คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : - Ankylose - Chapter.32
มาอัพแล้วค่ะทุกท่าน ก่อนอื่นต้องขอโทษก่อนเลย T^T เพราะราคาหนังสือจะมีการเปลี่ยนแปลงค่ะ
ไรท์เตอร์เพิ่งจะจัดหน้าเรื่องนี้เสร็จเมื่อวาน...ตอนแรกกะไว้แค่ 350 หน้า...ราคาก็เลยอยู่ประมาณ 300 เป๊ะๆ
แต่พอจัดออกมา รวมตอนพิเศษ 4 ตอนแล้ว....มัน 457 หน้าค่ะ!! (เพิ่มมาจากไหน 127 หน้าฟระ= =")
พระเจ้าช่วยมากๆ T^T ไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเยอะมากมายขนาดนี้
แต่งตอนพิเศษเยอะมากไปหน่อย... 80 หน้าเต็มๆกับตอนพิเศษ 4 ตอน
ทำเอาเครียดไปเลย ต้องขอโทษด้วยนะคะ
ตอนนี้ราคาหนังสือมาชัดเจนแน่นอนแล้ว คืออยู่ที่ 370 บาทค่ะ
(ต้องขอโทษจริงๆนะคะ แต่เพราะหนังสือมันหนามากจริงๆ T^T)
สำหรับการจอง จะเปิดจองในวันที่ 21 กุมภาพันธ์นะคะ^^
แล้วจะบอกรายละเอียดให้ทราบอีกครั้งค่ะ ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะที่กะราคามาผิดมากๆเลย
ไม่คิดว่าจัดหน้าแล้วมันจะยาวจัดขนาดนี้= =" ตอนพิเศษทำพิษค่ะ T^T
Chapter.32
หนึ่งอาทิตย์
กับการทำงานแบบแทบจะน็อนสต็อปติดกันถึงเจ็ดวันกว่าจะได้พักสามวันที่นานๆทีจะวนมาให้ได้ชื่นใจ
วันแรก
“ไม่ไหวแล้ววว~”
ร่างเล็กๆของจุนซูกระโดดเข้าไปหาเตียงนุ่มสีสะอาดจนตัวเด้งดึ๋ง ใบหน้าหวานถูไถไปกับหมอนใบโตอย่างสบายที่ในที่สุดก็ถึงบ้านเสียทีในเวลาเกือบตีสอง ท่าทางของร่างเล็กทำเอายูชอนที่เดินตามเข้ามาในห้องอดที่จะหัวเราะเบาๆกับความน่ารักนั้นไม่ได้
“จุนซู ไปอาบน้ำก่อนเร็ว”
เสียงทุ้มพร่าเอ่ยเรียกคนตัวเล็กให้ลุกขึ้นไปอาบน้ำก่อนที่จะเผลอหลับไปเสียก่อน จุนซูพยักหน้ากับหมอนอย่างรับรู้ก่อนที่จะเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงงุ้งงิ้งอย่างงัวเงียเสียเต็มที่
“ยูชอน~งือ
ไปอาบก่อน
สิ
~”
“งั้นเดี๋ยวฉันมานะคนดี”
ยูชอนอมยิ้มกับตาปรือปรอยน่ารักๆนั้นในขณะที่กระซิบเสียงทุ้มน่าฟังกับใบหูเล็ก รู้ดีว่าตอนนี้คนตัวเล็กคงจะลุกจากเตียงไม่ขึ้น จึงยอมไปอาบน้ำแต่โดยดี ใบหน้าคมโน้มลงประทับจุมพิตหนักๆที่ขมับซ้ายของคนนอนตะแคงด้วยความรักใคร่ก่อนที่จะเดินตรงไปที่ประตูห้องน้ำไปอย่างอารมณ์ดี
