คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #42 : บทเรียนที่ 37 GODS STRENGHT พลังของพระเจ้า ?
บทเรียนที่ 37 GOD’S STRENGHT พลังของพระเจ้า ?
เสียงพลุพร้อมกับเสียงดนตรีจากขบวนพาเหรดดังไปทั่วสนามของโรงเรียนไอแซก พร้อมกับนักเรียนจากหลายสถาบันที่ยืนเรียงกันเป็นแถวเพื่อรอร่วมพิธีเปิดการประลองระหว่างสถาบัน ซึ่งกำลังจะเริ่มขึ้น
วาถูกจับแยกออกจากนักเรียนคนอื่นให้ไปเข้าแถวหน้าๆ เพราะเขาเป็นตัวแทนที่จะได้ไปแข่งขันปิงปอง และการประลองอาวุธระหว่างสถาบัน
วันนี้เขาใส่ชุดประจำโรงเรียนอับดุล อินเตอร์ ซึ่งในตอนแรกเขาก็ไม่คิดว่าโรงเรียนนี้จะมีชุดประจำโรงเรียนเหมือนโรงเรียนอื่น จึงทำให้วารู้สึกประหลาดใจพอๆกับภูมิใจที่ได้ใส่ชุดประจำโรงเรียนเลยทีเดียว
เครื่องแบบประจำโรงเรียนอับดุล อินเตอร์นั้นเป็นเครื่องแบบเรียบๆ โดยชุดของนักเรียนชายจะเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสามส่วน ที่อกด้านขวาติดไว้ด้วยเข็มโรงเรียน พร้อมกับเน๊คไทค์สีดำที่ปลายสุดมีตราสัญลักษณ์ประจำโรงเรียนอยู่ พร้อมเข็มขัดหนังสีดำที่หัวเข็มขัดก็มีตราประจำโรงเรียนอยู่อีกเช่นกัน กางเกงขายาวสีดำ และปิดท้ายด้วยรองเท้าหนังสีดำ
วาอยากจะเอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อให้มือของเขารู้สึกอุ่นขึ้นมาบ้าง แม้เขาจะสวมเสื้อหนาวสีดำของโรงเรียนไว้แล้วก็ตามแต่นั่นดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เพราะเขาไม่สามารถรูดซิบปิดหน้าอกได้ ทั้งนี้เพราะทางโรงเรียนถือว่าเป็นการไม่ให้การเคารพต่อสถาบันอื่น ทำให้วารู้ว่าแม้โรงเรียนอับดุลจะไม่ใส่เครื่องแบบในเวลาปกติ แต่ถึงเวลาสำคัญๆเมื่อใส่แล้วก็ต้องรักษาไว้ซึ่งกฎอย่างถึงที่สุด เรียกได้ว่า อาจจะเคร่งกว่าหลายๆโรงเรียนด้วยซ้ำ
หิมะตกมาเรื่อยๆตั้งแต่เมื่อวันก่อนแล้ว แต่โชคยังดีที่วันนี้ดูเหมือนจะหนาวน้อยกว่าเมื่อวันก่อน และหิมะยังคงตกอย่างเบาบาง
วาเหลือบหันไปมองพรีสไซที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พบว่านิ่งคล้ายกลายเป็นรูปปั้นไปแล้ว ทำให้อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ และดูเหมือนพรีสไซจะเห็นเข้า ชำเลืองตาหันไปค้อนวาผ่านกรอบแว่น แต่ก็ไม่ได้พูดต่อว่าอะไร คงเพราะรู้ว่าอยู่ช่วงพิธีกระมัง
แถวที่วาเข้าอยู่นั้นเป็นแถวของตัวแทนที่จะไปแข่งขันปิงปอง ซึ่งอยู่คนละที่กับพวกตัวแทนประลองอาวุธ ทำให้วาอดเห็นโซเฟียในชุดเครื่องแบบโรงเรียน เพราะวันนี้เขาต้องตื่นแต่เช้า ไหนจะต้องรีบจัดของให้เรียบร้อย ทั้งยังการแต่งเครื่องแบบครั้งแรกของเขา แม้ว่าเมื่อสองวันก่อนตอนที่เครื่องแบบถูกส่งมาที่ห้องของเขานั้น เขาจะได้ลองใส่ดูแล้วบ้างก็ตาม และยังต้องรีบไปขึ้นรถตู้ที่ทางชมรมปิงปองจัดให้เป็นพิเศษอีกต่างหาก โดยนักเรียนที่ไปทำการแข่งนั้นทางโรงเรียนจะจัดรถพิเศษให้ ส่วนนักเรียนที่ไม่ได้แข่งนั้นจะถูกจัดให้ไปขึ้นรถทัวร์
โซเฟีย ดีว่า ไซโคร แนชก็คงจะได้ขึ้นรถตู้เช่นเดียวกับวา แต่สถานที่นัดหมายคงจะเป็นคนละที่กัน และเมื่อลงจากรถทุกอย่างก็ดูวุ่นวายไปหมด แต่ก็ไม่น่าแปลกเพราะนี่เป็นการรวมตัวของโรงเรียนหลายสถาบันอย่างน้อยก็คงไม่ต่ำกว่าสิบสถาบัน เรื่องจำนวนคนนั้นไม่จำเป็นต้องพูดถึง
ขณะที่วากำลังเริ่มนึกถึงลมดำว่าอาจจะยืนอยู่ถัดจากเขาไปไม่มากนักก็ได้ยินเสียงจามของนักเรียนต่างโรงเรียนที่ยืนถัดไปทางซ้ายของเขา พอหันไปก็พบว่านักเรียนชายคนนั้นหันมามองเขาเช่นกัน ไม่ทราบเพราะอายหรืออารมณ์เสีย นักเรียนชายคนนั้นหันกลับไปพร้อมยืนเชิดหน้าขึ้นทันที
‘คนอะไรก็ไม่รู้เก๊กเป็นบ้า ’
นักเรียนชายคนนั้นใส่ด้วยแว่นสีฟ้ากรอบดำอันใหญ่ ตัวสูงกว่าวาเล็กน้อย เครื่องแบบโรงเรียนนี้วาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นโรงเรียนอะไร
เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวผูกด้วยไทค์แดงที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายมีตราสัญลักษณ์โรงเรียนรูปร่างคล้ายไฟ เข็มขัดสีน้ำตาลที่หัวเข็มขัดก็มีตราสัญลักษณ์ของโรงเรียนอีกเช่นกัน สวมกางเกงสีครีมออกน้ำตาล แต่ที่สะดุดตาที่สุดน่าจะเป็นรองเท้าผ้าใบสีแดง ความจริงวาไม่ค่อยรู้จักโรงเรียนอะไรมากนักหรอก ฉะนั้นเรื่องเครื่องแบบเลยไม่ต้องพูดถึงว่าจะรู้
‘ เฮอะ ช่างเถอะ ตอนแข่งเดี๋ยวก็คงรู้เองนั่นละ ’ คิดขึ้นมาเช่นนี้ร่างกายก็รู้สึกว่ามีไฟลุกโชนขึ้นมาทำให้ลืมความหนาวไปชั่วขณะ ก่อนที่สัญญาณแตรจะถูกเป่าขึ้น และครูใหญ่ประจำโรงเรียนไอแซก - ท่านด๊อกเตอร์ไอแซกที่สามจะค่อยๆก้าวขึ้นมาบนปรัมพิธีด้านหน้า
วามองเห็นหน้าด๊อกเตอร์ไอแซกที่สามไม่ค่อยชัดนัก อาจะเป็นเพราะเขาอยู่ตรงกับธงโรงเรียนที่แต่ละโรงเรียนจะถือโดยประธานนักเรียนแต่ละโรงเรียนที่หัวแถวหน้าสุดพอดี
แต่มองจากที่วายืนอยู่นั้นด๊อกเตอร์ไอแซกก็มีสีหน้าที่อ่อนโยน และดูใจดีอยู่ไม่น้อย ทำให้วาอดจะเอะใจขึ้นมาไม่ได้ว่า ตั้งแต่เขาเข้าเรียนมาเขาเองก็ยังไม่เคยเห็นหน้าครูใหญ่ประจำโรงเรียนอับดุล อินเตอร์เลย
‘ ขอกล่าวสวัสดีแก่คณาจารย์ และศิษย์รักจากสถาบันทั้งหลาย ขอยินดีต้อนรับสู่งานประลองสถาบัน ’
ด๊อกเตอร์ไอแซกเว้นวรรค พร้อมเสียงปรบมือต้อนรับ
‘ ในปีนี้เป็นเกรียติอย่างยิ่งที่ทางเราโรงเรียนไอแซกได้รับมอบเกรียติให้เป็นประธานจัดการแข่งประลองระหว่างสถาบันทั้งหลาย ’
วายืนฟังด๊อกเตอร์ไอแซกพูดด้วยความสนใจ คงเพราะใบหน้าที่ยิ้มแย้มประกอบกับการพูดที่อบอุ่นชวนฟัง ซึ่งแม้จะกล่าวอย่างช้าๆ และมีหิมะตกอยู่ก็ชวนให้คล้อยตามจนลืมความหนาวไปได้ แต่ขณะที่ยืนฟังอยู่นั้น วาก็ต้องหันไปทางซ้ายอย่างไม่ทันตั้งใจเพราะเสียงหาวอย่างดังจากเจ้านักเรียนแว่นฟ้าคนเดิม
คราวนี้เจ้าหมอนั่นหันมาสบหน้าวาคล้ายไม่พอใจเล็กน้อย แต่วาไม่คิดจะหาเรื่องยุ่งยากด้วยจึงแกล้งทำเป็นไม่รู้ ไม่เห็นหันกลับไปฟังด๊อกเตอร์ไอแซกต่อ
“ เฮ้ แกน่ะ ”
วายังคงยืนฟังด๊อกเตอร์ไอแซกต่อ คิดเสียว่าไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น จนกระทั่ง ..
