ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์วิวาห์เจ้าชายมาเฟีย (พริม สกาย)

    ลำดับตอนที่ #11 : คนเฮงซวย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.92K
      4
      7 ก.ย. 58

    บทที่11 ผู้ชายเฮงซวย

    หลังจากสกายกับพริริสาออกจากบ้านไปแล้ว ลินลณีก็เดินกลับยังห้องของตนเอง ด้วยความรู้สึกชิงชังในตัวพริริสา หล่อนไม่ยอมปล่อยให้หญิงสาวไปมีความสุขข้างนอกได้ง่ายๆหรอก ในขณะที่หนี้สิ้นยังท่วมหัว คนอย่างหล่อนไม่ควรจะมาแบกรับภาระที่ไม่ได้ก่อนี่เด็ดขาด ถึงจะรู้สึกเสียใจต่อการจากลาก่อนเวลาอันควรของบิดามารดา แต่หนี้สิ้นที่เกิดขึ้นจากการพนันของบิดารมารดาก็ไม่ควรจะต้องตกเป็นภาระของตนเอง พริริสาต่างหากที่ต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ ในเมื่อเธอยังไม่ได้ทดแทนบุญคุณครอบครัวหล่อนที่ชุบเลี้ยงมา เธอก็ไม่มีสิทธิ์ออกไปมีความสูขสำราญอยู่ข้างนอก หากผู้ชายคนนั้นมันไม่สามารถหางานมาได้ตามที่ร้องป่าวออกมา หล่อนนี่แหละ จะจับพริริสาใส่ตะกร้าล้างน้ำแล้วเอาไปขัดดอกเจ้าหนี้เอง

    แกไม่มีวันออกไปเสวยสุขอยู่นอกบ้านหรอกนังพริม แกจะไม่มีวันได้ดีไปกว่าฉัน ตราบใดที่แกยังไม่มีเงินมาไถ่จำนองบ้านให้ฉันได้ แกก็จะไม่มีวันออกไปไหนได้ทั้งนั้น ชีวิตแกมันเป็นของฉัน ฉันต่างหากที่เป็นเจ้าชีวิตของแก”  ลินลณีคิดแค้นพริริสาอยู่ในใจ ดวงตาหล่อนแข็งกร้าวชิงชัง เมื่อนึกถึงใบหน้าของผู้หญิงที่ตนเองแสนจะเกลียดชัง

    ฉันเกลียดแกนังพริม ฉันเกลียดแก!! ตั้งแต่แกเข้ามาในบ้านหลังนี้แกก็แย่งเอาทุกอย่างของฉันไป ฉันเกลียดแกเกลียดแกลินลณีแหกปากตะโกนลั่นบ้าน พร้อมทั้งจับข้าวของที่ใกล้ตัวปาไปทั่วกระจัดกระจายเต็มพื้นห้อง

    แกเกิดมาเพื่อแย่งทุกอย่างไปจากฉัน แกมันก็แค่กาฝาก!!.ดวงตาลินลณีแดงก่ำและกราดเกรี้ยว  น้ำตาที่ไหลผ่านม่านตามันคือความอัปยศอดสู   หล่อนเกลียดโชคชะตาที่ทำให้ต้องมาพบกับความเจ็บปวดเช่นนี้ หล่อนเกลียดพริริสา ที่มาแย่งทุกอย่างที่ควรเป็นของหล่อนไป ทำไมหล่อนจะไม่รู้ว่าต้นน้ำกำลังเบี่ยงเบนความสนใจไปหาพริริสา  ในเมื่อทุกครั้งที่เขามารับหรือไปไหนด้วย ต้นน้ำจะถามหาพริริสาเสมอ แต่ฝันไปซะเถอะในเมื่อหล่อน ไม่ได้ก็อย่าหวังว่าใครหน้าไหนจะได้

       คุณต้นน้ำ คุณต้องเป็นของฉัน ของฉันคนเดียว ลินลณีแสยะยิ้มเหี้ยมเกรี้ยมออกมา สมองกำลังคิดแผนกำจัดพริริสา ให้พ้นทาง และมันก็ต้องมีสักทาง หล่อนเหมือนคนเสียสติเมื่อหล่อนเปล่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างคนบ้าคลั่ง สมองกำลังคิดแผนชั่วกำจัดน้องสาวนอกไส้ให้พ้นทางรัก

    แกจะไม่มีวันได้ดีไปกว่าฉัน ไม่มีทางถ้าไอ้กระจอกนั้นไม่มีปัญหาหาเงินมาได้ให้ฉันได้ แกเตรียมตัวตกนรก ได้เลย หึหึ... แล้วแกก็อย่าหวังว่าจะได้เห็นเดือนเห็นตะวันอีก” ลินลณีกำมือเข้าหากันแน่น ก่อนจะทอดสายตาอันเคียดแค้นชิงชังคู่นั้น มองออกไปนอกหน้าต่างเหมือนคนสติไม่อยู่กับตัว แล้วปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาแทนใบหน้าสวยเข้มที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางค์ยี่ห้อราคาแพงนั้น

      เมื่อความชิงชังสุ่มอยู่ในอกเหมือนไฟร้อนเผาผลาญกลางใจ จนสามารถแผดเผาคนที่อยู่ใกล้หล่อนให้มอดไหม้ และหนึ่งในนั้นก็คือพริริสา น้องสาวนอกไส้ ที่หล่อนคิดว่าเกิดมาเพื่อแย่งชิงทุกอย่างไปจากหล่อน ไม่เว้นแม้แต่ชายหนุ่มที่หล่อนหมายมั่นปั้นมือที่จะร่วมชีวิตด้วย เมื่อหล่อนไม่มีความสูข เมื่อหล่อนไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าคนอย่างพริริสาจะมีความสูข

       ฉันจะทำทุกทางให้แกไม่มีวันสูขนังพริม ฉันจะทำทุกอย่างให้แกต้องพินาศย่อยยับด้วยน้ำมือของฉัน..” 