ประมาณสิบห้านาทีต่อมา ยูชอนก็ออกมาจากห้องน้ำในสภาพชุดนอน ผมสีดำสนิทเปียกชื่นลู่น้ำไม่เป็นทรง ในมือถือผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดผมของตัวเองพร้อมกับเดินมาหาคนบนเตียง ริมฝีปากอิ่มคลี่รอยยิ้มขบขันออกมาเมื่อเจ้าตัวเล็กของเขานั้นหลับปุ๋ยไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วตามคาด ยูชอนส่ายหน้าเบาๆด้วยความเอ็นดูก่อนที่จะยื่นมือเรียวหนาไปสัมผัสผิวแก้มนุ่มของคนรักอย่างอ่อนโยน ลมหายใจอุ่นๆพ่นออกมาแผ่วเบาเมื่อรู้ดีว่ายังไงตนเองก็ไม่ใจร้ายมากพอที่จะปลุกให้คนที่หลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อนนี้ให้ตื่นขึ้นมาได้
“จริงๆเลยนะจุนซู
”
เสียงทุ้มเอ่ยออกมาเพียงเท่านั้นก่อนที่จะเดินไปหาผ้าขนหนูผืนเล็กและอ่างน้ำใบกะทัดรัด พร้อมกับชุดนอนสีฟ้าสดใสอย่างรู้หน้าที่ อย่างน้อยก็ต้องให้ร่างกายชื้นเหงื่อที่ทำงานมาทั้งวันของจุนซูได้ทำความสะอาดเสียบ้าง ดีกว่าปล่อยให้นอนไปทั้งๆแบบนี้
มือหนาค่อยๆปลดกระดุมของเสื้อเชิ้ตสีอ่อนอย่างช้าๆ ทั้งๆที่บอกตนเองซ้ำๆว่าไม่ควรที่จะคิดอะไรเลยเถิด แต่ก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายของเขากลับเต้นไม่เป็นจังหวะ ยิ่งเห็นผิวกายขาวอมชมพูนวลเนียนภายใต้เสื้อสีสะอาดแล้วสติของเขาก็แทบจะกระเจิง ยูชอนสะบัดหน้าไล่ความคิดนั้นทิ้งไปก่อนที่จะซับผ้าขนหนูกับใบหน้าหวานๆนั้น ไล้เรื่อยมาจนถึงแผ่นอกขาวที่สะท้อนขึ้นลงเป็นจังหวะ ร่างโปร่งกลืนน้ำลายลงคออย่างพยายามควบคุมอารมณ์ ก่อนที่จะรีบเช็ดตัวคนตรงหน้าให้เสร็จๆไปเสียที ก่อนที่เขาจะทนไม่ไหวมากไปกว่านี้
ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าการเช็ดตัวต้องใช้พลังงานมากขนาดนี้!
อย่าทำตัวน่ารักน่ากอดมากไปกว่านี้ได้ไหมจุนซู!?
ปาร์ค ยูชอนสูดลมหายใจลึก พร้อมๆกับท่อง ‘อีกหกวัน อีกหกวัน’ อยู่ในใจซ้ำไปซ้ำมาราวกับจะตั้งเป็นบทสวดประจำใจอย่างไรอย่างนั้น มือหนารีบคว้าชุดนอนที่เตรียมไว้มาใส่ให้คนตัวเล็กอย่างรวดเร็วทว่าอ่อนโยนเพื่อไม่ให้คนตื่นง่ายตื่นขึ้นมาจากนิทรา ร่างโปร่งเดินไปเก็บผ้าและอ่างน้ำเข้าที่เดิมอย่างว่องไว ก่อนที่จะรีบเดินมาที่เตียง ค่อยๆแทรกกายเข้าไปในผ้าห่มผืนหนา ในที่สุดก็ได้นอนกอดคนตัวเล็กสมใจเสียที
อ้อมแขนแกร่งโอบกอดคนตัวเล็กอย่างหวงแหน สูดดมกลิ่นหอมหวานเป็นเอกลักษณ์จากคนเคียงข้างอย่างพึงใจ ความรู้สึกที่อ่อนล้าเพราะการทำงานทั้งวันหายเป็นปลิดทิ้ง เพียงได้สัมผัสกายนุ่มนิ่มของคนหน้าหวานที่หลับสนิทด้วยใบหน้าน่ารักแบบนี้ หัวใจของร่างโปร่งเต้นแรงและพองโตเสียจนแปลกใจตัวเอง
นี่หัวใจคนเรามันเต้นแรงได้ขนาดนี้เลยงั้นเหรอ
?
