ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MARKBAM ♡ ツ Are you Ok? 『คือแบมโอเค!! 』

    ลำดับตอนที่ #26 : CHAPTER 25: คุณพ่อต้วนนั้นง้อใครไม่เคยจะเป็น

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.62K
      21
      17 ต.ค. 58


    25

    คุณพ่อต้วนนั้นง้อใครไม่เคยจะเป็น

     

    에이 아는데 자꾸 숨겨

    เอ ผมรู้หมดแล้วน่า จะแอบทำไมล่ะครับ

    네가 좋아하는게 이미 얼굴에 쓰여있어

    คุณชอบผมไม่ใช่เหรอ แหม มันก็เขียนอยู่บนหน้าคุณหมดแล้วนี่ครับ

    에이 나를 보다 눈을 돌려

    เอ มองผมสิครับ จะหันไปไหนกันล่ะ

    아는데 에이 에이

    รู้หมดแล้วน่า

    -GOT7 A-

     


                ไลน์!

     

                MarkandBam: เป็นไงบ้าง ดีขึ้นมั้ย?

               

                เหอะๆ …..

                ผมจ้องข้อความนั้นด้วยความเหลืออดก่อนจะพิมพ์แบบประชดกลับไป!

               

                BamBamandMark: ตายเมื่อไหร่เดี๋ยวโทรไปบอก!

               

                “ย่าห์! บอสนี่มันเหลือคนจริงๆ!”

                ตุบ!

                ผมเขวี้ยงโทรศัพท์ไปไว้บนเตียงก่อนจะพ่นลมหายใจออกมายาวเหยียดเล่นเอาหญิงแตงที่จัดอาหารเช้าอยู่นั้นต้องเดินมาบีบๆ นวดๆ ไหล่ผมเพื่อให้ผมผ่อนคลาย

                ไม่เอาสิคะพี่แบ๋ม เป็นคุณแม่ต้องอารมณ์ดีตลอดเวลานะคะ ยิ้มก่อนค่ะเดี๋ยวลูกจะไม่สบายใจเอานา...

                ผมค่อยๆ สะบัดความโกรธออกไปพร้อมผ่อนลมหายใจเข้าออก โอเคนะแบ๋มน้อย...ไม่โกรธคุณแม่ที่ขึ้นเสียงนะครับ คุณแม่ขอโทษนะคนเก่ง...

                หลังจากที่ผมลืมเรื่องบอสไปได้แจ๊คซันนี่ก็ยกอาหารเช้าเข้ามาในห้อง ตั้งแต่วันรู้ว่าผมท้องมันก็ดูแลผมดียิ่งกว่าแม่ เหมือนกับดูแลลูกตัวเองอ่ะ คิดดู...

                จะว่าไปบอสมันก็โง่ว่ะ คิดได้ไงว่าพี่ท้องเสีย ฮ่าๆๆๆ ยิ่งนึกก็ยิ่งขำ

                “สัญญาณไม่ดี สงสัยตอนต่อไปกูคงต้องบินไปอังกฤษเพื่อถล่มเสาอากาศ

                “โวะ โหดเวอร์ มาๆๆ วันนี้พี่ต้องเน้นผักนิดนึงนะ กินได้ใช่ป่ะ?”

                “อือ กินได้ เริ่มจะกินได้ละ

                หลังจากอาการเมื่อวานข้าวผมก็แทบไม่ได้ตกถึงท้องเลย พอมาวันนี้ผมก็อาเจียนออกมาเป็นครั้งคราวกลิ่นอาหารหลายๆ อย่างก็เริ่มโอเคมากขึ้น ผมเริ่มกินข้าวได้แล้ว เจ๋งใช่มั้ยล่ะ ผมค่อยๆ พาตัวเองจากเตียงเพื่อไปนั่งที่โต๊ะอาหาร แซนด์วิชที่แอ้งแม้งอยู่ในจานผมบ่งบอกว่านี่คือข้าวเช้ามื้อแรก ยังไม่ทันที่ผมจะนำมันเข้าปากเสียงแจ้งเตือนของโปรแกรมก็ดังขึ้นกับโทรศัพท์ผมก่อน

                ไลน์!

                ชะงักค้าง...ไม่สนใจ กินต่อไป...

                ไลน์!

                -_- ใครวะ

                ไลน์!

                ไลน์!

                ไลน์!