    หลังจากที่สกายจับพริริสาหยัดใส่รถเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ปล่อยให้พริริสาได้ทันขัดขืน หรือร้องขอความเห็นใจใดๆอีก

    ไอ้คนบ้า คนเผด็จการ คุณไม่มีสิทธิ์จับตัวฉันมาแบบนี้นะ ฉันจะแจ้งตำรวจข้อหาลักพาตัวกักขังหน่วงเหนี่ยวฉัน”  พริริสาประกาศกร้าว มองหน้าชายหนุ่มอย่างเอาเรื่อง พยายามดิ้นหนีให้หลุดพ้นจากการจองจำด้วยเนคไทของชายหนุ่ม ที่หลังจากขึ้นรถได้เขาก็ไปคว้าเอามามัดข้อมือของเธอไว้ เพื่อไม่ให้เธอดิ้นรนหนีเขาไปได้

    หัวหมอนี่ เชิญ!! สกายตะคอกกลับ โดยไม่ได้สนใจหญิงสาวที่ดิ้นรนขัดขืนเลยแม้แต่น้อย  พริริสาสะบัดหน้ามามองคนหน้ามึนที่แบกเธอมายัดใส่รถด้วยความโมโห เมื่อชายหนุ่มไม่สะทกสะท้านกับคำขู่ของเธอเลยสักนิด หนำซ้ำยังขับรถออกไปด้วยความเร็วสูง จนมือที่ถูกมัดอยู่ควานหาสิ่งยึดเหนี่ยว เพราะเกรงกลัวต่ออันตรายที่จะได้รับหากชายหนุ่มเกิดพลาดท่าเสียทีไปเฉี่ยวชนกับสิ่งของข้างทาง

      คุณ!!  ขับให้มันช้าลงอีกนิดได้มั้ย” หญิงสาวกัดฟันข่มความกลัว หันมาพูดกับเขา  

    แต่มีหรือคนชอบความเร็วอย่างสกายจะฟัง เมื่อเห็นหญิงสาวมีสีหน้าตื่นตระหนก เขายิ่งแกล้งเพิ่มความเร็วของรถเข้าไปอีก

    อร๊ายยย คุณ ฉันบอกให้ขับช้าลงกว่านี้หูแตกหรือยังไง ฉันยังไม่อยากตายหรอกนะ” คราวนี้พริริสาไม่พูดเปล่าเธอใช้มือที่ถูกมัด ทุบไปตามหัวไหล่หนาของชายหนุ่มแรงๆหลายที

     ตุบ! ตุบ! ตุบ!

    บอกให้ขับช้าๆไงเล่า!

    โอ๊ย!! ยัยบ้านี่ เธอทำอะไรของเธอหะ เดี๋ยวก็ได้ตายกันจริงๆหรอก”  สกายเลี้ยวรถมาจอดข้างทาง แล้วหันมาตวาดใส่หน้าเธอ ด้วยความไม่พอใจ ที่หญิงสาวบังอาจมาทุบตีเขา

    ก็คุณอยากขับรถเร็วทำไมล่ะ ไม่เห็นหรือไงว่ารถราออกจะเต็มถนน พริริสาพูดสวนขึ้นทันควัน   มองหน้าชายหนุ่มด้วยสายตาขุ่นเคือง พร้อมสำรวจไปทั่วร่างกายกำยำนั้น ทำไมเธอต้องมาพบเจอกับผู้ชายบ้าอำนาจคนนี่ด้วย แล้วทำไมอีตานี่ต้องเข้ามาวุ่นวายบงการชีวิตของเธอ สวรรค์กลั่นแกล้งเธอชัดๆ ไม่ยุติธรรมเอาซะเลย แค่หนี้สิ้นที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อขึ้นแต่ต้องมาชดใช้ ก็มากพออยู่แล้ว นี่ยังต้องมาเจอผู้ชายหน้าตาโหดร้าย นิสัยเอาแต่ใจอีก

                   หยุดนินทาฉันด้วยสายตาเดี๋ยวนี้นะพริริสา” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากที่ใช้ความเงียบข่มขู่เธออยู่นาน   ยิ่งเห็นแววตาใสซื่อที่ซ่อนความดื้อรั้นของพริริสาที่มองเขาอย่างเอาเรื่อง ก็ยิ่งทำให้ชายหนุ่ม อยากจะกวนโมโห

                   เขาไม่เคยพูดจากวนปราสาทผู้หญิงแบบนี้มานานแล้ว พริริสาเป็นคนแรกเลยก็ว่าได้ หลังจากที่เลิกรากับคนรักเก่าไป ที่ทำให้ชายหนุ่มมีอารมณ์ขัน ยิ่งทำให้แม่คนตัวเล็กนี่โมโห เขายิ่งรู้สึกว่ามีความสูขชะมัด ยัยตัวเล็กแสนเย่อหยิ่งคนนี้แหละ เหมาะที่จะมาเป็นเมียกำมะลอของเขามากที่สุด

