ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    โรงเรียนมหาโจร

    ลำดับตอนที่ #22 : บทเรียนที่ 20 มือกระบี่ สัตว์ร้าย และนักมายากล

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.59K
      56
      3 พ.ค. 48

                                                          บทเรียนที่ 20  มือกระบี่ สัตว์ร้าย และนักมายากล







                     ในที่สุดก็ถึงเวลาที่วาจะต้องประลองจริงๆ สักทีแล้ว          

                     ไซโคร แนช พาทุกคนเดินตรงไปยังข้างเวทีฝั่งทีมของพวกเขา  

                     “ เจ้าไปเป็นคนเลือกหัวเหรียญสิ ”

                        คนที่ไซโคร แนช สั่งก็คือ วา นั่นเอง        เมื่อไซโคร แนช บอกให้ไปมีใครยังไม่ไปได้อีก  

                    

                      

                     วาค่อยๆ ก้าวขึ้นเวที   พยายามสะกดกลั้นอารมณ์ตความตื่นเต้นเอาไว้       พร้อมกันนั้นอีกด้านหนึ่งของเวทีก็มีเด็กชายใส่แว่นท่าทางชั่วร้ายคนหนึ่งก้าวขึ้นเวทีเช่นกัน  คงจะเป็นตัวแทนของทีมเชน  ไม่ก็เป็นหัวหน้าทีม  

                     เด็กชายใส่แว่นมองหน้าวาพร้อมกับยิ้มอย่างดูถูก    นั่นเพราะเขาเคยเห็นวาประลองเมื่อครั้งที่แล้ว   เขาคิดว่าคงจะสามารถเอาชนะทีมของวาได้อย่างสบายๆ แน่แล้ว        

                      วา และเด็กชายใส่แว่นยืนอยู่ตรงข้ามกันแล้ว   เด็กชายนักประกาศถามทั้งสองว่า ใครจะตกลงเอาหัวฝั่งไหนกัน     ซึ่งวาก็บอกว่าขอเหรียญด้านหัว  ส่วนเด็กชายใส่แว่นท่าทางชั่วร้ายนั้นบอกว่ายังไงก็ได้    

                      “ เลือกหัวเหรียญไปก็เท่านั้นแหละนะ   เพราะยังไงทีมที่ชนะก็จะต้องเป็นทีมของเราอยู่แล้ว ”

                        วาเมื่อได้ยินก็มองหน้าเด็กชายใส่แว่นทันที   แต่แทนที่จะทำหน้าบึ้งกลับยิ้มให้ราวกับรู้จักกันมานาน

                     “ สงครามยังไม่จบ  อย่าเพิ่งนับศพทหารสิครับ   แต่ยังไงก็ขอเอาใจช่วยให้ชนะนะครับ ”

                        คำพูดของวาไม่ว่าใครฟังดูก็เห็นว่าเป็นแค่คำพูดธรรมดาเท่านั้น   เพียงแต่ว่าเด็กชายใส่แว่นไม่รู้สึกเช่นนั้น    คำพูดของวาทำให้เขารู้สึกโกรธขึ้นมาทันที   แต่แล้วดูเหมือนเขาจะพยายามสะกดอารมณ์ไว้  เพียงแต่ยิ้มตอบกลับไปเท่านั้น        





                        ผลที่ออกก็คือ หัว  ซึ่งก็หมายความว่าทีมของเด็กชายใส่แว่นจะต้องเป็นฝ่ายกำหนดลำดับสมาชิกในการลงแข่งก่อนนั่นเอง    

                        วาเดินลงจากเวทีก็พบกับดีว่า และโซเฟียยิ้มให้

                        “ ดวงดีตั้งแต่ยังไม่เริ่มแข่งเชียวนะ คุณเด๋อ ”

                        “ แน่นอน ”

                         แต่คนที่ดูเหมือนจะไม่รู้สึกยินดีด้วยเลยก็ คือ ไซโคร แนชนั่นเอง    



                      

                        เด็กชายใส่แว่นท่าทางชั่วร้ายเมื่อกลับทีมก็ชักสีหน้าไม่พอใจขึ้นมาทันที  

                        “ เฮอะ  คอยดูเถอะ  แกจะต้องเสียใจแน่ ”

                           เด็กชายตัวเล็กเมื่อเห็นเด็กชายใส่แว่นพูดอย่างนั้นก็รีบค้านมาทันที

                        “ อย่าประมาทเชียวนะ  มันไม่ได้ง่ายอย่างที่นายคิดหรอกนะ ”

                           “ นายอย่าทำมาเป็นกลัวไปหน่อยเลย  ก็เคยเห็นมาแล้วไม่ใช่หรอว่าเจ้านั่นแทบจะเอาชีวิตไม่รอดตอนประลองคราวที่แล้วน่ะ ”

                       “ นั่นมันก็จริงอยู่  แต่นายมองไม่เห็นเรอะ  ว่าคนในทีมของเขามีใครบ้าง ”      

                            “ ไม่เห็นจะต้องไปสนใจเลย   คนอย่างเจ้านั่นไม่มีปัญหาหาเพื่อนร่วมทีมเก่งๆ มาหรอก   ฝีมือของคนในทีมเจ้านั่นคงไม่ต่างกับเจ้านั่นมากหรอก ”

                             “ นายจะมั่นใจเกินไปแล้วนะ  ลองมองดูดีๆ เสียก่อนสิ ”

                             เด็กชายใส่แว่นถอนหายใจ  

                          “ นายสนใจอะไรทีมอย่างนี้มากนักนะ............ ”

                             พร้อมกับหันหน้าไปมองทางทีมของวา   เมื่อนั้นเด็กชายใส่แว่นก็ถึงกับเงียบไปเลย    

                         “ เฮ้ย !! เป็นไปไม่ได้  ”    

                            “ ก็บอกแล้วไงว่ามันไม่ง่ายอย่างที่คิด ”

                            เด็กชายใส่แว่นเหงื่อตกแล้ว  แต่ก็ยังฝืนยิ้ม  

                         “ เหอๆๆๆ  แค่ไซโคร แนชเ จ้าชายสายฟ้า  ดีว่าปราณกระบี่ไร้เงา  อัศวินเพลิงโซเฟียเท่านั้นเอง  ไม่เห็นจะต้องไปกลัวอะไรเลยนิ ”

                            ปากพูดอย่างนั้น แต่ใจกลับไม่ใช่แล้ว  

                         คนส่วนใหญ่มักเป็นเช่นนี้   ทั้งๆ ที่ในใจไม่ได้คิดอย่างที่พูด   แต่ก้ยังคงพูดออกไปจนได้     สุดท้ายคำพูดของคนเหล่านั้นก็กลับกลายมาเป็นเชือกมัดตัวเองไปจนได้        

                            ขณะที่เห็นเด็กชายใส่แว่นท่าทางชั่วร้ายกำลังเหงื่อตกอยู่นั่น   เด็กชายตัวดำใหญ่เพื่อนร่วมทีมของเขาก็แตะไหล่เขาพร้อมพูดให้กำลังใจ

                         “ นั่นสินะ  ไม่เห็นจะต้องกลัวอะไรไปเลย  ยังไงๆ ทีมของเราก็มีคุณชิกิกระบี่สายลมอยู่มิใช่หรือ ”            

                            ที่แท้เด็กชายใส่แว่นท่าทางชั่วร้าย   นั่นชื่อ ชิกิ แถมยังได้ฉายาเป็นกระบี่สายลม ท่าทางจะมีฝีมือพอตัวเหมือนกัน  

                          “ เฮ้อ มัวโอ้เอ้อยู่นั่นแหละ  เราว่าถ้าพวกนายกลัวก็ไม่น่าจะมาลงแข่งเลยนะ ”

                              เด็กชายผมยาวท่าทางหยิ่งยโสเป็นคนพูด  

                          “ หน่อย ว่าไงนะ ”

                              ชิกิทำท่าไม่พอใจเมื่อได้ยินเด็กชายผมยาวพูด   แต่เด้กชายตัวเล็กกับเด็กชายตัวดำใหญ่ช่วยห้ามไว้

                          “ ใจเย็นกันหน่อยสิ  นี่ก็จะแข่งแล้ว ”

                             เด็กชายผมยาวเดินเลี่ยงไป  ปล่อยให้ชิกิมองจากข้างหลังด้วยสายตาเคียดแค้น  

                         “ นายไม่น่าชวนมันมาร่วมทีมเลย  ปากดีชะมัด ”

                            “ เอาน่า  ได้เขามาช่วยทีมเราก็เก่งขึ้นเลยนะ ”

                            เด็กชายผมยาวที่แท้มีฝีมือขนาดไหนกันแน่นะ ?





