คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : CHAPTER 15: ก่อนเที่ยงคืนแบ๋มจะง้อบอส
15
ก่อนเที่ยงคืนแบ๋มจะง้อบอส
เธอเป็นคนที่เข้าใจฉัน รักเธอ
(เพราะ)
เธอมาเติมเต็มชีวิตฉัน รักเธอ
(เพราะ)
เธอไม่เคยทำให้ใจนั้นทรมาน
อย่างที่ใครเขาทำ ฉันรักเธอ
-รักเธอเพราะ AB normal-
กริ๊ก!
ผมยังคงกำปืนในมือแน่นไม่มีท่าทีว่าจะปล่อยไปง่ายๆพี่เซฮุนทำหน้าเลิกลั่กก่อนจะคว้าแจกันในห้องนี้มาอยู่ในมือเผื่อว่าจะสู้กับผมได้
“อย่าให้แบมต้องยิงนะพี่เซฮุน
วางแจกันลง”
พี่เซฮุนยิ้มร้ายก่อนจะค่อยๆหมอบลงกับพื้นนั่นทำให้ผมเกร็งมือที่ถือปืนแผ่วลง
ถ้าจะให้ฆ่าคนตายจริงๆ...ผมทำไม่ได้หรอกว่ะ...คือมันทำไม่ได้...
“วางก็โง่แล้วโว้ย!!”
พลั่ก!
เพล้ง!
“โอ๊ย!!!”
ความว่องไวนั้นทำให้ผมมองตามไม่ทันพี่เซฮุนที่พุ่งเข้ามาโดยไม่บอกไม่กล่าวพร้อมทุ่มแจกันในมือเข้าที่หัวผมเต็มๆ
ร่างกายผมเหมือนหยุดทำงานไปชั่วขณะมือที่กำปืนนั้นผล็อยลงกับพื้นอย่างง่ายดาย
ผมแตะไปที่บาดแผลบนหัวพบว่าเลือดมันไหลลงมานิดหน่อยแต่ปืนของผมตอนนี้อยู่ในมือพี่เซฮุนแล้ว
ผมกัดฟันกรอด...หึ...สุดท้ายผมก็อ่อนแอเกินไปจริงๆ...
มือพี่เซฮุนนั้นสั่นระริกด้วยความกลัวหรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจแต่รู้เลยว่าเขาพร้อมจะลั่นไกใส่ผมได้ทุกเมื่อ
ในเมื่อมันมาถึงขึ้นนี้แล้วผมเลยทรุดเข่าลงกับพื้นพร้อมหลับตา
“พี่จะยิงแบม...ที่ก็ยิงเลย”
“…ว่าไงนะ”ผมสัมผัสได้ว่าเสียงของคนตรงหน้ากำลังสั่นอย่างรุนแรง
เหมือนจะมีเสียงสะอื้นปนด้วย...
“แบมจะไม่นึกแล้วกันว่าคนที่ชื่อเซฮุนนั่นยิงแบม...ยิงเลยครับ”
“แบมอย่าท้าพี่นะ!”
“ผมไม่ได้ท้าแต่ถ้าพี่กล้าพี่ต้องทำ”
ความเจ็บปวดจากแจกันบนศรีษะยังไม่เจ็บเท่านี้เลย...ถ้าพี่เซฮุนยิงผมจริงๆ
ผมจะทำยังไงดี...แล้วผมจะเจอบอสอีกมั้ย...
แล้วบอสพร้อมที่จะเจอผมหรือเปล่า
ผมอยากจะถามตรงนี้เลย...
ผมทำให้บอสเจ็บปวดมากเกินไป...
แต่ถ้าเข้ามาตอนนี้หนูจะถือว่าบอสเข้ามาให้หนูง้อแล้วกัน...
ฮ่ะๆๆๆ
“ใช่...พี่ต้องยิงแบม
หึๆแก...”ผมกลั้นหายใจเฮือกสุดท้ายก่อนที่อะไรมันจะดีขึ้นบ้าง
มันไม่เจ็บ...ลูกกระสุนนัดเดียวมันไม่เจ็บหรอก...
ปัง!
พลั่ก!
“อ่อก!”
เสียงประตูที่ถูกกระแทกเข้ามานั้นทำให้ผมต้องสะดุ้งพร้อมลืมตาขึ้นอัตโนมัติภาพที่เห็นคือขาเรียวยาวของใครสักคนที่บุกเข้ามาเมื่อกี้ถีบเข้าที่หน้าของพี่เซฮุนเต็มแรง!
