คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : บทเรียนที่ 27 คำท้าของก็อบ
บทเรียนที่ 27 คำท้าทายของก็อบ
ขณะนี้เป็นเวลาเช้าแล้ว หยดน้ำหยดเล็กๆที่เกาะติดอยู่บนใบไม้ค่อยๆ ร่วงหล่นลงมาพื้นดินโดยทั่วไปเปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนที่ตกลงเมื่อวานอย่างหนักจึงไม่เป็นที่น่าแปลกที่อากาศยามเช้าของวันนี้จะหนาวเย็นเป็นพิเศษ
โซเฟียค่อยๆลุกขึ้นช้าๆ เธอมองไปยังนาฬิการูปตัวการ์ตูนที่แขวนติดอยู่บนฝาผนังก็พบว่าขณะนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงครึ่งแล้ว
‘ ฮัดชิ่ว !!! ’
โซเฟียสูดหายใจเข้าลึกๆ เธอไม่แน่ใจว่าตัวเองเป็นหวัดไปหรือเปล่าเมื่อวานหลังจากที่รอวาอยู่หน้าโรงเรียนได้สักพักเธอก็กลับเข้ามายังห้องของเธอและเธอก็ได้พบว่าการแข่งประลองระหว่างสถาบันใกล้เข้ามาถึงทุกทีแล้วซึ่งดูจากปฎิทินแล้วเหลือเวลาอีกแค่ สิบเอ็ดวัน ซึ่งก็เท่ากับอาทิตย์กว่าๆเท่านั้นเอง
เวลาที่เหลือก่อนที่จะถึงเวลาแข่งนั้นถ้าตัดออกจากการคัดเลือกทีมประลองอาวุธของโรงเรียนแล้วก็เหลือแค่ราวๆห้าวันเท่านั้นซึ่งอีกสองวันก็จะเป็นวันแข่งขันคัดเลือกทีมของโรงเรียนที่จะไปแข่งประลองอาวุธระหว่างสถาบันแล้วแต่ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด เธอถึงรู้สึกว่าตัวเองยังไม่ค่อยพร้อมที่จะแข่ง ทั้งๆที่ปกติเธอเป็นคนที่มีความมั่นใจสูงมากหรือเพราะว่าเหตุการณ์เมื่อวานนี้กันแน่
โซเฟียส่ายหัวเล็กน้อย
‘ นี่เรากำลังคิดอะไรของเราอยู่นะ หมอนั่นก็แค่ไปไหนของเขาก็เท่านั้นเอง ไม่เห็นว่าจะต้องไปคิดอะไรมากเลย เรานี่มันไม่ไหวเลย ’
ว่าแล้วเธอก็ตัดสินใจลุกไปอาบน้ำพร้อมเตรียมตัวที่จะไปเรียน
โซเฟียเปิดประตูห้องเรียนออกช้าๆ เพื่อนร่วมห้องเริ่มมานั่งเตรียมตัวที่จะเรียนกันแล้วซึ่งเมื่อเธอมองไปยังโต๊ะของเธอก็ต้องพบว่า วามานั่งอยู่ก่อนแล้วแต่หากดูจากสีหน้าจากตรงนี้แล้ว สีหน้าของวาไม่สู้ดีนัก
“ นี่ เมื่อวานเธอแอบหนีไปไหนมา ห๊า ”
โซเฟียทำหน้าบึ้ง
“ อ่า เออ จริงด้วย ” วายิ้มเฉือนๆ รีบพยายามเปลี่ยนสีหน้า “ พอดีไปทำธุระนิดหน่อยน่ะ ”
“ น่าเกลียดจริงๆ ถึงอย่างนั้นก็น่าจะโทรบอกกันหน่อยนี่หน่า ”
คราวนี้สีหน้าของวากลับมาเป็นเครียดเล็กน้อย
“ อ่า ต้องขอโทษจริงๆ นะ เมื่อวาน
.. ” ทำท่าครุ่นคิดสักพัก“ เราลืมน่ะ ฮ่าๆ ”
ไม่ทราบว่าโซเฟียไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าของวา หรือว่าแกล้งทำเป็นไม่เห็นกันแน่
“ หึ สักวันเราจะลืมเธอมั่ง แล้วจะรู้สึก ”
จากนั้นก็เลื่อนเก้าอี้พร้อมกับนั่งลงหันไปมองค้อนใส่วาครั้งหนึ่ง
“ เออ แล้วนี่รู้หรือยังว่า มะรืนนี้เราจะต้องแข่งประลองอาวุธรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายเพื่อเป็นตัวแทนโรงเรียนแล้วน่ะ ”
“ อืม จริงสิ จำได้ๆ เฮ้อ แต่รู้สึกว่าไม่ค่อยมีกะใจจะสู้เลยแฮะ ”
โซเฟียหันไปมองวา คล้ายๆพยายามจะสังเกตว่าวาเป็นอะไรไป
“ เป็นอะไรรึเปล่าปกติไม่เคยเห็นนายเป็นแบบนี้เลยนะ ”
วายิ้ม “ ก็ไม่เป็นอะไรหรอก เดี๋ยวก็อยากสู้เองแหละ ฮ่าๆๆ ”
“ หรือว่าเพราะเรื่องเมื่อวานกันแน่ ”
“ เปล่านะ เรื่องเมื่อวานไม่เห็นจะมีอะไรเลย ”
“ แน่ใจหรอ ” โซเฟียจ้องวา
“ แน่ใจสิ ”
และหลังจากนั้นไม่ว่าโซเฟียจะถามว่าวาไปไหนมาเมื่อวาน วาก็ไม่เอ่ยปากพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย และก็พยายามที่จะตัดบทซึ่งโซเฟียคิดว่ามันจะต้องมีอะไรซ่อนอยู่แน่ๆและก็ไม่น่าจะใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่ เพราะดูจากสีหน้าของวาเวลาถามถึงแล้ว สีหน้าไม่สู้ดีนัก
และจากการสันนิษฐานของเธอแล้ว เธอคิดว่าต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงที่ขึ้นมาบนเวทีคนสุดท้ายแน่นอนแต่ในเมื่อวาไม่อยากจะเอ่ยถึง เธอก็ไม่อยากจะถามอะไรมากนักเพียงแต่พยายามกระตุ้นให้วาฮึดสู้ขึ้นเท่านั้น
เมื่อถึงเวลาหลังเลิกเรียนคาบวิชาชมรมแล้ว วา โซเฟีย ดีว่า และไซโคร แนช ก็ได้มีการนัดพบกันเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการประลองที่จะมาถึงในอีกสองวันต่อจากนี้ซึ่งไซโคร แนชก็ไม่ได้พูดอะไรมาก แค่นัดเวลากับสถานที่ที่จะพบกันก่อนที่จะขึ้นแข่งเท่านั้น โดยบอกว่าหากจะฝึกซ้อมก็ขอให้ฝึกวันนี้เป็นวันสุดท้าย และเก็บแรงไว้จนกว่าที่จะถึงวันแข่ง
และขณะที่กำลังจะแยกย้ายกันนั้น โซเฟียเห็นท่าทางวายังดูไม่ค่อยสบายนักจึงถามว่า
“ วันนี้จะซ้อมประลองอาวุธกันเล่นๆ ดูไหม ”
“ ซ้อม ?”