                          ในที่สุดทีมเชนก็จัดลำดับสมาชิกในทีมได้แล้ว      ไซโคร แนชเมื่อเห็นรายชื่อปรากฎขึ้นบนหน้าจอก็ทำการจัดลำดับรายชื่อสมาชิกภายในทีมขึ้นทันที  ราวกับเป็นผู้จัดการทีม  

                           “ เจ้าเป็นคนแรกก็แล้วกันนะ ”

                             ไซโคร แนชพูดกับดีว่า  โดยจับคู่ให้ดีว่าสู้กับชิกิ    เหมือนกับไซโคร แนชรู้อยู่แล้วว่าชิกิใช้กระบี่เหมือนดีว่าจึงจับคู่ทั้งสองคนนี้เข้าด้วยกัน    

                         จากนั้นไซโคร แนชมองหน้าวาพร้อมกับกล่าวต่อ

                         “ คนต่อไปก็คือ เจ้า ! ”

                             “ หา  มันจะดีหรอครับ ”

                            ไซโคร แนชไม่กล่าวต่อจากนั้นก็มองไปยังโซเฟียพร้อมกับกล่าวต่อ

                         “ และคนสุดท้ายก็คือ ......... ”

                         “ รับทราบภารกิจค่ะ ”

                            โซเฟียชิงพูดก่อนที่ไซโคร แนชจะบอก      ดูเหมือนว่าวาจะได้จับคู่กับเด็กชายผมยาว และโซเฟียได้จับคู่กับเด็กชายตัวดำใหญ่  





                          

                        ในที่รายชื่อของทั้งสองทีมก็ถูกจัดออกมาอย่างเรียบร้อยแล้ว   ทันทีที่รายชื่อปรากฎขึ้นบนหน้าจอยักษ์เสียงของนักเรียนในห้องชมรมก็ร้องเฮ ขึ้นมาทันที            วาเองก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร  หรือเป็นเพราะนักเรียนเหล่านั้นเห็นชื่อ ดีว่า กับโซเฟียขึ้น

                           “ เอาละครับ  คู่ประลองคราวนี้ท่าทางจะไม่ธรรมดาเสียแล้วละครับ  มีทั้งดีว่าปราณกระบี่ไร้เงา  ชิกิกระบี่สายลม  โซเฟียอัศวินเพลิง  วาเด็กชายลึกลับ......... ”

                            เด็กชายนักประกาศกล่าวอย่างยิ้มแย้ม  เหมือนกับถูกใจที่จะได้เจอคู่ประลองที่สนุกๆ สักที   ที่น่าแปลกก็คือ เขายังจำวาได้ด้วย   แต่ทำไมถึงบอกว่าวาเป็นเด็กชายลึกลับละ  หรือว่าเขาไม่รู้ว่าวาจะใช้อาวุธอะไรกันแน่ ?

                           ขณะที่จะประกาศชื่อต่อไปนั้น  เด็กชายนักประกาศก็ต้องหยุดลงในทันที  เมื่อเห็นสายตาเย็นชาของเด็กชายผมยาวจ้องมาที่เขา     เด็กชายผมยาวที่แท้มีฝีมือที่น่ากลัวขนาดไหนกันแน่ ?

                           “ เจ้าคนจัดลำดับทีมจะต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ  ที่ให้นายคนนั้นมาสู้กับเจ้าตัวอันตรายนั่น ”    เด็กชายนักประกาศคิดในใจ    จากนั้นก็รีบกล่าวต่อ

                        “ เอาละครับในเมื่อทั้งสองทีมพร้อมกันแล้วละก็   ขอเชิญคู่ประลองคู่แรกก้าวขึ้นมาบนเวทีได้เลยครับ ”

                          การประกาศแม้จะขาดช่วงในตอนแรก   แต่เด้กชายนักประกาศก็ยังคงกล่าวต่อได้อย่างแนบเนียบ         เมื่อประกาศไปแล้ว   ดีว่า และชิกิก็เริ่มก้าวขึ้นมาบนเวทีแล้วเช่นกัน  

                      





                        ดีว่าทำตัวตามสบายราวกับไม่เห็นชิกิก็ยืนอยู่ตรงข้ามเลยแม้แต่น้อย     ส่วนชิกินั้นแม้ท่าทางจะตึงเครียดอยู่บ้างแต่ก็คลายความวิตกของตัวเองลงบ้างแล้วเล็กน้อย  

                       เด็กชายนักประกาศเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนพร้อมแล้วก็ประกาศเริ่มการแข่งขันทันที      วาเองถึงแม้จะรู้ฝีมือของดีว่าดีอยู่แล้ว  แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้   เพราะคู่ต่อสู้คราวนี้ก็ใช้กระบี่เช่นกัน   แถมยังมีฉายาว่ากระบี่สายลมอีกด้วยท่าทางจะมีฝีมือไม่ธรรมดาแน่นอน

                        สายลมเมื่อมาเจอกับสายลม แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?

                        เสียงเฮ ดังมาจากทั่วทุกมุมห้องอีกครั้ง  แต่ไม่นานนักก็ต้องเงียบไปนั่นก็เพราะ  ทั้งสองไม่มีท่าทีว่าฝ่ายไหนจะเป็นฝ่ายเริ่มโมตีก่อนเลย

                         ชิกิคล้ายกับสงบลงแล้ว    ส่วนดีว่านั้นสงบอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว    แต่ในความสงบของดีว่านั้นคล้ายเกิดความเคลื่อนไหวแล้ว  

                         “ วูบ ! ”

                            ลมคล้ายพัดโชยมาวูบหนึ่ง   เพียงวูบหนึ่งเท่านั้นดีว่าก็พุ่งปราดมาถึงหน้าขอชิกิแล้ว    

                        “ เช้ง ! ”

                           เสียงกระบี่ปะทะกระบี่   ไม่น่าเชื่อว่าเด็กชายใส่แว่นที่ท่าทางโอหังอย่างชิกิเมื่อสักครู่จะกลับกลายมาเป็นสงบนิ่งได้เช่นนี้   แถมยังสามารถคาดคำนวณการโจมตีของดีว่าออกได้

                        “ นี่หรือ ดีว่าปราณกระบี่ไร้เงา  ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว   วันนี้ได้เจอกันสักที  อยากรู้เหมือนกันว่าปราณกระบี่ไร้เงาของนายจะร้ายกาจสมดังชื่อหรือไม่ ”

                           “ กระบี่สายลมชิกิรวดเร็ว ไร้ทิศทาง  แถมยังเป็นที่หนึ่งของชมรมเพลงกระบี่      วันนี้ได้ประมือถึงว่าเป็นเกรียติ ”

                          ที่แท้ชิกิไม่เพียงแต่ได้ฉายาว่า กระบี่สายลมกลับเป็นถึงที่หนึ่งของชมรมเพลงกระบี่  ( คนละชมรมกับดีว่า  ดีว่าอยู่ชมรมจ้าวกระบี่ )

                          ฟังว่า  ข้อแตกต่างของชมรมจ้าวกระบี่ กับชมรมเพลงกระบี่ต่างกันอยู่หลายส่วน    ชมรมเพลงกระบี่เน้นการใช้ออกของเพลงกระบี่  แต่ไม่เน้นพลังลมปราณภายใน   ยึดถือการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของกระบวนท่าพิชิตศัตรูแทน    ส่วนชมรมจ้าวกระบี่ของดีว่าเน้นการรอบรู้ทุกอย่างทั้งด้านเพลงกระบี่  และพลังลมปราณในการต่อสู้กับศัตรูเพียงแต่ว่าอาจจะไม่ลึกซึ้งเพลงกระบี่เท่ากับชมรมเพลงกระบี่เท่านั้น

                        ดีว่าแม้จะเก่งยังไงก็ไม่ใช่ที่หนึ่งของชมรมจ้าวกระบี่ นั่นเพราะในชมรมของเขามีคนเก่งมากมาย   แต่ชิกิแม้ไม่รู้ว่าชมรมของเขามีคนเก่งมากมายเช่ยของดีว่าหรือเปล่า   แต่การที่จะได้ที่หนึ่งมานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายดายแน่นอน     เพราะฉะนั้นชิกิเป็นคู่มือที่ดีว่าจะประมาทไม่ได้เลยทีเดียว    

                         แต่เด็กชายผมยาวนั่นใช่มีฝีมือเหนือกว่าชิกิหรือไม่ ?