    ฉันไปนินทาอะไรคุณ หลงตัวเอง” 

     “ก็ไอ้ที่เธอ จดๆจ้องๆ ฉันตั้งแต่ หัวจรดเท้านี่ มันไม่เรียกว่านินทาตรงไหนหะ”  สกายเลื่อนมือหนาขึ้นมาใช้นิ้วจิ้มลงไปที่หน้าผากมนของเธอเบาๆอย่างหมั่นไส้ ก็ดูเธอโกหกได้เนียนมากเลยนะ แอบสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วยังมีหน้ามาปฏิเสธคอเป็นเอ็น ว่าไม่ได้มองเขา

      “ชิส์!! คุณมีอะไรหน้ามอง ดูหนวดเคราก็รกรุงรัง ผมเผ้าก็ยาวยุ่งเหยิง ฉันไม่พิศวาสคุณเลยสักนิด”  พริริสาเองก็ไม่ยอมชายหนุ่ม เมื่อเขาใช้มือหนามาจิ้มหน้าผากมนเธอได้ เธอเองก็ใช้มือที่ถูกมัด ขึ้นมาดึงเหนาเครากับผมของชายหนุ่มแรงๆหลายที

    โอ๊ย ยัยบ้าเล่นอะไรของเธอนี่ ฉันเจ็บ!!  

    สมหน้าอยากมาแกล้งฉันก่อนทำไม

    เธอนี่มัน!!.... น่าจับหักคอจริงๆ”  สกายเอ่ยเสียงเข้ม เขาเม้มปากเน้น เมื่อเจอคนตัวเล็กทำหน้ายียวนใส่ พร้อมยกมือขึ้นมาขู่พริริสา 

    ฉันต่างหากที่ควรจะจับคุณหักคอ ตั้งแต่ฉันเจอคุณฉันมีแต่เรื่อง คุณมันตัวซวยจริงๆ รู้อย่างนี้เมื่อคืนฉันน่าจะปล่อยให้คุณกลับๆไปซะไม่น่าเรียกเข้าไปทำแผลในบ้านเลย ไม่อยากนั้นพี่ลินก็ไม่เห็นคุณ ฉันกับพี่ลินก็ไม่ต้องทะเลาะกัน  แล้วฉันก็ไม่ต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ด้วย” พริริสาพูดเร็วระรัว จนชายหนุ่มพูดแทรกแทบไม่ทัน  ก่อนจะพาร่างอันเหนื่อยหอบ เพราะรู้สึกว่าตนเองพูดมากไปแล้ว กลับมานั่งยังเบาะของตนเอง แล้วเหลียวมองคนข้างๆอย่างเคืองขุ่น

    เมื่อกี้เธอว่าใครเป็นตัวซวยนะ” สกายทำหน้าตึง ถามเสียงเขียว พร้อมเอี้ยวตัวหันหน้ามาหาเธออย่างเอาเรื่อง

             พริริสาขยับตัวหนีชิดขอบประตูรถ เมื่อเห็นว่าชายหนุ่ม กำลังมองเธออย่างไม่พอใจ แถมน้ำเสียงก็ค่อยข้างดุดัน จนเธอรู้สึกว่าหากเธอยังโต้เถียงเขาอยู่มีหวังคนตัวเล็กอย่างเธอต้องแหลกคามือเขาแน่ๆ

    ก็ ก็......  หญิงไม่กล้าที่จะเอ่ยต่อ เธอก้มหน้ากุด รู้สึกมีอำนาจอะไรบางอย่างแผ่ออกมาจากดวงตาคมเข้มคู่นั้น ที่กำลังมองเธออย่างเอาเรื่อง ก่อนจะตามมาด้วยน้ำเสียงเข้มของชายหนุ่มอีกครั้ง

    ฉันถามว่า เมื้อกี้เธอว่าใครเป็นตัวซวย!

    ในรถคันนี้มีแค่ฉันกับคุณ ฉันคงไม่ว่าตัวเองหรอกนะ” เธอตอบออกไปแบบไม่เต็มเสียง แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้คนฟังถึงกับลมออกหู กระชากร่างเล็กลอยละลิ่วไปปะทะกับแผงอกของเขาอย่างแรง

    ปากดีนักนะดีปากดีแบบนี้ฉันชอบ วันก่อนรสจูบของฉันมันยังไม่ร้อนแรงพอใช่มั้ย งั้นวันนี้มาลองใหม่สิ ว่ามันจะร้อนแรงพอ ทำให้ปากของเธอ หยุดต่อว่าฉันได้มั้ย...

