คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #47 : บทเรียนที่ 42 ปีศาจที่ถูกบดขยี้
บทเรียนที่ 42 ปีศาจที่ถูกบดขยี้
“ นี่นายจะไปแล้วหรอ ” เด็กหนุ่มผมสีขาวยาวผู้นั่งหลับตาอยู่ กล่าวขึ้น
“ หึ ถามอะไรโง่ๆ เหมือนกับถามพระอาทิตย์ว่ากำลังจะลับขอบฟ้าแล้วหรือไม่ นั่นละ ” เด็กหนุ่มหน้าตาแบบญี่ปุ่น บนหัวมัดไว้ด้วยผ้าคาดหัวรูปดวงอาทิตย์เช่นเดียวกับธงชาติญี่ปุ่นหันมาตอบกลับด้วยท่าทางมั่นใจ
“ นายน่าจะอยู่ดูให้มันจบก่อนนะ ” เด็กชายที่หลับตาอยู่พยายามรั้ง
“ หึ ” เด็กชายผ้าคาดหัวเค้นหัวเราะ อยู่ดูให้จบอย่างนั้นหรอ โลกนี้ชักจะประหลาดขึ้นไปทุกทีแล้ว คนตาบอดกลับบอกให้คนตาปกติอยู่ดูจนจบ เรื่องแบบนี้ไม่ยักกะเคยพบเคยเห็นมาก่อน
“ ไม่ละ นายก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่า เจ้าหมอนั่นไม่มีทางเอาชนะโรงเรียนตัวเต็งอย่างเกเบรียลได้หรอก โดยเฉพาะเจ้าเด็กหน้าใหม่ที่ชื่อ ซิลเว่อร์นั่นได้ข่าวว่าร้ายกาจใช่ย่อย ” เด็กหนุ่มผ้าคาดหัวยิ้มเย้ย “ อดีตแชมป์อย่างนายน่าจะพอเข้าใจไม่ใช่หรอ ”
เด็กชายที่หลับตาอยู่นั่งนิ่ง ไม่ตอบอะไร เพียงแต่ขมวดคิ้ว ราวกับกำลังรับฟังอะไรบางอย่าง
“ แต่ว่า เสียงของเขาน่าสนใจมาก
” เด็กชายที่หลับตาถอดถอนใจ
“ เฮ้อ เสียงอีกแล้วเหรอ ” เด็กชายผ้าคาดหัวถอนหายใจอย่างเอือมระอา “ เอาเถอะๆ ขอให้พวกนายสองคนนั่งดูการแข่งที่ไม่มีลุ้นอย่างนี้ให้สนุกเถอะนะ ชั้นขอตัวก่อนละ ”
แล้วร่างในชุดขาวนั้นก็ยืนขึ้น มองจากทางด้านหลังดูสง่าราวกับนักรบ และเผยให้เห็นไม้ปิงปองที่เหน็บไขว้ไว้ข้างหลังเอวถึงสองอัน จากนั้นก้าวผ่านหน้าเด็กชายเพื่อนร่วมทีมอีกคนไป
แต่ก่อนที่เด็กชายผ้าคาดหัวจะเดินลับจากที่นั่งไปนั้น ก็หันกลับมากล่าวครั้งสุดท้ายว่า
“ อ่อ แต่ถ้าจะมีอะไรที่ทำให้โรงเรียนโนเนมทางด้านปิงปองแบบนั้นเอาชนะได้ละก็ แสดงว่า เจ้าหมอนั่นก็คงจะต้องเป็น ปีศาจ ละนะ ฮ่าๆๆๆ ”
เด็กชายที่หลับตาอยู่ไม่กล่าวอะไรอีก นั่งกำหมัดแน่น เขาเพียงสำนึกเสียใจที่ไม่สามารถมองดูการแข่งได้อย่างคนปกติ
บางครั้งคนเรามีสิ่งที่มีค่าอยู่ในตัวเองแล้ว แต่กลับไม่เคยรู้ค่าเลยว่าสิ่งนั้นสำคัญถึงเพียงไหน
“ ไม่เป็นไรน่า นายก็รู้นิสัยของเขาดีนี่ ” เด็กชายตัวสูง หน้าตาคมเข้มที่นั่งอยู่ข้างๆรีบกล่าวปลอบ
“ อืม ขอบใจนะ ” เด็กชายที่หลับตาอยู่ยิ้มอย่างหดหู่
“ แต่เราก็เห็นด้วยกับมุซาชินะ ” เด็กชายหน้าตาคมเข้มยิ้ม “ โรงเรียนอับดุล ไม่มีทางเอาชนะทูตสวรรค์อย่าง เกเบรียลได้หรอก ดูท่าปีนี้ต้องระวังเกเบรียลให้มากหน่อยแล้วละ ”
กล่าวถึงการแข่งแล้ว จู่ๆ เด็กชายที่หลับตาอยู่ก็หันขวับไปหาเด็กชายหน้าตาคมเข้มทันที แต่เด็กชายหน้าตาคมเข้มไม่มีท่าทีตกใจแม้แต่น้อย
“ แต่ว่าเสียงของเขาน่าสนใจจริงๆนะ น่าสนใจ
. ” เด็กชายที่หลับตากล่าวพึมพำพร้อมผงกหัวอยู่อย่างนั้น
เสียงของวาจะน่าสนใจหรือไม่ เขาเองก็ไม่อาจทราบได้ เขาเพียงรู้แต่ว่าตอนนี้เขากำลังยืนเผชิญหน้ากับคู่แข่งอย่างเป็นทางการคนแรกของเขา
