ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์วิวาห์เจ้าชายมาเฟีย (พริม สกาย)

    ลำดับตอนที่ #24 : ภัยร้ายใกล้ตัว

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.02K
      1
      16 ก.ย. 58

                                        บทที่ 24  ภัยร้ายใกล้ตัว

    แผ่นหลังขาวเนียน ถูกวางลงบนเตียงกว้างอย่างแผ่วเบา ไม่นานร่างใหญ่ก็ตามมาทาบทับ เขาไม่ได้สนใจว่าคนใต้ร่างจะดิ้นรนขัดขืนแค่ไหน  เมื่อใหญ่ไปรวบเอามือเล็กที่ตะกุยตะกายปัดป้องการลุกรานจากเขา ขึ้นไปรวบไว้อยู่ด้านบนศีรษะแนบกับเตียงกว้าง ก่อนจะซุกไซ้จมูกและริมฝีปากหนา ลงกับซอกคอและไต่มาถึงเนินอกหยุ่นนุ่มนิ่มนั้น

    ไม่ว่าคนใต้ร่างจะผินหน้าเอี้ยวตัวไปทางไหน ดูเหมือนคนที่ กำลังหน้ามึนจะไม่ได้สนใจการต่อต้านนั้นเลยแม้แต่น้อย เขาตามไปหาเศษหาเลยกับเนื้อตัวหญิงสาวแทบจะทุกส่วน จนลืมไปแล้วว่าตนเอง เคยออกปากกว่าจะไม่ยุ่งกับเธออีก

    พริริสาตัวสั่นเทา พยายามเบี่ยงตัวออกจากคนตัวใหญ่ที่กดน้ำหนักมาทาบทับเธอทั้งตัว ไม่ใช่ว่ากลัวชายหนุ่มจะลุกล้ำ ล่วงเกินเธอไม่มากกว่านี้ แต่กลัวสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในตัวเธอจะได้รับการกระทบกระเทือนจากความหื่นห่ามของเขามากกว่า

    พี่กาย.... พริมหนักจำเป็นต้องเอ่ยออกไป เพราะเริ่มรับแรงกดทับไม่ไหว

    สกายเงยหน้าขึ้นมามองคนที่พยายามปฏิเสธความต้องการของตนเองอยู่ อย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก และรู้สึกหนึบๆที่หัวใจ เมื่อหญิงสาวปฏิเสธสัมผัสจากเขา แต่ก็ยอมขยับกายลุกขึ้นจากตัวเธอเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าตนเองถ้าจะลงน้ำหนักมากเกินไป

    เป็นอะไร ทำไมต้องหนี”  คนหน้ามึนถามเสียงแหบแห้ง ภายในใจกำลังโต้เถียงกัน เรื่องความต้องการของตนเอง ถ้าวันนี้เขาไม่ได้รักพริริสา ร่างกายคงต้องแตกหักไม่แน่ๆ เพราะตั้งแต่เช้าสมองและหัวใจก็รวมตัวกันเรียกร้องหาแต่กลิ่นกายหอมๆของเธอ ไม่ว่าจะพยายามยับยั้งชั่งใจแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ไปคว้าเอาเธอเข้ามาบนห้องนอนจนได้

    พริริสาไม่ตอบ พลันหลบสายตาคู่นั้น ด้วยการเอียงคอหนี ถามออกมาได้เป็นอะไร ก็ดูเขาทำเธอสิ อดอยากบอกแห้งมากเลยหรือยังไง ถึงได้ตระกะตระกามกับเธอแบบนี้ แถมยังทำอะไรประเจิดประเจ่อ ต่อหน้าลูกน้องตนเองอีก

     “ฉันถาม ทำไมไม่ตอบพริริสา”  ใช้มือหนาจับคางมน ของเธอให้หันสบตากับดวงตาคู่คมของเขา  

    ไม่เอาน่ะ ฉันง้อใครไม่เป็นนะเมื่อเห็นว่าเธอไม่ยอมสบตาแถม ยังแสร้งมองเลยไปอีก คนที่เพิ่งรู้ใจตัวเองก็พูดต่อทันที

    พริริสาเม้มปากตนเองไว้แน่น เมื่อได้ยินว่าง้อไม่เป็นจากชายหนุ่ม แม้จะไม่จริงจังก็ตามเหอะ แต่เธอก็พอจะเข้าใจว่าชายหนุ่มกำลังพยายามทำให้เธอยอมคุยด้วย เธอแอบลอบยิ้ม อย่างน้อยเขาก็ไม่ใจร้ายใจดำกับเธอไปซะทุกเรื่อง

        “ยิ้มอะไร พริริสาแต่คนที่แอบลอบยิ้มก็ไม่สามารถหลุดพ้นต่อสายตาคมคู่นั้นของเขาได้

    ปะ.... เปล่าค่ะพริริสาทำหน้าไม่ถูกเมื่อถูกจับได้ พร้อมทำหน้าเฉไฉ กำลังหาทางเอาตัวรอดจากคนหื่นกาม ขืนให้ทำอะไรในขนาดที่ท้องอ่อนๆแบบนี้เธอเกรงจะไม่ปลอดภัยกับลูกในท้องเธอสิ

    ก็ฉันเห็นอยู่ว่าเธอ แอบยิ้มชายหนุ่มยังไม่ยอมลดละ คาดขั้นเอาให้ถึงที่สุด

    พริริสาหันมาสบตากับชายหนุ่ม เหมือนจะสื่อให้เขารับรู้ว่าเธอแอบลอบยิ้มเพราะอะไร ตาคู่สวยกับตาคู่คม สอดประสานกันเหมือนจะสื่อความในใจ ที่มีเพียงแค่เขาและเธอเท่านั้นที่รู้ หญิงสาวใจเต้นระรัว เมื่อตาคู่คมมองเธออย่างสื่อความหมาย ความน้อยอกน้อยใจที่มีมานานนับเดือน เหมือนมันจะปลิวหายไปกับสายลม ที่ปลิวว่อนอยู่ด้านนอก

    ไม่ต่างกันกับชายหนุ่มเลยสักนิด เขาหาคำตอบให้กับตนเองไม่ได้ว่า ทำไม ถึงต้องการเธอมากมายถึงเพียงนี้ เวลาหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา ที่พยายามใจแข็งไม่ยอมญาติดีกับเธอ มันพังคลื่นลงอย่างไม่มีชิ้นดี ทำไมวันนี้หัวใจเขาถึงเรียกร้องหาแต่เธอ เพียงแค่ได้แนบชิดอิงแอบ และสูดดมกลิ่นหอมๆ จากกายสาว อาการแปลกๆที่เกิดขึ้นก็หายไปในพริบตา

    พี่กายลุกขึ้นก่อนได้มั้ยคะ พริมหายใจไม่ออกคนตัวเล็กเอ่ยขึ้น เพื่อทำลายความเงียบ และเรียกสติตนเองให้กลับมา เพราะถ้าช้าไปกว่านี้ เธอคงไม่รอดเงื้อมือความหื่นอย่างเขา

    สกายยอมเบี่ยงตัวลงมานอนตะแคงแล้วใช้ข้อศอกเท้ากับเตียงนุ่ม มองดูคนที่กำลังขยับตัวออกห่าง ใครบอกละว่าเขาจะยอมปล่อยเธอไม่ง่ายๆ แค่ทำให้ตายใจต่างหาก

    หญิงสาวแอบแปลกใจอยู่เล็กน้อยที่คราวนี้ ชายหนุ่มยอมเชื่อฟังและยอมลงจากตัวเธอได้ง่ายๆ แต่เธอก็แปลกใจอยู่ได้มั้ยนาน เมื่อเธอกำลังจะขยับลุกนั่ง แต่พ่อตัวดีก็ดันรั้งเธอแล้วกอดจากด้านหลังทันที

    อื้อ....พี่กาย .....ปล่อยค่ะ

    คนหื่นห่ามทำหูหวนลม ใช้ปลายจมูกกดลงไปแรงๆบริเวณกลางหลัง จนคนที่ร้องทักทวงเกิดอาการขนลุกซู่ เพราะความเสียวซ่าน ไม่คิดว่าเขาจะมาไม้นี้กับเธอ คนเจ้าเล่ห์ได้ที ใช้ปลายจมูกคมสัน ไต่ขึ้นไปถึงหัวไหล่ ก่อนจะใช้สองมือปลดตะขอบารเซียตัวจิ๋วออก แล้วเอื้อมแขนไปเกาะกุมปทุมถันคู่งามที่อยู่ด้านหน้าอย่างย่ามใจ

