คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : CHAPTER 22: สามีแบ๋มใครก็ห้ามแตะ!
22
สามีแบ๋มใครก็ห้ามแตะ!
나와 있을 때 넌 편안해
เวลาที่เราอยู่ด้วยกัน คุณดูสบายๆ
นะ
시도 때도 없이 장난해
คุณเล่าเรื่องตลกให้ผมฟังด้วยละ
하얀 웃음 웃을 때 마다 ah
เสียงหัวเราะของคุณมันเหมือนกับสีขาวที่บริสุทธ์
ah
-EXO XOXO-
เราใช้เวลาเกือบครึ่งวันในการไปเลือกชุดแต่งงานที่มันจะโอเคสำหรับผมมากที่สุดซึ่งสุดท้ายมันก็ผ่านไปด้วยดีต่อด้วยการไปเตรียมตัวถ่ายรูปพรีเวดดิ้งเป็นเวลาสองชั่วโมงและตบท้ายด้วยการนั่งอ่านพิธีการแต่งงานอีกสักพักก็เสร็จเรียบร้อยสำหรับงานแต่งที่มันจะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้สุดท้ายผมกับบอสก็มาอยู่ที่ห้างส่วนตัวเพื่อเลือกของไปตกแต่งห้องตอนเข้าเรือนหอ
พูดถึงเข้าเรือนหอแล้วทำไมต้องเขินด้วยวะ
(-//////-)
ตอนแรกผมอยากจะจัดพิธีแบบไทยมากเลยนะแต่ว่าอะไรหลายๆ
อย่างที่มันไม่พร้อมการจัดงานแต่งครั้งนี้เลยกลายเป็นจัดแบบศาสนาคริสต์ไปเพราะขุ่นแม่จะจัดการให้หมดทุกอย่างโดยที่ผมกับบอสไปแค่เลือกชุดถ่ายพรีเวดดิ้งแค่นั้น
จบ
เฮ้ออออ
พูดถึงพรุ่งนี้ผมก็รู้สึกตื่นเต้นยังไงไม่รู้แหะ...
“บอส
ตุ๊กตาตัวนี้น่ารักอ่ะ ซื้อไปเป็นคู่มั้ย”ผมวิ่งร่าเข้าไปหาโซนตุ๊กตา
มันเป็นตุ๊กตาหมอนกลมๆ ที่มีหน้าตาบึ้งๆ กับหน้าตาสดใสๆ หน่อย
ผมเดินไปหยิบมันมาก่อนจะชูให้คนตรงหน้าดู “เอาเถอะน้า น้า~”
“เอามาใส่รถเข็นสิ”รอยยิ้มผมออกทันทีกับคำตอบของเจ้าตัว ผมเดินหอบตุ๊กตาพวกนี้ไปลงที่รถเข็นที่กองอยู่กับพวกของใช้อย่างอื่นเรียบร้อย
บอสมองของในรถเข็นแล้วยื่นหน้ามาถามผมซึ่งดูใบรายการของที่ขุ่นแม่จดมาให้อยู่ “มีอะไรขาดอีกมั้ย”
“เหลือแต่โคมไฟ...แต่ที่บ้านก็มีแล้วอ่ะ
จะซื้อไปอีกเหรอ?”
“เอาไปสิ เดี๋ยวมันจะ ‘ไม่สร้างบรรยากาศ’ ”
“บรรยากาศอะไร! อย่ามานะบอส!”
“ก็แค่บรรยากาศตอนเข้าเรือนหอไง
เครียดอะไร ไปโซนของตกแต่งเร็ว”พูดจบบอสก็เข็นรถเดินหน้าไปเฉย
ทำหน้าลอยไปลอยมาเหมือนกับที่พูดมาเมื่อกี้คือประโยคปกติทั่วไป
ไอ้บอสนี่มีวันไหนที่จะไม่พูดจาแบบนี้ออกมาบ้างวะ!
เห็นใจคนเขินบ้างโว้ยยยย!!!
หลังจากนั้นการเลือกโคมไฟก็ดูเหมือนจะเป็นภัยต่อผมมาก
จะเอาแบบสีไหนดีวะ สีส้มๆ หน่อยก็สวยนะ แต่ถ้าเป็นสีขาวมันจะแพงไปนิดนึง
ผมกำลังจะหันหน้าไปถามบอสแต่เสียงๆ หนึ่งที่ไม่คุ้นก็เอ่ยขัดผมเสียก่อน
“Hi! Mark!”
