ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MARKBAM ♡ ツ Are you Ok? 『คือแบมโอเค!! 』

    ลำดับตอนที่ #18 : CHAPTER: 18: ตื๊อบอสว่ายากแล้ว ตื๊อแม่ของบอสนั้นยากกว่า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.54K
      16
      9 ต.ค. 58



    18

    ตื๊อบอสว่ายากแล้ว ตื๊อแม่ของบอสนั้นยากกว่า

     

    ฉันตกหลุมรักคุณเข้าแล้ว

    ไม่มีทางถอนตัวได้เลยใช่มั้ย

    แต่ก็ไม่อยากจะออกไปเองด้วยแหละ

    ทุกสิ่งของคุณมันไร้ที่ติแบบนี้ได้ยังไง

    เฮ้อ  ฉันทำอะไรไม่ได้จริงๆสินะ

    -Give it 2 U  GLAM-

     

                สามข้อหลักใหญ่ที่ทำให้แอลเอเป็นสถานที่น่าเที่ยว

                หนึ่ง บรรยากาศสวยขับรถไปทางไหนก็งดงาม

                นี่ขนาดขับผ่านถังขยะแม่งยังดูดี!

                สอง เป็นเมืองหรูหรา ไฮโซ

                ขนาดกินน้ำเปล่าธรรมดาแม่งยังเลิศได้อีก!

                และสาม..

                ผู้ชายที่นี่น่ากินมากขร่าาาาาาาา!

                “หญิงแตง! ทิศเก้านาฬิกาไม่ได้ใส่เสื้อด้วยอ่ะ! กรี๊สสสสสส กล้ามน่าขบแรงมากกก!!!”

                “ไม่เอาอ่ะแบบนั้นอย่างกะคนอินเดีย อุ้ย! ทางเที่ยงตรงค่ะพี่แบ๋ม อู้วหู้ววววววว ขาวจั๋วะใส่กางเกงในสีแดงค่ะ! *O*”

                “อู้วหูวววววววววววว อยากจะไปเป็นทาสซักกางเกงในให้ตอนนี้เลยอ่ะ!”

                “ไม่ค่ะ คนนี้แตงจอง แตงจอง!!!”

                “หาคนใหม่ก็ได้วะ โอ้วววว! คนนั้นเด็ดจริง! ยู้ฮูวววว สนใจใช้นามสกุลภูวกุลมั้ยครับบบบบ!”

                หันไปทางไหนก็มีแต่กล้าม ซิกแพค กล้าม และซิกแพ็ค หุๆๆ นี่มันสวรรค์ของแบ๋มชัดๆ ทำไมแม่ไม่มาเกิดที่นี่วะ แอร๊ยยยย -.,-

                ผู้ชายฝรั่งผิวแทนๆเซ็กซี่ขยี้มดลูก(ที่ไม่มี)มั่กๆเลยครัชชชชช!

                “แรดมากระวังปลิวจากรถไม่รู้ตัว

                แล้วก่อนที่ผมกับหญิงแตงจะทำการพินิจฉัยผู้ชายที่นี่ไปได้มากกว่านี้เสียงนิ่มๆแต่เฉียบขาดของใครบางคนก็เอ่ยขัดเราสองคนเล่นเอาผมเลื่อนกระจกรถขึ้นไม่ทัน ผมกับหญิงแตงมองกันตาปริบๆเมื่อรับรู้ได้ถึงสถานการณ์บนรถที่ตอนจะขับเข้ามาในตัวเมืองอเมริกานี้มันช่างคึกครื้นกันมากมายแต่ตอนนี้กลับมีแต่เสียงชะนีสองตนแผดหาผู้ชายก็เท่านั้น

                บอสและอีแจ๊คซันนี่ที่นั่งอยู่ตรงข้างคนขับและเป็นคนขับรถเสียเองกำลังเงียบเชียบเหมือนไม่มีใครอยู่ บรรยากาศน่าขนลุกแบบนี้ทำให้ผมกลืนน้ำลายดังเอื๊อก รับรู้ได้ถึงผลที่จะตามมาอย่างถ่องแท้!

                แล้วปฏิกิริยาของผมกับชะนีบอบบางนามหญิงแตงก็ทำขึ้นพร้อมกันทันที

                แหม่ วันนี้บอสแต่งตัวหล่อมั่กเลยยยยยยยย!”