“รัก
จุนซูนะ
”
จุมพิตแผ่วหวานถูกประทับบนหน้าผากมนอย่างรักใคร่ ก่อนที่เจ้าตัวจะเข้าสู่ห้วงนิทราไปอีกคน สิ่งที่รับรู้เป็นสิ่งสุดท้ายก็คืออ้อมแขนเล็กที่โอบตอบกลับตนเอง พร้อมๆกับศีรษะกลมๆของคนเคียงข้างที่เข้ามาซุกกับแผ่นอก และเสียงแผ่วๆที่ดังออกมาจากริมฝีปากบาง
“
งืออ
ยูชอน
”
วันที่สาม
“อีกห้าวัน อีกห้าวัน
”
เสียงพึมพำของคนร่างโปร่งที่ยืนอยู่ข้างๆในขณะที่นั่งรอแจจุงและจุนซูที่ถูกพี่สไตลิสต์ไปจัดการเรื่องเครื่องแต่งกายทำเอายุนโฮและชางมินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ใกล้ๆเลิกคิ้วมองยูชอนที่ใกล้จะเหมือนคนบ้าเข้าไปทุกที
“นายพึมพำอะไรแบบนี้มาสามวันแล้วนะยูชอน เป็นอะไรเนี่ย?” ยุนโฮอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
“นั่นสิพี่ ไปหาหมอมั้ย?” และชางมินก็อดไม่ได้ที่จะเสริมเช่นกัน
“พี่ไม่เข้าใจหรอก
เวลาที่อยู่ใกล้ๆคนที่รักมากๆแต่กลับทำอะไรไม่ได้เลยเนี่ย
มันรู้สึกยังไง”
น้ำเสียงทุ้มพร่าของยูชอนออกแนวจะโอดครวญทำเอายุนโฮเผลอเบิกตากว้าง ไม่ต่างจากชางมินที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
“นี่อย่าบอกนะว่านายยังไม่ได้
.”
“ก็ใช่ไงพี่! ผมจะบ้าตายอยู่แล้วนะ!”
“ก็สมควรแล้วนี่
ใครใช้ให้มารู้ใจตัวเองเอาป่านนี้ล่ะ”
ยุนโฮเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มขำขันด้วยคำพูดออกแนวจะประชดประชันหน่อยๆ นี่ถ้าไม่ใช่ยูชอนที่เหมือนน้องชายของเขาอีกคนล่ะก็ อย่าหวังว่าจะได้น้องชายที่เขาทั้งรักทั้งหวงมากมายอย่างจุนซูไปอยู่ข้างกายเลย!
“ผมเองก็เหมือนพี่ยูชอนนั่นแหละ
ต่างกันตรงไหน” ชางมินเอ่ยบ้าง
“นั่นน้องชายฉันนะ! อายุยังไม่สิบแปดเลยด้วยซ้ำ!” อาการหวงน้องของยูชอนก็น้อยหน้าใครที่ไหนเสียเมื่อไหร่
“ผมรู้ว่าต้องทำยังไงน่าพี่ ทำเป็นหวงไปได้ ของพี่น่ะแต่อาทิตย์เดียว ของผมต้องเกือบสามปีเลยนะพี่!”
“
..”
“เฮ้อ~!”
เป็นคราวของสองหนุ่มต้องถอนหายใจออกมาต่อหน้าพ่อหมีกันบ้างล่ะ~
..