โซเฟียผงกศีรษะ
“ ซ้อมยังไงหรอ ”
“ แหะๆ ก็ลองสู้กันจริงๆ ดูยังไงละ ”
วาทำหน้างง
“ เหอๆ สู้กันจริงๆ เดี๋ยวก็ได้ตายกันพอดีหรอก เธอนี่ท่าทางจะบ้าแฮะ ”
โซเฟียเมื่อเห็นวาดูร่าเริงขึ้นก็ยิ้ม แต่ก็อดค้อนวาไม่ได้ที่หาว่าตัวเองบ้า
“ นี่ คุณเด๋อมาว่าเราบ้าได้ไง หา ”
“ หรือ ไม่จริงละ ใครเขาจะมาสู้กันจริงๆละ ”
“ แล้วใครบอกละว่าจะให้สู้กันจริงๆ เราถามว่าจะซ้อมประลองอาวุธกันดูไหม ”
“ ก็นั่นแหละ ”
“ เชอะ เราหมายถึงลองใส่ชุดป้องกันแล้วสู้กันดูไหม ”
“ อ่าวหรอ ” วาหัวเราะ “ แต่เราจะไปหาชุดกับที่ประลองได้ยังไงละ ”
โซเฟียทำหน้าเจ้าเล่ห์
“ นี่ ลืมไปแล้วหรอว่าเราอยู่ชมรมอะไร แล้วเรามีตำแหน่งอะไร ”
“ อืม ลืมไปแล้ว ”
วาหัวเราะวันนี้เขารู้สึกไม่ค่อยสบายใจ แต่พอได้คุยกับโซเฟีย เขาเองก็ไม่ทราบเพราะเหตุใดถึได้งรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาเป็นพิเศษ และยิ่งได้เห็นสีหน้าของเธอเวลาโดนเขากวน กลับยิ่งรู้สึกอารมณ์ดีมากขึ้นอีก
“ หึ งั้นก็เชิญตามสบาย ”
โซเฟียค้อนกอดอกทำท่าจะเดินจากไป
“ อ่าๆ อะล้อเล่นๆ คุณหัวหน้า คุณมือกีต้าร์ คุณกรรมการนักรียน คุณ
อ่า อะไรอีกละ ฮ่าๆ ”
โซเฟียเมื่อได้ยินก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
“ แหะๆ พอแล้วๆ คุณเด๋อนี่ไม่ไหวจริงๆ สรุปตกลงว่าจะซ้อมกันดูไหม ”
“ สงสัยถ้าสู้กันเราจะโดนซ้อมมากกว่าได้ซ้อมน่ะสิ ”วายิ้มเจือนๆ
“ ไม่หรอกน่า นายเองก็เก่งใช่เล่นนะ ” โซเฟียมองวาทำหน้าดุ “ แล้วตกลงว่าไง จะถามเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ ”
“ แหม อย่ามาทำตัวโหดสิ กลัวนะเนี่ย ซ้อมก็ซ้อมครับ คุณหญิงโซเฟีย ”
“ งั้นไปกันเถอะ ”
ว่าแล้วโซเฟียก็เหมือนนึกขึ้นได้ หันกลับไปหาดีว่ากับไซโคร แนช
“ ว่าแต่สองคนนี้จะไปซ้อมด้วยกันไหม ”
ดีว่าหันไปมองหน้าไซโคร แนช แต่ไซโคร แนชทำหน้านิ่ง คล้ายกับกำลังครุ่นคิดอยู่ สักพักก็ได้ยินเสียงตอบของไซโรแนชเพียงสามคำเท่านั้น
“ ไม่ดีว่า ”
เมื่อไซโคร แนชบอกว่าไม่ก็คือไม่
โซเฟียเอียงคอให้ดีว่าเป็นเชิงถาม
“ ไม่ดีกว่าครับ ผมไม่มีคู่ที่จะซ้อมด้วย ”
“ ก็มาซ้อมด้วยกันก็ได้นิ ผลัดๆกัน ”
“ ไม่ดีกว่าครับ การซ้อมกันมันก็เหมือนการสู้จริงๆแหละครับ จะซ้อมหลายคนก็คงไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นเหนื่อยแย่เลยครับ ”
ดีว่ายิ้มอย่างสุภาพ โซเฟียเองก็เข้าใจดังนั้นจึงไม่คิดจะชักชวนอีก
ก่อนที่ดีว่าจะไปก็หันกลับมากล่าวกับว่าและโซเฟียว่า
“ ซ้อมให้เหมือนแข่งจริง และแข่งจริงให้เหมือนซ้อมนะครับ ”
หลักการนี้นับว่ามีเหตุผลในตัวของมันหากเราซ้อมได้เหมือนการแข่งจริงก็จะฝึกซ้อมได้อย่างจริงจัง และหากเราแข่งจริงได้เหมือนซ้อมก็จะไม่รู้สึกกดดัน แต่น้อยคนนักที่จะทำได้อย่างที่ว่านี้
หลังจากนั้นวา และโซเฟียก็ไปฝึกซ้อมกันเป็นครั้งสุดท้ายที่ห้องชมรมอัศวินก่อนที่จะถึงวันแข่งอีกสองวัน
ยามเช้ามักเหมือนกันทุกเช้า พระอาทิตย์ก็ขึ้นเป็นปกติของมันทุกวันแต่เช้านี้กลับดูพิเศษกว่าทุกเช้า คึกคักเป็นพิเศษกว่า นั่นเป็นเพราะว่าวันนี้เป็นวันคัดเลือกตัวแทนทีมจะไปแข่งประลองอาวุธระหว่างสถาบันเป็นวันสุดท้ายนั่นเอง ซึ่งทีมที่จะได้ไปแข่งระหว่างสถาบันนั้นมีได้เพียงแค่ทีมเดียวเท่านั้น
เช้านี้เมื่อนีโอตื่นขึ้นมาก็พบว่าวาตื่นมาก่อนแล้ว แถมยังอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยเสียแล้ว
“ อรุณสวัสดิ์นีโอ ”
นีโอยิ้มให้กับวา พร้อมกับเอนตัวไปหยิบแว่นที่หัวเตียงมาสวมใส่ท่าทางงัวเงียอยู่นิดหน่อย
“ อรุณสวัสดิ์ นี่กี่โมงแล้ว ”
“ นายไม่ต้องรีบหรอก นี่เพิ่งจะตีห้าครึ่งเอง ”
“ ตื่นเช้าจังนะนายเนี่ย แล้วนี่จะไปไหนหรอ ”
“ อ๋อ ไปเตรียมตัวกันนิดหน่อยน่ะ ”
“ งั้นหรอ ” นีโอยิ้ม จากนั้นลุกขึ้นจากเตียงของเขา และเดินไปหาวา
“ ถ้าอย่างนั้นก็ขอให้โชคดีในการประลองวันนี้นะแล้วเราจะคอยดู สู้ให้เต็มที่ละ ”
“ อืม ได้เลย ”
วายกกำปั้นให้กับนีโอ ส่วนนีโอก็เช่นกัน
“ ถ้าอย่างนั้นเราไปก่อนนะ ”
“ อืม โชคดีๆ แล้วจะคอยดู ”
วันนี้เป็นวันศุกร์ แต่วันศุกร์วันนี้ออกจะพิเศษกว่าทุกวันก็คือ วันนี้ไม่มีการเรียนการสอนนั่นเองเนื่องจากเป็นการประลองอาวุธรอบสุดท้ายดังนั้นทางโรงเรียนจึงหยุดให้เป็นพิเศษ และแน่นอนนักเรียนส่วนใหญ่ต่างเตรียมพากันไปชมการประลองบ้างก็เพราะทีมเพื่อนตัวเองแข่ง บ้างก็เพราะไม่มีอะไรทำ