                “พี่แจ๊คก็น่ารักน่าหยิกสุดๆเบยยยยยยย!”

               

     

     

              บ้านตระกูลต้วน

                หูววววววววว ทำไมมันกว้างขวางงี้อ่ะ ลมเย็นม้ากกกกก!”

                ทันทีที่ถึงบ้านของบอสผมก็เบิกตากว้างแทบจะทันที บ้านหลังเล็กแต่ไม่มากมีสไตล์เป็นของตัวเองแต่ที่มันดีกว่านั้นคือมันกว้างขวางมากกกกกก หันไปทางไหนก็มีแต่ทุ่ง เอ๊ะ หรือเปล่า ขอเดาว่าน่าจะเป็นไร่ละกัน บอกเลยว่าถ้าอยู่ที่นี่สักสองเดือนมีลาบวชชีอ่ะ เอาดิ!

                ไหล่ของร่างสูงตวัดมาเกี่ยวเข้ากับคอผมในระหว่างที่ยังเชยชมบ้านหลังนี้ไม่หาย ผมพิงหัวตัวเองไปที่ไหล่บอสเพื่อรับอากาศให้มากขึ้น แอบตื่นเต้นเหมือนกันนะที่วันนี้จะได้มาคุยเรื่องแต่งงานกับพ่อแม่ของบอส คือฟีลลิ่งอ่ะ ไม่ได้เป็นแบ๋มไม่มีใครเข้าใจ ฮรึก...

                บอส ดูนู่นดิ นั่นไร่อ๋อผมชี้ไปที่พื้นที่กว้างที่มองไกลๆแล้วเหมือนจะธรรมดาแต่สายตาของผมมันเห็นเป็นไร่ผลไม้! ไม่องุ่นก็อะไรสักอย่างถ้าเดาไม่ผิด นี่บอสมีไร่เป็นของตัวเองด้วยจริงอ่ะ! เฮ้ย ทำไมความลับแบบนี้หนูไม่เคยรู้

                “ครอบครัวกูส่งออกไวน์ ทำมาตั้งนานก่อนที่กูจะไปเป็นมาเฟียอีกเห็นว่าจะทำกลบอิทธิพลมาเฟียในย่านอเมริกานี่แหละ

                งั้นถ้าส่งออกไวน์ต้องมีแค่ไร่องุ่นใช่มั้ยนะ...

                โคตรเจ๋งเลยอ่ะ!!!

                “งี้บอสก็มีไวน์เป็นของตัวเองด้วยดิ โคตรเท่ห์เลยอ่ะ!”

                “ในแอลเอห้างกูก็มี ร้านขายของส่งออกกูก็มี ทะเลส่วนตัวกูยังมีเลย

                “หูวววววว งี้หนูเป็นเด็กที่บุญเยอะที่สุดในโลกเลยมั้ง ได้มีบอสเป็นผัว อ๋อ! งั้นเวลาหนูไปไหนหนูก็จะเข้าห้างของบอสแล้วกัน บอสต้องให้ของหนูฟรีด้วยนะแล้วก็ถ้าเป็นทะเลส่วนตัวบอสต้องเอาพวกร้านส้มตำปลูปลาร้ามาเปิดข้างหาดได้มั้ยอ่ะเผื่อหนูเล่นน้ำแล้วอยากกิน โอ๊ยยย แค่คิดก็วีไอพีแล้วอ่ะ!”

                “เงียบไปเลยเด็กบ้าเอ๊ย...

                บอสขยี้หัวผมจนฟ่องอย่างพอใจก่อนจะเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับพวกแจ๊คซันนี่ไปส่วนผมก็ยังถูกใจบรรยากาศที่นี่ไม่หาย แต่สายตาของผมก็ไปสะดุดกับแปลงอะไรสักอย่างหนึ่งแปลงที่อยู่ข้างๆกับไร่องุ่นของบอส

                มันเป็นไร่ที่มีแต่ไม้เหี่ยวเฉาดินก็แห้งแตกแต่ยังดีที่มีลำธารน้ำอยู่ข้างๆ บุคคลที่คิดว่าน่าจะเป็นคนงานดูแลไร่ของบอสกลับไม่มีใครเข้ามายุ่มย่ามในเขตนี้สักคนปล่อยให้มันแห้งอยู่แบบนั้นทั้งที่พื้นที่ทั้งหมดนั่นอาจจะปลูกพวกผักได้สมบูรณ์แล้วแท้ๆ...