“แม่ง...ช้าไปสิบสามวิ”ริมฝีปากบางสบถออกมาเล็กน้อยร่างสูงนั้นก้มลงไปเก็บปืนที่ร่วงอยู่ตรงหน้าพี่เซฮุนซึ่งสลบเหมือดจากลูกเตะเมื่อกี้หางตานั้นปรายตามองผมเล็กน้อย
ต่างกับผมที่เบิกตากว้างพร้อมน้ำตาที่เริ่มก่อตัว "อ่ะ...กูว่าทีหลังจะให้มึงจับปืนไม่ได้แล้ว”
ปืนกระบอกนั้นถูกโยนมาให้ผมซึ่งผมก็รับมันได้ดี
ผมค่อยๆหยัดลุกยืนขึ้น ใบหน้าของบอสที่เปื้อนเลือดที่มุมปากทำให้ความขี้สงสัยผมมันทำงานขึ้นมา
ผมเอื้อมมือไปแตะที่มุมปากเบาๆจนร่างสูงสะดุ้งเล็กน้อยแล้วก็ปัดมือผมออก
“บอส...”
“สงสัยคงจะมีมาเฟียอย่างมึงคนเดียวที่ไม่รู้ทักษะการใช้ปืน”
“หน้าบอสโดนอะไรมา...หนูขอดูหน่อย”ผมไม่สนใจเรื่องที่บอสพูดเลยสักนิดหมายจะเดินเข้าไปหาเพื่อดูแผลแต่บอสกลับถอยหลังหนีผมและมองมาด้วยแววตาที่อธิบายไม่ถูก
“ลูกน้องไม่มีสิทธิ์แตะตัวของหัวหน้า
กฎข้อนี้มึงลืมไปแล้วหรือไง”
“……..”
“แล้วลูกน้องก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะให้หัวหน้ามาช่วยอย่างนี้”
“บอสเป็นอะไรทำไมไม่บอกหนูอีกวะ?”
“ลูกน้องไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดไม่มีหางเสียงกับหัวหน้า”
ท่าทางเย็นชาและดุดันแบบนั้นทันทำให้ผมเจ็บและจุกอกขึ้นมาเสียดื้อๆ
ทั้งๆที่ปกติผมก็พูดแบบนี้บ่อยจะตายนับตั้งแต่ผมเป็นมือซ้ายใหม่ๆด้วยมั้ง
แต่วันนี้ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปทัง้สายตาน้ำเสียงและความรู้สึกที่ออกมาจากทางคำพูดของบอส
มันไม่ใช่อ่ะ!!!
“ก็หนูเป็นแฟนบอส
พูดแบบนี้ก็ปกติเอ่าะ....”
“มึงคือแฟนกูเหรอ?”คำพูดนั้นมันสะดุดความรู้สึกผมให้สะอึกภายในพริบตา “ถ้าไม่บอกกูคงไม่รู้
แล้วทำไมกูถึงมีมึงเป็นแฟนเหรอ? คนหลายใจแบบมึงน่ะ”
คนหลายใจ...?
ว่าไงนะ...
“แบมแบม...กูเหนื่อย”
“……”
“กูไม่ไหวแล้ว...ทำไมกูต้องทนเห็นมึงกับแฟนเก่ามึงรักกันด้วยวะ?”
“…หนูไม่ได้รักแฟนเก่านะบอส...มันไม่ใช่อย่างที่บอสคิดเลย”
ขอบตาผมเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมาเอาดื้อๆน้ำตาเริ่มก่อตัวกันจนผมเห็นหน้าของบอสพร่ามัวขึ้น
ผมเม้มปากไว้แน่นก่อนจะเงยหน้ามองเพดานที่ว่างเปล่าเพื่อไม่ให้น้ำตามันไหลออกมา
“แบบไหนที่กูคิดแล้วว่าถูก?
ทั้งที่มึงกำลังปล่อยมือกูอย่างไม่สนใจแล้วเดินออกไปดื้อๆแบบนี้น่ะเหรอ? แต่ก็ดีที่มึงยังสำนึกและเดินกลับมาหากู”
“หนูแค่เป็นห่วงพี่เซฮุนว่าเขาจะเป็นอะไรบ้าง
ที่เขาเป็นแบบนี้ก็เพราะว่าหนู แต่หนูรู้แล้วว่าตัวเองโดนหลอก...หนูอยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม”
“แบบไหนที่เหมือนเดิม”
“กลับไปรักกันเหมือนเดิม
ในโลกของบอสที่มีหนูและในโลกของหนูที่มีบอส”
ผมพยายามอ้อนวอนให้เรากลับไปเป็นเหมือนเดิม...เสียพี่เซฮุนไปน่ะทำได้แต่ถ้าให้เสียบอสไปผมกลับไม่รู้ว่าตัวเองจะทำไปเพื่ออะไรทั้งหมด...
