ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์วิวาห์เจ้าชายมาเฟีย (พริม สกาย)

    ลำดับตอนที่ #34 : ปฐมบทแห่งรัก บทที่8

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.17K
      9
      17 ก.ย. 58

    ตอนที่34ปฐมบทแห่งรัก บทที่8

    สามเดือนแล้ว ที่พริริสากลับมาอยู่ที่เมืองไทย โดยไร้วี่แววของเจ้าพ่อเหมือง มาตามงอนง้อ ตั้งแต่วันนั้นที่เธอกับเขาคุยกัน เธอขอร้องให้ชายหนุ่มออกไปจากชีวิต รุ่งขึ้นพริริสาก็ขึ้นเครื่องกลับเมืองไทยทันที เจ้าพ่อเหมืองขับรถมาส่งเธอที่สนามบิน ไม่มีการพูดคุยอะไรกันอีกระหว่างการเดินทาง ไม่มีแม้คำพูดบอกลา จะมีก็แต่ความเงียบงันกับท่าทีหมางเมินของคนทั้งสอง พริริสาเดินหันหลังจากเขาไปในเกตด้วยน้ำตานองหน้า เพราะหลังจากที่เขาพาเธอมาเช็คอินท์ และยื่นตั๋วเครื่องบินให้ เขาก็หันหลังเดินกลับออกไปทันทีโดยไม่พูดไม่จากลับเธอสักคำ

       แกแน่ใจแล้วนะสกาย ว่าจะไม่ตามเธอกลับเมืองไทย มิสเตอร์โรเบิร์ต เดินเข้ามาถามบุตรชายในห้องทำงาน เมื่อชายหนุ่มกำลังเซ็นเอกสารกองโต ที่วางอยู่บนโต๊ะให้แล้วเสร็จ เพื่อจะได้รีบกลับไปอยู่ที่เหมือง เวลาที่นั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานแค่ไม่กี่ชั่วโมงทำให้เขาแทบบ้า เมื่อดวงหน้าพริริสาลอยมาในวันที่เขาร่วมรักอยู่กับแม่นางแบบสาว

       “แน่ใจครับพ่อ ช่วงนี้ผมฝากงานที่บริษัทด้วยนะครับ มีอะไรสำคัญก็ให้ไมเคิลขับรถเอาไปให้ผมที่เหมืองเลยแล้วกัน ชายหนุ่มตอบบิดา ก่อนจะหันมาจรดปลายปากกาลงไปกับเอกสารตรงหน้าอีกครั้ง

    นี่มันก็ปาเข้าไปสามเดือนแล้วนะ แกแน่ใจแล้วหรือ ว่าแกจะยอมแพ้แค่นี้ แกไม่ห่วงลูกห่วงเมียแกเลยหรือไง นั้นมันลูกแกทั้งคนนะและนั้นก็เป็นหลานของฉันด้วย 

    ผมคงขี้ขลาดเกินไปมั้งครับผม เธอคงไม่ต้องการผมแล้ว สกายบอกกล่าวกับบิดา      

    น่าเสียดายนะสกาย ราชสีห์ผู้ยิ่งใหญ่อย่างแก ชนะมาได้ทุกอย่าง ต่อสู้กับความลำบากมาก็เยอะ แม้จะล้มลุกคลุกคลานแถบจะยืนไม่ไหว แต่ฉันก็ไม่เคยเห็นแกจะยอมแพ้ หรือ หมดกำลังใจไปได้ง่ายๆแบบนี้ แต่แกกับมาพลาดให้กับเรื่องง่ายๆที่เรียกว่าความรัก ฉันกับแม่แกคงช่วยอะไรแกไม่ได้ นอกจากตัวแกเอง ที่จะเป็นคนดึงเธอกลับมา” เขาเดินเข้ามาจับที่บ่าของเจ้าพ่อเหมืองแล้วตบมันเบาๆ  

    แกยังมีเวลาคิดนะสกาย ปราบใดที่เมียกับลูกแกยังไม่เป็นของคนอื่น ถ้าหากเมื่อไหร่ที่เมียแก กลายเป็นของคนอื่นจริงๆ แกจะไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรกลับมาเป็นของแกได้อีกเลย คิดดูให้ดีนะไอ้เสือ ฉันบอกแกได้แค่นี้แหละ

       หลังจากเตือนสติเจ้าพ่อเหมืองจบ มิสเตอร์โรเบิร์ตก็เดินออกไป ทิ้งให้เจ้าพ่อเหมือง นั่งขบคิดกับคำพูดของเขา ด้วยความรู้สึกหลากหลาย น่าเสียดายราชสีห์ผู้ยิ่งใหญ่ กลับต้องมาตกม้าตายเพราะเรื่องของความรัก

    พริริสากลับบ้านมา พร้อมหอบเอาหัวใจบอบช้ำอย่างหนักกลับมาด้วย ยังดีที่ทุกคนในบ้าน คอยเป็นห่วงเป็นใยเธอ และปลอบโยน เลยทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง สกายไม่เคยแม้แต่จะโทรมาหา และเธอก็ไม่เคยได้ข่าวคราวของเขา แม้ว่าเธอจะเดินทางไปอยู่กับคุณหญิงทุกวันหยุดก็ตาม ส่วนคุณหญิงเองก็ ติดต่อเจ้าพ่อเหมืองไม่ได้ สกายปิดกั้นตัวเองออกจากคนรอบข้าง ขังตนเองทำงานตัวเป็นเกียวอยู่แต่ในเหมือง เขาไม่เคยยุ่งไม่เคยต้องการผู้หญิงอีกเลย หลังจากพริริสากลับไป ชีวิตในแต่วันของเขาหมดไปกับสุราและเหมืองทองของเขานั้นเอง

    ย่างเข้าสู่เดือนที่แปดแล้ว สำหรับการตั้งครรภ์ของพริริสา ดูหญิงสาวจะดูมีน้ำมีนวลอวบอิ่มขึ้นเป็นกอง เธอเริ่มอุ้ยอ้ายเพราะหน้าท้องที่โหนกนูนจนเห็นได้ชัด