                         เมื่อกล่าวกันสองประโยคทั้งสองก็ปรากฎสีหน้าที่เอาจริงขึ้นมาทันที   ดีว่าพุ่งตัวถอยหลังออกไปพร้อมกันนั้นโคจรลมปราณอัดปราณกระบี่ใส่ชิกิอย่างรวดเร็ว

                        “ ฟ้าวว ”

                           เสียงลมปราณกระแทกใส่พื้นอย่างจัง   คนหายไปแล้ว

                        ชิกิไม่เสียทีที่เป็นที่หนึ่งชมรมเพลงกระบี่  อาศัยเพลงกระบี่พิชิตคู่ต่อสู้มามากมาย   การเคลื่อนไหวย่อมรวดเร็วถึงขั้นไหนพอเป็นที่คาดคำนวณได้   หรืออาจจะรวดเร็วกว่าดีว่าก็เป็นได้

                        ดีว่าเมื่อเห็นว่าชิกิหายตัวไปก็รู้ว่า ไม่ได้การแล้ว  

                        ทันใดนั้นเองกระบี่พุ่งปราดจากด้านหลังของดีว่าอย่างรวดเร็ว    ดีว่าแม้โจมตีพลาดไปก็ไม่เสียสมาธิกลับเอียงตัวหลบได้อย่างสงบ  

                        กระบี่ของชิกิรวดเร็วสมแล้วที่เป็นกระบี่สายลมจริงๆ  แต่ดีว่าก็คล้ายสายลมเช่นกัน      เมื่อหลบกระบี่ของชิกิได้ก็อาศัยจังหวะของเท้าหมุนตัวรอบหนึ่งแทงออกหนึ่งกระบี่    

                        มิคาดกระบี่สายลมชิกิก็หลบได้เช่นกัน     ชิกิก้มหัวหลบ      จากนั้นตวัดกระบี่ออกคิดโจมตีใส่ขาทั้งสองของดีว่า      แต่กระบี่ของดีว่าคล้ายมีชีวิตกลับพุ่งออกรับจากโจมตีของชิกิได้อย่างรวดเร็ว   กระบี่ของดีว่าใช้ออกหลังกลับบรรลุถึงก่อนกระบี่ของชิกิ      

                           ชิกิเองแม้ลำพองในฝีมือ และความเร็วของกระบี่ตัวเอง   เมื่อมาเจอกับดีว่าก็อดทึ่งไม่ได้        

                        ถึงตอนนี้ชิกิคล้ายหมดความอดทนแล้ว   เขาคิดว่าขืนสู้ต่อไปอย่างนี้เท่ากับว่าเขาจะอาจจะต้องหมดแรงไปก่อนเป็นแน่   ดังนั้นเตรียมใช้กระบวนท่าพิชิตดีว่าแล้ว

                        



                         ชิกิรีบกระโดพุ่งตัวขึ้นจากนั้นหมุนตัวด้วยความเร็วคล้ายลูกข่าง    ดีว่าเมื่อเห็นชิกิพุ่งตัวขึ้นกลับยืนอยู่นิ่งเฉยไม่พุ่งตามแม้แต่น้อย

                        เห็นชัดว่าดีว่าต้องถูกกระบี่ของชิกิฟันใส่อย่างแน่นอน   แต่แล้วลมก็พัดโชยขึ้นอีกวูบหนึ่งแล้ว  

                        “ ปราณกระบี่สายที่สาม   ระเบิดเวลา !!! ”

                          คราวนี้ปราณกระบี่กลับใช้ออกด้วยความรวดเร็ว   รวดเร็วกว่าครั้งแรกมากนัก    ชิกิแม้คิดหลบก็ไม่ทันการแล้ว    ถูกปราณกระบี่ของดีว่าอัดเข้าอย่างจัง   ถึงกับกระเด็นร่วงลงกับพื้นทันที    

                        ไลท์พอต์ยของชิกิลดลงเหลือ  2200 หน่วยทันที

                       ถูกปราณกระบี่อัดลงล้มกับพื้นแล้ว   แทนที่จะร้องเจ็บปวดกลับดีดตัวขึ่นด้วยความรวดเร็ว  พุ่งเข้าหาดีว่าอีกครั้ง  

                       “ เราจะแสดงให้ดูว่า ทำไมเขาถึงรียกเราว่า กระบี่สายลม !!! ”

                          การเคลื่อนไหวของชิกิเปลี่ยนเป็นรวดเร็วยิ่งแล้ว    ดีว่าถึงแม้จะไม่ประมาทแต่ก็ตะลึงตะลานแล้ว  จังหวะนั้นการป้องกันของดีว่าคล้ายช้าไปหลายส่วนถูกกระบี่ของชิกิฟันใส่หลายกระบี่  

                       ชิกินับว่าแสดงความเป็นที่หนึ่งของชมรมเพลงกระบี่ออกมาให้เห็นแล้ว   ไลท์พอต์ยของดีว่าลดลงอย่างต่อเนื่อง  แต่ละกระบี่ที่ชิกิใช้ออกนั้นล้วนแทงเข้าใส่จุดตายทั้งนั้น    ดีว่าตอนนั้นได้แต่อาศัยสมาธิคอยใช้กระบี่ช่วยป้องกันตัวเองไว้          

                       วีวี่ที่ดูอยู่บนเวทีอดหลับตาลงไม่ได้   เธอไม่คิดว่าดีว่าจะต้องมาแพ้เช่นนี้เลย     แต่แล้วขณะที่เธอกำลังหลับตาอยู่นั้นเสียงเฮ ก็ดังขึ้น    

                        หรือดีว่าจะแพ้แล้ว  วีวี่ด้วยความสงสัยก็อดลืมตาขึ้นไม่ได้         แต่ภาพที่เห็นกลับไม่ใช่อย่างที่เธอคิด    

                        ภาพที่เห็นก็คือ  ชิกิล้มลงกับพื้น   ส่วนดีว่านั้นยืนอย่างสงบ  แต่ก็เตรียมท่าตั้งรับไว้ด้วย     ชิกิล้มลงไปได้อย่างไรวีวี่ไม่ทราบเหมือนกัน   เพียงแต่เธอรู้สึกว่า  ขอให้คนที่ล้มไม่ใช่ดีว่าก็พอแล้ว  



            

                  

                        ความจริงก็คือว่า  ดีว่าอาศัยจังหวะที่ชิกิกระโดดหมุนตัวขึ้นโคจรลมปราณ  โดยลมปราณที่ดีว่าโคจรนั้นก็คือ ปราณกระบี่สายที่สาม ระเบิดเวลา   ซึ่งดีว่าเองเคยใช้กับไซโคร แนชมาแล้ว  เพียงแต่ว่าไม่ได้ผล

                        ที่ใช้กับไซโคร แนชไม่ได้ผลนั้นก็เพราะ  ลมปราณสายที่สามนั้นใช้เวลาโคจรนานกว่าสายอื่นๆ  ด้วยความเร็วของไซโคร แนชทำให้ไม่สามารถใช้ออกได้     แต่เมื่อเจอกับชิกิในตอนแรกนั้นดีว่าได้ลองฝีมือ และความเร็วของชิกิดูแล้ว   เขาคิดว่าน่าจะพอมีเวลาโคจรทัน   เพราะความเร็วของชิกิเมื่อทียบกับไซโคร แนช แล้วยังช้าไปหลายส่วนทีเดียว

                        โชคดีที่ดีว่าอัดลมปราณใส่ชิกิทันไม่อย่างนั้นละก็   เขาอาจจะเป็นผู้แพ้ไปแล้วก็ได้   เพราะดีว่าคาดคิดไม่ถึงว่าชิกิจะเพิ่มความเร็วขึ้นได้ถึงขนาดนี้  

                         ดังนั้นเมื่อชิกิพุ่งโจมตีเข้าใส่ดีว่า  ดีว่าจึงได้แต่รอเวลาที่ลมปราณ ระเบิดเวลาจะทำงาน    





                  

                           การต่อสู้ของดีว่าทุกครั้งไม่มีครั้งไหนที่เขาไม่ใช่สมองในการคำนวณ    เพียงแต่การคำนวณของเขามักผิดพลาดบ่อยครั้ง   เนื่องจากดีว่ามักพบพานคู่ต่อสู้ที่มีฝีมืออยู่เสมอ     คู่ต่อสู้เหล่านั้นมักทำให้ดีว่ารู้สึกเหนือความคาดหมายได้เสมอ  

                         และชิกิก็เป็นหนึ่งในคู่ต่อสู้ที่เหนือความคาดหมายของดีว่าเช่นกัน  

                         ธรรมดาคู่ต่อสู้ที่โดนปราณกระบี่สายที่สาม ระเบิดเวลา เข้าไปแล้วลมปราณในร่างกายจะแตกซ่านไม่สามารถลุกขึ้นสู้ได้อีก    แต่ชิกิกลับลกขึ้นได้อย่างคล่องเคล่ว      

                         ไลท์พอต์ยของชิกิตอนนี้ถึงแม้เหลือเพียง  900  หน่วย   และดีว่าเหลือ 2400 หน่วย    แต่ก็ทำดีว่าเหงื่อตกแล้ว    

                        “ ไม่น่าจะเป็นไปได้  เขาสามารถทนรับปราณกระบี่สายที่สามได้อย่างไรกัน ”   ดีว่าอดครุ่นคิดในใจตัวเองไม่ได้    จากนั้นเริ่มเตรียมท่าตั้งรับอย่างสุดความสามารในทันที    เขารู้ว่าการโจมตีของชิกิต่อจากนี้จะต้องไม่ธรรมดาแน่แล้ว    

                         ชิกิ ที่ลุกขึ้นมาได้นั้นก็หัวเราะในทันที

                         “ ดีว่าปราณกระบี่ไร้เงา  ร้ายกาจสมคำล่ำลือจริงๆ    เพียงแต่ว่าน่าเสียดายที่คงมาได้ถึงแค่รอบแรกเท่านั้น ”

                            กล่าวพร้อมกับเตรียมท่าโมตีใส่ดีว่าแล้ว

                         “ ปราณกระบี่ของนายร้ายกาจจริงๆ  ถ้าเป็นคนอื่นโดนเข้าไปแล้วละก็คงจะแพ้ไปแล้ว    เพียงแต่รู้สึกว่านายจะลืมอะไรไปบางอย่างนะ ”

                             ดีว่าไม่ถามเพียงแต่จ้องชิกิอย่างสงบนิ่ง

                         “ ที่นายลืมไปก็คือ  กระบี่สายลมชิกิไม่จำเป็นต้องมีลมปราณยังไงละ !!! ”