    พริริสาห่อตัวหนี สัมผัสวาบหวามนั้น เห็นทีคราวนี้เธอคงจะหนีไม่รอดแน่ๆ แต่จะทำยังไงให้เขาไม่รุนแรงกับเธอ ครั้นจะปากว่าเธอท้อง เขาคงไม่เชื่อยิ่งไปกว่านั้นเขาอาจจะมองว่าเธอกำลังเรียกร้องความสนใจอยู่ก็ได้

    ลำแขนใหญ่กำยำโอบรัดพริริสาไว้จากด้านหลัง ก่อนจะค่อยๆจับเธอหันมาแล้วซุกใบหน้าลงไปกับซอกคอขาวอีกครั้ง คนที่ห่างเหินจากความรู้สึกแบบนี้ไปหลายอาทิตย์ ขนลุกซู่เพราะความเสียวซ่าน ใจหนึ่งก็อยากผลักไส ใจหนึ่งก็อยากดึงรั้งมาแนบชิด สัมผัสที่กำลังทำให้สติของเธอกระเจิดกระเจิง

    ฝามือใหญ่ลูบไล้ขึ้นลงอยู่ลงแผ่นหลัง ยิ่งได้สัมผัสเนื้อเนียน ยิ่งทำให้คนหื่นห่ามหลงใหล ไม่มีสักครั้งที่เขาจะรู้เบื่อหน่าย เมื่อได้สัมผัสแตะต้องกายสาว กลิ่นหอมของผิวกาย ทำให้คนที่หน้ามึนอยู่แล้วเพิ่มความต้องการ เพิ่มขึ้นเป็นทวีคุณ ไม่ว่าจะจูบซับไปตรงไหน เนื้อกายของพริริสาก็หอมยั่วยวน จนคนที่ปฏิเสธใจตัวเองนานหลายอาทิตย์สั่นไหว แล้วอย่างนี้เขาจะจากเธอไปได้ยังไง เมื่อแน่ใจว่าเขาไม่ได้แค่ต้องการแค่ร่างกายของเธอเพียงอย่างเดียว หากแต่เขาอยากครอบครองเธอทั้งตัวและหัวใจ

     ริมฝีปากร้อนจูบซับไปทั่วกาย จากซอกคอขาวถึงเนินอกอวบ ปลายลิ้นร้อนตวัดเลียยอดดอกบัวตูม ที่เต่งตึงรับสัมผัส อย่างไม่กระดากอาย ฝามือหนาฟอนเฟ้นเค้นคลึงดอกบัวคู่งามที่นอนอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง ให้ได้ยินเสียงครางหวานๆออกมา ชายหนุ่มเงยหน้าเหลือบเปลือกตามองคนที่พยายามระงับ อารมณ์ความต้องการของตนเองอยู่แล้วต้องอมยิ้ม ก่อนจะว่างร่างบางลงไปกับเตียงกว้างอีกครั้ง

    พริริสาเหมือนวิญญาณจะหลุดออกจากร่าง ริมฝีปากร้อนชุ่มโลมเลียไปทั่วร่าง ร่างเปลือยเปล่าบิดเร้ากาย เคล้าเสียงคางหวาน คงอยากที่จะปฏิเสธ ว่าร่างกายเธอก็ต้องการเขาไม่ต่างกัน แม้จะย้ำกับหัวใจว่าอย่าให้เขาได้รังเกอีก แต่เมื่อร่างกายถูกปลุกเร้าจากสัมผัสที่อ่อนโยน มันก็โอนอ่อนผ่อนตามไปกับหัวใจที่เรียกร้อง

      พี่กาย.......... เสียงครางหวานดังก้องขึ้นอีกครั้ง เมื่อปลายลิ้นร้อน ชอกชอนอยู่ตรงแอ่งน้ำหวาน

    เมื่อเห็นร่างแน่งน้อย กระตุกวาบ คนหื่นห่าม เงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าหวานที่แดงระเรือ เจ้าพ่อเหมืองไม่รอช้า จูบซับที่หน้าขาไต่ขึ้นมาทั้งหน้าท้อง สองมือหน้าลูบไล้ฟอนเฟ้นไปทั่วสะโพกมน ก่อนจะชอนไซมาถึงบนอกอวบ ปลายลิ้นตวัดหยอกล้อกับปลายปทุมถันอีกรอบ  ฝามือหนาวางทาบทับเขี่ยยอดบัวตูมอีกหน ก่อนจะเลือนขึ้นมาลิ้มลองโพรงปากหวานสีแดงระเรื่อนั้น

    ร่างเล็กบิดเร้าเพราะความเสียวกระสัน บทรักเพิ่งเริ่มต้น และคนตัวเล็กก็อ่อนยวบยาบ ไม่ว่าจะเอี้ยวตัวผินหน้าไปทิศทางใด เจ้าพ่อเหมืองก็ตามไปโลมเลียจนพอใจ ริมฝีปากเล็กเผยอขึ้นเล็กน้อย รับสัมผัสอ่อนหวานละมุนละไมจากชายหนุ่ม ความไม่ประสาเรียกเสียงร้องคำรามในลำคอชายหนุ่มได้เป็นอย่างดี ก่อนจะตามมาด้วย การจูบซับหนักๆอีกหลายรอบ จนริมฝีปากเล็กบวมเจ่อเพราะรสรัก

    ท่อนแขนใหญ่เอื้อมไปจับขาเล็กให้แยกออก ก่อนจะสอดกายแกร่งนั้นเข้าหา พริริสาขยับกายหนีเล็กน้อย เมื่อความแข็งแกร่งสัมผัสกับทางรัก แม้จะกลัวความรุนแรงจากชายหนุ่ม แต่จิตใจก็เตลิดไปไกลจะเรียกกลับ สองขาเรียวแยกออกตามแรงจับของมือหนา ริมฝีปากร้อนยังชอกชอนควานหาน้ำหวานจากริมฝีบาง กว่าจะรู้ตัวร่างกายก็ผสานเป็นหนึ่งเดียว

    พริริสานิ่วหน้าด้วยความเจ็บ แม้จะเคยผ่านศึกรักกับเจ้าพ่อเหมืองมาแล้วหลายหน แต่ทางรักก็ยังคับแคบเหมือนเล่นกล คนหื่นห่ามก็ไม่ได้มีหน้าตาที่ต่างกัน  ใบหน้าคมซุกลงกับอกอวบอีกครั้ง สองมือหนายกมา สอดประสานกับนิ้วเรียว เหนือศีรษะ เสียงกระซิบแหบพร่าข้างใบหู ทำให้คนตัวเล็กที่นอนเกร็งใจชื้นขึ้นมาเล็กน้อย

    พริม...อย่าเกร็ง  พี่สัญญา จะไม่รุนแรงสิ้นเสียงพูด กายแกร่งก็สอดใส่เข้าไปจนสุดทางรัก พร้อมทั้งการขยับกายเป็นท่วงทำนอง ไม่เร่งเร้า ไม่หื่นหาม มีแต่อ่อนโยน และอ่อนหวาน บทเพลงรักขับกล่อมคนสองคนท่องไปยังแดนทรวงสวรรค์ ครั้งแล้วครั้งเล่า เสียงแหบแห้ง เคล้าคลอกับเสียงครางหวานสลับกันไปมา คงจะปฏิเสธหัวใจตนเองไม่ได้อีกแล้ว ว่ารัก รักจนไม่มีข้อยกเว้น แต่จะบอกเธออกไปได้ยังไง ในเมื่อหัวใจสั่งให้รัก แต่สมองกลับจำแต่สิ่งร้ายๆที่ผ่านมา

    พริริสาตื่นขึ้นมาในบ่ายคล้อย ร่างกายเมื่อยขบเพราะฤทธิ์รักยังไม่จางหาย มองสะท้อนกายในกระจกที่โปร่งแสง ก็พลันใบหน้าแดงซ่าน เพราะความอาย เมื่อเนื้อตัวเปลือยเปล่า แถมมีรอยแดงเป็นจ้ำๆ รอบกายสาว เธอขยับกายลุกขึ้นเพื่อจะเข้าไปจัดการตนเองในห้องน้ำ แต่ยังไม่ทันได้ลุก แขนใหญ่กำยำก็มารั้งเอาเอวขวดให้แนบชิดอีกหน พร้อมเสียงแหบพร่าทีเอ่ยถาม

                 “จะไปไหนเจ้าพ่อเหมืองเอ่ยถาม พร้อมขยับกายลุกขึ้นบดริมฝีปากลงไปกับต้นแขนของเธอเบาๆ