ทั้งยอมอ่อย
ทั้งยอมตกเป็นเหยื่อ ทั้งยอมโดนหลอก...
ก็เพราะว่าผมรักบอส...
แบมแบมรักมาร์ค...
กันต์พิมุก ภูวกุล
รัก ต้วน อี้เอิน...
แค่นี้มันไม่พอเหรอ...
ผมยังจำต้องสูญเสียอะไรไปอีกหรือไง!
“คนดีอย่างมึง...คงไม่เหมาะกับกูหรอกว่ะ”ผมรู้ว่านั่นคือประโยคประชดผม แต่ผมก็ยังยิ้มทำใจดีเข้าไว้
แค่ยิ้ม...ไม่ว่าเรื่องไหนเราต้องยิ้มได้... “เลิกกันเหอะนะ...คนเลวอย่างกูไม่เหมาะกับมึง
แบมแบม”
แล้วในที่สุดน้ำตาของผมมันก็ร่วงลงมากระทบกับพื้นในห้องนี้จนได้
ผมพยายามกลั้นสะอื้นแล้วก็ยังยิ้มอยู่ ผมเดินเข้าไปหาบอสพร้อมสวมกอด
น่าแปลก...ที่บอสนั้นให้ผมกอดอย่าไม่ขัดขืนนั่นมันทำให้ผมร้องไห้หนักเข้าไปอีก
“กอดกูให้พอ...เพราะนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่มึงจะได้กอดกู”
“ฮึก...ไม่...ไม่เอา...”
“ในเมื่อมึงเลือกที่จะเปิดประตูหัวใจของกูแล้วเดินออกไป...ประตูนั้นก็จะปิดตายสำหรับมึงแบมแบม”
“ฮึก...บอส....ไม่ไปไหนทั้งนั้น...อึก”
“……”
“บอส! แบมจะไม่ออกไปไหนทั้งนั้น! บอสตอบมาดิวะ! ตอบมาดิ! แบมยังสำคัญอยู่มั้ย! บอสทำไมไม่ตอบวะ! ตอบดิ!!!! ฮึก...”
ผมทั้งตีทั้งตบทั้งทำทุกอย่างที่คิดว่าบอสจะตอบสนองกลับมาบ้าง
แต่มันไม่มีอะไรเลย บอสยังคงนิ่งเงียบอยู่แบบนั้น
นิ่งเสียจนผมคิดว่าบอสกลายเป็นหุ่นไปแล้ว
ผมไม่ยอมหรอก!
ผมไม่ยอม!!!
“หนูรักบอสคนเดียวนะเว้ย!
แค่กลับมาเป็นเหมือนเดิมอ่ะ!...ขอแค่นั้น...อย่าออกไปจากโลกของหนูอีกครั้งนะ...หนูไม่เหลือใครแล้ว”
“…….”
“หนูทำให้บอสเหนื่อยใช่มั้ย
หนูจะช่วยบอสเอง...หนูจะอยู่กับบอสทุกนาที...ฮึก หนูจะเลิกไปแรดกับผู้ชายคนอื่น
ขอแค่บอสกลับมา...ขอแค่บอสกลับมา...”
“……”
“บอสไม่รักหนูแล้วเหรอวะ...ฮึก...”
“……”
“คนโกหก! หนูบอกแล้วไงว่าอย่าเดินออกไปง่ายๆ! วันนี้หนูเดินย้อนกลับมาเพื่อมาหาบอสเลยนะเว้ย...ฮึก
แต่ทำไมบอสถึงหนีหนูไป...”
“…….”
“หนูไม่มีใคร...ก็มีแต่บอสที่เข้าใจหนู
ไม่ผลักไส ไม่ทำร้าย มีความเป็นสุภาพบุรุษ เออ ใช่! เวลาหนูอยู่กับบอสหนูมันเลวไปเลย!”
“…….”
“เพราะหนูรักบอสไง...เพราะแบมแบมรักมาร์ค...แค่รักมันก็พอแล้วไม่ใช่หรือไง...”