“ ไม่ได้ยินเรอะไง ! ”
เจ้าแว่นฟ้าเดินมาสะกิดวา ทั้งๆที่ทุกคนยังคงยืนสงบนิ่ง วาหันกลับไปพร้อมกับทำหน้าสงสัย
“ หือ ว่าไง ”
เจ้าแว่นฟ้ายิ้มกวนๆ ก่อนจะถามคำถามขึ้น
“ แกแข่งปิงปองระหว่างสถาบันด้วยใช่ไหม ”
ความจริงวาก็อยากจะตอบตรงๆอยู่หรอก แต่เมื่อเห็นท่าทางกวนๆแบบนี้แล้วมันก็อดไม่ได้ที่จะกวนกลับ เดี๋ยวจะหาว่า ‘ โซเฟียไม่สั่งสอน ’
“ ไม่ใช่ .. ” วาหันกลับไปยิ้ม ก่อนที่จะพูดคำต่อไป “ มั้ง ! ”
ไม่ทราบว่าถูกใจ หรือเพราะฉุนกึกขึ้นมา เจ้าแว่นฟ้าหัวเราะออกมาก่อนที่หน้าจะเปลี่ยนสีจนเกือบจะคล้ายสีไทค์ของเขา
“ ดี ดีมาก ” เจ้าแว่นฟ้าคล้ายพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเอง ก่อนจะยิ้มกวนๆ “ หวังว่าแกคงจะไม่แพ้ก่อนจะเจอชั้นก็แล้วกัน ”
วาไม่กล่าวอะไร นอกจากหันหน้ากลับไปมองด๊อกเตอร์ไอแซกพร้อมกับสะเหยะยิ้มอย่างไม่สนใจ ทำให้เจ้าแว่นฟ้าเกิดอาการฉุนกึกขึ้นมาทันที
“ หนอย มันจะมากไปแล้วนะ ” เจ้าแว่นฟ้าทำท่าจะกระซากไทค์ของวา ซึ่งวาก็แค่หันมาทำหน้ากวนๆใส่เท่านั้น แต่ก่อนที่อะไรจะเกิดขึ้นนั้น .
‘ โป๊ก ’
กำปั้นหนึ่งทุบลงที่หัวของเจ้าแว่นฟ้า พร้อมกับคำกล่าวขอโทษจากสาวน่ารักในชุดไทค์แดง กระโปรงแดง
“ ขออภัยด้วยนะค่ะ ” เธอก้มหัวขอโทษวาก่อนที่จะรีบลากเจ้าแว่นฟ้ากลับเข้าแถวเหมือนเดิม ทำให้วาอดที่จะขำไม่ได้ทั้งๆที่อารมณ์ของเขาเพิ่งจะหงุดหงิดไป
เจ้าแว่นฟ้าดูท่าจะไม่กล้าขัดขืนหล่อนแต่อย่างใด ยืนนิ่งกับที่เหมือนเดิมเพียงแต่ส่งสายตามาให้วา ซึ่งวาก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไป และเหตุการณ์เมื่อครู่ก็ทำให้วาพบว่าเขาพลาดประโยคเด็ดๆของด๊อกเตอร์ไอแซกไปเกือบหมด
“ เอาละสุดท้ายนี้ขอให้งานประลองระหว่างสถาบันครั้งนี้เป็นไปได้ด้วยดี และขอให้ศิษย์รักของครูทุกคนแข่งขันกันอย่างขาวสะอาด ให้การแข่งสอนอะไรเรามากกว่าคำว่า ชัยชนะ ดังเช่นคำพูดของด๊อกเตอร์ไอแซกที่หนึ่งเคยกล่าวเอาไว้ ” พร้อมกับแบมือสองข้างมองขึ้นบนท้องฟ้า “ การแข่งที่สกปรกแล้วชนะร้อยครั้ง สู้การแข่งที่ขาวสะอาดแล้วแพ้เพียงรั้งเดียวก็ไม่ได้ ขอให้ทุกคนโชคดี สวัสดี . ”
หลังจากพิธีเปิดการประลองเสร็จสิ้นลง ไม่ว่าจะเป็นการจุดคบไฟ หรือจะเป็นขบวนพาเหรดแล้ว วาก็พบว่าวันนี้เขายังไม่ต้องแข่งปิงปอง ซึ่งความจริงโซลินเคยบอกไว้นานแล้ว แต่วาตื่นเต้นจนลืมไปเสียสนิท ถึงอย่างไรก็ตามเขาก็จำเป็นต้องไปดูการแข่งตอนบ่ายเพื่อศึกษาแนวทางในการรับมือโรงเรียนอื่นไว้ และในวันรุ่งขึ้นค่อยถึงคิวที่เขาค่อยแข่ง
ในตอนนี้แม้วาจะอยู่ในห้องพักนักกีฬาปิงปอง ซึ่งดูหรูหราราวกับโรงแรม และทันสมัยผิดกับรูปลักษณ์ภายนอกของตึกโดยทั่วไปของโรงเรียนไอแซกก็ตาม แต่เขากลับรู้สึกจิตใจพลุกพล่านอย่างไรก็ไม่รู้ บางครั้งการรอคอยก็ทำให้รู้สึกลำบากใจได้เช่นกัน ความรู้สึกนี้เป็นความรู้สึกเดียวกันกับก่อนที่จะเขาจะได้ขึ้นไปยังบนเวทีประกวดวงดนตรี
วาอดที่จะคิดไม่ได้ว่า ในหนึ่งสัปดาห์ของการประลองระหว่างสถาบันนั้นเขาจะได้มาในฐานะผู้แข่งขันปิงปองจนถึงวันที่เท่าไหร่กัน หรือว่าเขาอาจจะได้อยู่ถึงเพียงแค่วันพรุ่งนี้เท่านั้น และความคิดก็ถูกขัดด้วยเสียงโทรศัพท์มือถือของเขา
วาหยิบมันออกมาจากเป้จากนั้นก็พบว่า คนที่โทรมาคือ โซเฟียนั่นเอง
“ ฮัลโหล ว่ายังไง ? ”
“ นั่นนายอยู่ไหนน่ะ โทรไปตั้งนานทำไมไม่รับ ?! ” เสียงโซเฟียดังไม่ค่อยชัดนัก คงเพราะเสียงผู้คนรอบข้าง และเสียงดนตรีรอบๆโรงเรียนดังแข่ง
“ เออคือเรื่องนั้น . ตอนนี้อยู่ที่ห้องพักของฮอล์หนึ่ง ” วาเกาหัวอย่างงงๆ
“ หา ว่าอะไรนะ ?! ”
“ อยู่ที่ห้องพักของฮอล์หนึ่ง ! ” วาตะโกน “ ได้ยินไหมๆ ”
“ อืม โอเค แต่วันนี้นายไม่ต้องแข่งไม่ใช่หรอ ”
วาส่ายหัวให้ตัวเอง เมื่อคิดว่าขนาดโซเฟียยังจำได้ แต่ตัวเขาเองดันลืมเสียสนิท
“ อ่อ อืม ใช่ไม่ต้องแข่งน่ะ แต่คงต้องรอดูการแข่งตอนบ่าย ”
“ ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ว่างไหม การแข่งประลองอาวุธรอบแรกใกล้จะเริ่มแล้ว คือ รุ่นพี่เพิ่งไปจับสลากมา และทีมเราก็ต้องแข่งเป็นทีมแรกด้วย ” เมื่อกล่าวถึงตอนี้วาก็พบว่าน้ำเสียงของโซเฟียแฝงแววตื่นเต้น ระคนกับความกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก และเมื่อวาได้ยินคำว่า ‘ ทีมแรก ’ ก็ต้องสะดุ้งลุกขึ้นจากเตียงทันที