    วันนี้เป็นอีกคนที่หมอ นัดให้เธอมาตรวจครรภ์ และทุกครั้งที่มาหลังจากกลับไปเธอก็มักจะกลับไปซึมเศร้าอยู่เสมอ หลายครั้งที่ไปเจอหลายต่อหลายคู่ไปกันพร้อมหน้า พ่อแม่มันก็ทำให้คนที่อยู่โดดเดี่ยวอย่างเธอมักจะแอบน้อยใจเสมอ แม้จะมีต้นน้ำและผู้คนรอบข้างรายล้อม แต่ก็เทียบกันไม่ได้เลย กับภาพความอบอุ่นที่เธอเห็นผู้คนเหล่านั้น ปฏิบัติต่อภรรยาที่ตั้งท้องของเขา แม้จะพยายามบอกกับตนเองว่าอยู่ได้โดยที่ไม่ต้องมีเขา แต่พอมาเจอภาพครอบครัวที่อบอุ่น หัวใจดวงน้อยกับสั่นไหว ค่อยแต่คิดน้อยใจในโชคชะตาของตนเอง และใบหน้าเปื้อนยิ้มของเจ้าพ่อเหมืองก็ลอยมา สามเดือนแล้วที่ต้องเก็บกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น เพราะไม่อยากให้ทุกคนต้องเป็นห่วง มันช่างเป็นความทรมานที่ยาวนานเหลือเกินสำหรับตนเอง มีคนเคยบอกไว้ว่าความรักกินไม่ได้ แต่หากอยู่โดยปราศจากความรัก บางครั้งชีวิตก็ปราศจากสีสันใดๆมาแต่งแต้มเช่นกัน

    วันนี้เธอจำเป็นต้องเดินทางมาตรวจครรภ์เพียงลำพัง เพราะต้นน้ำติดประชุมสำคัญที่บริษัท ส่วนจอมขวัญก็ต้องเข้าเวรจนเช้า ปรี่เวลามาส่งเธอไม่ได้ ทุกครั้งที่มาต้นน้ำก็จะเป็นคนพาเธอมาเสมอ คุณสายน้ำไปร่วมขบวนทำบุญกับคุณหญิงกว่าจะกลับก็อีกตั้งสองวัน ส่วนลินลณีพักหลังๆมานี่หล่อนดูแปลกๆไป พริริสาจึงไม่กล้าชวนเธอออกมาด้วย เธอพยายามคิดว่าลินลณีคงจะช่วยงานบ้านจนเหนื่อย เลยทำให้หล่อนดูจะหงุดหงิดบ่อยๆจนเธอไม่ค่อยอยากสู้หน้า 

    ระหว่างที่มารอรับยาอยู่ จู่ๆก็มีชายหนุ่มที่เธอรู้สึกคุ้นเคยมานั่งลงข้างๆ เขาสวมหมวกแก๊บ มีแว่นดำปกปิดใบหน้า แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำให้พริริสาใจเต้นเร็วไม่เป็นจังหวะ เธอจำได้แม้กระทั่งกลิ่นโคโลญน์ที่เขาเคยใช้อยู่เป็นประจำ พริริสาก้มหน้างุดไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองชายหนุ่ม เธอบีบมือทั้งสองข้างของตนเองไว้แน่น จนเหงื่อชื้น ไม่อยากคิดว่าคนที่มานั่งลงข้างๆคือผู้ชายที่เธอเฝ้าแต่คิดถึง เธอคงคิดถึงเขามากไป  จนทำให้มองคนข้างๆเป็นเขา แต่เสียงเรียกชื่อที่เอ่ยออกมา ก็แทบทำให้หัวใจดวงน้อยล้นทะลักออกมาด้านนอก

    พริริสา !!! เสียงเรียกที่คุ้นหู ถูกเอ่ยขึ้น ท่ามกลางหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะของคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว เธอต้องกำลังฝันไป แน่ๆ จู่ๆเขาจะมาโผล่อยู่ตรงหน้าของเธอได้ยังไงกัน พริริสาค่อยๆผินใบหน้าไปทางทิศทางที่มีเสียงเรียกชื่อของเธอ เพียงแวบแรก แค่เห็นใบหน้าของเขา น้ำตาที่มันปริ่มๆจะไหลออกมาจากขอบตาได้อยู่ทุกเมื่อ ก็ไหลลงมาอย่างอัตโนมัติ     

    พะ... พี่กาย น้ำเสียงสั่นคลอเอ่ยขึ้น ทั้งดีใจ เสียใจ น้อยใจ ระคนกันไปหมด วินาทีแรกคืออยากจะเข้าไปกอด ให้หายคิดถึง แต่นาทีต่อมาก็อยากจะตัดพ้อต่อว่าทีเขาไม่เคยสนใจมางอนง้อเหมือนก่อน แต่จะโทษชายหนุ่มก็ไม่ได้ ในเมื่อเธอเป็นคนเอ่ยปากบอกให้เขาเลิกยุ่งกับเธอเอง 

    ทุกอย่างยังอยู่ในความเงียบ ไม่มีใครเอ่ยอะไรต่อจากนั้น เจ้าพ่อเหมืองขยับกายเข้ามาใกล้แล้วใช้มือใหญ่ลูบไปที่ท้องโหนกนูนนั้นอย่างแผ่วเบา พริริสาเองก็นั่งตัวแข็งทื่อ เธอไม่ได้ขัดขืน เมื่อเจ้าพ่อ โน้มใบหน้าเอาแก้มลงมาแนบกับหน้าท้องของเธอ คล้ายจะฟังเสียงของลูกน้อย 

    ใกล้คลอดแล้วใช่มั้ย เขาเอียงหน้าขึ้นมาถาม คนที่นั่งตัวแข็งอยู่ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนจะหันกลับไปแล้วแนบแก้มลงอีกครั้ง แล้วก็ต้องขมวดคิ้วเข้มๆเข้าหาอย่างสงสัย เมื่อสัมผัสถึงอะไรบ้างอย่างที่ดิ้นดุกดิกอยู่ตรงท้องของพริริสา พร้อมทั้งเห็นพริริสาสะดุ้งตัวโหยง แล้วร้องอวดครวญออกมาเพราะแรงถีบของลูกน้อย

    เป็นอะไรหรือเปล่า พริม เขาปรี่เข้ามานั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้า ถามขึ้นด้วยความห่วงใย เมื่อเห็นใบหน้ายับยู่ยี่ของเธอ  พริริสาเพียงส่ายหน้าเล็กน้อยเท่านั้น แม้จะคุ้นชินกับการดิ้นของลูกน้อยในท้อง แต่เธอยอมรับเลยว่า ลูกน้อยไม่เคยดิ้นแรงขนาดนี้มาก่อน พาลให้คิดไปเองว่า ลูกน้อยของเธอคงดีใจที่ได้เห็นหน้าพ่อของเขา