    อร๊าย... ปล่อยนะ ฉันเจ็บ คุณจะทะ.......พริริสายังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกปากหยักหนาได้รูปของชายหนุ่ม กดทับลงไปเสียก่อน จึงได้ยินเสียงดังอู้อี้อยู่ในลำคอของเธอ พร้อมกับการปัดป้องด้วยแขนสองข้าง แต่มีหรือหนูตัวเล็กๆอย่างเธอ จะสู้แรงราชสีห์ได้

       เจ้าพ่อเหมืองไม่ปล่อยให้พริริสาได้เอ่ยอะไรออกมา เขาตะครุบเหยื่อตัวเล็กๆด้วยปากร้อนชุ่มของตนเอง แอบกัดหนักๆตรงริมฝีปากเมื่อหญิงสาวไม่ยอมเผย่อปากให้เขาได้ใช้ลิ้นร้อน เข้าไปสำรวจในโพรงปากหวาน จนเธอเผลออ้าปากครางเพราะความเจ็บ เมื่อชายหนุ่มแกล้งด้วยการขบกัดริมผีปาก

       สกายใช้มือข้างหนึ่งจับข้อมือของเธอ ที่กำลังทุบเขาระรัวอยู่ตรงแผงหน้าอก อีกข้างหนึ่งก็สอดเข้าไปประคองท้ายทอยของเธอไว้ เพื่อให้เธอเงยหน้ามารับจูบของเขาอย่างเต็มที เมื่อลิ้นร้อนสามารถแทรกซ้อนเข้าไปในโพรงปากหวานของพริริสาได้ ชายหนุ่มก็หยอกเย้าสำรวจไปทั่วปากหวาน  ทั้งกัดทั้งเม้มจนปากเล็กบวมเจอ เนิ่นนานจนร่างเล็กที่ดิ้นขลุกขลิกอยู่ในอ้อมแขนหยุดเคลื่อนไหว เพราะสู้แรงชายหนุ่มไม่ได้ น้ำตาแห่งความพ่ายแพ้ก็ไหลอาบแก้ม เพราะความอ่อนแอของตนเอง หนำซ้ำยังให้ชายหนุ่มคนเดิมจูบเธอได้เป็นครั้งที่สองอีก

    คราวนี้สกายจูบหนักมากว่าเดิม ลิ้นร้อนชุ่มควานหาของหวานไปทั่วโพรงปาก คล้ายจะแกล้ง พริริสาทักท้วงด้วยการกัดลิ้นหนาด้วยฟันของตนเอง แต่ก็เพียงเสี้ยววินาทีก็ต้องรีบปล่อย เพราะความช่ำชองของชายหนุ่มที่เหนือกว่า เขาใช้มือหนาบีบกรามเธอไว้ จนเธอต้องคลายลิ้นหนาออก สองมือที่ใช้ทุบชายหนุ่มอ่อนยวบมากองอยู่ข้างลำตัว เมื่อเขาจูบแล้วจูบอีก จูบจนเธอรู้สึกว่าเขากำลังจะสูบเอาวิญญาณเธอออกจากร่าง ด้วยรสจูบอันเร่าร้อนและช่ำชอง เขากำลังจะทำให้เธอหลอมลลายกลายเป็นจุนเพราะการปลุกเร้า ที่เธอไม่เคยได้สัมผัสจากชายใดมาก่อน

       ชายหนุ่มไม่หยุดเพียงเท่านั้นเหมือนเช่นดังเดิมที่เขาเคยทำกับเธอมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่ออารมณ์ความใคร่ของตนเองกำลังพุ่งพรวด คิดอยากจะสั่งสอนแม่ตัวดีให้เลิกพยศ และยอมศิโรราบให้กับตนเอง เขากับใช้มือใหญ่ เลื่อนขึ้นมาคลึงหน้าอกของเธออย่างถือสิทธิ์ จนคนโดนกระทำหดตัวหนีเพราะความตกใจที่ชายหนุ่มมาระลาบระล้วง บนเนื้อตัวเธอแบบนี้

      แต่ถึงอย่างนั้น คนตัวเล็กก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากการหยอกเย้าด้วยมือใหญ่บนหน้าอกของเธอได้ ครั้นจะขัดขืนแต่เรี่ยวแรงกับหดหาย อยากกัดลิ้นตัวเองให้ตายนักทำไมเธอถึงอ่อนยวบยาบให้กับมารร้ายที่กำลังล่วงเกินเธออยู่แบบนี้ แถมเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจหากชายหนุ่มยังไม่ยอมปล่อยริมผีปากที่บวมเจ่อของเธอเพื่องับเอาอากาศเข้าปอด

    สกายหน้ามึนจนเกินกว่าจะห้ามปราบความรู้สึกนึกคิดของตนเองได้ เมื่อกลิ่นกายของพริริสาช่างหอมหวานเย้ายวนให้ชายหนุ่มอยากลิ้มลอง จากแค่ที่อยากจะจูบสั่งสอนกลับแปรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นแทน เขาค่อยๆผละออกจากริมผีปากของหญิงสาว เมื่อเห็นว่าเธอหอบหายใจแรง เพราะกำลังขาดอากาศไว้ใช้หายใจ ก่อนจะเลื่อนจมูกโด่งเป็นสันซุกไซร์ไปตามซอกคอระหงของหญิงสาว  ใช้ปากหนาขบเม้มเบาๆ ตีตราไว้เป็นรอยเปื่อนแดงๆตามซอกคอ มือหนึ่งเคล้าคลึงอยู่บนดอกบัวคู่งาม ที่ทั้งบีบทั้งนวด  อีกมือโอบไหล่คนตัวเล็กเอาไว้ เพื่อไม่ให้เธอโอนเอนไป เพราะร่างกายอ่อนยวบ ไม่มีแรงยืนหยัด