“ เธอว่าอะไรนะ ทีมเราต้องแข่งเป็นทีมแรกอย่างนั้นหรอ ?! ”
“ ใช่แล้วละ ถ้าว่างก็รีบมาหน่อยก็ดี เผื่อไว้ มาหาตรงข้างเวทีเลยก็แล้วกันนะ แล้วก็ๆ อย่าลืมเอาบัตรนักกีฬาให้เขาดูละ แค่นี้ก่อนนะ ”
วารีบก้มดูนาฬิกาข้อมือของเขาทันที และก็พบว่านี่เป็นเวลาสิบโมงครึ่งแล้ว ซึ่งก็หมายความว่าตั้งแต่เขาเอนตัวลงบนเตียงของพักเขาก็เผลอหลับไปเกือบชั่วโมงเลยทีเดียว
เขารีบจัดแจงกับชุดของเขาให้เรียบร้อยจากนั้นก็ผูกไทค์ให้เข้าที่ พร้อมกับวิ่งไปมาหยิบของใส่เป้ให้เรียบร้อย
“ เฮ้ เป็นอะไรของนายน่ะ ” พรีสไซที่อ่านหนังสือพิมพ์อยู่ถามอย่างประหลาดใจ
“ คือ ว่าทีมประลองอาวุธของเรากำลังจะแข่งน่ะสิ ” วาตอบขณะกำลังวิ่งไปมา เขาไม่ชอบความรู้สึกนี้เท่าไหร่ ความรู้สึกเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าอะไรกำลังรีบเร่งไปหมด แต่ก็อีกนั่นละเพราะตัวเขาเองเผลอหลับไปโดยไม่ยอมโทรถามโซเฟียก่อน
ความจริงวาเองก็รู้ว่าตอนสิบโมงจะเป็นเวลาที่การแข่งประลองอาวุธจะเริ่มขึ้น แต่เขาก็เผลอหลับไปจนได้ แถมยังหลับสนิทอีกเสียด้วย
“ อ่อ มิน่าละโทรศัพท์นายถึงดังบ่อยขนาดนั้น ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปเถอะ เดี๋ยวชั้นจะบอกโซลีนให้ก็แล้วกัน แต่อย่ามาสายละ ขืนมาไม่ทันดูการแข่งปิงปองตอนบ่าย โซลีนเอานายตายแน่ ” พรีสไซจิบกาแฟอย่างใจเย็น วารีบจนลืมแม้จะต่อว่าทำไมไม่ยอมรับโทรศัพท์ ?!
“ อืม ขอบใจนะ ” วาก้มหัวพร้อมออกตัววิ่งทันที
“ เฮ้ ! ” พรีสไซหยิบเสื้อหนาวให้กับวา “ นายลืมเสื้อหนาวน่ะ ”
วารับมาพร้อมกับสวมใส่อย่างรวดเร็ว
“ ไปนะ ”
“ โชคดีเพื่อน ” พรีสไซโบกมือก่อนจะนั่งลงจิบกาแฟ และอ่านหนังสือพิมพ์ต่อไปเรื่อยๆ ‘ อ่าส์ บรรยากาศแบบนี้แหละที่ชั้นชอบที่สุด ’
วาวิ่งออกจากฮอล์หนึ่งโดยไม่ทันจะคิดว่า ห้องแข่งประลองอาวุธนั้นไปทางไหน ขณะกำลังจะโทรถามโซเฟียก็เกือบชนกับหญิงสาวผมขาวสั้นในเสื้อคลุมสีน้ำเงิน แต่วาก็ดันเผลอไปสะดุดกับชายเสื้อคลุมของหล่อนจนหกล้มเข้าจนได้
“ เป็นอะไรรึเปล่าค่ะ ” หญิงสาวถามอย่างสงบ
“ มะ ไม่เป็นไรครับ ” ความจริงวารู้สึกอายมากกว่า และก็รีบถามออกไปโดยไม่ทันคิดว่าแถวนี้มันห้องพักนักกีฬาปิงปอง
“ เออ คือ รู้ไหมครับว่าห้องแข่งประลองอาวุธไปทางไหน ”
หญิงสาวยิ้มพร้อมกับชี้ไปทางตรงกันข้ามกับที่วาวิ่งมาเลย
“ ห้องแข่งประลองอาวุธไปทางนั้นค่ะ ตรงไปแล้วลงไปชั้นล่างทางขวามือนะค่ะ ดูเหมือนว่าใกล้จะเริ่มแล้วมั่งค่ะ ”
“ ขอบคุณมากครับ ” วารีบแจ่นไปทันที ทิ้งให้หญิงสาวยืนงงอยู่อย่างนั้น
ห้องแข่งขันประลองอาวุธก็ยังคงเป็นห้องเดิม เพียงแต่ที่ทำให้วาหาทางไม่ถูกคงเพราะนักเรียนมากหน้าหลายตาจากต่างโรงเรียนเดินอยู่เต็มไปหมด แถมยังป้ายนู้นป้ายนี่เต็มไปหมด หนำซ้ำเขายังเพิ่งตื่นอีกด้วย
‘ ใหญ่ใช่เล่นนะโรงเรียนนี้ เล่นเอาเหนื่อยเลยให้ตายสิ ’
แต่ในที่สุดเขาก็มาถึงจนได้ และก็ดูเหมือนว่าห้องประลองอาวุธครั้งนี้จะต่างจากครั้งก่อนไปมาก ทั้งแสงสีที่เปิดอย่างอลังการ ผู้คนที่มาชมการประลองที่นั่งกันอยู่เต็มอัศจรรย์ อากาศที่หนาวเย็นกว่าเดิม และก็เวที !!!
“ แฮ่กๆ ” วาหอบ ก่อนที่จะรีบวิ่งต่อพร้อมยื่นบัตรนักกีฬาให้กับนักเรียนไอแซกที่ยืนคุมทางเข้าข้างเวทีอยู่ พร้อมรับคำกล่าวเตือนอีกครั้ง ‘ รีบหน่อยนะครับ ทีมคุณกำลังจะแข่งแล้ว ’
“ แหะๆ นึกว่าจะไม่ทันซะแล้ว ” โซเฟียในชุดเครื่องแบบ ( เสื้อเชิ้ตแขนสั้น ตรงปกเสื้อเป็นสีดำติดกระดุมพร้อมไทค์สีดำ และเข็มขัดสีดำเช่นเดียวกับนักเรียนชาย กระโปรงสั้นสีดำ ) ใส่เสื้อกันหนาวโรงเรียนคลุมอีกทีหนึ่ง นั่งไขว้ห้าง กอดอกทำหน้านิ่งใส่วา ซึ่งวาเองก็รีบจนไม่ทันจะสังเกตว่าโซเฟียดูเข้าชุดอย่างมากพอแต่งเครื่องแบบ
“ ขอโทษคร๊าบๆ ” วายิ้มอย่างอดไม่ได้ ก่อนจะหันไปทักทายดีว่าที่อยู่ในชุดเสื้อคลุมสีเพลิงประจำชมรมจ้าวกระบี่ของเขา “ อ่อ สวัสดี ดีว่า แล้ว เออ .. ”
วาหันซ้ายหันขวา ก่อนจะถามถึงไซโคร แนช
“ แล้วรุ่นพี่ละ ”
โซเฟียยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ พร้อมกับชี้ตรงไปยังเวที และนั่นทำให้วาถึงกับตกใจสุดขีด
“ หา รุ่นพี่แข่งตั้งแต่คู่แรกเลยหรอเนี่ย ?! ”
ไซโคร แนชพร้อมด้วยเครื่องป้องกันเต็มยศยืนนิ่งอยู่บนเวที ดูเหมือนจะไม่ทันสังเกตว่า วามาถึงแล้ว หรือไม่ก็ไม่มีเวลาที่จะให้สังเกตแล้วก็ได้ เพราะ .