       “เปล่าคะ ลูกแค่ดิ้นแรงไปหน่อย เท่านั้นเอง” เธอตอบเสียงสั่นเครือ ใบหน้าหวานยังเปื้อนหยดน้ำตา

    เขาดิ้นแรงแบบนี้ ทุกวันหรือเปล่าสกายถาม แต่ไม่ได้มองหน้าเธอ เขาใช้มือหนาขึ้นมาจับท้องของเธอไว้ทั้งสองข้าง รู้สึกสงสารพริริสาขึ้นมาจับใจ

    แล้วเขาละ เขามัวไปทำอะไรอยู่ที่ไหน ทำไมเขาถึงไม่มาดูแลเธออย่างที่ควรจะทำ ทำไมเขาไม่ทำหน้าที่พ่ออย่างที่ควรจะเป็น ทำไมเขาถึงโง่เขลายอมให้ความมืดมิดในหัวใจมาบังตาจนสิ้น เพียงแค่คิดว่าที่ผ่านมา ตนเองไม่เคยสนใจถามข่าวคราวของพริริสา ความรู้สึกผิดก็แล่นเข้ามาในหัวใจดวงโตให้ปวดหนึบ จนหัวไหล่กว้างเริ่มสะท้านไหว ก่อนที่ดวงตาคู่คมจะปริ่มด้วยหยดน้ำ และมันกำลังจะไหลออกมา เพื่อประจานความโง่เขลาของตนเอง

    พ่อขอโทษนะลูก ที่ทอดทิ้งให้ลูกอยู่กับแม่แค่สองคน น้ำเสียงสั่นคลอ  พร้อมกับน้ำตาลูกผู้ชายที่ไหลลงมา

    พริริสาไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีก เธอเองก็ยังอึ้ง ในการมาปรากฏตัวของเขา ยิ่งเมือเห็นน้ำตาเม็ดโตของคนตรงหน้า หัวใจที่คิดว่าแข็งแรง ก็โอนเอนอ่อนไหวจนมันอ่อนยวบยาบไม่เหลือเคล้าลางแห่งความเคืองขุ่น เธอไม่อยากยอมรับกับตนเอง ว่าเธอดีใจแค่ไหนที่เห็นเขาในวันนี้ แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดได้เอ่ยอะไรต่อไป เสียงเรียกชื่อรับยาก็ดังขึ้นเสียก่อน

    พริมนั่งรอนี่แหละ เดี๋ยวพี่ไปรับยามาให้ เขาบอกเธอก่อนจะใช้นิ้วใหญ่เกลี่ยน้ำตาทิ้ง และหยิบแว่นดำมาใส่เหมือนเดิม ไม่นานก็เดินกลับมาพร้อมถุงยา อยู่ในมือก่อนจะมาประคองร่างอุ้ยอ้ายให้ลุกขึ้น 

     กลับกันเถอะเดี๋ยวพี่ไปส่ง” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงนุ่ม ส่วนพริริสาก็ยอมลุกขึ้นแต่โดยดี ไม่มีท่าทีฮึดฮัดเหมือนแต่ก่อน อาจเพราะท้องที่โตขึ้นทุกวันของเธอก็ได้ ที่ไม่ว่าจะเบี่ยงหรือเอี้ยวหนีไปทางไหนช่างลำบากเสียเหลือเกิน

    สกายเดินทางกลับมาได้เกือบอาทิตย์แล้ว แต่ไม่มีใครล่วงรู้ ชายหนุ่มเอาแต่ขบคิดเรื่องที่บิดาบอกไว้ ก่อนจะกลับไปที่เหมือง ในที่สุดก็ตัดสินใจกลับมาหาเธอ ไม่ต้องคิดอะไรมากอีกแล้ว เมื่อหัวใจทั้งหมดของเขาอยู่ที่เธอ และเขาก็จะไม่มีทางปล่อยพริริสาไปอีกแน่ๆ แม้ว่าเธอจะขับไล่ไสส่งให้เขาไปไกลๆ แต่เขาก็จะใช้ความหน้าด้านหน้ามึนของเขานี่แหละ ตื้อเธอให้ถึงที่สุด แม้จะต้องเจ็บตัวก็ยอม
               ส่งพริมแค่นี้แหละคะ เดี๋ยวลุงพรก็เอารถมารับ 

     “ลุงพรแกกลับไปแล้วละ พี่สั่งให้แกกลับไปเอง สกายเอ่ยขึ้น เพราะเขาติดตามดูเธอมาหลายวันแล้ว จึงรู้ว่าเธอไปไหนมาไหนกับใครบ้าง และก็ต้องแอบนึกเคืองที่เธอยังกล้าไปไหนมาไหนกับลินลณี ทั้งทีหล่อนทำร้ายเธอไว้มากแค่ไหน  

    พริริสาเพียงแค่พยักหน้ารับ เธอไม่มีแรงพอที่จะอาลวาด หรือดื้อดึงกับชายหนุ่มเหมือนก่อนเพราะร่างกายไม่เอื้ออำนวย ได้แต่ยอมให้ชายหนุ่มประคองไปที่รถเท่านั้น        

    สกายไม่ได้พาเธอกลับบ้านสุริยะจักร แต่กลับพาเธอมายังคฤหาสน์ อภิเศรษฐกุล พริริสาที่นั่งหลับมาตลอดทางเลยไม่รู้ว่า ชายหนุ่มพาเธอกลับมาที่นี่

    พริมตื่นเถอะ ถึงบ้านแล้วชายหนุ่มเข้ามาเขย่าตัวเธอเล็กน้อย เพื่อให้เธอรู้สึกตัว พริริสางัวเงียตื่นขึ้นมา พร้อมมองออกไปรอบๆบ้าน เมื่อรู้ว่าที่นี่ไม่ใช่บ้านของตน ใบหน้าง้ำงอก็เกิดขึ้นทันที ที่ดวงหน้าหวาน

    พริมจะกลับบ้าน เธอเอ็ดเสียงเขียว แล้วไม่ยอมที่จะลงจากรถ แถมเธอเกาะสายรัดเบลล์ไว้แน่น

