[SongFic The Legend Of Sun Knight] อึดอัด (แพลมแพลม)
เกรเชียสประนมมือเข้าด้วยกันพลางหลับตาลงแล้วงึมงำอะไรสักอย่างที่ข้าไม่เข้าใจก่อนจะกระทุ้งศอกเล็กนั้นเข้ากับสีข้างของข้าเต็มๆแล้วเร่งให้ข้าขอพรเร็วๆไม่งั้นเดี๋ยวดาวตกจะหายลับไปซะก่อน ข้าจึงหลับตาลงแล้วทำตามที่เขาบอกอย่าเลี่ยงไม่ได้
ผู้เข้าชมรวม
412
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“แลนซ์ แลนซ์ ดูนั้นซิดาวตกล่ะ!!” เสียงหวานร้องตะโกนลั่นจนข้าสะดุ้งสุดตัวก่อนจะลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆพร้อมกับจับจ้องไปที่ปลายนิ้วเล็กนั้นชี้ไปขอบฟ้าไกลลิบๆ ที่มีหมู่ดาวมากมายบนท้องฟ้า แต่มีเพียงหนึ่งเท่านั้นที่ดูแตกต่างออกไปแสงสีขาวนวลลอยพุ่งลงมาอย่างรวดเร็ว
เกรเชียสประนมมือเข้าด้วยกันพลางหลับตาลงแล้วงึมงำอะไรสักอย่างที่ข้าไม่เข้าใจก่อนจะกระทุ้งศอกเล็กนั้นเข้ากับสีข้างของข้าเต็มๆแล้วเร่งให้ข้าขอพรเร็วๆไม่งั้นเดี๋ยวดาวตกจะหายลับไปซะก่อน ข้าจึงหลับตาลงแล้วทำตามที่เขาบอกอย่าเลี่ยงไม่ได้
“เจ้าขอว่าอะไร” ดวงตาสีฟ้าใสจ้องข้าแป๊วอย่างรอคำตอบ ข้ายื่นมือออกไปอย่างช้าๆก่อนจะขยี้หัวเขาเต็มแรงอย่างนึกหมั่นไส้เรื่องแบบนี้มันบอกกันได้ที่ไหนเล่าแล้วอีกอย่างข้าเองก็ขอส่งๆไปซะด้วยเพราะนึกไม่ออกว่าจะขออะไร
เกรเชียสทำหน้ามุยแล้วอมลมเข้าปากทำแก้มป่องใส่ข้าอย่างงอนๆเหมือนกับเวลาอึงอ่างพองตัวใหญ่ขึ้นเพื่อขู่ศัตรูแบบนั้น .แต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียวเพราะอึงอ่างนั้นทำเพราะขู่ให้กลัวแต่เกรเชียสทำแล้วจากการขู่มันจะกลายเป็นทำให้น่าแกล้งเสียมากกว่า
ข้าถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะกล่าวคำขอโทษออกไป แต่เขาก็ยังสะบัดหน้าหนีแถมจ้ำอ้าวหนีกลับไปหาท่านอาจารย์นีโอซะแล้ว .. พรุ่งนี้ข้าจะซวยไหมเนี้ยที่ไปแกล้งแหย่ศิษย์รักของท่านเทพอัศวินครีอุสที่เก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์ .
คืนที่เหน็บหนาว ดาวที่พร่างพราย
กับภูมิคุ้มกายที่มันอ่อนแอ
“ท่านหัวหน้าเทพอัศวินเทอร์มิส ...” เสียงเรียกของใครสักคนลอยเข้ามาในโสตประสาทของข้าเบาๆอย่างอ่อนแรงราวกับว่าเขาเพิ่งจะวิ่งข้ามแคว้นมาอย่างนั้น เรือนผมสีชมพูอ่อนยุ่งกระเซิงไม่เป็นทรงผิดวิสัยของผู้เป็นเจ้าของโดยสิ้นเชิงผิวสีซีดราวกับศพนั้นยื่นมือออกมาจากชายเสื้อตัวโคร่งที่เขาใส่อยู่ประจำ
“มีเรื่องอันใดหรือท่านเทพอัศวินเนเฟลหรือว่าเขาจะก่อเรื่องอีกแล้ว?” ข้าถามออกไปพร้อมกับขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด เกรเชียสนี่เจ้ากะจะหาเรื่องมาให้ข้าไม่ได้พักเลยหรือไง
.สักวันข้าต้องเส้นเลือดในสมองแตกตายแน่ๆ!!