“……”
“อย่าเงียบแบบนี้ได้มั้ยด่าหนูก็ได้จะตีจะตบหนูบอสก็ทำตามใจเลย!”
“…แบมปล่อย”
“แค่จะบอกเลิกทำไมบอสถึงไม่บอกหนูว่าบอสไม่รักหนูวะ
ฮึก ฮืออออออ”
ผมผละออกจากอ้อมกอดของบอส
ตอนนี้น้ำตาไหลนองหน้าไปหมด
ความรู้สึกทุกอย่างมันตีเข้ามาจนผมแทบจะไม่รู้สึกว่าตัวเองควรจะร้องไห้กับเรื่องไหนก่อนกัน...แต่ตอนนี้คนคนเดียวในชีวิตของผม
ที่ผมพึ่งได้ ที่ผมรัก ที่ผมมีความสุขนั้นได้เดินจากออกไปแล้ว...
โลกที่แสนมืดมนกลับมาอีกครั้ง...โลกที่มีแค่ผม...
ไม่มีบอสต้วน
ไม่มีคนที่ชื่อมาร์คอยู่อีกต่อไป...
มันมีแค่แบมแบมที่ต้องอยู่อย่างเดียวดาย...
ตลอดไป...
“พรุ่งนี้กูจะส่งมึงกลับประเทศไทย...แล้วแจ๊คสันจะดำรงตำแหน่งมือซ้ายแทนมึง”
“……..”
“ขอบคุณที่ได้ร่วมงานด้วยกันครับ...คุณกันต์พิมุก”
บอสพูดแค่นั้นก่อนจะโทรเรียกบุรุษพยาบาลเพื่อเก็บร่างพี่เซฮุนส่งให้ตำรวจและผู้ชายที่ชื่อมาร์คนั้นไม่คุยกับผมเลยทั้งที่ผมอยากจะเข้าไปช่วยอะไรหลายๆอย่างแต่ก็โดนเมิน
ทำเหมือนผมเป็นแค่อากาศของคนในนี้จนสุดท้ายทุกอย่างมันก็เรียบร้อยดี...
มันเรียบร้อยดีแล้วแบมแบม...ยิ้มไว้สิ
ยิ้ม...
อย่างนั้นแหละ...อึก
โอเคแล้ว...
ผมนั่งอยู่หน้าโรงพยาบาลได้สักพักก็เพิ่งสังเกตว่าท้องฟ้ามันมืดแล้วทุกอย่างมันผ่านไปไวเหมือนกับมีคนมากลั่นแกล้งผมหลังจากจบเหตุการณ์ในวันนี้ผมก็ไม่กล้าที่จะกลับไปคอนโดที่อยู่กับบอส...เพราะว่าผมมันขี้ขลาดพอที่จะไม่กล้าสู้หน้ากับอะไรทั้งนั้น...ผมเลยเลือกที่จะเดินไปเรื่อยๆออกจากโรงพยาบาลนี้แบบไม่รู้จุดหมายต่อไป
บรรยากาศเคล้าเหมือนฝนจะตกนั้นทำให้หัวใจผมแป้วยิ่งกว่าเดิมทุกอย่างดูน่าเบื่อไปหมด
ทั้งผู้คน
ทั้งตัวเมืองกรุงโซลยามค่ำที่มีแสงสว่างระยิบระยับสวยงามทั้งถนนคนเดินที่มีของกินมากมายซึ่งผมพร้อมจะกระโจนเข้าไปได้ทุกเมื่อ...
แต่ไม่ใช่ตอนนี้...
แค่เห็นเค้กผมก็เอียนจนกินอะไรไม่ลงหนำซ้ำเวลาเห็นคู่รักกอดคอกันไปมาผมก็รู้สึกเหมือนตัวเองโดนหักหน้าแปลกๆ...
ป่านนี้บอสถึงคอนโดหรือยัง...
กินข้าวหรือยัง...
แอบไปสูบบุหรี่กับกินเหล้าที่ไหนอีกหรือเปล่า...
เป็นห่วงว่ะ...ไอ้คนปากแข็ง...
แต่เราจะไปมีสิทธิ์อะไร...คงต้องรอให้ตัวจริงของบอสมาแหละนะ...