    จะกลับไปได้ยังไง ที่บ้านไม่มีใครอยู่สักคน ต้นน้ำต้องเดินทางไปสัมมานาที่เชียงใหม่ ส่วนจอมขวัญก็ต้องอยู่เวรดึก หรือพริมจะให้จอมขวัญเธอออกเวรมาแล้ว ต้องมาดูแลพริมอีก เขาเริ่มดุเธอบ้าง ยกแม่น้ำทั้งห้า หาเรื่องเอาชนะเธอ เพราะรู้ว่าถ้าพูดดีๆด้วย เธอจะไม่ยอมฟัง แทบยังรั้นกับเขาได้ทุกเรื่อง

    พี่ลินก็อยู่ พริมอยู่กับพี่ลินก็ได้ เธอยังรั้น ไม่ยอมลงมาจากรถได้ง่ายๆ เริ่มโมโหเขา ที่ขึ้นเสียงกับเธอ

       ยัยนั้นลืมไปได้เลย พี่ไม่มีทางให้พริม อยู่ใกล้อีกเด็ดขาด เขาว่าก่อนจะโน้มตัวไปปลดเบลล์  อุ้มเธอออกมาจากรถ แล้วเดินจ้ำอ้าวหายเข้าไปในบ้าน พริริสาอยากจะดิ้น แต่ก็ดิ้นไม่ได้ เชื่อเลยว่าถ้าเธอไม่ท้อง เธอคงดิ้นรนขัดขืนเป็นแน่ๆ แต่นี่เมือท้องโตแบบนี้ เลยได้แต่ใช้กำปั้นทุบไปแถวหน้าอกของเขาเท่านั้น

    นมอุ่นครับ มื้อเย็นผมขออาหารบำรุงคนท้องนะครับ ออบอกให้เอมอรจัดห้องนอนชั้นล่างให้ผมด้วย พริริสาเธอคงไม่สะดวกจะขึ้นลงบันไดเวลานี้” เขาหยุดยืนบอกนมอุ่นที่ยืนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ดีใจในการกลับมาของเจ้าพ่อเหมือง แถมยังพ่วงหญิงสาวมาอีก ก่อนจะเดินเลยไปยังห้องนั่งเล่น แล้วว่างพริริสาลงกับโซฟากว้างยังแผ่วเบา

    พริมจะกลับบ้าน ทันที ที่เขาวางเธอลงพริริสาก็ออกฤทธิ์ทันที 

    ก็นี่ไงบ้าน อยากกลับก็พากลับแล้วบอกอย่างไม่ต้องคิดอะไรมาก พร้อมกางแขนหมุนตัวบอกเธอ อย่างสบายอารมณ์ 

       “ไม่ใช่ที่นี่ อย่ามากวนประสาท พริมนะ เธอว่าเสียงเขียว

    ไม่ให้กลับมีอะไรมั้ย”  เจ้าพ่อเหมืองเอาความหน้าด้านเข้าข่ม  ในเมื่อพูดดีๆด้วยแล้วได้ใจ ก็จะบังคับขู่เข็ญอย่างนี้ ของถนัดเขาละ

    ได้!! ไม่ให้กลับ กลับเองก็ได้”  เธอว่าพร้อมลุกพรวด 

    โอ้ย!!.... แต่ก็ต้องหดตัวเข้าหากัน  เมื่อโดนของบางอย่างถีบเข้าที่หน้าท้องอย่างแรงง และก็หลายที พรริริสานิ่วหน้าด้วยความเจ็บ ทำไมทั้งพ่อทั้งลูก ถึงร่วมตัวแกล้งเธอแบบนี้นะ 

    พริม เป็นอะไรมั้ย ชายหนุ่มปรี่เข้าหาทันที  ถ้าเดาไม่ผิดก็คงโดนลูกน้อยในท้องนั้นแหละเล่นงาน เพราะทันทีที่นั่งลง เธอก็ใช้มือเข้าไปลูบที่หน้าท้องแทบจะทันที

       “ไม่ต้องมายุ่ง ออกไปเลยนะ ไม่อยากเห็น เหม็นขี้หน้า” เธอว่าพร้อมหันซ้ายหันขวาก่อนจะไปคว้าเอาหมอนมาปาใส่ชายหนุ่ม จนเขาต้องระเห็จออกไปจากห้อง เพราะทั้งคำรามเสียงหัวเราะออกมาเมื่อรู้วิธีที่จะเอาชนะเธอได้แล้ว 

    พริริสานั่งหน้าง้ำงออยู่ในห้องนั่งเล่น เมื่อสกายเดินออกไปแล้ว ไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น และไม่พร้อมจะเข้าใจด้วย เธอใช้หลังมือปาดน้ำตาทิ้งอย่างลวกๆ แล้วมองลงไปที่หน้าท้อง ตอนนี้เจ้าตัวเล็กกำลังจะแผลงฤทธิ์อีกแล้ว แล้วน้ำตาแห่งความน้อยใจก็ไหลลงมาอย่างไม่อาจจะห้ามให้มันหยุดได้อีก

    ขนาดลูกอยู่ในท้องเธอแท้ๆ ยังร่วมหัวกับพ่อตนเองแกล้งเธอเลย ความคิดเด็กๆไม่รู้โผล่มาตอนไหน แต่ตอนนี้ รู้แค่ว่าน้อยใจทั้งลูกน้อยและคนตัวโตที่หัวเราะร่วนเดินออกไป  คิดอยากจะมาก็มาคิดอยากจะไปก็ไป ผู้ชายบ้าอะไร เห็นแก่ตัว พริรสาคิดเคือง ก่อนจะเช็คน้ำหูน้ำตาตนเอง แล้วไปหยิบโทรศัพท์เครื่องเล็กต่อสายไปหาต้นน้ำทันที

    รอไม่กี่อึดใจปลายสายก็ส่งเสียงทักทาย เหมือนอยากจะขอโทษขอโพยอยู่ในตัว  ที่วันนี้ไม่ได้ไปส่งเธอ แถมยังโดนบังคับให้ไปร่วมสัมมานาไกลถึงเมืองเหนืออีก

    ว่าไงครับ คุณน้องสาว 

    พี่ต้นรู้เห็นกับผู้ชายคนนั้นใช่ไหมวันนี้พี่ถึงไม่ไปส่งพริมที่โรงพยาบาลน้ำเสียงค่อยข้างหวน ถามขึ้น

    ป่าว!!  ทำเสียงสูง คุณพ่อ... คุณพ่อท่านบังคับพี่ มีอะไรก็ไปถามคนพ่อพี่แล้วกันต้นน้ำโยนข้อกล่าวหาทั้งหมดไปให้เจ้าสัวสายฟ้า ที่อยู่ไกลถึงอิตาลีโน้น