                หรือเป็นแปลงผีสิง?

                พ่องงงงงงงงง!

               

     

                “มาร์ค! มานั่งนี่สิลูกนานๆทีจะโผล่มานะเราอ่ะเสียงผู้หญิงวัยกลางคนเป็นภาษาอังกฤษดังขึ้นภายในบ้านพร้อมเสียงทีวีที่มันเป็นภาษาฝรั่งผมกับหญิงแตงมองหน้ากันปริบๆก่อนจะหันไปมองบอสที่วางของฝากลงบนโต๊ะไม้กลางบ้านและโผกอดผู้เป็นมารดาอย่างคิดถึงสุดใจ

                เห็นภาพนี้แล้วก็คิดถึงม๊าพระมารดาของแบ๋มขึ้นมาเลย (;_;)

                ภายในบ้านนี้มีคนอยู่เพียงสามคนเท่านั้น หนึ่งก็คือแม่ของบอส สองก็น่าจะเป็นพ่อของบอสส่วนคนที่สามนี่คนข้างจะวัยรุ่นหน่อยท่าจะเด็กกว่าผมด้วยมั้งเป็นผู้ชายหน้าตาดีแต่มองไม่มามันก็เหมือนบอสเวอร์ชั่นสอง! เหมือนกันปานเอาหน้ากากของบอสมาใส่!

                ยิกๆๆ

                แรงสะกิดที่แขนทำให้ผมหยุดมองภาพครอบครัวต้วนก่อนจะหันไปหาหญิงแตงที่ทำหน้าทำตาแปลกประหลาดเพราะผมไม่เข้าใจที่นางทำ นางเลยกระซิบที่หูผมเบาๆ

                ทำไมไม่เข้าไปหาแม่เขยเล่า ไปเลย ด่วน!”

                “แล้วจะเข้าอีท่าไหนฟ่ะ...

                พลั่ก!

                เฮ้ย! จู่ๆชะนีบอบบางก็ผลักผมเข้าไปที่โต๊ะระหว่างครอบครัวนั้นทันทีทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบไม่เว้นแม้แต่บอสที่มองตามมาด้วยท่าทีอึ้งๆก็รู้อยู่หรอกว่าบอสจะแนะนำผมให้รู้จักทีหลัง อีแตง! มึงไม่รู้จักเวลาเลย ฮึ่ยยยยยย!

                คุณนายต้วนปล่อยอ้อมกอดที่กอดลูกชายของเธอออกก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะและนำนิ้วเรียวมาเชิดที่ปลายคางผมเบาๆสายตาที่ดุจกับเหยี่ยวตวัดมองทุดส่วนบนร่างกายของผมราวกับพิจารณานักโทษ ผมยืนตัวแข็งทื่อ ไม่มีใครกล้าแม้จะขยับลมหายใจผ่อนออกมาเลยสักนิด ริมฝีปากที่ถูกแต้มด้วยลิปสีแดงนั้นยกยิ้มขึ้นเหมือนที่ลูกชายของเธอชอบทำก่อนจะเอ่ยออกมาท่ามกลางความเงียบนี้

                คนนี้ใช่มั้ยมาร์ค เข้ามาสิ

                ภาษาเกาหลีที่ไม่รู้ว่าขุ่นแม่ไปเรียนมาจากไหนเรียกสติของผมกลับมาในทันทีก่อนจะเริ่มประหม่ากับตัวเองมากขึ้น การแต่งตัวในวันนี้ผมก็เรียบร้อยนะ แล้วมีอะไรผิดปกติเหรอ หน้าเหรอ? วันนี้ผมไม่ได้จัดองค์ทรงเครื่องมาเลยหน้าสดล้วนๆ จะว่าหน้าตาไทยๆแบบนี้แล้วขุ่นแม่จะรับไม่ได้เหรอ (;_;) ไม่นิยมผิวสีเหลืองเหรอครัช คงไม่ใช่มั้งเพราะคนฝรั่งก็ผิวสีแทนเยอะแยะไป แล้วมันอะไรฟะ!!