    บ่ายแล้วค่ะ พริมจะเตรียมตัวออกไปทานข้าวกับพี่ลินพริริสาว่า พร้อมแกะมือที่กำลังแปลงร่างเป็นหนวดปลาหมึก ไต่เต้าและเริ่มลูบไล้เนื้อตัวเธออีกครั้ง คนบ้าอะไรหื่นได้ทุกเวลา แถมพอยอมคุยกับเธอ ก็ทำตัวอย่างกับเด็กสามขวบอ้อนเป็นลุกหมาเลย เธออย่างจะถามยิ่งนัก ผู้ชายขี้เก็กปากร้าย วางท่าคนนั้นหายไปไหน บทจะดีก็ดีจนใจหาย บทจะร้ายก็ร้ายจนเธอใจสั่น แล้วนี้ไม่รู้ไปกินอะไรผิดสำแดงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ถึงยอมมาดีกับเธอได้ง่ายๆ

    ใครบอกว่า ฉันจะให้เธอไปคนพูดขยับกายลุกนั่ง แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยคนตัวเล็กให้เป็นอิสระ 

    พริริสาหันมาส่งสายตาค้อนให้ เหมือนจะต่อว่าอยู่กลายๆ ก่อนจะสะบัดหน้าหันกลับไปตามเดิม อะไรกันก่อนพาเธอขึ้นห้องยังบอกอยู่ป่าวๆ ว่าให้ลินลณีมารับเธอตอนเย็น

    เอาจริงๆ นะพริริสา เธอไม่ตะขีดตะข่วงใจ เลยหรือไงที่ลินลณี อยู่ๆก็มาชวนเธอออกไปข้างนอก”  ชายหนุ่มถาม พร้อมรั้งคนตัวเล็กให้ขึ้นมานั่งบนตัก โดยให้หลังเธอเอนพิงมาทางอกกำยำของเขา ก่อนจะใช้คางสากกดหัวไหล่เธอไว้

    ก็มีบ้างค่ะ แต่คงไม่มีอะไรหรอกมั้งคะ พี่ลินเธอคงตั้งใจมาขอโทษจริงๆพริริสา เอียงคอนิดหนึ่งแล้วตอบคำถามชายหนุ่ม

    แต่ฉันไม่เชื่อว่า ว่าคนอย่างพี่สาวเธอจะยอมมาขอโทษอะไรง่ายๆแบบนี้โดยที่ไม่มีอะไรแอบแผงสกายบอก พร้อมๆกับมือปลาหมึกที่กำลังเลื้อยไปมาอยู่แถวหน้าท้องบานราบของเธอ

                   “พี่คิดมากไป หรือเปล่าค่ะ

    หรือเธอว่าไม่จริงละ

    พี่ลินเธออาจรู้สึกผิด  จริงๆก็ได้นี่คะ”  คนโลกสวย ยังเถียงแทนพี่สาวนอกไส้

    ตกลงเธอจะไป จริงๆใช่ไหม”  ชายหนุ่มถามเสียงเรียบ ไม่ได้บ่งบอกอารมณ์ใดๆออกมา นอกจากนั้นมือก็ยังเริ่มไต้ขึ้นมาเฟ้อฟอนอยู่แถวทรวงอก

    พริริสาจำคำถามนี้ได้ขึ้นใจ ตอนที่เธอขออนุญาตไปพบเพื่อน เขาโกรธเธอแทบตาย และเรื่องราวก็เลวร้ายกว่าที่เธอคิดไว้อีก ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เขาก็เพิ่งจะยอมมาคุยกับเธอ ถ้าขืนเธอยังรั้งบอกจะไป เธอไม่อยากคิดเลย ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก

       “ถ้าพี่ไม่อยากให้ไป พริมไม่ไปก็ได้ค่ะเธอว่าและต้องรู้สึกขัดใจ เมื่อมือหนาไม่ยอมอยู่เป็นสูข คอยแต่จะบี้คลึงเนื้อตัวเธออยู่แบบนี้ แล้วไอ้กายแกร่ง ที่มันร่ำๆจะแข็งขันก็เริ่มทิ่มต่ำอยู่ข้างหลังเธออีกแล้ว อย่าบอกนะว่าเขายังไม่พออีก แค่นี้เธอก็ไม่มีแรงจะลุกไม่ไหนอยู่แล้ว

    ทำไมคราวนี้ ถึงยอมง่ายหนักล่ะ หือคนตัวโตถามเสียงอ่อน

    พริม..... พริมกลัวพี่จะไม่พอใจอีก”  เธอก้มหน้าก้มตาตอบ คนที่หยุดมือหนาไว้อยู่ที่ยอดปทุมถันคู่งามนั้น ก่อนจะขยับกายเบี่ยงตัวหันหน้าเข้ามาชายหนุ่ม 

    พี่กำลังเข้าใจพริมผิดเรื่องวริช จู่ๆคนตัวเล็กก็เอ่ยขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย

    สกายขมวดคิ้ว เข้าหากันเล็กน้อย พร้อมใช้สายตาคมเพ่งมองเธออย่างต้องการคำตอบ อาการแปลบๆที่หัวใจกลับมาอีกครั้ง เมื่อหญิงสาวเอ่ยถึงชื่อใครอีกคน ที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าเขา หรือมากกว่าเขาด้วยซ้ำ

      ตรงไหนที่เธอว่าฉันเข้าใจ ก็สิ่งที่ฉันเห็นมันคือหลักฐานมัดตัวเธอ

    ทุกตรงคนตัวเล็กตอบกลับด้วยไม่ต้องคิด

    งั้นก็เล่ามาฉันรอฟังอยู่คนเจ้าเล่ห์ได้ที  รั้งร่างเล็กให้หันมาเผชิญหน้าอย่างเต็มตัว แต่ก็ยังให้นั่งอยู่บนตัก ใช้มือสองข้างจับแขนพริริสาให้มาพาดไขว้กันอยู่ตรงลำคอของเขา  จากนั้นก็ใช้สองมือเลื่อนลงมาบีบคลึงอยู่ตรงสะโพกมน แล้วใบหน้าก็ซุกไซ้อยู่กับหน้าอกหน้าใจอกของเธออย่างถือสิทธิ์

    เล่ามาสิเมื่อเห็นว่าคนบนตักยังนั่งนิ่ง ไม่พุดไม่จา ไม่ส่งเสียงร้อง ทั้งทีเขาก็อุตส่าห์ปลุกเร้าอารมณ์เธอถึงขนาดนี้ แต่แม่ตัวดีก็เล่นเก็บอารมณ์ไม่ยอมร่วมด้วยช่วยกันกับเขา เก็บอารมณ์เก่งแบบนี้เดี๋ยวพ่อจะทำให้ครางจนเสียงสั่นเลยคอยดู สกายคิดคาดโทษแม่ตัวดีอยู่ในใจ ก่อนจะหันไปสนใจกับอกอวบต่อ

    พริริสาได้แต่กัดปากล่างไว้แน่น จะให้เธอเล่าให้ฟังแล้วตนเองก็เศษหาเลยกับเนื้อตัวเธอแบบนี้ เนี๊ยนะ ให้เล่าทั้งวันคงจะเล่าจบหรอกนะถ้าเป็นแบบนี้

    พี่กายก็อยู่นิ่งๆสิคะเธอลองเอ่ยขอดู แต่มีหรือจะได้ผล เมื่อกายแกร่งเบียดเสียดอยู่แถวต้นขาเธอนั้นมันชักจะใหญ่โต และแข็งขันอย่างเต็มที  

    ฉันไม่ได้ปิดปากเธอสักหน่อย ทำไมจะเล่าไม่ได้ หรือจะให้ปิดสกายว่า พร้อมทำท่าจะเงยหน้าขึ้นมาจะจูบพิศริมฝีปากบาง จนคนที่นั่งหน้าแดงอยู่เพราะความเขินอาย นั้นต้องใช้มือปัดป้องใบหน้าเขาทิ้งอย่างสับแปะสับปะ

    อื้อ... พี่กาย จะให้พริมเล่ายังไงละคะ พี่เล่นหื่นกับพริมแบบนี้

     ”ตกลงจะเล่าไม่เล่า ถ้าไม่เล่า เย็นนี้ก็ไม่ต้องออกไปทานข้าวกับลินลณี”  คนเจ้าเล่ห์พูดขึ้นอย่าง  ผู้กุมชัยชนะ  สองไม้สองมือก็เริ่มปลุกเร้าพริริสาให้รุนแรงขึ้น ทั้งบีบทั้งนวด เค้นคลึงจนเนื้อตัวเริ่มแดงซ่าน แถมปากร้อนๆก็เริ่มโลมเลียอยู่ที่ยอดดอกบัวตูม

    อ๊ะ!! พี่กาย อื้อ... พริม  อื้อ... ยุด..หยุด ก่ ก่อน ได้ไหมคะพริริสาเอ่ยเสียงสั่น เมื่อเจ้าพ่อเหมืองเริ่มการปลุกเร้าอย่างหนัก ขาสองข้างของเธอถูกแยกออกจากกันตอนไหนเธอก็ยังไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ว่าโดนเจ้าพ่อเหมืองคิดไม่ซื่อ ขาสองข้างก็ถูกแยกกันออก แล้ววางพาดไปกับต้นขาของเขาเรียบร้อยแล้ว

