ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์วิวาห์เจ้าชายมาเฟีย (พริม สกาย)

    ลำดับตอนที่ #5 : บททดสอบ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.68K
      4
      7 ก.ย. 58

     บทที่5 บททดสอบ

     

    หาทางกลับบ้านเจอด้วยเหรอ ยัยพริม หมู่นี้แกกลับบ้านดึกดื่นค่อนคืนทุกวันเลยนะ ไปทำงานหรือทำอย่างอื่นกันแน่” เสียงเหน็บแนมของลินลณีพูดขึ้น เมื่อเห็นพริริสาก้าวขาเดินเข้าบ้านมา

    พริริสาได้แต่ลอบถอนหายใจ กับวาจาเชือดเฉือนของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่สาว นี่หล่อนไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้กันแน่ว่าทำไมเธอต้องกลับบ้านมามืดค่ำแทบทุกวัน ก่อนจะเลี่ยงเดินอ้อมไปอีกทางเพราะไม่อยากจะเสวนาด้วย กลัวว่าหล่อนจะชวนทะเลาะอีก

     “นังพริม!!!หูแกหนวกหรือยังไง ถึงไม่ได้ยินที่ฉันถาม”  เสียงแหลมปริ๊ด ปรอทแตกของลินลณีถามขึ้นอีกครั้งด้วยความโมโห เมื่อพริริสาทำเป็นหูทวนลม กับคำพูดของหล่อน พร้อมลุกขึ้นชี้หน้าด่าพริริสาอย่างเดือดดาล

    ได้ยินคะ ได้ยินเต็มสองหูเลย แต่พริมคิดว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องตอบคำถามพี่ลิน ในเมื่อพี่ลินก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว” พริริสาฝืนพูดด้วยความอ่อนใจ จะมีวันไหนบ้างไหม ที่ลินลณีจะพูดดีๆกับเธอบ้าง นี่เธอไปทำอะไรผิดหนักหนา ลินลณีถึงไม่เคยพูดจากับเธอดีๆเลยสักครั้ง

    ได้ยินแล้ว ทำไมแกไม่ตอบคำถามฉัน หน๊อย!!ปีกกล้าขาแข็งหน่อยทำมาเป็นแข็งข้อกับฉันนะ แกนี่มันอกตัญญูจริงๆ สมควรแล้วล่ะที่แกเกิดมาเป็นเด็กกำพร้า ขนาดพ่อแม่แกยังไม่ต้องการแกเลย ฉันละสมเพชแกจริงๆลินลณีได้ทีขุดปมด้อยของพริริสาขึ้นมาพูด พร้อมหัวเราะเยาะถากถาง ในความอาภัพของหญิงสาว จนคนฟังเม้มปากกัดฟันและกำมือแน่ เพื่อระงับความโกรธที่กำลังจะก่อตัวขึ้นมา   เมื่อถูกลินลณีตอกย้ำความจริงที่เจ็บปวดของเธอ

    พี่ลินมันจะมากไปแล้วนะคะ “  พริริสาพูดเสียงสั่นคลอ  เธอกำลังโกรธแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรมากไปกว่า การยืนนิ่งและฟังคำพูดแดกดันจากผู้เป็นพี่ ที่ไม่เคยคิดว่าเธอเป็นน้องสาว

    มันยังน้อยไป สำหรับคนอย่างแก แกจำใส่หัวสมองของแกเลยนะ ว่าครอบครัวของฉันมีบุญคุณกับแกมากแค่ไหน ข้าวแดงแกงร้อนที่ทำให้แกเติบโตมาจนทุกวันนี้ มันก็มาจากเงินของพ่อแม่ฉันทั้งนั้น อย่าสะเออะอวดดีกับฉัน ถ้าแกยังอยากจะอยู่บ้านหลังนี้ อย่างสงบสุข”   ลินลณีร่ายยาว โดยไม่ได้สนใจความรู้สึกของญาติผู้น้องเลยสักนิด ว่าเธอจะรู้สึกยังไง ก่อนจะเดินเข้ามาหาพริริสา พร้อมใช้นิ้วชี้ผลักไปที่ศีรษะของเธออย่างแรง จนพริริสาที่ไม่ได้ทันได้ตั้งตัว ถึงกับล้มจ้ำอ้าวลงไปกับพื้น              

