถ้าแจจุงมาได้ยินฉันก็ตายสิเนี่ย!”
“เต็มสองรูหูเลยล่ะ!”
เสียงหวานที่จงใจพูดให้เสียงดังขึ้นมาเล็กน้อยดังขึ้นพร้อมๆกับร่างบางที่เดินมาอยู่ข้างหลัง หัวหน้าวงอย่างยุนโฮก็ได้แต่หันไปฉีกยิ้มให้ด้วยใบหน้าที่เจื่อนลง
“
เอ่อ
ที่รักจ๋า
”
“ไม่ต้องมาที่ร้งที่รัก ฉันรู้ว่าน้องชายฉันมันน่ารัก!”
“จุนซูน่ารักก็จริงแต่ไม่มีใครน่ากอดน่าฟัดเพอร์เฟ็กต์เท่าแจอีกแล้วน้า~”
มือใหญ่ยื่นออกมาเพื่อที่จะพยายามคว้าเรียวแขนเล็กของคนหน้าหวานที่กำลังยืนขมวดคิ้วมุ่นเป็นปมพร้อมๆกับแก้มที่พองลมขึ้นมาหน่อยๆ เพียงครู่หนึ่งแจจุงก็แลบลิ้นใส่ชายคนรักก่อนที่จะเดินจากไป
“ไปหาจุนซูดีกว่า เบื่อคนหน้าหมี!”
“อ้าว
”
แล้วคนสวยของวงก็ไปร่วมจับเข่าคุยกับทีมงานฝั่งนั้นอีกคน กลายเป็นว่าตอนนี้ยุนโฮและยูชอนถูกทิ้งให้นั่งเงียบๆไปเสียแล้ว ร่างสูงของ ‘คนหน้าหมี’ ค่อยๆยันกายขึ้นก่อนที่จะตบบ่ากว้างของน้องชายร่างโปร่งเบาๆราวกับให้กำลังใจ
“คิดดีๆล่ะ ก่อนที่จะมันจะสายเกินไปกว่านี้
”
น้ำเสียงจริงจังถูกทิ้งไว้ให้ก่อนที่จะเดินไปหาคนรักที่กำลังคุยกับทีมงานอยู่อย่างเมามันส์ สวนทางกับจุนซูที่กำลังเดินออกมาจากกลุ่มทีมงานเพื่อเดินตรงไปหายูชอนพอดิบพอดี
“ยูชอน! มานั่งอะไรตรงนี้น่ะ?”
เสียงหวานๆของคนที่มานั่งลงข้างๆทำให้หัวใจของคนร่างโปร่งดูเหมือนจะเต้นผิดจังหวะไปครู่ใหญ่ เจ้าของริมฝีปากอิ่มเม้มปากเบาๆก่อนที่จะพยายามคลี่ยิ้มตอบให้เป็นปกติ
“ก็ต้องนั่งพักสิ ใครจะไปขยันเหมือนนายล่ะ”
“ไม่ได้ขยันสักหน่อย”
ปากยู่ๆของคนตัวเล็กตอบหน้ามุ่ย ก่อนที่จะชันเข่าขึ้นมากอดไว้หลวมๆพร้อมๆกับความเงียบที่ค่อยๆเข้ามาปกคลุมในบรรยากาศ ไร้บทสนทนาต่อกันและไร้ผู้เริ่มต้น
ทำไมถึงได้รู้สึกไม่ชอบใจแบบนี้
?
อยากจะถามออกไปเหลือเกินว่าเรื่องเมื่อวานกับเมื่อเช้านี้คนตัวเล็กลืมไปหมดแล้วหรือ ทำไมถึงได้ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแบบนี้
“ฉันเมื่อยอ่ะ”
ยูชอนเอ่ยออกมาเสียงแผ่วในขณะที่เอนตัวไปอิงศีรษะไว้กับบ่าเล็กของจุนซูที่ดูจะเงียบไปเพราะความตกใจ ดวงตาเรียวรีฉายแววไหวระริกเพียงครู่หนึ่งก่อนที่จะกลับมาเป็นปกติโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นถึงมันพร้อมขืนกายออกมาจนร่างโปร่งแทบตั้งตัวไม่ทัน
“ยูชอนหนักอ่ะ!”