                           ใช่แล้วละ ดีว่าคิดออกในทันที    คนทั่วไปมีลมปราณในร่างกายทุกคน  ดังนั้นถ้าถูกทำให้ลมปราณแตกซ่านแล้วก็จะพ่ายแพ้ในทันที   แต่ชิกิกลับแตกต่างกัน   นั่นก็เพราะว่า  คนอย่างชิกิคล้ายไม่มีลมปราณนั่นเอง  

                       อย่างที่รู้กันอยู่ว่า ชมรมเพลงกระบี่นั้นไม่ได้เน้นเรื่องลมปราณ  แต่เน้นเรื่องกระบวนท่าเพียงอย่างเดียว    ดังนั้นก่อนการฝึกทุกครั้งคนของชมรมเพลงกระบี่จะต้องรีดเร้นลมปราณออกจากร่างก่าย   เพื่อให้ใช้กระบวนท่า เพลงกระบี่ได้อย่างคล่องเคล่ว   พูดง่ายๆ ก็คือ  ชิกิใช้แต่พลังของร่างกายให้เกิดความเร็วโดยไม่อาศัยลมปราณเลยแม้แต่น้อย    

                        ดังนั้นทำให้พลังลมปราณในร่างกายของเขานั้นแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้    เมื่อถูกปราณกระบี่สายที่สามเข้าไปถึงแม้จะกระเด็น  และลมปราณแตกซ่านแต่ก็ยังคงไม่ได้รับอันตรายทางร่างกายมากนัก    

                         แต่ถึงอย่างนั้นไลท์พอต์ยของชิกิตอนนี้ก็เหลือน้อยเต็มที    ถ้าหากถูกดีว่าฟันใส่สักสองถึงสามกระบี่  หรือปราณกระบี่ใส่สักทีเดียวแล้วละก็    ชิกิจะต้องเป็นฝ่ายแพ้แน่ๆ      

                         ชิกิเองก็รู้ถึงความจำกัดของไลท์พอต์ยเขาดี   ทำให้เขาตัดสินใจคิดแลกชีวิตด้วยกระบวนท่าสุดยอดของเขาแล้ว  







                           ชิกิตั้งท่าพร้อมแล้ว  ดังนั้นเริ่มลงมือจู่โจมออกในทันที

                           “ เพลงกระบี่ไม้ตาย แลกชีวิต !!!! ”

                              ดีว่านั้นถึงแม้จะเตรียมตัวตั้งรับไว้แต่แรกแล้ว   แต่พอชิกิพุ่งปราดเข้ามากลับปรากฎช่องโหว่มากมายอย่างเหนได้ชัด     นั่นไม่ใช่เพราะดีว่าจงใจ หรือประมาทหรอก   แต่เป็นเพราะว่าชิกิเร็วเกินไปนั่นเอง  

                           ชิกิไม่เปิดช่องโหว่ให้ดีว่าโต้กลับเลยแม้แต่น้อย   ในตอนนี้ดีว่าทำได้แค่เพียงตั้งรับเท่านั้น    แต่ดีว่ารู้สึกได้เลยว่า  ยิ่งจู่โจมกระบวนท่าของชิกิยิ่งรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ  เช่นเดียวกันกับกระบวนท่าวายุพิชิตอัสนี   เพียงแต่ว่ากระบวนท่าของชิกิเน้นการโจมตีเพียงอย่างเดียว   ไม่มีท่าทางป้องกันเลยแม้แต่น้อย  หากคู่ต่อสู้สวนกลับมาก็ได้แต่พ่ายแพ้แล้ว        

                          ถึงอย่างนั้นก็ยากที่ใครจะโจมตีกลับมาได้  เนื่องจากชิกิยิ่งจู่โจมยิ่งเพิ่มความรวดเร็วยิ่งขึ้น    ถ้าหากยังเป็นอย่างนี้ต่อไปแล้วละก็  คนที่แพ้จะต้องเป็นดีว่าแน่นอน  

                         ดีว่าเองแม้ฝึกฝนตัวเองอย่างหนัก   ผ่านการต่อสู้มาก็มากมาย   แต่ยังไม่เคยมีคู่ต่อสู้คนไหนทนรับปราณกระบี่ของเขาได้เลย  เว้นแต่ไซโคร แนช  และคนที่สองก็คือ ชิกิ  ผู้ซึ่งกำลังจะทำให้เขาพ่ายแพ้แล้วนั่นเอง  

                          ตอนนี้สมาธิของดีว่าเริ่มลดลงไปเรื่อยๆ แล้วชิกิไม่มีท่าทีว่าจะหยุดกระบวนท่าเลยแม้แต่น้อย   สมแล้วที่ได้ชื่อว่าเป็นเพลงกระบี่แลกชีวิต  







                            วีวี่ ซึ่งตอนแรกดีใจที่เห็นชิกิล้มลงไปกลับใจหายในทันที    เธอคิดว่าดีว่าน่าจะเป็นฝ่ายชนะตั้งแต่ตอนนั้นแล้วเสียอีก     แต่ตอนนี้ภาพที่ปรากฎอยู่ตรงหน้านั้นช่างตรงข้ามกับความคิดของเธอเสียเหลือเกิน  

                            แต่คราวนี้วีวี่ไม่หลับตาแล้ว   เพราะเธอเชื่อมั่นในตัวดีว่าว่า เขาจะต้องหาหนทางเอาชนะได้อย่างแน่นอน  



                

                            ดีว่าขณะที่กำลังจะถอดใจยอมแพ้  กลับมีความรู้สึกหนึ่งไหลเวียนเข้าสู่ร่างกาย    ใช่แล้ว  ความรู้สึกนั้นก็คือ  ความรู้สึกไม่อยากจะยอมแพ้นั่นเอง   จะอย่างไรตอนนี้ยังมีโอกาส     เมื่อคิดเช่นนั้นดีว่าก็เริ่มเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนไหวของเท้าทั้งสองข้างแล้ว  

                         แน่นอน เมื่อการเคลื่อนไหวของเท้าเปลี่ยน  การเคลื่อนไหวของร่างกายย่อมแปรเปลี่ยนตามไป    ในเมื่อชิกิคิดใช้ความรควดเร็วจู่โจมเอาชัย  โดยไม่คิดที่จะป้องกัน

                        ทางเดียวที่จะเอาชนะเขาได้ก็คือ สวนกลับ !!!!  นั่นเอง

                        แต่ว่าคิดจะสวนกลับใช่จะง่ายดายไม่     ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถสวนกลับการโจมตีของทุกคนได้เสมอไป   การจะสวนกลับได้นั้นต้องได้รับการฝึกฝนมาอย่างโชกโชนทีเดียว    และดีว่าก็เป็นหนึ่งในคนที่ฝึกฝนมาอย่างโชกโชนเช่นกัน

                        การฝึกฝนแม้เหนื่อยยาก  แต่มีคนส่วนน้อยเท่านั้นที่รู้ว่า  ประโยชน์ของการฝึกฝนนั้นสำคัญแค่นั้น   ดังนั้นคนที่ฝึกฝนมากกว่าคนอื่น  จึงค่อนข้างได้เปรียบกว่าคนอื่นเช่นกัน  





                           ตอนนี้การเคลื่อนไหวของทั้งคู่รวดเร็ว  จนหลายๆ คนต้องตะลึงละตานแล้ว    แม้แต่เด็กชายนักประกาศก็อดชมไม่ได้

                        “ โอ้วววว  อะไรกันครับเนี่ย  ไม่น่าเชื่อเลยนะครับ   ว่าการเคลื่อนไหวของทั้งสองจะรวดเร็วได้ถึงเพียงนี้  สมแล้วที่เก่งกระบี่กันทั้งคู่   นับว่าเป็นอีกคู่หนึ่งที่สามารถสร้างความฮื่อฮาให้กับทุกคนได้อีกคู่หนึ่งเลยทีเดียวละครับ ”

                            ดีว่าเมื่อเปลี่ยนแปลงท่าร่างของตัวองจนถึงขั้นหนึ่งแล้ว   ก็เตรียมตัวที่จะสวนกลับแล้ว    และในจังหวะนี้เองทันทีที่กระบี่ของชิกิแทงใส่ดีว่านั่นเอง

                        ดีว่ารีบอาศัยจังวะนั้นเอียงตัวหลบวูบนั้นในทันที     ไม่ปล่อยให้ชิกิชักกระบี่กลับก็โจมตีสวนกลับในทันที

                        “ เทคนิคกระบี่พิเศษ สวนกลับ !!! ”

                           ชิกิ ซึ่งชักกระบี่กลับมาก็ไม่ทันการแล้ว   การเคลื่อนไหวของดีว่าเรียกได้ว่า  รวดเร็วกว่าสายลมแล้ว   นั่นก็เพราะว่า   เขาใช้เวลาฝึกฝนท่าสวนกลับเป็นเวลานานเลยทีเดียว   ทั้งตอนที่อยู่กับพี่ชาย ตอนที่อยู่ที่ชมรม  หลังเลิกเรียน  หรือแม้แต่ในความฝันยังคงฝึกฝนได้อย่างคล่องแคล่วชำนาญ  

                        ดังนั้นชิกิได้แต่แพ้แล้ว !!!