แต่ที่แน่ๆก็คือ วันนี้คนในห้องชมรมอัศวินจะต้องเยอะเป็นพิเศษแน่นอน อาจถึงขนาดทำให้ห้องชมรมที่กว้างพอๆกะโดมดูเล็กไปเลยทีเดียว
การแข่งขันประลองคู่แรกจะเริ่มเมื่อเวลาแปดนาฬิกา ดังนั้นพวกวาจึงนัดพบกันก่อนตอนหกโมงเช้าเพื่อเตรียมตัว แม้ทีมของเขาจะไม่ใช่ทีมแรกที่ต้องแข่งก็ตาม
จากการคุยกับไซโคร แนชทำให้วาได้รู้ว่า เขาจะต้องสู้ชนะทีมอีกสามทีมถึงจะเข้ารอบได้วันนี้วารู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย เขาเองก็ไม่ทราบว่าตัวเองจะสามารถช่วยอะไรทีมได้หรือเปล่า ทีมของเขาจะเข้ารอบหรือไม่แต่สิ่งหนึ่งที่เขารู้นั่นก็คือ เขาจะสู้ให้เต็มที่
หลังจากพูดคุย และเตรียมตัวกันได้สักพักแดดอ่อนๆก็เริ่มปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าแล้ว และบรรยากาศรอบๆ อาคารชมรมก็เริ่มคึกคักขึ้นมาทันที
ขณะนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงครึ่ง ซึ่งได้เวลาที่แต่ละทีมจะต้องไปลงทะเบียนก่อนที่จะแข่งวา โซเฟีย ดีว่า และไซโคร แนชจึงพากันไปที่บริเวณลงทะเบียน
ซึ่งขณะที่กำลังลงทะเบียนอยู่นั้น วารู้สึกได้ถึงสายตาไม่ค่อยเป็นมิตรนักของทีมที่เขาจะต้องสู้ด้วย แต่นั่นยังไม่ทำให้เขากดดันเท่ากับได้เห็นสายตาของพวกแก๊งเอ็ดดี้ที่มองมายังเขา โดยเฉพาะสายตาที่เย็นชาของก็อบ และวาก็พยายามที่จะทำเป็นไม่เห็นซะ
หลังจากที่ลงทะเบียนทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว ยังเหลือเวลาอีกประมาณสิบห้านาทีก่อนที่ทีมของเขาจะต้องแข่ง วา และโซเฟียจึงขอตัวไปเดินคุยกับเพื่อนๆ ของเขาก่อนเพื่อเป็นการคลายความกดดัน
และบริเวณทางขวาของประตูใหญ่ห้องชมรมอัศวินวาก็ได้พบกับซักก้า พิชากิ มิว เบต้า เสือใบ้นิค หรือแม้กระทั่งพรีสไซ กับโซลีนก็มาคอยให้กำลังเขาด้วย
“ โชคดีนะเพื่อน ” ซักก้าชูนิ้วโป้งให้
“ อย่าเป็นเกลือให้ชั้นเห็นละ ” พรีสไซยิ้มเจ้าเล่ห์
“ ถ้าแพ้ละก็จะต้องฝึกซ้อมปิงปองเพิ่มขึ้นนะ ” โซลีนกล่าวอย่างจริงจัง
ส่วนพิชากิ เบต้า เสือใบ้นิคทำหน้าตาไร้ความรู้สึก แต่ก็ยังยิ้มให้
ขณะที่กำลังพูดคุยกับเพื่อนๆอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงร้องเรียกโซเฟียมากจากด้านหลัง และคนที่ร้องเรียกนั่นก็คือ วีวี่นั่นเอง
วีวี่หอบหายใจเล็กน้อย คล้ายกับเพิ่งตื่นแล้วรีบวิ่งมา
“ นี่ พวกเธอยังไม่แข่งกันใช่ไหม หรือว่าแข่งเสร็จกันไปแล้ว แล้วท่านดีว่าละ
.”
“ แหะๆ ใจเย็นๆก่อนก็ได้เรายังไม่แข่งหรอก เธอมาทีนเวลาพอดี ”
“ โอ้ เราเกือบคิดว่าจะมาไม่ทันซะแล้วสิ ว่าแต่ว่าท่านดีว่าละ ”
“ เขาไปเตรียมตัวอยู่ข้างสนามแล้วละ ” โซเฟียชี้ไปในห้องชมรมอัศวิน
“ แย่จัง อดอวยพรเลย เราทำไอ้นี่มาให้เขาด้วยสิ ”
วีวี่หยิบผ้าผืนหนึ่งออกมาจากเป้ของเธอ มิวมองด้วยสายตาหมั่นไส้ จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะกัดวีวี่
“ อะไรเนี่ย ผ้าเช็ดผืนหรอ จะเอาไปให้หมอนั่นทำไม ”
“ ปากเสียจริงๆ นี่มันผ้าพันมือ หรือจะเอาไว้คาดหัวก็ได้ปักลายไว้ว่า ดีว่าสู้ๆ ไม่เห็นเรอะ !!! ”
กล่าวพร้อมกางผ้าสี่เหลี่มผืนผ้าสีขาวเขียนคำว่า “ D I V Asusu !!! ” ไว้ด้วยตัวอักษรสีแดง
“” แหะๆ งั้นเราฝากเอาไปให้เขาก็ได้นะ
“ อ่า จริงหรอโซเฟีย ขอบใจมากนะ ”
มิวทำท่าไม่พอใจ
“ อย่างเธอคงไม่กล้าเอาไปให้เขาหรอกนะ ต่อให้เขาอยู่ตรงหน้าเนี่ย ”
“ ใครว่าละ ถ้าเขาอยู่เราจะเอาไปให้กับมือเลยละ และก็จะบอกด้วยว่า โชคดีนะ เราจะเป็นกำลังใจให้ ”
“ งั้นหรอ ถ้าอย่างนั้นทำให้ดูหน่อยสิ ”
กล่าวพร้อมกับชี้นิ้วไปด้านหลังของวีวี่ เมื่อวีวี่หันหน้าไปก็ตกใจสุดขีด ถึงกับแทบเป็นลมล้มไปเลย นั่นเพราะดีว่ามายืนอยู่ที่ด้านหลังของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
เห็นดีว่ายิ้มอย่างสุภาพพร้อมกับกล่าว
“ อ่า ขอโทษทีนะครับ ทำให้ตกใจรึเปล่า พอดีจะมาบอกกับคุณวา แล้วก็คุณโซเฟียว่าไปเตรียมตัวได้แล้วละครับ ”
วีวี่หน้าแดงขึ้นมาทันที คำพูดที่พูดกับมิวเมื่อกี้ดีว่าคงต้องได้ยินหมดแล้วแน่ๆเลยซึ่งที่จริงดีว่าเพิ่งเดินมาถึงไม่ทันได้ยินที่วีวี่พูดกับมิวเลยแม้แต่น้อย
ตอนนี้หากเธอหายตัวไปได้ เธอแทบจะอยากหายตัวไปในทันทีแต่เมื่อเธอหันไปเห็นมิวหัวเราะชอบใจก็ไม่ทราบว่าเธอใจสู้ขึ้นมาได้อย่างไร
‘ หึ มิวเราไม่ยอมให้นายหัวเราะเยาะเราหรอก เอาละ ถึงตายก็ยอมละงานนี้ !!!’