ปฏิกิริยาที่ตอบสนองมาจากร่างเล็กเคียงข้างทำให้ยูชอนรู้สึกโหวงเหวงอยู่ในใจ ไม่ว่าสายตาคมกริบของเขาจะพยายามควานหา ‘สิ่งที่เคยมี’ ในแววตาคู่สวยคู่นั้นเท่าไหร่ แต่ทั้งหมดที่แสดงออกมาเป็นเพียงแค่ ‘เพื่อน’ เท่านั้น
“
นอนแป๊บเดียวเองไม่ได้เหรอ~”
ริมฝีปากอิ่มยื่นออกมาราวกับเด็กตัวเล็กๆตามนิสัยที่ชอบทำตัวเป็นเด็กเวลาต้องการอะไรสักอย่าง จุนซูถอนหายใจออกมาก่อนที่จะพูดเสียงเรียบโดยที่ไม่มีเจือแววเคอะเขินเลยสักนิด
“
นายนี่มันจริงๆเลย”
ปฏิกิริยาเรียบเฉยนั้นทำให้ยูชอนขมวดคิ้วเล็กน้อยทว่าก็รีบสลัดความคิดนั้นทิ้งไป ศีรษะทุยของตนเองค่อยๆเอียงเอนไปหาไหล่บางๆนั่นอีกครั้งหนึ่ง
“ทุกคนรวมตัวกันได้แล้ว!”
บ้าเอ๊ย!
เสียงความคิดของยูชอนดังลั่นในสมองทันทีที่สิ้นเสียงเรียกรวมพลของเหล่าแดนเซอร์ คนตัวเล็กปรายสายตาไปมองทุกคนในห้องซ้อมที่เริ่มไปรวมตัวกันที่กลางห้องอีกครั้งก่อนที่จะยันกายลุกขึ้น ฉีกยิ้มให้ร่างโปร่งที่นั่งอึ้งอยู่บนพื้นก่อนที่จะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“เค้าเรียกซ้อมแล้วล่ะ ยูชอนไหวใช่มั้ย?”
อีกแค่นิดเดียวเองแท้ๆ!
“เมื่อยมากเลยอ่ะจุนซู
ช่วยหน่อยสิ”
‘ช่วยหน่อยสิ’ ที่ว่าถูกเอ่ยขึ้นพร้อมๆกับมือหนาที่ยื่นขึ้นไปหาคนตัวเล็กทั้งสองข้างหมายจะให้ช่วยดึงเขาขึ้นไปหน่อย แม้ยูชอนจะไม่เข้าใจกับท่าทางออดอ้อนเอาแต่ใจแบบนี้ของตนเองที่จู่ๆก็อยากทำขึ้นมาเลยสักนิด ทว่าริมฝีปากอิ่มของเขาก็เอ่ยมันออกไปแล้ว
“ยูชอนเนี่ย
เมื่อค---ช่วยไม่ได้นี่นะ”
ร่างเล็กรีบเม้มริมฝีปากเมื่อตนเองจะเอ่ยถึง ‘เมื่อคืน’ โดยเปลี่ยนไปพูดอย่างอื่นแทนพร้อมๆกับจับมือของร่างสูงโปร่งที่จู่ๆก็ลุกขึ้นพรวดมาโดยที่เขาไม่ต้องออกแรงดึงเลยด้วยซ้ำ กลับกลายเป็นว่าจุนซูกับยูชอนยืนจับมือกันอยู่เท่านั้นเอง
“ไปซ้อมกันเถอะ เดี๋ยวอีกไม่นานก็เลิกแล้วล่ะ~”
รอยยิ้มอ่อนหวานสดใสถูกคลี่มอบให้ก่อนที่คนตัวเล็กจะค่อยๆดึงมือของตนเองที่อยู่ในมือหนาออกเบาๆอย่างเป็นปกติที่สุด พร้อมกับเดินไปรวมกลุ่มกับคนอื่นๆที่เริ่มประจำตำแหน่งแล้ว ยูชอนปรายมองมือของตนเองที่เมื่อครู่ได้สัมผัสมือเล็กนุ่มนิ่มนั้นเพียงแวบหนึ่งก่อนที่จะเดินตามร่างเล็กไปประจำที่ของตนเองบ้าง
ไม่มีปฏิกิริยาเหมือนเมื่อก่อน
จุนซูเปลี่ยนไป
และเขาเอง
ก็คงเปลี่ยนไปไม่ต่างกัน
เปลี่ยนไปอย่างไม่อยากเชื่อความรู้สึกของตนเอง
เขาอยากสัมผัสจุนซู