‘ ตึง !!! ’
คู่ต่อสู้ของอีกโรงเรียนกระโดดขึ้นบนเวที เสียงที่ดังขึ้นไม่ได้เกิดจากร่างที่สัมผัสกับพื้น แต่เป็นเสียงของดาบยักษ์ที่ปักลงกับพื้นเวทีนั่นเอง
ดาบยักษ์ที่หน้าตาดูคุ้นเป็นอย่างมาก และเมื่อมองรอดช่องหมวกป้องกันไปก็พบว่า คนๆนั้นก็คือ สเวน อัศวินนักฆ่า ประธานชมรมอัศวิน แห่งโรงเรียนไอแซกนั่นเอง ซึ่งความจริงหากวามองไปบนบอร์ดการแข่งก็จะเห็นได้เช่นกัน
นี่ก็เท่ากับว่า โรงเรียนเจ้าภาพได้แข่งเป็นโรงเรียนแรก ซึ่งหากแพ้มาก็คงจะดูเสียหน้าอยู่บ้าง
“ แล้วคู่ต่อไปเป็นใครกัน ?! ” วารีบถามอย่าตื่นเต้น เขาคิดว่าถ้าไม่ใช่ดีว่าก็น่าจะเป็นโซเฟีย และยิ่งภาวนาว่าคงจะไม่ใช่ตัวของเขาเอง แต่คำตอบที่ได้ยินนั้นยิ่งทำให้รู้สึกผิดคาดเป็นอย่างยิ่ง
“ ไม่มี” คำตอบสั้นๆจากโซเฟีย
“ ทำไมถึงไม่มีละ ” วาถึงกับตกใจ หรือว่าจะแข่งจนเหลือคู่สุดท้ายไปแล้ว ?!
“ ก็เพราะนี่เป็นการแข่งโดยใช้กฎพิเศษนะสิ ” โซเฟียรีบอธิบาย เมื่อเห็นวาเริ่มทำหน้างง “ การแข่งกฎพิเศษจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อฝ่ายที่ทายหัวเหรียญชนะเลือกที่จะยื่นข้อเสนอให้แข่งกฎพิเศษที่มีอยู่ในบรรดากฎพิเศษที่อนุญาตให้มีแทนที่จะเลือกกำหนดตัวทีมลงแข่ง หรือเลือกรูปแบบเวทีแข่ง ต่อฝ่ายที่แพ้และหากฝ่ายที่แพ้ยอมรับข้อเสนอก็จะเริ่มแข่งโดยใช้กฎพิเศษทันทีโดยฝ่ายที่แพ้อาจจะได้สิทธิพิเศษเพิ่มจากการใช้กฎพิเศษ เช่น เพิ่มพลังชีวิตเล็กน้อย หรือเพิ่มค่าเกราะเป็นต้น แต่หากไม่ยอมรับฝ่ายชนะจะต้องเสี่ยงทายหัวเหรียญกับฝ่ายแพ้อีกครั้ง และหากทายถูกฝ่ายแพ้ก็จะต้องยอมรับกฎพิเศษแต่โดยดีโดยคราวนี้จะไม่ได้สิทธิพิเศษใดๆเลย ”
“ ฟังดูสนุกดีนะ แต่ก็วุ่นวายแฮะ ถ้าอย่างนั้นกฎพิเศษครั้งนี้คืออะไรละ ? ”
“ กฎพิเศษที่สเวนเสนอก็คือ การแข่งขันโดยตัดสินแบบตัวต่อตัว ” โซเฟียพยายามกล่าวท่ามกลางเสียงปรบมือ และเสียงเชียร์ที่เริ่มจะดังขึ้น “ แล้วรุ่นพี่ก็เลือกที่จะรับข้อเสนอ แถมยังขอเป็นคนแข่งเองด้วยละ และความจริงฝั่งเราก็มีสิทธิที่จะได้เลือกสิทธิพิเศษบางอย่างด้วย แต่รุ่นพี่ไม่ยอมเอา การแข่งครั้งนี้เลยเป็นการตัดสินไปเลยละว่าใครจะอยู่จะไป โดยจะให้พลังชีวิตไปคนละ 5,000 หน่วย ”
วายิ้มแห้งๆ ถึงแม้เขาจะเชื่อมั่นในตัวไซโคร แนช แต่คู่ต่อสู้ที่อยู่ตรงหน้านั้น วายังคงจำได้ได้ดีว่า ครั้งก่อนแค่สเวนวาดดาบยักษ์หนึ่งครั้งก็เก็บผู้เข้าแข่งโรงเรียนเดียวกันได้อย่างสบายๆ ไหนจะดาบยักษ์ที่ดูทรงพลังนั่นอีก ที่ดูๆแล้วยังไงก็หนักไม่น้อยไปกว่าสิบกิโลแน่ๆ แต่กลับสามารถถือได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว บวกกับได้ข่าวว่าสเวนก็มีพลังลมปราณสายฟ้าเช่นเดียวกันกับไซโคร แนชอีก นับว่าครั้งนี้มาถึงก็เจอคู่ต่อสู้ที่พอจะทำให้เขากลับไปเป็นคนเชียร์แทนคนแข่งเลยก็ว่าได้
“ นายว่าใครจะชนะหรอ ” วาอดสงสัยไม่ได้ หันไปทางดีว่า และก็สังเกตพบว่า ดีว่าดูซีดไปลงเยอะ ทั้งๆที่ไม่ได้พบกันแค่สองสามวันแท้ๆ
ดีว่าหันมายิ้มนิ่งๆให้กับวา
“ ไม่รู้สิครับ ” ความจริงในหัวดีว่าตอนนี้ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้สักเท่าไหร่ การเห็นได้สเวนครั้งนี้ทำให้เขานึกถึงภาพเหตุการณ์ในวันนั้น วันที่ผู้หญิงคนนั้น หรือซากุระเข้าไปขวางกลางระหว่างจี ดาบคลั่งและสเวน ภาพดาบยักษ์ที่ถูกสกัดได้อย่างง่ายดาย ..
