QCON
ดู Blog ทั้งหมด

เมื่อยามที่ไฟดับ...

เขียนโดย QCON

วันนี้เมื่อปราสาท(บ้าน)คิวคอนไฟดับ...


     ทินกรทอแสงเรื่อแดงกำจรทั่วทั้งฟ้า สัญลักษณ์แห่งสนธยากำลังจะเลือนหาย ใต้ผืนฟ้าสีหม่น ความมืดเข้าครอบคลุม แต่เพลานี้ แสงสว่างจากทุกหนแห่งกลับไม่ฉาย คงแต่แสงเทียนกระจ้อยที่คอยเผาขี้ผึ้งน้ำมันเป็นเชื้อไฟ...

 


     ณ ที่ปราสาทสีเทาเก่าดูรกร้าง ร่างทั้ง4อยู่กลางห้องโถงอย่างเสียอารมณ์ พวกเขาไม่เคยคิดว่าฤดูร้อนที่สงบไร้ลมพายุเช่นนี้ จะเกิดไฟดับขึ้นได้...

     “จงลุกโชน คริมสัน!” คาถาเรียกเพลิงถูกร้องเรียก อัคคีสีส้มทองลุกติดขึ้นทั้งบนตะเกียงน้ำมันและเทียนไข ทั่วปราสาทเจ้าของมนตร์สะบัดหางทั้ง9แล้วกระโดดไปหมอบ4ขาบนโต๊ะไม้ตัวโปรด

     “มันน่าจับฆ่าหมกสวนซะให้เข็ดเจ้าพวกนี้นี่” คิวคอน จิ้งจอกเก้าหางผู้ที่เพิ่งใช้มนต์คาถาเรียกเพลิงเปิดกระทู้สนทนา “เช่นนี้ที่ติดกระบอกส่องแสงไปจะเกิดประโยชน์อันใด”

     ไม่มีผู้ใดขานตอบ จิ้งจอกขนทองจึงเงียบเสียแล้วขดหางให้เข้ามาหาตัว เขารู้ดีว่าอีกไม่กี่ชั่วโมง ลมหนาวของราตรีจะเข้ามาแทนลมอ้าวของสนธยา

 

 

 


     ภุมราบินว่อนตามกลิ่นควันที่เทียนไขส่งออกไป ไม่ช้าก็ตามมาถึง แต่ด้วยเพราะถูกมอมเมาเข้าด้วยกลิ่น ปีกจึงมอดไหม้ไปสิ้น ทั้งยังโดนฤทธิ์น้ำตาเทียนเข้าผลาญชีวิตจนสิ้นชีพไป...

     “น่าสงสารผึ้งน้อย...” สตรีนางหนึ่งในนั้นเอ่ย แม้ว่าผ้าคาดสีดำจะปิดตาเอาไว้ แม่หล่อนก็ยังมองเห็นได้ชัดเจน นิ้วเรียวช้อนเอาซากแมลงขึ้นมาวางบนก้นแก้วประหนึ่งอนุสาวรีย์

     “โฮ่! ไม่น่าเชื่อว่าพี่สาวข้าจะปราณีกับแมลงเสียด้วย ทุกทีเห็นทำแต่เรื่องน่าผวา!” น้องเล็กแห่งครอบครัวแขวะเข้าให้ ตามนิสัยปากสุนัข (จิ้งจอก)

     “หุบปากไปเสีย คอนสแตนติน คืนนี้เจ้าได้ฝันร้ายแน่!” ผู้เป็นพี่ขู่ สะบัดอาภรสีดำขลิบเงินลายผีเสื้อเชิดใส่ กำไลสีเงินหม่นกระทบกันดังกังวาน

     “ขึ้นอยู่กับว่าท่านพี่โซเนียม่าจะกลับขึ้นห้องนอนโดยไม่โดนภาพมายาหลอนเอาล่ะนะ” ผู้ขู่กลับไม่กลัวแถมหัวเราะกลับเข้าไปอีก1ต่อ

     “เจ้า!”

     “พอได้แล้ว! โซเนียม่า เจ้าไม่ใช่เด็กแล้วนะ” สตรีสูงวัยว่า โซเนียม่าสะบัดหน้าหนี คอนสแตนตินหัวเราะทับอีกรอบ

     “เจ้าก็เหมือนกัน หยุดแหย่พี่สาวได้แล้ว!” คำว่าทำเอาจิ้งจอกเก้าหาวหูตก ผู้เป็นพี่สาวยิ้มเยาะใต้เงามืด

     “ไม่ไหวเลยจริงๆ” ผู้เป็นแม่บ่นอย่างหัวเสียแล้วเดินออกจากห้อง เหลือไว้แต่บุรุษผู้เงียบครึมนั่งเก้าอี้ไม้โยกไปมา ผมแซมขาวบ่งบอกถึงอายุที่มากแล้ว ที่ตัก พิณทำจากไม้ตัวหนึ่งถูกวางเอาไว้...

     “แค่นี้ก็ทนรอไม่ไหวแล้วหรือคอนสแตนติน?” บุรุษผู้นั้นว่า รอยยิ้มผุดขึ้นน้อยๆ น้ำเสียงอาจดูอ่อนโยน แต่2พี่น้องรู้ดีว่า มันทรงอำนาจอยู่ในก้นลึก...

     จิ้งจอกผู้ถูกถามไม่ตอบ ได้แต่ก้มหน้างุด

     “บางครั้ง... การรอคอยนั้นสำคัญนัก” บุรุษผู้ซึ่งเป็นพ่อว่าต่อ “ไม่เคยมีสิ่งใดที่ได้ปุบปับแล้วจะดีเสมอ อย่างก่อนที่พวกลูกจะเกิด พ่อกับแม่ก็เฝ้ารออยู่ตั้ง9เดือนเชียว”

     “แต่นี่มันไม่เหมือน...” คอนสแตนตินแย้ง

     “การรอคอยมักจะให้ความหอมหวานในตอนสิ้นสุดเสมอ...” ผู้เป็นพ่อยิ้ม “อย่างน้อย มันก็ยังดีกว่าการที่ไม่มีวิญญาณของสายฟ้าสถิตอยู่ในกระบอกไฟตลอดไปไม่ใช่หรือ?”

     “มันก็จริง...”

     ไม่ทันขาดคำ จู่ๆ กระบอกไฟก็สว่างจ้าขึ้นมาเหมือนแต่ก่อนที่เคยเป็น จิ้งจอกขนทองยืดคอมองแสงไฟอย่างยินดี ผู้เป็นพ่อหัวเราะแล้วเดินออกไป...

 


     “รู้ไหม พี่สาว...” คอนสแตนตินร้องบอกพี่สาวตนที่กำลังอ่านตำรา(ทั้งๆที่มีผ้าปิดตาอยู่!)

     “หือ...” โซเนียม่าตอบอย่างไม่ใคร่สนใจนัก

     “บางที คราวนี้ข้าอาจได้รู้แล้วว่า ทุกสิ่ง มีค่าแก่การรอคอยจริงๆ”

     “ทำพูดดีไป...” พี่สาวยิ้มแล้วลุกขึ้นยืน

     “จะนอนแล้วเหรอ?” ผู้เป็นน้องร้องถาม

     “ใช่ การรอคอยเวลาดึกมาถึงแล้วไง” พี่สาวเก็บเอาคำน้องมาย้อนพลางหัวเราะชอบใจ “ฝันดีนะ”

     “ราตรีสวัสดิ์”


..........

ความคิดเห็น

Parkja
Parkja 29 เม.ย. 50 / 18:40


 


PS.  who say i can't