    เจ้าสัว!! ไม่จริง พี่ต้นนั้นแหละกะล่อนดีนัก ค่อยดูนะพริมหนีไปได้เมื่อไหร่จะกลับไปคิดบัญชีทั้งต้นทั้งดอกเลย โทษฐานเห็นคนอื่นดีกว่าน้องตนเอง พริรสาคาดโทษ ช่วงหลังมานี่มาเริ่มสนิทกับต้นน้ำ เลยแสดงอิทธิฤทธิ์หลายอย่างให้เขาเห็น ด้วยเฉพาะความเอาแต่ใจ ซึ่งมันเกิดมาพร้อมๆกับการตั้งท้องของเธอนี่แหละ

       “งั้นรออีกสองวัน ค่อยมาคิดบัญชีแล้วกันนะ ตอนนี้พี่รีบเดี๋ยวตกเครื่อง บายจ๊ะ พูดจบก็รีบตัดสายทิ้งเพราะยังไม่อยากหูชาเพราะถูกพริริสาบ่น  แต่แล้วก็ต้องโทรกลับมา เพราะลืมบอกอะไรบ้างอย่างกับพริริสา

                   มีอะไรอีกคะ

       พี่ลืมบอก ไหนๆพี่กายก็กลับมาแล้ว มาง้อน้องสาวพี่ด้วย อย่างลืมเอาคืนให้หนักละ จะโทรมาบอกแค่นี้แหละ อออันนี้สำคัญมากช่วงที่พี่ไม่อยู่ อย่าลืมดูแลตนเองด้วย ทานข้าวให้ตรงเวลา ยาที่หมอให้มาก็อย่าลืมทาน ดื่มนมก่อนนอนทุกวันด้วย ที่สำคัญห้ามกลับไปอยู่บ้านเด็ดขาดหากพี่ยังไม่กลับมา” ต้นน้ำร่ายยาวมาเป็นชุด โดยไม่เปิดโอกาสให้พริริสาได้โต้เถียง

    เข้าใจมั้ยครับ

    คร้า... คุณพ่อได้ยินเต็มสองหูเลยค่ะ มีอะไรจะสั่งอีกมั้ยคะ

    โทรไปฟ้องอะไรเจ้าต้นมัน ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นหลังจากมาหย่อนสะโพก นั่งลงข้างๆเธอ

    คนนิสัยไม่ดี แอบฟังคนอื่นคุยโทรศัพท์ พริริสาว่าให้เขาก่อนจะกระถดตัวหนี เมื่อสกายทำท่าจะนอนลงไปตักของเธอ 

    พี่ป่าวแอบฟัง แค่ผ่านมาได้ยินเฉยๆ เขาว่า พร้อมแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ

    มันก็เหมือนกันนั้นแหละ ปล่อยนะจะกลับบ้าน”   พริริสาค้านบ้าง

    ก็บอกแล้วไงว่าไม่ให้กลับ เขาฉวยข้อมือเล็กไว้ เมื่อเธอกำลังจะลุกออกไป

    ไม่ให้กลับก็ไม่กลับ แต่ต้องมาทำข้อตกลงที่จะอยู่ร่วมกันก่อน เธอบอก พร้อมสลัดมือเขาทิ้ง

    ข้อตกลงอะไร อีกพริริสา อย่างเรื่องมากน่ะสกายบอกอย่างเนื่อยๆ และเอนหลังไปกับโซฟาตัวใหญ่ กางแขนออกอยู่ในท่าสบาย ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่ง ตีไปเบาๆลงหน้าขาออกตนเอง  มานั่งนี่มา ขอกอดให้ชื่นใจที ไม่เจอตั้งหลายเดือนคิดถึงจะแย่”  พูดขึ้นเหมือนไม่ยี่หระกับอาการแง่งอนของหญิงสาว

    พริริสาอ้างปากค้างไม่คิดว่าชายหนุ่ม จะหน้ามึนได้ขนาดนี่ เขาทำเหมือนเธอไม่เคยโกรธหรือต่อว่าเขามาก่อน แม้ตอนนี้จะดีใจที่ชายหนุ่มกลับมาหา แต่เธอก็ยังมีฟอร์ม ไม่ยอมดีด้วยง่ายๆ ตราบใดที่ยังไม่เอ่ยว่ารักเธอให้ได้ยิน เธอจะไม่ญาติดีด้วยเด็ดขาด

    หน้าด้าน!! ถ้าไม่ตกลงก็ไม่อยู่พริมจะกลับบ้าน ไม่ให้กลับบ้านก็จะไปอยู่กับวริช  พริริสายังไม่ยอมอ่อนข้อให้ ยังเฉไปหาคนอื่นได้เรื่อยๆจนชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ แล้วกลับมานั่งไขว่ห้าง  อะไรไม่ให้กลับบ้านแต่บอกจะไปอยู่กับวริช ผัวตนเองอยู่ที่แท้ๆ แต่กับจะไปหาผู้ชายคนอื่น มันน่านักถ้าไม่เห็นว่าท้องพ่อจะพาขึ้นเตียงแล้วขยมสั่งสอนให้หลาบจำเลย

    มีอะไรก็ว่ามา ข้อตกลงอะไรไหนลองว่ามาสิ เขาพูดขึ้นใจจริงก็กลัวเธอโกรธและหนีไปอีกนั้นแหละ แค่นี้ก็หน้ามึนเสียฟอร์มพออยู่แล้ว แต่เพื่อลูกเพื่อเมีย ยังไงก็จะยอมเธอดูอีกสักครั้ง และดูเหมือนการที่อยากได้พริริสามาเป็นคู่ชีวิต  เหมือนเขาจะกลายเป็นเด็กไม่รู้จักโตไปกับเธอด้วยแล้วสิ

    พริริสายืนกอดอก หันหลังให้แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา  ก่อนจะหันกลับมาเลยเชิดคอขึ้น ช้อนตามองเจ้าพ่อได้อย่างน่าหมั่นใส้ ที่จริงคือกำลังเก็บอาการกระดี๊กระด๊าไว้ในใจต่างหาก

    พริมมีข้อตกลงแค่ข้อเดียว นั้นก็คือพี่ต้องทำตามคำสั่งพริมทุกอย่าง โดยไม่มีข้อยกเว้น ห้ามใครในบ้านช่วยเหลือ หรือแม้แต่เรียกคนมาช่วยก็ไม่ได้ ถ้าไม่ตกลง พริมก็จะหอบลูกหนีไปอยู่กับวริชแทน” เธอเอาวริชที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่มาอ้าง ซึ่งไม่เจอมาหน้าวริชมาหลายวันแล้ว เพราะช่วงนี้วริชเพิ่งได้งานเลยไม่มีค่อยมีเวลามาเยี่ยมเธอเหมือนที่ผ่านๆมา