                “คงไม่ต้องกินมันแล้วแหละวันนี้

                สุดท้ายผมก็ทนไม่ไหวเดินย่องๆ เข้าไปดูที่โทรศัพท์เจ้าปัญหาซึ่งมันกำลังกวนประสาทผมอย่างไม่หยุดหย่อน แชทไลน์ของผมเด้งเข้าเป็นกล่องจดหมายผมเปิดโปรแกรมขึ้นมาดูก่อนจะพบคนที่ส่งข้อความมา

     

                MarkandBam: ยังไม่หายอีกเหรอ กินยาไปหรือเปล่าเมื่อวาน

                MarkandBam: อย่าดื้อดิ กินยาด้วย

                MarkandBam: พี่มาร์คเคลียร์งานเสร็จแล้วนะครับเด็กดี วันนี้จะขึ้นเครื่องกลับแล้ว

                MarkandBam: เอาอะไรมั้ยครับ?

               

                ไม่ต้อง ไม่ต้องงงงง!

                ไม่ต้องมาเปลี่ยนสรรพนามเพื่อง้ออีแบ๋มคนนี้เลย! ไม่หลงกลหรอก! ไม่ต้องมาครับด้วย! ไม่ต้องโผล่มาเลยไอ้คนบ้า!!!

                งี่เง่า!

     

                BamBamandMark: ขอให้เครื่องบินตกกลางอากาศเจอหลุมดำดูดเข้าไปเปลี่ยนเป็นสามเหลี่ยมเบอร์มิวดา!

                BamBamandMark: หนูจะให้คนของบอสล็อคประตูหน้าคอนโดเอาไว้ไม่ให้บอสเข้า แอบเจาะยางรถยนต์ของบอสทุกคัน ไม่ให้บอสได้เจอหนูหรอก!

                BamBamandMark: นี่ไม่ได้โกรธนะเนี่ย! บอกเลยยยยยย!

                BamBamandMark: (สติ๊กเกอร์บราวน์ฟาดแข้งโคนี่)

               

                บ้าๆๆๆๆ! ไอ้บ้าเอ๊ย!”แล้วผมก็อดด่าใส่โทรศัพท์ไม่ได้ นี่ทำไมวันนี้อารมณ์เสียแปลกๆ ผมกลายเป็นคนขี้หงุดหงิดแล้ว (;_;)

                “พี่แบ๋มอ่า...คิดมากอีกแล้ว ไม่เป็นอะไรหรอกน่า เดี๋ยวบอสก็มีเซอร์ไพรส์มาให้พี่ไง ผมว่าบอสน่าจะรู้แล้วนะเรื่องที่พี่ท้องอ่ะเสียงเข้มของคนที่ขัดผมนั้นดังขึ้น ผมตวัดสายตาไปมองที่อีแจ๊คซันนี่ทันทีก่อนที่มันจะทำหน้าเหลอหลาเล็กน้อยกับอาการของผมซึ่งสงสัยในคำพูดของมันก่อนที่มันจะโดนหญิงแตงฟาดแขนเข้าให้

                คิดว่ามีพิรุธป่ะ?

                โคตรๆ เลยขอบอกกกกก!

                ยุบหนอ...พองหนอ...ตั้งสติหนอ...อารมณ์ดีเข้าไว้แบ๋ม...

                แบบนั้นแหละ โอเคแล้ว โอเคเลย...

                โอเคมากเลย แบมโอเคมากเลย!!!

                เอ้า ไม่เชื่อกันเหรอ!!??

     

     



                “งั้นพรุ่งนี้มีข้าวต้มหมูในตอนเช้ากับไข่ดาว บวกนมเพิ่มไปอีกหนึ่งแก้วนะพี่แบ๋ม

                “ทำไมต้องกินนมทุกวันด้วยอ่ะ

                “ลูกพี่จะได้แข็งแรงไง งั้นวันศุกร์ก็ผัดผักกับน้ำขิงถ้วยนึงก่อนนอนผมให้งดนมหนึ่งวัน

                “น้ำขิง? ช่วยอะไรอ่ะผมสะดุ้งเล็กน้อยจากการที่หญิงแตงกุมมือทั้งสองคนของผมไว้ภายใต้มือนิ่มในระหว่างมองอีแจ๊คซันนี่วางตารางอาหารไว้ในทุกวัน