“ เออ
.ดะ ดีว่า ”
ดีว่าหันมายิ้มให้กับวีวี่
“ ว่ายังไงครับ คุณวีวี่ ”
‘ หาา เขาจำชื่อเราได้ด้วย !!!!’ วีวี่ดีใจจนแทบจะคุมตัวเองไม่อยู่ แต่ก็คุมสติตัวเองเอาไว้จากนั้นรีบกล่าวออกไปว่า
“ นี่เราทำมาให้น่ะ พะ พอดี ผ้ามัน หะ เหลือแบบว่า แบบว่าเออ คือ เราว่างนะ ” พร้อมกับยื่นผ้าพัมมือ หรือผ้าคาดหัวไปให้กับดีว่า อย่างกล้าๆ กลัวๆ
อึดใจนั้นคล้ายโลกจะแตกสลายไปให้ได้ ดีว่าหยิบผ้าของวีวี่มาพร้อมกับมองดู
“ สวยมากเลยครับ ผมจะเก็บไว้อย่างดีเลย ขอบคุณมากเลยนะครับ คุณวีวี่ ”
“ มะ ไม่เป็นไรค่ะ ”
วีวี่คล้ายจะล้มลงตรงนั้นให้ได้ส่วนมิวทำหน้าอึ้งไม่คิดว่าวีวี่จะกล้าได้ถึงขนาดนี้
“ ขอโทษทีนะครับ ผมขอตัวไปเตรียมตัวแข่งก่อนนะครับ ”
“ โชคดีนะค่ะ ”
“ ครับ ”
ดีว่ายิ้มให้วีวี่จากนั้นเดินไปโดยไม่ได้หันกลับมาซึ่งหากดีว่าหันหลับมาจะต้องพบว่าคนที่ดีใจจนจะเป็นลมเป็นยังไง
“ แหะๆ ทำใจดีๆไว้ ”
โซเฟียหัวเราะที่วีวี่ดีใจจนออกนอกหน้าส่วนวาหัวเราะเพราะขำท่าทางของวีวี่ผิดกับมิวที่หน้าบึ้ง เพราะเขาไม่คิดว่าวีวี่จะกล้าทำได้จริงๆ
“ โอ๊ย เกือบตายแน่ะ ไม่อยากจะเชื่อเลย ”
“ แหะๆ ใจเย็นๆ เธอทำดีแล้วยินดีด้วย ไว้เราแข่งเสร็จค่อยมาคุยกันนะ ”
“ จ๊ะ สู้ๆนะ โซเฟียวาด้วยละ ”
หากบอกว่าคนถูกรางวัลร้อยล้านมีสีหน้าดีใจขนาดไหนก็สู้วีวี่ในตอนนี้ไม่ได้ วาจะไม่เถียงเลยสักคำ
จากนั้นโซเฟียและก็วาก็เดินกลับมาพบไซโคร แนช ส่วนเพื่อนๆของเขาก็พากันไปนั่งยังที่ที่พวกตัวเองจองไว้
“ วันนี้เราต้องแข่งกับทีมสามทีมถึงจะชนะได้รู้กันแล้วหรือยัง ”
ไซโคร แนชกล่าวขึ้นมาซึ่งทุกคนต่างก็ผงกหน้าเป็นเชิงรับทราบจากนั้นกล่าวต่อ
“ เพราะฉะนั้นคงจะรู้แล้วสินะว่าปัญหาของเราคืออะไร ”
“ ปัญหาก็คือ เวลาในการพักพ่อน และความเหนื่อยจากการต่อสู้กับทีมถึงสามทีมใช่ไหมครับ ”
วาตอบ ไซโคร แนชพยักหน้า
“ ซึ่งวิธีแก้ปัญหาก็คือ การจัดการคู่ต่อสู้ให้ได้เร็วที่สุด และพยายามออมแรงไว้ให้ได้มากที่สุด เพราะว่าคู่ต่อสู้ในรอบสุดท้ายของเราคงไม่ธรรมดาแน่นอน ”
ดีว่ากล่าวเสริม
“ ส่วนเรื่องการจัดคนที่จะลงไปแข่งข้าจะเป็นคนจัดการให้เอง ”
หลังจากที่ตกลงอะไรกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ยินเสียงของเด็กชายนักประกาศกล่าวขึ้น
“ เอาละครับ การแข่งขันคู่แรกก็จบลงไปกันแล้วนะครับ เพื่อไม่ให้เสียเวลา เรามาชมการแข่งขันคู่ต่อไปกันเลยครับ !!! ”
จากนั้นแอบอ่านรายชื่อทีมจากแผ่นกระดาษในมือของตนเอง
“ คู่ต่อไปเป็นการแข่งขันระหว่างทีมโทลว์ กับทีม โอ้ ทีมมิราเคิลครับ!!! ”
เสียงปรบมือดังขึ้น พร้อมกับเสียงเชียร์ ซึ่งก็เหมือนเดิมวาเป็นคนถูกส่งไปเลือกหัวเหรียญ และคราวนี้ทีมที่ต้องจัดผู้เล่นก่อนก็เป็นฝั่งตรงข้ามอีกเช่นกันไม่ทราบว่าเป็นเพราะวาใช้มายากล หรือดวงดีในการเสี่ยงทายกันแน่
เมื่อเห็นการจัดทีมไซโคร แนชก็จัดคู่ให้เสร็จสับโดยเร็ว และคนที่จะต้องเป็นคนสู้คนแรกก็คือ วา นั่นเองส่วนคนต่อไปก็คือ โซเฟีย และคนสุดท้ายหากมีการผิดพลาดก็คือ ดีว่า
ขณะที่วากำลังจะก้าวขึ้นไปบนเวทีก็ได้ยินเสียงโซเฟียกล่าวขึ้นว่า
“ ชนะสองครั้งรวดกันไปเลยนะ จะได้ไม่ต้องเปลืองแรงดีว่าเขา ”
“ อืม ”
วาชูนิ้วโป้งให้จากนั้นสวมเครื่องป้องกันแล้วเดินขึ้นเวทีไป
เด็กชายนักประกาศเมื่อเห็นหน้าวาก็ยิ้มออกมาทันที คล้ายกับจำวาได้ขึ้นใจแต่ขณะที่เด็กชายนักประกาศจะกล่าวอะไรกับวา คู่ต่อสู้ทีมตรงข้ามก็ก้าวขึ้นมาบนเวทีแล้ว
ที่เบื้องหน้าของวา ปรากฎเด็กหนุ่มร่างยักษ์ตัวของเด็กหนุมคนนี้แทบจะใหญ่กว่าพิชากิเสียอีก อาวุธที่เด็กหนุ่มคนนั้นถือมาก็เป็นกระบองหนามยักษ์ ดูๆไปแล้วคล้ายๆกับพวกยักษ์ในนิยายแฟนตาซีทั่วๆไปยังไงอย่างนั้น
“ เอาละครับ ในเมื่อพร้อมกันแล้วก็เริ่มการแข่งขันคู่แรกได้เลย ณ บัดนี้!!! ”
หลังจากประกาศจบทั้งคู่ยืนนิ่งคล้ายถูกกดปุ่มหยุดไว้ วาพยายามมองหน้าวิธีที่จะจัดการกับเจ้าเด็กหนุ่มร่างยักษ์คนนี้อยู่ซึ่งดูจากอาวุธที่แล้วน่าจะมีน้ำหนักมาก ความคล่องตัวก็น่าจะต่ำแต่หากถูกอาวุธนั่นโจมตีใส่สักสองสามครั้งมีหวังจบแน่นอน
ขณะที่วากำลังครุ่นคิดอยู่นั่นก็ได้เสียงเด็กหนุ่มร่างยักษ์กล่าวขึ้น
“ เฮ้ เจ้าตัวเล็ก ไม่กล้าจะสู้รึไง แล้วไหนละอาวุธของนาย ”
“ อยู่นี่ยังไงละ !!! ” ไพ่ในมือของวาถูกซัดออกแทบจะในเวลาเดียวกันกับที่วาเอ่ยปาก เด็กชายร่างยักษ์ไม่ทันระวังก็ถูกไพ่ของวาซัดใส่ใบหน้าเต็มๆ