และนั่นทำให้ดีว่ายิ่งคิดว่า หากแค่สเวนเขาไม่อาจเอาชนะได้ ก็ไม่ต้องไปสู้กับซากุระแล้ว ความจริงศึกครั้งนี้เขาต้องการจะเป็นคนแข่งเองด้วยซ้ำ เพียงแต่ว่าหนึ่งคือ ไซโคร แนช ถึงกับออกปากเองว่าจะขอเป็นคนสู้ และทางฝั่งนั้นก็คงอยากจะสู้กับไซโคร แนชเสียมากกว่า และอีกหนึ่งคือ ดีว่าในตอนนี้ไม่มั่นใจว่าเขาจะสามารถเอาชนะสเวนได้ หรือพูดง่ายๆก็คือ เขาไม่มั่นใจพอที่จะเอาอนาคตทีมมาฝากไว้ที่ตัวเขาเองอีกแล้ว ความมั่นใจของเขาหายไปตั้งแต่ถูกกลืนกินพลังของกระบี่สุญญากาศ และซัดสะท้อนกลับมาใส่เขาตั้งแต่วันนั้นแล้ว
เมื่อคิดถึงตรงนี้ดีว่าก็ก้มมองมือที่สั่นเทาของเขา ทิ้งให้วายืนงงต้องเดินไปนั่งสงบจิตสงบใจข้างๆโซเฟียแทน
“ ฝั่งนั้นท่าทางอยากจะสู้กับรุ่นพี่มากเลยละ ”
“ ขนาดนั้นเชียว ” วาสนใจขึ้นมาทันที
“ แน่นอนละ ก็ความจริงตอนแรกดีว่าจะเป็นคนไปสู้ด้วยแล้ว แต่สเวนบอกว่าถ้าไม่ใช่รุ่นพี่ก็ไม่ขอใช้กฎพิเศษ ดุเดือดจริงๆเนอะว่ามะ แหะๆ ” โซเฟียหัวเราะ ความจริงเธอเองก็ตื่นเต้นไม่แพ้วาเช่นกัน
และแล้วทุกอย่างก็ถูกเบรกด้วยเสียงของนักประกาศโรงเรียนไอแซก
“ ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่การประลองอาวุธระหว่างสถาบันรอบแรกครับ ” เสียงกล่าวสงบนิ่งผิดกับเด็กชายนักประกาศขาประจำ เพียงแต่ความสามารถไม่การปลุกเร้าอารมณ์นั้นไม่แพ้กันเลยแม้แต่น้อย ชายนักประกาศในชุดทักซีโด้ค่อยๆเดินขึ้นมาบนเวที
“ เอาละครับ หลังจากผู้เข้าแข่งขันของเราได้จับสลาก และทายหัวเหรียญกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่การแข่งจะเริ่มขึ้นแล้ว โดยรอบแรกนั้นเป็นการแข่งขันระหว่างทีมมิราเคิลจากโรงเรียนอับดุล อินเตอร์ และทีมสามอัศวินจากโรงเรียนไอแซก ซึ่งทีมสามอัศวินเลือกที่จะใช้สิทธิพิเศษในการเลือกที่จะประลองตัวต่อตัว โดยทางทีมมิราเคิลก็ตกลงรับข้อเสนอ แต่ไม่ขอรับสิทธิพิเศษ การแข่งครั้งนี้ผู้เข้าแข่งขันจึงมีพลังชีวิตจำนวน 5000 หน่วยเท่ากันทั้งคู่ ” จากนั้นหันกลับไปมองคณะกรรมการที่นั่งดูอยู่ที่โต๊ะ พร้อมกับผู้คุมกฎ ซึ่งคอยดูแลหากคณะกรรมสั่งให้ยุติการตัดสิน ผู้คุมกฎจะรีบเข้าไปห้ามผู้แข่งทันที หากไม่ยอมปฎิบัติตาม
เมื่อเห็นว่าทางคณะกรรมการ และผู้คุมกฎพร้อมแล้ว ชายนักประกาศก็กล่าวเสียงเรียบๆที่ชวนให้ทุกผู้คนตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“ ทุกอย่างพร้อมแล้ว ขอเริ่มการแข่งขันประลองอาวุธระหว่างสถาบันรอบแรก คู่ตัดสิน ได้ ณ บัดนี้ ..”
เสียงเชียร์ดังขึ้นในทันที และส่วนใหญ่จะเป็นเสียงเชียร์ทางด้านโรงเรียนไอแซกเสียมากกว่า ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะเป็นโรงเรียนเจ้าภาพ
สเวนมองตรงไปยังไซโคร แนชเพื่อดูว่าไซโคร แนชจะมาไม้ไหน แต่ก็เห็นไซโคร แนชยังคงยืนสงบนิ่งเหมือนในทุกๆครั้ง
“ ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้พบกันเร็วขนาดนี้นะเจ้าชายสายฟ้า ”
ไม่มีการตอบโต้จากไซโคร แนช ซึ่งความจริงในใจไซโคร แนชตอนนี้เพียงขึ้นถึงแค่เรื่องเดียวเท่านั้น ข้อความที่ส่งเข้ามาในคอมพิวเตอร์ของเขา ข้อความที่น่าจะมีเพียงคนเดียวที่เขียนได้ แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหนกัน เธอเห็นหรือเปล่าว่าเรากำลังจะแข่งอยู่ และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ไซโคร แนชจะต้องเอาชนะให้ได้
“ เธออยู่ที่ไหนกัน ..” ไซโคร แนชก้มพึมพำกับตัวเอง ไม่มีท่าทีว่าจะต่อสู้แต่อย่างใด ซึ่งนั่นทำให้สเวนโมโหขึ้นมาทันที
“ ชักดาบของคุณขึ้นมา ! ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าผมไม่เกรงใจนะ ” สเวนจับดาบยักษ์ชี้ใส่หน้าไซโคร แนช มือขวาที่ชี้ดาบนั้นไม่มีการไหวติงเลยแม้แต่น้อย ดาบยักษ์ที่น่าจะมีน้ำหนักมากกว่าสิบกิโล แต่กลับถือได้ราวกับเป็นของที่ไม่มีน้ำหนัก ช่างน่ากลัวเสียจริงๆ
แต่ไซโคร แนชก็ยังคงเอาแต่ก้มหน้า คราวจริงเขาหวังว่าจะได้พบกับเจ้าของข้อความก่อนการแข่ง หรือแค่เหลียวมองไปพบก็ยังดี แต่เมื่อไม่พบแม้แต่เงาจึงทำให้เขารู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก
และในที่สุดสเวนก็เรียกสติของไซโคร แนชกลับมาให้ โดยการบุกเข้าโจมตีเขาในทันที
“ เฮอะ พวกนักสู้ศักดิ์สิทธิจอมอวดดี ชอบดูถูกว่าอัศวินอย่างเรากระจอก คุณเองก็เช่นกันสินะ ถึงไม่ยอมแม้แต่จะรับพลังชีวิตพิเศษ ไม่ยอมแม้จะจับดาบขึ้นมาสู้ จะดูถูกกันไปถึงไหน !!! ”
สเวนวิ่งเข้าหาไซโคร แนชแม้จะไม่รวดเร็วแต่ก็นับว่าสุดยอดมากสำหรับคนที่ต้องถืออาวุธที่มีน้ำหนักขนาดนั้น
ไซโคร แนชเมื่อได้สติ ซ้ำยังได้ยินคำพูดเช่นนี้ ประกอบกับอารมณ์ผิดหวังที่กำลังพลุกพล่านก็ระเบิดพลังลมปราณออกมาทันที
‘ เช้ง ’
ดาบคู่ของไซโคร แนชถูกชักออกมาสกัดดาบยักษ์ของสเวนไว้ได้ทัน แต่ไซโคร แนชก็ถึงกับต้องเซถอยไปเนื่องเพราะพลังอันมหาศาลของสเวน
“ นี่เจ้ากำลังเข้าใจอะไรผิดอยู่รึเปล่า ” ไซโคร แนชกล่าวขณะพยายามรวบรวมกำลังเพื่อยันดาบยักษ์นั้นกลับไป “ จะนักสู้ศักดิ์สิทธิ หรือไม่ใช่ก็ตาม ”
ไซโคร แนชกัดฟัน พลังของสเวนนั้นมีมากกว่าที่เขาคิดไว้จริงๆ
“ คนเราน่ะอย่าไปสนใจคำคนให้มากนักเข้าใจไหม !!! ”
สเวนถูกดันกลับไป และตามติดด้วยดาบคู่ที่ตวัดใส่ ทำให้สเวนต้องถอยออกไปในทันที
“ ไม่เลวนี่ ไม่คิดว่าจะสามารถรับดาบของผมได้ด้วย สมแล้วที่เป็นถึงพาลาดิน ”