ผมยิ้มให้กับความทรงจำของเราที่มีมาทั้งหมดก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋ากางเกงมาไว้ในมือแล้วก็ถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยๆจนกล้องผมสะดุดกับมาสคอตหมาตัวหนึ่งสีขาวและมีหูยาว
มองไปมองมาหน้ามันก็เหมือนไอ้โค่หรือไอ้โคโค่หมาสุดที่รักของบอสที่หลงมันนักหนาผมหัวเราะกับตัวเองที่ยังจะอิจฉาหมาได้ลงคอแล้วผมก็ถ่ายรูปนั้นเก็บไว้
มาสคอตตัวนั้นกำลังแจกใบปลิวอะไรสักอย่างแล้วข้างหลังก็พอมีหลังคาที่จะให้ผมนั่งพักกับจิตใจและความรู้สึกได้
ผมเดินลงไปนั่งข้างหลังพร้อมเหม่อลอยมองท้องฟ้าตอนนี้ที่เริ่มมีดวงดาวประราย
ผมว่าที่ผมพูดไปมันจริงล่ะนะ...
ความรู้สึกที่บอกเลิกก็เหมือนเราเทน้ำทิ้ง...ไม่ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่
จะเติมใหม่อีกครั้งมันก็อาจจะขาดไปสักมิลลิของเซน...
ฮ่ะๆ....
แล้วน้ำตามันก็ไหลออกมาอีกครั้งจนผมรำคาญตัวเอง...ผมกำมือถือในมือแน่นแต่ยังที่ไม่ได้จะดราม่าไปมากกว่านี้โทรศัพท์เจ้ากรรมก็สั่นครืดๆเหมือนว่ามีคนจะส่งอะไรบางอย่างมาให้ผม
จากบอส...
ผมเปิดไล่อ่านข้อความนั้นก่อนที่จะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
ผมปิดปากตัวเองเอาไว้เพื่อกลั้นเสียงสะอื้นความรู้สึกตอนนี้ผมอธิบายไม่ถูกจริงๆ...
แล้วผมก็อยากจะด่ากราดไปทั่วทุกคนที่เดินผ่านผมตอนนี้!
รวมถึงไอ้บอส...คนงี่เง่า!!!
. .
.
.
‘กูให้เวลามึงง้อกูก่อนถึงเที่ยงคืนของวันนี้ถ้าง้อสำเร็จจะทำแผลบนหัวให้
เริ่มตั้งแต่วินาทีแรกที่มึงได้อ่านข้อความนี้
โอเค ดีล :) ’
พ่อเป็นตลกหรือไง!
ไอ้มาร์คต้วน!!! ไอ้คนเงี่เง่าเอ๊ยยยยยย!!!!!
23.50 น.
ถ้าจะใช้คำว่ามาร์คต้วนกำลังตื่นเต้นกับสิ่งที่มันใกล้จะคืบคลานเข้ามา
คำตอบนั้นก็คงจะตอบว่าใช่...
แค่พูดไปก็โกหกทั้งหมดแหละ...อยากให้คนตัวเล็กของเขาได้สำนึกกับความเจ็บปวดที่โดนทำแบบนั้นบ้าง...จะว่าไปมันก็เจ็บลึกๆอยู่เหมือนกันนะ...
อยากจะบอกไปว่าทุกอย่างนั้นคือคำโกหกแต่ก็เสียดายน้ำตาแบมแบมที่อุตส่าห์ไหลพรากออกมาแบบนั้นเห็นแล้วอยากจะคว้าเข้ามากอดให้หายงอแง
เด็กบ้าอะไร...มีอิทธิพลต่อหัวใจของเขาขนาดนี้...
เขาเป็นคนโลภมากสุดๆเพราะเขาทั้งอยากได้ดวงตา
ริมฝีปาก ผิว เนื้อเนียนๆ รอยยิ้มที่ยิ้มตลอดเวลารวมถึงทุกอย่างที่เป็นของแบมแบม
เขาอยากได้มันทุกอย่างเลย...
โลภมากไปมั้ยเรา...
อยากจะกอด
อยากจะจูบ อยากจะสลัดคราบผู้ชายปากแข็งไปให้ไกลๆแล้วทำทุกอย่างที่อยากทำ
อีกสิบนาที...เขาเชื่อว่าคนตัวเล็กจะต้องมาแน่นอน
จึกๆ
แรงสะกิดจากคนข้างหลังทำให้หัวหน้ามาเฟียต้องสะดุ้งจนรีบเก็บรอยยิ้มที่เผลอออกมาปั้นหน้าเป็นผู้ชายมาดนิ่งก่อนจะหันไปพบผู้มาเยือนหวังว่าจะยีทุยๆนั่นให้ฟู่ฟ่องแต่ทว่าคนที่จะสะกิดเขาเมื่อกี้กลับใส่ชุดมาสคอตหมาสีขาวหูยาว
ใครวะ...?