“ เสียใจด้วยนะที่แกมาได้เพียงแค่นี้เท่านั้น ” ซิลเว่อร์ยิ้ม ดึงไม้ปิงปองออกจากปลอก เผยให้เห็นไม้ปิงปองชั้นยอดที่ได้รับการปรับแต่งมาเป็นอย่างดี ที่กลางไม้บริเวณที่จับสลักไว้ด้วยตราของโรงเรียนเกเบรียล ดูไปคล้ายกับอาวุธของทูตสวรรค์ก็มิปาน
หัวใจของวาเต้นแรงขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดของซิลเว่อร์ ที่หัวใจของเขาเต้นแรงนั้นมันไม่ใช่เกิดขึ้นเพียงแค่จากการถูกดูถูกเท่านั้น แต่มันเป็นความตื่นเต้นที่ไม่ว่าใครก็ตามที่เคยได้แข่งขันจะเข้าใจ และยิ่งโดยเฉพาะเป็นคราวของตัวเขาเองแล้ว หัวใจยิ่งเต้นแรงเข้าไปใหญ่ นั่นก็เพราะว่า แม้บางครั้งเขาจะไม่ชอบการแข่งขันก็ตาม แต่การได้แข่งให้สิ่งที่ตนเองมั่นใจ สิ่งที่ตนเองเชื่อนั้นมันให้ความรู้สึกที่พิสดารชนิดหนึ่ง
อาจบางทีคำว่า พรสวรรค์ ก็คือ ความรู้สึกสนุกที่ได้ทำในสิ่งที่ตนเองรักก็เป็นได้
หลังจากทายหัวเหรียญเรียบร้อย วาก็ได้เป็นฝ่ายเสิร์ฟ ซึ่งเกมจะเริ่มขึ้นโดยมีคะแนน คือ 3 ต่อ 7 และจะผลัดเสิร์ฟกันคนละสองลูก
“ อย่าประมาทเด็ดขาดละ ” ซาเอะกอดอกสั่ง ก่อนที่การแข่งจะเริ่มขึ้น
“ ฮ่าๆ” ซิลเว่อร์หัวเราะ “ คู่ต่อสู้ที่แม้แต่ไม้ยังไม่กล้าจะชักออกมาแบบนี้ ถึงประมาทก็ไม่เป็นไรหรอกครับ รุ่นพี่ ”
“ หึ ” วาเค้นหัวเราะ เขารู้สึกว่า ถ้าต้องแพ้การแข่งครั้งนี้แล้วละก็ ขอยอมเป็นสุนัขยังจะดีเสียกว่า “ ได้คะแนนนำนิดหน่อย ถึงกับเห่าหอนใหญ่เลยนะ ”
คำพูดนั้นทำให้ซิลเว่อร์ต้องหันขวับไปในทันที พร้อมด้วยสีหน้าที่แฝงอารมณ์โมโหอย่างเห็นได้ชัด แต่ก่อนที่จะกล่าวอะไร ก็พบว่า วาชูซองไม้ปิงปองขึ้นอย่างช้าๆ พร้อมกับค่อยๆปลดไม้ปิงปองคู่ใจออกจากซอง
ไม้ปิงปองของวาดูไม่ต่างอะไรจากไม้ธรรมดาทั่วๆไปเลยจริงๆ ถึงกับดูเก่ากว่า และแย่กว่าด้วยซ้ำ
ที่ด้านโฟว์แฮนด์ หรือด้านสีแดงของไม้มีรอยนิ้วโป้งบุ๋มลึกลงไปเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่า ผ่านการใช้งานมาอย่างนับครั้งไม่ถ้วน และท่าตีที่ผู้เล่นถนัดได้อย่างชัดเจน
ส่วนตัวยางที่ติดกับหน้าไม้ทั้งสองก็ดูเก่าจนไม่น่าจะหลงเลยความหนืดอยู่เลย ที่เห็นว่าน่าจะใช้ได้อยู่ก็คือ ไม้ของวามีขนาดค่อนข้างบาง น้ำหนักพอดีมือเหมาะสำหรับการใช้ตีลูกได้อย่างรวดเร็ว
แต่ถึงอย่างไรก็ตามทั้งไม้ ทั้งคะแนนเมื่อเปรียบเทียบกับซิลเว่อร์แล้วละก็ ทุกคนต่างเห็นเป็นเสียงเดียวกันก็คือ ไม่มีทางเอาชนะแน่นอน
“ ฮ่าๆ ” เมื่อเห็นไม้ของวา ซิลเว่อร์ก็หัวเราะจนท้องแข็ง อารมณ์โมโหเมื่อครู่ก็หายไปในทันที “ สมแล้วที่แกจะต้องแพ้ แม้แต่ไม้ก็ยังน่าสมเพช ”
“ ปิงปองเนี่ย เขาเล่นกันด้วยปากหรอกหรอ ” วายิ้มอย่างเยือกเย็น “ จะเสิร์ฟละนะ !!! ”
ซิลเว่อร์ที่หัวเราะอยู่หยุดหัวเราะในทันที
“ ชั้นจะสอนให้แกได้รู้จักกับความต่างชั้นของฝีมือเอง ”
และแล้วสัญญาณการแข่งคู่ตัดสินก็เริ่มขึ้น
วิสด้อมที่ดูอยู่ขยับแว่น จ้องมองไปยังวา ขอดูฝีมือของแกหน่อยก็แล้วกัน
.