วันที่ห้า
“ยูชอน
ยูชอนมองตารางงานเป็นรอบที่เจ็ดของวันแล้วนะ”
เจ้าของหน้าตาน่ารักที่เดินถือผ้าขนหนูพาดไหล่เล็กเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าร่างโปร่งที่นั่งรออยู่บนเตียงในชุดนอนสีเข้มกำลังนั่งจ้องตารางงานเขม็งอีกแล้ว ยูชอนละจากแผ่นกระดาษตรงหน้าก่อนที่จะคลี่ยิ้มบางๆให้กับคนตัวเล็กที่เดินเตาะแตะเข้ามาใกล้ วันนี้งานไม่ต้องใช้เวลาจนถึงมืดค่ำดึกดื่นเท่าวันก่อนๆที่ผ่านมา เวลาสามทุ่มกว่าๆตอนนี้ทำให้คิม จุนซูยังคงตาใสแป๋วได้เหมือนคนยังไม่ง่วงนอน เมื่อเห็นยูชอนไม่ตอบอะไร จุนซูจึงมาหย่อนกายนั่งเคียงข้าง สายตาเรียวรีคู่สวยฉายแววอ่อนโยนและเป็นห่วงอย่างปิดไม่มิด
“ยูชอนเป็นอะไรรึเปล่า?”
“ไม่มีอะไรหรอก
”
แค่อยากได้คิม จุนซู!!
“แต่ยูชอนดูตารางงานมารอบที่เจ็ดของวันแล้วนะ ไม่สบายใจอะไรเหรอ?”
น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยที่ฟังแล้วใจเต้นทำให้ยูชอนต้องรีบสลัดความคิดอกุศลทิ้งไปให้หมด มือเรียวหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กจากในมือบางก่อนที่จะเช็ดผมให้คนตัวเล็กที่ยิ้มน่ารักและนั่งหันหลังให้อย่างรู้หน้าที่อย่างเบามือ เหมือนที่เคยทำอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเมื่อก่อนหรือหลังจากที่คบกัน
“ยูชอนอ่ะ~”
น้ำเสียงกระเง้ากระงอดของคนตัวเล็กที่ดังขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเขาไม่ยอมตอบคำถามของเจ้าตัวเสียทีทำให้ยูชอนเผลอยกยิ้มขึ้นมา นิสัยอีกอย่างที่เพิ่มขึ้นมาหลังจากที่คบกันได้ห้าวันก็คืออาการขี้งอนพองลมจนแก้มป่องของเจ้าตัวเล็กนั่นแหละ ถึงตอนเป็นเพื่อนกันจะมีงอนกันบ้าง แต่จุนซูก็ไม่เคยแสดงอาการให้เห็นได้กระเง้ากระงอดและน่ารักน่าชังถึงขนาดนี้
ท่าทีที่มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะมีโอกาสได้เห็นมัน
เพียงแค่คิดเช่นนั้น หัวใจก็พองโตลิงโลดด้วยความดีใจเสียแล้ว
“อยากรู้จริงๆเหรอ
หืม?”
ใบหน้าคมคายโน้มต่ำมากระซิบข้างใบหูเล็กก่อนที่จะขบเม้มเบาๆตามประสาคนขี้แกล้ง จุนซูสะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่จะยักไหล่ขึ้นทั้งสองข้างเพราะความรู้สึกจั๊กจี้ ริมฝีปากบางเอ่ยออกมาอุบอิบในขณะที่ทำหน้ามุ่ย
“ก็ถ้าไม่อยากรู้เค้าจะถามทำไมอ่ะ~”
สรรพนามแทนตัวเองที่อาจจะไม่ได้ยินบ่อยเท่าใดนักทำให้ยูชอนยิ้มกว้าง ก่อนที่รอยยิ้มเทพบุตรจะแปรเปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์เพทุบายเสียจนเผลอเสียวสันหลัง
“อยากรู้จริงอ่ะ?”
“ก็ใช่น่---อ๊ะ!”
เสียงเล็กร้องขึ้นเมื่อจู่ๆก็ถูกคนตัวสูงกว่ารั้งแขนให้ลงไปนอนราบกับเตียงนุ่มก่อนที่เจ้าตัวจะคร่อมทับเอาไว้ ใบหน้าหวานขึ้นสีแดงจัดกับความแนบชิดที่รู้สึกไปถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่ไม่ว่าอย่างไรก็ยังไม่ชินเสียที แววตาคมเป็นประกายแวววับในขณะที่กระซิบข้างใบหูสีก่ำเสียงพร่า
“ก็เพราะฉันรอให้ถึงวันศุกร์นี้ไม่ไหวแล้วน่ะสิ
”
“ยูชอนทะลึ่ง!!”