มาสคอตตัวนี้โบกมือให้เขาเป็นเชิงทักทายซึ่งมาร์คก็โบกมือตอบไปเพราะกลัวจะเสียมารยาท
หัวหน้ามาเฟียจะก้าวหนีไปแต่ก็ไม่วายโดนคว้าแขนไว้พร้อมทำท่าเป็นรูปกากบาทเป็นสัญลักษณ์บอกว่า
‘ห้ามไป'
ซึ่งมาร์คก็ตกลงน่าจะมีโชว์อะไรสนุกๆระหว่างที่เขารอแบมแบมอยู่ก็ได้
มาสคอตหมาเริ่มวางของที่หิ้วมาพะรุงพะรังลงกับพื้นพร้อมหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งทีวาดเป็นรูปหัวใจสีแดงขึ้นมาโชว์ให้เขาดูเว้นระยะเวลาสักพักก็หยิบหัวใจอีกดวงที่เป็นสีส้มมาไว้ข้างกัน
หัวใจสองดวง...?
คนรัก?
มาร์คไม่ได้พูดอะไร
มาสคอตหมาเริ่มเคลื่อนที่ไปทางซ้ายแล้วดุ๊กดิ๊กที่รูปหัวใจทั้งสองดวงก่อนจะขยับมาทางขวาแล้วทำท่าทางเหมือนกัน
ก่อนที่จะใช้มือซ้ายหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งที่วาดเป็นหัวใจสีดำเข้ามาแทรกกลางระหว่างหัวใจสีส้มและแดง
มาร์คขมวดคิ้ววุ่นเมื่อจู่ๆก็เหมือนเรื่องอะไรบางอย่างที่เขารู้จัก
มาสคอตตัวนั้นยังเล่นไปเรื่อยๆจนสุดท้ายก็ฉีกกระดาษที่วาดเป็นรูปหัวใจสีดำออกแบบไม่มีชิ้นดี!
แควก!
มาร์คตกใจเล็กน้อย
มาสคอตหมาตัวนั้นก็วางกระดาษสองแผ่นและเศษกระดาษของหัวใจสีดำลงบนพื้นก่อนจะค้นหากระดาษอะไรอีกหลายใบที่เรียงๆกันอยู่แต่เพราะลมแรงกระดาษแผ่นนั้นเลยจะตกปลิวร่วงแม่น้ำไป
มาร์คเบิกตากว้างทันทีที่มาสคอตหมากำลังจะกระโดดเข้าไปรับกระดาษซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการแสดงขั้นต่อไป
หมับ!
ทุกอย่างหยุดนิ่งทุกการเคลื่อนไหวมาร์คคว้ามาสคอตตัวนั้นมาอยู่ในอ้อมกอดแน่นจนกระดาษหลายๆใบนั้นปลิวลงน้ำไปหมด
หัวหน้ามาเฟียยกยิ้มก่อนจะเลื่อนมือขึ้นไปบนหัวแสนใหญ่เพื่อจะหยิบมันออกแต่มือที่ใส่ถุงมือหนาของคนข้างในมาสคอตก็คว้ามือเขาไว้ก่อน
“คิดว่ากูไม่รู้หรือไง?”
!!!!!
แบมแบมอึ้งไปทันทีที่คนเป็นบอสจับไต๋เขาได้
เวรละ...กะว่าจะเนียนอยู่แล้วเชียว!
ไอ้ลมบ้า! ไปพัดไกลๆไป!!!
แบมแบมนิ่วหน้าภายในหัวมาสคอตหมาสีขาวอย่างนึกโมโหเจ้าลมที่พัดกระดาษวาดรูปของเขาลงแม่น้ำไปหมดแล้ว
การแสดงหัวใจสีแดงและสีส้มมันยังไม่จบสักหน่อย ใกล้จะถึงตอนที่ง้อกันแล้วด้วย
โอ๊ย...เซ็ง!(;_;)
แต่ยังไงคนตัวเล็กก็ยังไม่อยากให้มาร์ครู้อยู่ดีว่าตัวเองอยู่ในนี้
ฉะนั้นเราต้องนิ่งฮึบ!
“ลงทุนเหมือนกันนะเราจะออกหรือไม่ออก?
ให้กูใช้กำลังมั้ยแบมแบม”
ออกก็ได้จ้าคนดีของเอื้อยยยยยยยย...