ไพ่ที่ซัดถูกใบหน้ากลับระเบิดออกเป็นควันสีขาวเล็กน้อย ทำให้เด็กชายร่างยักษ์มองไม่เห็นอะไรไปชั่วขณะ แต่ไม่นานนักควันก็หายไป
จากการโจมตีครั้งนี้ของวาทำให้ไลฟ์พอตย์ของเด็กชายร่างยักษ์ลดไป 50 หน่วย
ได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กชายร่างยักษ์
“ ฮ่าๆๆ ที่แท้ก็เป็นไพ่กระจอกๆเท่านั้นเอง ต่อไปตาเราบ้างละนะ ”
ว่าแล้วก็โถมเข้าหาวาพร้อมกับตวัดกระบองหนามยักษ์เข้าใส่วาแต่ไม่ทันที่กระบองนั้นจะฟาดถึงวาก็เห็นวาทำท่าเกาหัวแล้วกล่าวขึ้น
“ ไพ่กระจอกๆ งั้นหรอ ”
‘ เปรี้ยง !!! ’ เสียงไพ่ของวากระทบกับร่างของเด็กชายร่างยักษ์ จากนั้นได้ยินเสียงโครม
เด็กชายร่างยักษ์ล้มลงตรงหน้าวา
ที่แท้ตอนที่วาซัดไพ่ใบแรกออกจงใจใช้ไพ่ควันเพียงเล็กน้อย เพื่อให้เด็กชายร่างยักษ์มองไม่เห็นชั่วคราวจากนั้นซัดไพ่ต่อเนื่องออกอีกห้าใบไปยังด้านหลังของเด็กชายร่างยักษ์หลังจากเด็กชายร่างยักษ์คิดจะโจมตีใส่วาไพ่ทั้งห้าก็ซัดใส่เด็กชายร่างยักษ์ซึ่งไพ่ทั้งห้านั้นเป็นไพ่ระเบิด และแรงระเบิดครั้งนี้นับว่ารุนแรงมาก
เห็นไลฟ์พอต์ยของเด็กชายร่างยักษ์ลดลงไปถึง 1500 หน่วยเลยทีเดียวจนบัดนี้เด็กชายร่างยักษ์ยังไม่มีวี่แววว่าจะลุกขึ้นมา
“ โอ้ อะไรกันครับเนี่ย ไพ่ระเบิดของวาครั้งนี้นับว่ารุนแรงมากทีเดียว จนฝ่ายตรงข้ามถึงกับลุกไม่ขึ้นเลยหรือครับเนี่ย ”
วาเองไม่คิดว่าคู่ต่อสู้จะล้มเอาง่ายๆ แบบนี้ แต่ก็นับว่าเขาไม่ได้ประมาทคู่ต่อสู้
ตามกฎหากมีคนล้มลงแล้วยังไม่สามารถลุกขึ้นได้ หลังจากการนับถึงสิบจะถือว่าอีกฝ่ายหนึ่งชนะทันทีซึ่งตอนนี้เด็กชายนักประกาศก็เริ่มนับแล้ว
ได้ยินเด็กชายนักประกาศนับจนถึงแปดแล้ว เด็กชายร่างยักษ์ยังไม่มีวี่แววว่าจะลุกขึ้นดูท่าครั้งนี้วาจะชนะเอาได้ง่ายๆจริงๆ
ได้ยินเสียงนับเก้าแล้ว ครั้งนี้วาจะชนะได้ง่ายๆแบบนี้จริงๆงั้นหรือ ?
วาไม่อยากจะคิดว่าตัวเองจะชนะได้ง่ายๆ แบบนี้จริงๆเขากำลังจะได้ยินคำว่า สิบ อยู่แล้วแต่ทันใดนั้นเองคำว่า สิบ ยังไม่ได้จะเปล่งออกจากปาก จู่ๆเด็กชายร่างยักษ์ก็พุ่งตัวขึ้น
ต่อให้เป็นคนที่มีความระมัดระวังถึงเพียงไหน ก็ไม่น่าจะระวังการโจมตีของเด็กชายร่างยักษ์ครั้งนี้ได้ถึงต่อให้ระวังก็ไม่มีใครคาดคิดได้ว่า เด็กชายร่างยักษ์จะพุ่งตัวขึ้นได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ยิ่งเป็นเวลาที่กำลังจะนับครั้งสุดท้ายย่อมเป็นเวลาที่สมาธิจะขาดหายไปช่วงหนึ่ง
เด็กชายร่างยักษ์พุ่งตัวขึ้นจากนั้นฟาดกระบองหนามใส่วาอย่างจัง วาถึงกับกระเด็นถอยหลังล้มลงไปในทันทีไลฟ์พอต์ยของวาลดลงไป 2000 หน่วยเลยทีเดียวนับว่าเป็นพลังโจมตีที่รุนแรงมากๆทีเดียว
ความจริงวิธีการโจมตีแบบนี้ถือว่าเป็นไพ่ตายของเด็กชายร่างยักษ์เลยทีเดียว ซึ่งไซโคร แนชเองก็ทราบว่าเขามักจะใช้วีธีนี้ในการเอาชนะคู่ต่อสู้ แต่ก็ไม่ได้บอกอะไรวาไปเนื่องเพราะไซโคร แนชอยากดูว่า วาจะสามารถเอาชนะได้หรือไม่
แต่ดูจากท่าทางแล้ววาไม่น่าจะมีโอกาสชนะได้เลยแม้แต่น้อย
“ ฮ่าๆ ทำได้แสบมากนะ ไม่เลวเลยทีเดียว แต่ว่าไพ่กระจอกๆ มันก็คือไพ่กระจอกๆนั่นแหละนะ ”
เด็กชายร่างยักษ์เดินเข้าใกล้วา จากนั้นยกกระบองหนามจับไว้ด้วยสองมือเตรียมฟาดวาอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ต่อให้วาสามารถซัดไพ่ออกก็คงไม่ทันการณ์แล้ว
โซเฟียเองก็ไม่คิดว่าวาจะรอดจากการโจมตีครั้งนี้ได้สงสัยว่าการต่อสู้ครั้งต่อไปเธอจะต้องเอาจริงเพื่อชนะให้ได้จริงๆ
“ ลา ก่อน !!! ”
เด็กชายร่างยักษ์เตรียมฟาดกระบองลงใส่วา
ได้ยินเสียงวาพูดขึ้นเบาๆว่า
“ ไพ่กระจอกๆอีกแล้วหรอ ”
“ จะแพ้อยู่แล้ว ยังจะมาพล่ามอะไรอีก !!! ”
จากนั้นฟาดกระบองหนามใส่วาแต่วากลับยิ้มพร้อมกับกระดิ้กนิ้วเล็กน้อยวาทั้งไม่ได้หลบหลีกการโจมตีครั้งนี้ และไม่คิดที่จะหลบรอด
ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นกระบองหนามก็ถืออยู่ในมือของเด็กชายร่างยักษ์ก็ร่วงลงกับพื้น พร้อมกับร่างของเด็กชายร่างยักษ์ที่ล้มลงข้างๆวา แทบจะห่างกันเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น
เด็กชายร่างยักษ์แม้ล้มลงแล้วยังไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะล้มลงจริงๆ การล้มครั้งนี้ใช่สามารถลุกขึ้นอีกได้หรือไม่ ?