พริบตานั้นเองวาพลิกมือที่จับไม้ เปลี่ยนท่าจับเป็นการจับแบบไม้จีน ก่อนที่จะโยนลูกปิงปองขึ้นสูง ในตอนนี้ไม่มีความตื่นเต้นอีกต่อไปแล้ว มีเพียงแต่สมาธิเท่านั้น
‘ ลูกวาร์ป !!! ’
ไม้ปิงปองคู่ใจของวาสัมผัสกับลูกปิงปองที่ร่วงลงมา ส่งลูกปิงปองให้พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
รวดเร็วถึงขนาดที่แม้แต่โซลีนก็ยังไม่เคยเห็นมาก่อนจากการซ้อมครั้งไหนๆ
‘ 4 7 อับดุล อินเตอร์ ! ’ เสียงกรรมการขานคะแนนดังขึ้น เรียกเสียงปรบมือจากนักเรียนอับดุล และนักเรียนโรงเรียนอื่นที่นั่งดูการแข่งอยู่ให้ดังขึ้น
ซาเอะที่ยืนดูอยู่ถึงกับขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ แต่ที่ไม่พอใจยิ่งกว่านั้นเห็นจะเป็นตัวของซิลเว่อร์เอง
“ เฮ้ ” วาร้องทัก “ จะเสิร์ฟลูกต่อไปละนะ !!! ”
แล้ววาก็โยนลูกปิงปองขึ้นฟ้าอีกครั้ง คราวนี้เมื่อลูกปิงปองกำลังจะสัมผัสกับหน้าไม้ วาก็ผลิกหน้าไม้ให้ตั้งฉากกับโต๊ะปิงปอง ก่อนที่จะสะบัดไม้ปิงปองเก่าให้เฉียงเล็กน้อย
ลูกปิงปองพุ่งออกไป แม้จะไม่รวดเร็วเท่าเมื่อสักครู่ แต่ทว่าพอลูกสัมผัสกับโต๊ะก็หมุนคว้างขึ้นกลางอากาศอย่างพิสดาร เมื่อประกอบกับความเร็ว และทิศทางที่พุ่งไปอย่างคาดเดาได้ยากแล้วทำให้ลูกเสิร์ฟลูกนี้น่ากลัวอย่างยิ่ง
ซิลเว่อร์ไม่มีเวลาแม้แต่จะคิดว่า ทำไมไม้ปิงปองซ่อมซอเช่นนั้นถึงสามารถตัดลูกให้หมุนได้น่ากลัวถึงเพียงนี้ แม้เห็นกับตาก็ถึงกับไม่อยากจะยอมรับ
ซิลเว่อร์เอี้ยวตัวด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่จะตวัดไม้ปิงปองออก แต่ทว่าราวกับเล่นกล ลูกปิงปองกลับหมุนเลยหน้าไม้ของซิลเว่อร์ไปเพียงไม่กี่นิ้วเท่านั้น และ
.
‘ 5- 7 เปลี่ยนเสิร์ฟ ! ’
“ ใช่เล่นนะเนี่ย ” คิงสตั้นที่ดูอยู่ถึงกับเอ่ยชม
ซิลเว่อร์กัดฟันรับลูกปิงปองมาอย่างช้าๆ เมื่อมองไปยังวาก็พบเพียงแค่รอยยิ้มเล็กๆบนใบหน้าของเขาเท่านั้น แต่เพียงรอยยิ้มนี่แหละ ที่ดูจะเจ็บเสียยิ่งกว่าคำถากถางใดๆเสียอีก
“ ได้แต้มนิดหน่อย อย่าทำเป็นได้ใจไป ” ซิลเว่อร์กัดฟันยิ้ม “ ตาชั้นบ้างละนะ ! ”
“ มีเท่าไหร่ก็ใช้ออกมาเถอะ ” วาจ้องกลับด้วยแววตาเยือกเย็น และก็พบว่าซิลเว่อร์เสิร์ฟออกแล้ว นี่ไม่นับว่าเป็นลูกเสิร์ฟที่รวดเร็วแต่อย่างใด เพียงแต่พลังในการตัดลูกนับว่าน่ากลัวมากทีเดียว
ลูกปิงปองหมุนโค้งออกราวกับบูมเมอร์แรง ก่อนที่จะพุ่งข้ามตาข่ายไปยังฝั่งของวา วาที่จ้องดูอยู่รู้ดีว่าการจะโต้ลูกได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ต้องใช้การตัดลูกกลับไปเท่านั้น ทั้งยังต้องควบคุมวิถีของลูกให้ดีๆ ไม่เช่นนั้นถึงลูกไม่ออกก็ต้องติดข่ายอย่างแน่นอน