       พริริสาน้ำตาไหลพราก เพราะความอับอาย แต่กลับไม่มีแรงสู้คนเอาแต่ได้อย่างเขา ไม่รู้เรี่ยวแรงที่มีหายไปไหนหมด เพียงแค่ถูกชายหนุ่มหยอกเอินกับร่างกายตนเอง ถึงกับไม่มีแรงขัดขืน ได้แต่ปล่อยให้เขาแทะโลมเธออยู่แบบนั้น  

       หญิงสาวเอาศีรษะพิงกับเบาะรถไร้ซึ้งการขัดขืน ปล่อยร่างกายตนเองให้ชายหนุ่มเชยชมอย่างสมใจ  เธอกัดฟันเม้มปากเป็นเอาไว้แน่น พร้อมหลับตาปี้ไม่อยากจะมองหน้าเขา เพราะตอนนี้เธอกำลังโกรธทั้งตนเองและก็โกรธคนตรงหน้า ที่ไม่สามารถปัดป้องหรือขัดขืนอะไรได้เลย ร่างกายของเธอกำลังทรยศตนเอง

    สกายเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่นิ่งงันไป แต่มือยังไม่หยุดเคล้าคลึงดอกบัวคู่งามของหญิงสาว เขาเลื่อนปากหยักขึ้นไปจูบซับน้ำตาที่ไหล จากแก้มนวลของเธอ ใช้มือข้างหนึ่งปัดเส้นผมยาวดำสนิทของเธอไปทัดไว้ที่หู  แล้วประคองใบหน้าเธอไว้  ก่อนจะมอบจูบอันนุ่มนวลให้เธออีกครั้ง

    ครั้งนี้ ไม่ร้อนแรงเหมือนครั้งแรก เมื่อเขารับรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้า ไม่มีแรงขัดขืนและกำลังพยายามข่มอารมณ์ของตนเองไว้ ไม่ให้หลงไปกับการปลุกเร้า  ดีที่ว่าสกายจอดรถในที่ค่อนข้างลับตาคน และรถคันหรูติดฟิล์มดำทั้งหมด คนที่ผ่านไปมาเลยไม่รู้ว่าข้างในรถมีใครทำอะไรอยู่ข้างใน

    ชายหนุ่มเลื่อนมือที่คลึงอยู่บนอกอวบลงมาต่ำ ก่อนจะสอดมือเข้าไปในเสื้อนอนลายการ์ตูนของเธอ พริริสาสะดุ้งเฮือก เมื่อเนื้อในสัมผัสกับมือใหญ่ที่กำลังดันบราเซียเธอที่ห่อหุ้มดอกบัวคู่นั้นนั้นให้พ้นทาง เพื่อที่จะได้บีบคลึงได้ถนัดถนี่ หญิงสาวใช้มือที่ถูกมัดขึ้นมาปัดป้องทักท้วงคนหน้ามึนที่เอาแต่เสพสมกับเรือนร่างของเธออย่างเอาแต่ใจ แต่ก็ถูกมือใหญ่อีกด้านรวบเอาไว้มากองอยู่ที่ตักตนเองซะงั้น

    สกายจูบหนักๆกับริมผีปากบางอีกครั้ง ก่อนจะผละออกมาจ้องมองใบหน้าหวานที่ยังมีคราบน้ำตาหลงเหลืออยู่ ด้วยสีหน้าอารมณ์หลากหลาย ผู้หญิงตรงหน้า กำลังทำให้เจ้าพ่อเหมืองอย่างเขาเสียการควบคุมตนเองอย่างหนัก ยิ่งไปกว่านั้นแก่นกายเข้า มันกำลังจะทะลักออกมานอกกางเกง หากไม่ได้ปลดปล่อย อารมณ์ใคร่ออกมา

     คุณ!! อย่า.....ได้โปรด นั้นคือคำแรกที่พริริสาเอ่ยออกมาได้ หลังจากที่ถูกชายหนุ่มแทะโลมอยู่นาน

    ฉันก็อยากหยุดหรอกนะ ถ้า.....”  เขาหยุดพูด และก้มลงมองเป้ากางเกงของตนเองที่ตอนนี้มันตุงจนจะทะลักออกมาจากกางเกงอยู่แล้ว เหมือนพริริสาจะรู้ว่าชายหนุ่มกำลังจะสื่ออะไรกับตนเอง เธอเมินหน้าหนีไปทางอื่นไปอยากจะมอง เพราะเหมือนจะรู้ชะตาตนเอง ว่าหากเธอยังเป็นแบบนี้ เธอต้องโดนราชสีห์ตะครุบเหยื่อกินสดๆ ในรถนี่แน่ๆ

        แต่เธอก็ตอบตนเองไม่ได้ว่าทำไมเธอถึงไม่รู้สึกขยะแขยง กับสัมผัสอันจาบจ้วง ล่วงเกินจากเขา กลับรู้สึกวาบหวามจนมันเรื่อยเถิดถึงขั้นยอมให้ชายหนุ่ม สัมผัสกับเนื้อนวลของดอกบัวคู่งามนั้นได้  อย่างน่าไม่อาย

    คุณอย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันยอมแล้ว ฉันจะไม่พูดจาก้าวกร้าวคุณอีก” พรริสาเสียงสั่นคลอ และยอมหันหน้ามาสบตากับชายหนุ่ม เธอยกมือที่ถูกมัดขึ้นมาพนมมือไหว้เขา เพื่อขอโทษ