                 “หยุดไม่ได้แล้วเมียจ๋าถ้อยคำที่แปลกหูถูกเอ่ยขึ้นจากปากหยัก จนพริริสารู้สึกจักจี้กับถ้อยคำแหบพร่านั้น

    ว่าไง พี่ให้เวลาอีกสิบนาที ตกลงจะบอกไม่บอกชายหนุ่มเงยหน้าผละออกจากปทุมถันคู่งามแล้วเหลือบเปลือกตาขึ้นมองคนที่หน้าแดงราวมะเขือเทศสุกด้วยสายตาเจ้าเล่ห์

    บ่ บอกแล้วคะ อื้อ... อย่าดึงสิคะ พริมเจ็บเอ่ย ทักท้วงเมือชายหนุ่มใช้อุ้งปากดูดดึงยอดดอกบัวตูม  “พะ.. พริมกับ ว..ริช ราว..เราไม่ได้มีอะไร อย่างที่พี่เห็นกว่าคนตัวเล็กจะเอ่ยออกมาได้แต่ละคำแสนลำบาก ไม่ใช่เพราะคิดหาคำพูดมาบอกกล่าวไม่ได้ แต่แรงปลุกเร้าที่คลอเคลียฟอนเฟ้นอยู่ตามเนื้อตัวต่างหาก   ที่ทำให้เธอพูดติดๆขัดๆ กลัวเสียงที่บอกเล่าจะกลับกายเป็นเสียงครวญครางแทนนะสิ

    วะ วริชกับพริม มะ...ไม่ได้ อื้อ... พี่กายบอกว่าอย่าดึงคนสติเริ่มกระเจิงออกแรงผลักศีรษะคนหน้าหื่น   “มา.. มัน.. มะ..ไม่ได้มี อะ... อะไรอย่างที่พี่คิด อร๊าย... พี่กาย เบาๆสิคะพริริสาหลุดปากอวดครวญเมื่อชายหนุ่มสอดกายแกร่งเข้าไปจนมิดด้าม แล้วขยับกายยกสะโพกมนเธอกระแทกรับอย่างเต็มที

      “อื้อ... พริมไม่เล่าแล้วในที่สุดพริริสาก็หมดความอดทน คนบ้าอะไรจะหื่นได้ทุกชั่วโมงยาม จะให้เธอบอกเล่าเรื่องราวให้ได้รับรู้ แต่ตนเองกลับมาหาเศษหาเลยกับเนื้อตัวแบบนี้ เธอคงจะมีอารมณ์เล่าหรอกนะ

        “ไม่เล่าก็ไม่ต้องเล่า ไม่อยากฟังแล้ว ทำอย่างอื่นสนุกกว่าตั้งเยอะ”  ว่าแล้ว ร่างพริริสาก็ลอยหวือขึ้นเล็กน้อยก่อนจะตามมาด้วยเรียกเนื้อกระทบเนื้อตามมาติด หลายครั้ง

     “พะ.. พี่กายเบาๆค่ะ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตนเองไม่ได้ตัวเปล่าเล่าเปลือย เธอก็ทักท้วงอีกครั้ง คนกำลังเคลิบเคลิ้มกับรสรักหยุดชะงักลงเล็กน้อย นึกแปลกใจอยู่เหมือนกันที่ครั้งนี้ เธอพยายามบอกให้เขาลดความรุนแรงลง และมีอาการเกร็งตลอดเวลาตอนร่วมรัก เขาเก็บความสงสัยไว้ในใจ ยังไงคืนนี้ก็ต้องสอบถามเธอให้ได้ ก่อนจะสลัดความคิดตนเองออกแล้ว หันกลับมาสนใจบทรักอีกครั้ง

    จากบ่ายคล้อย จนถึงตะวันลาลับขอบฟ้า วันนี้สกายกินพริริสาแทนข้าว ไอ้อาการแปลกๆก็หายไป จนเป็นปกติ เมื่อมองดูนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังบอกเวลาหกโมงเย็น สกายจึงลุกขึ้น และตัดสินใจอุ้มร่างเล็กที่หมดเรี่ยวแรง ไม่มีแม้แต่แรงยืน หายเข้าไปในห้องน้ำ แต่กว่าจะออกมาจากห้องน้ำได้ ก็ร่วมชั่วโมง พริริสาแทบหมดแรงเดิน แล้วอย่างนี้เธอจะออกไปทานข้าวกับลินลณีได้ยังไง ก็ชายหนุ่มเล่นสูบเลือดสูบเนื้อ เธอออกไปหมดร่างแบบนี้

       “เอาชุดนี่แหละค่ะ”   พริริสาว่า เมื่อชายหนุ่มหยิบเสื้อผ้าจากตู้มาให้เธอเลือก

    เสื้อแขนกุดคอเต่า ที่ปกปิดลำคอยาวระหงจนมิด พร้อมชุดประโปรงขาสั้นเลยเข่ามาเล็กน้อย คือชุดที่เธอเลือกใส่ไปทานข้าวเย็นกับลินลณีในครั้งนี้ ขืนใส่เสื้อเปลือยคอไป มีหวังชาวบ้านชาวช่องได้แห่แหนกัน เอาไปซุบซิบจนสนุกปาก ก็ดูชายหนุ่มทำเธอสิไม่มีส่วนไหนเลยที่ไม่แดงซ้ำ บ้ากาม หื่นห่ามได้ทุกที

                   แค่สี่ทุ่มนะพริริสา พี่จะให้ไอ้ย้อยตามไปด้วยเขาว่าเมื่อเดินประคองเธอลงมาจากบันไดบ้าน

       ค่ะ แล้วพริมจะรีบกลับ พี่กายไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เธอหันมาส่งยิ้ม ให้ชายหนุ่มอีกครั้งด้วยหัวใจพองโต เธอจะไม่ทำให้เขาโกรธอีก หลังจากกลับมา เธอจะบอกเรื่องลูกให้เขาได้รับรู้  ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องรับแขก โดยที่มีชายหนุ่มเดินประคองไม่ห่าง เพราะดูเหมือนแม่ตัวดีของเขาจะเดินเซ  ผลจากความหื่นห่ามของตัวเขาเอง

    เมื่อมาถึงห้องรับแขกก็พบว่า ลินลณีมารออยู่แล้ว เธอมองพริริสาด้วยสายตาริษยา เมื่อเห็นสกาย ประคบประงม ดังไข่ในหิน จะอะไรกันหนักหนา กับแค่มารับไปทานข้าว ถึงกับต้องเดินประคองกันมาส่ง ก่อนจะปรับเปลี่ยนสีหน้าให้ดูยิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อพริริสาเดินเข้ามาใกล้

    พี่ลิน มารอนานหรือยังค่ะพริริสาถามขึ้น

    เปล่าจ๊ะ พี่เพิ่งมาถึง เราไปกันเถอะพี่หิวแล้ว ลิลลี่ขอตัวน้องสาวนะคะคุณสกาย แล้วสี่ทุ่มจะรีบเอามาส่งคืนให้

    ผมหวังว่าคุณจะตรงต่อเวลานะ ชายหนุ่มเอ่ยเสียงราบเรียบสีหน้าหงุดหงิด

    ค่ะ คุณสกายไม่ต้องเป็นห่วงลินลณีปั้นยิ้มขึ้นอีกครั้ง ทั้งที่ในใจเธอกำลังลุกเป็นไฟ เพราะแรงริษยา

    พริริสาหันมาส่งยิ้มให้สกายอีกครั้ง ก่อนจะเดินตามลินลณีที่เดินเข้ามาจูงมือเธอออกไป  อยู่ๆหัวใจก็สั่นไหวแปลกๆ เธอเหลียวหลังหันกลับมามองใบหน้าเรียบเฉยของเจ้าพ่อเหมืองอีกครั้ง

    สกายรู้สึกเป็นห่วงพริริสาอย่างบอกไม่ถูก ทำไมอยู่ๆในหัวใจก็โหวงเหวง เหมือนมันมีลางบอกเหตุอะไรสักอย่างจะเกิดขึ้นกับพริริสา เขาก้าวเท้าหนักๆ เดินกลับเข้าไปหลังบ้าน  เพื่อไปหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ เขาคงนอนไม่หลับ หากคืนนี้ไม่ตามพริริสาออกไป