                “แตงว่าลูกพี่แบ๋มเกิดมาต้องขี้สงสัยเหมือนแม่แน่เลยอ่ะ

                ผมเป็นคนขี้สงสัยเหรอ เพิ่งรู้นะเนี่ย (;O;)

                อันที่จริงไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะเนี่ยว่าแจ๊คซันนี่กับหญิงแตงจะเก่งเรื่องละเอียดอ่อนแบบนี้ด้วย รู้แค่ว่าแจ๊คซันนี่เป็นคนฉลาดแต่ก็เหมือนคมในฝักส่วนหญิงแตงน่าจะโดนเลี้ยงมาแบบวิธีโบราณเลยทำให้ดูเหมือนสตรีในสมัยเกาหลี ผมที่นั่งอยู่บนเตียงกดหน้าลงกับตุ๊กตาหมีที่บอสซื้อให้ตอนแต่งงานเพราะผมอ้อนอยากได้มัน มันก็เลยถูกสอยมาในพริบตา วะฮะฮ่า!

                ติ๊งงงต่องงง!

                เสียงออดหน้าห้องดังขึ้น มีแขกมาเยือนอีกแล้ว ผมทำท่าจะลุกไปเปิดแต่แจ๊คซันนี่กลับแย่งไปเปิดก่อน ทันทีที่ประตูถูกเปิดร่างสูงของผู้ชายคนหนึ่งก็ปรากฏขึ้น ใบหน้าถูกปกปิดด้วยผ้าพันคอราคาแพง เพียงเห็นแค่นิดเดียวผมก็รู้เลยว่าใคร        

                บอส!”เป็นผมที่โพล่งลั่นออกไปก่อนท่ามกลางความอึ้งของตัวเอง

                “อ้าวบอส กลับมาเมื่อไหร่เนี่ยแจ๊คซันนี่เป็นคนเอ่ยตามออกมา เท่านั้นแหละอารมณ์ที่เคยพุ่งพรวดก็ย้อนศรกลับตีเข้ามาที่ผมอีกครั้ง ความโมโหจากเมื่อวานแทบทำให้ผมกลั้นอารมณ์ตัวเองไว้ไม่อยู่ ผมกัดฟันแน่นเพื่อที่จะได้ไม่โพล่งอะไรแย่ๆ ออกไป

                สิบห้านาทีที่แล้ว พอมาถึงก็แว๊นมานี่เลย

                “งั้นก็มานั่งก่อนดิ ผมว่าพี่แบ๋มมีเรื่องสำคัญจะบอก!”แจ๊คซันนี่พาบอสเข้ามาข้างใน ผมสบตากับคนตัวสูงแวบหนึ่งก่อนที่จะผลุบตาหนีหายไปสนใจรายการทีวีตรงหน้ามากกว่า ว่าไงพี่แบ๋ม บอกๆ ไปดิ

                น่านนนน โยงมาที่กูอีกแล้วครัช (;_;)

                ผมอมลมไว้ในปากจนแก้มพองออกมาด้านนอกพร้อมกอดตุ๊กตาหมีแน่น ไม่สบตา ไม่คุยด้วย ไม่! ไม่! ไม่! ไม่! ม่ายยยยยยย!

                “นี่ไม่คิดจะทักกันหน่อยเหรอ?”บอสนั่งลงตรงข้างผมก่อนจะยื่นมือมาแตะไหล่เบาๆ แต่ผมก็สะบัดออก ไม่มองหน้าใครมองแต่จอทีวีทั้งๆ ที่ตอนนี้สติไปอยู่กับคนข้างๆ ไปหมด

                เราต้องไม่ใจอ่อน!

                ต้องไม่ใจอ่อนเข้าใจมั้ย!!!

                “คนท้องเสียเค้าไม่คุยกับคนที่กลับมาจากอังกฤษหรอก

                “งอนจริงเหรอวะเนี่ย...งอนกูเหรอแบ๋ม

                “คนท้องเสียเค้าไม่มีสิทธิ์งอนคนที่กลับมาจากอังกฤษหรอก

                “แบ๋ม มีอะไรก็มาคุยกัน เร็วๆ หันมา

                “คนท้องเสียมักจะคอเคล็ดไม่หันหน้าไปคุยกับคนที่กลับมาจากอังกฤษหรอก

                นี่ไม่ได้ประชดนะเนี่ย!