                ผมมองภาพที่ขุ่นแม่เดินเข้าไปในห้องที่คาดว่าน่าจะเป็นห้องรับแขก มองบอสที่เดินตามใจด้วยหัวใจที่ไม่แน่นอนเท่าไหร่ บอสเห็นผมแปลกไปเลยหยุดเดินแล้วก้ามเข้ามาหา

                “ไม่เป็นไร ใจเย็นๆแล้วก้าวตามพี่มาร์คมานะคนเก่งสรรพนามที่นานครั้งจะถูกเรียกออกมากระทบเข้าโสตประสาทผมเต็มๆ...

                มืออุ่นของบอสกุมเข้าที่มือของผมก่อนจะบีบเบาๆเป็นเชิงปลอบใจ ผมยิ้มให้บอสที่ยืนอยู่ข้างหน้าเพื่อบอกว่าโอเคแล้ว

                เรื่องแค่นี้เอง! มันไม่มีอะไรยากไปหรอกน่า! สู้เว้ยยยยยยย!

               

     

                “คบกันมานานเท่าไหร่แล้วล่ะเรา

                ขุ่นแม่ยิงคำถามรัวๆใส่ผมกับบอสแบบที่ผมนึกว่าตัวเองมาสัมภาษณ์รายการวันนี้ที่รอคอยเริ่มจากถามว่าบ้านเกิดผมอยู่ไหน ครอบครัวทำอาชีพอะไร มีพี่น้องกี่คน แล้วมาเจอบอสได้ยังไง รักกันอีท่าไหน บลาบลาแบะๆๆๆ

                ห้าเดือนครับบอสตอบคำถามนี้แทนผมก่อนจะมองเข้าที่หน้าผม มืออุ่นนั้นยังคงผ่อนแรงบีบมือของผมไปเรื่อยๆเพื่อลอบใจเป็นระยะๆซึ่งบอสน่าสงสารเพราะว่าที่มือผมเหงื่อมันออกเต็มจนมือของเราสองคนชุ่มไปด้วยเหงื่อหมดแล้ว กดดันยิ่งกว่าไปรายการตอบคำถามชิงรางวัลพันล้าน (;_;) อันที่จริงผมรู้จักกับแบมแบมมาเกือบห้าปีแต่เพิ่งมาคบกันจริงๆจังๆเมื่อห้าเดือนก่อน

                สมแล้วที่เป็นลูกหลานมาเฟีย ขุ่นแม่นี่แค่ตวัดหางตามองก็ชาวาบตั้งแต่นิ้วโป้งยันรากของเส้นผมแล้ว นี่คิดถูกหรือคิดผิดที่ยอมเป็นเมียบอส ไม่ใช่วันหนึ่งทำอะไรไม่ถูกใจแล้วโดนเอามีดหมอซามูไรเฉาะหัวนะ ไม่เอานะเว้ยยยยยย!

                “แล้วที่มาหาแม่วันนี้จะมาทำอะไรล่ะฮึ?”

                “ก็...คุยเรื่องแต่งงานครับ

                โอ้ววววววว แค่พูดคำว่าแต่งงานจบขุ่นแม่ก็มองผมทันที เชรดดดดดดด! กูจะผ่านด่านนี้มั้ยเนี่ย!

                “รักกันดีแน่เหรอที่จะแต่งงานกัน ชีวิตคู่มันไม่ได้สวยงามอย่างที่เราคิดหรอกนะมาร์คเมื่อเราแต่งงานกันเราต้องรับผิดชอบชีวิตของใครอีกคนด้วย แล้วคบกันมาแค่ห้าเดือน รู้นิสัยจริงๆกันหรือยัง?”มาถึงคำถามนี้บอสเลยเงียบไม่พูดอะไรอีก ผมเห็นแล้วมันเลยร้อนใจนิสัยเสียๆของผมเลยถูกนำมาใช้อีกครั้ง!