และเมื่อลูกปิงปองเด้งกับโต๊ะขึ้นมา วาก็ตวัดไม้เอียงวูบขึ้น
‘ ฟ้าว ! ’
ไม่น่าเชื่อว่า ไม้ปิงปองซ่อมซอที่แม้แต่หน้าไม้ยังดูจะหาความหนืดไม่ได้ กลับสามารถโต้ลูกตัดพลังสูงกลับไปได้
ลูกปิงปองพุ่งกลับไปหาซิลเว่อร์อย่างรวดเร็ว แม้จะไม่หมุนคว้างกลางอากาศ แต่ทว่าการเปลี่ยนแปลงของการหมุนเพียงชั่ววูบนั้นน่ากลัวมากทีเดียว
ซิลเว่อร์กัดฟันแน่น เขาจะไม่ยอมพลาดท่าให้กับลูกแบบเดิมเป็นครั้งที่สองแน่ ดังนั้นซิลเว่อร์ตั้งสมาธิไม่ยอมตีลูกออก เขารอจังหวะเพียงชั่ววูบเท่านั้นคือ จังหวะที่ลูกปิงปองเด้งขึ้นมา และหมุนเคลื่อนไปทางขวาต่อวูบหนึ่ง จากนั้นตวัดไม้ตบลูกไปด้วยความหนักหน่วง
“ เสร็จชั้นละ ” ซิลเว่อร์แย้มยิ้ม
ลูกปิงปองพุ่งตรงเข้าหาวา เป็นการตบที่หนักหน่วงและทรงพลังเสียจริงๆ
“ อย่างนั้นหรอ ! ” วาคำราม ก่อนที่จะตวัดไม้ออกอย่างรวดเร็ว ไม้คู่ใจที่สั่งได้ดั่งใจนึก
แล้วลูกปิงปองที่หนักหน่วงกว่าก็พุ่งเลียดผ่านตาข่ายไปด้วยความรวดเร็วราวประกายสายฟ้า ผ่านหน้าของซิลเว่อร์ที่เพิ่งกำลังตั้งท่าเตรียมรับไป
‘ 7-6 อับดุล อินเตอร์ ! ’
นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน
.ฝีมือของเจ้าบ้านี่ มันคนละเรื่องกับตอนที่เจอที่ชมรมครั้งก่อนลิบลับเลย เพราะอะไรกัน เพราะมันพัฒนาตัวเองขึ้น เพราะว่ามันเปลี่ยนท่าจับไม้ หรือเป็นเพราะว่ามันใช้ไม้ซ่อมซออันนั้น
ข้อสุดท้ายนี้แค่คิดซิลเว่อร์ยังไม่กล้าคิด ไม้ที่กำอยู่ในมือสั่นเทาไปด้วยความหงุดหงิด
“ ขอเวลานอกค่ะ ” เสียงซาเอะดังขึ้น เรียกสติให้กับซิลเว่อร์ที่กำลังโมโหถึงขีดสุดให้กลับคืนมา
“ คะ คือ ว่า ” ซิลเว่อร์ไม่ทันจะเอ่ยปากก็ถูกซาเอะชิงกล่าวก่อน
“ ดูเหมือนว่าเธอจะประมาทคู่ต่อสู้ไปหน่อยนะ ” ซาเอะติเล็กน้อย แต่ไม่ได้กล่าวโทษซิลเว่อร์แต่อย่างใด “ ซึ่งที่จริงก็เป็นความผิดของชั้นด้วยส่วนหนึ่ง เพราะฉะนั้น
. ”
ซาเอะขยับแว่นขึ้น ทำให้แว่นของเธอกระทบแสงไฟเป็นประกายขึ้นวูบหนึ่ง
“ ถึงแม้ว่ามันจะเร็วกว่าที่คิดไว้บ้าง แต่คงถึงเวลาที่เธอจะต้องใช้มันแล้วละ ! ”
เมื่อเอ่ยถึงตอนนี้ซิลเว่อร์มีสีหน้าตกใจเล็กน้อย แต่สักครู่ก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มแทน
“ ขอบคุณมากครับ ” กล่าวจบ ปลอกแขน และปลอกขาที่ใส่เครื่องถ่วงน้ำหนักทั้งสองข้างก็ถูกปลดออกในทันที กะน้ำหนักดูโดยคร่าวๆแล้วไม่น้อยไปกว่าของวิสด้อมเลย