                        ไลท์พอต์ยของชิกิเหลือ 0 หน่วยในทันที    ไม่ว่าใครก็ไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าดีว่าสามารถอาศัยความว่องไว และหาช่องโหว่ของเพลงกระบี่แลกชีวิตในเวลาคับขันเช่นนี้ออกได้   และยังสามารถสวนกลับได้ด้วยความรวดเร็ว พอแทงกระบี่ออกก็จู่โจมไปยังจุดตายที่คอหอยพอดี  

                          “ โอ้ววว เกิดอะไรขึ้นกันครับเนี่ย   ไม่น่าเชื่อเลยนะครับ ว่าดีว่าจะสามารถสวนกลับเพลงกระบี่อันร้ายกาจของชิกิได้ในเวลาเพียงแค่พริบตาเดียวเท่านั้น    และแน่นอนครับผู้ที่ชนะก็คือ  ดีว่าปราณกระบี่ไร้เงาจากทีม มิราเคิล นั่นเองคร๊าบบบบบบบบ !!!! ”

                             เสียงปรบมือดังก้องขึ้นทันที   วีวี่นั้นแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย  เธอปรบมือดีใจอย่างออกนอกหน้า  จนมิวต้องบอกว่า พอได้แล้ว  

                             ดีว่าเมื่อได้ยินเด็กชายนักประกาศกล่าวแล้วก็ค่อยๆ ลดกระบี่ลง  แต่ก็ยังคงหอบหายใจนิดๆ    ส่วนชิกินั้นเมื่อลดกระบี่ลงแล้วยังคงยืนอยู่นิ่งไม่เคลื่อนไหวแต่อย่างใด    

                             ดีว่าเมื่อชนะแล้วก็โคจรลมปราณในร่างกายเพื่อให้หายเหนื่อยได้สักเล็กน้อย   แต่ก็ยังคงไม่ก้าวลงจากเวที  เพราะเห็นชิกิยังคงยืนอยู่เช่นกัน

                          “ เป็นอะไรรึเปล่าครับ ”

                             ดีว่าถามอย่างเรียบร้อย  ถ้าเป็นคนทั่วไปอาจจะทำเป็นข่มชิกิไปแล้ว    ชิกินั้นนิ่งเงียบไม่ตอบ  แต่สักพักก็ค่อยๆ พูดกับดีว่า

                         “ นี่เราแพ้แล้วหรอเนี่ย ”

                            ดีว่าไม่ตอบ  เขารู้ว่าชิกิมีอะไรจะพูดต่อแน่นอน

                        “ เฮ้อ  ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ ว่าความสามารถในการสวนกลับของนายจะร้ายกาจจนถึงขั้นนี้   เราขอยอมรับ ”        

                           ชิกิยิ้มรับความพ่ายแพ้อย่างเต็มใจ  พร้อมยื่นมือให้ดีว่า

                        “ ฝีมือเพลงกระบี่ของคุณก็ร้ายกาจใช่ย่อย  คราวหน้าถ้าได้ประมือกันอีกผมอาจจะเป็นผู้แพ้แล้วก็ได้ ”      

                          ดีว่ายิ้มตอบพร้อมกับจับมือกัน    เด็กชายนักประกาศเมื่อเห็นเช่นนั้นก็อดไม่ได้ที่จะกล่าว

                       “ โอ้วววว ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจจริงๆ ครับ   ทั้งสองฝ่ายจับมือกัน  ต่างยอมรับซึ่งกันและกัน  นี่แหละครับที่เขาเรียกกันว่า  น้ำใจนักกีฬา ”



                        

                           วาเองเมื่อเห็นดีว่าจับมือกับชิกิก็อดสงสัยไม่ได้ว่า  ชิกิใช่คนที่ทำท่าอวดเก่งเมื่อสักครู่หรือนี่  ทำไมเปลี่ยนเป็นเป็นถ่อมตนถึงเพียงนี้  หรือนี่เป็นการยอมรับฝีมือกันของนักกระบี่  ?

                            ความจริงก็คือ แม้ชิกิจะเป็นคนที่ถือตน ไม่ยอมใครง่ายๆ  แต่พอมาเจอกับความถ่อมตน และฝีมือของดีว่า ก็ได้แต่ยอมรับแล้ว

                         “ แล้วเราจะกลับไปฝึกฝนมาใหม่  วันหลังคงจะได้เจอกัน   ถึงเวลานั้นนายจะต้องเป็นฝ่ายแพ้แน่นอน ”

                          ชิกิกล่าวพร้อมกับค่อยๆ เดินลงจากเวที   ส่วนดีว่านั้นเพียงแค่ยิ้มอย่างเรียบร้อยเท่านั้น    จากนั้นดีว่าก็ค่อยๆ ก้าวลงจากเวทีเช่นกัน  







                         “ สุดยอดไปเลย  ไม่คิดเลยว่านายจะสามารถเอาชนะเจ้าหมอนั่นได้ ”

                           วาเมื่อเห็นดีว่าลงมาจากเวทีก็รีบกล่าวในทันที

                       “ ความจริงผมก็ไม่คิดว่าจะเอาชนะเขาได้หรอกนะครับ  โชคดีที่ผมฝึกการสวนกลับมามากพอสมควร ”

                          “ การสวนกลับหรอ ? ”

                          “ ไว้ผมค่อยอธิบายให้ฟังก็แล้วกันนะครับ   ตอนนี้คุณน่าจะเตรียมตัวได้แล้วนะครับ ”

                          วาเองเหมือนเพิ่งคิดได้ว่า  ต่อไปก็ถึงตาของเขาแล้ว

                        “ นั่นสินะ   เกือบลืมไปเลย  แต่เราไม่มีความมั่นใจเท่าไหร่เลยว่าจะสามารถเอาชนะได้   คนในทีมนั้นแค่เจ้าแว่นก็เก่งถึงขนาดนั้น   แล้วคนต่อไปจะขนาดไหนละเนี่ย ”

                           ขณะที่ดีว่ากำลังจะพูดปลอบวาให้ใจชื้นขึ้นมา  ไซโคร แนช ซึ่งนั่งเงียบมานานก็กล่าวแทรกขึ้นทันที  

                       “ คนต่อไปน่ะ  เก่งที่สุดในทีมของเจ้านั่นแล้วละ ”

                          “ คนต่อไปเก่งที่สุดในทีมนั้นหรอครับ  รุ่นพี่รู้ได้ยังไงกัน   แล้วถ้าเขาเก่งที่สุดทำไมต้องจับคู่ให้ผมต้องเจอกับเขาด้วยละครับ ”

                          “ ที่ให้เจ้าคู่กับเขา    ก็เพราะเจ้าน่ะอ่อนที่สุดในทีมเราน่ะสิ   ส่วนที่ว่าข้ารู้ได้ยังว่าเจ้าผมยาวนั่นเก่งที่สุดในทีมน่ะ  ไม่ใช่ข้าคนเดียวหรอกนะที่รู้  เพื่อนเจ้าสองคนก็รู้เหมือนกันนั่นแหละ ”

                          เหตุผลของไซโคร แนชแปลกมากเลยทีเดียว   เพราะวาอ่อนที่สุดในทีมนะหรอ ถึงต้องถูกจับคู่กับคนเก่งๆ อย่างนี้เท่ากับว่าให้วาไปฆ่าตัวตายชัดๆ    แต่ดีว่ารู้ถึงเหตุผลข้อนั้นดี  

                      ไซโคร แนชต้องการจะให้วาเจอกับคนเก่งๆ โดยที่เขาไม่สนถึงผลที่จะตามมา    เขาต้องการให้วาพยายามสุดความสามารถ  เพราะเมื่อคนเราพยายามสุดความสามารถก็จะสามารถพัฒนาฝีมือตัวเองขึ้นได้อีกขั้นหนึ่งเช่นกัน   ยิ่งถ้าวาเป็นฝ่ายพ่ายพ้ขึ้นมาแล้วละก้   เขาคงจะต้องรู้สึกผิดและฝึกฝนตัวเองให้มากยิ่งขึ้น    

                       ไซโร แนชนับว่ามีความคิดที่ลึกซึ้งจริงๆ  แต่ความคิดของเขานั้นถ้าเป็นคนอื่นมองแล้ว   ออกจะดูบ้าบิ่นไปนิดนึง  

                          





                            

                         “ แพ้ไม่เป็นท่าเลยนะนาย ”

                            เด็กชายผมยาวพูดแหย่ชิกิ   ซึ่งกำลังเดินอย่างหอบๆกลับมา      ชิกิเมื่อได้ยินก็เกิดโทสะขึ้นมาทันที

                        “ นายจะกวนกันมากไปแล้วนะ  ต่อให้เป็นนายก็เถอะ   ใช่ว่าเราจะกลัวนายนะ ”

                          “ อ่อ งั้นหรอ   เรื่องนั้นไว้ค่อยพูดกันหลังแข่งเสร็จก็แล้วกันนะ     แต่ผลที่ออกมาเราคงไม่เหมือนนายหรอกนะ ฮ่าๆๆ ”