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วันนี้เป็นวันขึ้นเวทีกับเหล่าศิลปินมากหน้าหลายตา ร่างเล็กที่อยู่ในเชิ้ตสีขาวลายทางตามแนวยาวสีเทาทับด้วยสูทสีดำสนิทดูภูมิฐานและกางเกงขายาวสีเดียวกับสูท ผมสีน้ำตาลเข้มที่ยาวระต้นคอถูกเซ็ตจัดเป็นทรงสวย รอยยิ้มหวานๆแต่งแต้มอยู่บนใบหน้าแทบตลอดเวลาของการนั่งชมการแสดงอยู่ที่ที่นั่งศิลปิน โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองถูกจับจ้องมองโดยผู้ที่นั่งเยื้องไปทางด้านหลังเพียงเล็กน้อยอย่างปาร์ค ยูชอน
“จุนซูอา~”
เสียงนุ่มเอ่ยกระซิบที่ข้างใบหูเล็กพร้อมกับใบหน้าคมที่ขึ้นมาเกยบนไหล่บาง จุนซูขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนที่จะหันไปถามพลางเอียงคอน้อยๆ
“มีอะไรอีกล่ะยูชอน? เรียกรอบที่ห้าแล้วนะ”
ดวงหน้าหวานที่หันมาอยู่ใกล้กับใบหน้าของร่างโปร่งแทบไม่ถึงสิบเซนติเมตร ภายในใจของยูชอนนึกอยากจะประทับจุมพิตที่กลีบปางสีสวยนั่นสักทีทุกครั้งที่ร่างเล็กหันมาหา ก้อนเนื้อที่อกด้านซ้ายเต้นผิดจังหวะทุกครั้งที่ได้กลิ่นหอมอ่อนๆเหมือนแป้งเด็กจากร่างเล็กๆที่เขาพยายามจะเข้าใกล้โดยไร้สาเหตุ
ความรู้สึกนี้มันแปลกซะจนเขาไม่กล้าที่จะคิดว่ามันคืออะไร
ความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน
แม้กระทั่งกับพี่แจจุง..
“จุนซู
คือฉัน
”
“อ๊ะ
ต้องขึ้นไปบนเวทีอีกรอบแล้วล่ะยูชอน
”
ร่างเล็กเอ่ยเสียงแผ่วก่อนที่จะยันกายยืนขึ้น ยูชอนได้แต่ขมวดคิ้วก่อนที่จะยืนขึ้นตาม คลี่รอยยิ้มกว้างและโค้งให้กับผู้คนในงาน เสียงปรบมือที่ดังขึ้นลั่นเด่นชัดในโสตประสาทเสียจนต้องสลัดความไม่พึงใจเมื่อครู่ทิ้งไปให้หมด ก่อนที่พวกเขาทั้งห้าคนจะเดินขึ้นเวทีไปพร้อมๆกับเหล่าศิลปินอีกมากคนเพื่อปิดงาน
เสียงทักทายและเสียงหัวเราะพูดคุยทำให้ต้องโค้งทักทายซ้ายทีขวาที จับมือเพื่อทักทายและแสดงความยินดีนับครั้งไม่ถ้วน แม้จะดูวุ่นวายทว่าก็มีความสุขจนต้องยิ้มกว้างออกมา
“พี่จุนซู! ผมเป็นแฟนของพี่เลยนะครับ! ผมนับถือแล้วก็ปลื้มพี่มากๆเลย!”
เสียงทุ้มต่ำของใครสักคนที่ดังมาจากด้านข้างทำให้ยูชอนต้องปรายสายตาไปมอง ตอนนี้ร่างเล็กของคิม จุนซูกำลังถูกจับมือเขย่าขึ้นลงไม่ยอมปล่อยเสียทีจากเด็กชายตรงหน้า และดูเหมือนจุนซูจะไม่ได้ติดใจอะไร เพราะรอยยิ้มน่ารักและเสียงหวานๆที่เอ่ยกลั้วหัวเราะเบาๆและขอบคุณดังขึ้นมาให้พอได้ยิน
“ซึงรีคุงจากบิ๊กแบงใช่มั้ย
ขอบคุณมากนะ”
“
ผมปลื้มพี่มานานแล้วตั้งแต่สมัยมัธยมเลยนะครับ!”