    ลินลณียิ้มกระหยิ่มอยู่ในใจ อะไรจะง่ายดายปานนี้  หลังจากนี้ก็แค่รอเวลาและคนของเธอจัดการเท่านั้น ดวงตาคู่สวยมองผ่านกระจกมองหลังรถ ที่รถพริริสากำลังขับเคลื่อนตามออกมาอย่างมาดร้าย หัวใจเต้นแรงราวรถไฟเหาะ เมื่อนึกถึงแผนการตนเองนับจากนี้ ปากหยักได้รูปเหยียดยิ้มเยาะออกมาอย่างกับปีศาจ ก่อนจะเร่งความเร็วรถเพื่อที่จะได้ถึงที่หมายโดยเร็ว

         รถญี่ปุ่นคันเล็ก จอดเทียบท่ากับรถญี่ปุ่นคันโตของพริริสา ในร้านอาหารชื่อดังกึ่งผับกึ่งบาร์ พริริสามองสำรวจออกไปรอบๆร้าน บรรยายอึมครึมแม้จะมีผู้คนหลายคนเดินขวักไขว่อยู่รอบๆ แต่เพราะแสงไปที่สลัว พวกกับบรรยากาศ ร้านที่ออกไปกึ่งผับบาร์ ทำให้เธอไม่ค่อยอยากจะลงจากรถสักเท่าไหร่

    เสียงเคาะกระจกรถดังขึ้น พร้อมทั้งร่างสุงโปร่งของลินลณีกำลังยืนฉีกยิ้มหวานให้  ลงมาสิจ๊ะยัยพริม  ที่นี่ไง ที่พี่จะพาเธอมาพบกับความสูขลินลณีเหยียดปากพูด   ก่อนจะถือวิสาสะ เปิดประตูรถแล้วดึงเธอลงมา

     “เมื่อกี้พี่ลิน ว่าใครจะมาพบความสูขนะคะพริริสาแถมอย่างไม่ค่อยแน่ใจนักเพราะเมื่อสักครู่เธอได้ยินสิ่งที่ลินลณีพูดไม่ค่อยถนัด

    ออ..เปล่าจ๊ะ พี่ว่าเราจะได้มีความสูขกันเสียที รีบเข้าไปในร้านเถอะพี่หิวแล้วหล่อนว่า

    เดี๋ยวค่ะพี่ลิน พริมขออนุญาตพาพี่ยอร์ทเข้าไปด้วยได้ไหมค่ะ” 

    ลินลณีหันไปมองหน้าคนขับรถของพริริสา เด็กหนุ่มก็หันมายิ้มหน้าทะเล้นใส่ ประหนึ่งจะบอกหล่อนว่า เขาพร้อมที่จะลุยราตรีคืนนี้แล้ว แต่พ่อคุณก็ต้องหุบยิ้มลงแทบจะทันที เมื่อลินลณีไม่ให้ตามไปด้วย แถบแหนบแนมกลับมาอีก

    ไม่! รออยู่ที่รถนี่แหละ ฉันไม่ชอบร่วมโต๊ะ กับพวกขี้ข้า หรือถ้ารอไม่ได้ก็กลับบ้านไปซะ ส่วนยัยพริม ฉันพาไปส่งเองได้!.น้ำเสียงที่เปล่งออกมาเข้มข้น จัดจ้านและชัดถ้อยชัดคำ จนพริริสาเองก็คาดไม่ถึง

     “ไป ยัยพริม ฉันหิวแล้วก่อนจะหันมาดึงแขนพริริสาให้เดินตามเข้าไป จนเกือบเก็บอาการเกรี้ยวกราดนั้นไว้ไม่มิตร พริริสาเองก็ไม่เข้าใจนักว่าทำไมลินลณีจึงมีน้ำเสียงหงุดหงิดเช่นนี้ ก่อนจะหันกลับไปมองเด็กหนุ่ม และส่งยิ้มแห้งๆกลับไปให้ นึกขอโทษขอโพยเขาอยู่ในใจ

    พริริสาถูกลินลณีกึ่งลากกึ่งจูงเข้ามาในร้านแล้ว ลินลณีพาเธอมานั่งยังโต๊ะที่มีอาหารและเครื่องดื่มพร้อมอยู่แล้ว เธอรู้สึกหวั่นๆในใจแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพราะหลังจากที่ลินลณีพาเธอเข้ามาในร้าน เธอก็รู้สึกว่า สีหน้าและดวงตาของลินลณีมีแววเปลี่ยน ไม่เหมือนตอนเช้าที่หล่อนเข้าไปหาเธอที่บ้าน

    มีลินมีอะไรหรือเปล่าคะเธอเอ่ยถามเมื่อเห็นลินลณีชะเง้อคอ มองหาอะไรหรือใคร สักคนในร้านที่ค่อนข้างมีแสงสลัว พริริสาไม่ชอบสถานที่แบบนี้ ยิ่งแสงไฟวูบวาบที่ส่องกระทบม่านตา มันคอยจะทำให้เธอมองอะไรไม่ชัด

    ไม่มีอะไร ทานสิ พี่สั่งมาให้เธอโดยเฉพาะเลยนะ เห็นว่าไม่เคยเข้ามาในร้านแบบนี้ พี่เลยอยากพาเธอมาเปิดหูเปิดตาน้ำเสียงราบเรียบจนน่าขนลุก พริริสารู้สึกแบบนั้นจริงๆ

    พี่ลินไม่ทานด้วยกันเหรอค่ะ

     กะ..แก... พริมทานไปก่อนเถอะ พี่ยังไม่ค่อยหิวความใจร้อน เมื่อต้องการพบใครสักคนแต่ยังหาไม่เจอ เกือบทำให้ลินลณีเผยธาตุแท้ของตนเองให้พริริสาได้รับรู้

    พี่ลิน มองหาใครหรือเปล่าค่ะ

    ก็บอกว่าไม่มีอะไร ฉันสั่งให้กินก็กินเถอะนะอย่าถามมากน่ารำคาญในที่สุดลินลณีก็เก็บอาการไม่อยู่ เผลอความร้ายกาจของมาให้เห็น 

     “พี่ลิน.... พริริสา ครางชื่อเธอออกมาเบาๆ เหมือนไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง

    ยัยพริม คือพี่ขอโทษจ๊ะ พี่กำลังมองหาคนรู้จักนะ แต่ไม่เห็นสักที พี่ก็เลยหงุดหงิดเมื่อเห็นว่ากำลังทำให้พริริสาสงสัย หล่อนก็เลยปั้นยิ้มขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะยื่นมือไปแตะหลังมือพริริสา ที่วางไว้อยู่บนโต๊ะ

    พริมทานข้าว รอพี่ไปพลางๆก่อนนะ เดี๋ยวพี่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำแปปเมื่อสายตาหันไปปะทะกับใครที่ ตนเองรออยู่ ลินลณีก็สร้างเรื่องเพื่อขอตัวออกไปพบใครคนนั้นทันที พริริสาทำเพียงแค่พยักหน้ารับรู้เท่านั้น

     “ทำไมแกมาช้าจังเมื่อลับตาพริริสา และมาอยู่ในที่ลับตาคน ลินลณีก็ถามคนที่ต้องการพบด้วยความหงุดหงิด                    

     “โธ่!!เจ๊ อยากได้ของดีก็ต้องรอหน่อยสิ แล้วไหนอะ ค่าเหนื่อยผมชายหนุ่มรูปร่างบึกบึนถามขึ้น ก่อนจะชูเม็ดยาที่อยู่ในซองพลาสติกใส สองเม็ดให้หล่อนดู ด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์

       นี่ เอาไปลินลณี หยิบธนบัตรหลายใบออกมาจากกระเป๋า ยืนให้ชายหนุ่ม แล้วสั่งเด็กของแกด้วย ว่าให้รอฉันอยู่ในรถ ฉันส่งสันญาณเมื่อไหร่ ให้พวกมันมาพานังพริริสาออกไปได้เลยพูดจบเธอก็ทำท่าจะเดินออกไป

       “เดี๋ยวก่อน แกแน่ใจนะ ว่างานนี้แกเตรียมความพร้อมมาอย่างดีลินลณีถามย้ำถึงแผนการของหล่อนอีกครั้ง ถ้าเกิดพลาดนั้นหมายถึง เธออาจจะโดนหางเลขไปด้วย

    หายห่วงเจ๊ มือระดับผมไม่มีคำว่าพลาด ห่วงก็แต่เจ๊ เอายานี่ให้คนของเจ๊กินให้ได้ล่ะ ผมรับรองพรุ่งนี้คลิปวิดีโอได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าสื่อออนไลน์อีกชายหนุ่มบอก สีหน้าหื่นกระหาย เมื่ออยู่ดีๆ อ้อยก็เข้าปากช้างได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่ต้องลงมือทำอะไร ก็ได้ผู้หญิงมาเป็นนางเอกหนังให้

    ดี งั้นแกเตรียมตัวไว้เลย อีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แกได้สนุกแน่