    ลินลณีจ้องมองหญิงสาว ที่ล้มลงไปกับพื้นด้วยสายตาเคียดแค้นและชิงชัง หล่อนไม่เคยเห็นว่าพริริสาเป็นน้อง เพราะตั้งแต่บิดาและมารดาเอาเธอมาเลี้ยง พริริสาก็มาแย่งทุกสิ่งทุกอย่างไปจากหล่อน

    ถ้าไม่มีแกสักคน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของแกมันต้องเป็นของฉัน ฉันจะเอาทุกอย่างที่เป็นของแก มาเป็นของฉันให้หมด เคยดูแล้วกัน  ลินลณีคิดแค้นพริริสาอยู่ในใจ

    จำไว้นะนังพริม ปราบใดที่แกยังหาเงินมาชดใช้หนี้สินของพ่อแม่ฉันไม่ได้ แกก็ไม่สิทธิ์จะมาอวดดีกับฉัน”   ลินลณีใช้มือเข้าไปกระชากผมของพริริสาที่นั่งอยู่ตรงหน้า ให้ลุกขึ้นยืน เมื่อสายตาเหลิบไปเห็นชายหนุ่มอีกคนกำลังเดินตรงมาหาทางหล่อนและเธอ

     “โอ๊ย !! พี่ลิน พริมเจ็บ”   พริริสาอวดครวญเมื่อลินลณีใช้มือกระชากผมเธอให้ลุกขึ้นยืน

         กลับขึ้นห้องของแกไป แล้วอย่าสะเออะลงมายุ้มหย่ามข้างล่างล่ะลินลณีสั่งพริริสาอีกครั้งก่อนจะยอมปล่อยมือของจากเส้นผมของเธอ

    คุยอะไรกันอยู่ครับเสียงชายหนุ่มอีกคนที่เพิ่งเดินเข้ามาถึง หยุดพูดขึ้น เมื่อเห็นทั้งสองทำท่ารุกรี้รุกรนพิกล

    อ้าว..คุณต้น เปล่าค่ะไม่มีอะไร มาเร็วกว่าที่คิดนะคะ  ลิลลี่ก็แค่มาบอกน้องว่าจะออกไปข้างนอกกับคุณไงค่ะ”  ลินลณีปรับสีหน้าให้เป็นปกติก่อนจะหันมาส่งยิ้มหวานให้กับชายหนุ่มที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่  อย่างแสร้ง เมื่อพ้นจากสายตาของพริริสา

    ผมไม่ยักกะรู้ ว่าลิลลี่มีน้องสาวด้วย”  ชายหนุ่มปลายตาขึ้นมองใบหน้าหวาน ที่ยิ่งมองก็ยิ่งหน้าดูยิ่งนัก จะติดก็ตรงแววตาแสนเศร้าคู่นั้นของเธอนั้นแหละ ที่มันช่างดูขัดตาเขาเหลือเกิน นี่ถ้าเธอยิ้มให้เขาสักนิดเธอคงจะดูน่ารักมากกว่า สีหน้าเรียบเฉยของเธอในยามนี้อย่างแน่นอน

    ออ คะ บังเอิญน้องสาวของลิลลี่แกชอบเก็บตัวอยู่กับบ้านนะค่ะ ก็เลยไม่ค่อยมีใครรู้ว่าลิลลี่มีน้องสาว

      “จริงมั้ยจ๊ะพริมพูดพร้อมหันมาส่งสายตาดุให้พริริสา แล้วบุ้ยปากให้รู้เป็นเชิงให้ออกไปจากตรงนั้น