“..ฮะๆ..นายเองก็พยายามเข้านะ เพลงของบิ๊กแบงก็เพราะมากๆเลย”
“ผมชอบพี่จุนซูมากๆเลย ขอบคุณมากๆนะครับ!”
บ๊ะ! ไอ้นี่นี่ก็พูดซ้ำไปซ้ำมาอยู่นั่นแหละ
นายเองก็เหมือนกันจุนซู อย่ายิ้มหวานนักได้ไหม!?
“ผมดีใจมากเลยครับที่ได้คุยกับพี่จุนซูตัวเป็นๆแล้ว
ผมชอบ
ชอบพี่จุนซูมากๆจริงๆนะครับ!”
เสียงหัวเราะเบาๆดังขึ้นพร้อมๆกับรอยยิ้มขัดเขินจากคนตัวเล็กตรงหน้าที่ดูแล้วช่างน่ารักเสียจนซึงรีไม่อยากจะละสายตาหรือปล่อยมือนิ่มที่ตนเองจับไว้อยู่เลยสักนิด เมื่อคนที่เขาทั้งปลื้มและนับถือมานานหลายปีมายืนอยู่ตรงหน้าแล้วทำให้รู้สึกยิ่งกว่าเหมือนฝันเสียอีก
“ซึงรีใช่ไหม? เพลงของเราพี่เองก็ฟังบ่อยเหมือนกันนะ เพราะมากเลยล่ะ”
ยูชอนเอ่ยพร้อมกับเดินไปใกล้ชิดกับคนตัวเล็กข้างๆ ซึงรียิ้มออกมาก่อนที่จะจำต้องปล่อยมือจุนซูออกเพื่อจับมือทักทายกับยูชอนพร้อมโค้งต่ำอย่างขอบคุณ
“ขอบคุณมากๆครับ ผมเองก็ชอบผลงานเพลงของพวกพี่มากๆเลยครับ”
“จุนซู
ไปตรงนั้นเถอะ คนอื่นไปยืนที่ที่หมดแล้ว”
“อะ
อื้อ ซึงรีคุง ไว้ถ้ามีโอกาสคงได้เจอกันอีกนะ”
ร่างเล็กหันไปแย้มยิ้มน่ารักให้กับนักร้องรุ่นน้องอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะเดินไปตามแรงรั้งของมือหนาซึ่งเจ้าของกำลังเม้มริมฝีปากอิ่มของตนเองอย่างไม่สบอารมณ์
“ยูชอน
เบาๆสิ ฉันเจ็บนะ
”
“
ขอโทษที”
มืออบอุ่นคลายความกระชับลงทว่าปฏิเสธที่จะปล่อยมือเล็ก ยังคงจับไว้หลวมๆก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นโอบเอวบางเมื่อต้องยืนถ่ายรูป อยากจะป่าวประกาศเหลือเกินว่าไม่อยากให้ใครมายุ่งกับคนตัวเล็กนี่แต่ต้องมานึกขึ้นได้ว่าตนเอง ‘ไม่มีสิทธิ์’
“นายพูดอย่างกับนายหึงจุนซูอย่างนั้นแหละ”
“คิดดีๆล่ะ ก่อนที่จะมันจะสายเกินไปกว่านี้
”
เสียงของหัวหน้าวงอย่างชอง ยุนโฮที่ดังขึ้นก้องไปมาในหัวสมองยิ่งทำให้รู้สึกสับสนกับความรู้สึก มันจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่ออีกใจของเขายัง
รักคิม แจจุง
ยังเป็นอย่างนั้นอยู่รึเปล่านะ..?
แล้วสายไปที่ว่า
อะไรกันงั้นเหรอที่มันจะสายเกินไป
?
วันนี้เป็นอีกวันแล้วที่จุนซูไม่ได้นอนที่ห้องของยูชอนอย่างเคย
ร่างโปร่งถอนหายใจแผ่วเบาในขณะที่ค่อยๆบิดลูกบิดประตูห้องของตนเองกับยูฮวานที่วันนี้อยู่บ้านทั้งวันออกแผ่วเบา ก่อนที่จะพบว่าร่างผอมๆของน้องชายตนเองกำลังนั่งฟังไอพอตสีเข้มอยู่บนเตียง นัยน์ตาเรียวปรายมองมาที่พี่ชายเล็กน้อยก่อนที่จะยกยิ้มให้
“กลับมาแล้วเหรอฮะ?”