ผมหันไปมองตามเสียงเรียก
ผู้หญิงร่างสูงในชุดเอี๊ยมสีน้ำเงินกับกับสีผิวที่แทนนิดหน่อยแต่จะหนักไปทางขาวมากกว่า
ผมสีน้ำตาลทองกับดวงหน้าหวาน จมูกโด่งได้รูปและริมฝีปากสีพีชอ่อน ผมคิ้วขมวด
สำเนียงภาษาอังกฤษจ๋าแบบนั้นต้องเป็นคนแอลเอไม่ต้องสงสัย
แต่...นางเป็นใคร -_-
เกี่ยวข้องอะไรกับบอสหรือจะไม่ใช่มาร์คต้วน
อาจจะเป็นมาร์คอื่น...
“อี้เอินนนน! ไฮ! อี้เอินนนต้วนนน!”
ชัดเลยอิดรอก! ชัดเลยยยยย!!!
บอสที่เพิ่งรู้ตัวว่าเป็นตัวเองนั้นเลิกสนใจโคมไฟเลยหันไปสนใจชะนีเอี๊ยมที่กำลังวิ่งมานั่นทันทีในขณะที่ผมกำลังส่งสายตาพิฆาตรไปสู้
อยากบอกว่ามีเพื่อนน่ะแบ๋มไม่เคยว่า!
แต่เพื่อนหน้าอกหน้าใจบ่ามบ๊ามแบบนี้เดี๋ยวมีศึก!!!
“อ้าว ลิซซี่”เสียงของบอสเอ่ยตาม ยัยชะนีอเมริกันที่ชื่อลิซซี่เดินมาหาร่างสูงข้างๆ
ผมก่อนที่เธอจะกระโดดกอดบอสตัวลอยท่ามกลางความตกใจของผม!
“อี้เอินอ่า...ลิซซี่ดีใจมากเลยที่มาเจอที่นี่
ตั้งแต่วันนั้นเราก็แทบไม่ได้เจอกันเลยเนอะ”
สำเนียงภาษาเกาหลีที่ไม่รู้เจ้าตัวไปเรียนมาจากไหนนั้นพูดน้ำเสียงโอเวอร์แอคติ้ง
แถมยังไม่ยอมปล่อยอ้อมกอดที่กอดบอสอยู่แถมกอดแน่นซะจนผมคิดว่ามันจะรวมร่างกัน!
เบะปาก! เบะปาก! เบะปาก! และเบะปาก!
อีแบ๋มขอเบะปากเป็นรูปสระอิ!
“ไม่เจอกันนานอยู่เหมือนกัน
ยังไงก็มาเจอวันนี้แล้ว”บอสนางก็พยายามจะแกะมือเหนียวแน่นของยัยลิซซี่ออกแต่ยิ่งแกะก็ยิ่งกอดแน่น
ผมยืนกอดอกก่อนจะกลอกตาไปมาอย่างน่าเบื่อหน่าย
“ฮ้า! อ้อมกอดอี้เอินยังอุ่นเหมือนเดิมเลยนะ คิกๆ”หลังจากที่กอดบอสจนหนำใจแล้วลิซซี่ก็ค่อยๆ
คลายอ้อมกอดออกก่อนที่ดวงตาสีฟ้าครามของเธอจะสะดุดมาที่ผมแล้วเธอก็โพล่งออกมาเสียงดัง
“นี่พาหลานมาซื้อของเหรอคะ หลานน่ารักมากเลย!”
ห้ะ?
หลาน?
กูเหรอ? กูคือหลานของอี้เอินต้วนเหรอ?
หลานพ่องงงงงงงงงงงงง!!!!
“ไม่ใช่หลานหรอกครับ
ผมชื่อแบมแบมครับ”ผมโค้งตัวเก้าสิบองศาให้กับหญิงสาวตรงหน้าก่อนจะพูดแบบสำเนียงอังกฤษที่จู่ๆ
ก็พูดได้ออกมา “I was his wife!!!”
“…!”