                           เด็กชายผมยาว พูดยั่วโมโหชิกิ  จากนั้นก็เดินจากไป    เตรียมตัวเพื่อที่จะขึ้นเวที     เด็กชายผมยาวระหว่างรอให้เด็กชายนักประกาศประกาศเรียกขึ้นเวทีนั้นก็มองตรงข้ามไปยังฝั่งทีมวา   และแน่นอนคนที่เขามองอยุ่ก็คือ วานั่นเอง  พลันคิดในใจ    “ เจ้านั่นนะเรอะ คู่ต่อสู้ของเรา  ไอ้เจ้าคนจัดลำดับทีมออกจะดูถูกฝีมือเราเกินไปหน่อยแล้ว   เห็นทีจะต้องสั่งสอนให้มันรู้เสียมั่ง  ว่าพวกมันกำลังเล่นกับใครอยู่ ”    และไม่นานนักเด็กชายนักประกาศก็เริ่มประกาศเรียกทั้งสองฝ่ายขึ้นมาบนเวทีแล้ว  

                        วาเมื่อได้ยินก็ค่อยๆสูดหายใจเข้าลึกๆ   ค่อยๆตั้งสติจากนั้นก็เตรียมตัวที่จะขึ้นเวทีแล้ว    แต่ยังไม่ทันทีว่าจะก้าวขึ้นเวทีเสียงของโซเฟียก็ดังมาจากข้างหลังเขาทันที   ทำให้เข้าต้องหันกลับไป

                         “ โชคดีนะค่ะ  เอาชนะเจ้าหมอนั่นให้ได้  อย่าให้เสียชื่อเด็กหัวหน้าห้องนะ แหะๆ ”

                            โซเฟียยิ้มพร้อมกับชูนิ้วโป้งให้กับเขา  ส่วนดีว่านั้นเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า

                        “ ถ้ายังไงอย่าลืมว่า ทุกสถาณการณ์ย่อมมีทางแก้ไขนะครับ   ค่อยๆคิด ขอให้โชคดีครับ ”

                            และคนสุดท้ายที่พูดกับวาก็คือ ไซโคร แนช   เขาเพียงกล่าวสั้นๆเท่านั้น

                          “ อย่าประมาทละ  เจ้านั่นมีฝีมือไม่ธรรมดา ”

                             วารับคำ “ ครับ ”  จากนั้นก้มหัวลงเล็กน้อย  แล้วค่อยก้าวขึ้นเวที    คราวนี้วาก้าวขึ้นเวทีด้วยความมั่นใจยิ่งขึ้น   เพราะคำพูดของโซเฟียหรือเปล่านะ ?

                         แต่ทันทีที่วาก้าวขึ้นมาบนเวที  เขาก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง   อะไรที่ทำให้เขารู้สึกกดดันอย่างผิดปกติ    และไม่นานนักเขาก็รู้แล้วว่า สิ่งที่ทำให้เขาต้องกดดันเป็นพิเศษนั้นคืออะไร    

                         นั่นก็คือ สายตาจากเด็กชายผมยาวที่จ้องมายังเขานั่นเอง      ทำไมแค่สายตาของเด็กชายผมยาวถึงทำให้เขารู้สึกกดดันได้ถึงเพียงนี้นะ ?

                          

          

                           วาพยายามฝืนความรู้สึกกดดันนั้นไว้  และก้าวต่อไปยังกลางเวที   ซึ่งเด็กชายผมยาวได้ยืนรอเขาอยู่นานแล้ว    เด็กชายนักประกาศเมื่อเห็นวากำลังจะเดินมาถึงก็ฝืนยิ้มอย่าแหย๋ๆ   ในใจคงคิดประมาณว่า  ถึงนายจะคิดสั้นยังไงก็ไม่น่าที่จะคิดสั้นขนาดมาสู้กับเจ้านี่เลยนะ    

                          ในที่สุดทั้งวา และเด็กชายผมยาวก็มายืนประจันหน้ากันอยู่กลางเวทีแล้ว  เด็กชายนักประกาศส่งสายตามองไปยังวาอีกที   ไม่ทราบว่าเป็นสายตาสงสาร หรือเอาใจช่วยกันแน่   จากนั้นก็กล่าวประกาศเริ่มการประลองทันที

                        “ เอาละครับ  ในเมื่อทั้งสองคนพร้อมแล้ว  ท่าอย่างนั้นการประลองคู่ที่สองเริ่มได้ !!! ”

                          เสียงปรบมือดังมาจากรอบด้านอีกครั้งหนึ่ง    วาในตอนแรกนั้นตัดสินใจจะเป็นฝ่ายชิงลงมือก่อนในทันทีหลังจากที่เริ่มประลอง  แต่แล้วเขาก็ต้องเปลี่ยนความคิดนั้นในทันที   เนื่องจากความกดดันไปแพ่รกระจายไปทั่วเวที        แต่เด็กชายผมยาวเองกลับไม่มีท่าทีที่จะเป็นฝ่ายชิงโจมตีเลยแม้แต่น้อย  กลับยังคงยืนนิ่งอยูกับที่ไม่เคลื่อนไหวแต่อย่างใด  

                        วาเองคิดจะถอยออกห่างจากเด็กชายผมยาวก่อน  เพราะถ้าหากถูกโจมตีในระยะใกล้แค่นี้ฝ่ายที่เสียเปรียบจะต้องเป็นเขาอย่างแน่นอน    แต่มาคิดอีกทีถ้าเด็กชายผมยาวเห็นท่าทีว่าเขาจะถอย เขาก็จะเป็นฝ่ายถูกโจมตีในทันทีเช่นกัน    ขณะที่วากำลังคิดอยู่นั้นเด็กชายผมยาว ซึ่งนิ่งเงียบมานานก็เอ่ยปากขึ้น

                           “ ว่ายังไงละ กลัวจนก้าวไม่ออกเลยหรือไง   ถ้ากลัวมากละก็ยอมแพ้ไปก็ได้นะจะได้ไม่ต้องเจ็บตัวยังไงกันละ ”

                           วาได้ยินเช่นนั้นก็เกิดทิฐิขึ้นมา   คำพูดเมื่อสักครู่นี้เหมือนคำพูดที่เด็กชายตัวใหญ่พูดกับก็อบก่อนแข็งแทบไม่ผิดเพี้ยนเลยแม้แต่น้อย  สงสัยเราจะต้องแสดงให้เจ้าหมอนี้เห็นแล้วละมั้ง ว่าใครกันแน่ที่น่าจะเป็นคนยอมแพ้ไปก่อน  

                        “ เราไม่รู้หรอกนะ ว่านายจะเก่งมาจากไหน   แต่ถ้าดูถูกเราเกินไปแล้วละก็   เราขอบอกไว้ก่อนเลยว่า นายจะต้องเสียใจภายหลังแน่ ”

                            “ งั้นหรือ ดูสิว่านยจะทำอะไรได้บ้าง ”

                           ตอนนี้วาคิดหลบ หรือเป็นฝ่ายชิงโจมตีก่อนก็สายไปเสียแล้ว   เด็กชายผมยาวเมื่อกล่าวจบก็พุ่งหมัดใส่วาแล้ว         วาเองยังไม่ทันตั้งแต่ถูกหมัดของเด็กชายผมยาวต่อยใส่ที่หน้าก็ถึงกับกระเด็น    ไลท์พอต์ยลองวาลดลงไปถึง 300 หน่วยเลยทีเดียว   นับว่าพลังหมัดของเด็กชายผมยาวไม่ธรรมดาเลยทีเดียว  

                         วาถึงจะถูกต่อยใส่หน้าแต่ก็ยังดีที่มีชุดเกราะป้องกันอยู่  แม้จะมึนเล็กน้อย  แต่ก็ค่อยๆฝืนตัวลุกขึ้นยืน   จากนั้นเตรียมตัวโจมตีกลับบ้างแล้ว     ไพ่ในมือของวานั้นเตรียมพร้อมอยู่ในมือของวาแล้ว !!!

                         เด็กชายผมยาวเมื่อเห็นวาชูไพ่ใบนึงขึ้นกลางอากาศก็ถึงกับหัวเราะออกมาในทันที  

                         “ นายคิดจะใช้ไพ่ใบจิ๋วๆพวกนั้นชนะเราจริงๆหรอเนี่ย ฮ่าๆๆๆ     เจอแค่หมัดแรกเข้าไปก็หลบไม่ได้แล้ว  ยังคิดจะสู้อีกเรอะ ”                    

                            วาไม่ตอบแต่เหมือนกับเขาค่อยๆตั้งสมาธิ  ทันใดนั้นวาจ้องกลับไปยังเด็กชายผมยาวทันที   สายตาของวาถึงกับทำให้เด็กชายผมยาวแทบเดินถอยหลังทันที    สายตาที่เปลี่ยนไปราวกับคนละคน   นั่นก็คือสายตาเมื่อวาจะเอาจริงนั่นเอง  

                        ทันใดนั้นเมื่อวากล่าวคำ  “ รับมือ ” ไพ่ใบที่วาชูอยู่นั้นพลันหมุนพุ่งตรงเข้าใส่เด็กชายผมยาวด้วยความรวดเร็ว      เด็กชายผมยาวถึงแม้จะคาดไม่ถึงว่าไพ่ของวาจะพุ่งมาได้รวดเร็วถึงขนาดนนี้  แต่ปฎิกิรินาตอบสนองของร่างกายยังดีอยู่    เขาเพียงเอี้ยวตัวนิดหน่อยก็หลบไพ่ของวาได้อย่างไม่ยากเย็น   พร้อมกันนั้นก็พุ่งปราดเข้าใส่วาในทันที

                        “ ฮ่าๆๆๆ ใช้ไพ่ได้ไม่เลวนะ  คงจะฝึกนานสิท่า  แต่น่าเสียดายนะที่การฝึกของนายถ้าจะไร้ค่าเสียแล้ว ”

                        อีกไม่กี่ก้าวเด็กชายมยาวก็จะเข้าถึงตัววาแล้ว   มือของเขาทั้งสองข้างเปลี่ยนท่าเป็นคล้ายกับกงเล็บของเหยี่ยวแล้ว    ที่แท้เด็กชายผมยาวคิดใช้กงเล็บเหยี่ยวจัดการกับวานั่นเอง    ความร้ายกาจของพลังกงเล็บพอเป็นที่คาดคำนวณได้เลยทีเดียว    แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ วาไม่คิดจะหลบเลยแม้แต่นิดเดียว  กลับยืนนิ่งอยู่เฉยๆ      หรือวาคิดยอมแพ้เสียแล้ว ?