                “รู้สิครับ! ผมรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับบอสเลย! ตอนเช้าบอสชอบที่จะกินกาแฟเข้มใส่น้ำตาลแค่สองช้อนไม่ใส่ครีมเทียมแล้วก็บอสชอบใส่เสื้อสีขาวซึ่งผมคิดว่ามันเท่มากเลยครับเพราะบอสเป็นคนผิวขาวใส่แล้วปังสุดๆผมเห็นแล้วยังหวงขึ้นมาโดยไม่ทราบสาเหตุ ก่อนนอนบอสชอบที่จะดูรายการผีไม่ดูนอนไม่หลับหรือถ้านอนไม่หลับผมกับบอสก็จะเล่นเกมกันว่าใครหลับก่อนจะเป็นผู้ชนะ บอสชอบที่จะไม่กินนมเพราะบอสบอกว่ามันเหม็นคาว เวลาบอสไปทำงานบอสจะจุ๊บเข้าที่หน้าผากผมทุกวัน บอสไม่เคยกลับบ้านเกินสามทุ่มยกเว้นวันที่มีประชุมยาวนาน แล้วก็บอ...

                “พอๆๆๆพอก่อนแบมแบม

                อุ้บ!

                กูพล่ามอะไรออกไปอีกเนี่ยยยยยยยยย!!!

                อยากจะเอากรรไกรมาตัดปากตัวเองออกให้รู้แล้วรู้รอดไป! นี่พล่ามไปเยอะขนาดนี้เลยหรือไงเดี๋ยวขุ่นแม่หาว่าเป็นพวกโรคจิตวิปริตทางเพศขึ้นมาแล้วจะซวยเอากันถ้วนหน้า! อีแบ๋มอีบ้า!! อีจิตไม่ปกติ หัดเอาสติอยู่กับตัวบ้างเถอะ!!! (;_;)

                ถึงขุ่นแม่จะไม่มีอาการอะไรเลยก็เถอะแต่คนที่นั่งข้างๆผมเนี่ยมีอาการอย่างเห็นได้ชัดหน้าแดงลามมายันใบหูไปหมดแต่แบบนี้ผมก็อดแอบยิ้มออกมาไม่ได้แหะ...

                ขุ่นแม่ลุกขึ้นก่อนจะเดินไปหยิบกล่องอะไรสักอย่างมาวางไว้บนโซฟาที่เรานั่งกันอยู่ก่อนจะใส่รหัสแล้วเปิดล็อคออก ทันทีที่ผมเห็นมันผมก็ต้องเบิกตากว้างอีกครั้งเพราะมันเป็นแหวนเพรชที่ดูจะธรรมดาแต่ก็ไม่ธรรมดาเพราะมันเป็นลายสลักไปทั่ววงเป็นตัวอักษรอังกฤษอย่าง ‘T’ ส่วนตรงกลางเป็นรูปคล้ายคลื่นน้ำประดับด้วยเพรชเม็ดเล็กยิบยับ

                ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าวงนี้ราคาพันล้าน...

                แหวนสั่งทำพิเศษเสียด้วย...

                ผมกลืนน้ำลายลงคอเบาๆ ขุ่นแม่มองมาทางผมก่อนจะเพยิดหน้าเข้ากับแหวนเพรชวงนั้นอีกครั้ง

                เธอคิดว่ารักษาแหวนประจำตระกูลต้วนนี่ได้นานแค่ไหนกันแบมแบม

                นานแค่ไหนน่ะเหรอ...

                เอาความจริงหรือความหลอกเหรอครับขุ่นแม่...(;_;)

                สองวัน...ไม่สิ...ยี่สิบสี่ชั่วโมงมันยังนานไปเลย...แค่สองนาทีล่ะมั้งครับ....

                นี่ไม่ได้แกล้งโง่นะ...แต่พูดตามความจริง แหวนเพรชราคาพันล้านแบบนี้จะมาอยู่บนนิ้วผมได้นานแค่ไหนกัน ผมมันซนจะตาย รักษาพวกของตัวเองให้อยู่เป็นปีนี่คืออิมพอสสิเบิ้ลสุดละ (;_;) ทั้งห้องนี่เงียบไปทันทีรวมถึงบอสซึ่งหันขวับมาทางผมทันที

                อะไร...แบ๋มทำอะไรผิดดดดดดด!

                “นั่นสินะ...แต่แม่ขอยืนยันตอนนี้เลยนะว่า...แบมแบมยังไม่เหมาะที่จะเข้ามาเป็นสะใภ้ของตระกูลต้วนตอนนี้...