“ แล้วก็หวังว่าเธอคงไม่ลืมนะ ” ซาเอะกล่าวอย่างเข้มงวด
“ ทราบแล้วครับ ” ซิลเว่อร์ตอบอย่างจริงจัง “ เพียบพร้อมเพื่อขึ้นเป็นแชมป์ในทุกด้าน ราวกับทูตแห่งสวรรค์ ”
“ ผมจะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนครับ แล้วที่สำคัญไม่เคยมีใครโต้ลูกไม้ตายของผมกลับมาได้เลยแม้แต่คนเดียว ” ซิลเว่อร์ยิ้มอย่างมั่นใจ “ เว้นเสียแต่ว่า เจ้าหมอนั่นจะเป็น ปีศาจ ฮ่าๆๆ ” จากนั้นก้าวตรงไปยังโต๊ะปิงปองทันที
ทางด้านวาเมื่อกลับมายังที่พักฝั่งตนเองก็พบกับรอยยิ้มของพรีสไซต้อนรับอยู่
“ เยี่ยมมากเลยพวก ”
วาเพียงยิ้ม เขารู้สึกว่ามันคงไม่จบง่ายๆแบบนี้แน่นอน ซึ่งเมื่อหันไปทางโซลีนก็พบว่า โซลีนก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน
“ ดูเหมือนว่า ฝั่งนั้นจะเริ่มเอาจริงแล้วละนะ ” โซลีนกลับมาสุขุมเหมือนเดิมแล้ว “ แต่ว่านายก็ทำได้ดีมาก ยังไงก็พยายามเข้าละ ”
“ ครับ ” วารับคำ สะบัดไม้ปิงปองในมือไปมา
“ นั่น เขาเรียกแล้วละ ” พรีสไซชี้มือ จากนั้นก้าวมาเตะบ่าของวาแล้วเขย่านิดๆ “ สู้ให้เต็มที่นะพวก ถึงแม้ว่าจะแพ้มาก็ตาม มาถึงจุดนี้ได้ก็นับว่าเก่งมากแล้วละ ถือว่าพวกเราดวงไม่ดีเองที่ดันมาเจอเกเบรียลตั้งแต่รอบแรก ”
“ เหอๆ ขอบใจนะ นี่น่ะหรอการให้กำลังใจ ” วายิ้มเจือนๆ
“ ถ้าอย่างนั้น ”พรีสไซครุ่นคิด “ ก็ไปขยี้มันเลย !!! ”
“ มันต้องแบบนี้สิ ” วาเตะมือกับพรีสไซ ส่วนโซลีนชูกำปั้นให้แทน
วากลับมายืนเผชิญหน้ากับซิลเว่อร์อีกครั้ง แต่ครั้งไม่เหมือนครั้งที่ผ่านมา เขาพบว่ามีรอยยิ้มลึกลับปรากฏบนใบหน้าของซิลเว่อร์
“ เก่งมากนะที่ทำให้ชั้นต้องเอาจริง ” ซิลเว่อร์กล่าวอย่างหนักแน่น ชี้ไม้ปิงปองไปยังวา “ แต่ว่าแกก็มาได้แค่นี้ละ ”
วาไม่กล่าวอะไรเพียงแค่ยิ้มเท่านั้น เขาสังเกตเห็นแล้วว่า ปลอกแขน และปลอกขาทั้งสองข้างของซิลเว่อร์ถูกปลดออกมาแล้ว มันทำให้เขานึกถึงการแข่งระหว่างลมดำกับวิสด้อม เมื่อวิสด้อมปลดเครื่องถ่วงน้ำหนักออก พลังและความรวดเร็วก็เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวอย่างเห็นได้ชัด ซิลเว่อร์เองก็คงไม่ต่างกัน
แถมยังลูกไม้ตายที่เขาเคยเจอมาก่อนตอนที่สู้กับซิลเว่อร์ครั้งแรก ซึ่งเมื่อเอาพลังที่ได้รับการปลดปล่อยออกมา รวมกับลูกไม้ตายที่น่ากลัวเข้าด้วยกันแล้วซิลเว่อร์ในตอนนี้คือ คู่แข่งที่จะประมาทไม่ได้เลย ถึงกับอาจจะเหนือกว่าลมดำเสียด้วยซ้ำ ลมดำที่แม้แต่วาเองก็ยังไม่เคยเอาชนะได้
..