    ค่ะ จริงค่ะ พริมขอตัวก่อนนะคะ สวัสดีค่ะพริริสาฝืนยื้มให้ชายหนุ่มตรงหน้าเธอ ก่อนจะยกมือขึ้นมาไหว้แล้วขอตัวออกไปจากตรงนั้น มันเป็นรอยยิ้มสวยที่เศร้ายิ่งนัก ในสายตาของชายหนุ่ม

                   ออ เชิญครับ

    อย่าไปสนใจแกเลยค่ะคุณต้น ยัยพริมแกก็เป็นแบบนี้แหละ เราไปกันเถอะค่ะลิลลี่พร้อมแล้ว” ลินลณีแสร้งทำเป็นเปลี่ยนเรื่องคุย แล้วชวนชายหนุ่มออกไป เมื่อเห็นว่าเขามีท่าทีสนใจพริริสาขึ้นมา

    ครับชายหนุ่มพยักหน้าให้หล่อนรับรู้แต่ก็ไม่วายเหลือบมองไปตามร่างเล็กที่หายแว้บเข้าไปในตัวบ้านด้วยความเสียดาย

    ต้นน้ำ สุริยะจักร ไฮโซหนุ่มเจ้าสำราญ รูปหล่อพ่อรวย ที่เพิ่งรู้จักกับลินลณีได้ไม่ถึงเดือน ในฐานะฟรีเซนเตอร์คนใหม่ที่บริษัทโฆษณาของหล่อนจ้างให้มาเป็นนายแบบ ด้วยความหล่อ เท่ห์ สมาร์ พ่วงท้ายด้วยดีกรี ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง เจ้าของห้างดัง ทำให้ต้นน้ำ มีสาวๆหลายคนหมายตาอยากจะเป็นคู่ควงแบบแนบเนื้อ ไม่เว้นแม้กระทั้งลินลณี ที่บังเอิญได้ร่วมงานกับเขา และได้มีโอกาสพูดคุยกันจนถูกคอ จึงไม่ยากนัก ที่คนช่างคุยอย่างลินลณีจะตีสนิทกับ ชายหนุ่มได้อย่างรวดเร็ว จนถึงขั้นไปไหนมาไหนด้วยกันสองต่อสอง โดยไม่แคร์สายตาสื่อ ที่จับตามองคู่ควงคนต่อไปของชายหนุ่ม

    วันนี้ลิลลี่สวยจังครับ” เมื่อเดินพ้นขอบประตูรั่วบ้าน ต้นน้ำก็หยอดคำหวานด้วยคำพูดชวนฝันทันที

       “ขอบคุณค่ะ คุณต้นชมแบบนี้ ลิลลี่ก็เขินแย่สิคะ” ลินลณีทำท่าเอียงอาย ได้อย่างน่าหมั่นไส้ ทำไมหล่อนจะไม่รู้ว่าชายหนุ่มต้องการอะไร

                   “ผมพูดเรื่องจริงนี่ครับ”  บอกพร้อมส่งสายตากรุ้มกริ่มกลับไปให้ จนคนถูกมองแทบละลายเพราะสายตาอันร้ายกาจนั้น

    แหมคุณต้นละก็ ว่าแต่วันนี้คุณจะพาลิลลี่ไปไหนคะถามด้วยแววตาใสซื่อบริสุทธิ์  แน่นอนลินลณีไม่มีทางปล่อยให้ต้นน้ำหลุดมือไปได้ง่ายๆ ในเมื่อตอนนี้เขาเหมือนบ่อเงินบ่อทองที่หล่อนควรจะกอบโกยเอาให้ได้มากที่สุด