แรงตีอั่กๆที่แผ่นหลังกลับไม่ทำให้ร่างโปร่งที่ยกยิ้มไม่น่าไว้ใจสะทกสะท้าน จนจุนซูต้องรั้งให้คนตัวสูงกว่าลงมานอนเคียงข้าง ซุกศีรษะกลมเล็กเข้ากับแผงอกอบอุ่นอย่างที่ชอบทำ ก่อนที่จะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ติดจะรนอยู่ไม่น้อย
“นอน! น
นอนเดี๋ยวนี้เลยนะยูชอน! ห้ามพูดอะไรแล้วด้วย!”
ความขัดเขินของจุนซูเกินพิกัดทีไร ก็ชอบทำตัวน่ารักๆให้เขาอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ทุกทีไป ยูชอนคลี่ยิ้มกว้างก่อนที่จะโอบกอดร่างเล็กๆที่แสนหวงแขนไว้ในอ้อมแขนของตนเอง กดจูบอ่อนโยนที่หน้าผากมน ก่อนที่จะค่อยๆหลับตาลง รู้สึกผ่อนคลายจนไม่นานคนทั้งคู่ก็ผล็อยหลับไป
แม้ว่าปาร์ค ยูชอนจะเป็นคนไม่นอนในเวลาที่ยังเรียกได้ว่า ‘ไม่ดึก’ แบบนี้ แต่ทุกครั้งที่มีจุนซูอยู่ในอ้อมแขน เขาก็รู้สึกผ่อนคลายจนสามารถหลับไปได้จริงๆ
“
รักจุนซูนะ
”
.
วันที่หก
“อีกสองวัน
แค่วันนี้กับพรุ่งนี้เท่านั้น ท่องไว้ๆ”
ระหว่างรอการถ่ายรูปเดี่ยวของเจ้าของเสียงแหบหวานของวง ยูชอนก็นั่งพึมพำอะไรแบบนี้อยู่ภายบริเวณโซฟาตัวยาวที่ใช้สำหรับนั่งรอเพื่อถ่ายรูปเป็นคิวต่อไป จนอีกสามใบเถา ยุนโฮ แจจุง และชางมินที่นั่งอยู่ใกล้ๆอดไม่ได้ที่จะมองคนร่วมวงที่ดูเหมือนจะสติหลุดไปชั่วขณะด้วยแววตาที่บอกไม่ถูก ก่อนที่จะหันมามองหน้ากันเองอย่างปลงตก
“ฉันว่ามันเข้าขั้นแล้วนะเนี่ย”
ยุนโฮเปรยขึ้นลอยๆเสียงแผ่วอย่างที่ไม่ตั้งใจจะให้เจ้าตัวได้ยิน แจจุงเพียงแค่ยิ้มแหยๆเท่านั้น ส่วนชางมินก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมากับอาการของยูชอน
เห็นพี่เขยเป็นอย่างนี้แล้วชิมชางมินปวดตับครับ
“ยูชอน~”
ใบหน้ากลมหวานที่เดินออกมาจากฉากทำเอาร่างโปร่งที่กำลังนั่งครุ่นคิดอะไรอยู่คนเดียวเปลี่ยนโหมดมาเป็นเทพบุตรแจกรอยยิ้มอ่อนโยนแถมด้วยสายตาหวานเชื่อมให้แทบจะในทันที นี่ถ้าไม่ติดว่ามีทีมงาน ช่างไฟ ช่างกล้อง เยอะแยะสารพัด เขาจะรั้งเจ้าของริมฝีปากหวานๆนั่นมาจูบแรงๆเสียให้เข็ด โทษฐานทำตัวน่ารักเกินไป!