อาจสามารถลุกขึ้นได้อีก แต่ไลฟ์พอต์ยของเขาไม่เหลืออีกแล้ว
“ เพราะ เพราะ อะไรกัน ? ”
เด็กชายร่างยักษ์ถามอย่างไม่เชื่อขณะที่นอนคว่ำอยู่
“ ก็เพราะมีไพ่ใบหนึ่งติดอยู่ที่หลังนายตอนนายล้มลงไปแล้วยังไงละ ”
ขณะที่เด็กชายร่างยักษ์ล้มลง วาเองก็ซัดไพ่ใบหนึ่งใส่หลังจากเขาไว้แล้ว เพียงแต่ไม่มีใครเห็นได้ว่าวาแอบซัดไพ่ใส่ตอนไหนซึ่งวาเองก็ไม่คิดว่าเด็กชายร่างยักษ์จะลุกขึ้นได้อีก เพียงแต่ว่าเขาได้เตรียมการณ์เผื่อไว้ก่อนและการเตรียมการณ์ของเขาก็ไม่เสียเปล่าจริงๆ
ขณะที่วากำลังค่อยๆลุกขึ้นก็กล่าวเพียงสั้นๆอีกประโยคหนึ่งว่า
“ และก็เพราะพ่ของเราไม่กระจอกยังไงละ ! ”
เสียงปรบมือดังขึ้นทั่วห้องชมรม คราวนี้วาสามารถเอาชนะได้แบบใจหายใจคว่ำอีกแล้ว นักเรียนบางคนคล้ายติดใจสไตล์การต่อสู้แบบเฉียดฉิวของวาขึ้นมาบ้างแล้ว
การต่อสู้ครั้งนี้แม้หวาดเสียว แต่วายังคงจำครั้งที่ต่อสู้กับเซ้นส์ได้ คราครั้งนั้นยังหวาดเสียวกว่าครั้วนี้มากนัก
แม้แต่โซเฟียเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อว่าวาจะสามารถเอาชนะได้จริงๆ
“ โอ้ สมแล้วที่เป็นนักมายากลสามารถแสดงอะไรให้เราประหลาดใจได้เสมอๆเลยนะ ครับเนี่ย ”
วาเมื่อถอดเครื่องป้องกันออกก็พบว่าโซเฟียสวมชุดป้องกันเรียบร้อยแล้ว
“ เอาละ ต่อไปก็ตาเธอแล้วนะ ”
“ ไว้ใจได้เลย ”
ซึ่งหลังจากที่โซเฟียขึ้นไปแข่งไม่นานนักก็สามารถล้มคู่ต่อู้ได้อย่างไม่ยากนัก โซเฟียไม่จำเป็นต้องใช้ดาบเพลิงอัคคีเลยด้วยซ้ำ เพียงใช้ดาบทิ่มแทงธรรมดาก็เอาชนะได้แล้ว
ดังนั้นทีมของวาจึงเข้ารอบไปได้อีกรอบหนึ่ง
และนั่นก็หมายความว่า หากทีมของเขาสามารถชนะอีกสองทีมได้ก็จะได้เป็นตัวแทน ไปแข่งประลองอาวุธระหว่างสถาบันแล้ว
หลังจากแข่งเสร็จวาและทีมของเขาก็พากันมานั่งพักกันยังที่คนดู พวกเขายังมีเวลาเหลืออีกมากก่อนที่จะประลองอีกครั้งหนึ่ง
วาที่นั่งข้างโซเฟียก็พูดคุยกันเรื่องการประลองของคู่อที่ประลองอยู่ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ฝั่งไหนมีโอกาสอย่างไรบ้างจนทำให้วาลืมเรื่องที่เขากำลังเครียดไปเสียสนิท
ส่วนวีวี่นั้นตั้งแต่เห็นดีว่ามานั่งแถวๆเธอก็แทบจะไม่ได้ดูการประลองเลยก็ว่าได้ทางด้านไซโคร แนชก็นั่งอยู่เงียบๆไม่ได้พูดคุยกับใครจนดูแทไม่ต่างกับเสือใบ้นิค หรือพิชากิสักเท่าไหร่
ทั้งหมดนั่งดูการประลองไปเรื่อยๆจนกระทั่งถึงทีมๆหนึ่งทำให้วาถึงกับต้องเพิ่มความสนใจขึ้นมาในทันทีทีมๆนั้นก็คือ ทีมแก๊งเอ็ดดี้ นั่นเอง
ซึ่งหากทีมแก๊งเอ็ดดี้ยังสามรถชนะไปได้เรื่อยๆจนถึงรอบสุดท้ายแล้ว นั่นก็หมายความว่าทีมที่วาจะต้องสู้ด้วยก็คือ ทีมแก๊งเอ็ดดี้
และวาก็ไม่ค่อยอยากจะสู้กับเจ้าพวกนี้สักเท่าไหร่ โดยเฉพาะก็อบ
“ เอาละครับ ทีมเอ็ดดี้หากชนะการประลองรอบนี้ไปได้ก็จะเข้าไปสู่รอบชิงเพื่อจะ เป็นตัวแทนของสถาบันแล้วละครับ”
ภาพที่วาเห็นก็คือ โกจิเด็กชายจอมพลังค่อยๆก้าวขึ้นบนเวที โดยตู่ต่อสู้ของเขาเป็นเพียงแค่เด็กชายตัวผอมๆท่าทางไร้เรี่ยวแรงเท่านั้น
ดูยังไงๆคนที่ชนะก็จะต้องเป็นโกจิแน่นอน เพราะจากที่วาเคยเห็นเขาต่อสู้และจากที่เคยเจอะมากับตัวเองก็พอที่จะทราบถึงพลังอันมหาศาลของโกจิอยู่
เมื่อเด็กชายนักประกาศกล่าวเริ่มการประลองคู่แรก จู่ๆเด็กชายร่างผอมก็หายตัวไปจากที่ยืนอยู่ทันที
และในพริบตานั้นเองที่ด้านหลังของโกจิเด็กชายร่างผอมก็ใช้มีดสั้นบางๆอันเล็ก จนแทบจะมองไม่เห็นฟันใส่ท้ายทอยของโกจิทันที
ระดับความเร็วของการลงมือแทบจะมองไม่ทันจริงๆ
ไลฟ์พอต์ยของโกจิลดลงไปเกือบครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว เนื่องจากถูกโจมตีใส่จุดสำคัญทางด้านโกจิเองก็ใช่ว่าจะไม่เคลื่อนไหวโกจิหันหลังวูบไปจะคว้าจับแต่ร่างๆนั้นก็หายไปเสียแล้วพร้อมกันนั้นที่ด้านขวาก็ปรากฎมีดสั้ขึ้น
‘ ฉับ ’
แขนขวาของโกจิถูกมีดสั้นฟันใส่สองมีด จากนั้นร่างๆนั้นก็หายไปอีกแล้วจินเจซึ่งยืนมองอยู่ด้านข้างเวทีคล้ายมีเหงื่อหยดลงมาเขาคล้ายประเมินสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งหากดูจากสีหน้าแล้ว สถานการณ์คงไม่สู้ดีนัก
สักพักจินเจก็ค่อยๆเอ่ยปากขึ้น คล้ายพูดกับก็อบ และแซฟเบริน์
“ วิเคราะห์จากการต่อสู้แล้ว โอกาสที่โกจิจะชนะนั้นมีน้อยมาก เนื่องจากคู่ต่อสู้ใช้ความเร็วในการเอาชนะเป็นหลักมีดสั้นเล่มนั้นถูกออกแบบมาให้เบาบางเป็นพิเศษทำให้น้ำหนักเบาและสามารถใช้ออกได้อย่างรวดเร็ว ถ้าเปลี่ยนเป็นนายก็อาจจะยังพอสู้ได้นะก็อบ แต่เป็นโกจิที่ไม่มีความเร็วและปฎิกิริยาสักเท่าไหร่ เห็นท่าจะสู้ยาก ”
จากนั้นได้ยินก็อบเค้นเสียงหัวเราะ
“ ก็ช่วยไม่ได้นิเราดันเป็นฝ่ายต้องเลือกคนก่อนเอง ”
“ แต่ว่าก็อย่าดูถูกเจ้าหมอนั่นละ ”แซฟเบริน์กล่าวเสริม
เด็กชายร่างผอมยังคงเป็นฝ่ายชิงลงมืออย่างไม่หยุดยั้ง ไลฟ์พอต์ยของโกจิค่อยๆลดลงทีละนิดๆจนใกล้จะหมดแล้ว โกจิก็ยังไม่สามารถทำอะไรฝ่ายตรงข้ามได้เลยแม้แต่ น้อยซึ่งหากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆโกจิจะต้องเป็นฝ่ายผ่ายแพ้แน่นอน
วาเองหากเลือกที่จะสู้ได้ก็ขอเลือกที่จะสู้กับโกจิมากกว่าที่จะสู้กับเด็กชายร่างผอมคนนี้
และแล้วโกจิก็กำลังจะแพ้แล้วพลังชีวิตของเขาเหลือเพียงนิดเดียวเท่านั้น หากโดนโจมตีอีกเพียงครั้งสองครั้งก็ต้องแพ้แน่นอน
“ ฮ่าๆๆ แกแพ้แล้วละ ตัวใหญ่เสียเปล่าทำอะไรไม่เห็นจะได้เรื่องเลย คงเพราะไม่ค่อยมีสมองจะคิดสินะ !!! ”
ได้ยินเสียงกล่าวจากเด็กชายร่างผอม โกจิก็มีท่าทางเปลี่ยนไปในทันที
“ เหอๆ แกพลาดแล้วที่ไปว่าเจ้านั่นแบบนั้น ”
แซฟเบริน์ยิ้มแหย๋ๆ
สิ่งที่โกจิเกลียดมากที่สุดคือ การถูกว่าเป็นพวกไม่ฉลาด ดังนั้นตอนนี้โกจิจึงโมโหแล้ว !!!