    ลิลลี่อยากไปไหนละครับต้นน้ำถามเพื่อหยังเชิง รู้ว่าผู้หญิงตรงหน้าเลห์เหลี่ยมแพรวพราวแค่ไหน ดูได้จากหลายครั้งที่ผ่านมาเขาต้องเสียเงินเสียทอง เพื่อตามใจเธออยู่หลายครั้ง

      “ลิลลี่ตามใจคุณคะ” ลินลณีตอบอย่างมีจริตจะก้าน สายตาเชื้อเชิญอย่างปิดไม่มิด พร้อมกับเอียงคอเข้ามาซบไหล่กว้างของชายหนุ่มอย่างออดอ้อน

    ตกลงตามใจคนขับนะครับ” ต้นน้ำเอี้ยวตัวมาเปิดประตูรถให้ลินลณี ก่อนจะส่งสายตาสื่อความหมายอะไรบ้างอย่างที่รู้กันแค่สองคน

    ค่ะ ลิลลี่ตามใจคุณ

       หลังจากเปิดประตูรถให้ลินลณีขึ้นไปนั่งเรียบร้อยแล้ว ต้นน้ำก็เดินอ้อมไปอีกทางเพื่อไปนั่งยังฝั่งคนขับ แต่สายตากลับมองเข้าไปอยู่ตัวบ้านสีขาวอย่างใช้ความคิด ใบหน้าหวานของพริริสากับดวงตาแสนเศร้าคู่นั้นของเธอ ยังติดตาติดใจเขาอยู่ ทำไมผู้หญิงอย่างพริริสาถึงได้มีแรงดึงดูดอะไรบางอย่าง ที่ทำให้เขาอยากเข้าไปทำรู้จักและอยู่ใกล้ๆ ทั้งทีทั้งสองคนเป็นพี่น้องกัน แต่กลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในสายตาของต้นน้ำ

    โดยเฉพาะแววตาของพริริสาที่มันปนไปด้วยความเศร้าจนยากที่จะค้นหา แต่ดวงหน้าเธอกลับหวานหยดย้อยชวนมอง ในขนาดที่ลินลณี มีใบหน้าที่สวยคม แววตาเป็นประกายด้วยเล่ห์เหลี่ยมเกมโกง  จนบางคนที่ไม่รู้ทันเธอ อาจจะตกเป็นเหยื่อของหล่อนได้โดยง่าย

     และในขณะที่คนพี่ เป็นคนช่างพูดช่างคุย แต่คนน้องกลับเงียบขรึม ไม่น่าเชื่อว่าทั้งสองคนจะเป็นพี่น้องกันจริงๆ  เพราะแค่การวางตัวและพูดจาก็พอจะดูออกแล้ว แต่ต้นน้ำก็ต้องหยุดความคิดทั้งหมดลง เมื่อลินลณีเคาะกระจกเรียกจากด้านในรถ ด้วยสีหน้าที่ค่อนไปทางไม่พอใจ เมื่อเห็นว่าเขายื่นเหม่อมองเข้าไปในบ้านนานแล้ว

    คุณต้น ไปกันได้หรือยังคะน้ำเสียงฟังดูหงุดหงิด

    ออครับ ขอโทษครับ ผมกำลังคิดเรื่องงานอยู่นะครับ”  ต้นน้ำแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ ก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้กับหญิงสาวที่นั่งปั้นหน้าบึ้งอยู่ในรถ

    ไม่เอานะลิลลี่ หน้าบึ้งแบบนี้ไม่น่ารักเลยไปกันเถอะ ผมหิวแล้ว “ ต้นน้ำพูดตัดบท ก่อนจะส่งสายตาสื่อความหมายจนคนที่ถูกจ้องรู้สึกร้อนผ่าวไปที่ใบหน้า