มือเนียนเลื่อนมาถอดหัวมาสคอตที่แสนใหญ่ออก
ใบหน้าหวานที่แต้มรอยแดงนิดๆเผยให้เห็นสู่แก่ตาของมาร์ค ดวงตาก็กลมโต
ริมฝีปากก็แดงระเรื่อผิวขาวที่มีสีแดงแต้มนั้นก็เพราะว่าอยู่ข้างในนี้อากาศมันคงจะร้อน
แบมแบมนิ่วหน้าเล็กน้อยเมือ่เห็นใบหน้าที่เก็บอารมณ์เขินอายของคนตรงหน้า
“เข้าไปทำไมข้างใน?”
“มาง้อ..”เสียงใสที่เอ่ยออกมานั้นทำให้มาร์คอยากจะฟัดคนตัวเล็กตรงนี้ให้เดี้ยงคาที่
“ขนาดนี้เลย?”
“ก็กลัวจะไม่หายงอนอ่ะ...”แบมแบมยู่หน้าหลังจากคิดเองเออเองว่าบอสคนนี้ไม่ได้หายโกรธตนอย่างแน่นอน
ก็เพราะว่าบอสยังไม่เห็นฉากหัวใจสีแดงกับสีส้มง้อกัน! บอสก็เลยยังไม่หายโกรธยังไงล่ะ!
แง...
อีกห้านาทีจะเที่ยงคืนแล้ว...ยังทำอะไรไม่สำเร็จเลย...
แบ๋มคงหมดหวัง...อาเมน...
“หายงอนยัง?”
“ไม่...”
ว่าแล้วเชียวว่าบอสต้องเห็นฉากที่หัวใจสีส้มกับสีแดงง้อกันก่อน
(;_;)
งั้นต้องใช้แผนเด็ดนั้นจริงๆใช่มั้ย!
อีแจ๊คซันนี่แนะนำมา
แบ๋มไม่ผิด...
เอ้า ลุยเว้ย!!!! เวลาดีสามนาทีทอง!
แบมแบมคว้าไหล่หัวหน้ามาเฟียไว้แน่น
มาร์คเบิกตากว้างอีกครั้งเมื่อหน้าของคนตัวเล็กเข้ามาใกล้เรื่อยๆจน...
จุ๊บ!
ริมฝีปากสีระเรื่อนั้นจูบเข้าเบาๆที่ริมฝีปากของคนตัวสูงและผละออกไป
“ดีกันนะ...”
ก่อนที่จะโน้มหน้าเข้ามาหาอีกครั้ง
จุ๊บ!
“ดีกันนะ...เค้าขอโทษ”
จุ๊บ!
“เค้าผิดไปแล้ว...หายงอนเดี๋ยวให้จุ๊บอีกสามที”
จุ๊บ!
“หายงอนยัง? หายงอนแบมแบมหรือยังอ่ะพี่มาร์ค”
เอื้อออออ!
แบมแบมแอทแท็ก! เชื่อเลยว่ามาร์คไม่เคยเห็นลุคที่ยั่วยวนของเจ้าเด็กแรดนี่มาก่อน
อะไรคือการที่เรียกเขาว่าพี่มาร์ค อะไรคือการที่เผยอริมฝีปากสีระเรื่อนั่นออก!
อะไรคือการยั่วแบบไม่รู้ตัวทำให้หัวใจของหัวหน้ามาเฟียหวั่นไหวขนาดนี้!
แล้วความอดทนมาร์คก็ขาดลงคว้าต้นคอขาวของคนตัวเล็กเข้ามาเลียดริมฝีปากทันที
ความหวานและความรักที่ถูกส่งต่อมาจากปากนั้นทำให้มาร์คแทบจะอยากกดแบมแบมลงตรงนี้ถ้าไม่ติดว่ามีผู้คนเดินผ่านไปมา
แบมแบมเริ่มขยับเข้าใกล้คนตัวสูงมากขึ้นให้ได้เชยชิมความหวานออกไปให้พอใจ
มือซ้ายที่ว่างนั้นเลื่อนมาประสานเข้าที่มือของคนตัวเล็กเบาๆเป็นเครื่องยืนยันว่ามาร์คจะไม่ปล่อยมือไปไหน
มาร์คผละริมฝีปากออกก่อนจะไล่จูบตรงหน้าผากของแบมแบมไล่ลงมาจนถึงจมูกก่อนจะจูบเข้าที่แก้มขวาและจูบเข้าที่แก้มซ้ายและสุดท้าย...