เมื่อกรรมการส่งสัญญาณ ซิลเว่อร์ก็โยนลูกปิงปองขึ้นฟ้าทันที จากนั้นตวัดไม้ด้วยความรวดเร็ว ส่งลูกปิงปองให้หมุนคว้างออกไปราวกับบูมเมอร์แรงที่หมุนไปมาอย่างบ้าคลั่ง
‘ บูมเมอร์เสิร์ฟ !!! ’
ลูกปิงปองโค้งซ้ายก่อนที่จะสัมผัสโต๊ะฝั่งซิลเว่อร์ และอ้อมโค้งเป็นวงกว้างไปทางด้านขวาอย่างรวดเร็ว จนวาแทบจะตั้งรับไม่ทัน
ยังที่ดีวาเตรียมตัวตั้งรับอยู่แล้ว เขาตวัดไม้โค้งกลางอากาศส่งลูกปิงปองให้หมุนคว้างกลับไปหาซิลเว่อร์
“ ย๊ะ ” ซิลเว่อร์ตีออกด้วยลูกท๊อปสปินความแรงสูงพุ่งตรงไปยังกึ่งกลางของโต๊ะ ลูกปิงปองพอตกยังฝั่งของวาก็ชะลอความเร็วลง ก่อนที่จะดีดตัวออกด้วยความรุนแรง
วารีบเอียงตัว จากนั้นตั้งไม้ให้ได้มุมก่อนที่จะส่งลูกท๊อปสปินความแรงสูงให้กระเด็นกลับไปอย่างรวดเร็ว แม้จะโต้ลูกกลับไปได้ แต่สถานการณ์ในตอนนี้ดูเหมือนจะเลวร้ายลงทุกที
ด้วยความรวดเร็ว รุนแรง และเทคนิคการควบคุมลูกขั้นสูงของซิลเว่อร์ทำให้ตอนนี้วาได้แต่เป็นฝ่ายตั้งรับโดยไม่สามารถตีโต้ได้เลย ทั้งนี้เพราะซิลเว่อร์ไม่ยอมเปิดโอกาสให้วาตั้งตัวได้แม้แต่น้อย โหมกระหน่ำด้วยลูกท๊อปสปิน และลูกตัดโยกซ้ายทีขวาที กว่าวาจะตั้งรับได้แต่ละครั้งก็เล่นเอาใจหายใจคว่ำทีเดียว แถมยังต้องตั้งรับแบบธรรมดาเสียด้วย
“ อึดใช่เล่นนะแกเนี่ย สมแล้วที่เป็นคู่ซ้อมให้ชั้นก่อนที่จะไปแข่งกับพวกที่เหลือ ฮ่าๆ ” ซิลเว่อร์หัวเราะอย่างได้ใจ
วาได้แต่กัดฟันตั้งสมาธิรับลูกไปเรื่อยๆ
‘ แป๊ก ! ’
และแล้วเมื่อวาเกือบจะรับลูกท๊อปสปินไม่ทัน มุมไม้ที่ตั้งไว้สูงเกินไป ทำให้ลูกปิงปองลอยสูงไปยังฝั่งของซิลเว่อร์ และในพริบตานั้นเอง
.
ซิลเว่อร์งอแขนเข้าหาตัว จับไม้ด้วยท่าคล้ายกำลังจับช้อนอะไรบางอย่าง และเมื่อลูกปิงปองลอยลงมา !!!
‘ ท่าไม้ตาย บูมเมอร์ริสซึม !!! ’
ลูกปิงปองพุ่งโค้งเล็กน้อยแหวกอากาศ ผ่านหน้าของวาไปด้วยความรวดเร็ว จากนั้นเมื่อเลยหลังของวาไปแล้วก็หมุนโค้งด้วยความเร็วสูงอ้อมกลับมาตกยังอีกด้านหนึ่งของเขา
‘ 8 6 เกเบรียล เปลี่ยนเสิร์ฟ ! ’
“ ร้ายกาจๆ สมแล้วที่เป็นเกเบรียล ” คิงสตั้นถึงกับจ้องตาไม่กระพริบ ส่วนวิสด้อมมีสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาเล็กน้อย
ในที่สุดเจ้าหมอนี่ก็ใช่ออกมาแล้ว วาเช็ดเหงื่อที่ไหลลงมาอย่างลืมตัว
“ ฮ่าๆ ชั้นบอกแล้วว่า ระดับมันต่างกัน ” ซิลเว่อร์โยนลูกให้วา
วารู้สึกกดดันขึ้นมาทันที แต่ไม่นานนักความรู้สึกบางอย่างก็พุ่งพวยเข้ามาในตัวเขา เลือดสูบฉีดแรงขึ้นมาทันที
ตื่นเต้น
..
ยิ่งเจอคู่แข่งที่เก่งกว่ายิ่งรู้สึกสนุก ยิ่งรู้สึกว่าต่อให้ต้องใช้ออกด้วยฝีมือทั้งหมดที่มีก็ต้องลองวัดกันดูสักตั้ง
ว่าแล้ววาก็เด้งลูกปิงปองในมือกับโต๊ะสองสามครั้ง ก่อนที่กรรมการจะส่งสัญญาณให้เสิร์ฟได้
‘ ลูกวาร์ป !!! ’