“เปล่า” เนเฟลตอบเสียงแผ่วพลางนั่งลงข้างๆข้าแล้วนั่งมองดาวบนท้องฟ้าอย่างเหม่อลอย ข้าเลิกคิ้วสูงอย่างไม่เข้าใจในการกระทำของเขาเท่าไรนักแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปสักพักเนเฟลก็บอกเหตุผลที่เขามานั่งอยู่ข้างๆข้าตรงนี้
“อดีตเทพอัศวินครีอุสรุ่นก่อนเกิดอาการคลั่งเพราะหาเพื่อนดื่มเหล้าและประลองดาบไม่ได้แม้แต่ไอเควสยังหายหัว ทุกคนเองก็ร่วมใจกันหนีไปไหนก็ไม่รู้โดยไม่บอกข้า
...จนกระทั้งประตูห้องสมุดเปิดออกนั้นแหละ” พอเล่าถึงจุดนั้นตัวของเนเฟลก็สั่นเทาราวกับลูกนกที่เปียกฝนสักพักก่อนจะร้องสะอื้นออกมามือเรียวขาวซีดทั้งสองข้างกอดเข่าตัวเองแน่น แต่ก็ยังเล่าต่อด้วยน้ำเสียงสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว
“อดีตเทพอัศวินครีอุสก็ลากข้าออกไปดื่มเหล้าเป็นเพื่อน ถึงข้าจะบอกว่าดื่มไม่เป็นเขาก็ไม่ฟังลากข้าออกไปแล้วยังบังคับให้ดื่มอีก พอไม่ดื่มก็จับเหล้ากรอกปากข้าฮึกๆ
.สุดท้ายข้าทนไม่ได้เลยหนีออกมา” พอเล่าจบเนเฟลก็ปล่อยโฮออกมาจนน้ำตาเปียกแขนเสื้อของเขาจนชุ่มไปหมดข้าเองก็ได้แต่นั่งมองเขาเพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง
ข้ารอจนกระทั่งลอเรนกลับมาจากการลาดตะเวนรอบเมืองและกลับมารายงานข้าตามปกติแต่วันนี้เขากลับดูรีบร้อนมาก วิ่งเข้ามาเหมือนกับกำลังหาอะไรอยู่สักอย่างก่อนที่เขาจะเหลือบไปเห็นเนเฟลที่นั่งร้องไห้จนหมดแรงแล้วล้มตัวลงนอนพิงกับก้อนหินเท่านั้น ขาทั้งคู่ก็หยุดชะงักทันทีจากนั้นก็ค่อยๆเดินเข้าไปหาอย่างช้าๆ
“ท่านเทพอัศวินเนเฟลเจ้าไม่เป็นอะไรนะ
.ตอนที่ข้าลาดตะเวนอยู่เห็นเจ้าร้องไห้วิ่งกลับวิหารมามีอะไรหรือเปล่า” ลอเรนถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงแต่กลับไม่มีคำตอบอกมาจากปากของเนเฟลเลยสักคำนอกจากความเงียบ ข้าเลยตอบคำถามนั้นแทนพร้อมกับบอกว่าเนเฟลร้องไห้จนเหนื่อยแล้วก็เผลอหลับไป
ลอเรนถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะช้อนร่างของเนเฟลขึ้นแล้วอุ้มกลับไปส่งที่ห้องสมุด โดยมีข้าที่ส่งสายตามองทั้งสองคนจนหายลับเข้าไปในความมืดก่อนจะยันตัวเองลุกขึ้นอย่างช้าๆเพื่อที่จะกลับไปผักผ่อนที่ห้องเนื่องจากตอนนี้มันก็ดึกมากแล้ว
ตัวก็รุมร้อน ไม่มีเรี่ยวแรง
ไม่เข้าใจว่าเป็นอะไร
มันหายใจติดขัด มีท่าทางอึดอัด
ข่มตาจะนอนเท่าไรก็ไม่หาย
ดาราบนฟากฟ้าต่างส่องแสงพราวระยับอวดโฉมของตนเองอย่างเต็มที่ดังเช่นเคย
แต่ .ก็ไม่งดงามดังครานั้นเพราะอะไรนะทั้งๆที่ทุกอย่างก็เหมือนกับคืนนั้นทุกประการ
ทำไมกัน ราวกับว่ามีบางสิ่งมันขาดหายไป ..