    หึหึ…” ชายหนุ่มหัวเราะเยาะอยู่ในลำคอ พร้อมเชยคางหญิงสาวขึ้น แล้วโน้นหน้าเข้ามาจูบซับที่คางมน อีกมือจับมือที่ถูกมัดของเธอไว้แล้วลากลงมาตรงเป้ากางเกงของตนเอง ก่อนจะเอ่ยวาจาที่คนฟัง ถึงกับอ้าปากค้าง และชักมือกลับแทบไม่ทัน

       “ไม่ทันแล้วพริริสา น้องชายฉันมันกำลังอยากเข้าไปสัมผัสกับน้องสาวของเธอเต็มทีแล้ว

      “คุณ!!! พริริสาอุทานเสียงหลง แต่กลับไม่มีเรี่ยวแรงผลักคนตัวใหญ่ให้ออกห่างจากกายสาว ทำไงดีล่ะพริริสา ทำไมไอ้ผู้ชายเอาแต่ใจคนนี่ต้องมามีอิทธิพลเหนือร่างกายของตนเองด้วยนะ

    ไม่พูดเปล่าเจ้าพ่อเหมืองเอื้อมตัว ใช้แขนมาปลดล็อคเบาะรถให้เอนลง พริริสาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เมื่อรู้ว่าตนเองจะไม่รอดเงื้อมือมารร้ายที่หมายจะพรากความสาวของตนเองไป สองมือเล็กระดมแรงกำลังที่เหลือทุบระรัวไปตามอกแกร่งที่ไร้อาภรณ์ของชายหนุ่ม แต่มีหรือราชสีห์หนุ่มจะสะทกสะท้าน กลับทำให้ความเป็นชายฮึกเหิมกว่าเดิมซะอีก

    คุณอย่าทำอะไรบ้าๆนะ นี่มันในรถนะคุณ” พริริสายังทักท้วง เธออยากจะกลั้นใจตายจริงๆ ทำไมเธอต้องมาพบเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย

                “แสดงว่าถ้าไม่ใช่ในรถ เธอจะยอมฉันว่างั้น” คนหน้ามึนที่เอาแต่ได้ยังเย้าแหย่ให้คนตัวเล็กได้อาย เขาโน้มใบหน้าลงมากระซิบข้างๆหูเธออย่างจงใจ แถมมือไม้ก็ไม่อยู่เป็นสุขจับโน้นจับนี่ ตามกายของเธออย่างเอาแต่ใจ พริริสาได้แต่ขืนตัวเอาไว้ แล้วหลับตาปี๋ เมื่อหนวดเคราสัมผัสกับแก้มนวลและลำคอของเธอนั้นช่างหยาบกระด้างยิ่งหนัก

    บ้า.... ที่ไหนก็ไม่ได้ ทั้งแหละ นะคุณอย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันยอมคุณแล้ว คุณจะพาฉันไปบุกน้ำลุยไฟที่ไหนก็ได้ แต่คุณอย่าทำแบบนี้กับฉันเลยนะ” เมื่อใช้ไม้แข็งไม่ได้ พริริสาก็หันมาใช้ไม้อ่อนด้วยการพูดดีๆกับชายหนุ่ม ขอให้ผ่านตรงนี้ไปก่อนเถอะแล้วค่อยหาทางหนี้ที่ไล่กันวันหลัง ดีกว่าเธอต้องมาเสียความสาวที่หวงแหนให้คนที่เธอเพิ่งรู้จักแค่ไม่กี่วัน 

    หึหึ.....ไม่ทันแล้วพริริสา ก็ฉันบอกเธออยู่นี่ไง ว่า...ชายหนุ่ม เหลือบตาลงไปมองเป้ากางเกงของตนเองอีกครั้ง พร้อมกับใช้มือข้างหนึ่ง ลูบไปตามใบหน้าที่ร้อนผ่าวและแดงระเรื่อของพริริสา ก่อนจะไล่ไต่ลงมาตามซอกคอระหงอย่างย่ามใจ ทำไมเธอต้องวาบหวามกับสัมผัสของผู้ชายแปลกหน้าคนนี่นะ

    อะ!! คุณ.... พริริสาร้องทักท้วงเมื่อมือใหญ่........................................................................................................................................................................................................................................................................................

    พริริสาไม่โต้ตอบ กลับเมินหน้าหนีไปทางอื่น ดีดดิ้นไปหรือพูดไปก็ไร้ประโยชน์ก็คนตรงหน้าเธอจงใจจะยั่วโมโหและแทะเล็มเธออย่างโจ่งแจ้งขนาดนี้ ขืนพูดมากไป คงมีแต่เธอเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ดีไม่ดี อีตานี่อาจจะคิดทำอย่างที่พูดจริงก็ได้ เงียบและอยู่เฉยๆเป็นดีที่สุด 

    พริริสา หันมาสบตาฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันไม่อนุญาต ห้ามเธอเมินหนีฉันแบบนี้” สกายแสนขัดใจเมื่อคนตัวเล็กใต้ร่างเมินหน้าหนีไปทางอื่นแถมหลับตาไม่ยอมสบตากับเขาอีก ทั้งๆที่มือใหญ่ยังคาอยู่กับเต้าอวบนั้น แต่เธอดันเมินหนีหน้าเขาไม่สนกับสิ่งที่เขากำลังทำอยู่