ยัยลิซซี่(ดวง)อึ้งไปสักพักกับประโยคของผม
ผมยิ้มหวานไปให้เธอก่อนจะใช้แรงจับที่แขนของบอสและกระชากมาอยู่ข้างหลังพร้อมกับเตรียมเข็นรถหนีไปที่อื่นทันที
ไม่อยากที่จะเปิดศึกกับใครโดยไม่รู้เวลา
“ขอตัวนะครับ Good
byeee!”
แล้วการลากบอสออกมาจากสถานการณ์แห่งชะนีก็สำเร็จไปได้ด้วยดี
สาธุเถอะ! อย่ามีเรื่องเข้ามาเลย!!!
จึ้กๆ
“ทำหน้าบึ้งทำไมอีก”
ผมชะงักปลายมีดที่กำลังหั่นเนื้อเสต็กไปเล็กน้อย
ก่อนจะช้อนตามองบอสที่เอานิ้วมาจิ้มแก้มผมแบบที่เจ้าตัวชอบทำผมถอนหายใจก่อนจะตักสลัดในจานเข้าปากเคี้ยวหมุบหมับ
“ไม่รู้ดิ
ไม่ชอบยัยริดสีดวงนั่นเลยอ่ะ”
“ริดสีดวง?”
“ลิซซี่นั่นแหละ
ถามจริงว่าเกี่ยวข้องกับบอสยังไงอ่ะ”
“ก็...แฟนตั้งแต่อยู่ไฮสกูล”
“แงะ
โล่งอกไปหนูหวังว่าถ่านไฟเก่ามันจะไม่ประ...”
“อี้เอินนนนนน!!!”
เคร้ง! (เสียงช้อนและมีดร่วงลงพื้นโดยไม่ตัวสลิง)
ว้อทเดอะฟัค...
เหมือนกับฟิวส์ระงับอารมณ์ผมขาดทันที
ลิซซี่ที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนวิ่งปรี่จากหน้าร้านอาหารเข้ามาที่โต๊ะของเราก่อนจะนั่งลงตรงข้างๆ
ของบอสโดยไม่บอกไม่กล่าว ดวงหน้าหวานนั้นยิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตรทันที
มันไม่ใช่ความเป็นมิตรเลยสักนิด...
แล้วผมก็ยิ้มตอบกลับไปเป็นมารยาท
เตรียมตัวจะลุกขึ้นพร้อมลากบอสออกจากห้างเฮงซวยนี่ไปถ้าไม่ติดว่ายัยริดสีดวงคว้าแขนบอสหมับ! แถมยังเอาหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางถูๆ
ไถๆ ไปที่แขนบอสทันที
ผมมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มฝืดๆ
ในใจก่อนจะค่อยๆ นั่งลงกับโต๊ะเหมือนเดิมไม่วายส่งสายตาไม่พอใจไปที่นางด้วย
อยากจะเปิดศึกแบ๋มก็ไม่เคยว่านะเว้ย!
“อี้เอิน
แวะมากินสเต็กกับคุณแฟนเหรอคะ ไม่เห็นชวนลิซซี่บ้างเลยอ่ะ”
“พอดีว่าอยากใช้กับเวลาส่วนตัว
ไม่ใช่กับ คนนอกน่ะครับ”
“ใครถามความเห็นหนูจ๊ะคุณแฟน”
“ไม่เอาดิครับ
ไม่เผือกเวลาของครอบครัวดิ”
หึ...หึๆ
ผมว่าแล้วว่าเธอกำลังเล่นศึกกับผม!
ลิซซี่แปรเปลี่ยนแววตาเป็นโมโหขึ้นทันที
ผมยักคิ้วไปให้หนึ่งครั้งนั่นทำให้เธอแทบเลือดขึ้นหน้า
ผมยิ้มหวานตอบกลับไปในระหว่างที่เธออึ้งก่อนจะสะกิดบอสบอกให้ลุกขึ้น
บอสก็ทำหน้าเออออตาม
จังหวะนั้นผมก็ใช้เล็บข่วนไปที่มือกาวยู้ฮูของเธอพร้อมดึงบอสให้ลุกขึ้น
“ขอตัวอีกครั้งนะครับ
พอดีมีธุระเรื่องงานแต่ง!”