“ทำไมยังไม่นอนอีกล่ะ?”
“ผมก็แค่ไม่ง่วง”
“นอนได้แล้วน่า จะเที่ยงคืนแล้ว”
ยูชอนเอ่ยกับน้องชายตนเองที่ทำหน้ายู่ด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความเป็นห่วง ก่อนที่ตนเองจะคว้าผ้าขนหนูสีสะอาดเดินเข้าห้องน้ำไป ยอมรับว่าช่วงนี้คิดอะไรมากมายซะจนรู้สึกสับสนไม่เป็นตัวเองเอาเสียเลย
ประมาณยี่สิบนาทีต่อมา ร่างโปร่งของยูชอนที่สวมชุดนอนสีเข้มเรียบร้อยแล้วก็เดินออกมาจากห้องน้ำโดยที่ในมือมีผ้าขนหนูผืนเล็กพาดอยู่ที่บ่ากว้าง นัยน์ตาคมเบิกขึ้นอย่างตกใจเมื่อภาพตรงหน้าแทนที่จะเป็นยูฮวาน
กลับกลายเป็นเจ้าของดวงหน้าหวานในชุดนอนสีฟ้าสดใสลายโลมาน่ารักที่เป็นผู้ครอบครองความคิดของเขาแทบทั้งวัน
“จุนซู
”
“ยูฮวานกลับไปนอนห้องโน้นแล้ว
”
เสียงหวานเอ่ยแผ่วราวกับจะตอบคำถามที่เจ้าของเสียงพร่าสงสัย ก่อนที่จะค่อยๆล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน ศีรษะกลมซุกลงกับหมอนใบโตพร้อมๆกับมือเล็กที่สอดเข้าใต้หมอนอย่างเคยชิน
ยูชอนหัวเราะเบาๆเมื่อได้ยินเสียงหายใจเป็นจังหวะจากร่างเล็กตรงหน้าที่ดูเหมือนจะอุตส่าห์รอเพื่อบอกเขาเพียงแค่นั้นทั้งๆที่ง่วงแทบทนไม่ไหว นัยน์ตาหวานหลับพริ้มในห้วงนิทราอย่างน่ามอง ยูชอนขมวดคิ้วน้อยๆเมื่อเห็นว่าเจ้าตัวเล็กไม่ยอมสระผมก่อนนอนอีกแล้ว
“จริงๆเลย
”
เกินที่จะหักห้ามใจหรือไตร่ตรอง ใบหน้าคมคายก็โน้มตัวไปหาเพื่อสูดกลิ่นหอมหวานเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือนของคนที่หลับสนิทอย่างเผลอไผล ทั้งๆที่ไม่ได้สระผมก่อนนอนแท้ๆ ทำไมถึงได้หอมนักนะ?
ตัวเล็กๆผิวสีขาวจัดที่กอดแล้วนุ่มนิ่มแบบนี้ไม่อยากให้ใครเห็นเลย ใบหน้าหวานๆยามที่อยู่ในห้วงนิทราแบบนี้ไม่อยากให้ใครได้รู้จักมันนอกจากเขาเพียงคนเดียวด้วยซ้ำ ยูชอนรู้สึกเหมือนตนเองจะเป็นบ้าเข้าไปทุกทีแล้วกับความคิดแบบนี้
“
นายกำลังทำอะไรกับฉันเนี่ยจุนซู
”
อยากจูบ อยากกอด อยากสัมผัสจนรู้สึกกลัวใจตัวเอง
ภายในใจเจ็บแปลบขึ้นมาเมื่อรู้สึกได้ว่าร่างเล็กที่เขาปฏิเสธไปนั้นเปลี่ยนไปจากเดิม...
ไม่ได้รักฉันแล้วเหรอจุนซู
? เวลาวันสองวันที่ผ่านมานี้เพียงพอที่จะทำให้นายตัดใจจากฉันได้เลยเหรอ?
“บ้า
ฉันกำลังจะเป็นบ้าเพราะนาย
”
ฉันต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ
เพราะจู่ๆฉันก็คิดว่า
ฉันรักนายเข้าแล้ว
จริงๆ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
To Be Continued...
ความคิดเห็น