    พริริสา นั่งอยู่ตรงระเบียงห้องอย่างเหนื่อยล้า รอยยิ้มความสดใส ความร่าเริง หายไปจากเธอ ตั้งแต่เธอรับรู้ถึงภาระที่เธอกำลังแบกไว้ จะให้เธอยิ้มหัวเราะเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลยได้ยังไง ในเมื่อสิ่งที่เธอต้องรับผิดชอบ มันหนักหนาเกินไปสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอ เงินตั้งหลายล้าน เวลาแค่สามเดือนเธอจะมีปัญญาที่ไหนหามาใช้หนี้ได้ คำพูดของลินลณีก็ยังวนเวียนอยู่ในหัว “บุญคุณ และความ กตัญญู “   เมื่อไหร่เธอถึงจะหลุดพ้นกับคำเหล่านี้ซะที เมื่อทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้ก็ ได้แต่ก้มหน้าก้มตายอมรับชะกรรม และร้องไห้ออกมาเพื่อระบายสิ่งที่อัดอั้นตันใจ และได้แต่หวังกับตนเองว่าสักวันหนึ่งเธอจะหลุดพ้นกับสิ่งที่เป็นอยู่เท่านั้นเอง

               

    คอนโดหรูใจกลางเมืองหลวง

      ร่างอวบอิ่ม ของลินลณีอยู่ในชุดซีทรูสีดำ กำลังแนบเนื้ออยู่กับบุรุษใบหน้าคมเข้ม  ชายหนุ่มที่สวรรค์ประทานความเฟอร์เฟ็ค มาให้อย่างครบเครื่องสมบูรณ์แบบ ร่างใหญ่กำยำสมชายชาตรี มีเพียงกางเกงบล็อคเซอร์ตัวจิ๋วที่ปกปิด ลำท่อนใหญ่เอาไว้ เผยให้เห็นอกแกร่ง และซิกแพ็คเป็นหมัดๆอยู่ตามหน้าท้องแข็งแกร่งนั้น ยิ่งไรขนอ่อนๆที่แซมอยู่ตามลำตัว ยิ่งทำให้ชายหนุ่มเซ็กซี่ และมีเสน่ห์ขึ้นอีกเท่าตัว

    ลิลลี่คุณสวยเหลือเกินเสียงต้นน้ำดังขึ้นในขณะที่ยังคลอเคลีย อยู่ตรงซอกคอของลินลณี ก่อนจะเลื่อนขึ้นมาควานหาน้ำหวานในโพรงปากของหล่อน เนินนานกับการจูบหนักๆลงบนปากสวย ชายหนุ่มผละออกจากริมฝีปากบางรูปกระจับ ก่อนจะซุกไซ้ ไล่ลงมาตามซอกคอ และเนินเนื้ออวบอิ่มที่ชูชัน  เย้ายวนให้ลิ้มลองเพราะความเสียวกระสัน ก่อนที่เมื่อใหญ่จะเลือนเอาชุดซีทูรสีดำ ที่ปกปิดหน้าอก หน้าใจ นั้นทิ้งไป แล้วใช้ปาก ดูดดื่ม ตะวัดเลีย ดอกไม้บานสีชมพูคู่นั้น อย่างกับเด็กน้อยเจอขนมหวาน

    อื้อ......เสียงลินลณีครางกระเส่า เมื่อมือใหญ่ยังคงลูบไล้ไปตามเนื้อตัวไปหยุดหย่อน

    มือหนึ่งนวดคลึง บีบเค้น จนร่างเล็กบิดกาย เอี้ยวตัวดังคันธนูแหลม เมื่อความกระสัน แผ่อำนาจให้เรียกร้องหา สองมือเลือนขึ้นมาจับเส้นผมนุ่มของชายหนุ่ม ก่อนจะจับกดไป ตามแรงแห่งความเสียวซ่าน พร้อมเสียงครวญครางกระเส่า เพราะความซาบซ่าน บทรักเพิ่งเริ่มต้น และคืนนี้กว่ามันจะจบลงก็คงจะเกือบรุ่งสาง เมื่อร่างบางที่กอดรัดอยู่นั้น ช่างน่าโลมเลียและเคล้าคลึงไปหมดทั้งตัว