                ไม่เชื่อเหรอ!

                ผมยังอมลมไว้ในแก้มอยู่แบบนั้นจนคาดว่าหญิงแตงกับแจ๊คน่าจะพบได้ถึงความผิดปกติ พวกเขาสองคนเลยมาลากบอสออกไปก่อน ผมยู่หน้าเล็กน้อย เรื่องแบบนี้น่ะไม่เคยที่จะสนใจหรอก เชอะ (;_;) ผมปรายตามองร่างสูงของบอสที่โดนลากเข้าไปในครัวพร้อมกับแจ๊คซันนี่และหญิงแตงก่อนจะสะบัดหน้าจนผมปลิวมาสนใจรายการทีวีที่ตอนนี้ไม่ได้ให้ความสุขกับผมเลยสักนิดเดียว เสียงของบอสยังคงลอยนวลอยู่ในหัว นี่หัดง้อคนบ้างมันจะตายหรือไง ง้อเมียบ้างสิโว้ยยย ง้อออออ!

                เวลาผ่านไปบอสก็ยังไม่มาง้อผมสักที นี่อุตส่าห์นั่งอยู่ตรงหน้าทีวีไม่ขยับไปไหนแล้วนะโว้ย นี่ไม่คิดจะเดินมาแบบบอกว่า ที่รักครับ พี่มาร์คขอโทษนะคนดีแบบนี้มันไม่มีเลยหรือไง!   เซ็งจิตชีวิตปลาบู่...

                เอื้อยคิดถึงแม่ปลาบู่แล้ว แปลงร่างเป็นเงือกแล้วลอยไปกับท่อระบายน้ำได้มั้ย (;_;)

                หิวขนมอีกแล้วอ่ะ...

                ผมลุกขึ้นยืนเพื่อที่จะเดินไปเอาขนมกินเล่นในตู้เย็นจนสบเข้ากับดวงตาคมกริบของบอสที่นั่งคุยกับพวกอีแจ๊คอยู่ ดวงตาทั้งสามคู่จ้องมาที่ผมเป็นตาเดียวกันเหมือนกับจะสื่อว่า มึงเข้ามาทำอะไรประมาณนี้ -_-

                เชอะ! #แอคติ้งโอเวอร์สะบัดไปด้านขวาสี่สิบแปดองศา

                ระหว่างที่ผมคุ้ยหาขนมบิสกิตแท่งและกำลังะจถามมันว่ามันอยู่ไหนในตู้อีแจ๊คซันนี่ก็ชิงพูดขึ้นมาก่อน

                “เอ้ออออ! พี่แบ๋ม งั้นแจ๊คกับแตงไปแล้วนะ พอดีมีนัดกับเพื่อนที่ห้อง

                “อ้าว! ไหนบอกจะอยู่ด้วยกันทั้งวันไง!”

                “เอาน่า สามีพี่ก็กลับมาแล้ว ไปเนอะแตงเนอะ ไปๆๆๆ

                “เฮ้ยยยยย!”

                ปัง!

                แล้วอีแจ๊คก็ลากชะนีบอบบางหนีหายออกจากห้องไปทันที เหลือแต่ผมกับผู้ต้องหาอย่างบอสที่มองมาด้วยแววตาแอบกังวลเล็กน้อย ผมกัดบิสกิตแท่งก่อนจะสะบัดหน้าหนีไปนั่งอยู่หน้าทีวีอีกครั้ง

                บรรยากาศเงียบไปในทันที ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนน่าจะมีเสียงหัวเราะมากกว่านี้แท้ๆ ผมนั่งขำกับทีวีเรื่อยเปื่อยแต่ก็แอบเหล่บอสอยู่ว่าทำอะไรบ้าง ผมไม่เห็นบอสนั่งอยู่ในครัวแล้ว เท่านั้นแหละขาเจ้ากรรมมันก็ทำการลุกเพื่อเดินหาทันที แต่ยังไม่ทันได้ลุกขึ้นมือของใครบางคนก็จับเข้าที่แขนของผม ความเย็นเยือกของมันทำให้หน้าผมร้อนขึ้นกว่าเดิม

                ช...เชี่ย...

                ผ...ผี

                อ๊ากกกกก!”

                “อีแบ๋ม! กูเอง!”