ไซโคร แนชไม่ตอบตามแบบฉบับของเขา เขาหอบหายใจเล็กน้อย ก่อนที่แววตาจะเปลี่ยนเป็นเริ่มเอาจริงขึ้นมาบ้างแล้ว คู่ต่อสู้ของเขาในครั้งนี้ไม่เหมือนที่ผ่านๆมา เป็นคู่ต่อสู้ที่จะประมาทไม่ได้เลย ความรู้สึกในการต่อสู้ครั้งนี้เหมือนกับตอนที่เขาสู้กับดีว่าเลยทีเดียว เพียงแต่ดีว่านั้นเป็นคู่ต่อสู้ที่เน้นความเร็ว และกระบวนท่า ส่วนสเวนนั้นเป็นคู่ต่อสู้ที่เน้นพลังทำลาย และพลังป้องกันที่สูง
และก็ดูเหมือนว่ากฎพิเศษที่ใช้การต่อสู้แบบตัวต่อตัวจะให้ประโชยน์แก่สเวนไม่น้อย ทั้งนี้เพราะพละพลังอันมหาศาลหากได้พลังชีวิตที่มากกว่าปกติถึง 2000 หน่วยก็จะสามารถดึงเกมให้เข้ากับรูปแบบการต่อสู้ของสเวนได้เป็นอย่างดี
แต่ในตอนนี้ก็ไม่มีเวลาให้คิดอะไรอีกแล้ว นอกจากลุยมันลูกเดียว
“ เอาละนะ ” ไซโคร แนชตวัดดาบคู่ไปมาด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่จะประสานเป็นรูปกางเขน สายฟ้าปรากฏขึ้นมาบนดาบคู่ของเขา ส่งเสียงเปรี้ยงปร้างข่มขวัญทุกผู้คนในทันที
“ ดี . แล้วผมจะทำให้รู้เองว่า พวกนักสู้ศักดิ์สิทธิแล้วความจริงนั้นก็ไม่ได้มีอะไรไปมากกว่าความหยิ่งยโสเท่านั้น ”
แล้วไซโคร แนชก็พุ่งเข้าหาสเวนด้วยความรวดเร็ว ไม่ยอมให้สเวนตั้งตัวได้ ดาบคู่กระหน่ำฟันใส่สเวนอย่างไม่ยั้งมือ แต่สเวนแม้จะถูกกระหน่ำโจมตีใส่แต่ดาบยักษ์ก็ยังคงปัดไปมาป้องกันดาบคู่อันรวดเร็วของไซโคร แนชได้ และถึงแม้บางจังหวะจะไม่สามารถรับดาบคู่ได้หมด สเวนก็ใช้เพียงแขนซ้ายในการปัดดาบคู่นั้นออกไป ซึ่งเสียพลังชีวิตไปเพียงแค่ 5- 10 เท่านั้นเอง การโจมตีของไซโคร แนชครั้งนี้จึงเหมือนกับไร้ผลเมื่ออยู่ต่อหน้าสเวน
สเวนขณะที่ป้องกันการโจมตีไปเรื่อยๆนั้นก็อาศัยจังหวะวูบหนึ่ง รีบดันตัวถอยออกมาพร้อมกับวาดดาบยักษ์เข้าใส่ไซโคร แนช
ไซโคร แนชที่ระวังตัวอยู่ก่อนแล้วก็นำดาบคู่ยกขึ้นกันการโจมตีทันที แต่ด้วยการรับมือที่กระทันหันบวกกับพลังทำลายที่ทรงอานุภาพ ก็ทำให้เขากระเด็นถอยหลังเกือบจะล้มลงกับพื้นเลยทีเดียว
สเวนพาดดาบยักษ์บนบ่าก่อนที่จะกวักมือเป็นสัญญาณเรียกไซโคร แนขที่นั่งยองๆให้ลุกขึ้นมาสู้ใหม่
“ ช่างเป็นการต่อสู้ที่น่าเบื่อจริงๆนะ นายว่ามะ ” เกก้าดันที่นั่งดูอยู่พูดขึ้นกับไซเมต
“ ยังหรอก หมอนั่นยังไม่ได้ใช้พลังลมปราณสายฟ้าเลยนะ ” ไซเมตกล่าวขึ้น สายตาจดจ่อไปยังเวที
“ นายหมายถึง เจ้าชายอย่างนั้นรึ ? ”
“ ไม่ใช่ ” ไซเมตส่ายหน้า พร้อมกับชี้ไปยังสเวน “ เจ้าหมอนั่นต่างหาก ดาบยักษ์ที่มันถือในตอนนี้นั้นไม่ใช่ถือได้เพราะพลังลมปราณสายฟ้าหรอกนะ แต่เป็นเพราะผลแห่งการฝึกฝนต่างหาก ”
“ นายดูออกอย่างนั้นเรอะ ” เกก้าดีนทำหน้าสงสัย ไม่เคยคิดว่ามาก่อนว่าไซเมตจะดูเรื่องที่เขาดูไม่ออกได้
ไซเมตไม่ได้ตอบ แต่มองไปยังเวที ส่วนเกก้าดีนนั้นเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งก็กล่าวขึ้น
“ ถ้าอย่างนั้นนายจะบอกว่า ถ้าหากไอ้บ้านั่นใช้พลังลมปราณสายฟ้าขึ้นละมาก็ .”
“ ว่ายังไงครับ จะเอาจริงกันได้หรือยังละ ” สเวนกล่าวท้าทาย
ไซโคร แนชเริ่มยิ้มออกมาแล้ว ไม่ทราบเพราะเริ่มตึงมือ หรือเพราะอะไรกันแน่ ลุกขึ้นยืนด้วยความรวดเร็ว พร้อมกับประสานดาบเป็นไม้กางเขนอีกครั้ง
“ ข้าแด่เทพสายฟ้า ฮามาเอ๋ย โปรดมอบความว่องไวให้กับข้า รีเฟรกโหมด ออน !!! ”
เมื่อกล่าวจบคล้ายมีสายฟ้าผ่าลงบนดาบคู่ของไซโคร แนชก่อนที่ร่างของไซโคร แนชจะหายไป ทิ้งให้สเวนต้องตะลึง เตรียมรับมือในทันที แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
ไซโคร แนชฟันใส่สเวนห้าดาบด้วยความเร็วสูง แม้กระทั่งสเวนเองก็ไม่ทันได้ตั้งรับ
“ สะ สุดยอดเลย เร็วเป็นบ้า ” วาอุทาน ส่วนดีว่าได้แต่เบิกตามองอย่างสนใจ ความเร็วนั่นเป้นความเร็วระดับเดียวกันกับเมื่อตอนสู้กับเขาเลยทีเดียว ความเร็วที่สามารถเทียบกับกระบวนท่าวายุ พิชิตอัสนี ไม่สิอาจจะเร็วกว่าก็เป็นได้
นี่คงเป็นเพราะคราวนี้ไซโคร แนชจงใจโคจรลมปราณสายฟ้า และใช้พลังรีเฟรก ซึ่งก็คือ การใช้ลมปราณสายฟ้าสั่งการสมองให้เกิดปฎิกิริยารีเฟรกที่จะทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว (ปฎิกิริยารีเฟรก คือ ปฎิกิริยาตอบโต้อัตโนมัติ โดยร่างกายจะทำงานโดยไม่ต้องผ่านการสั่งการของสมอง) แต่การใช้ปฎิกิริยารีเฟรกแบบนี้อาจทำให้เป็นอันตรายต่อสมองจนถึงขั้นเป็นอัมพาตได้ ซึ่ง ถ้าไม่จำเป็นจริงๆคงไม่ใช้ออกมาแน่นอน
สเวนแม้จะถูกโจมตีอย่างหนักหน่วง และรวดเร็วแต่ก็ไม่ได้ตกใจจนขาดสติ กลับกันยังคงยืนรับการโจมตีอย่างเยือกเย็นราวกับคาดคำนวณไว้ก่อนแล้ว ว่าคงมีลูกไม้แบบนี้ออกมาบ้าง ดังนั้นสเวนจึงค่อยๆรวบรวมพลังหมุนดาบยักษ์วาดออกเป็นวงเพื่อไล่การโจมตีของไซโคร แนชให้ถอยออกไป
แต่ก็ไม่เป็นผลดาบยักษ์ขณะกำลังจะวาดขึ้นก็ถูกดาบคู่ฟันใส่กระแทกลงกับพื้น จากนั้นสเวนก็ถูกโจมตีใส่อีกหลายดาบ ยังดีที่สเวนใช้แขนซ้ายปัดป้องไว้ได้บ้าง
การโจมตีของไซโคร แนชรวดเร็ว และหนักหน่วงจนแม้แต่สเวนเองก็อดที่จะยอมรับในความสามารถไม่ได้ พลังชีวิตของสเวนลดลงอย่างรวดเร็ว สร้างความตื่นตระหนกให้แก่เหล่านักเรียนไอแซกเป็นอย่างยิ่ง
“ รุ่นพี่ !!! ”
“ สเวนอย่าแพ้เขานะ ”
เสียงเหล่ารุ่นน้อง รวมทั้งนักเรียนไอแซก และเพื่อนร่วมทีมตะโกนให้กำลังใจสเวนที่กำลังเสียท่า แต่สเวนก็ยังคงยิ้มได้
“ ไม่ต้องห่วง ผมไม่มีทางแพ้หรอก โรงเรียนไอแซกจะต้องชนะ !!! ”
จากนั้นกำมือซ้ายไว้บนอก ดูเหมือนจะเป็นการโคจรลมปราณสายฟ้า และทันใดนั้นเอง ..