                คำพูดของขุ่นแม่ทำให้ผมจุกอยู่ที่คอทันทีจนเผลอบีบมือบอสที่กุมอยู่แน่น ผมไม่เคยหน้าชาแบบนี้มาก่อนให้ตายสิ...นี่ผมกำลังถูกคนเป็นแม่ของแฟนปฏิเสธไม่ให้แต่งงานกัน...

                นั่นหมายความว่าผมยังไม่ดีพอเหรอ?

                “จริงอยู่ที่แบมแบมรู้ทุกอย่างที่เป็นมาร์คต้วน...แต่แม่ยังไม่สามารถมอบลูกชายให้หนูได้ ถ้าหนูมั่นใจแล้วว่าสามารถพัฒนาครอบครัวของตัวเองโดยไม่พึ่งน้ำพักน้ำแรงของใครให้แบมมาคุยกับแม่อีกที

                “แต่ว่า...ผมรักบอส...เอ้ย รักพี่มาร์คจริงๆนะครับ ทุกวันนี้ถึงผมจะเป็นแค่มือซ้ายกระจอกๆคนหนึ่ง ไม่รู้ทักษะการใช้ปืนอะไรเลย แต่ผมเชื่อว่าผมสามารถทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ให้มันเป็นไปได้...

                ขุ่นแม่ขมวดคิ้วเล็กน้อยที่ผมพูดประโยคเมื่อกี้จบไป เมื่อกี้ผมไม่ได้พูดเล่นแต่ผมพูดจริงไม่มีแสตนอินด์มาช่วย! คราวนี้ผมต้องจริงจังบ้างแล้ว เราจะพลาดอะไรหลายๆอย่างในชีวิตไม่ได้หรอก

                งั้นเหรอ...งั้นพิสูจน์สิจะให้พิสูจน์อะไรล่ะครับ ให้เสกเครื่องบินมาตกที่บ้านหลังนี้มั้ยถึงจะเป็นไปได้พอตัวซึ่งผมไม่ทำหรอกคนบ้าอะไรจะทำแบบนั้นได้ แม่ของพิสูจน์แบมหนึ่งเรื่อง

                “ครับ...?”

                “หากเดินออกไปข้างนอกบ้านจะเห็นไร่องุ่นอันเป็นแหล่งสำคัญของตระกูลต้วนแล้วถ้าหนูสังเกตดีๆข้างๆไร่องุ่นนั้นจะมีแปลงสำหรับปลูกสตอเบอรี่อยู่ถ้าหนูสามารถฟื้นฟูแปลงนั้นให้สามารถปลูกสตอเบอรี่ได้แล้วล่ะก็ นำผลที่เก็บเกี่ยวมาให้แม่แล้วแม่จะมอบแหวนให้เพื่อเป็นพยานว่าหนูคือสะใภ้แห่งตระกูลต้วน โอเคมั้ย?

                ไอ้แปลงแห้งแล้งอันนั้นน่ะเหรอ...

                ถ้าจะฟื้นฟูมันก็พอมีวิธีอยู่บ้าง...

                เอาเว้ย! ลุย!

                “ครับ! เข้าใจแล้วครับ! ภายในสามวันผมจะทำการฟื้นฟูไร่นั้นให้ได้!”

                “อีแบ๋ม!”บอสโพล่งเสียงดังขึ้นทันทีจนผมสะดุ้ง ใบหน้าที่เคร่งเครียดของบอสนั้นฉายแววอยู่ชดเจนจนผมเริ่มกลัวมือหนาคว้าเข้าที่ข้อมือผมทันทีก่อนจะลุกขึ้นท่ามกลางสายตาของผู้เป็นแม่ ขอตัวนะครับแม่”        

                ผมถูกบอสลากออกมาข้างนอกห้องนั้นก่อนที่บอสจะปล่อยข้อมือผมให้เป็นอิสระ เด็กชายที่ผมบอกว่าเหมือนบอสเวอร์ชันสองนั้นวิ่งถลาเข้ามาพร้อมหญิงแตงกับอีแจ๊คซันนี่ที่ดูจะลุ้นกันจนเยี่ยวแทบราด -_-

                “แม่ว่าไงบ้างพี่บอสเวอร์ชันสองเอ่ยถามซึ่งบอสก็นวดขมับตัวเองเบาๆพร้อมถอนหายใจยาวพรืด

                “เชี่ยเอ๊ย...แม่บอกว่าไม่ผ่าน...