อะไรกันที่หายไป ..ข้าไม่เข้าใจเลยจริงๆทั้งความรู้สึกแปลกๆนี้อีก
หนาวๆร้อนๆอย่างบอกไม่ถูกวุ่นวายกระสับกระส่าย .
จนข้าไม่สามารถข่มตาลงได้
ข้าลุกขึ้นมานั่งตรวจเอกสารบนโต๊ะต่อในรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ในคืนนี้ พอตรวจไปได้สักพักก็เกิดอาการง่วงแต่พอกลับไปถึงที่เตียงตั้งท่าจะหลับก็หลับไม่ลง .สุดท้ายก็ต้องลากงานมาทำมันบนเตียงซะเลย
แต่ก็ไม่มีสมาธิจะอ่านข้อความบนหน้ากระดาษสักตัวแถมยังหัวตื้อๆมึนไปหมดหงุดหงิดโดยไม่ทราบสาเหตุ .หรือว่าข้ากำลังจะเข้าวัยทองกันนะ จะเป็นไปได้ยังไงข้ายังไม่ถึง30ด้วยซ้ำ ..
ข้าถอนหายใจยาวก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อคลุมมาสวมให้เรียบร้อยก่อนจะออกไปเดินเล่นข้างนอกสูดอากาศยามค่ำคืนเพื่อมันจะทำให้ข้าอาการดีขึ้นและข่มตานอนลงได้บ้าง ข้าค่อยๆเดินไปเรื่อยๆอย่างเหม่อลอยจนสุดท้ายก็หยุดอยู่ที่ห้องๆหนึ่งทั้งๆที่ข้าไม่คิดจะมาด้วยซ้ำ ..ป่านี้แล้วเขาคงจะตื่นอยู่หรอกข้าถอนหายใจเบาๆแต่มือเจ้ากรรมก็ดันยื่นออกไปเคาะประตูซะแล้ว ..
เพียงแค่ใจอุ่นๆ จากคนรักซักคนข้างกาย
เมื่อผ่านคืนที่เลวร้ายคงหายดี
“ไม่ทราบว่าพี่น้องท่านใดต้องการเสวนาถึงคุณงามความดีของท่านเทพเจ้าแห่งแสงสว่างกับข้าในยามวิกาลเช่นนี้” เสียงของเกรเซียสเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ ข้านิ่งนิ่งและนิ่งไปพักใหญ่ๆก่อนจะตอบไปว่า “ข้าเองเทอร์มิส” เท่านั้นแหละประตูก็ถูกดีดพึ่งออกเกือบจะกระแทกหน้าข้าพอดี .ถ้าเกิดหลบไม่ทันน่ะนะดั้งข้าอาจจะไม่มีให้ใครเห็นอีกต่อไปก็ได้
“แลนซ์ เทอร์มิส
เจ้ารู้ไหมว่านี่มันกี่โมงกี่ยามแล้วเจ้าพยาธิตัวตืดสมควรตาย!!!!” ครีอุสเค้นเสียงเย็นยะเยีบรอดไรฟันขาวออกมาพลางส่งสายตาจะกินเลือดกินเนื้อมาให้ข้าผ่านแป้งพอกสีชมพูครึ่งหนึ่งกับสีเขียวอีกครึ่งบนใบหน้า ข้านึกว่าตอนนั้นเจ้าจะพูดเล่นซะอีกเอาจริงเหรอเนี้ย!! น่าอ้วกเป็นบ้า!!