‘ ก๊อด สแปชเชอร์ ! ’
สายฟ้าปรากฏขึ้นมาบนดาบยักษ์ในพริบตา ก่อนที่ดาบยักษ์นั้นจะถูกวาดออกด้วยความรวดเร็ว
พริบตานั้นแม้แต่เกก้าดีนก็ถึงกับต้องเบิกตากว้างขึ้นวูบหนึ่ง
ไซโคร แนชที่ไม่คาดคิดมาก่อน ทำได้เพียงแค่ยกดาบในมือขวาขึ้นมาตั้งรับ แต่ก็ถูกดาบยักษ์ของสเวนวาดใส่บริเวณไหล่กระเด็นออกไปไกล ล้มลงนอนกับพื้นทันที พลังชีวิตลดลงไปถึง 1000 หน่วยเลยทีเดียว
ไซโคร แนชรู้สึกที่ไหล่ขวาชาด้านไปหมด มือที่กำดาบข้างขวาคล้ายไม่สามารถสั่งการได้
สเวนนั้นหอบหายใจเล็กน้อย ดูเหมือนจะใช้กำลังไปพอสมควร
“ คุณพลาดท่าเสียแล้วเจ้าชาย ฮ่าๆ ดูเหมือนว่าแขนขวานั่นคงจะไม่สามรถใช้การได้สักพักแล้วละนะ ” สเวนกล่าวอย่างรู้ดี ใช่แล้ว .ใครที่โดนดาบยักษ์อันทรงพลังนั่นฟันเข้าแม้จะอยู่ในเกราะป้องกัน แต่หากสู้ต่อได้ก็นับว่าเก่งแล้ว และถึงแม้จะสู้ได้แต่อย่างน้อยส่วนที่โดนโจมตีเข้าก็คงไม่สามารถใช้การได้สักพัก ไม่แน่ว่าอาจจะใช้การไม่ได้เป็นสัปดาห์เลยทีเดียว เพราะความบอบช้ำนั้นจัดได้ว่ารุนแรงมากทีเดียว
ไซโคร แนชกัดฟันแน่น ความเจ็บปวดบริเวณไหล่ขวานับว่ารุนแรงพอสมควรเลยทีเดียว
“ รุ่นพี่ .. ” วาที่ดูอยู่ถึงกับใจหายไปเลยทีเดียว เขาไม่เคยเห็นไซโคร แนชได้รับความบาดเจ็บถึงขนาดนี้มาก่อน แต่ก็หารู้ไม่ว่านี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น
สเวนไม่เข้าไปโจมตีต่อ คงเพราะศักดิ์ศรีของอัศวิน ที่ไม่ยอมทำร้ายคนที่กำลังล้มอยู่ก็เป็นได้
“ ลุกขึ้นมาครับ ผมไม่อยากทำร้ายคนที่กำลังล้มอยู่ ”
ไซโคร แนชพยายามลองควบคุมมือข้างขวาให้ขยับไปเก็บดาบที่ตกอยู่ขึ้นมาให้ได้แต่ก็ไม่เป็นผล แขนขวาของเขาไม่สามารถใช้การได้แล้วตอนนี้
ด้วยเหตุนี้ไซโคร แนชจึงใช้มือซ้ายหยิบดาบเล่มนั้นขึ้นจากนั้นค่อยๆเก็บคืนฝักดาบด้านขวาบริเวณข้างๆเอว จากนั้นลุกขึ้นใช้มือซ้ายชูดาบชี้ไปยังสเวน ทั้งๆที่แขนขวายังคงห้อยตกอยู่อย่างนั้น
“ เข้า มา เลย ”
สเวนยักไหล่ก่อนที่จะพุ่งเข้าหาไซโคร แนชอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นตวัดดาบด้วยความรวดเร็ว แต่ก็พบว่าไซโคร แนชหายไปแล้ว และบนสันคอก็รู้สึกชาวูบ ร่างเซล้มลงไปในทันที
“ ลุกขึ้นมาสิ ข้าก็ไม่อยากจะซ้ำคนล้มอยู่เช่นกัน ”
ไซโคร แนชยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย จากนั้นกล่าวขึ้นเมื่อเห็นท่าทีงงๆของสเวน
“ อย่าลืมสิว่า รีเฟรกโหมดของข้ายังคงเปิดอยู่น่ะ ”
สเวนไม่กล่าวอะไร กัดฟันใช้ดาบยักษ์ยันตัวลุกขึ้นทันที ร่างกายรู้สึกวิงเวียนนิดหน่อย การโจมตีของไซโคร แนชเมื่อสักครู่จงใจฟันใส่สันคอเพื่อให้สเวนรู้สึกมึนงง จะได้สร้างโอกาสให้การต่อสู้ในสภาพที่แขนขวาไม่สามารถใช้การได้ให้ได้เปรียบขึ้นมาบ้าง
สเวนส่ายหัวสลัดความมึนงงออกไปจากนั้นตวัดดาบยักษ์ใส่ไซโคร แนชอีกครั้ง แต่แล้วก็เหมือนเดิมไซโคร แนชหายไปพร้อมกับฟันใส่สองดาบ ก่อนที่จะหลบดาบยักษ์ของสเวนไปอีกครั้งหนึ่ง
‘ ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป เราแย่แน่ ที่จริงก็ไม่อยากจะใช้เจ้านั่นเลยจริงๆ ’
สเวนเกร็งพลังลมปราณ สายฟ้าปรากฏขึ้นบนดาบยักษ์อีกครั้ง
‘ ก๊อด สแปชเชอร์ ’
ดาบยักษ์ถูกวาดหมุนออกเป็นวงกว้างด้วยความรวดเร็ว แต่ครั้งนี้ไซโคร แนชไม่ยอมพลาดท่าเป็นครั้งที่สองก้มตัวลงหลบดาบยักษ์ได้อย่างหวุดหวิด สเวนที่เห็นก็แทงดาบลงใส่ไซโคร แนช แต่ไซโคร แนชก็หมุนตัวจากนั้นใช้เรี่ยวแรงที่มีอยู่ตวัดดาบในมือซ้ายใส่สันเท้าทั้งสองของสเวน จากนั้นหมุนตัวไปกับพื้นเพื่ออกห่างจากสเวนให้เร็วที่สุด
สเวนนั้นแม้จะแข็งแกร่งในเรื่องของพละพลัง แต่เมื่อใช้ท่าก๊อด สแปชเชอร์ซึ่งต้องหมุนตัวขณะใช้ดาบยักษ์ทำให้ศูนย์ของร่างกายตัวหมุนไปตามดาบ และยิ่งหยุดท่ากะทันหันเพื่อจะโจมตีใส่ไซโคร แนชที่กลิ้งอยู่แล้ว เมื่อโดนโจมตีใส่สันเท้าทั้งสองด้วยความรุนแรงก็หงายตัวล้มลงในทันที
‘ ตึง ’
สเวนแม้จะล้มลง แต่ในมือยังคงกำดาบยักษ์แน่น ไซโคร แนชยืนขึ้นหายใจเข้าเพื่อรอรับการโจมตีครั้งต่อไป
“ หึ กระจอกชะมัด ” เกก้าดันสะเหยะยิ้มอย่างดูถูก
ไซเมตที่เห็นเกก้าดีนดูถูกสเวนก็รีบค้านขึ้นมาทันที
“ เรายังว่ายังหรอกนะ นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมดของเจ้านั่นหรอก ”
“ จะบอกว่ามันยังไม่ได้ใช้พลังลมปราณสายฟ้าอีกอย่างนั้นหรอ ?! ” เกก้าดีนประหลาดใจอีกครั้ง
“ จริงอยู่ที่ว่าท่านั่นเป็นท่าที่ใช้พลังลมปราณสายฟ้าเพิ่มพลังให้กับตัวเอง แต่นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมดหรอกนะ ”