โกจิเปลี่ยนจากการยืนคอยระวังเด็กชายร่างผอมเป็นวิ่งพล่านเพื่อที่จะไล่จับเด็กชายร่างผอม พร้อมกับตวัดหมัดจู่โจมออกมั่วไปหมด
เด็กชายร่างผอมตกใจเล็กน้อย แต่ก็ตั้งสติหลบหมัดของโกจิได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
“ เจ้ายักษ์บ้าพลังนี่ ดูท่าจะโมโหเอาเสียแล้ว แต่ก็ทำได้แค่นิ้สินะ แกนี่มันช่างกระจอกเสียจริงๆ ”
เด็กชายร่างผอมหลังจากอ้อมไปด้านหลังโกจิได้ก็ใช้มีดฟันออกใส่หลังโกจิทันที เขามั่นใจในความเร็วของตนเองมากตลอด แต่คราวนี้ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรอยู่ดีๆก็รู้สึกที่ต้นคออึดอัดขึ้นมา เมื่อมองดูก็พบว่าถูกมือของโกจิบีบไว้พร้อมกับยกขึ้น
เด็กชายร่างผอมแทบไม่เชื่อสายตาว่าตนเองจะถูกจับไว้ได้ ความจริงระดับความเร็วของโกจิไม่น่าจะจับเขาได้ทัน
ซึ่งก็ถูกต้องแล้วหากวัดระดับความเร็วโกจิไม่น่าจะจับได้ทันจริงๆ แต่ที่โกจิจับได้นั่นเป็นเพราะความโมโหทำให้โกจิตวดัมือ และวิ่งสะเปะสะปะบังเอิญเกิดหมุนตัวไปพบกับเด็กชายร่างผอมพอดี
แต่ตอนนี้หากเด้กชายร่างผอมจะหนีก็ทำไม่ได้เสียแล้วไลฟ์พอต์ยของเด็กชายร่างผอมค่อยๆลดลงทีละน้อยๆ
“ ปล่อย ปล่อยนะไอ้เจ้าบ้า ”
โกจิไม่กล่าวอะไร แต่พลุกพล่านค้ลายปีศาจยักษ์นำมือมาหนึ่งต่อยใส่ท้องของ
เด็กชายร่างผอมจากนั้นยกตัวเด็กชายร่างผอมขึ้นเหนือหัว
“ นี่ แกจะทำอะไร อย่า อย่านะ ”
ทันใดนั้นโลกคล้ายหยุดหมุนเด็กชายร่างผอมแม้ใส่ชุดป้องกันแต่แรกกระแทกขนาดนี้ทำให้เขาแทบสลบไปในทีเดียวโกจิถุมเด็กชายร่างผอมอัดใส่พื้นเวทีอย่างจัง พร้อมกันกันก็กระโดดต่อยอัดซ้ำไปอีกครั้งไลฟ์พอต์ยของเด็กชายร่างผอมก็หมดลงในทันที
วาเมื่อเห็นพลังการโจมตีอันหนักหน่วงของโกจิถึงกับอดสยองไม่ได้ หากเปลี่ยนเป็นเขาคงจะต้องเจ็บปวด จนแทบไม่อยากจะคิดเลยทีเดียว
“ โอ้ ไม่น่าเชื่อเลยนะครับ ว่าโกจิจะสามารถผลิกสถานการณืเป็นฝ่ายชนะได้ในที่สุด เอาละครับถ้าคู่ต่อไปทีมเอ็ดดี้สามารถเอาชนะได้ละก็ ก็จะสามารถเข้าไปถึงรอบชิงได้แล้วละครับ ”
ซึ่งคู่ต่อไปเป็นการแข่งระหว่างก็อบ กับเด็กชายผมยาวสะป้ายกีต้าร์อันหนึ่ง
หลังจากเด็กชายนักประกาศเรียกตัวผู้เข้าแข่งขัน ก็อบก็กระโดดหมุนตัวลงบนเวทีอย่างแผ่วเบา ส่วนเด็กชายผมยาวค่อยๆเดินเล่นกีต้าร์พร้อมกับเดินขึ้นมาเวที สไตล์เพลงที่เล่นเป็นพวกละติน ค้ลายๆกับพวกมาทาดอลเวทีต่อสู้กับวัวกระทิง
“ หึ ถ้าจะมาเล่นกีต้าร์ขอเงินละก็ไปเล่นที่อื่นจะดีกว่านะ ”
ก็อบกล่าวขึ้นมาอย่างไม่เกรงใจ
“ โฮะๆ คุณก็เหมือนกันถ้าจะเล่นเป็นนินจาแบบเด็กๆละก็เชิญที่สนามเด็กเล่นจะดีกว่านะครับ ”
เด็กชายผมยาวนับว่าตอบโต้ก็อบกลับไปแล้วเด็กชายนักประกาศเห็นทั้งสองคนนี้คล้ายจะพุ่งใส่กันอยู่แล้ว จึงได้ประกาศเริ่มการแข่งขันในทันที
เมื่อประกาศเริ่มการแข่งก็อบก็หายตัวไปในทันทีส่วนเด็กหนุ่มผมยาวยังคงยืนยิ้มเล่นกีต้าร์อยู่ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ หายตัวได้งั้นหรือ นับว่าไม่เลว แต่จะสู้กับฮิวโก้มือกีต้าร์สังหารยังนับว่าเร็วไป ”
พร้อมกันนั้นฮิวโก้ก็ดีดกีต้าร์คราหนึ่ง ไม่ทราบในตัวกีต้าร์ติดตั้งกลไกอันใดไว้ ปรากฎอาวุธลับพุ่งออกมาจากช่องต่างๆในตัวกีต้าร์
เข็มหลายเล่มพุ่งตรงไปยังพื้นว่างเปล่าเบื้องหน้าแต่ทันใดนั้นเองพื้นที่ว่างเปล่าก็ปรากฎก็อบกระโดดปราดถอยหลังออกไป
“ ก็บอกแล้วยังไงครับ ว่าถ้าจะมาเล่นเป็นนินจาหลอกเด็กเชิยไปเล่นที่สนามเด็กเล่นจะดีกว่า ”
“ แกก็เหมือนกันแหละนะ ”
จู่ๆที่เบื้องหลังของฮิวโก้ก็ปรากฎก็อบอีกคนหนึ่งเข้ามาล็อคแขนทั้งสองข้างไว้แต่ฮิวโก้ก็ยังคงเล่นดนตรีต่อไป