ริมฝีปากทั้งคู่ก็ประกบเข้าหากันอีกครั้ง...
แม้อาจจะเหลือเพียงสามนาทีหรือหนึ่งนาที...
แบมแบมก็จะจูบมาร์คอยู่อย่างนี้ไม่ไปไหน...
ซ่า!
เวลาเที่ยงคืนตรงน้ำพุเสียงสีสวยก็ถูกเปิดขึ้นจากแม่น้ำ
ทั้งสีเขียวและสีแดงสลับกันไปมาดูสวยงาม
บรรยากาศในเมืองเริ่มคึกคักขึ้นเพราะเป็นเวลาของนักเที่ยวกลางคืนผู้คนเริ่มออกมามากขึ้นเริ่มคุยออกเสียงเจื้อยแจ้ว
มาร์คและแบมแบมจึงไม่ได้เป็นจุดสนใจต่อใครที่เดินผ่านไปมามากนัก
นี่คือวันใหม่...และนี่คือเวลาใหม่ที่เราจะเริ่มต้นรักกัน...
มาร์คผละริมฝีปากออกอีกครั้งพร้อมลมหายใจที่รวยรินของคนตัวเล็กจากอาการขาดออกซิเจน
มาร์คส่งมือไปลูบเข้าที่แก้มป่องของแบมแบมที่แดงไปทั่ว
มองบรรยากาศรอบๆตัวที่มันเปลี่ยนไปใหม่เหมือนโลกใบใหม่...
โลกที่มืดของมาร์คก็มีแบมแบมเข้ามาเป็นสีสัน...
โลกที่สดสว่างของแบมแบมก็เป็นอิทธิพลของใจหัวหน้ามาเฟียคนนี้...
“กลับยัง?”คนตัวเล็กเอ่ยถามเสียงแผ่วเบาก่อนจะสวมกอดเข้าที่ร่างสูง
มาสคอตตัวใหญ่นั้นช่างเป็นอุปสรรคในการพลอดรักกันต่อไปอย่างมาก “ร้อนมาก หิวโคตร”
“งั้นก็กลับห้องไปทอดไข่เจียวให้กูกิน”
“อยากกินอ่อ? ไข่อ่ะนะ?”
“อยากกินคนทำมากกว่า”
นั่นทำให้คนในอ้อมกอดถึงกับม้วนอายแล้วตีไปที่ไหล่กว้างอย่างแรง
“รักบอสนะ...ไม่สิ
รักพี่มาร์คมากๆเลยนะ...”
“รักแบมแบม...มากกว่าหัวใจตัวเองครึ่งดวง”
“เสี่ยวว่ะ แหวะ”
“เป็นแค่หมาอย่าพูดมาก
ไปลุก”แบมแบมที่ทำท่าจะลุกขึ้นแต่ก็ลุกไม่ได้ทำให้มาร์คต้องช้อนคนตัวเล็กเอาไว้ในอ้อมแขนเล่นเอาแบมแบมถึงกับตีไปที่ไหล่หกว้างอีกครั้ง
“บอสบ้า คนมองหมดแล้ว”แบมแบมคว้าหัวมาสคอตเข้ามาก่อนจะสวมใส่เพราะว่าคนเริ่มมองกันเยอะแยะใครไม่อายก็ให้มันรู้ไป
“เดินไปเลย หนูจะใส่หัวอย่างนี้แหละ”
มาร์คหัวเราะให้กับความขี้อายของแบมแบมแล้วขาเรียวก็เริ่มออกก้าวโดยมีเจ้าหมามาสคอตหัวใหญ่อยู่ในอ้อมแขนไปด้วย
“งั้นก็ถือว่าพาหมามาเดินเล่นแล้วกัน”
คนปากแข็งคนเนี้ย...ว่าเค้าอ่ะเป็นหมา...
แต่ก็คงเป็นหมาที่โชคดีที่สุดในโลกเลย...ว่ามั้ย?
ฮ้าาาาาา ปริ่มเปรอะน้ำตาเยิ้มเลย 55555555
นี่พยายามนั่งฟังเพลงบิ้วอารมณ์ก่อนแต่งตอนนี้เลยนะ ซึ่งมันยาวจัง อิอิซ่า 5555555
เฮ้ยยยยยย มันยังไม่จบนะแก! อย่าเพิ่งหนีไปไหน มาติดตามชีวิตความรักนี้กันต่อ!
ห้ามหนีไปไหนโอเคม่ะ! สัญญาแล้วนะโอเค้ๆ
ความคิดเห็น