QCON
ดู Blog ทั้งหมด

ว่าด้วย... ต้นตระกูล

เขียนโดย QCON

   เรื่องของเรื่องก็คือ มีคนพิมพ์นามสกุลผมผิด แล้วเรื่องมันก็เลยเถิด...

      แหม... จริงๆนะครับ ผมเป็นคนที่เคราะห์ไม่ค่อยถูกกับการพิมพ์ชื่อ เพราะทันทีที่มีการพิมพ์ชื่อนามสกุลเมื่อไหร่ก็ตาม ไม่อย่างหนึ่งก็อย่างหนึ่งที่ต้องพิมพ์ผิด

      แต่หนนี้พิมพ์ผิดทั้งสอง แถมลงในวารสารโรงเรียนที่แจกให้ผู้ปกครองอีก เอา!

      เพราะนามสกุลดันพิมพ์ว่า "อินต๊ะลื้อ" นี่ละ เรื่องถึงได้เริ่มต้น

      มีคนเดินดุ่มมาถามว่า...
      
      "เป็นคนลื้อเหรอ? หรือว่าไทยใหญ่?"

      ปัดโธ่! ผมไม่ได้นามสกุลอินต๊ะลื้อนะครับ ผิดกันคนละโยชน์เลย แถมไม่ใช่ลื้อ ไม่ใช่ไทยใหญ่ด้วย! ผมเป็น...

    "เราเป็นอะไรนะพ่อ?"

    "เป็นฮ่อ"

    "เป็น... อะไรนะ?"

    "ฮ่อ! ไม่ใช่ฮ่อธรรมดาด้วยนะ เป็นเชื้อขุนเชื้อเจ้าฮ่อเลยนะเออ"

    เรื่องราวก็เริ่มต้นฉะนี้แล...










   จังหวัดน่านมีหลายอำเภอหลายเผ่าพันธุ์ครับ ชนพื้นเมืองคือชาวกาว ซึ่งบางทีจะเรียกว่า ลาวกาว ชาวกาวมีความสัมพันธ์กับชาวลาวที่หลวงพระบางกับชาวไทที่สุโขทัยอย่างแน่นแฟ้น นัยว่ามีบรรพบุรุษร่วมและเกี่ยวดองทางสายเลือดกัน 
    ส่วนชาวลื้อนั้น เป็นชนเผ่าในที่สูง ที่อยู่ใต้การปกครองของเจ้าผู้ครองนครน่าน(หรือ Feudal lord of Nan นั่นเอง) ซึ่งผสมปนเปจนจะเป็นชาวพื้นเมืองอยู่เเล้ว มีครั้งหนึ่งตามประวัติศาสตร์ เกิดกรณีพิพาทฝั่งขวาแม่น้ำโขงขึ้นที่เมืองๆหนึ่ง ซึ่งพลเมืองเป็นชาวลื้อ ฝรั่งเศสพยายามทั้งขู่เข็ญทั้งเอาใจยังไง ชาวเมืองก็ไม่ยอมขออยู่ในอาณัติของฝรั่งเศส ยืนยันจะอยู่ใต้การปกครองของเจ้านครน่านและใต้ธงช้างเผือกผืนแดงของราชอาณาจักรสยาม นั่นแสดงให้เห็นถึงความภักดีของชาวลื้อที่มีต่อเจ้าปกครองตนที่ประจักษ์ให้เห็นครับ
    ส่วนเรื่องไทใหญ่ผมขอข้ามไปนะครับ...


     ทีนี้ก็มาถึงเรื่องฮ่อ... ชาวฮ่อก็คงประมาณชาวจีนจากทางใต้สุดๆที่บ้างมีถิ่นฐานอยู่ในภาคเหนือของไทย แต่ที่น่านนี่ ไม่มีหลักฐานปรากฎว่ามีฮ่ออยู่เยอะเลยนะครับ แล้วบรรพบุรุษของผมจะเป็นฮ่อได้ยังไงน่ะรึ? เรื่องของเรื่องก็คือ...

    ที่เมืองข้างเคียงของน่าน บ้านพี่เมืองน้องที่ชื่อว่าแพร่ มีฮ่ออยู่เยอะ และเห็นจะมีอิทธิพลขนาดเป็นเจ้าเป็นนายเลยด้วย ในสมัยรัชกาลที่๕มีการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองท้องถิ่น ซึ่งเป็นผลเสียต่อฮ่อซึ่งมีอิทธิพลอยู่ ทีนี้พวกเฮียแกเลยก่อกบฎซะเลย เป็นกบฎฮ่อ มีฐานที่เมืองแพร่ ส่วนผลที่ได้นะเหรอครับ? ถ้าชนะเขาคงไม่เรียกกบฏร้อกกก... แพ้ราบคาบเลยนะสิ ทีนี้พอเดาออกได้รึยัง ว่าโคตรเหง้าเผ่าพงศ์ผมมาอยู่ที่น่านได้ยังไงถ้าเป็นฮ่อ?

    ถ้าทายว่า "หนี" มาละก็ถูกเผงเลยครับ เขาเล่าว่า บรรพบุรุษผมหลังจากแพ้ก็ถูกไล่พากันหนีมาเมืองน่าน ซึ่งตอนนั้นเจ้านครน่านก็ภักดีกับสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงมาก ขืนดุ่มๆยกคนเข้าไปมีหวังไม่เหลือรอด เลยพากันอ้อมมาอยู่ส่วนใต้ๆของจังหวัด ห่างๆจากแม่น้ำน่านหน่อย(กลัวเจอด่านตรวจติด"อม็อก"(คือปืนใหญ่)) มาอยู่ที่เมืองลี้(เดี๋ยวนี้ชื่อเมืองลี) แหม มันช่างเหมาะกับคนหนีภัยซะจริงนะนี่~ 





    เท่านี้ละเรื่องที่เล่ากันมา ผมก็หัวเราะสิ เพราะถึงแม้มันจะเป็นจริงก็ไม่เห็นมีหลักฐานที่ว่าเราเป็นเชื้อเจ้า(ตกอับ?)เลยแม้แต่น้อย แต่พ่อก็บอกว่า 

    "คนสมัยก่อนจะมีช้างมีม้าเยอะๆได้ก็มีแต่เจ้าทั้งนั้น แล้วปู่ทวดเราก็มีช้างมีม้าเยอะขนาดให้คนอื่นเช่าได้เลย เงินสมัยก่อนที่เป็นก้อน(พดด้วง?ดอกจอก? สมัยนั้นยังมีอีกเหรอ?)นี่มีเป็นกระบุงๆ ขนาดสมัยปู่ยังเด็กเอาขึ้นรางยิงนกเล่นก็ยังมี และถึงจะสมัยพ่อ พ่อก็เคยขี่ช้างไปชักไม้มาทำฟืน ขี่ม้าส่งของก็ยังมี แถมที่ดินสมัยก่อนนู้นก็มีเยอะด้วย"

   อา... แสดงว่าหนีมาพร้อมกับทรัพย์สินละสินะ แถมไม่ใช่น้อยๆด้วย ส่วนตอนนี้นี่... อย่าถามดีกว่านะ(โดนริบเข้าหลวงแทบไม่เหลือ)

     "อีกอย่างนึง ที่พอเห็นเลยก็คือ คนแก่ๆสมัยโน้นเขาเรียกคุณทวดคุณปู่ไม่เหมือนคนปกตินะ"

      "เรียกยังไง?"

     "เรียก "เจ้าน้อย" นำหน้าชื่อไง"


เรื่องก็เอวัง~
    

ความคิดเห็น

ยังไม่มีความคิดเห็น