“ว่าไงนะ! อี้เอินจะแต่งงานโดยไม่บอกลิซซี่บ้างเลยเหรอ”
“อืม...ถ้าจะมาก็มาได้นะ”บอสที่เริ่มคล้อยตามยัยลิงหน้าแบะนั่นไม่ใช่เรื่องดี
ก็รู้อยู่ว่าบอสนั้นเห็นลิซซี่เป็นเพื่อนแต่สายตาที่เจ้าตัวมองมามันมากกว่านั้นหลายเท่า!
เธอคงอยากจะที่สานสัมพันธ์ต่อไปถ้าไม่ติดว่าผมยืนขวางคอมารแบบเธออยู่!
ผมทำท่าง้อแง้งก่อนจะควงแขนบอสพร้อมเอาหน้าไปซบกับหัวไหล่กว้าง
ดัดเสียงบ้องแบ๊วพร้อมทำตาปริบๆ ใส่ร่างสูง
ซึ่งบอสต้วนขมวดคิ้วทันทีคงรู้แหละว่าผมกำลังแกล้งเธออย่างจริงจัง
“เอ...บัตรมันเหลือแค่ใบเดียวเองนี่พี่มาร์ค
งั้นเอาไปให้โคโค่ดีกว่าเนอะเดี๋ยวเขาจะหาว่าหมาเข้ามาในงานได้ไง เนอะๆ พี่มาร์คเนอะ”
“นี่! มันจะมากไปแล้วนะ!”
ยัยลิซซี่ที่ดูเหมือนจะหมดความอดทนกับลูกเล่นของผมก็แว้ดขึ้นมาจนคนในร้านมองมาที่โต๊ะเราเต็มไปหมด
มือของเธอคว้าเข้าที่ต้นแขนผมก่อนจะกระชากออกมาจากโต๊ะ บอสที่ดูท่าไม่ดีนั้นกำลังจะเดินเข้ามาห้ามทัพแต่ผมทำท่าเป็นเชิงห้ามไว้ก่อนและปล่อยให้เธอลากไปโดยไร้จุดหมายอยู่แบบนั้น
ผมพูดออกไปโดยไม่ออกเสียงเป็นสัญญาณให้คนตัวสูงรู้ถึงแผนการของผม
‘เดี๋ยวหนูจัดการเอง!’
ซึ่งบอสก็กุมขมับก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงตกลง
หึ!! เล่นกับแฟนมาเฟียแบบนี้จะแก่นไปหรือเปล่าคุณหนู!!!
ลิซซี่กระแทกประตูเดินเข้าห้องน้ำหญิงไปก่อนจะล็อคประตูห้องน้ำเพื่อไม่ให้ผมออกไปได้
ดีนะที่ไม่มีใครมาใช้ห้องน้ำในเวลานี้ไม่งั้นคงจะมีฉากที่ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำแก่เด็กเยาวชนทั้งหลาย
มือที่จิกลงมาบนต้นแขนของผมเหวี่ยงผมไปติดกับผนังของห้องน้ำ แววตาที่ถูกกรีดด้วยอายไลเนอร์คมกริบมองผมด้วยสายตาเกรี้ยวกราดเหมือนกับอยากจะจับผมไปทำต้มยำทันที
“แกคิดว่าเจ๋งนักหรือไงที่มาเมินฉันแบบนี้!”
“ก็คิดแบบนั้นแหละครับ
ไม่คิดแบบนั้นก็คงไม่ทำแบบนี้”ผมยกยิ้มร้ายก่อนจะใช้มือผลักร่างบางของเธอให้รักษาระยะห่างของผมกับเธอเอาไว้
“ช่วยออกไปห่างๆ ด้วยครับ เหม็น”
“ยัยเด็กนี่!!!”ลิซซี่ง้างมือลงมาจะฟาดลงที่หน้าผมทันทีแต่ว่าผมคว้าข้อมือเธอได้ทันก่อนที่ผมจะทำการหักข้อมือของเธอเล่นเอาร่างของยัยนี่ร้องโอ๊ย
“โอ๊ย! ปล่อยฉันนะ!!!”
ผมยอมปล่อยข้อมือนั้นไปก่อนจะมองด้วยสายตาที่ไร้ความรู้สึกใดๆ
เพราะรู้สึกว่ามันน่าเบื่อที่เราจะต้องมาตบตีกันเพื่อแย่งผู้ชายอย่างบอส
“เคลียร์เสร็จยังครับ
พอดีว่าเมื่อยแล้ว”
“หึ! เสร็จแน่ถ้าแกยกมาร์คให้ฉัน!”