ลูกปิงปองพุ่งเข้าหาซิลเว่อร์ตรงๆโดยไม่มีลวดลายใดๆ เพียงแต่รวดเร็วจนแทบจะตั้งรับไม่ทัน แต่ทว่าซิลเว่อร์ในตอนนี้ไม่ได้ใส่ปลอกแขนอีกต่อไปแล้ว เขาตวัดไม้ปิงปองออก ตบลูกกลับไปอย่างไม่ปราณี
วาพลิกไม้วูบหนึ่ง ก่อนที่จะสะบัดเฉียงตบกลับไปหาซิลเว่อร์ พลังตบแม้จะไม่รุนแรงมาก แต่เฉียบคมยิ่ง ทั้งยังแฝงความเคลื่อนไหวที่จับทางได้ยาก
ลูกปิงปองพอกระเด้งขึ้น ก็เอียงไปทางขวาวูบหนึ่ง
แต่ทว่าซิลเว่อร์ก็วิ่งตามไปได้ทัน ก่อนที่จะตวัดไม้ตัดลูกที่ทรงพลังออกไป ลูกปิงปองโค้งไปทางซ้ายของวา แต่พอกระทบถูกโต๊ะก็กระเด้งโค้งเป็นวงกว้างไปทางขวาทันที
คราวนี้วาเป็นฝ่ายที่ต้องวิ่งแทน ในตอนนี้หากพลังสมาธิขาดไปแม้แต่วูบหนึ่งละก็ จะต้องเสียเกมให้แก่ซิลเว่อร์แน่นอน
ลูกปิงปองลอยคว้างกลางอากาศ แถมยังหมุนอย่างรุนแรง วาเพ่งสมาธิที่มีทั้งหมดตวัดไม้ตัดกลับไป หวังให้ลูกที่ทุ่มเทพลังสมาธิทั้งหมดตกลงโต๊ะ
‘ ฟ้าว !!! ’
ลูกปิงปองพุ่งโค้งขึ้นสูงข้ามตาข่ายไปได้อย่างน่าหวาดเสียว การตอบโต้ครั้งนี้ของวานับว่าได้ผล แต่ซิลเว่อร์ก็รวดเร็วไม่แพ้กัน งอแขนเตรียมตอบโต้ไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว
‘ บูมเมอร์ริสซึม !!! ’
ลูกปิงปองพุ่งโค้งข้ามตาข่ายไปด้วยความเร็วสูง ผ่านหน้าของวาไปอีกครั้ง คราวนี้วาพยายามเล็งจุดตกของมันให้ได้
ลูกปิงปองพอเลยหลังของวาไปก็หมุนโค้งอ้อมกลับไปยังอีกฝั่งของวา และ
“ 6 -9 เกเบีรยล ! ”
ลูกปิงปองกระเด้งถูกหลังของวา จากนั้นค่อยๆตกลงสู่พื้น ที่แท้เมื่อสักครู่วาตั้งใจเล็งจุดตกของมันจนเผลอเข้าไปขวางลูกเข้า จึงต้องเสียแต้มไป
“ ฮ่าๆ ” ซิลเว่อร์หัวเราะเยาะ “ น่าสงสารจริงๆ แต่แกไม่มีทางรับมันได้หรอกนะ ก็บอกตั้งแต่แรกแล้วยังไงว่า ลูกไม้ตายของชั้นไม่มีใครเคยรับได้มาก่อน ”
เพียบพร้อมเพื่อขึ้นเป็นแชมป์ในทุกด้าน ราวกับทูตแห่งสวรรค์งั้นหรอ
.
ลูกที่ไม่มีวันรับได้ หรือจะไม่มีวิธีที่ทำให้มันใช้ลูกไม้ตายออกมาไม่ได้เลย
นี่เราพยายามเต็มที่แล้วอย่างนั้นหรอ เจ้าหมอนั่นคือทูตแห่งสวรรค์จริงๆอย่างนั้นหรอ
..
“ เอ๊า รีบๆหน่อย จะได้จบๆเกมกันเสียที ” ซิลเว่อร์กล่าวเร่ง ปลุกวาให้ตื่นจากห้วงแห่งความคิดขึ้น พลังสมาธิของวาตอนนี้คล้ายขาดหายไปเสียแล้ว
ลูกที่ไม่มีวันรับได้
..
วากำลูกปิงปองในมือแน่น ขบกรามอย่างอดไม่ได้ ความผ่ายแพ้ครั้งนี้เหลือที่จะรับได้จริงๆ
จากนั้นเขาค่อยๆโยนลูกปิงปองขึ้นอย่างช้าๆหัวใจแม้จะเต้นแรงขึ้น แต่พลังใจคล้ายขาดหายไปเสียแล้ว ขณะที่ลูกปิงปองค่อยๆตกลงมานั้นก็ได้ยินเสียงคุ้นหูดังขึ้น
“ สู้ให้ถึงที่สุด อย่าเพิ่งท้อจนกว่าจะลูกสุดท้ายนะ !!! ” เป็นเสียงตะโกนจากลมดำ และพริบตานั้นกำลังใจของวาก็เริ่มกลับมา
ใช่แล้วเราจะสู้ให้ถึงที่สุด ช่วยหน่อยนะเจ้าไม้คู่ใจ !!!