    เจ้าพ่อเหมืองนั่งอ้าปากค้าง นึกเสียวสันหลังตนเอง ขึ้นมาวาบๆ ดูถ้าเธอจะได้โอกาสเอาคืนเข้าให้แล้วแน่ๆ ขืนไม่ตกลง มีหวังได้หนีกระเจิงไปอย่างที่พูดจริงๆ เพราะดูท่าแล้ว ว่าที่คุณแม่จะอารมณ์ปรวนแปรบ่อยเหลือเกิน ตอนอยู่ที่โรงพยาบาลยังนั่งนิ่ง ไม่พูดไม่จาอยู่แล้ว แต่ไหงพอกลับบ้านมากลายเป็นคนละคนซะงั้น

    ตกลง จะทำตามที่ตกลงกันไว้มั้ยคะ” เธอเอ่ย  เสียงเข้มขึ้นมาเล็กน้อย

    ชายหนุ่มไม่ตอบ ได้แต่พยักหน้า “พยักหน้าถือว่าตกลง งั้นเรามาเริ่มกันเลย  พริมกำลังอยากว่ายน้ำอยู่พอดี  อาทิตย์ก่อนพริมถามพี่ยอร์ทแล้ว พี่แกบอกว่ายังไม่ได้เปลี่ยนน้ำในสระ ถ้ายังงั้นหน้าที่พี่ตอนนี้ก็คือ ขัดพื้นกับเปลี่ยนน้ำในสระให้พริม!! สิ้นเสียงคำสั่ง คนที่นั่งฟังก็ร้องโวยวายทันที

                   อะไรนะ ให้พี่เนี้ยนะ ขัดพื้น กับเปลี่ยนน้ำในสระให้ 

    อืม!! เป็นอันเข้าใจตรงกันนะคะ พริมให้เวลาพี่ถึงบ่าย ยกแขนที่มีนาฬิกาเรือนสวยอยู่ขึ้นมามอง 

    บ่ายสอง ดังนั้นพี่มีเวลาทำอยู่อีกสองชั่วโมง พริมจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วจะตามออกไป ออ... ห้ามเรียกคนช่วย ไม่งั้นพริมถือว่าพี่ขัดคำสั่ง พริมจะหนีกลับบ้านจริงๆด้วย พูดจบก็เดินอุ้ยอ้ายแล้วลอบยิ้มออกมาอย่างสะใจ ก่อนจะหันกลับมามองเจ้าพ่อเหมืองที่ยืนเท้าเอวอยู่ อย่างไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะทำแบบนี้กับเขา  

    ไม่ทำก็ได้นะคะ พริมไม่ว่า แต่พริมกับลูกคง เหลือบตาลงมองหน้าท้องของตนเอง “ต้องทนเล่นน้ำสกปรกแบบนั้น  แล้วทำหน้าเศร้าก็อย่างว่าแหละ พ่อเขาไม่ได้รักเราสองคนนี่ เขาคงไม่สนใจแม่กับลูกหรอก” จากนั้นก็ทำเสียงเศร้า แล้วถอนหายออกมาเฮือกใหญ่ จนเจ้าพ่อเหมืองเมื่อรู้ว่ากำลังโดนค่อนขอดเลยต้องรับปากอย่างเลี่ยงไม่ได้  เป็นผลทำให้คนเจ้าคิดเจ้าแค้น ยิ้มออกมาอย่างพอใจกับคำตอบของเขา

    เจ้าพ่อเหมืองอยู่ในชุดกางเกงขาสั้นสามส่วน  เขาสวมเพียงกางเกงเท่านั้น ส่วนท่อนบน กำลังเปล่าเปลือย อวดกล้ามเนื้อเป็นหมัดๆและซิกแพคไม่มีใครรู้ว่าทำไมเจ้าพ่อเหมืองถึงลงทุนไปขัดสระน้ำ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยถามเมื่อมองเห็นใบหน้าที่เคร่งเครียดและง้ำงอของเขา

    ทำอย่างนี้จะดีเหรอจ๊ะหนูพริม  นมอุ่นถามขึ้น เมื่อรู้ว่าที่เจ้าพ่อเหมืองทำอยู่นั้น เพราะคำสั่งและฝีมือของพริริสา

    แค่นี้ยังน้อยไปค่ะ สำหรับคุณหนูของนมอุ่น พริมไปนะคะ ต้องไปสั่งงานเสียหน่อย พูดจบก็ส่งยิ้มหวานให้ก่อนจะเดินอุ้ยอ้ายออกไปที่สระว่ายน้ำ

    เร็วๆนะคะ พี่กาย แดดใกล้จะร่มแล้ว เธอว่าก่อนจะค่อยๆหย่อนสะโพก นั่งลงกับเก้าริมสระ นึกขำเจ้าพ่อเหมืองอยู่ในใจ

    สกายใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงในการจัดการเปลี่ยนน้ำและขัดพื้นให้เธอ ก่อนจะมานอนแผ่ หมดแรงอยู่ข้างๆที่หญิงสาวนอนหลับอยู่ แล้วก็พาลนึกเคืองใช้เขาทำงาน น้ำก็ไม่มีให้กิน แถมตัวเองยังมานอนหลับอย่างสบาย

    พริม เสร็จเรียบร้อยแล้ว  เขาเข้ามาเขย่าตัวคนที่กำลังนอนหลับฝันหวาน

    หือ!! ว่าอะไรนะคะ

    พี่บอกว่า พี่จัดการสระว่ายน้ำให้แล้ว จะลงไปเล่นก็เล่นเลย”  เขาพูดขึ้น ด้วยความเหนื่อยหอบ ก่อนจะไปคว้าเอาแก้วน้ำส้มคั่นของเธอมาดื่มจนหมดแก้ว

    อ่ะ นั้นมันน้ำส้มของพริมนะ เธอว่า แต่ชายหนุ่มกลับทำแค่ยักไหล่ ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้กลับไปให้

    พริริสาชะเง้อ คอมองออกไปยังสระว่ายน้ำที่ตอนนี้มันใสสะอาดน่าเล่น ด้วยน้ำสีฟ้าอ่อนๆที่เพิ่งผสมคลอลีนลงไป แล้วก็ต้องหันมาส่งยิ้มยียวนให้ชายหนุ่ม