“เหอะ... สมองนี่คิดได้แค่นี้เหรอ?
เรียนรู้ถึงสังคมโลกบ้างครับไม่ใช่ว่าอยากได้ผัวจนตัวสั่นขนาดนั้น
คนที่เขามองมามันสมเพช”
“แก...!”
“อารมณ์ไม่ดีเข้าหน่อยก็ใช้กำลัง
ผู้ชายเขาไม่โอเคหรอกครับที่จะเป็นแฟนผู้หญิงแบบคุณ เผลอๆ
อยากจะทิ้งทันทีที่ขอคุณคบด้วยล่ะมั้ง อ้อ! แล้วก็เลิกยุ่งกับสามีผมได้แล้วครับ
ถ้าจะทำตัวน่ารังเกียจแบบนี้ก็กลับไปนอนอยู่ที่บ้านกระดิกนิ้วรอสามีงอกออกมาจากพื้นบ้านเหอะ!”
“กรี๊ดดดดดด!”
ผมยกมือขึ้นอุดหูทันที
เสียงผู้หญิงคนนี้มันช่างแหลมได้ใจจริงๆ
ได้ยินทีแล้วขี้หูเต้นกระเด็นออกมาจากรูหมดแล้วมั้ง!
“ถ้ามีปัญญาฉีดโบท็อกซ์ใส่ร่างกาย
ก็อย่าลืมไปแวะให้หมอฉีดสมองบ้างนะครับ จะได้มีความคิดที่เหมือนมนุษย์มากกว่านี้!”
“อย่าคิดว่าแกจะออกไปหาอี้เอินเป็นครั้งที่สองนะยะ!!!”
ยัยชะนีตรงหน้าผมเตรียมฟาดมือลงมาอีกครั้ง
ผมถอนหายใจกับมุกเดิมๆ
ของเธอก่อนจะคว้าข้อมือทั้งสองข้างของเธอเอาไว้และทำการถีบขาไปที่เข่าของเธอจนเธอเข่าทรุด
ลิซซี่ลุกขึ้นอีกครั้งเตรียมบุกผมเต็มที่
ผมมองสังขารของเธอแล้วก็รู้สึกผิดขึ้นมาบ้างนิดเดียว
นี่อุตส่าห์ไม่ใช้ไม้เด็ดแล้วนะ!
ลิซซี่วิ่งมาทางผมเต็มแรง
ผมเบี่ยงตัวหลบก่อนจะคว้าแขนของเธอเอาไว้แต่เธอก็ยังดิ้นไม่หยุดทำให้ผมต้องเหวี่ยงร่างของเธอเข้าไปในห้องเก็บของสำหรับแม่บ้าน!
ผมเดินตามเข้าไปหาเธอก่อนจะเจอกุญแจล็อคห้องน้ำจากด้านนอกซึ่งมันจะเป็นประโยชน์ได้ดีในเวลานี้!
ในจังหวะที่ลิซซี่กำลังอ่อนแรงจากแรงเหวี่ยงเมื่อกี้ผมก็เดินไปปลดล็อคประตูของห้องน้ำและเดินออกมาข้างนอกห้องน้ำจนพบกับร้านอาหารที่คนยังแน่นตามเดิม
ลิซซี่ที่ผมเพ้ากระเซอะกระเซิงรีบวิ่งออกมาข้างนอกห้องเก็บของหวังว่าจะจับผมได้ทัน
แต่มันไม่ทันแล้วล่ะ...
เพราะว่าผมใช้กุญแจล็อคห้องน้ำจากด้านนอกไปแล้ว
:)
ว้าว แย่จัง...