ลูกปิงปองพุ่งเลียดโต๊ะตรงเข้าใส่ซิลเว่อร์ด้วยความรวดเร็ว แต่ก็ถูกรับไว้ได้อีกครั้งหนึ่ง
“ หึ กระจอกน่า ” ซิลเว่อร์สะเหยะยิ้ม ตั้งไม้ให้เข้ามุมจากนั้นโต้ลูกเสิร์ฟของวากลับไปได้
และเมื่อโต้กันไปสักพักซิลเว่อร์ก็ใช้ลูกไม้ตายออกมาอีกครั้ง ลูกปิงปองพุ่งผ่านหน้าวาไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้รวดเร็วกว่าทุกครั้ง ทั้งยังหมุนเร็วกว่าทุกครั้ง มันพุ่งทะยานกลับมาเป็นเส้นตรงไม่อ้อมโค้งผ่านตัววาอย่างเช่นครั้งก่อนๆ
‘ เป๊าะ ! ’
ลูกปิงปองเด้งลงยังฝั่งซ้ายของวา และมันกำลังจะเด้งกลับไปหาซิลเว่อร์แล้ว แต่วาที่ตั้งสมาธิอยู่แล้ว ไม่ยอมให้พลาดท่าแม้จะถูกหลอกให้ดูเหมือนว่าลูกปิงปองจะต้องอ้อมลงมาจากอีกด้านก็ตาม
ดังนั้นวารีบตวัดไม้ให้ถูกลูก ส่งลูกปิงปองให้เด้งกลับไปหาซิลเว่อร์ทันที
“ ฮ่าๆ เสร็จชั้นละ ! ” ซิลเว่อร์ตะโกน ก่อนที่จะงอแขนพร้อมส่งลูกบูมเมอร์ริสซึมสวนกลับไปอย่างรวดเร็ว ที่แท้เมื่อสักครู่นี้เป็นแผนดึงพลังสมาธิของวานั่นเอง คราวนี้ลูกปิงปองพุ่งโค้งเลยขวามือของวาไป
“ เสร็จกัน ” วากัดฟัน ไม่ทันเสียแล้ว ลูกปิงปองพอเลยตัวของเขาไปก็หมุนโค้งอ้อมไปยังด้านซ้ายก่อนที่จะเด้งลงบนโต๊ะ และกระดอนกลับไปหาซิลเว่อร์
‘ 6- 10 เกเบรียลเปลี่ยนเสิรฟ์ ลูกตัดสิน !!! ’
“ เจ้าหมอนั่นคงมาได้แค่นี้จริงๆนั่นละนะ ” คิงสตั้นเป่าหมากฝรั่งสีหน้าไม่สู้ดีนัก “ ถ้าชั้นต้องเจอกับคู่แข่งแบบนั้นคงจะเครียดเหมือนกันละ ”
วิสด้อมกอดอก ขมวดคิ้ว แม้เขาจะรู้สึกหมั่นไส้วาอยู่บ้าง แต่เมื่อเห็นอย่างนี้แล้ว อดที่จะเจ็บใจแทนวาไม่ได้ เพราะซิลเว่อร์ดูน่าหมั่นไส้ยิ่งกว่าวาเสียอีก
“ อย่างที่มุซาชิพูดไม่มีผิด ” เด็กชายหน้าตาคมเข้มกล่าวกับเด็กชายที่หลับตาอยู่
ส่วนพวกมิวที่นั่งดูอยู่ต่างพากันคอตกไปตามๆกัน “ เจ็บใจนัก ” มิวกำหมัด
แต่คนที่เจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็น ตัวของวาเอง ในตอนนี้คิดจะร้องไห้ก็ไม่ได้ หัวเราะก็ไม่ออก แม้เขาจะพยายามคิดหาทางปลอบใจตัวเองก่อนที่จะแข่งในลูกต่อไปก็ตาม
ซิลเว่อร์เด๊าะลูกปิงปองเล่นอย่างสบายใจพลางกล่าว
“ พร้อมที่จะแพ้รึยัง ”
วาไม่ตอบคำ ไม้คู่ใจที่ปกติจะถูกกำอยู่โดยแน่น บัดนี้ค่อยๆเลื่อนลงมาถูกจับแบบหลวมๆ แววตาที่เคยมั่นใจ และไฟในการแข่งตอนต้นคล้ายหายไปหมดสิ้นแล้ว
มีบ้างบางครั้งต่อให้เรารู้ว่าเหลือโอกาสอยู่ แต่ก็ไม่อาจหักใจพยายามต่อไปได้อีก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะถูกทำลายหมดสิ้น ซึ่งกำลังใจ และความหวังทั้งหมดแล้ว
หรือคนประเภทนี้จะไม่คู่ควรแก่ความสำเร็จจริงๆ ?
“ รีบจบเกมได้แล้ว ” ซาเอะสั่งอย่างไม่ยอมประมาท
“ รับทราบ ” ซิลเว่อร์รับคำ จากนั้นโยนลูกปิงปองขึ้นสู่ฟ้า ลูกปิงปองที่ทะยานขึ้นไป และค่อยๆตกลงมาคล้ายใบมีดที่รอประหารวาอยู่
ไม้ของวายังคงถูกจับอย่างหลวมๆ ร่างกายคล้ายสั่งให้เขาเลิกที่จะพยายามได้แล้ว
ลูกปิงปองใกล้หล่นมาถึงจังหวะที่ซิลเว่อร์จะตีลูกออกแล้ว แต่ทว่าไม้ปิงปองของวาก็ยังคงถูกกำอย่างหลวมๆ สายตาของวาแทบจะไม่ได้มองไปยังลูกด้วยซ้ำ
เพียบพร้อมเพื่อขึ้นเป็นแชมป์ในทุกด้าน ราวกับทูตแห่งสวรรค์
ไม่มีทางที่วาจะเอาชนะได้อีกต่อไป เพราะในตอนนี้ซิลเว่อร์กำลังจะตวัดไม้ออกแล้ว
“ เจ้าบ้า ! นี่แกไม่คิดจะรับลูกจริงๆหรอ !!! ” เสียงวิสด้อมตะโกนขึ้นด้วยความโมโห แต่สำหรับวาในตอนนี้คล้ายไม่ได้ยินอันใดทั้งสิ้นอีกแล้ว
_______________________________________________________
ความคิดเห็น