แต่ดูเหมือนคนตัวเล็กนั้นกลับไม่รู้สึกถึง ‘ออร่า’ ที่ออกมาจากชายคนรัก ยังคงยิ้มเรี่ยราดแจกจ่ายทีมงานไปทั่ว รวมไปถึงกระทั่งสตาฟไม่คุ้นหน้าที่มีหน้าที่ยกของเล็กๆน้อยๆก็ยังส่งยิ้มละลายใจไปให้ ทำเอาเหล่าผู้โชคดีทั้งหลายเพ้อตายกันไปเป็นแถบๆ
จุนซูเป็นของเขาคนเดียวนะ!!
ตัวหอมๆ เล็กๆ เรียวๆ บางๆ นุ่มๆ นั่นเป็นของเขาคนเดียวนะเฮ้ย!
ปาร์ค ยูชอนจะบ้าตาย!!
..
ในที่สุดวันสุดท้ายของการทำงานแบบน็อนสต็อปก็มาถึง
วันนี้ดูเหมือนยูชอนจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษ รอยยิ้มเทพบุตรที่ใครๆต่างก็หลงใหลปรากฏบนใบหน้าคมคายแทบจะทั้งวัน ร่างสูงไม่ปริปากบ่นอะไรเลยสักคำตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า อาการง่วงงุนเกเรไม่ยอมตื่นกลับไม่แสดงออกมาให้เห็นเลยแม้เพียงนิด หนำซ้ำยังแสดงท่าทีลิงโลดกระปรี้กระเปร่าเสียจนน่าแปลกใจและเกิดคำถามกับใครหลายๆคนว่า ‘ไอ้นี่’ มันเป็นอะไรของมัน?
“ระรื่นเกินไปแล้วนะพี่”
ชางมินเป็นคนแรกที่เริ่มจะทนไม่ได้กับพฤติกรรม ‘ยิ้มแก้มแตก’ ของพี่ชายร่างโปร่งที่ส่งสายตาปานจะกลืนกินไม่เห็นศีรษะใครไปยังคนตัวเล็กที่นั่งก้มหน้าหลบสายตางุดๆอยู่เคียงข้าง วันนี้เป็นเพียงการอัดรายการวิทยุ และรายการอื่นๆเล็กๆน้อยๆเท่านั้น เลยยิ่งทำให้ยูชอนอารมณ์ดีกว่าเก่า เพราะด้วยการนั่งคิดคำนวณเวลากลับบ้านของวันนี้ไปหลายตลบก็ได้ข้อสรุปแสนน่ายินดีปรีดา(ที่เจ้าตัวว่าเองเออเองอยู่ฝ่ายเดียว) ว่า
กลับถึงบ้าน ‘ก่อนเที่ยงคืน’ ชัวร์!!
อะหุๆๆ อยากถึงบ้านใจจะขาดแล้วคร้าบบบบ~!!
23.57 น.
จะไม่ทันอยู่แล้ว!!
เพราะงานกะทันหันที่จู่ๆก็ทำเอาเหล่าทงบังชินกิที่กำลังจะเตรียมตัวกลับบ้านงานเข้าพร้อมๆกัน เวลากลับบ้านที่คิดคำนวณไว้เสียดิบดีของปาร์ค ยูชอนเป็นอันคลาดเคลื่อนไป
ตอนนี้เจ้าตัวกำลังนั่งขมวดคิ้วมุ่นอยู่บนรถในขณะที่สายตาคมมองนาฬิกาซึ่งทอดตัวอยู่บนข้อมือซ้ายของตัวเองตาไม่กระพริบ จนคนตัวเล็กข้างๆต้องเอ่ยถาม
“ยูชอนเป็นอะไรไปน่ะ?”
“ไม่มีอะไรนี่” รอยยิ้มอ่อนโยนส่งมาให้คนตัวเล็กทั้งๆที่ในใจยังมีเวลาเดินติ๊กต่อกไปมา
.