มือเรียวเล็กนั้นกระฉากคอเสื้อข้าแล้วเหวี่ยงเข้าไปในห้องเต็มแรงพร้อมกับปิดประตูล๊อคกลอนไม่ให้ใครเข้ามา ในมือเขาถือดาบเทพอัศวินครีอุสอยู่ “ถ้าเหตุผลไม่สวยเตรียมตัวตายได้เลยเจ้าพยาธิตัวตืด!!!”
ข้ากลืนน้ำลายลงคออย่างลำบากเพราะดันลืมเรื่องสำคัญไปอย่างว่าห้ามปลุกเกรเซียสตอนหลับแล้วเด็ดขาดเขาจะทำอะไรบ้าๆออกมาก็ไม่มีใครรับประกันได้พอๆกับเขาโมโหหิวนั้นแหละ
“เจ้ารู้ไหมกว่าข้าจะหลับได้นะมันลำบากขนาดไหน!!!” ครีอุสเริ่มโวยวายเสียงดังพลางเดินปึงปังๆเข้ามาหาข้าตอนนี้ข้าเองก็เริ่มถอยหลังร่นไปเรื่อยๆจนติดกำแพง โดยมีครีอุสถือดาบเทพอัศวินครีอุสไล่ตามมาเรื่อยๆจนถึงตัวข้า
“เมื่อค่ำเนเฟลร้องไห้วิ่งมาหาข้า
”ครีอุสเอาดาบในมือที่เตรียมจะพาดคอข้าออกแล้วเดินถอยออกมาก้าวหนึ่งแล้วจ้องข้าเขม็งอย่างโกรธๆ
“ใคร
.ใครมันกล้ามารังแกเทพอัศวินของข้า!!!” ครีอุสตะเบ็งออกมาสุดเสียงด้วยความโกรธพลางกระชับดาบในมือแน่นเตรียมจะไปฟันหัวคนที่กล้ามารังแกเนเฟล ข้าเลยได้แต่ล๊อคตัวเข้าไว้ก่อนพร้อมทั้งปลอบให้ใจเย็นลงแต่ก็ไม่เป็นผล ข้าจึงจำเป็นต้องเอ่ยชื่อคนๆนั้นออกไป
กึก ครีอุสยืนแข็งข้างอยู่ตรงนั้นราวกับหินโดยที่ข้าไม่ต้องล๊อคเขาไว้อีกต่อไปท่าทีที่ดูฮึดฮัดจะเอาเรื่องเต็มที่หมดลงไปแทบจะทันที
“เจ้ากล้าไปเอาเรื่องกับอดีตเทพอัศวินครีอุสผู้แข็งเกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์รึ???” เอ่ยถามเสียงเบาครีอุสได้แต่ยืนค้างอยู่สักพักก่อนจะเดินแบบศพเข้าไปในห้องน้ำแล้วล้างแป้งพอกสีสยองทั้งสองออก พร้อมทั้งเดินออกมาในชุดเต็มยศ
“ใครบอกว่าข้าจะป็นคนไปล่ะหึๆๆๆ ต่อให้เป็นท่านอาจารย์ก็อภัยให้ไม่ได้” ครีอุสพูดด้วยน้ำเสียงเย็นพร้อมกับหัวเราะแปลกๆมือเล็กนั้นคว้าข้อมือของข้าก่อนจะออกแรงลากข้าออกจากห้องไปตามทางเดินวิหาร ในระหว่างนั้นเขาก็ถามข้าถึงที่อยู่ของท่านอาจารย์ ข้าก็ถึงบางอ้อจากนั้นก็นำทางไปยังที่พักของท่านอาจารย์ทันที
คืนแห่งความเหงา ดาวที่คุ้นเคย
กลับไม่สวยเลยเมื่อเธอจากไป
ฉันนอนอยู่ตรงนี้ เธออยู่ที่ใด
โปรดเข้าใจและช่วยกลับมา
ผลงานอื่นๆ ของ Kimmacus ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Kimmacus
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น