     “อืม! น่าเล่นมากเลยค่ะ แต่พริมเปลี่ยนใจ ไม่เล่นดีกว่า กลัวจมน้ำค่ะเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตนเองว่ายน้ำไม่เป็น พริริสาบอกพร้อมกลั้นยิ้ม 

    ไปทานของว่างกันดีกว่าค่ะ พริมให้พี่เอมเตรียมไว้รอแล้ว เธอบอก ก่อนจะลุกเดินออกไป ทิ้งให้สกายนั่งอึ้ง  อ้างปากค้างอยู่ตรงนั้นเพราะโดนพริริสาหลอก เขาลืมไปได้ยังไงว่าเธอว่ายน้ำไม่เป็น ก่อนจะมองตามร่างที่อวบอิ่มของพริริสา แล้วคาดโทษไว้ในใจ

    ตลอดถึงวัน เขาทุกใช้งานไม่ได้หยุดหย่อน ตั้งแต่ทานอาหารว่างเสร็จ เธอก็ใช้ชายหนุ่มไปล้างรถ ตัดหญ้า โดยไปยืนคุมอยู่ห่างๆ ถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัว  แถมท้ายด้วยการอาบน้ำให้ลูกหมาพันธ์ โกลเดิ้นรีทรีฟเวอร์อีกสามตัว ที่คุณหญิงซื้อมาไว้เฝ้าบ้าน ตกเย็นก็ยังต้องทำอาหารให้เธอทาน โดยเธอสั่งว่าห้ามใครช่วย อุปกรณ์สื่อสาร ร่วมทั้งกระเป๋าสตางค์ ก็ถูกพริริสายึด  โดยเธอให้เห็นผลง่ายๆว่า กลัวชายหนุ่มทนไม่ได้แล้ว หนีออกไปค้างข้างนอก ตกดึกก็เข้าห้องนอน แล้วล็อคประตูอย่างแน่นหนา ไม่ยอมให้สกายเข้าใกล้

    ผ่านไปได้หนึ่งคืนกับอีกสองวัน ที่สกายยังต้องยอมทำตามใจพริริสา โดยชายหนุ่มก็ยอมทำ แม้จะมีคัดค้านและทักท้วงอยู่บ้าง แต่ก็ต้องยอมจำนนต่อวาจาอันร้ายกาจตัดพ้อนั้นของเธอ โดยคำที่เธอมักจะใช้อยู่ประจำจนเขาเถียงไม่ออก และไม่กล้าเถียง นั้นก็คือ พ่อเขาคงไม่รักแม่กับลูกแล้ว เพียงแค่ได้ยินคำว่าเขาไม่รักเธอ ไอ้อาการต่อต้านทั้งหลายเหล่ก็หายไปจนต้องยอมให้เธออยู่ร่ำไป 

    คืนนี้เขาเลยจะหาทางเข้าหาพริริสาให้ได้  ขอดีๆแล้วไม่ยอมให้เข้าไป ก็จะงัดประตูเข้าไปนั้นแหละ ไม่เอาด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยมนต์ ไม่ได้โดยมนต์ ก็เอาความหน้ามึนของตนเอง

    หลังจากพริริสาทานอาหารเสร็จ เธอก็เข้าห้องไป ทิ้งให้ชายหนุ่มเก็บกวาดตามลำพังเหมือนอย่างเคย สกายก็ยินดีทำและไม่ปรี่ปากบ่นอีก เพราะวันนี้เขาจะ เป็นหนุมารแปลงกายเข้าไปหานางสีดาให้ได้     

        หลังจากอาบน้ำเสร็จ พริริสาก็เปิดประตูห้องออกมาเพื่อที่จะขอนมเอมอรดื่ม เพราะวันนี้นางไม่ได้เอามาให้ หรือว่านางจะลืม แต่ก็น่าแปลกใจเพราะปกติที่พริรสามานอนที่นี่ นางไม่เคยลืมเลยสักวัน แล้วทำไมวันนี้นางถึงลืมล่ะ  

    ส่วนคนที่รอโอกาสอยู่แล้ว เมื่อเห็นพริริสาเปิดประตูแล้วเดินออกไป ก็รีบหายตัวเข้าไปในห้องเธอแทบจะทันที ก่อนจะไปซ่อนอยู่มุมห้อง เพื่อไม่ให้คนที่เดินออกไป กลับเข้ามาเห็น

    หลังจากได้นมดื่มให้ลูกน้อยเรียบร้อยแล้วพริริสา ก็รีบกลับเข้ามาในห้อง แล้วไม่ลืมที่จะหันซ้ายหันขวา สำรวจรอบๆห้องเธอก่อนเพราะเกรงว่าเจ้าพ่อเหมืองจะเล่นไม่ซื่อ ยิ่งเห็นแววตากรุ่มกริ่มของเอมอรตอนที่เธอเข้าไปหานมกิน เธอไม่ค่อยอยากจะไว้ใจเลย กลัวนางกับเจ้าพ่อเหมืองจะร่วมหัวกันแกล้งเธอ

    พริริสาล้มตัวลงนอน อย่างอารมณ์ดี  ก่อนจะเอื้อมมือไปปิดสวิทช์ไฟตรงหัวเตียง แล้วหันมาคุยกับลูกน้อยในท้อง นอนได้แล้วนะคะคนดี คืนนี้ห้ามดิ้นแรง ห้ามแกล้งแม่อีกนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ เธอบอกลูกน้อยอีกครั้ง ก่อนจะล้มตัวลงนอน ไม่อาจรู้เลยว่า มีใครกำลังยืนยิ้มอย่างอบอุ่นอยู่ ยามที่เห็นเธอพูดคุยกับลูกน้อยในท้อง

    สกายค่อยๆย่องเข้ามา ในความมืด ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าพริริสาแล้วโน้มหน้าลงมามองเธอใกล้ๆ ยามหลับใหล พริริสาช่างดูน่ามอง ยิ่งตอนนี้แก้มสองข้างกำลังอิ่มเอิบเพราะร่างก่ายที่อวบอั๋น ทำให้สกายเผลอโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ แล้วจูบพิศลงไปกับแก้มป่อง ของเธออย่างอดใจไม่ได้ และนั้นทำให้คนที่ยังไม่หลับ ต้องตกใจลืมตาตื่นขึ้นมา