    ช่วยไม่ได้นะนังพริม แกเสือกอยากได้ผู้ชายที่ ฉันใฝ่ฝันมาทั้งชีวิตเองทำไม คนอย่างแกไม่มีอะไรเทียบเคียงฉันได้ แกโทษฉันไม่ได้หรอกนะ ต้องโทษที่แกเกิดมาอยู่ผิดทีผิดทางเองลินลณีพึมพำอยู่ในใจ ก่อนจะเดินไปที่เคาร์เตอร์บาร์ เพื่อสั่งเครื่องดื่มสำหรับเธอและพริริสา

    น้ำส้มคั้นและบูลเบอร์รี่พายอย่างละแก้วค่ะหล่อนเท้าแขนสั่งเครื่องดื่มจากบาร์เทนเดอร์

    น้ำส้มคั้นกับบูลเบอร์รี่พายได้แล้วครับ

     “ขอบคุณค่ะ เก็บตังร่วมกับตัวโน้นนะคะ

     “ได้ครับคุณผู้หญิง” 

    เมื่อเดินออกมาลับตาบาร์เทนเดอร์ ลินลณีก็แวะเข้ามุมมืด ก่อนจะหยิบเม็ดยาที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋าถือ มาบดให้ละเอียดแล้วผสมคงไปกับน้ำส้มคั้นที่สั่งมาให้พริริสาด้วยเฉพาะ

    เสร็จฉันแน่ นังพริม หึหึ!!” ลินลณีเพ่งสายตาไปที่น้ำส้มคั้นที่หล่อนกำลัง ผสมยาลงไปให้พริริสาอย่างชิงชัง ต่อคนที่นั่งไม่อีโหน่อีเหน่รออยู่ที่โต๊ะ

    ถ้าไม่มีคนอย่างแกสักคน ชีวิตที่ผ่านมาของฉันก็ไม่ต้องมาโดนแย่งความรักไป ตั้งแต่พ่อกับแม่เอาแกมาชุปเลี้ยง แกก็มาแย่งทุกอย่างไปจากฉัน ทั้งเสื้อผ้า ข้าวของ และเงินทอง แกมันตัวมารนังพริริสา แกแย่งทุกอย่างที่ควรเป็นของฉันไป แม้กระกระทั่งคุณต้นน้ำ พอเขาเห็นหน้าแก เขาก็เขี่ยฉันทิ้ง คอยแต่จะละเมอถามหาแต่แก แกมันเกิดมาเพื่อแย่งทุกอย่างไปจากฉัน ถึงเวลาแล้วที่คนอย่างแกจะต้องชดใช้ให้ฉัน ผู้ชายคนนั้นไม่คู่ควรกับแกเลยสักนิด ฉันต่างหาก ฉันต่างหากที่คู่ควรกับเขาลินลณีระบายความคับแค้นใจลงไปกับการใช้นิ้วเรียว คนยาในน้ำส้มคั่นให้เข้ากัน ก่อนจะแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียมออกมา เมือนึกถึงใบหน้าของพริริสา

    พริม คอยนานมั้ยจ๊ะ โทษทีพี่คุยกับเพื่อนนานไปหน่อยหลังจาก เดินมาถึงเธอก็เอ่ยปากขอโทษพริริสาเสียงหวาน ก่อนจะยื่นแก้วน้ำส้มให้

    นี่จ๊ะน้ำส้มคั้น พี่รู้ว่าพริมคงไม่ชอบดื่มอะไรประเภทนี้ หล่อนวางแก้วน้ำส้มให้พริริสาในมือ พร้อมถึงแกว่งแก้วในมือให้พริริสาดู

    ขอบคุณคะ พี่ลินจะทานข้าวเลยมั้ยคะ” 

    เอาสิจ๊ะ พี่เองก็หิวแล้วเหมือนกันลินลณีเอ่ยเสียงหวาน หน้าตายิ้มแย้ม แต่แววตาเธอกับวาบวับด้วยแรงริษยา

    จริงสิ พริมไปอยู่กับคุณสกาย เป็นไงบ้างจ๊ะ เขาดูแลพริมดีมั้ยหล่อนแสร้งถามเพื่อ ให้พริริสาตายใจ ไม่หวาดระแวง ก่อนจะตักอาหารเข้าปากไปด้วย เพื่อรอเวลาอันน่าตื้นเต้นที่กำลังจะมาถึง

    ค่ะ คุณสกายดูแล พริมเป็นอย่างดีคะ ร่วมทั้งคุณหญิงแม่และทุกคนในบ้านด้วย” 

    พี่ต้องขอบคุณพริมอีกครั้งนะจ๊ะ   ถ้าไม่ได้พริมเสียสละยอมเอาตัวเข้าแลกกับเงินแบบนี้ พี่ก็คงจะต้องเสียบ้านทีมีอยู่มาตั้งแต่เด็กไปแน่ๆลินลณี ใช้คำพูดเหน็บแนมที่ทำให้พริริสารู้สึกเจ็บปวด

     “เออ...คือพริมพริริสาพูดไม่ออก เมื่อโดนลินลณีใช้คำพูดแหน็บแนมกับเธอแบบนี้

    อุ้ยตาย!! พี่ขอโทษจ๊ะ พี่หมายถึงที่พริมยอมเสียเวลาเอาตัวเองให้ไปอยู่ในบ้านหลังนั้นนะจ๊ะลินลณีใช้มือปกป้อง แสร้งขอโทษขอโพย พริริสา แต่ในใจกลับยิ้มกระหยิ่ม เมื่อเห็นหญิงสาวหน้าถอดสี

    ไม่เป็นไรคะพริริสาเอ่ยขึ้น ก่อนจะก้มตาก้มตาตักอาหารเข้าปากต่อ
               “แล้วนี่ถ้าครบ กำหนดสัญญา1ปี พริมจะทำยังไงจ๊ะ พริมจะกลับมาอยู่กับพี่มั้ย หล่อนแสร้งถาม

    พริริสานิ่งไปชั่วครู่ เกือบลืมสัญญาที่เจ้าพ่อเหมืองเคยระบุไว้เกี่ยวกับเรื่องลูกไปแทบสนิท แต่เขาคงไม่ใจร้ายพรากลูกไปจากอกเธอหรอกมั้ง คืนนี้เธอกลับไป เธอจะต้องบอกเขาเรื่องลูกให้ได้ แล้วถ้าเขาเกิดเล่นตุกติกกับเธอขึ้นมา เธอจะได้หาทางหนีที่ไล่ได้ทัน

    ถ้าพริม จะกลับไปอยู่ที่บ้านกับพี่ลิน พี่ลินจะอนุญาติมั้ยคะพริริสาถามเสียงแผ่ว เธอกลัวคำตอบที่จะได้ออกมาคือการปฏิเสธ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เธอก็คงไม่มีสิทธิโต้แย่ง

    ได้สิ ไม่มีปัญหา รีบๆกินเถอะจ๊ะ เดี๋ยวจะหมดเวลาสนุกของพริมแล้วลินลณีเอ่ยเสียงเย็น จนพริริสาต้องเหลือบเปลือกตาขึ้นมามอง

    พี่หมายถึง ใกล้จะสี่ทุ่มแล้ว เดี๋ยวคุณสกายเขาเป็นห่วงพริมน่ะลินลณี รีบแก้ตัว แต่กับแอบซ่อนรอยยิ้มร้ายไว้ในดวงตา

     “แฮปปี้เบริดเดย์นะจ๊ะพริม พี่ขอให้พริมมีความสุขมากๆสำหรับคืนนี้ สนุกจนลืมโลกไปเลยลินลณีชูแก้วไวน์ยกขึ้น ก่อนจะยื่นออกมาชนแก้วกับพริริสา 
                พริริสาฟังคำพูดกำกวมของลินลณี แล้วต้องเลิกคิ้วเล็กน้อย แต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าลินลณีคงจะหยอกเย้าเธอเล่น เอาจะหันไปหยิบแก้วน้ำส้มคั้นมาชนกับหล่อน

    แฮปปี้เบริดเดย์ คะพี่ลิน พริมขอให้พี่ลินมีความสูขมากๆเช่นกันจากนั้นพริริสาก็ยกแก้วน้ำส้มคั้น ดื่มจนหมดแก้ว 

    ลินลณีลอบมองพริริสาอย่างพอใจ เมื่อเห็นเธอยกแก้วน้ำส้มดื่มจนหมด รอยยิ้มที่ใบหน้าเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด จนพริริสารู้สึกไม่ดี เพราะหล่อนยิ้มอย่างน่ากลัว โดยไม่ปิดบังสักนิด รอยยิ้มที่ทำให้พริริสา ร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้า