“อ๊า~ ถึงบ้านแล้วล่ะ ดีจังเลยย~”
คนตัวเล็กฉีกยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี ก้าวเท้าเดินเตาะแตะเข้ามาในบ้านหลังจากที่วิ่งฉิวลงจากรถมาเหมือนกับเด็กตัวเล็กๆที่ไม่รู้ชะตากรรมของตนเอง ตามด้วยยูชอนที่เดินก้าวฉับๆตามคนรักเข้าบ้าน พร้อมๆกับปรายสายตามองนาฬิกาเป็นรอบที่หนึ่งร้อย
23.59 น.
ทันทีที่สมาชิกทุกคนก้าวเท้าเข้าบ้านอันแสนสุขแล้ว เสียงทุ้มพร่าของยูชอนก็ไม่ลังเลที่จะเอ่ยขึ้นมาทำลายความลัลล้าของแต่ละคนที่ได้เหยียบบ้านทันทีเพื่อให้รับรู้ได้ทั่วกัน
“ตั้งแต่ตอนนี้จนถึงพรุ่งนี้เย็น
ไม่ต้องเรียกนะครับ!”
“เอ๋
อ๊า~!!!”
เสียงร้องโลมาดังขึ้นเมื่อจู่ๆชายคนรักก็อุ้มเขาพาดบ่า จุนซูทำหน้างุนงงก่อนที่จะดิ้นพลั่ดๆในอ้อมแขนของร่างโปร่งด้วยความไม่เข้าใจ
“
ยูชอน! ปล่อยน้า~!! จะทำอะไรอ้ะ!?”
“เดี๋ยวนายก็รู้เองล่ะจุนซู”
ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรไปมากมายกว่านั้น ยูชอนก็จัดการพาคนตัวเล็กเดินขึ้นบันไดไปทันที โดยที่มีสายตาของสมาชิกร่วมวงอีกสามคนและน้องชายตัวเองอีกหนึ่งที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นมองตามไปเป็นสักขีพยานและส่งความห่วงใยไปให้ร่างเล็กๆของจุนซูที่ตอนนี้คงจะเอ๋อจนทำอะไรไม่ถูกไปแล้ว
ลุกให้ขึ้นนะจุนซู
“ยูชอน! ยูชอนเป็นอะไรของยูชะ---อ๊ะ!”
ร่างเล็กถูกวางเบาๆให้เอนนอนราบลงกับเตียงสีสะอาดในขณะที่ร่างสูงไม่รั้งรอ ขึ้นคร่อมไว้ทางด้านบนแทบจะในทันที ใบหน้าหวานของคนตัวเล็กขึ้นสีก่ำเมื่อแววตาคมกล้าพราวระยับคู่นั้นกำลังทำให้เขาเข้าใจทีละนิดว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
10
9
.
“ย
ยูชอน
”
8
7
6
5
แรงขบเม้มเบาๆที่ซอกลำคอขาวไล้เรื่อยมาจนถึงใบหูจนร่างเล็กบิดกายงอเพราะความจั๊กจี้และความรู้สึกวาบหวามที่เริ่มก่อตัวขึ้นทีละนิด ดวงหน้านวลถูกพรมจุมพิตไปทั่วจนรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วทั้งใบหน้า มือที่แสนอ่อนโยนของร่างโปร่งค่อยๆสัมผัสผิวกายขาวผ่านเนื้อผ้านุ่มทีละน้อย ก่อนที่จะแทรกเข้าไปใต้ชายเสื้อเพื่อสัมผัสผิวกายที่มีความนุ่มมากกว่าเนื้อผ้าชั้นดีชิ้นไหนๆ
4
3
2
1
ติ๊ด!
เสียงของนาฬิกาดิจิตอลบนโต๊ะเล็กข้างเตียงบอกเวลาของวันใหม่ ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อยกับเสียงที่ดังขึ้นในความเงียบนั้น ก่อนที่เสียงทุ้มพร่าจะกระซิบข้างใบหูอย่างอ่อนโยนที่สุดจนต้องเผลอเคลิ้มคล้อยตาม
“
ขอโทษนะจุนซู
ฉัน
ไม่ไหวแล้วจริงๆ
”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
To Be Continued...
ความคิดเห็น