    อร๊าย ... พี่กาย อย่าเข้ามานะ พี่กำลังละเมิดข้อตกลงของพริมอยู่ 

    โธ่! พริมพี่อุตส่าห์ ยอมทำตามที่พริมสั่งทุกอย่างแล้ว พี่ขอนอนกอดพริมกับลูกหน่อยนะ เขานั่งลงกับเตียงและพูดออดอ้อนเพื่อให้เธอเห็นใจ

    ไม่ได้คะ  ข้อตกลงก็คือข้อตกลง ถ้าพี่ละเมิดพรุ่งนี้พริมจะกลับบ้านทันที 

    สกายคอตก มองเธอตาละห้อย นี่ตกลงพริริสาแกล้งเขาหรือตั้งใจเอาคืนเขากันแน่ “ งั้นพี่ขอคุยกับลูกก่อนได้มั้ย  เขาขอเธออีกครั้งพริริสานั่งใช้ความคิดอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนจะพยักหน้ารับ

    แค่คุยนะคะ

    ครับ แค่คุยครับ  สกายยิ้มของมาอย่างดีใจ ก่อนจะขึ้นมานั่งขัดสมาธิ อยู่บนเตียงแล้วโน้มหน้าไปใกล้ๆท้องของพริริสา  แต่เพราะผ้าห่มผืนหนา มันแกะกะและบังหน้าท้องของเธอ  ชายหนุ่มจึงดึงมันออก แล้วถือวิสาสะตอนที่พริริสาเผลอ  จับเสื้อเธอถกขึ้นไปไว้ใต้ราวนม

    อร้าย ไหนบอกจะคุยกับลูกไง พริริสาทักท้วงเพียงแค่เธอเผลอเอื้อมแขนไปเปิดไฟหัวเตียง เขาก็ทำเกินที่พูด

    ก็จะคุยกับลูกไง แต่เสื้อกับผ้าห่มมันบังมองเห็นลูกไม่ชัด แก้ตัวแบบน้ำขุ่นๆ จนพริริสาค้อนให้ กลัวเห็นหน้าลูกไม่ชัด ช่างกล้าพูดนะ

    เมื่อเห็นพริริสาไม่ขัดขืนอีก  เขาเลยอาศัยความหน้ามึน จุ๊บลงไปกับหน้าท้องเต่งตึงนั้น  “ผู้หญิงหรือผู้ชาย เขาช้อนตาขึ้นไปถามพริริสา           

    ไม่รู้ อยากรู้ไว้ลุ้นตอนเกิดโน้น!!”  เธอตอบโดยไม่ต้องคิด

    พี่ว่าต้องเป็นหญิงแน่เลยเพราะพริมสวยแถมขี้บ่น และเจ้าอารมณ์อีก เข้าแกล้งยั่วเธอบ้าง  

    ขี้บ่นก็ปล่อยให้กลับบ้านสิ มารั้งไว้ทำไม  เธอตอบก่อนจะจับเสื้อลงมาปิดหน้าท้องตนเองเหมือนเดิม สกายหัวเราะอยู่ในลำคอ กับท่าทางแง่งอนของคนตรงหน้า ก่อนจะโน้มตัวลงไปนอนบนตักของพริริสาแล้วหันหน้าเข้าไปทางหน้าท้องของเธอ

    พี่ขอโทษนะพริม ที่ผ่านมา พี่ไม่เคยมาดูแลพริมเลย พี่รู้ว่าพี่อาจจะเป็นพ่อที่ไม่ดี ที่ไม่เคยดูแลพริมกับลูก แต่วันนี้พี่รู้แล้วอะไรสำคัญกับพี่มากที่สุด พริมจะให้อภัยและยกโทษให้กับผู้ชายนิสัยไม่ดีอย่างพี่ได้ไหม” เขากระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น แต่เมื่อรู้ตัวว่ากลัวเธออึดอัด จึงคลายลงเล็กน้อย

    พริริสาพูดไม่ออก เธอนั่งนิ่งจนสกายคิดว่าเธอจะไม่ให้อภัยเขา แต่แล้วจู่ๆมือเรียวก็ยกขึ้นมาปัดลูบเส้นผมของชายหนุ่มเบาๆ พริมไม่ให้อภัยพี่หรอกคะ ไม่ยกโทษให้ด้วย สกายหน้าเสียขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อได้ยินพริริสาเอ่ยออกมาเช่นนั้น ก่อนจะยิ้มแก้มปรี่ เมื่อได้ยินประโยคต่อไป  “เพราะพริมไม่เคยโกรธพี่ได้เลยสักครั้ง

    สกายลุกพรวดเมื่อได้ยินคำตอบของพริริสา “จริงๆใช่มั้ย พริมไม่โกรธไม่งอนพี่แล้วใช่หรือเปล่า” เขาถามย้ำเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง

    ค่ะพริริสายิ้มรับ

    งั้นเรานอนกันเถอะ ลูกจะได้พักผ่อนเมื่อได้ยินว่าพริริสาไม่โกรธ ก็ทำเนียนเข้าไปมุดตัวใต้ผ้าห่มกับเธอ

    ค่ะ พริมไม่โกรธพี่แล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าพี่จะมานอนที่นี่กับพริมได้ โน้นประตูกลับห้องตนเองไปเลย เธอชี้นิ้วไปทางประตู แล้วบอกเจ้าพ่อเหมือง

    โธ่ พริมไม่โกรธแล้ว พี่นอนกอดลูกกอดเมียที่นี่ไม่ได้หรือ  เริ่มทำเสียงเศร้า เรียกร้องความเห็นใจอีกครั้ง

    ไม่ได้ค่ะ มันคนละเรื่องกับข้อตกลง เชิญค่ะพริมกับลูกจะนอนแล้ว เธอว่า พร้อมพายมือเชิญเจ้าพ่อเหมืองออกจากห้อง

    สกายกุมหน้างุด เหมือนเด็กน้อยโดนขัดใจ ก่อนจะล้าถอยหลังลงเตียง แล้วเดินออกไปจากห้อง แต่ก็ไม่วายหันมาเว้าวอนพริริสาอีกครั้ง ไม่ให้นอนด้วยจริงๆเหรอ

    ม่ให้ ออกไปได้แล้วพริมกับลูกจะพักผ่อน ทำเสียงเข้มและ ส่งสายตาดุไปให้ด้วย จนสุดท้ายสกายเลยต้องยอมจำนนเดินคอตกออกไปจากห้องอย่างไม่มีข้อแม้ใดๆอีก     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×