                อ้าว บอสก็ไม่บอก แล้วมานั่งตอนไหนเนี่ย (;_;)

                ผมนั่งลงข้างๆ ร่างสูงทันที สังเกตได้ว่าเสื้อผ้าของบอสเปลี่ยนไปเป็นเสื้อยืดธรรมดากับกางเกงขาสั้นแทน สรุปได้ว่าที่บอสหายไปนั้นน่าจะเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้ามานั่นเอง

                แล้วกูจะห่วงทำไมวะ นี่โกรธอยู่นะเนี่ย -_-

                ผมแกะมือของบอสที่แขนออก แต่บอสกลับไม่ยอมปล่อยพยายามแงะเท่าไหร่ก็มือเหนียวก็ไม่หลุดออกไปจากแขนของผมง่ายๆ มันเป็นมือกาวอยู่แบบนั้นจนกระทั่งผมจะสะบัดออกแรงๆ บอสเลยกระชากผมเข้าไปกอดแทน!

                (;O;) !!!

                “บอสส! ปล่อย! เดี๋ยว! นี้!”ผมพยายามดิ้นในอ้อมกอดอุ่นของคนตรงหน้า บอสกอดผมอยู่แบบนั้นไม่ยอมปล่อยไปไหนไม่ว่าผมทั้งตีทั้งหยิกอะไรมากมาย งืออออ ปล่อยยยย!”

                “ไหนโกรธอะไรบอกมาก่อนเสียงนิ่มกระซิบที่ข้างหูผมอย่างแผ่วเบา ผมเบ้ปากเล็กน้อย

                “ไม่ได้โกรธ!”

                จุ๊บ!

                ผมสะดุ้งโหยงทันทีที่ริมฝีปากอุ่นประทับลงมาข้างแก้ม ฟาดมือไปที่อกของคนที่กอดอยู่แต่คนบ้ากลับหัวเราะชอบใจซะงั้น

                บอกไม่บอก ไม่บอกกูก็จะหอมมึงจนแก้มช้ำเลย

                “ไม่โกรธจริงๆ ไม่ได้โกรธ

                จุ๊บ!

                “บอสอ่า! หยุดเดี๋ยวนี้เลยยย!”

                “อยากแก้มช้ำก็ไม่บอก ถ้าไม่ยอมบอกอีกคืนนี้กูจะฟัดมึงจริงๆ ด้วย

                ฟัดบ้าฟัดบออะไรวะ! ฟัดกับหมาไป!!!

                แต่ก็น่าแปลกที่ผมไม่ยอมดีดดิ้นไปไหนกลับค้างท่าอยู่ในอ้อมกอดของคนตัวสูงอยู่แบบนั้น เพราะความอบอุ่นที่ผมไม่ได้สัมผัสมันมาเกือบอาทิตย์ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาเยอะเลย ตอนกลางคืนก็กอดแต่หมอนข้างเย็นๆ แต่วันนี้ได้กอดตัวเป็นๆ อุ่นๆ ฮ้า...

                เฮือก!

                เดี๋ยว! เดี๋ยวนะแบ๋มมมม! ห้ามเคลิ้มนะเว้ยยยย!

                “นี่ง้อแล้วนะ เด็กดื้อหายงอนหรือยัง?”

                “ไม่มีทางอ่ะ!”ผมยังยืนยันคำเดิม บอสคลายอ้อมกอดลงเล็กน้อยเพื่อกลัวว่าผมจะหายใจไม่ออก ก่อนที่ร่างสูงจะช้อนตัวผมขึ้นจนตัวลอยและเดินลิ่วไปที่ห้องนอนทันที เล่นเอาผมว้ากออกมาไม่ทันเพราะการกระทำกะทันหันแบบนี้! “เฮ้ยย บอสสสส ปล่อยย

                “เด็กดื้อ จอมพยศยังจะมีหน้ามาดุผมอีกนะ!

                อีกเรื่องแปลกคือบอสไม่ได้โยนผมลงเตียงแต่กลับค่อยๆ วางลงบนเตียงแสนนุ่มนิ่ม เพิ่งสังเกตว่าหมอนของผมถูกรองไว้ด้วยหมอนเล็กๆ อีกใบหนึ่งเพื่อให้เวลานอนหัวของผมสูงกว่าปกติ เหมือนกับที่นอนนี้บอสจัดไว้ให้ผมเพียงคนเดียวอย่างนั้นแหละ...