ก็อบไม่พูดพล่ามกระโดดปราดเข้าใส่ฮิวโก้ ในมือเพิ่มมือสั้นนินจาขึ้นสามเล่ม จากนั้นใส่ซัดฮิวโก้ด้วยความเร็วสูง
แต่มีดสั้นไม่ทันจะถึงตัวฮิวโก้ก็ตกลงสู่พื้น เนื่องจากถูกฮิวโก้ดีดกีต้าร์คราหนึ่งอาวุธลับในกีต้าร์พร้อมกับพลังของเสียงเพลงก็ทำให้มีดสั้นทั้งสามเล่ม ไม่สามารถกระทบถูกตัวของเขา
จากนั้นร่างของก็อบที่ล็อคแขนทั้งสองไว้ก็กลายเป็นควันหายไป
“ ไม่เลวเหมือนกันนิ ”
“ คุณเองก็เหมือนกัน ”
จากนั้นฮิวโก้คลายมือจากการเล่นกีต้าร์
“ แต่ว่าได้เวลาเลิกเล่นกันแล้วละ ”
“ ชั้นเองก็เหมือนกัน เพราะคู่ต่อสู้ที่ชั้นอยากจะเอาชนะจริงๆ คือ เจ้าหมอนั่นตะหาก !! ”
ฮิวโก้เริ่มเล่นกีต้าร์ของเขาอีกครั้ง แต่คราวนี้เปลี่ยนเป็นรวดเร็ว และบ้าคลั่งในทันใดทำนองเพลงที่เล่นก็ดุเดือดยิ่งนัก
พร้อมกันนั้นอาวุธลับก็ซัดออกจากกีต้าร์มากมายเต็มไปหมดทุกทิศทางใส่ก็อบ
“ โอ้ อะไรกันครับเนี่ย อาวุธลับมากมายขนาดนี้ก็อบจะสามารถหลบได้หรือเปล่าครับเนี่ย ”
‘ ฉึก ฉึก ฉึก ’
เข็มหลายสิบเล่มซุดใส่ร่างของก็อบ พร้อมกับอาวุธที่ตามติดมาด้านหลังอีกจำนวนนับไม่ถ้วน ฮิวโก้ยังคงเล่นเพลงของเขาต่อไป ทำนองยิ่งมายิ่งรอนแรง ดุดัน
“ จบกันสักทีสินะ ”
พร้อมกันนั้นอาวุธลับมากมายซัดใส่ร่างก็อบเพียงแต่ไลฟ์พอต์ยของก็อบไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย สร้างความประหลาดใจแก่ฮิวโก้เป็นอย่างยิ่ง
ขณะที่ฮิวโก้กำลังรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ผิดปกติ อะไรบางอย่างที่กดดัน พลังของจิตสังหารที่มากมายมหาศาลคล้ายกับเวลาที่นักสู้วัวกระทิงพลาดพลั้งในการล่อวัว
พริบตานั้นร่างของก็อบกลับกลายเปลี่ยนเป็นท่อนไม้ท่อนหนึ่งอาวุธลับทั้งหมด
กลับใส่ซัดท่อนไม้ธรรมดาๆท่อนหนึ่ง !!!
ทันใดนั้นเองรอบตัวของฮิวโก้ก็ปรากฎร่างของก็อบสี่ห้าร่างยึดจับตัวของเขาไว้ คราวนี้ฮิวโก้ไม่สามารถเล่นกีต้าร์ได้อีกแล้ว
“ เพลงที่นายเล่นมันก็เพราะดีหรอกนะ เพียงแต่ว่า
” เสียงของก็อบดังขึ้นน แต่จากที่ไหนกันแน่ขณะที่ฮิวโก้กำลังหาที่มาของเจ้าของเสียงนั่น ที่เหนือหัวของฮิวโก้ก็ปรากฎร่างของก็อบขึ้น พร้อมกับดาวกระจายอันใหญ่เท่ากับร่างของก็อบ
ฮิวโก้เหงื่อตกแล้ว เขาทราบว่าจะเกิดอะไรต่อไปเขาพยายามสลัดตัวให้หลุดจากการยึดกุมของก็อบ แต่ไม่ว่าจะพยายามเท่าไหร่ ร่างแยกของก็อบก็คล้ายกับโซ่ตรวนซึ่งไม่สามารถจะสลัดหลุดออกไปได้
“ เพียงแต่ว่าชั้นไม่ชอบเพลงสไตล์นี้ก็เท่านั้น และก็
..” จากนั้นก็อบมองไปยังวาที่นั่งอยู่ วาเองถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย
“ คนที่ชั้นอยากจะจัดการมากที่สุดก็คือเจ้าหมอนั่นส่วนแกก็จบกันแค่นี้ละนะ !!! ”
“ วงจักรสังหาร!!! ”
ดาวกระจายสี่แฉกอันยักษ์ถูกซัดออกในทันทีด้วยความใหญ่ของมันยากนักที่จะหาผู้ที่ซัดออกได้ ก็อบเองก็ใช้เวลาฝึกฝนมาเป็นเวลานานกว่าจะสามารถใช้มันออกได้ ซึ่งแรงบันดาลใจที่จะใช้มันก็คือ จัดการกับวานั่นเอง !!!
ดาวกระจายยักษ์เข้าใกล้ฮิวโก้ทุกทีๆ และ
‘ ปัง!!! ’
กีต้าร์ของฮิวโก้แตกกระจายออกเป็นชิ้นๆ อาวุธลับในตัวกีต้าร์ล่วงหล่นกระจัดกระจายเต็มพื้น พร้อมกันนั้นร่างของฮิวโก้ก็กระเด็นล้มลง ไลฟ์พอต์ยหมดลงในทันที
“ และผู้ชนะของเราก็คือ ทีมแก๊งเอ็ดดี้คร๊าบ!!! และทีมใดจะเป็นทีมที่จะได้ไปต่อสู้กับทีมแก๊งเอ็ดดี้ต่อไปในรอบชิงก็ต้องรอติดตามกันดูนะครับวันนี้ได้รู้กันแน่นอน ”
ก็อบหิ้วดาวกระจายของเขาจากนั้นค่อยๆเดินลงจากเวทีแต่ก่อนที่จะก้าวลงไปนั้นได้มองไปยังวา คล้ายจะสื่อความหมายว่า ‘ มาสู้กันให้ได้นะ ชั้นรอที่จะจัดการแกอยู่ ’ ซึ่งวาก็ยิ้มให้คล้ายกับรับคำท้าของก็อบเช่นกัน
_________________________________________
ความคิดเห็น