                            ในที่สุดเด็กชายผมยาวง้างมือตวัดใส่วาแล้ว    ไม่ว่าใครก็ดูออกว่าวาต้องหลบไม่พ้นแน่   แม้แต่โซเฟียเองยังอดที่จะต้องกัดริมฝีปากตัวเองอย่างเสียไม่ได้       แต่ดีว่า กับไซโคร แนชกลับยิ้มขึ้นแล้ว        

                         นั่นสิ ถ้าไม่คิดที่จะหลบแล้วจะเป็นไรไปละ ?!

                           วาแย้มยิ้มพร้อมกล่าว

                         “ เฮ้ นายระวังด้านหลังหน่อยสิ ”

                           เด็กชายผมยาวเมื่อได้ยินวากล่าวเช่นนั้นจะหันหลังกลับไปดูก็คิดว่าเป็นกลลวง   ซึ่งวาจงใจจะหลอกเขา

                         “ อย่ามาหลอกกันเสียให้ย......า....... ก..................!!!!!!! ”

                           เด็กชายผมยาวยังไม่ทันจะกล่าวจบด้านหลังของเขาก็เกิดระเบิดเกิดขึ้นในทันที      เด็กชายผมยาวถึงกับต้องกระเด็นเซไปข้างหน้า  ซึ่งวาก็เอี้ยวตัวหลบไปด้านขวา  ทำให้เด็กชายผมยาวต้องลงล้มในทันที      ไลท์พอต์ยของเด็กชายผมยาวลดลงไปถึง 200 หน่วยเลยทีเดียว      

                        ที่แท้เป็นวาคำนวณไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า  ถึงแม้เด็กชายผมยาวจะสามารถหลบไพ่ของเขาไ  แต่ก็คงไม่ทันระวังว่าไพ่ของเขานั้นจะหมุนกลับมาได้    แถมไพ่นั้นยังเป็นไพ่ระเบิดเสียด้วย    

                       “ เป็นยังไงบ้างละ  กลแรกของเรา  กลไพ่ระเบิดปริศนา !!! ”

                         เสียงปรบมือดังก้องมาจากทั่วทุกมุมห้อง  ดูเหมือนนักเรียน และผู้ชมทุกคนจะถูกใจกบไพ่ของวามาก    ราวกับได้มาดูมายากลแทนที่จะดูการประลองเสียอีก      ที่วาสามารถซัดไพ่ถูกเด็กชายผมยาวนั้นไม่ใช่แค่เพียงเพราะเขาฝึกหนักเพียงอย่างเดียวเท่านั้น    แต่เป็นเพราะเขาเชื่อมั่นนั่นเอง

                       คนเราถ้ามีความเชื่อมั่นในตัวเองแล้ว  สิ่งที่ลงมือกระทำย่อมมีความเป็นไปได้มากกวาคนที่ไม่มีความเชื่อมั่น    ดังนั้นบางทีความเชื่อมั่นยังก่อให้เกิดปาฎิหาร์ยอีกด้วย  

                          





                          วาไม่เปิดโอกาสให้เด็กชายผมยาวลุกขึ้นแม้แต่น้อย    ซัดไพ่ออกใส่เด็กชายผมยาวซึ่งกำลังล้มอยู่ในทันที    ความจริงวาไม่ต้องการที่จะทำแบบนี้   แต่เขาเพียงไม่อยากจะประมาทคู่ต่อสู้เท่านั้น    

                        ไพ่ที่วาซัดออกมีจำนวนหลายใบเลยทีเดียว   แต่กลับไม่ได้ซัดใส่ตัวเด็กชายผมยาว   หากแต่ซัดปักลงกับพื้นรอบๆตัวเด็กชายผมยาวแทน      เด็กชายผมยาวคิดว่าวาซัดไพ่พลาดถึงแม้จะเพิ่งถูกวาซัดไพ่ระเบิดใส่ไปก็หัวเราะออกมาอีก

                      “ ฮ่าๆ เป็นอะไรไป  ระยะขนาดนี้ยังซัดไปถูกอีกเรอะ   นายเสร็จเราแน่ !!! ”

                         เด็กชายผมยาวลุกขึ้นเตรียมวิ่งเข้าใส่วาอีกครั้ง  แต่ไม่ทันทีเขาจะก้าวต่อไปอีกก้าว    ไพ่ซึ่งเคยถูกปักอยู่บนพื้นดินหลายใบนั้นกลับกระเด้งดีดขึ้นเข้าใส่ตัวของเด็กชายผมยาวในทันที    จากนั้นก็เกิดระเบิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง            คราวนี้รุนแรงกว่าครั้งแรกมากนัก   เนื่องจากจำนวนไพ่ที่ปักเข้าใส่ตัวของเด็กชายผมยาวนั้นมีจำนวนเกือบสิบใบเลยทีเดียว     ไลท์พอต์ยของเด็กชายผมยาวลดลงไปถึง  1500 ห่นวยเลยทีเดียว  นับว่าเป็นโจมตีที่รุนแรงมากเลยทีเดียว    แม้แต่ก็อบซึ่งนับดูอยู่ก็อดที่จะทึ่งกับพลังการทำลายจากไพ่ของวาไม่ได้  

                       ตอนนี้ไลท์พอต์ยของเด็กชายผมยาวจึงเหลือเพียงแค่ 1300 หน่วยเท่านั้นเอง   ซึ่งถ้าหากโดนไพ่ของวาไปอีกแล้วละก็เขาคงจะต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แน่         เด็กชายผมยาวที่ถูกไพ่ระเบิดของวาซัดใส่ครั้งสองก็เกือบที่จะล้มลงไปอีกครั้ง   แต่คราวนี้เขาพยายามทรงตัวไม่ให้ล้ม

                         วาไม่คิดว่าคู่ต่อสู้ของเขาจะเอาชนะได้ง่ายถึงขนาดนี้   ขอเพียงเขาซัดไพ่ระเบิดใส่อีกไม่กี่สิบใบเท่านั้นเขาก็จะต้องเป็นฝ่ายชนะแน่นอน   แต่ถึงอย่างนั้นวาก็ไม่คิดประมาทแม้แต่น้อย   เตรียมตัวซัดไพ่อีกระลอกหนึ่งแล้ว  

                         วาเกร็งพลังไปที่มือ  แต่ขณะที่เขากำลังจะซัดไพ่ออกนั้น   เขาก็สึกรู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติเสียแล้ว   เด็กชายผมยาวที่ทำท่าจะล้มเมื่อสักครู่นี้เปลี่ยนท่าทางไปในทันที     เด็กชายผมยาวไม่ได้ยืนตัวตรง หรือตั้งท่าเตรียมพร้อมจะจู่โจมแต่กลับตั้งท่าแบบสัตว์ป่าแทน   ถึงกับแทบจะยืนด้วยมือ และขาทั้งสองข้างของเขาเลยทีเดียว

                              วาเห็นท่าจะไม่ได้การก็ซัดไพ่ระเบิดชุดสุดท้ายของเขาออกหมดแล้ว   เขาหวังเพียงว่าไพ่ระเบิดชุดสุดท้ายของเขาสามารถพิชิตชัยเด็กชายผมยาวซึ่งเปลี่ยนท่าทางเป็นสัตว์ร้ายได้   แต่ดูเหมือนความหวังของวาจะต้องสลายไปเสียแล้ว          เด็กชายผมยาวเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็วผิดคาด   เขาสามารถหลบไพ่ระเบิดชุดสุดท้ายของวาได้อย่างสบายๆ  

                        วาคิดจะหลบก็ไม่ทันการแล้ว  เด็กชายผมยาวเมื่อเข้าใกล้วา  ก็พุ่งตัวกระโดดขึ้นกางกงเล็บทั้งสองข้างตวัดใส่วาเข้าอย่างจัง     วาถึงกับต้องเซถอยไปเลยในทีเดียว   แต่การโจมตีของเด็กชายผมยาวยังไม่หยุดแค่นั้น   เมื่อมือและขาของเขาสัมผัสกับพื้นก็พุ่งตัวเข้าโจมตีใส่วาอีก    คราวนี้เขาง้างมือกระโดดตวัดใส่หัวของวา       ทำให้วามึนจนแทบจะล้มไปเลยทีเดียว  แต่ในมือของวายังคงกำสำรับไพ่ของเขาอย่างแนบแน่นไม่ยอมปล่อยให้หลุดจากมือเลยแม้แต่น้อย        

                        ตอนนี้ไม่ว่าท่าทาง หรือสายตาของเด็กชายผมยาวก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง   กลายเป็นดุร้ายอย่างยิ่ง

                        ความรู้สึกของวาในตอนนี้คล้ายไม่ได้เผชิญหน้าอยู่กับผู้คน  แต่เขารู้สึกว่าสิ่งที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่ในขณะนี้นั้นคือ สัตว์ร้ายตัวหนึ่ง !!!