                หลังจากวางผมลงบนเตียงเรียบร้อยบอสก็เดินมาอีกฟากของเตียงและล้มตัวนอนก่อนจะคว้าตัวผมไปกอดอีกครั้ง

                นี่เป็นอะไรมาป่ะเนี่ย มาถึงก็กอดเอากอดเอา (T/////T)

                คิดถึงมากนะรู้ไว้ด้วยเสียงนิ่มกระซิบข้างหูผมอีกครั้งทำให้ใจผมชื้นและอบอุ่นขึ้นกะทันหัน มือหนาเลื่อนมากอบกุมมือข้างซ้ายของผมไว้แน่น นอนเกือบไม่หลับเลย ไม่มีมึงให้กอดเนี่ย

                “โกหกป่ะ ถ้าไม่หนูจะได้เขิน

                ผมพูดเชิงติดตลก เปลือกตาบางของบอสค่อยๆ ปิดลงพร้อมกับผมก่อนที่ทุกอย่างมันจะเงียบลงไปอีกครั้งซึ่งผ่านไปไม่นานมาก ผมก็เริ่มรู้สึกว่าบอสนั้นบีบมือผมไว้แน่นกว่าเดิม จากตอนแรกที่จับมือกันเฉยๆ กลับเปลี่ยนเป็นประสานกันเข้าอย่างรู้ใจ

                แล้วร่างสูงก็ดันมือผมเข้าหาร่างกายของผมเองพร้อมแตะเบาๆ ที่ท้อง...

                ทันทีที่มือของผมสัมผัสกับท้องตัวเองไออุ่นมันก็ส่งผ่านกลับมาเหมือนจะเป็นคำตอบ ผมที่หลับตาอยู่นั้นค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาสบตากับดวงตาสีเข้มที่ห่างกันไม่เท่าไหร่จนในดวงตาของบอสผมกลับเห็นเงาสะท้อนตัวเองที่กำลังนอนตะแคงข้างอยู่…

                “คิดถึงแบ๋มน้อยด้วย

                แล้วรอยยิ้มก็ปรากฏบนหน้าผมทันที รู้สึกดีเล็กน้อยที่บอสพูดมาแบบนี้...

                “รู้แล้วเหรอ?”ผมเรียบเรียงคำพูดออกไป ลมหายใจอุ่นร้อนขาดห้วงไปเล็กน้อยก่อนที่ริมฝีปากอุ่นจะประทับลงอีกครั้งบนหน้าผากของผม

                “แจ๊คสันบอกมา กูก็เลยบึ่งมาที่นี่ในเวลาสองชั่วโมง

                  กูว่าละ เห็นพิรุธตั้งแต่เช้าแล้ว มันคือตัวการดีๆ นี่เอง 

                “แล้วเป็นไงบ้างอะ...โอเคมั้ย

                “ใช้คำว่าโอเคคงไม่ได้ คงจะต้องคำว่ามีความสุขมากกว่า

                ผมยิ้มกว้างออกมาทันที บอสขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนจมูกของเราสองคนติดกัน ลมหายใจร้อนของเราทั้งคู่นั้นไม่ขาดห้วงไปสักวินาทีเดียว แค่ความรู้สึกเงียบๆ แบบนี้มันก็ทำให้ผมกับบอสได้รู้อะไรหลายๆ อย่าง

                ขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตกูนะ...

                “นั่นคำพูดหนูป่ะ?”

                “เพราะมึงชีวิตกูเลยมีความหมาย มีมึงให้คิดถึง มีมึงให้หวง มีมึงที่ทำให้กูหัวเราะได้ผมไม่ตอบอะไรนอกจากจะปิดตาลงแล้วฟังคำพูดของบอสตรงหน้า แค่มีแบมแบม มาร์คก็ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว

                “อือ

                “อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ผ่านอะไรด้วยกัน ผ่านอุปสรรคและระยะทางไปด้วยกัน แล้วก็ห้ามน่ารักไปมากกว่านี้ด้วย ห้ามยิ้มให้คนที่ไม่รู้จัก ห้ามทำแก้มป่อง ห้ามเม้มปากด้วย