ผมชูกุญแจให้เธอดู
ลิซซี่ที่ถูกขังในห้องน้ำนั้นทุบประตูอย่างบ้าคลั่งซึ่งมันเรียกรอยยิ้มจากผมได้ดีทีเดียว
แต่จะให้เธอออกมาตอนนี้เดี๋ยวก็เกิดเรื่องร้ายๆ กันพอดี
ผมทิ้งกุญแจลงถังขยะที่ใกล้ที่สุดก่อนจะยักคิ้วให้เธอเป็นครั้งสุดท้ายและเดินจากมาพร้อมกับความรู้สึกดีๆ
ที่เปี่ยมล้นไปทั่วหัวใจ
จังหวะที่ผมเดินผ่านผู้จัดการของร้านผมก็เรียกเขาไว้พร้อมเพยิดหน้าไปที่ประตูห้องน้ำเจ้ากรรม
“มีหมาติดอยู่ในห้องน้ำ
อย่าลืมไปเอาออกด้วยนะครับ”
เสร็จแล้วก็ส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
ผู้จัดการทำหน้าเลิกลั่กเพราะกำลังสงสัยว่าหมานั้นมาจากไหน
ผมเดินลงมาจากร้านอาหารก่อนจะเห็นบอสที่ยืนเก๊กหล่ออยู่หน้าประตูทางออก
ว่าแล้วผมก็วิ่งเข้าไปหาพร้อมสวมกอดร่างสูงอย่างคิดถึง
บอสลูบหัวผมอย่างเอ็นดูก่อนที่จะกอดตาม
“ไปทำอะไรลิซซี่น่ะ
เดี๋ยวพ่อของยัยนั่นก็ฟ้องกูอีก”
“อำนาจบอสล้นเหลือน่า
ถ้ากลัวว่าจะโดนฟ้องบอสก็ส่งลูกน้องไปขู่ก็แล้วกัน”
“ร้ายนะ”
“ร้ายเพราะรักต่างหาก
ไปกันเหอะ! อยากกลับไปบ้านแล้ว!”
“แล้วสรุปว่ามึงไปทำอะไรมาในห้องน้ำ”
“ก็...แค่ปล่อยหมาสู่บ้านเท่านั้นเอง”
20.25
“ม๊าอ่า! ไม่อยากเจอแบมอ๋อ! ทำไมมาถึงแอลเอแล้วก็ไปหนีเที่ยวกับพี่แบงค์แล้วก็พี่เบียร์อีกนี่อย่าบอกนะว่ายัยเบบี้ก็ตามมาอ่ะ”
[มากันหมดนั่นแหละจ้ะ
แหม่ๆ แอลเอนี่ที่น่าเที่ยวเยอะจะตายไป ไม่งอนม๊านะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าๆ
ม๊าก็จะไปถึงงานแต่งของลูกชายม๊าแล้ว]
“ม๊า! คิดถึงม๊าอ่ะอยากกอดแล้ว อยากหอมแก้มด้วย”
[ม๊าก็คิดถึงแบมเหมือนกันนะครับ
นอนได้แล้วคนดีเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นมาจะไม่ปังเอานะ]
“งืออออ”
[งอแงนะเรา แม่จะฟ้องพี่มาร์คของแบมเอาเลยนี่]
“บอสเขาไม่ทำอะไรหนูหรอกน่า
งั้นม๊าก็เที่ยวต่อเหอะ อย่าให้ดึกนะ เป็นห่วงม๊านะ รักม๊านะ
รักพวกพี่แบงค์กับเบบี้ด้วย”
[โอเคจ้ะ
ม๊าจะบอกให้ทุกคำที่แบมพูดออกมาเลย]
“แค่นี้นะม๊า
แบมต้องไปเตรียมหน้าอีกอ่ะ จุ๊บๆๆๆ รักม๊านะ!”
[บอกมากๆ
ม๊าเขินหมดแล้วตะหนูเอ๊ย จ้า ฝันดีจ้ะ]
ติ๊ด!
หลังจากที่ม๊าวางสายผมไปแล้วผมก็ถอนหายใจพรืด
ก็ม๊าอ่ะ
มาถึงแอลเอเมื่อเย็นนี้แต่กลับไม่ยอมมาที่บ้านตระกูลต้วนเหตุผลเพราะว่าอยากที่จะไปเที่ยวแอลเอให้หนำใจ
แหม่ รักผมกันจริงๆ เลยครับ (;_;)
ผมนอนเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ
ระหว่างรอบอสเคลียร์งานเสร็จก่อนพรุ่งนี้เพราะว่าไม่อยากให้กังวลอะไรในงานแต่งงาน
อันที่จริงผมก็ต้องตื่นเช้ามาแต่งหน้าอยู่เหมือนกันนะเล่นเอานอนไม่หลับเลยอ่ะ...มันโหวงๆ
ในใจยังไงไม่รู้เหมือนกัน
แอร๊ยยยยยยย!