                “ไม่ คุณอยากจะทำอะไรก็เชิญ คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย รังแกได้แม้กระทั่งผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้” เธอตอบกลับทั้งทียังเมินหน้าไปทางอื่น น้ำตาเจ้ากรรมที่เพิ่งเหือดแห้งไปกำลังจะกลับมาอีกครั้ง ในใจนึกขอให้เขายอมฟังเธอบ้างเถอะ อย่าทำแบบนี้กับเธออีกเลย

                “ฉันไม่ทำอย่างว่ากับเธอแล้วก็ได้ แต่เธอต้องช่วยฉัน!!! ได้ผลเกินคาด พริริสาแอบลอบยิ้มอยู่ในใจเมื่อได้ฟังสิ่งที่ชายหนุ่มเอ่ยออกมา ทำให้เธอหันหน้ามาสบตากับคนตัวใหญ่ที่ทาบทับอยู่ พร้อมกับเผยรอยยิ้มแห่งความดีใจ ให้คนตัวโตเห็น แม้มันจะแสนยากเย็นกับการต้องยิ้มให้กับคนที่คอยแต่จะเอาเปรียบบนเนื้อตัวของเธอก็ตาม แต่คำว่าเธอต้องช่วยฉัน ก็ทำให้เธอเลิกคิ้วสูงด้วยความสงสัยเช่นกัน เขาต้องการให้เธอช่วยอะไรอีก อีตานี่เรื่องมากซะจริง

                สกายถอนหายใจเฮือกใหญ่ในที่สุดเขาก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ ถึงเขาอยากจะปลดปล่อยเข้าไปในตัวเธอสะเต็มประดา แต่ขึ้นชื่อว่า ราชสีห์ผู้ยิ่งใหญ่ก็ไม่อยากขืนใจใคร โดยที่เจ้าตัวไม่เต็มใจ ถึงแม่คนตัวเล็กนี่ จะโอนอ่อนผ่อนตาม แต่เธอก็ไม่เต็มใจ คนอย่างสกายไม่เคยขืนใจใคร เพียงแค่กระดิกนิ้ว ผู้หญิงก็เรียงหน้าเข้ามาต่อคิวยาวเป็นแถว แล้วทำไมเขาจะต่อแหกกฏตนเอง เพียงเพราะความใคร่ชั่ววูบแบบนี้ 
                “ช่วยคุณ?? ยังไง พริริสาเอียงคอถามคนที่ทาบทับอยู่ด้วยแววตาใสซื่อก็เธอไม่เข้าใจจริงๆนี่นา ว่าเขาหมายความว่าไง ถึงเธอจะไม่อินโนเซ๊น แต่กับสิ่งที่ชายหนุ่มสื่อออกมา เธอก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ไหนบอกว่าจะไม่ทำอะไรเธอแล้ว แล้วทำไมต้องให้เธอช่วยอะไรอีก

                “หึหึ....  ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ ดวงตาเป็นประกาย กับคำถามของคนตัวเล็กที่ดูเหมือนจะไม่เข้าใจกับคำตอบของเขา ก่อนจะพลิกร่างของตนเอง ไปนอนอยู่ใต้ล่างแล้วจับคนตัวเล็กมานอนทับอยู่ด้านบนแทน พร้อมกับแกะเนคไทที่มัดข้อมือเธออยู่ออก จากนั้นก็ถือวิสาสะใช้ปากหยัก หอมไปยังแก้มนวนของคนตัวเล็กเสียงดังจ๊วบ!! จนเธอหน้าหวอ ที่ชายหนุ่มเอาแต่แกล้ง

                “อร๊าย คุณจะทำอะไรอีกเนี๊ย.....

                “ฟังนะพริริสา ตอนนี้เธอก็รู้ว่าว่าฉันกำลังต้องการอะไร แต่เธอก็ให้ฉันไม่ได้ ดังนั้นเธอต้องช่วยฉัน” ชายหนุ่ม เอ่ยเสียงแหบพร่า สองแขนประคองใบหน้าของเธอให้หันมาสบตากับเขา ก่อนจะผงกศีรษะขึ้นมาจูบพิศปากเล็กอีกครั้ง จนเธอเบิกตาโพรง เพราะความตกใจอีกเช่นเคย อีตานี่เอาเปรียบเธอได้ทุกเวลาสินะ

                “คุณ... จะให้ฉันช่วยอะไร” เธอถามออกไปด้วยความไม่พอใจ เมือสกายยังใช้มือลูบไล้ไปตามสะโพกมนของตนเอง 

                “ช่วยทำให้น้องชายของฉันหลับ เพราะตอนนี้มันกำลังตื่นตัว ถ้าเธอไม่ช่วย ฉันจะกินเธอบนรถนี่แหละ” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ แต่สีหน้าจริงจัง จนพริริสาแอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นเมื่อพอจะเข้าใจในสิ่งที่สกาย พยายามสื่อสาร ครั้นจะปฏิเสธเห็นทีว่าจะไม่ทัน เมื่อสองแขนโอบรัดตัวเธอเรียบร้อยไปแล้ว ที่สำคัญแก่นกายของชายหนุ่มกำลังทิ่มอยู่ตามหน้าขาของเธอ จนเธอรู้สึกได้ว่ามันกำลังตื่นตัวอย่างแรง เพื่ออยากจะปลดปล่อยอย่างเต็มที

