ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลู่เฉินหนง ข้ามภพกลับถิ่น (ข้ามภพมาเป็นตัวประกอบเนี่ยน่ะ)

    ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.69K
      670
      2 พ.ค. 64

    ท้องนภาที่มืดมิดมีเพียงแสงจันทร์ที่สาดส่องให้เห็นเส้นทาง แสงไฟจากบ้านเรือคบเพลิง สว่างไสวค่ำคืนที่เหน็บหนาว

    ยังคงพอให้ความอบอุ่นไปถึงในซอกตรอกโรงนาเก่า แถบชายป่า ที่มีร่างของเด็กสี่คนนอนกอดกันบนกองฟางรองด้วยผ้าเพื่อให้ความอบอุ่น เพราะมีเพียงผ้าบางๆ และไออุ่นของไฟที่ป้องกันพวกเขาจากความหนาว

    เมื่อแสงที่อบอุ่นของพระอาทิตย์เคลื่อนมาถึง ร่างเล็กลุกขึ้นมาขยี้ตาแก้ง่วงและปลุกคนอื่นๆ ให้ตื่นขึ้นมา แต่มีหนึ่งคนที่ไม่ยอมตื่นเพราะมีพิษไข้ หารู้ไม่ว่านั้นไม่ใช้สหายคนเดิมอีกต่อไปแล้ว

     

    เสียงนกร้องที่แว่วเข้ามาในหู พร้อมกับความเปียกที่ชื้นเเฉะอยู่บนใบหน้า เมื่อลืมตาขึ้นมาพบกับใบหน้าของเด็กผู้ชายหน้าตาจิ้มลิ้ม

    "เฉินหนง เจ้าตื่นแล้ว"

    ร่างที่นอนซมพิษไข้กะพริบตาถี่ ที่นี่ที่ไหน หนาวจัง

    นี่อะไรกันทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่ ในร่างนี้ แล้วทำไมถึงรู้สึกคุ้นเคย ปวดหัว ร่างเล็กหลับตาลงข่มความปวดหัว ไม่นานก็หลับไป อย่างน่าเวทนา

     

    ‘เฉินหนง’

    ‘เสียงใครน่ะ’

    ‘มาหาข้า เด็กน้อย’

    ร่างเล็กมองไปรอบกายที่มีหมอกปกคลุมไปทั่ว ใต้เท้าเป็นพื้นน้ำไปจนสุดสายตาแต่แปลกที่เขาไม่จมลงไป เมื่อมองไปด้านหน้า มีละอองสีทองที่ล่องลอยในอากาศราวกับว่าจะบอกให้ตามมันไป

    เมื่อเดินมาไม่นานมีสะพานที่ก้าวข้ามราวกับอีกมิติหนึ่ง ที่เป็นสระบัวที่ไม่สิ้นสุดมีเพียงศาลาที่ตั้งอยู่ใจกลาง ด้านในนั้นมีชายชราที่นั่งจิบน้ำชาอย่างสำราญใจ

    ‘มานั่งลงตรงนี้สิ’

    ‘เจ้าคงกำลังสับสนและมึนงง’

    ‘เอาละ ได้เวลาคืนทุกอย่างให้เจ้าแล้ว มันควรกลับไปที่ที่มันควรอยู่’

    ‘ท่านหมายความว่ายังไง’

    ชายชราไม่ตอบเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อย ก่อนที่จะจิ้มลงบนหน้าผากเล็ก รอบตัวปรากฏละอองสีทอง หน้าผากปรากฏปานสีแดงรูปดอกไม้ ก่อนที่ทุกอย่างจะหายไปจากสายตา มีเพียงแค่ความมืด

    ขนตาที่งอนยาวกระพือตามเปลือกตา เฉินหนงมองไปรอบๆ พยายามพยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งก็ต้องยอมแพ้กับพิษไข้ที่รุมเร้า

    เรื่องทั้งหมดนี้หมายความว่ายังไง คนในความฝันนั้นคือใคร คืนอะไรกัน เฉินหนงพยายามคิด ก่อนที่ทุกอย่างเหมือนจะหยุดลง

    ภาพทุกอย่างในความทรงจำที่เหมือนจะหายไปพรั่งพรูเข้ามาในสมอง ร่างเล็กที่ปวดหัวเพราะพิษไข้ยิ่งปวดหัว

    เขาจำได้แล้ว จำได้ทุกอย่าง ตัวเขาในชาติก่อนนั้นตายไปแล้วด้วยโรคหัวใจ นี่แปลว่ามาเกิดใหม่สินะ

    ร่างนี้มีชื่อว่าเฉินหนง เป็นเด็กกำพร้าที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง ตอนนี้คงสิบขวบ

    เขาเลิกสนใจเรื่องพวกนี้แล้วหลับไปเพราะอาการเวียนหัวที่ไม่ยอมจางลงไป

    เฉินหนง

    ตื่นเถอะ

    ใครเรียกเรากัน

    เขาลืมตาขึ้นมาด้วยความง่วงงุนเมื่อมองไปที่หน้าต่างก็เห็นว่าท้องฟ้าด้านนอกมืดแล้ว เขากลับมาสนใจเด็กน้อยตรงหน้า

    หยงซาน พวกเราอาศัยอยู่ที่โรงนาเก่านี้สี่คน เมื่อไม่เห็นคนที่เหลือก็อดเป็นห่วงไม่ได้ หนงซานที่จ้องมองอยู่ก็ดูออกทันที

    “ต้าเซียน กับหยางฉิง จับปลาอยู่ที่ลำธาร อย่าห่วงไปเลย เจ้าห่วงตัวเองเถอะ ทานนี่รองท้องไปก่อนแล้วค่อยดื่มยา เจ้าทานเองไหวมั้ย”

    เฉินหนงพยักหน้าตอบ

    หยงซานยื่นถ้วยที่มีรอยร้าวแต่ก็ยังใช้ได้อยู่ด้านในมีข้าวต้ม แต่ไม่ทันที่จะยื่นมือไปรับ หยงซานดึงถ้วยกลับเข้าหาตัวเองก่อนที่จะตักขึ้นมาเป่าแล้วจ่อปาก ของเขา

    “ทานซะ เจ้าไม่มีเเรงหรอก”

    “ข้าทานเองได้”

    “อย่าดื้อรีบกินลงไป”

    ร่างซึมไข้อ้าปากรับ ไม่นานก็ทานหมด เขามองยาน้ำที่มีสีเขียวอื้อ ขมแน่ๆ เลย เฉินหลงกลั้นใจดื่มลงไป ขม มันจมสุดๆ เลย

    “ข้ารู้ว่ามันขม ดื่มน้ำเถอะ”

    หยงซานลูบหลังเฉินหนงที่กำลังทำหน้าแหยะด้วยความขม

    “เจ้าทำหน้าอะไรแบบนั้น” ต้าเซียนที่เดิมเข้ามาพร้อมกับหยางฉิงที่มีตะกร้าแบกเข้ามา

    “ลำบากพวกเจ้าแล้ว”

    “อย่าห่วงไปเลย ไข้ลดลงแล้ว พักผ่อนเถอะ คืนนี้อากาศหนาว ไข้อาจจะขึ้นอีกรอบ”

    ถึงแม้พวกเราจะเป็นเด็กกำพร้าแต่ก็มีคนเอ็นดูอยู่บ้าง จะเรียกกำพร้าได้รึเปล่าเพราะท่านพ่อและท่านแม่ ต่างทิ้งพวกเรา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×