                “พะ.. พี่ลิน ยิ้ม อะไร คะ.. .พริริสากลั้นใจถาม เพราะเหมือนหลังจากที่เธอยกแก้วน้ำส้มดื่มจนหมด ลินลณีก็มีแววตาแข็งกร้าวขึ้นทันที

    ฉันก็ยิ้ม ให้กับความโง่ของแกไงล่ะนังพริมลินลณีแสยะยิ้มเย้ยหยันออกมา

    พี่ลินหมายความว่าไงคะพริริสาวางแก้วในมือลง พร้อมมองลินลณีอย่างหวั่นวิตก

    แกนี่มันโง่ ยังไงก็โง่อย่างนั้นนะนังพริม แกคิดเหรอว่าคนอย่างฉันจะญาติดีกับแกจริงๆลินลณีใช้นิ้วชี้จิ้มลงไปกับขมับพริริสา และผลักมันออกไปสุดแรง  จนเธอเซออกไปด้านข้าง

      “พี่ลิน ทำอย่างนี้ทำไมคะ พริมไปทำอะไรให้พี่ลินจงเกลียดจงชังนักหนา” น้ำตาที่ปริ่มๆอยู่ขอบตา ก็ไหลรินลงมา เมื่อลินลณีเผยตัวตนจริงๆออกมาให้เห็น เธอน่าจะเชื่อเจ้าพ่อเหมืองบ้าง               

       “แกอยากรู้จริงๆใช่ไหมว่าทำไมฉันถึงเกลียดแก ฉันจะบอกแกเอาบุญก็ได้ เพราะแกดันเกิดมาผิดที่ผิดทางไงล่ะ แกดันเกิดมาเพื่อแย่งทุกอย่างไปจากฉัน ทุกอย่าง ที่มันควรเป็นของฉัน รวมถึงผู้ชายที่แกนอนกอดอยู่ทุกคืนนั้นด้วย เค้าควรจะเป็นของฉัน ไม่ใช่ผู้หญิงอย่างแกลินลณีบันดาลโทสะลุกขึ้นทุบโต๊ะดังปัง แต่เพราะเสียงเพลงที่ดัง ทำให้กลบเสียงทุบโต๊ะของลินลณีได้สนิท มีเพียงพริริสาเท่านั้นที่รับรู้ว่า แรงทุบนั้นรุนแรงตามความโกรธของคนทำแค่ไหน

    พี่ลินพริมไม่เคยคิดอย่างนั้นเลยนะคะ

    หุบปากเน่าๆของแกไปเลยนังพริม ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น เก็บเสียงแกไว้ครางต่อคืนนี้เถอะลินลณียืนกอดอก มองคนที่นั่งอยู่ด้วยสายตาโกรธเกรี้ยว ปนเย้ยหยัน

    พะ... พี่ลิน หมายความว่ายังไงพริริสาพยายามจะลุกขึ้นยืน แต่จู่ๆโลกของเธอก็หมุนติ้ว จนยืนไม่ตรง แถมร่างกายที่มีอุณหภูมิปกติ ก็เริ่มร้อนระส่ำระส่าย เหมือนไม่ใช่ตัวเอง

                   “พะ  พี่ลินเอาอะไรให้พริมทานคะ..

    แกอยากรู้จริงๆใช่ไหมว่าฉันเอาอะไรให้แกกิน ได้ฉันบอกแกก็ได้ ก่อนที่แกจะกลายไปเป็นนางเอกหนังออกคลิปฉาวโฉ่ไปทั่วในวันพรุ่งนี้  ลินลณีเดินมาประคองพริริสาที่ตอนนี้เธอแทบจะยืนไม่มั่นแล้ว  

                “ยาปลุกเซ็กส์ไงจ๊ะพริม คืนนี้แกจะได้สนุกสุดเหวี่ยงไปเลยล่ะลินลณีกระซิบเสียงหวานลงไปข้างใบหูของพริริสา ก่อนจะแสยะยิ้มที่มุมปากออกมาอย่างน่ากลัว

    พริริสาตาลุกวาว เมื่อได้ยินลินลณีเอ่ยถึงชื่อยาที่หล่อนให้เธอกิน เธอไม่คิดว่า ลินลณีจะคิดร้ายกับเธอได้ถึงเพียงนี้ ที่จริงเธอไม่ฉุกคิดเองต่างหากทั้งทีก่อนจะออกมา เจ้าพ่อเหมืองก็เตือนเธอแล้ว

    มานี่นังพริม หมดเวลาสนุกของแกแล้วว่าแล้ว ลินลณีก็ทั้งฉุดทั้งลาก ทั้งประคองคนที่อ่อนยวบยาบ ออกมาทางหลังร้าน

    พี่ลิน จะทำอะไรปล่อยพริมไปเถอะ พริมกลัวแล้ว พริมสัญญาพริมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพี่กายอีกพริริสาพยายามรั้งตัวเองไว้ แต่เรี่ยวแรงก็หดหาย แถมตอนนี้ร่างกายตนเองก็ร้อนจนมันจะแผดเผาตัวเธอเองอยู่แล้ว

     

    เพี๊ย เพี๊ย!! เสียงฝามือลินลณีฟาดไปที่ใบหน้าของพริริสาสองครั้ง ก่อนที่ตัวเธอเองจะล้มลงไปกองอยู่กับพื้นเพราะไม่สามารถยืนหยัดได้ด้วยลำแข้งของตนเองได้

    แกกล้าดียังไงมาเรียกคุณสกาย เขาอย่างสนิทสนมทันทีที่ลินลณีได้ยินพริริสาเอ่ยถึงเจ้าพ่อเหมืองอย่างสนิทสนม ความหึงหวงก็ทำให้หล่อนทำร้ายพริริสาอีกครั้ง

    พะ พี่ลิน อย่าทำอะไร พริมเลยนะ พริมกลัวแล้วพริริสาพยายามยันตัวลุกนั่งทั้งทำตา ก่อนจะพนมมือแนบอกไหว้ขอร้องหล่อน

    ใครบอกว่าฉันจะทำแก โน้น ผู้ชายพวกนั้นต่างหากที่จะไปสนุกกับแกคืนนี้”  ลินลณีมองไปยังชายสามสี่คนที่ลงมาจากรถตู้ และกำลังเดินตรงมาทางหล่อนและพริริสา

    ไม่.. ...จริง มันต้องไม่ใช่แบบนี้”   พริริสากำลังพยายามลุกขึ้น แต่ร่างกายที่กำลังร้อนเป็นไฟ บวกกับเรี่ยวแรงที่แทบจะไม่มี ทำให้เธอทำได้เพียงแค่คืบคลานอยู่ตามพื้น ความกลัว วิ่งเข้ามาจุกอก  ความหวังที่จะรอดริบหรี่ เพราะมองไปทางไหนก็มืดสลัว แทบเสียงพลงที่ดังอยู่ด้านใน ก็กลบเสียงทุกอย่างจนหมดสิ้น นี้คงเป็นแผ่นการที่ลินลณีวางไว้ตั้งแต่ต้นสินะ แผนการที่ลวงเธอออกมาพบเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้

    มาลากตัวมันไปได้แล้ว ชักช้าเดี๋ยวใครผ่านเข้ามาเห็นเรื่องมันจะยุ่ง”  เสียงของลินลณีดังขึ้น  พร้อมมองซ้ายมองขวากลัวใครจะผ่านเข้ามาเห็น

    โห! เจ๊ สวยน่าเจี๊ยะซะขนาดนี่ เลยเหรอเด็กเจ๊นี่ชายรูปร่างสูงใหญ่เดินเข้ามานั่งย่องๆอยู่ตรงหน้าพริริสาก่อนจะเชยคางเธอให้หันมาทางมัน แล้วมองอย่างโลมเลีย พริริสาไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะปัดป้อง มีเพียงน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเท่านั้น ที่เป็นตัวบ่งบอกว่าเธอหวาดกลัวต่อชายตรงหน้าแค่ไหน

    เออ น่าเจี๊ยะ พวกแกก็พามันไปเร็วๆสิ ชักช้าอยู่นั้นแหละ เอานี่!ค่าเหนื่อยของพวกแก แล้วจัดการให้รีบร้อยล่ะ หล่อนหยิบเงินมาจากกระเป๋ายื่นให้พวกมันอีกปึก อย่างรุนแรงกับมันนักล่ะ เดี๋ยวมันจะตายซะก่อน

    รับรองเจ๊ สวยๆอย่างเด็กเจ๊นี่ พวกผมรับรองจะค่อยๆทำอย่างถะนุถนอม จริงมั้ยพวกเรา ฮ่าฮ่าฮ่าพูดจบชายร่างใหญ่ ก็หันไปพยักหน้าให้กับพวกอีกสองคน อย่างอารมณ์ดี