                            

        

                              “ โอ้ววววว เกิดอะไรกันขึ้นครับเนี่ย  ท่าทางของเซ้นส์เปลี่ยนไปในทันที   ตอนนี้เขาคล้ายกับสัตว์ร้ายเลยทีเดียว  หรือนี่เองครับที่เป็นที่มาของฉายาสัตว์อสูร - เซ้นส์ !!!     แล้ววาเด็กชายลึกลับของเราจะเป็นยังไงกันละครับเนี่ย   การโจมตีแต่ละครั้งของเซ้นส์รุนแรงจริงๆ   ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปแล้วละก็............. ”

                               เด็กชายนักประกาศกล่าวอย่างอดไม่ได้    ความจริงเขาเอาใจช่วยวาอยู่เหมือนกัน  แต่เห็นวาโดนเข้าอย่างนี้  เขาก็คิดว่าวาจะต้องแพ้แล้วแน่นอน

                           โซเฟียเองเมื่อได้เห็นท่าทางคล้ายสัตว์ร้ายของเซ้นส์เด็กชายผมยาว  ก็ยังอดไม่ได้ที่จะขนลุกขึ้นมาในทันที       ตอนนี้วากำลังเผชิญหน้าอยู่กับสัญชาตญาณการฆ่าของสัตว์ป่า   นึกๆดูแล้วถ้าเป็นตัวเองเธอเองก็คงจะแย่แล้วเหมือนกัน     เด็กชายผมยาวคนนั้นร้ายกาจจริงอย่างที่ไซโร แนชบอกจริงๆ  

                           แต่ไซโคร แนชกลับไม่รู้สึกตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย กลับกอดอกมองดูวาถูกไล่จู่โจมอย่างหน้าตาเฉย     หรือเขาจะรู้อยู่แล้วแต่แรกว่าวาจะต้องเปนฝ่ายแพ้    

                          “ เฮ้อ !  นี่น่ะหรอที่เขาเรียกกันว่า เซ้นส์สัตว์อสูรที่แท้ก็เท่านั้นเอง ”

                             มิคาดไซโคร แนชเองก็รู้อยู่แต่แรกแล้วว่า เด็กชายผมยาวเป็นใคร  แต่คำพูดของไซโคร แนชที่ว่าเด็กชายผมยาวมีฝีมือเท่านั้นเอง  หมายความว่ายังไงกันแน่    หรือจะบอกว่าตัวเองสามารถเอาชนะเจ้านั่นได้อย่างสบายๆกันแน่ ?  

                          





                            ไลท์พอต์ยของวาลดลงอย่างต่อเนื่อง   วาไม่มีความสามารถในหลบหลีกการโจมตีอย่างรวดเร็วเหมือนดีว่า หรือไซโคร แนช      หรือแม้แต่ความสามารถในการสวนกลับเหมือนดีว่าเขาก็ไม่มี      การประลองครั้งนี้เห็นทีเขาจะต้องเป็นฝ่ายแพ้เสียแล้ว

                           วาลองตั้งสติถีบขาออกหวังยันเซ้นส์ให้ออกห่างไป แต่ไม่สำเร็จเขากลับถูกตะบบคว้าขาไว้ได้   จากนั้นวารู้สึกว่าโลกหมุนอย่างประหลาดนั่นก็เพราะ  เขาถูกเซ้นส์จับขาเหวี่ยงกระเด็นอย่างแรง

                       หัวของวาฟาดพื้นเข้าอย่างจัง  ถึงแม้จะใส่ชุดเกราะป้องกันก็ตามวาก็รู้สึกเจ็บอย่างแรงเลยทีเดียว   วาถูกเหวี่ยงออกไปไกลพอสมควรเลยทีเดียว     เขาไม่มีแรงที่จะลุกขึ้นรอีกแล้ว   แถมตอนนี้ไลท์พอต์ยของวาก็ดูเหมือนใกลจะหมดเต็มทีแล้ว       ไลท์พอต์ยของวาในตอนนี้เหลือเพียงแค่ 560เท่านั้น !!!

                          เซ้นส์ถึงอยู่ห่างจากวาพอสมควร  แต่ดูเหมือนว่าเขาเตรียมตัวจะโมตีใส่วาอีกครั้งหนึ่งแล้ว   ถ้าวาถูกกงเล็บของเซ้นส์เข้าอีกละก็เป็นอันจบกันแน่ๆ  

                      โซเฟียมองดูด้วยความรู้สึกอย่างไร ไม่อาจจะบรรยายได้แล้ว   ภาพที่เธอกำลังเห็นอยู่นั้นก็คือ  เซ้นส์ค่อยๆคลานเข้ามาใกล้วาเรื่อยๆ    ซึ่งไม่มีท่าทีว่าวาจะลุกขึ้นได้เลยแม้แต่น้อย      ร่างกายของเขาแม้สวมใส่ชุดเกราะแต่เขารู้สึกปวดไปทั้งร่างกายโดยเฉพาะหัวของเขาที่เพิ่งกระแทกเข้าที่พื้นอย่างจัง     วาคิดถอดใจยอมแพ้แล้ว    



                      



                        ขณะที่วากำลังคิดจะถอดใจนั้นคำพูดที่ดีว่า พูดกับเขาไว้ก่อนการแข่งก็ผลุดขึ้นมาในหัวของเขาทันที    ที่ว่า   “ ถ้ายังไงอย่าลืมว่า ทุกสถาณการณ์ย่อมมีทางแก้ไขนะครับ   ค่อยๆคิด ขอให้โชคดีครับ ”  

                         ใช่แล้วละ  ทุกสถาณการ์ย่อมมีทางแก้ไข  เมื่อคิดได้เช่นนั้นวาก็เริ่มตั้งสติของตัวเองในทันที     วาพยายามฝืนอาการเจ็บทั่วร่างกายของเขาขึ้น     เขาค่อยๆยันตัวเองขึ้นอย่างไม่รีบร้อน  แม้จะรู้ว่าเซ้นส์กำลังใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว  

                      โซเฟียที่เห็นวาค่อยๆลุกขึ้นมาก็อดยิ้มขึ้นมาอีกครั้งไม่ได้   พร้อมตะโกนบอกว่าด้วยความดีใจ

                      “ สู้ๆ อย่ายอมแพ้นะ !!! ”

                        วาได้ยินโซเฟียตะโกนเช่นนั้นคล้ายมีกำลังใจเพิ่มขึ้นอีกมาก   ความบาดเจ็บที่ร่างกายดูเหมือนว่าจะหายไปมากเลยทีเดียว   พร้อมกันนั้นวาชูนิ้วโป้งกลับไปให้โซเฟีย

                     “ ไม่ต้องห่วงครับท่านหัวหน้า  ต่อจากนี้จะสู้สุดฝีมือเลยละ ”

                        เซ้นส์ที่ตอนแรกคลานเข้าหาวาอย่างช้าๆเห็นวาลุกขึ้นยืนได้อีกก็เตรียมที่จะพุ่งโจมตีเข้าใส่วาอีกครั้ง              

                     วาเมื่อเห็นเช่นนั้นก็รีบตั้งสมาธิโดยมือข้างหนึ่งกำสำรับไพ่ไว้แน่น   มืออีกข้างหนึ่งใช้นิ้วทั้งสองคีบไพ่ใบหนึ่งชูขึ้นฟ้า    นี่นับว่าเป็นท่าเตรียมรับมือของศัตรูสไตล์วาโดยเฉพาะเลยทีเดียว  

                        วาเองรู้ดีว่านี่คือ โอกาสสุดท้ายสำหรับเขาแล้ว   ใช่แล้วละ   เรายังมีเจ้านั่นอยู่นี่น่า  คิดได้เช่นนั้นวาก็แย้มยิ้มอย่างมั่นใจแล้ว  

                      วาคิดจะเอาอะไรมาต่อสู้กับสัญชาตญาณสัตว์ป่าของเซ้นส์กันแน่   และกลที่วาจะใช้ต่อไปนี้นั้นจะสามารถเอาชัยเซ้นส์ได้หรือไม่    อีกไม่กี่อึดใจเท่านั้น   คำตอบรอเขาอยู่ในนาทีแห่งความเป็นความตายต่อไปนี้แล้ว  !!!!



                            

                                     _______________________________________________

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×