       ลินลณีถือได้ว่า ลีลาเร้าร้อนไม่แพ้ หญิงใดที่เขาเคยผ่านมา อาจจะช่ำชองกว่าด้วยซ้ำ เมื่อบทรักที่เธอกำลังบรรเลงอยู่ มันเรียกร้องความกระหายสวาทให้หนุ่มเจ้าราญอย่างต้นน้ำได้เป็นอย่างดี

    ชายหนุ่มไม่หยุดการกระทำอยู่เพียงเท่านั้น เมื่อเห็นร่างเล็กที่นอนบิดกายอยู่ใต้ร่าง ครางกระเส่า เขาค่อยๆบรรจงจูบไปทั่วร่าง ก่อนจะเลือนลงมาต่ำยังหน้าท้องแบนราบและสะดือบุ๋ม ปลายลิ้นตวัดกวักแกวง อย่างผู้ช่ำชอกในศึกรักครั้งนี้ ก่อนจะใช้มือจับขาของเธอให้แยกออก แล้วซุกใบหน้าลงไปกับกลีบดอกเกสรสีแดงระเรื่อนั้น

     ลินลณีสะท้านไหว เมื่อใจกลางของหญิงสาวถูกรุกรานด้วยลิ้นหนา อย่างหนักหน่วง ปลายลิ้นดูดเลีย ตวัดกวักแกว่ง ไปตามอารมณ์ความต้องการของเจ้าตัว  ก่อนธารน้ำขุ่นจะไหลออกมา เปรอะเปื้อน ไปตามกลีบกุหลาบงามนั้น

    เมื่อเห็นว่าลินลณี พร้อมแล้วกับการรับศึกหนักครั้งนี้ ต้นน้ำก็ไม่รอช้า รีบจัดการถอดบล๊อกเซอร์ตัวจิ๋วออก แล้วจับขาเรียวนั่นแยกออก ก่อนจะโน้มตัวลงมาจับเจ้าท่อนใหญ่สอดใส่เข้าไปในถ้ำลึกของหล่อน ความใหญ่โตทำให้ปากถ้ำนั้น ตอดรัดเจ้าท่อนใหญ่เอาไว้แน่น

      ไม่น่าเชื่อว่าลินลณีจะยังคงฟิตแน่นแบบนี้ ต้นน้ำคิดอยู่ในใจ แต่ไม่ได้เอ่ยออกมาให้ลินลณีได้ยิน

    ร่างเล็กเอนตัวบีบรัดร่างใหญ่ด้วยความเสียวซ่าน ก่อนที่ชายหนุ่มจะดันเจ้าท่อนใหญ่ จนมิดสุดลำ แล้วขยับสะโพกไปตามจังหวะรักที่ลุกโชน!! จวบจนรุ่งสาง สงครามบนเตียงจึงสิ้นสุดลง พร้อมๆกับการหลับใหล ของต้นน้ำและลินลณี ภายใต้ห้องกว้างที่อบอวลไปด้วยไฟสวาทที่เพิ่งมอดลง

     

          รัฐ เซาเวสน์

       ตากาย นี่เราเก็บของ เสร็จหรือยังลูก พรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแล้วนะ” เสียงของคุณหญิงฟ้าลดาดังขึ้น เมื่อนางบังเอิญเดินผ่านมาเห็นชายหนุ่ม นอนเอกเขนงอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ในห้องรับแขก  

       ผมสั่งให้แม่บ้านจัดให้เรียบร้อยแล้วครับ คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วง “ พูดพร้อมยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะหันมาออดอ้อนมารดา ด้วยการเข้าไปนั่งใกล้ๆแล้วบีบนวดให้