                “หนูไม่ใช่หุ่นนะบอส หน้าตาหนูไม่ได้น่ารักอะไรมากมายด้วย ใครจะเข้ามาจีบ

                “งั้นกูคงโง่ที่สุดเลยที่ตกหลุมรักคนอย่างมึง

                “โง่ไปก็โง่ให้ตลอดแล้วกัน ฮ่าๆๆ ผมหัวเราะ บอสเลยเขกหน้าผากผมโดยใช้หน้าผากตัวเอง

                “ชีวิตของเราสองคนมันเริ่มขึ้นแล้วนะ อีแบ๋ม แล้วก็แบ๋มน้อย

                “ยังไม่มีชื่อให้เรียกเลยอะ

                “ค่อยๆ คิดไปก็ได้ บอสขยี้หัวผมจนฟูฟ่อง ก่อนที่คนตรงหน้าจะยิ้มแบบมีเลศนัยเชิงว่ามีแผนขึ้นมา ทำเอาผมใจไม่ดีไปด้วย มันต้องมีอะไรแน่ๆ ขอจูบทีดิ ไม่ได้จูบนานละ

                กูว่าละ!!! 

                 ผมตีแปะไปที่หน้าผากคนตัวสูงทันที บอสคว้ามือผมไว้ก่อนจะกระชากเข้าไปพร้อมกดริมฝีปากลงมา ความร้อนที่แผ่ซ่านเข้ามานั้นทำให้ผมรู้สึกดีมากกว่าเดิมร้อยเท่า มือซ้ายที่ผมโดนกอบกุมอยู่ก็สะบัดออกก่อนจะเลื่อนมือไปที่กลุ่มผมนิ่มเพื่อกดศรีษะของบอสให้ลงมาแน่นกว่าเดิม ซึ่งมือซนของบอสก็เลื่อนมาที่เอวของผมก่อนจะค่อยๆ ดึงเข้าไปให้ร่างของตนเอง...

                และก่อนที่เราจะได้ทำอะไรไปมากกว่านี้...

                ปัง!

                “พี่แบ๋มโว้ยยยย ผมมีข่าวจะมาบอก อู้หู!!!”

                “มีอะไรเหรอคะพี่แจ๊คขอแตงดูหน่อย อ๊ะ! กรี๊ดดดดดดดด!”

                เราสองคนกระเด้งออกจากกันทันที ผมเด้งตัวขึ้นมานั่งหลังตรงบนเตียงมองอีแจ๊คซันนี่กับหญิงแตงที่เปิดประตูเข้ามาไม่บอกไม่กล่าวเลยสักนิดเดียว ผมนำมือมาปิดใบหน้าที่แดงจัดของตัวเองทันที เข้ามาตอนไหนไม่เข้า เสือกเข้ามาตอนที่เรากำลังพลอดรักกันอยู่เนี่ยนะ!

                ฟ้าคคคยูวววววว์!!!!!

                ประตูมีให้เคาะ ไม่ใช่ให้เปิดพรวดเข้ามา!”บอสเองที่ดูหัวเสียกว่าผมส่งสายตาอำมหิตไปที่คู่รักหวานแหววตรงหน้าก่อนจะขยี้เส้นผมของตัวเองกับอารมณ์ขุ่นมัวซึ่งกำลังเกิดขึ้น

                เอ่อ...เราผิดเหรออีแจ๊คเกาหัวแกรกๆ ก่อนจะยิ้มฝืดๆ มาให้

                “นั่นสิคะ แตงกับพี่แจ๊คผิดเหรอคะหญิงแตงก็มีท่าทีเดียวกัน

                “ไม่ผมพูดออกไปก่อนจะตวัดสายตามองไปที่ชะนีหนึ่งตนกับชายโฉดที่ไม่รู้มารยาทอะไรบ้างเลย

                ไม่ผิด?”

                “ไม่รู้ตัวอีกหรือไง! อ๊ากกกก!”




    งึดดดด มาแบบแนวหวานและอบอุ่นกันบ้าง ไม่เลี่ยนกันเนอะๆ 55555555 

    แบ๋มน้อยของเราเชยชมให้คนเป็นพ่อดูแล้วน้าตัวเอง อยากเกิดเป็นอีแบ๋มแม้ว่ามันจะลำบากแค่ไหนก็ตาม 55555

    อุต้ะ! อะไรก็การที่แจ๊คซันนี่กับหญิงแตงเปิดประตูเข้ามาตอนทั้งสองคนพลอดรักกัน 555555

    //อย่าตีไรท์ค่ะรีดเดอร์ทุกคน อย่าาาาา!


         

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×