                “ฉะ...ไม่ทำ ฉันทำไม่เป็น” เธอตอบออกไปตามความเป็นจริง ใบหน้าร้อนผ่าว เพราะความอายและความโกรธ มันตีกันจนเธอเองก็เริ่มแยกแยะไม่ออกแล้ว ว่ากำลังอายหรือโกรธกันแน่ แต่ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้เอ่ยอะไรต่อ สกายก็กดศรีษะของเธอลงมาประกบกับปากร้อนชุ่มของเขาหน้าตาเฉย พริริสาดิ้นขลุกขละอยู่ใต้อ้อมกอดชายหนุ่ม แต่สุดท้ายก็ยอมให้เขา ควานหาของหวานในปากเธออย่างสมใจ โดยไม่ขัดขืนอีก จนเมื่อชายหนุ่มพอใจ เขาจึงถอนริมฝีปากออก และพูดกับเธอ

                 “เธอต้องช่วยฉัน พริริสา ก่อนที่ร่างกายฉันจะอดทนต่อไปไม่ไหว”...............................................................................................................................................................................................................................................................ง

                 

       “คนบ้า ทุเรศ หน้าไม่อาย ฉันเกลียดคุณ เกลียดคุณที่สุดเลย” ในที่สุดพริริสาก็ปล่อยโฮออกมา พร้อมๆกับการใช้กำปั้นเล็กทุบระรัวไปตามแผงหน้าอกของชายหนุ่ม แบบไม่ยั้ง เมื่อความคับแค้นใจมาถึงขีดสุด สกายนั่งนิ่งไม่ปัดป้องให้เธอทุบตีอย่างพอใจ จนคนตัวเล็กเหนื่อยไปเองนั้นแหละ เธอถึงหยุดตีเขา และเมินหน้าหนีไปอีกทาง ไม่อยากเสวนาด้วยอีก เขากำลังทำลายศักดิ์ของเธอลงอย่างไม่มีชิ้นดี

          หันมาได้แล้วพริริสา” สกายเอ่ยขึ้น เมื่อเขาจัดการสวมใส่กางเกงตนเองเรียบร้อยแล้ว

    ลุกขึ้นมานั่งที่ของเธอ เราจะได้กลับบ้านกันสักที” สกายเอ่ยขึ้นอีกครั้ง พร้อมทำสีหน้าจริงจังมากกว่าเดิม

    พริริสา!!! เมื่อคนตัวเล็กยังไม่สนใจที่จะทำตามคราวนี้ สกายถึงกับตะคอกเสียงใส่

    พริริสาหันมาตามเสียงเรียกชื่อของตนเอง เธอกำลังจะอ้าปากร้องว่า แต่ก็ต้องหุบปากลง เพราะหวาดเกรงต่อ สายตาที่สกายส่งมาให้ แล้วรีบสะบัดหน้าหนีหันมองออกไปนอกกระจกรถ พร้อมกระถดออกมาแทบจะชิดขอบประตู เธอชันเข่าขึ้นใช้แขนสองข้างโอบตนเองไว้ หลังจากนี้ชีวิตเธอจะพบเจออะไรอีก ผู้ชายข้างๆเธอตอนนี้เป็นใคร ทำไมต้องเข้ามาข้องเกี่ยวกับชีวิตเธอด้วย คราวนี้เธอรอดเงื้อมือของเขาไปได้ แต่เขาก็ทำให้เธออับอาย เธอต้องอยู่กับผู้ชายคนนี้จริงๆเหรอ ลินลณีจะขายเธอให้เขา แล้วชายหนุ่มตรงหน้า เธอตอนนี้จะเอาเงินที่ไหนมาให้ลินลณีใช้หนี้ตั้งสิบล้านบาท

    ความคิดในสมองกำลังตีกันจนเธอไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงกับชีวิต ในขนาดที่ชายหนุ่มก็ยังขับรถไปตามท้องถนนเพื่อมุ่งหน้าสู่ บ้านอภิเศรษฐกุล ยังมีอีกเรื่องที่เขาต้องรีบจัดการ เกี่ยวกับพันธะสัญญาที่เธอและพี่สาวควรจะรับรู้หลังจากที่ลินลณีรับเงินสิบล้านจากเขาไปแล้ว แล้วก็ยังต้องมีข้อตกลงอะไรบ้างอย่างที่เขาควรจะพูดคุยกับพริริสาให้เข้าใจ แล้วยอมทำตามคำสั่งของเขา โดยที่เธอไม่ทักท้วงหรือต่อต้านอีก เงินสิบล้านมันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม หากต้องเสียไปแล้วได้บางสิ่งกลับมา จนทำให้มารดาสุดที่รักพอใจ แล้วเลิกล้มความคิดที่จะจับเขาแต่งงานในที่สุด.....

     
    บทนี่สกายกับพริมกุ๊กกิ๊กกันในรถ ไม่สิ สกายคนเดียวนางเอก พระเอกแจนคนนี้หื่นแถมหน้าด้านอ่ะ5555
    อ่านบทแบนตรงไหนดีน้อ ในเพจแจนมั้ยใครจะอ่านฉบับไม่แบนตามไปขอที่เพจแล้วกันน้อ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×