        “ไม่ต้องมาทำแบบนี้กับแม่เลยตากาย มีอะไรก็พูดมาตรงๆ”  เมื่อเห็นว่าสกายเข้ามาบีบนวดให้ นางก็รู้ได้ทันทีว่าบุตรชาย ต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ ที่จะมาขอให้นางช่วย สกายก็ยังคงเป็นสกายในแบบที่นางรู้จักเสมอ เมื่อต้องการอะไรก็จะมาออดอ้อนนาง ทั้งคำพูดและการกระทำ จนนางเองก็ไม่อยากจะชื่อ ว่าบุตรชายของนางจะกายเป็นราชสีห์ผู้ยิ่งใหญ่ ที่ใครต่อใครพบเห็นแล้วต้องยำเกรง ในความแข็งแกร่งของเขา แต่สำหรับนางสกายก็ยังคงเป็นเด็กหนุ่มทั่วไป ที่ยังคงไว้ด้วยความเป็นเด็กในสายตาของนางเสมอ

    คุณแม่นี่รู้ใจผมตลอดเลยนะครับ

      อ้าวนี่แม่นะ เลี้ยงลูกมายังแต่อ้อนแต่ออด ทำไมแม่จะมองไม่ออกว่าเรากำลังคิดอะไรอยู่  ไหนมีอะไรว่ามาสิ แม่รอฟังอยู่ 

                   คือ ผมมีเรื่องขอร้องคุณแม่นะครับ”  ทำสีหน้าจริงจัง

       “มีอะไรก็ว่ามา

      “ระหว่างที่ผมกลับไปอยู่เมืองไทย ผมไม่อยากให้ใครรู้ว่าผมเป็นใคร

     “เราหมายความว่าไงตากาย

      คือ ...ในเมื่อคุณแม่อยากให้ผมแต่งงานกับใครสักคนที่ผมรัก  ผมก็อยากให้เธอรักในตัวของผมจริงๆ ไม่ใช่ฐานะชาติตระกูล หรือเงินทองที่ผมมีอยู่สกายทำสีหน้าจริงจังมากขึ้น เมื่อพูดมาถึงประโยคสุดท้าย

    ผมจะกลับเมืองไทย ในฐานะผู้ชายธรรมดา ไม่ใช่ สกาย  อภิเศรษฐกุล  มาร์ตินโคญน์ ทุกคนจะรู้จักผมในนามของ สกายญาติห่างๆของคุณหญิง ฟ้าลดา เท่านั้น

    มันจะดีหรือตากาย คุณหญิงฟ้าลดานิ่งคิดชั่วครู่ เมื่อได้ยินในสิ่งที่บุตรชายได้กล่าวออกมา   นางเข้าใจความรู้สึกของบุตรชายดี ว่ารู้สึกยังไงที่ต้องถูกนางบังคับแต่งงาน แต่จะให้นางทำยังไงก็นางอยากมีหลานนี่ ก่อนจะคลี่รอยยิ้มอ่อนโยนมาให้สกายได้อุ่นใจ

    ก็ได้แม่ตามใจเรา แต่กายต้องสัญญากับแม่ก่อนนะว่า จะมีหลานให้แม่จริงๆ

    ผมสัญญาครับแม่” พูดจบก็เข้าไปสวมกอดและหอมแก้มมารดาฟอดใหญ่  จนนางต้องค้อนให้วงใหญ่เพราะความเอาแต่ใจของพ่อลูกชายตัวดี

                   “เรานี่จริงๆเลยนะตากาย โตแล้วนะลูกเล่นอะไรเป็นเด็กๆไปได้แม้ชายหนุ่มอาจจะดุดัน เยือกเย็น และเฉยชากับคนข้างนอก แต่สำหรับคนในครอบครัว อย่างคุณหญิงฟ้าลดา มารดาผู้ให้กำเนิด สกายจะให้ความสำคัญและแสดงความรักต่อนางเสมอ น้อยคนนักที่จะได้เห็นชายหนุ่ม ในแบบอ่อนโยนและอบอุ่นเช่นนี้

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×