ไซเมตไม่กล่าวอะไรต่อ ได้แต่มองไปยังเวที ตาของไซเมตกระตุกขึ้นเล็กน้อยเมื่อสเวนลุกขึ้นมายืนพร้อมกับกำมือซ้ายขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนเนื่องจากครั้งนี้มือซ้ายที่กำขึ้นมานั้นสั่นอย่างรุนแรง ราวกับกำลังรวบรวมพลังลมปราณทั้งหมดขึ้นมาไว้ในมือ
“ ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากที่จะใช้เลย แต่ดูเหมือนว่าคุณจะทำให้ผมต้องเอาจริงแล้วละนะ ”
สเวนโคจรลมปราณสายฟ้า มือซ้ายที่กำอยู่สั่นขึ้นจนน่ากลัว ไซโคร แนชแม้คิดจะเข้าไปหยุดยั้งก็ไม่ทันการณ์เสียแล้ว
จากนั้นแขนขวาที่เอาดาบยักษ์ยันไว้กับพื้นก็ค่อยๆชูดาบขึ้นมาขนานกับตัวราวกับเป็นของเล่นเบาๆ บนดาบยักษ์ปรากฎสายฟ้าขึ้นอย่างเห็นได้ชัดส่งเสียงเปรี้ยงปร้างขึ้นราวกับความโกรธแค้นของเทพเจ้า
“ สายฟ้าเอ๋ย จงมาสถิต ณ ดาบของข้า พละพลังแห่งพระเจ้า จงมาสถิต ณ ร่างของข้า ณ บัดนี้ !!! ”
‘ ก๊อด สเต้นช์ !!! ’
จากนั้นมือซ้ายก็ชูขึ้นเหนือฟ้า
“ โอ้ววววว !!! ”
ร่างกายของสเวนคล้ายมีพลังเพิ่มขึ้นสิบเท่าตัว ดาบยักษ์ถูกตวัดขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็ว และกระแทกลงใส่พื้นเวที ทำให้พื้นเวทีถึงกับเป็นรอยบาดลึกลงไปเลยทีเดียว แม้แต่ไซโคร แนชที่ยืนห่างออกไปยังสัมผัสได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว จากพื้นที่สั่นสะเทือนจากการกระแทกดาบของสเวน
ไซโคร แนชไม่เสียเวลาตะลึงแต่อย่างใดรีบตั้งดาบขึ้น พร้อมรับการโจมตีของสเวน แต่คราวนี้ไม่เหมือนที่ผ่านมา สเวนวิ่งเข้ามาไซโคร แนชอย่างรวดเร็วราวกับไม่ได้ถือดาบยักษ์นั้นอยู่ในมือ ซึ่งหากเป็นคนอื่นคงจะไม่สามารถหลบได้ทันแล้ว แต่ยังดีที่ไซโคร แนชใช้รีเฟรกโหมดอยู่จึงสามารถหลบการวาดดาบของสเวนได้ทัน แต่ถึงกระนั้นดาบยักษ์ที่วาดอยู่ก็หยุดกระทันหัน ตวัดติดตามไซโคร แนชที่พุ่งถอยหลังไปอย่างทันถ่วงที ทำให้ไซโคร แนชต้องกระเด็นไปล้มลงอีกครั้ง
ไซโคร แนชรู้สึกข้อมือซ้ายคล้ายจะหัก แรงโจมตีอันมหาศาลเมื่อสักครู่นี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ขืนโดนเข้าไปเต็มๆมีหวังแพ้แน่นอน
ไซโคร แนชพยายามรีบลุกขึ้นให้เร็วที่สุด เพราะว่าสเวนไม่หยุดรอให้เขาลุกขึ้นอีกต่อไปแล้ว ดาบยักษ์ฟาดลงใส่พื้นห่างจากตัวไซโคร แนชไปเพียงไม่กี่เซนต์เท่านั้น ไซโร แนชที่ลุกไม่ทันรีบกลิ้งตัวไปกับพื้นให้เร็วที่สุด
ดาบยักษ์ฟันใส่ไซโคร แนชอย่างบ้าคลั่ง ถึงกับทำให้ไซโคร แนชแทบจะหายใจไม่ทัน
“ ขอโทษด้วยนะครับ แต่ผมจะต้องชนะเท่านั้น ! เมื่ออยู่ต่อหน้าก๊อด สเต้นช์แล้วก็ไม่มีอะไรจะหยุดผมได้อีกแล้ว !!! ”
ไซโคร แนชจะลุกก็ลุกไม่ได้ ได้แต่กลิ้งตัวไปมา บางครั้งสเวนก็ฟาดดาบไปดักหน้าเขาด้วย
‘ แขนขวายิ่งกลิ้งไปกลิ้งมายิ่งรู้สึกเจ็บขึ้นเรื่อยๆ อย่างนี้ไม่ได้การณ์แน่ๆ ’ ไซโคร แนชพยายามคิดหาหนทาง การกลิ้งหลบไปหลบมาไม่เพียงทำให้แขนขวาเจ็บแปลบขึ้นมากกว่าเดิม แต่ยิ่งทำให้หัวสมองรู้สึกมึนงงด้วย โดยเฉพาะเวลาที่หน้าหันเข้าหาพื้น แม้จะเป็นเพียงชั่ววูบแต่เขาไม่มีทางู้ได้เลยว่าสเวนจะโจมตีต่อทางด้านไหน จึงได้แต่อาศัยรีเฟรกโหมดช่วยตัดสินใจขณะที่สเวนลงดาบแล้ว ซึ่งหากพลาดไปเพียงเล็กน้อยด้วยพลังอันมหาศาลที่มากกว่าเดิมถึงสิบเท่าตัวแล้ว เพียงดาบเดียวก็สามารถจัดการไซโคร แนชได้อย่างแน่นอน
เกก้าดีนที่ดูอยู่ถึงกับอดที่จะกัดฟันแค้นไม่ได้
“ อะไรกัน นี่น่ะหรือคู่ต่อสู้ที่คู่ควรของผม !!! ”
จี ดาบคลั่งที่ได้ยินถึงกับอดไม่ได้ที่จะต่อว่า
“ ชิ ! อะไรกัน แกจะโกรธแค้นอะไรกับมันมากมาย หา ?! ”
เกก้าดีนถึงกับตวัดหน้าไปหาจี ดาบคลั่งด้วยความโกรธ
“ แกไม่รู้เรื่องก็หุบปากไปซะ ! ”
ไซเมตถึงกับต้องถอนหายใจ รีบเข้าไปห้ามทั้งคู่
“ เอาน่าๆ เรื่องแค่นี้อย่ามาทะเลาะกันเองสิ ให้ตายสิ พวกนายนี่ละนะ ดูๆไปเถอะ ”
และก่อนที่ทั้งคู่จะทะเลาะกันนั้นก็เกิดเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงบนเวทีขึ้น ทำให้เกก้าดีนต้องลืมความหงุดหงิดไปในทันที
ขณะที่สเวนฟาดดาบยักษ์ใส่ไซโคร แนชนั่นเอง ไซโคร แนชคล้ายไม่สามารถขยับตัวได้วูบหนึ่งเห็นชัดว่าไซโคร แนชไม่สามารถหลบการจู่โจมครั้งนี้ได้แน่ๆแล้ว
ภาพเหตุการณ์สำหรับไซโคร แนชคล้ายเป็นภาพช้าๆ ดาบยักษ์ค่อยๆฟาดลงมาใส่เขาระยะห่างเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น มือซ้ายของไซโคร แนชกุมดาบแน่นจากนั้นเสือกปลายดาบแทงเข้าใส่ท้องของสเวน ก่อนที่ดาบยักษ์จะห่างจากหน้าของเขาเพียงไม่กี่เซนต์เท่านั้นและ
‘ ตึง !!! ’
___________________________________________
ความคิดเห็น