เขินโว้ยยย! พูดถึงว่าจะมีผัวแล้วก็อดกลิ้งไปมาบนเตียงไม่ได้!
สายตาผมสะดุดเข้ากับชุดแต่งงานของเราที่แขวนอยู่ในห้อง
แค่นี้หน้าผมก็ร้อนเห่อขึ้นมาทันทีเพราะพรุ่งนี้จะเป็นวันที่ดีที่สุดสำหรับเรา...สองคน
ผมกับบอส...
แอด...
ประตูของห้องถูกเปิดเข้ามาเบาๆ
พร้อมกับร่างสูงของบอสที่ค่อนข้างจะเหนื่อยมากมายสำหรับการเคลียร์งานให้เสร็จ
บอสปลดกระดุมเสื้อลงสองเม็ดก่อนจะหันมามองผมที่นอนอ่านหนังสือบนเตียง เสียงดุๆ
ก็เอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบทันที
“ทำไมไม่อาบน้ำ”
“อืออ
กำลังจะอาบแล้วนี่ไง อีกแปบนึง”
ผมบอกปัดไปเรื่อย
ในใจคิดแค่ว่าค่อยอาบน้ำทีหลังก็ได้ พอแต่งตัวเสร็จหัวถึงหมอนปุ๊บก็หลับปั๊บอะไรแบบนี้
แต่ดูเหมือนตรรกะของผมคนอย่างบอสจะไม่เข้าใจอีกแล้ว
(;O;)
จู่ๆ ร่างของผมก็เหมือนลอยได้และมันไม่ใช่จากใครที่ไหน จากมาร์คต้วนคนนี้ที่ช้อนตัวผมขึ้นลอยกลางอากาศ ผมทิ้งหนังสือลงเตียงทันที พยายามดิ้นออกจากการรุกรานของบอสที่ดูเหมือนจะแกล้งผมอีกแล้ว
“งืออออ หนูบอกว่าค่อยอาบไง
บอสไปอาบก่อนเลยยยย”
บอสยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะไม่สนใจเสียงของผมที่พูดขัดเลยสักนิด
ขายาวก้าวเข้าไปในห้องน้ำโดยไม่ลืมว่าผมก็อยู่บนอ้อมแขนนี้!
เฮ้ยๆๆๆๆ เดี๋ยวๆๆๆๆๆ
ใจเย็น! จะทำอะไร
ใจเย็นนนนนนน!!!
บอสวางผมลงไปอ่างอาบน้ำก่อนที่จะทำการปิดประตูห้องน้ำลงและล็อคกลอนมันทันทีการกระทำนั้นตกอยู่ท่ามกลางสายตางงเต้กของผมที่อยู่ในอ่างอาบน้ำ
ผมกลืนน้ำลายลงคอเริ่มจะได้รับรู้ถึงสถานการณ์ตัวเองที่มันกำลังจะเกิดขึ้น
วันนี้บอสเป็นอะไรไป (;_;) จู่ๆ
ท่านขุนก็คึกขึ้นมาจนอีเอื้อยคนนี้วิ่งตามไม่ทัน
เฮือกกกก!
“ขี้เกียจอาบน้ำใช่มั้ย
งั้นก็อาบพร้อมกันกับกูเลยเนอะ ประหยัดเวลาดี!”
“ห๊า! ว่าไงนะบอส! เดี๋ยวๆๆๆ อย่าเพิ่งถอดโว้ยยยย! อ๊ากกกกกกก!”
พื้นที่สร้างสรรค์ปล่อยให้รีดเดอร์ทุกคนจินตนากาหลังจากนั้นตามใจชอบ ฮุๆๆๆๆ -.,-
ฉากน่ารักๆ กุ๊งกิ๊งๆ มุ้งมิ้งๆ สไตล์ความใสๆของพวกเรา 555555555
คือตอนนี้แบ๋มเท่มากกกกก ริดสีดวงนี่มีเงิบไปเลย 55555
เขินไม่เขินไม่รู้แต่ที่รู้ๆ ไรท์โคตรเขิน แอร๊ยยยย!
ความคิดเห็น