    ไปได้แล้ว อย่ามัวแต่พล่าม.หล่อนสั่งอีกครั้ง

     ”เอ้ย!!เอง มาช่วยข้ายกผู้หญิงขึ้นรถที”  

    ดูท่ายาจะออกฤทธิ์แล้ว ข้าว่าเราจัดในรถนี่แหละ ได้อารมณ์อีกอย่าง งานนี้คนสั่งตรึม พวกเรารวยและชายอีกคนที่มาด้วยบอก

                   “ไปน้องสาวคนสวยไปกับพวกพี่พูดจบคนทั้งสองก็เข้ามายกร่างของพริริสาที่คืบคลานอยู่บนพื้นขึ้น

        “ปล่อย! ปล่อยฉัน! อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ปล่อยฉันไปเถอะแม้เรี่ยวแรงของร่างกายจะไม่มีเหลือ แต่พริริสาก็ยังกัดฟันร้องขอความเห็นใจจากพวกมัน

       “ปล่อยแน่ๆ จ๊ะคนสวย แต่พวกพี่ขอปล่อยเข้าไปในตัวน้องนะสิ้นเสียงพูด ร่างบางของพริริสาก็ลอยหวือขึ้น เพราะถูกชายร่างโตอุ้ม หญิงสาวไม่มีแม้กระทั้งเรี่ยวแรงที่จะขืนขันได้แต่ปล่อยให้พวกมันอุ้มขึ้นรถ พร้อมกับหยดน้ำตาที่ไหลรินไม่หยุด

    ลินลณียืนยิ้มอย่างพอใจ มองคนทั้งสองอุ้มร่างของพริริสาจนหายเข้าไปในรถ เธอจึงเดินกลับเข้ามาในร้าน และก็ต้องตกใจไม่น้อย เมื่อเธอเดินชนเข้ากับร่างแกร่งของใครคนหนึ่ง

    คุณสกาย”  ลินลณีเบิกตาโพลงเพราะความตกใจ

    ลินลณี  พริริสาอยู่ไหนทันทีที่รู้ว่าคนที่เดินชนคือใคร เจ้าพ่อเหมืองก็เอ่ยถามทันที เขาอุตส่าห์รีบขับรถตามเธอมา แต่เพราะสถานที่ค่อยข้างลับตาคนและเส้นทางวกวน ทำให้เขาขับวนไปวนมาหลายครั้ง กว่าจะมาถึงร้านก็ร่วมชั่วโมงเศษ พอมาถึงก็เห็นเด็กย้อย นั่งหลับอยู่บนรถ ทั้งทีย้ำนักย้ำหนา ว่าให้เฝ้าพริริสาอย่าให้คาดสายตา

    เออ... คือ ... ยัยพริม ยัยพริมขอตัวกลับแล้วนี่ค่ะ เพิ่งออกไปเมื่อสักครู่นี่เอง” ลินลณีพูดปดคำโต เพราะยังหาข้อแก้ตัวไม่ได้ หล่อนไม่คิดว่าชายหนุ่มจะตามมา

       “กลับแล้ว กลับตอนไหน  แล้วกลับกับใคร สกายขึ้นเสียง พร้อมจับต้นแขนของลินลณีเขย่าเพื่อคาดคั้น

    กลับ..กลับไปกับวริชค่ะ ยัยพริมโทรตามให้นายวริชมารับ

     ”เธอว่าอะไรนะยิ่งคนที่ลินลณีเอ่ยถึงคือวริช ชายหนุ่มยิ่งเกรี้ยวกราด เผลอบีบรัดต้นแขนองลินลณีอย่างแรง  ลินลณีนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด เพราะไม่คิดว่าชายหนุ่มจะโมโหขนาดนี่ ความโกรธเกรี้ยวของชายหนุ่ม ทำให้หล่อนหวาดกลัวอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งดวงตาคู่คมที่ฉายแววออกมาตอนนี้ ถ้าใครเผลอไปสบตาเข้า คงต้องมอดไหม้ เป็นเถ้าธุลี

    คุณสกายคะ ลิลลี่เจ็บค่ะ ปล่อยแขนลิลลี่ก่อนลินลณีเอ่ยเสียงสั่น พร้อมมองเจ้าพ่อเหมืองอย่างหวาดหวั่น

    ขอโทษ เมื่อรู้สึกตัวชายหนุ่มก็รีบปล่อยมือจากต้นแขนของลินลณี 

    นี่ยัยพริม ไม่ได้โทรบอกคุณหรือคะ ว่าเธอจะให้วริชมารับกลับ”   เมื่อได้ที ลินลณีก็ใส่ไฟต่อ และหล่อนก็พอมองออกมา ว่าเจ้าพ่อเหมืองกำลังหึงหวง พริริสากับวริช ก่อนจะแสยะยิ้มออกมาอย่างสะใจ เมื่อจับต้นชนปลายได้ แล้วไม่วายแต่งเรื่อง สร้างความร้าวฉานต่อ

    ลิลลี่พยายามบอกแล้วนะคะ ว่าให้โทรบอกคุณก่อน แต่ยัยพริมก็ไม่ฟัง เธอโทรให้วริชมารับกลับไปก่อนหน้าที่คุณจะมาแปปเดียวเองค่ะ”  หล่อนเอ่ยเสียงเศร้าเคล้าน้ำตา และลอบแสยะยิ้มอย่างพอใจ เมื่อเห็นรอยโทสะจากดวงตาคู่คม

     “พอ! เธอไม่ต้องพูดอะไรแล้ว  ฉันจะกลับ

     “เดี๋ยวสิคะ ไหนๆคุณก็ออกมาแล้ว เรามานั่งดื่มกันดีกว่ามั้ยค่ะ คุณไม่ต้องห่วงยัยพริมหรอก ขานั้นนะ เขาคบกันมานาน ไปไหนมาไหนด้วยกันออกจะบ่อย เข้าๆออกๆที่บ้านมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว  ลินลณีคิดหาคำพูดที่จะสามารถทำให้เจ้าพ่อเหมืองเข้าใจผิดพริริสาให้ได้มากที่สุด เพราะเมื่อไหร่ที่เจ้าพ่อเหมืองสลัดพริริสาทิ้ง นั้นหมายความว่าหล่อนจะได้เข้าใกล้เขามากขึ้นเท่านั้น

    ไม่ ฉันไม่มีอารมณ์ ขอตัวชายหนุ่มปฎิเสธเสียงแข็ง เพราะไม่มีอารมณ์จะดื่มหรือทำอะไรทั้งนั้น ใจหนึ่งก็กำลังโกรธพริริสา อีกใจก็ไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ลินลณีบอกสักเท่าไหร่

    ไหนๆก็มาแล้ว ดื่มเป็นเพื่อนลิลลี่ก่อนะค่ะ อย่าเพิ่งรีบกลับเลย”  หล่อนว่า พร้อมเดินข้ามาลูบไล้ต้นแขนของชายหนุ่ม ก่อนจะเงยหน้าส่งสายตาเย้ายวนเชื้อเชิญไปให้ อย่างไม่คิดจะปิดบัง

    สกายก้มหน้ามองสบตาลิลลี่ มองสำรวจไปทั่วร่างด้วยสายตากรุ้มกริ่ม เหมือนตั้งใจจะทำให้ลินลณีตายใจ ก่อนจะเอ่ยออกมาจนลินลณีแทบอยากจะกริ๊ดร้องออกมาดังๆ

    ผมไม่ชอบกินของเหลือต่อจากใคร ขอตัวว่าแล้วเจ้าเหมืองพ่อก็สลัดมือของลินลณีทิ้ง แล้วเดินออกไป

    ลินลณีมองตามหลังชายหนุ่ม โดยความคับแค้นใจ หล่อนกำมือไว้แน่น ดวงตาแข็งกร้าว สาบแช่งพริริสาอยู่ในใจ

    ถ้าฉันไม่ได้แกก็ไม่มีวันได้ นังพริม

    สกายเดินออกมาจากร้านด้วยความโกรธปนความห่วง เขาไม่รู้ว่าคำพูดของลินลณีเชื่อถือได้แค่ไหน ถ้าวริชมารับพริริสากลับจริง เขาอาจจะโกรธเธอ ที่เธอบังอาจขัดคำสั่งเขา แต่ก็จะหายห่วง เพราะพริริสาคงไม่ไปไหน แต่ถ้าสิ่งที่ลินลณีพูดไม่ใช่เรื่องจริง แล้วพริริสาจะไปไหนได้ ก่อนจะกลับมาที่รถแล้วสตาร์ออกไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ เด็กย้อยที่ยืนกุมหน้าตนเอง เพราะถูกเจ้าพ่อเหมืองลงโทษ ด้วยกำปั้นขนาดใหญ่ของเขา มองตามตาละห้อย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×