                “หา!!!”แล้วทั้งสามคนก็ตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน ผมก้มหน้างุด รู้สึกเหมือนว่าความฝันที่มันง่ายมันจะไม่ง่ายซะแล้วสิ.....

                ไอ้ที่กูหนักใจไม่ใช่ตรงนั้น แต่แม่จะให้แบมพิสูจน์ตัวเองโดยฟื้นฟูแปลงสตอเบอรี่

                “พี่ว่าไงนะ!?”แล้วบอสเวอร์ชันสองก็โพล่งออกมาอีกครั้ง ผมหญิงแตงและอีแจ๊คต่างงงเต้กว่าทำไมแค่แปลงผลไม้ก็ต้องตกใจอะไรประมาณนั้น

                มันมีอะไรเหรอคะคุณโจอี้หญิงแตงเป็นผู้กล้าที่จะถามขึ้นก่อนใคร

                บอสเวอร์ชันสองที่ถูกเรียกว่าโจอี้เรียกให้พวกเราออกไปข้างนอกบ้านเพื่อมองแปลงสตอเบอรี่เจ้าปัญหานั้น ผมเห็นแปลงนี้แล้วก็เหี่ยวใจลงไปอีกยี่สิบเปอร์เซนต์

                แปลงสตอเบอรี่เขาบอกกันว่าเป็นแปลงอาถรรพ์ครับ เห็นว่าใครที่จะมาฟื้นฟูแปลงนี้ต่างก็ต้องล้มเหลวไม่เป็นท่า ไม่มีใครสามารถปลูกสตอเบอรี่ขึ้นทุกคนทั้งนักวิทยาศาสตร์มาดูแล้วก็ต้องส่ายหน้าเพราะว่าไม่มีทางแก้ไข เราเลยปล่อยแปลงนี้ให้ร้างและล้มเลิกการปลูกสตอเบอรี่น่ะครับ ไม่มีใครทำได้สักคนเดียว!”

                .........

                ว่าไงนะ! ไม่มีใครทำได้เลยเหรอ!!? แล้วใครล่ะที่จะทำได้! แล้วโง่ๆอย่างอีแบ๋มคนนี้เนี่ยนะที่จะทำได้! รอให้พระอาทิตย์ขึ้นตอนกลางคืนได้มั้ยยยยยยยยยยยยยย!!!!

                แล้วถ้าผมทำมันไม่สำเร็จ...ผมก็ไม่ได้แต่งงานกับบอสใช่มั้ยนะ...

                ผมหันไปมองหน้าบอสที่ตอนนี้แทบจะกระโดดลงไปแล้วแปลงร่ายกลายเป็นสตอเบอรี่ยักษ์ ส่วนผมที่รับปากขุ่นแม่ไปแล้วกลับอยากจะเป็นลมอีกครั้ง...

                ไร่สตอเบอรี่กับแหวนตระกูลต้วน...

                แหวนที่บ่งบอกถึงความเหมาะสมที่จะเป็นสะใภ้...

                แม่ปลาบู่จ๋า ทำไมชีวิตเอื้อยก่อนแต่งงานมันถึงลำบากขนาดนี้...

                ฮอลลลลลลลลลลลล!




    เกิดเรื่องอีกจนได้ขอ ฮอลลลลล เป็นเพื่อนแบ๋มค่ะ 

    แล้วแกไปตอบแม่ทำไมว่าแกรักษาแหวนของตระกูลได้สองนาทีน่ะ ไอ้แบ๋มเอ๊ยยยยยย!

         เอาใจช่วยชีวิตรักรันทดของแบ๋มต่อไปค่ะ 55555555

    เฮ้ย! ทำไมเราเพิ่งสังเกตว่ายอดเฟบฟิคนี้มันถึงพันแล้วอ่ะ

    คือปริ่มหนักมากเลยแก ไม่คิดว่าจะมาไกลขนาดนี้

    เอาเป็นว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้ลงตอนพิเศษ ฉลองฟิคครบหนึ่งพันเฟบ เฮ้!!!!

    ถ้าสนับสนุนมาแล้วก็สนับสนุนต่อไป ใครยังไม่เคยอ่านก็จงอ่าน ใครยังไม่เคยเม้นก็จงเม้นซะ

    สาธุ เพี้ยงงงงง!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×